ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ...............?????
ของปังๆ
ไม่ชอบตรงไหนเม้นบอกมันแล้วกันนะ^^
................................
ซอนเยรีบกลับมาที่บ้านก่อนมอล์ฮีจะกลับมาแล้วดำเนินการตามแผนเซอร์ไพรซ์ที่ตนคิดไว้อย่างรวดเร็ว เมื่อมอล์ฮีก้าวเท้าผ่านประตูรั้วเข้ามา ร่างสูงของซอนเยก็เข้ามาทางด้านหลังแล้วปิดตาแบ๊วๆ ของมอล์ฮีเอาไว้
ไม่ชอบตรงไหนเม้นบอกมันแล้วกันนะ^^
................................
ซอนเยรีบกลับมาที่บ้านก่อนมอล์ฮีจะกลับมาแล้วดำเนินการตามแผนเซอร์ไพรซ์ที่ตนคิดไว้อย่างรวดเร็ว เมื่อมอล์ฮีก้าวเท้าผ่านประตูรั้วเข้ามา ร่างสูงของซอนเยก็เข้ามาทางด้านหลังแล้วปิดตาแบ๊วๆ ของมอล์ฮีเอาไว้
“ซอนเย คุณจะแกล้งฉันเหรอ...” มอล์ฮีถามขึ้นขณะที่ตัวเองเดินเปะปะแบบไม่รู้จุดหมายเพราะคนตัวสูงเอามือทั้งสองข้างมาปิดตาเธอเอาไว้
ซอนเยหัวเราะน้อยๆแล้วพูดเบาๆ
“เดี๋ยวก็รู้น่า มอล์ฮี เดินตรงไป ช้าๆนะ”
มอล์ฮีพยักหน้าแล้วเดินต่อไป พอถึงจุดหมาย ซอนเยก็เอามือออกจากใบหน้ากลม มอล์ฮีมองไปรอบๆห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ
ห้องนั่งเล่นที่เคยเห็นต่างไปจากเดิมอย่างมาก หลอดไฟหลากสีประดับประดาอยู่ตามมุมต่างๆของห้อง บนเพดานมีลูกโป่งมากมายลอยค้าง และบนโต๊ะกระจกใสตัวเล็กนั้น มีเค้กก้อนใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง แสงเทียนที่ปักบนเค้กนั้นวูบวาบไปตามลมอ่อนๆที่พัดเข้ามาจากทางหน้าต่าง
ซอนเยโอบกอดมอล์ฮีเบาๆจากด้านหลัง ก่อนจะจรดปลายจมูกเข้ากับแก้มกลมๆ มอล์ฮีแตะแขนซอนเยเบาๆ
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ ซอนเย”
อ้อมกอดถูกกระชับแน่นขึ้น ตามด้วยคำตอบจากร่างสูง
“ฉลองการเริ่มต้นใหม่ ของเราสองคนไง มอล์ฮี”
“คุณทำเองคนเดียวหมดนี่เลยเหรอ”
ซอนเยพยักหน้า “เพื่อเธอ อะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้นล่ะ ขอโทษทีนะถ้ามันทำให้เธอไม่พอใจ เอาไว้คราวหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ ^^”
มอล์ฮีหันหน้ามาประคองใบหน้าซอนเยเอาไว้
“แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วค่ะ ซอนเย ขอแค่มีคุณอยู่ข้างๆฉันแบบนี้ตลอดไป ฉันก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว คุณจะอยู่ข้างๆฉันตลอดไปใช่ไหม...”
