คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 ♔ : Nightmare
Chapter 1 ♔ : Nightmare
นามิเปิดประตูห้องนอนผู้หญิงเข้าไป โรบินยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนี่นา ตอนที่เธอมาเรียกโรบินก็ไม่ตอบ สงสัยจะหลับลึก แต่ถ้าไม่กินอะไรเลยก็น่าเป็นห่วงอยู่
“โรบิน” นามิเรียกเพื่อน(ที่อายุเป็นพี่)แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ
เฮือก
นามิแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นสภาพโรบินในตอนนี้ เม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดอยู่บนใบหน้าขาวใสของคนตรงหน้า เส้นผมสีดำเป็นชื้นไปด้วยเหงื่อ โรบินใช้มือข้างขวาจิกเล็บลงบนหน้าอกด้านซ้ายจนเลือดซิบเพราะเดิมแล้วโรบินเล็บก็ยาวพอควร ทั้งที่นอนอยู่แต่โรบินกลับหอบหายใจ
นามิวิ่งไปหาช็อปเปอร์ที่ห้อง โรบินอาการแย่ถึงแย่มาก เป็นการหลับที่ลึกที่สุด ไม่ว่าจะปลุกยังไงก็ไม่ตื่น
“ช็อปเปอร์ โรบินเหมือนจะป่วย...ป่วยหนักด้วย” นามิปลุกช็อปเปอร์
“โรบินน่ะเหรอ” ช็อปเปอร์ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คุณนิโค” ลอว์ที่ยังไม่นอนหันมาหานามิ
“ไปดูอาการโรบินเร็วช็อปเปอร์” นามิเร่งช็อปเปอร์ แต่เพราะเท้าเล็กๆ ของเรนเดียร์วิ่งได้ช้ากว่าคนปรกติ ลอว์จึงหิ้วช็อปเปอร์แล้ววิ่งไปที่ห้องผู้หญิงทันที
“โรบิน!” นามิถลาเข้าไปแกะมือของโรบินที่จิกลึกเข้าไป เธอวางมือของโรบินลงข้างตัวของโรบินอย่างนุ่มนวล แต่โรบินกลับกำมันแน่น และก็ซ้ำรอยเดิมคือเล็บจิกลงบนเนื้อ
“ฉันไม่เคยเห็นใครป่วยแบบนี้มาก่อนเลย” คุณหมอจมูกน้ำเงินจับชีพจรของโรบิน “หัวใจเต้นเร็วมากเลยล่ะ โทราโอะ นายรู้ไหมว่าเป็นอะไร”
“ฉันเป็นหมอศัลยกรรม ไม่ใช่หมอทั่วไป จะไปรู้ยังไง” ลอว์ไหวไหล่อย่างไม่หยี่ระ แต่แล้วเขาก็สักเกตเห็นคราบน้ำตาและน้ำใสๆ ที่คลออยู่ที่มุมดวงตา
นิโค โรบินกำลังร้องให้!!!
“ร้องไห้อยู่ ไม่สิ หยุดแล้ว ไม่ร้องแล้วก็ไม่จิกเล็บแล้วนี่ อาการปรกติดี”
ช็อปเปอร์ผละออกจากโรบิน ไม่นานโรบินก็หอบหายใจอีกครั้ง
“คุณนิโค” ลอว์เรียกโรบินแล้วเขย่าตัวสาวผมยาว แต่ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น
“อะ...อย่าปล่อยมือ ฉัน...กลัว” โรบินละเมอเพ้อออกมา
ในฝันของเธอมันน่ากลัวมาก ภาพโอฮาร่าที่โดนกองทัพเรือโจมตีฉายซ้ำเรื่อยๆ มันเจ็บปวดเหลือเกิน เหมือนอยู่คนเดียวในโลกแสนกว้างใหญ่ มันน่ากลัวมาก ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนหักหลัง มีแต่การหวาดระแวง การที่ช็อปเปอร์จับแขนของเธอมันทำให้ตัวตนในความฝันของเธออุ่นใจขึ้น แค่เล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีใครเลย แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ
“จับมือ?” ลอว์ทวนคำพูดอย่างงงๆ แต่ก็ยังเลื่อนมือใหญ่ไปกุมคนที่นอนอยู่ไว้
“เราต้องจับมือแบบนี้ทั้งคืนเลยเหรอ” นามิโอดครวญ ถ้าเธอเผลอปล่อยมือขึ้นมาโรบินไม่ตายเลยเหรอ
“เธอกับช็อปเปอร์ไปนอนเถอะ” ฉันจะดูแลตรงนี้เอง
“งั้นฉันไม่กวนล่ะ ฝากโรบินด้วยนะ ถ้านายทำอะไรโรบินฉันฆ่านายตายแน่” นามิชูกำปั้นขู่ลอว์
ผู้หญิง...แรงเท่าขี้มดยังจะมาพูดอีก
“ให้ฉันอยู่ด้วยไหม” คุณหมอตัวเล็กถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอก ฉันดูแลยัยนี่ได้” ไม่ต้องลำบากนายหรอก
