ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter2
“นี่ ไอ้มินแกอยู่ไหนวะ” เสียงใหญ่ทุ้มของคนอีกฟากนึงส่งผ่านมาในโทรศัพท์ของคนหน้าหล่อที่พึ่งจะหยิบมันมาโทรกลับ หลังจากที่เมื่อกี้ผ่านศึกกะคนหน้าหวานใจเสือ
“คะยูบิน อ๋อ ตอนนี้อยู่ห้องค่ะ” มินซอนเยตอกกลับด้วยเสียงหวานไพเราะฟังแล้วลื่นหูอย่างมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าคิมยูบินคนที่ฟังน้ำเสียงอยู่รู้นะว่าไอ้นี่หน้าหล่อราวกับพระเอกหนังคงจะฝันไปไกลนึกว่าเทพธิดาที่ไหนมารับสายเป็นอันแน่เชียว
“บรื๋ออ~ ไอ้มินอย่ามาทำเสียงอย่างงี้นะโว้ยย ขนลุก ขี้เกียจสั่งให้มันนั่งว่ะ” คิมยูบินพูดจบก็รอเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา แต่ปรากฏว่าเงียบฉี่เลย
“อ้าวเห้ย ไอ้มินอยู่ป่าวววว ยู้ฮู เฮ้ๆ” เสียงใหญ่ๆ ปนทะเล้นๆ ยังคงส่งเสียงอยู่ไม่ขาดสาย
“อยู่ค่ะ แล้วยูบินมีธุระ...”
“พอเลยๆ ไม่ต้องมาคะคงคะขาแล้ว มาหาชั้นกะไอ้เยอึนทีที่เก่านะ บาย” เสียงปลายสายตัดไปแล้วทิ้งให้อีกคนนั่งใจเต้นตุบๆ หน้าเรื่อสีขึ้นมาซะงั้น
ชั้นควรจะรู้สึกแบบนี้กับหญิงสาวสวยๆ หุ่นเพรียวๆ นี่
แล้วทำไมมารู้สึกแบบนี้กับไอ้พวกหน้าหล่อ เท่ หุ่นบึ้กๆ ถึกๆ ด้วย (อ้าวมินยังไง ชมหรือด่า)
“นี่ เป็นบ้าอะไรน่ะห๊ะ เมื่อไหร่จะเข้าห้อง” ร่างสูงสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงพระแม่ทรงบังเกิดในโลกโลกา เอ้ยไม่ใช่และ เสียงโหดๆ แต่ฟังไปฟังมา โหดยังไงเสียงก็ใสไพเราะน่าฟังซะเหลือเกินอยู่ดีนั่นแหละนะ
“เอ่อคือ...เดี๋ยวชั้นมานะคะ” มินซอนเยก้มหน้าเอามือประสานไว้ที่ด้านหน้า โอ้ยยอะไรมันจะเรียบร้อยปานนี้
บึกๆๆ !! มือบางๆ ของร่างเล็กโอบคนตรงหน้าแล้วตบไปที่ไหล่สองสามที
“นี่ไอ้น้อง!! จะไปไหนเดี๋ยวพี่ไปส่ง” อานโซฮีแกล้งทำเป็นนักเลงวางกล้ามยกใหญ่
“ป...ปะ....จะ....ไป” หน้าเรียวหล่อเหลาตอบเสียงตะกุกตะกัก ตัวออกจะสั่นๆ อย่างกับลูกนกเนื่องจากกลัวคนที่โอบอยู่
“ไปไหน!!” ร่างเล็กเริ่มทนไม่ไหวกับไอ้ความขี้ขลาดเรียบร้อยของคนตรงหน้า โอ้ยมันจะขวานผ่าซากหน่อยไม่ได้รึไงกันวะเนี่ยย เดี๋ยวแม่ตบชิดข้างฝาเลยดีมั้ย