...สัมผัสจากมินซอนเยหนักแน่นกว่าคำสัญญาใดๆ น้ำตาแห่งความปิติไหลรินออกจากดวงตากลมโตของมอล์ฮี ช้าๆ
...มินซอนเยคือคนเดียวที่ฉันจะรัก จากนี้และตลอดไป
ซอนเยรู้สึกถึงความชื้นของน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้มกลมๆนั้น จึงถอนริมฝีปากออกอย่างตกใจ
“มอล์ฮี ร้องไห้ทำไม”
คนขี้แยยิ้มทั้งน้ำตา “ฉัน...ซอนเย คุณรักฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนฉันทำให้คุณเจ็บปวดมากเลยเหรอ
คุณรักฉันแม้ว่าคุณจะเจ็บปวดเหรอ ซอนเย”
ซอนเยจูงมือมอล์ฮีไปนั่งที่โซฟาแล้วเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา
“ฉันไม่สนใจอดีตอีกต่อไปแล้ว มอล์ฮี ฉันสนใจแต่ปัจจุบัน และอนาคต ที่มีเธออยู่ด้วยเท่านั้น เรื่องราวในอดีตเป็นยังไง ฉันลืมมันไปหมดแล้ว ตอนนี้คนที่อยู่ข้างๆฉันคือเธอ ไม่ใช่คนอื่น ฉันต้องการแค่นี้ เท่านั้นเอง อย่าร้องไห้นะคะคนดี เดี๋ยวตัดเค้กให้กินนะ ^^”
“ฉันรักคุณนะ ซอนเย”
ถ้อยคำแผ่วเบาจากคนขี้แยที่ดังก้องชัดเจนในหัวใจคนฟัง ทำให้ซอนเยน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
...นี่สินะ สิ่งที่ฉันเฝ้าภาวนาทุกวัน ในที่สุด ความรักของโซฮีคนเดิมของฉันก็กลับมา
“ฉันก็รักเธอ มอล์ฮี”
..
ซอนมียืนกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างๆเยอึนขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปที่ร้านอาหาร ฝ่ามือของเยอึนกุมมือซอนมีเอาไว้ตลอดเวลา ราวกับกลัวว่าคนตัวเล็กข้างกายจะหายไป
บริกรร่างสูงเดินเข้ามาหาเมื่อทั้งสองก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะ
ซอนมีกางเมนูออกดู “พี่เยอึน กินอะไรดีคะ”
เยอึนที่กวาดตามองเมนูแบบผ่านๆ ก็มองลอดเมนูออกมาสบตากับคนตรงหน้า พร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่เหรอ พี่อยากกิน...ซอนมีน่ะ ได้รึเปล่า?”
บริกรที่ยืนรับออร์เดอร์สะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกค้าผมแดงพูดออกมา ส่วนซอนมีหน้าขึ้นสีเรื่อ ก่อนที่เมนูจะลอยเข้าฟาดที่ต้นแขน
“บ้า พี่เยอึน อายเขามั่งสิ นั่งเงียบๆไปเลยปะ เดี๋ยวซอนมีสั่งเอง” ว่าจบก็ชี้ไปที่ชื่อเมนู บริกรพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่จะจดรายการลงไปแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นอย่างเร่งด่วน - -“
เยอึนหัวเราะหึๆ “ตัวแค่นี้ แรงเยอะเหมือนกันนะเราน่ะ” ว่าพลางลูบต้นแขนที่เพิ่งโดนเอฟเฟกต์เมนูพิฆาตจากคนรัก
ซอนมีสบตากับเยอึนอีกครั้งก่อนจะพูด
“แรงเยอะหรือไม่เยอะ คืนนี้พี่ก็รู้เองแหละค่ะ พี่เยอึน” รอยยิ้มแบบใสๆ จากคนตรงหน้าทำเอาปาร์คเยอึนชะงักค้าง
...ทอดสะพานแบบนี้ก็เสร็จปาร์คสิจ๊ะ ซอนมีน้อย หึๆ
หลังจากมื้ออาหารจบลง เยอึนก็แทบจะเหยียบคันเร่งมิดเพื่อจะให้ถึงบ้านซอนมีเร็วๆ (หื่นได้อีกจริง ๆค่ะ เฮียปาร์ค - -“) (อ้าว ก็ติ๋มน้อยทอดสะพานให้แล้วนี่หว่า หึๆ)
“พี่เยอึน ค้างบ้านซอนมีอีกรึเปล่าคะ คืนนี้”
ร่างบางถูกเยอึนช้อนขึ้นแทนคำตอบ ก่อนที่จะเดินดุ่มๆเข้าบ้านไป...