“งั้นฝากโรบินด้วยนะ ช็อปเปอร์เดินออกจากห้อง” แต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงพวกพ้องของตัวเอง จึงหันมากำชับกับลอว์อีกครั้ง “ยังไงก็ฝากโรบินด้วยน้าาา”
“นายรีบๆ ไปนอนเถอะ”
แล้วคุณหมอจมูกน้ำเงินก็ปิดประตูบานลง ภายในห้องนอนเหลือเพียงแต่ความเงียบ มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านบานหน้าต่างเล็กไปเท่านั้น เสียงคลื่นกระทบกับเรือสร้างความวังเวงให้กับห้องนี้ ลอว์ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ โรบิน โดยไม่ปล่อยมือออก
ฝันอะไรกันแน่เนี่ย เธอควรจะตื่นได้แล้วนะนิโค โรบิน
ลอว์จับมือโรบิน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่นานพอที่จะทำให้เขาเผลอหลับได้
เขารู้สักถึงความแปลกไปของมือโรบิน มันเริ่มร้อน และร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงลองเอามือทาบลงบนหน้าผากของคนตรงหน้า ตัวของเธอร้อนมาก อาการแบบนี้ต่อให้เป็นเด็กยังรู้เลยว่าไม่ดีแน่ แล้วคนในตระกูลหมอแบบเขาจะปล่อยไว้ได้ยังไง
เขาปล่อยมือของโรบินและรีบวิ่งไปเอายาลดไข้และผ้าขนหนูที่ห้องพยาบาล อย่าเข้าใจผิดเชียวนะ...เขาไม่ได้ใจดีกับยัยนี่เป็นพิเศษ แค่เห็นยัยนั่นป่วยก็แค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าเขาเป็นห่วงนะ แต่แค่มันเป็นหน้าที่ของหมอ(แม้ว่าเขาจะเป็นหมอผ่าตัดก็ตามเถอะ) เขาแค่ไม่อยากให้ยัยนั่นตายตอนนี้แค่นั้นจริงๆ
ความสามารถมันน่าเสียดายถ้าจะมาตายตอนนี้
เขาเข้าห้องแล้วมองโรบินด้วยแววตาที่ไม่เหมือนกับเวลาที่มองคนอื่นๆ คนตัวสูงเทยาออกมาสองเม็ดและกรอกมันเข้าปากของตัวเอง ตามด้วยน้ำอุ่นที่เขาลองดื่มดูแล้วว่าไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะกับคนป่วย
ขออนุญาตนะคุณนิโค
ลอว์ประคองตัวโรบินขึ้น เขาบรรจงวางริบฝีปากทาบลงบนกลีบปากเล็กๆ ของโรบิน ปล่อยให้ของน้ำอุ่นและยาจากปากของเขาหลั่งไหลสู่คนป่วยที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาหลับตาลง สัมผัสของเขาช่างบางเบาราวกับสายลม สิ่งที่ทำลงไปแค่ช่วยผู้หญิงคนนึงเท่านั้น
เขาถอนปากออกจากโรบินเพื่อจะได้ป้อนน้ำเธออีกครั้ง...ด้วยวิธีเดิม ทั้งที่น้ำหมดจากปากเขาไปแล้ว แต่ลอว์กลับยังจูบโรบินต่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เขาแค่สบายใจที่จะทำแบบนั้น แม้ระหว่างเขากับเธอจะแทบไม่เคยคุยกันแต่เขากลับรู้สึกผูกพันกับเธอมากกว่าใครๆ ในกลุ่มหมวกฟาง สัญชาติญาณของเขาฟ้องว่าเธอมีบางอย่างที่เหมือนเขา
เขาผละตัวออกจากนักโบราณคดีสาว แทนที่เขาจะนั่งกุมมือเธอเหมือนเดิม เขากลับล้มตัวนอนข้างเธอและใช้แขนแกร่งที่มีรอยสักมากมายนั้นโอบกอดเธอเอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะหลับลงปล่อยให้เรื่องราวต่างๆ หยุดหลั่งไหลเขาสู่สมอง
“ฝันดีนะ คุณนิโค”
โรบินค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะแสงแดดที่ส่องขาเริ่มร้อนขึ้นทุกที ทำไมอากาศในห้องมันถึงได้ร้อนแบบนี้กันนะ ปรกติก็เย็นดีแท้ๆ แถมวันนี้ยังอึดอัดอีกด้วย แต่สิ่งที่โรบินมองเห็นไม่ใช่แสงสว่างอย่างเคย แต่กลับเป็นรอยสักที่อก
เดี๋ยวนะ รอยสัก งั้นนี้ก็...