“ฮึก ฮึก....” อ้าวกำ ร้องไห้ทำไมเนี่ย ปลอบไม่เป็นด้วย นี่ชั้นเป็นผู้หญิงที่บอบบางน่าทะถนอมเช่นนี้ ต้องมานั่งปลอบกระเทยหน้าหล่อร้องไห้รึไงกัน โอ้ยพระเจ้าช่วยกล้วยทอด ลูกไม่อยากทอดแล้วค่า~
“จะร้องไห้ทำไมกันเล่า ทำตัวให้มันเหมาะกะหน้าตาแล้วก็การแต่งตัวหน่อยจะได้มั้ย” อานโซฮีเริ่มหัวเสีย
“ก็โซฮีตะคอกชั้นทำไมอ้ะ เค้ากลัวนะ” มินซอนเยพูดไปเสียงสะอื้นไป อานโซฮีได้ยินดังนั้นถึงกับกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา
“เห้อ แล้วนี่จะไปไหนล่ะ ก็ไม่บอกซักที” น้ำเสียงของอีกคนที่ดูจะลดลงมาบ้างแล้วในตอนนี้ ทำให้คนฟังใจชื้นขึ้นมาได้ทันทีทันใดเลยเชียว
“คือว่า...จะไปหาเพื่อน” ในที่สุดเสียงเบา (โคตร) ก็หลุดออกมากระทบโสตประสาทหูของร่างบางจนได้
“ใครกัน!!” อีกรอบที่เสียงดังขึ้นมาอีก
“ก็ยูบินกับเยอึนน่ะค่ะ” คนตอบตอนนี้เสียงเริ่มจะสั่นๆ ขึ้นมาอีกแล้ว (จะกลัวอะไรเนี่ยชั้น เห้อ เข้มแข็งได้ซักทีสิ มินซอนเย ชั้นเบื่อตัวเองจริงๆ)
“อืม...จะไปก็ไปสิ แล้วอย่ากลับช้าล่ะ” ไม่รู้ทำไม อยู่ๆ อานโซฮีก็เกิดยอมให้เธอไปได้ง่ายๆ ยังงั้นแหละ ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น
“หรือจะไม่ไป” อานโซฮียักคิ้วให้ ทีนึงเป็นอันกวน...ครบสูตร
“ไปค่ะ แล้วเย็นนี้เจอกันนะคะ” มินซอนเยยิ้มออกได้เมื่อสุดที่รักของเธอยอมให้ไปได้ง่ายๆ แบบนี้ ด้วยความดีอกดีใจจึงโน้มตัวลงไปจุ๊บแก้มร่างบางเข้าให้หนึ่งที
“ไอ้บ้า ทีงี้มาทำตัวกะล่อนได้นะ แน่จริงกลับมาก่อนเซ่ โถ่เอ้ย” อานโซฮีกำหมัดทำท่าจะต่อยคนร่างสูงที่วิ่งเผ่นไปนู่นนแล้ว
“กลับมาล่ะน่าดู” แหนะยังไม่วายบ่นต่อได้อีก
....................................................................
ตึง ตึง ตึง....เสียงลูกกลมๆ สีส้มๆ เด้งไปมากระทบกับพื้นในโรงยิม
สวบบบ...ตามมาด้วยเสียงของลูกบาส เวลาที่ผ่านตะข่าย
ในที่แห่งนี้มีหญิงสาวมากหน้าหลายตามารวมตัวกัน ไม่ได้จะมาเล่นกันหรอกนะ มาดูซะมากกว่า
ก็แหมนานๆ ทีจะมีการมารวมตัวครบสูตรตระกูลหล่อ สามกษัตริย์ขนาดนี้ คนนึงก็หล่อเหลา มาดขรึม แต่เวลายิ้มแล้วโลกทั้งใบดูจะสดใสซะจริง อีกคนก็หล่อเท่ เข้มบาดตาบาดใจมาแต่ไกล ฮิพฮอพยังเรียกพี่ คนสุดท้ายก็หล่อ ดูโรแมนติค กระชากใจสาวๆ ด้วยรอยยิ้มมุมปากขนาดนั้น ใครจะไม่มองก็เกินไปหน่อยล่ะมั้ง