“ใจเย็นๆก็ได้ ยังไงคืนนี้ซอนมีก็อยู่กับพี่ทั้งคืนอยู่แล้วค่ะ พี่เยอึนที่รัก” ซอนมีเอ่ย
“อืม...งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอนนะ ซอนมี”
จบคำพูดนั้น ริมฝีปากอิ่มของซอนมีก็ถูกปิดอย่างนุ่มนวล
...และก็เป็นอย่างที่เยอึนว่า...ไม่ต้องนอนนะติ๋มน้อย ^^
วันต่อมา เยอึนตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างบางของซอนมีที่หลับสนิทในอ้อมกอด ร่างสูงลุกขึ้นไปเปิดม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ปกติเยอึนเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว ถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกับซอนมีเมื่อคืนจะยาวนานถึงตีสามตีสี่ก็ตาม ยังไงร่างสูงก็ตื่นเวลาเดิมทุกวัน ส่วนคนที่นอนอยู่บนเตียงน่ะเหรอ... เยอึนมองร่างบางที่นอนเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มหนาแล้วยิ้มบางๆ
...แรงเยอะจริงๆด้วยสินะ แต่ท่าทางจะลุกไม่ไหว หึๆ
ซอนมีขมวดคิ้วเมื่อแสงแดดลอดเข้ามาในห้อง ร่างบางพลิกตัวไปอีกทางเพื่อหนีแสง แต่ยังไม่วายเอ่ยโทษคนเปิดม่าน
“พี่เยอึน ปิดม่านเดี๋ยวนี้นะ แสบตา”
เยอึนหัวเราะหึๆ
“ลุกมาปิดเองสิ เดี๋ยวพี่ลงไปทำข้าวเช้าให้กินนะ”
คนชี้เซาลืมตาขึ้นมาแหว “พี่เยอึนบ้า รู้อยู่ว่าเขาลุกไม่ได้ยังจะแกล้งอีก”
“หึๆ นอนไปก่อนไป เดี๋ยวพี่ทำข้าวเช้าเสร็จจะขึ้นมาอุ้ม ฮ่าๆ”
เยอึนพูดจบก็รีบสาวเท้าออกจากห้องเมื่อร่างบางปาหมอนอิงข้างตัวเข้าใส่ก่อนจะซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเหมือนเดิม
.
โอมอล์ฮีสาวเท้าเข้าไปในบริษัทของยูบิน เช้าวันนี้เป็นวันทำงานวันแรก ระหว่างที่ร่างบางยืนรอลิฟท์อยู่นั้นก็มีมือของใครบางคนมาสะกิด
“มาเช้าจังเลยนะ มอล์ฮี”
เป็นคิมยูบินนั่นเอง มอล์ฮีจึงโค้งให้ก่อนจะพูด
“ฉันเป็นคนตรงเวลาค่ะ คุณ...เอ่อ พี่ยูบิน”
ยูบินหัวเราะในคออย่างถูกใจเมื่อมอล์ฮีไม่ลืมใช้สรรพนามแทนตัวที่เธอบอก
เมื่อลิฟท์มาถึง มอล์ฮีเดินตามยูบินเข้าไปในลิฟท์ ขณะที่ลิฟท์เลื่อนขึ้น มอล์ฮีเห็นคิมยูบินลอบมองมาที่เธอบ่อยครั้ง จึงส่งยิ้มหวานไปให้
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึเปล่าคะ” ท่าทางใสๆ ของมอล์ฮีทำให้คิมยูบินผู้ซึ่งคิดว่าตัวเองรักมั่นคงกับคนที่จากโลกนี้ไปแล้วอย่างโซฮี ใจเต้นตึกตักอีกครั้ง (ก็มันคนเดียวกันนี่ ยูบิน)
...เธอต้องส่งโอมอล์ฮีมาเป็นตัวแทนของเธอแน่ๆ โซฮี
“ไม่มีหรอก แค่อยากมองของสวยๆงามๆบ้างไม่ได้หรือไงกัน ทำแต่งาน นานๆจะเจอซักที”
คำชมจากปากยูบินทำให้มอล์ฮีหน้าแดงอย่างเขินๆ เจ้าตัวยิ้มหวานให้ยูบินอีกหนก่อนจะพูด