คุณหมอ!!!
โรบินได้แต่เอามือเล็กๆ ดันตัวเจ็ดเทพโจรสลัดคนนี้ออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล แรงกอดเริ่มทำให้เธอรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว เมือใช้สองมือไม่ได้ผลก็คงต้องพึ่งหลายมือแล้วสินะ
แขนจำนวนมากโผล่ออกมาจากข้างตัวของลอว์ บรรดาแขนของเธอพร้อมกันดึงตัวลอว์ออกจากเธอ แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นดั่งการคาดหมายของโรบินเมื่อลอว์กลายเป็นนอนหงายโดยมีเธอนอนทับอยู่ด้านบน โดยที่แขนของเขายังไม่คลายออกจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณหมอ ตื่นได้แล้ว” โรบินมองคนข้างล่าง(?) และใช้มือเรียวตบหน้าเขาเบาๆ
...
เหมือนการปลุกด้วยเสียงและกำลังจะไม่ได้ผลสำหรับลอว์ โรบินใช้มือของตัวเองดึงแก้มของเขาจนดูเหมือนลอว์กำลังยิ้มอยู่ แล้วเธอก็หัวเราะออกมาเบาๆ ส่วนคนที่กำลัง(แกล้ง)หลับ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ
“จะลักหลับกันหรือไง” ลอว์ถามคนตรงหน้า
“ไม่หรอก คุณหมอล่ะ แอบลักหลับฉันหรือเปล่า”
ลอว์ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นหน้าตายตอบคนรู้ทัน ด้วยการโกหกออกไป
“เปล่านี่”
แค่ป้อนยาแปลกวิธีไปหน่อย คงไม่นับว่าเป็นจูบหรอกมั้ง
“งั้นตอนนี้ช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม”
ลอว์คลายอ้อมแขนออกจากโรบิน เธอลุกขึ้นยืนและปัดชายเสื้อของตัวเองแต่ก็ไม่วายมีน้ำใจยื่นมือมาให้เขาจับเพื่อลุกขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอเอง
ลอว์จับมือเรียวนั้นและลุกขึ้นยืนข้างโรบิน ในตอนนี้ตัวเขายังสูงกว่าเธออีกพอสมควร โรบินจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ตัวสูง เขามองรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าสวยและหยิบหมวกลายจุดของตัวเองมาสวมไว้ เขากดปีกหมวกมันให้ต่ำลงจนบังดวงตาของตัวเอง
ลอว์เดินออกจากห้องนอนของผู้หญิง โรบินเดินตามลอว์ออกไป ท่ามกลางกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางคนอื่นมนุษย์หัวเขียวคนหนึ่งจ้องประตูห้องนอนผู้หญิงตาไม่กระพริบหลังจากรู้จากนามิว่าโรบินป่วย ตอนแรกที่เขารู้เขาแทบอยากปล่อยดัมเบลที่ถืออยู่ทับขาตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ตื่นจากฝันสักที
เฮ้ๆ ยัยนั่นน่ะเหรอป่วย บอกว่าเขาเป็นไกด์ยังน่าเชื่อถือกว่าอีก(เปอร์เซ็นต์การหลงทางสูงมาก)
แต่แล้วไอ้ประตูนั่นก็เปิดพร้อมกับโทราโอะของลูฟี่ และตามด้วยนิโคโรบินที่วิ่งมาขวางหน้าหมอนั่นไว้ เห็นแล้วรำคาญตาแปลกๆ ยิ่งตอนที่โรบินยิ้มเขาแทบอยากควักตาอีกข้างตัวเองทิ้ง รังสีความสวยมันมีรัศมีรุนแรงจริงๆ บอกที่ว่านี่คือนิโค โรบินไม่ใช่โบอา แฮนค็อก
ยัยนี่ไม่ได้เป็นมนุษย์ลุ่มหลงอะไรนั่นใช่ไหม?