“เห้ยๆ เหนื่อยแล้วว่ะ ชั้นพักก่อนนะ” เจ้าของรอยยิ้มมุมปากอันแสนจะน่ารักขอตัวไปนั่งอยู่มุมสแตนเชียร์
“อ่ะ นี่ค่ะ เห็นว่าเหนื่อย” มือเล็กๆ ของคนๆ หนึ่งยื่นขวดน้ำที่ดูจะเย็นสดชื่นที่สุดในโลกมาให้
“ซอนมีอา~ นั่งนี่ๆ น้า” มือใหญ่ๆ ตบที่นั่งข้างๆ ของตัวเองให้ซอนมี สาวหน้าสวยรูปร่างผอมเพรียวนั่งลง
“พี่ซอนเยกับพี่ยูบินนี่เท่จังเลยนะคะ ดูสิคนกรี๊ดเยอะเชียว” ซอนมีที่สายตาจับจ้องอยู่ที่คนสองคนที่วิ่งวุ่นอยู่ในสนามการแข่งขัน เมื่อเวลาที่ซอนเยหรือว่ายูบินชู๊ตลงเสียงที่ตามมาคงจะเป็นเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ข้างสนามซะมากกว่า
“แล้วพี่ล่ะ ไม่เห็นชมพี่เลยล่ะ” เยอึนพูดเสียงอ่อยๆ ขึ้นมาบ้างแล้วสิ
“เอ...แบบนี้เค้าเรียกว่า หึง เอ๊ะ หรือว่างอนกันแน่คะ พี่ปาร์คเยอึนสุดหล่อของซอนมี” ร่างบางไม่วายเอามือไปบิดแก้มของคนข้างๆ อย่างหมั่นไส้
“อย่ามาทำตัวงี้นะ เดี๋ยวพี่ก็อดใจไม่ไหวหรอก” ร่างสูงพยายามหลีกตัวออกห่างมา แต่ร่างเล็กก็เขยิบตามมาอีก
“ก็ไม่ต้องอดไงคะ ดีมั้ย” ซอนมีฉีกยิ้มกว้างคนให้หน้าหล่อ โอ้ยย ชั้นอยากจะละลาย
“ซอนมีอา~ เอาจริงจังนะ”
“ก็ซอนมีจริงจังนี่คะ” ซอนมีทำหน้าทำตาใสซื่อพลางเอียงคอ น่านไม่รู้ซะแล้วภัยกำลังจะมา
ปาร์คเยอึนเตรียมตัวจะโน้มเข้ามาหาซอนมีที่นั่งทำหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่วาย...(แกวายเต็มๆ)
“ทำอะไรกันคะ ทั้งสองคน” มินซอนเยเหงื่อซก วิ่งมาทางด้านที่สองคนนี้นั่งอยู่ ก่อนจะหยิบขวดน้ำที่ซอนมีนำมาให้ปาร์คเยอึน กระดกเอื้อกๆ จนหมดเกลี้ยง
“อ้าวเห้ย แกมากินของที่น้องซอนมีชั้นให้ได้ไงวะ ไอ้มิ๊นนน!!!”
“ก็ไม่บอกนี่ ชั้นจะไปรู้หรอไงเล่า” มินซอนเยทำหน้าเหลอหลา
“มันน่านักนะ เดี๋ยวพ่อก็ซัดซะให้หรอก” เยอึนทำท่าจะเข้าไปฟัดกับคนหน้าหล่ออีกคนเข้าแล้วแต่ซอนมีผู้เป็นนางฟ้าใจดีรั้งเอาไว้
“ซอนมีคะ ช่วยเค้าด้วย” มินซอนเยพาร่างตัวเองไปหลบอยู่หลังคนตัวเล็กๆ ผอมเพรียวของซอนมี ทั้งๆ ที่หน้าตาตัวเองนี่ดูจะแมนเอาเรื่อง กวนๆ ชาวบ้านเค้าแทบตายแต่กลับ...นะตรงกันข้ามสิ้นดี
“อะไรวะ นี่แกหลบใต้กระโปรงผู้หญิงหรอ ตุ๊ดป่าววะเห้ย”
“ชั้นหลบหลังนะ ไม่ใช่ใต้กระโปรงซักหน่อย” หน้าเรียวคมชะโงกออกมาพูดแล้วก้อผลุบไปหลบด้านหลังอีกรอบ