“เล่นชมกันตรงๆแบบนี้ ฉันก็เขินสิคะพี่ยูบิน”
ติ๊ง~~~~~
เสียงเตือนดังขึ้นพร้อมกับประตูลิฟท์เปิดออก ยูบินสาวเท้านำมอล์ฮีตรงไปที่หน้าห้องทำงานซึ่งยูบินให้คนมาจัดโต๊ะไว้ให้มอล์ฮีเรียบร้อย
“ของทั้งหมดที่ต้องใช้ทำงาน ฉันให้คนมาจัดให้เธอแล้วนะมอล์ฮี ขาดอะไรก็บอกนะ แล้วเธอก็เริ่มงานได้เลย แฟ้มบนโต๊ะนั่นแหละ เดี๋ยวเที่ยงนี้ไปหาอะไรกินกัน” ยูบินพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน ส่วนมอล์ฮีก็นั่งลงบนโต๊ะแล้วเริ่มเปิดแฟ้มงานที่ยูบินวางไว้ให้
เวลาผ่านไปนานพอดูเมื่อมอล์ฮียกนาฬิกาข้อมือขึ้นมา ร่างบางลุกจากโต๊ะทำงานที่ทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เดินไปที่ห้องชงกาแฟที่แปะป้ายบอกไว้ชัดเจน ชงกาแฟให้ตัวเองหนึ่งแก้ว และอีกแก้วให้คิมยูบิน
มอล์ฮีวางแก้วกาแฟของตัวเองลงบนโต๊ะ แล้วเคาะประตูห้องทำงานของยูบิน
“มอล์ฮีเหรอ เชิญ” เสียงทุ้มของยูบินพูด มอล์ฮีจึงดันประตูเข้าไป
ยูบินก้มหน้าก้มตาทำงานกลางกองแฟ้มมากมาย มอล์ฮียิ้มพราวแล้วพูด
“ฉันเอากาแฟมาให้ค่ะ พี่ยูบิน พักหน่อยดีไหมคะ”
คนบ้างานเงยหน้าขึ้นมาเจอกับรอยยิ้มใสๆของมอล์ฮีก็วางปากกาลงแล้วรวบแฟ้มไปกองรวมกันอีกทาง มอล์ฮีวางแก้วกาแฟลงตรงหน้า
“กี่โมงแล้วเนี่ย ทำงานลืมเวลาไปเลย”
มอล์ฮีหัวเราะแล้วว่า “สิบโมงแล้วค่ะ”
ยูบินพยักหน้าแล้วยกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะถาม
“งานเป็นไง ทำไหวรึเปล่า”
คนตรงหน้ายิ้มหวาน “ไม่มีปัญหาค่ะเรียบร้อยราบรื่น เสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วล่ะค่ะ พี่ยูบินไม่ต้องเป็นห่วง” พอพูดจบก็ยิ้มหวานจนตาหยี
...จะสวยไปถึงไหนหา โอมอล์ฮี เดี๋ยวเขมือบซะเลยนี่
สิบห้านาทีผ่านไป มอล์ฮีจึงลุกขึ้นยืนแล้วขอตัวออกไปทำงานต่อ พร้อมกับเก็บเอาแก้วกาแฟที่ว่างเปล่าของยูบินออกไปด้วย ยูบินมองตามร่างบางไป ในใจครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะยิ้มร่าแล้วทำงานของตัวเองต่อ
มอล์ฮีบิดขี้เกียจเมื่องานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อย ร่างบางยกมือขึ้นปิดปากหาว เสียงหัวเราะหึๆจากคนที่เดินออกมาจากห้องทำงานทำให้มอล์ฮีตวัดสายตาไปมองค้อนๆ
“หัวเราะคนหาวนี่สนุกนักเหรอคะพี่ยูบิน”
ยูบินยักไหล่พร้อมกับยิ้มน้อยๆ “เสร็จแล้วใช่ไหม เที่ยงแล้วนี่ ไปหาอะไรกินกัน”
มอล์ฮีคว้ากระเป๋าถือเดินตามยูบินไป
“มอล์ฮี เย็นนี้ไปไหนรึเปล่า”
“ไม่นี่คะ ทำไมเหรอ”
“อ๋อ คือเย็นนี้พวกพนักงานที่บริษัทเขาจะเลี้ยงต้อนรับเธอน่ะ ไปได้ไหม”
มอล์ฮีทำท่านึกอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น