“ขอบคุณเรื่องเมื่อคืนมากนะ ฉันพอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่านายจับมือฉัน” โรบินยิ้มละมุนให้ลอว์ แต่ลอว์กลับคิดในใจด้วยแนวตรงข้าม
เวรแล้ว งั้นก็รู้ว่าโดนจูบสิวะ...
“แต่ฉันก็รู้สึกตัวแค่ช่วงนั้นจริงๆ ยังไงก็ขอบคุณมากนะจ้ะ”
เห็นแล้วหน้าฟันให้ไอ้เจ็ดเทพนั่นตกทะเลตายๆไป ว่าไหม??? รำคาญไอ้หน้าหล่อนี้แปลกๆ ว่ะ โซโลได้แต่นึกในใจ
ยัยนั่นก็เหมือนกัน เที่ยวแจกยิ้มโปรยสเน่ห์ไปทั่ว คิดว่าตัวเองสวยนักหรือไง(ก็สวยสิ)
แล้วไอ้การอยู่ในห้องสองต่อสองด้วยสภาพแบบนั้นคืออะไรฟระ
โซโลมองโรบินที่ใส่แค่เสื้อเชิ๊ตที่สั้นแค่ขาอ่อน และไอ้หมอเถื่อนที่เปลือยท่อนบนโชว์กล้ามกับรอยสักประหลาดๆ มันดูล่อแหลมเกินไปหรือเปล่า หรือว่าเขาติดมากคนเดียว เฮ้ ไอ้กัปตันงี่เง่าสนใจลูกเรือตัวเองกับไอ้พันธมิตรกิ๊กก๊อกหน่อยสิ
โรบิน เป็นยังไงบ้าง ช็อปเปอร์เดินเข้ามาถามโรบิน
เก่งมากไอ้กวาง ขัดจังหวะได้ดีมาก...โซโลคิดในใจ
โรบินยิ้มให้ช็อปเปอร์ เธอมักจะยิ้มให้ทุกคนเสมอ มันทำให้คนอื่นๆ คิดว่าเธอสบายดี เธอไม่ต้องการให้ทุกคนเป็นห่วงเธอ เธอไม่อยากรบกวนใครอีกแล้ว แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วสำหรับคนอย่างเธอ
จ้ะ ดีขึ้นแล้ว
ลอว์ที่เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินก็ค่อยๆ เดินออกห่างจากโรบินและช็อปเปอร์ เขาไม่เคยคาดหวังของตอบแทนหรือคำขอบคุณจากใคร เขาจะทำต่อเมื่ออยากทำเท่านั้น ไม่มีเหตุผลส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
การมองแผ่นหลังคนสักคนเดินจากไปมันไม่ได้ทำให้โรบินรู้สึกอะไร ไม่ได้บีบใจ ไม่ได้เสียใจ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขามากเกินกว่าคนรู้จัก แค่คำว่าเพื่อนเธอยังไม่กล้าใช้เลย การคุยกันแทบนับประโยคได้ไม่ช่วยให้เธอรู้จักกับเขามากขึ้นเลยสักนิด เขาเป็นใครมาจากไหนยังไม่รู้เลย
แต่ถ้าเขาคิดไม่ดีกับกัปตันเธอจะไม่ปล่อยไว้แน่!