“หนอยยย..แน่จริงออกมาดิวะ” ไม่ทันที่จะได้เคลียร์กันเสร็จ ลูกบาสมาจากใครไม่รู้กระเด็นมาทางแถบที่พวกสามคนกำลังปะทะกันอยู่ มินซอนเยเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหยิบขึ้นมา พอเงยหน้าก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอีกคนวิ่งเข้ามาหาตน ก่อนจะดึงลูกบาสไปจากมือแล้วส่งยิ้มให้
“ขอบใจว่ะ” ยูบินวิ่งออกไปแล้ว แต่ไอ้คนที่พึ่งส่งบอลให้นี่สิ กำลังอยู่ในภวังค์
“นี่ชั้นเป็นอะไรเนี่ย เค้าเท่จังเลย” เสียงดังกังวานอยู่ในหัวของมินซอนเยที่ตอนนี้กำลังเป็นบ้าเพราะในหัวสมองและหัวใจตีกันจนแทบคลั่ง
โป้กกกกกกก เสียงขวดใสๆ ลอยมากระทบหัวคนที่กำลังจมอยู่ในความคิดตัวเอง
“กินเสร็จก็เอาไปทิ้งด้วยเว้ย เข้าไจ๊” ปาร์คเยอึนตะโกนเสียงห้าว คิดว่าแน่ซะเหลือเกิน
“นี่แน่ เก่งนักใช่มั้ยเนี่ย ไปขว้างหัวคนอื่นได้ยังไงกันคะ ใครสั่งใครสอน” ซอนมีดึงที่ใบหูคนตัวสูงให้ตามมานั่งลงที่เดิมซะ ก่อนที่จะซ่าไปมากกว่านี้
“โอ้ยยย ซอนมีจัง เบาเบ๊า” เสียงโหยหวนของคนโดนประทุษร้ายดังอิดออดตาม (เก่งอยู่แต่กับคนอื่นแหละนะ ทีงี้ล่ะหงอเชียว)
“อยากเป็นซอนมีมั่งจัง น่าอิจฉา เยอึนนี่ก็ไหล่กว้าง น่าซบ >//< อุ้ย นี่เราคิดอะไรเนี่ย ชั้นเป็นอะไร สับสนค่า” คนที่คิดในใจในตอนนี้หน้าแดง ใจเต้น เหนื่อยก็เหนื่อย มาอยู่กับไอ้เพื่อนหล่อๆ สองคนนี้อีก อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด กลับไปหาโซฮีของเราจะดีกว่ามั้ง
------------------------------------
“คะยูบิน อ๋อ ตอนนี้อยู่ห้องค่ะ” มินซอนเยตอกกลับด้วยเสียงหวานไพเราะฟังแล้วลื่นหูอย่างมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าคิมยูบินคนที่ฟังน้ำเสียงอยู่รู้นะว่าไอ้นี่หน้าหล่อราวกับพระเอกหนังคงจะฝันไปไกลนึกว่าเทพธิดาที่ไหนมารับสายเป็นอันแน่เชียว
“บรื๋ออ~ ไอ้มินอย่ามาทำเสียงอย่างงี้นะโว้ยย ขนลุก ขี้เกียจสั่งให้มันนั่งว่ะ” คิมยูบินพูดจบก็รอเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา แต่ปรากฏว่าเงียบฉี่เลย
“อ้าวเห้ย ไอ้มินอยู่ป่าวววว ยู้ฮู เฮ้ๆ” เสียงใหญ่ๆ ปนทะเล้นๆ ยังคงส่งเสียงอยู่ไม่ขาดสาย
“อยู่ค่ะ แล้วยูบินมีธุระ...”
“พอเลยๆ ไม่ต้องมาคะคงคะขาแล้ว มาหาชั้นกะไอ้เยอึนทีที่เก่านะ บาย” เสียงปลายสายตัดไปแล้วทิ้งให้อีกคนนั่งใจเต้นตุบๆ หน้าเรื่อสีขึ้นมาซะงั้น
ชั้นควรจะรู้สึกแบบนี้กับหญิงสาวสวยๆ หุ่นเพรียวๆ นี่
แล้วทำไมมารู้สึกแบบนี้กับไอ้พวกหน้าหล่อ เท่ หุ่นบึ้กๆ ถึกๆ ด้วย (อ้าวมินยังไง ชมหรือด่า)
“นี่ เป็นบ้าอะไรน่ะห๊ะ เมื่อไหร่จะเข้าห้อง” ร่างสูงสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงพระแม่ทรงบังเกิดในโลกโลกา เอ้ยไม่ใช่และ เสียงโหดๆ แต่ฟังไปฟังมา โหดยังไงเสียงก็ใสไพเราะน่าฟังซะเหลือเกินอยู่ดีนั่นแหละนะ
“เอ่อคือ...เดี๋ยวชั้นมานะคะ” มินซอนเยก้มหน้าเอามือประสานไว้ที่ด้านหน้า โอ้ยยอะไรมันจะเรียบร้อยปานนี้
บึกๆๆ !! มือบางๆ ของร่างเล็กโอบคนตรงหน้าแล้วตบไปที่ไหล่สองสามที
“นี่ไอ้น้อง!! จะไปไหนเดี๋ยวพี่ไปส่ง” อานโซฮีแกล้งทำเป็นนักเลงวางกล้ามยกใหญ่
“ป...ปะ....จะ....ไป” หน้าเรียวหล่อเหลาตอบเสียงตะกุกตะกัก ตัวออกจะสั่นๆ อย่างกับลูกนกเนื่องจากกลัวคนที่โอบอยู่
“ไปไหน!!” ร่างเล็กเริ่มทนไม่ไหวกับไอ้ความขี้ขลาดเรียบร้อยของคนตรงหน้า โอ้ยมันจะขวานผ่าซากหน่อยไม่ได้รึไงกันวะเนี่ยย เดี๋ยวแม่ตบชิดข้างฝาเลยดีมั้ย
“ฮึก ฮึก....” อ้าวกำ ร้องไห้ทำไมเนี่ย ปลอบไม่เป็นด้วย นี่ชั้นเป็นผู้หญิงที่บอบบางน่าทะถนอมเช่นนี้ ต้องมานั่งปลอบกระเทยหน้าหล่อร้องไห้รึไงกัน โอ้ยพระเจ้าช่วยกล้วยทอด ลูกไม่อยากทอดแล้วค่า~
“จะร้องไห้ทำไมกันเล่า ทำตัวให้มันเหมาะกะหน้าตาแล้วก็การแต่งตัวหน่อยจะได้มั้ย” อานโซฮีเริ่มหัวเสีย
“ก็โซฮีตะคอกชั้นทำไมอ้ะ เค้ากลัวนะ” มินซอนเยพูดไปเสียงสะอื้นไป อานโซฮีได้ยินดังนั้นถึงกับกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา
“เห้อ แล้วนี่จะไปไหนล่ะ ก็ไม่บอกซักที” น้ำเสียงของอีกคนที่ดูจะลดลงมาบ้างแล้วในตอนนี้ ทำให้คนฟังใจชื้นขึ้นมาได้ทันทีทันใดเลยเชียว
“คือว่า...จะไปหาเพื่อน” ในที่สุดเสียงเบา (โคตร) ก็หลุดออกมากระทบโสตประสาทหูของร่างบางจนได้
“ใครกัน!!” อีกรอบที่เสียงดังขึ้นมาอีก
“ก็ยูบินกับเยอึนน่ะค่ะ” คนตอบตอนนี้เสียงเริ่มจะสั่นๆ ขึ้นมาอีกแล้ว (จะกลัวอะไรเนี่ยชั้น เห้อ เข้มแข็งได้ซักทีสิ มินซอนเย ชั้นเบื่อตัวเองจริงๆ)
“อืม...จะไปก็ไปสิ แล้วอย่ากลับช้าล่ะ” ไม่รู้ทำไม อยู่ๆ อานโซฮีก็เกิดยอมให้เธอไปได้ง่ายๆ ยังงั้นแหละ ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น
“หรือจะไม่ไป” อานโซฮียักคิ้วให้ ทีนึงเป็นอันกวน...ครบสูตร
“ไปค่ะ แล้วเย็นนี้เจอกันนะคะ” มินซอนเยยิ้มออกได้เมื่อสุดที่รักของเธอยอมให้ไปได้ง่ายๆ แบบนี้ ด้วยความดีอกดีใจจึงโน้มตัวลงไปจุ๊บแก้มร่างบางเข้าให้หนึ่งที
“ไอ้บ้า ทีงี้มาทำตัวกะล่อนได้นะ แน่จริงกลับมาก่อนเซ่ โถ่เอ้ย” อานโซฮีกำหมัดทำท่าจะต่อยคนร่างสูงที่วิ่งเผ่นไปนู่นนแล้ว
“กลับมาล่ะน่าดู” แหนะยังไม่วายบ่นต่อได้อีก
....................................................................