กัปตันของเธอเป็นคนที่แสนวิเศษและพิเศษสำหรับเธอ ชีวิตที่เหลืออันน้อยนิดของเธอก็ได้มาจากเขา ต่อให้แลกด้วยชีวิตนี้เธอก็ยอม ถ้ามันจะช่วยให้กัปตันของเธอมีชีวิตต่อได้ ไม่ว่าจะให้ทำอะไรเธอก็ยอม
บางครั้งโลกแห่งความเป็นจริงระหว่างเธอกับเขามันต่างกันเกินไป คนที่โตมากับชีวิตที่มีคนรายล้อม กับผู้หญิงที่ไม่เคยมีใครอยู่ข้างตัวตั้งแต่แรก ทั้งที่รู้ว่าเธอพร้อมจะหักหลังแต่เขาก็ยังให้โอกาสเธอ
“ขอบคุณมากนะคุณหมอ” เธอยิ้มให้ลอว์
โลกแห่งความจริงมันโหดร้ายเกินไป... บางครั้งสิ่งที่เธอทำลงไปก็แค่เพื่อความไว้ใจ หน้าไหว้หลังหลอก แต่ยกเว้นตอนนี้
“ฮึ” ลอว์หันมายิ้มมุมปากให้โรบิน แม้จะไม่ได้เห็นแววตา แต่ประสบการณ์สามสิบปีของเธอ ฟ้องว่าเขาไม่ได้แกล้งยิ้ม เขายิ้มจริงๆ ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็เถอะ
“เอาล่ะ วันนี้เราจะไปซื้อของกันในเมือง ลอว์กับโรบินจะเฝ้าเรือ พวกเราที่เหลือก็ขึ้นเกาะกันนะ” นามิตะโกนสรุปให้ทุกคนฟัง
“ฉันขอเฝ้าเรืออีกคนละกัน” โซโลยกมือบอกนามิ
“เหหหห ไม่จริง ปกตินายไม่เคยอยู่เฝ้าเรือนี่โซโล” อุซปแทบช็อกเมื่อได้ยินนักดาบผมเขียวพูด “นี่สมองนายยังดีอยู่ใช่ไหม”
“ฉันไม่ไว้ใจยัยนั่น” โซโลชี้นิ้วไปที่โรบินที่ยืนยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“เหรอจ้ะ เพราะฉันสินะ” นักโบราณคดีสาวพูดบนหัวเราะ
มองยังไงไอ้รอยยิ้มนั่นมันก็ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เขาไม่เคยเชื่อใจยัยนี่ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เขาไม่ชอบรอยยิ้มยัยนั่นเอามากๆ ด้วย มันดูเสเสร้ง แอ๊บเป็นคนดีอะไรประมาณนั่น
“ชิ” โซโลหันหน้าหนีโรบิน
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเลยนะ” ลูฟี่ยิ้มกว้างแบบเดิมแล้วตะโกนหานักดาบ “ฝากโรบินด้วยล่ะ ถ้าเจ้าน้ำแข็งนั่นมาก็ซัดมันให้ปลิวไปเลยW
“โย่โฮโฮ ไปกันเถอะครับ ผมดีใจจนเนื้อเต้นแล้วครับ อ้ะ! แต่ผมไม่มีเนื้อนี่นา” บรู๊คปล่อยมุขประจำตัวออกมา
“แต่เราคงเอาเรือเข้าใกล้ฝั่งไม่ได้หรอกนะ ที่หาดมีหินโสโครกเต็มไปหมด” แฟร้งกี้บอกทุกคน
นามิทำหน้าครุ่นคิคสักครู่หนึ่งก่อนจะใช้ตะบองสร้างก้อนเมฆจากเรือซันนี่เป็นทางยาวไปจนถึงเกาะ เหมือนที่เธอเคยทำที่พังฮาซาร์ด แล้วเดินไปตามเมฆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำตามบ้าง
สุดท้ายทั้งเรือก็เหลืออยู่แค่สามคน...
________________________________________________________________________
คุยกันหน่อยยย~
ทุกคนคะ...เรายังไม่ปิดโหวตค่ะ อย่าลืมโหวตนะ บทหน้าเราจะเรียกคะแนนของโซโลกลับมา(._.) จริงๆ ไรท์เข้าข้างโซโลนิดหน่อย(เพราะลอว์เป็นของข้าาา 555) โหวตซ้ำได้นะคะ ไม่ว่ากัน
แปะแบนเนอร์ธีมก่อน เดี๋ยวเกิดดราม่า
ตามด้วยของแถม ไกด์โซโลของเรา
ความคิดเห็น