ตึง ตึง ตึง....เสียงลูกกลมๆ สีส้มๆ เด้งไปมากระทบกับพื้นในโรงยิม
สวบบบ...ตามมาด้วยเสียงของลูกบาส เวลาที่ผ่านตะข่าย
ในที่แห่งนี้มีหญิงสาวมากหน้าหลายตามารวมตัวกัน ไม่ได้จะมาเล่นกันหรอกนะ มาดูซะมากกว่า
ก็แหมนานๆ ทีจะมีการมารวมตัวครบสูตรตระกูลหล่อ สามกษัตริย์ขนาดนี้ คนนึงก็หล่อเหลา มาดขรึม แต่เวลายิ้มแล้วโลกทั้งใบดูจะสดใสซะจริง อีกคนก็หล่อเท่ เข้มบาดตาบาดใจมาแต่ไกล ฮิพฮอพยังเรียกพี่ คนสุดท้ายก็หล่อ ดูโรแมนติค กระชากใจสาวๆ ด้วยรอยยิ้มมุมปากขนาดนั้น ใครจะไม่มองก็เกินไปหน่อยล่ะมั้ง
“เห้ยๆ เหนื่อยแล้วว่ะ ชั้นพักก่อนนะ” เจ้าของรอยยิ้มมุมปากอันแสนจะน่ารักขอตัวไปนั่งอยู่มุมสแตนเชียร์
“อ่ะ นี่ค่ะ เห็นว่าเหนื่อย” มือเล็กๆ ของคนๆ หนึ่งยื่นขวดน้ำที่ดูจะเย็นสดชื่นที่สุดในโลกมาให้
“ซอนมีอา~ นั่งนี่ๆ น้า” มือใหญ่ๆ ตบที่นั่งข้างๆ ของตัวเองให้ซอนมี สาวหน้าสวยรูปร่างผอมเพรียวนั่งลง
“พี่ซอนเยกับพี่ยูบินนี่เท่จังเลยนะคะ ดูสิคนกรี๊ดเยอะเชียว” ซอนมีที่สายตาจับจ้องอยู่ที่คนสองคนที่วิ่งวุ่นอยู่ในสนามการแข่งขัน เมื่อเวลาที่ซอนเยหรือว่ายูบินชู๊ตลงเสียงที่ตามมาคงจะเป็นเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ข้างสนามซะมากกว่า
“แล้วพี่ล่ะ ไม่เห็นชมพี่เลยล่ะ” เยอึนพูดเสียงอ่อยๆ ขึ้นมาบ้างแล้วสิ
“เอ...แบบนี้เค้าเรียกว่า หึง เอ๊ะ หรือว่างอนกันแน่คะ พี่ปาร์คเยอึนสุดหล่อของซอนมี” ร่างบางไม่วายเอามือไปบิดแก้มของคนข้างๆ อย่างหมั่นไส้
“อย่ามาทำตัวงี้นะ เดี๋ยวพี่ก็อดใจไม่ไหวหรอก” ร่างสูงพยายามหลีกตัวออกห่างมา แต่ร่างเล็กก็เขยิบตามมาอีก
“ก็ไม่ต้องอดไงคะ ดีมั้ย” ซอนมีฉีกยิ้มกว้างคนให้หน้าหล่อ โอ้ยย ชั้นอยากจะละลาย
“ซอนมีอา~ เอาจริงจังนะ”
“ก็ซอนมีจริงจังนี่คะ” ซอนมีทำหน้าทำตาใสซื่อพลางเอียงคอ น่านไม่รู้ซะแล้วภัยกำลังจะมา
ปาร์คเยอึนเตรียมตัวจะโน้มเข้ามาหาซอนมีที่นั่งทำหน้าใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่วาย...(แกวายเต็มๆ)
“ทำอะไรกันคะ ทั้งสองคน” มินซอนเยเหงื่อซก วิ่งมาทางด้านที่สองคนนี้นั่งอยู่ ก่อนจะหยิบขวดน้ำที่ซอนมีนำมาให้ปาร์คเยอึน กระดกเอื้อกๆ จนหมดเกลี้ยง
“อ้าวเห้ย แกมากินของที่น้องซอนมีชั้นให้ได้ไงวะ ไอ้มิ๊นนน!!!”
“ก็ไม่บอกนี่ ชั้นจะไปรู้หรอไงเล่า” มินซอนเยทำหน้าเหลอหลา
“มันน่านักนะ เดี๋ยวพ่อก็ซัดซะให้หรอก” เยอึนทำท่าจะเข้าไปฟัดกับคนหน้าหล่ออีกคนเข้าแล้วแต่ซอนมีผู้เป็นนางฟ้าใจดีรั้งเอาไว้
“ซอนมีคะ ช่วยเค้าด้วย” มินซอนเยพาร่างตัวเองไปหลบอยู่หลังคนตัวเล็กๆ ผอมเพรียวของซอนมี ทั้งๆ ที่หน้าตาตัวเองนี่ดูจะแมนเอาเรื่อง กวนๆ ชาวบ้านเค้าแทบตายแต่กลับ...นะตรงกันข้ามสิ้นดี
“อะไรวะ นี่แกหลบใต้กระโปรงผู้หญิงหรอ ตุ๊ดป่าววะเห้ย”
“ชั้นหลบหลังนะ ไม่ใช่ใต้กระโปรงซักหน่อย” หน้าเรียวคมชะโงกออกมาพูดแล้วก้อผลุบไปหลบด้านหลังอีกรอบ
“หนอยยย..แน่จริงออกมาดิวะ” ไม่ทันที่จะได้เคลียร์กันเสร็จ ลูกบาสมาจากใครไม่รู้กระเด็นมาทางแถบที่พวกสามคนกำลังปะทะกันอยู่ มินซอนเยเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหยิบขึ้นมา พอเงยหน้าก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอีกคนวิ่งเข้ามาหาตน ก่อนจะดึงลูกบาสไปจากมือแล้วส่งยิ้มให้
“ขอบใจว่ะ” ยูบินวิ่งออกไปแล้ว แต่ไอ้คนที่พึ่งส่งบอลให้นี่สิ กำลังอยู่ในภวังค์
“นี่ชั้นเป็นอะไรเนี่ย เค้าเท่จังเลย” เสียงดังกังวานอยู่ในหัวของมินซอนเยที่ตอนนี้กำลังเป็นบ้าเพราะในหัวสมองและหัวใจตีกันจนแทบคลั่ง
โป้กกกกกกก เสียงขวดใสๆ ลอยมากระทบหัวคนที่กำลังจมอยู่ในความคิดตัวเอง
“กินเสร็จก็เอาไปทิ้งด้วยเว้ย เข้าไจ๊” ปาร์คเยอึนตะโกนเสียงห้าว คิดว่าแน่ซะเหลือเกิน
“นี่แน่ เก่งนักใช่มั้ยเนี่ย ไปขว้างหัวคนอื่นได้ยังไงกันคะ ใครสั่งใครสอน” ซอนมีดึงที่ใบหูคนตัวสูงให้ตามมานั่งลงที่เดิมซะ ก่อนที่จะซ่าไปมากกว่านี้
“โอ้ยยย ซอนมีจัง เบาเบ๊า” เสียงโหยหวนของคนโดนประทุษร้ายดังอิดออดตาม (เก่งอยู่แต่กับคนอื่นแหละนะ ทีงี้ล่ะหงอเชียว)
“อยากเป็นซอนมีมั่งจัง น่าอิจฉา เยอึนนี่ก็ไหล่กว้าง น่าซบ >//< อุ้ย นี่เราคิดอะไรเนี่ย ชั้นเป็นอะไร สับสนค่า” คนที่คิดในใจในตอนนี้หน้าแดง ใจเต้น เหนื่อยก็เหนื่อย มาอยู่กับไอ้เพื่อนหล่อๆ สองคนนี้อีก อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด กลับไปหาโซฮีของเราจะดีกว่ามั้ง
------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น