คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
“เดี๋ยวก่อนสิ นี่ ทำกันขนาดนี้เลยหรอ” ณวัติวิ่งตามมาคว้าแขนมีนา ที่กำลังไขกุญแจรถอยู่อย่างเอาเรื่อง
มีนามองไปที่ข้อมือของตนเอง ก่อนจะหันขวับมามองหน้าของชายหนุ่มทันที
”นายมีสิทธิ์อะไรมาจับข้อมือชั้นฮะ!!!” มีนากัดฟันถามอย่างโกรธเกรี้ยว พลางมองหน้าชายหนุ่มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
”แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาป่าวประกาศต่อหน้าสาธารณชนแบบนั้น ทำอย่างนี้ผมเสียหายหมดนะ ผมแค่อยากคุยกับฝน ผิดตรงไหนมิทราบ??....ครับ”
พอฟังคำถามจบ หญิงสาวหยุดชะงักการกระทำของหล่อนทันที พร้อมกับสะบัดมือจนออกจนมือหลุดออกจากการเกาะกุมทันที พร้อมๆกับหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มทันที
”ผิดตรงที่นาย!!!” มีนาใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่ไหล่ของณวัติเต็มแรง ”มายุ่งกับฝน ทั้งๆที่ฝน เค้าไม่อยากยุ่งกับนายด้วยเลยยังไงเล่า!!!”
”เท่าที่ผมจำได้นะ ผมว่าผมยังไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่าไม่อยากยุ่งกับผม หรือว่า ไม่อยากอยู่ใกล้ผมซักครั้งเลย มีแต่คุณนั่นแหละที่พูดอยู่คนเดียว” ...ให้ตายเหอะ !! นี่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนไร้เหตุผลเท่าผู้หญิงตรงหน้านี้มาก่อนเลย...
”นี่นาย... ” หนอย ตานี่หาว่าฉันยุ่งไม่เข้าเรื่องเรอะ!!
“ทำไมคร๊าบ พูดไม่ออกเลยเหรอ ใจเยนๆ ไม่ต้องทำหน้าจะกินเลือดผมขนาดนั้น เดี๋ยวผมต้องไปฉีดยาอีก ยุ่งยากซะเปล่าๆ” ไม่อยากจะว่าผู้หญิงหรอก แต่มัน...อดไม่ได้จริงๆ ปากร้าย แถมยังประกาศตัวเป็นศัตรูกับเขาซะโจ่งแจ้งขนาดนี้...
“นาย... นายนี่มัน..” มีนากัดฟันอย่างแค้น ก่อนที่สมองจะนึกสั่งการ ‘อะไรดีๆ’ ทำให้ใบหน้าชวนมองนั้น มีแววตาระริกอย่างผิดปกติ
”ถามจริงเหอะ นี่นายไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่” หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วถาม ด้วยไปหน้าที่แฝงความมีเลศนัยไว้อย่างรุนแรง
“อะไร ผมไม่รู้หรือว่ารู้อะไร” ณวัติถึงกับเป็นงง ...ก็อยู่ๆก็วกมาถามเฉ๊ย ว่รู้หรือไม่รู้ อะไรหล่ะที่เขารู้หรือว่าไม่รู้ แล้วมีอะไรที่เธอรู้แล้วเขาไม่รู้ แล้วเขารู้อะไร...โอ้ยย งงไปหมดแล้วว...
”’งั้นฉันจะบอกอะไรให้นะ!!!” มีนาผลักอกเขาเตมแรง จนเขาเซไปเล็กน้อย
เอาวะ!! เพื่อความรักที่กำลังเจริญงอกงามของพี่ซี กับยายฝน...
”ชั้นกับฝน มีอะไรๆมากกว่าที่นายคิด รู้ไว้ซะด้วย!!!” มีนาตัดสินใจพูดอะไรที่ไม่น่าพูดออกไป ที่อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ ทำเอาคนฟังถึงกับตะลึงอึ้ง...ไม่นะ!!!
”เป็นไงล่ะ อึ้งไปเลยหรอ” หญิงสาวพูดพร้อมมองชายหนุ่มด้วยสายตาเยาะเย้ย
”เพราะงั้น ถ้ารู้แล้วฉันก้ขอตัว” มีนาทำท่าจะเปิดประตูรถ แต่แลวก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง หันกลับมาหาณวัติที่ยังคงอึ้งอยู่ไม่หาย
”ที่จริงฉันก้ไม่อยากบอกนายหรอกนะ แต่ว่า ช่วยไม่ได้” มีนายักไหล่ก่อนจะพูดต่อ ”นายอยากยุ่ง ตามตื้ออยู่นั่นแหละ เอาหล่ะ ชั้นไปก่อนล่ะนะ”
หญิงสาวเปิดประตูรถ ก้าวขึ้นไปนั่ง ปิดประตูพร้อมกับหันมามองหน้าชายหนุ่มอีกครั้งหนึ่งอย่างมีแววจะเยาะเย้ย แกมสมน้ำหน้า ...อยากมายุ่งกับฝนดีนัก...
”หวังว่าต่อไปนี้เราคงไม่มาพบกันอีกนะ!!!” มีนาลดกระจกลงแล้วตะโกนบอกชายหนุ่ม หลังจากที่เลื่อนรถออกมาได้นิดหนึ่ง
เช้าวันใหม่ ก๊า ก๊า ก๊า...
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะเล็กวางโคมไฟ ดังขึ้น ส่งผลให้คนที่นอนอุตุเอาหมอนมาปิดหูแทบไม่ทัน ดูท่าว่านี่จะเป็นเกมวัดใจระหว่างคนต้นสาย กับคนปลายสายซะกระมัง
...โว้ยย โทรมาทำไมแต่เช้า (เช้าที่ไหนล่ะยะ มันเที่ยงแล้วย่ะหล่อน!!) คนจะนอนๆๆๆ เงียบๆไปเลย ไอ้มือถือบ้า มันน่าปิดเครื่องซะให้รู้แล้วรู้รอด โอ้ยย ยังอีก ยังดังอยู่อีก ไม่เลิกจริงๆ วันนี้ยิ่งไม่มีเรียนอยู่ด้วย
”ฮาโหลวว” สุดท้ายคนต้นสายก็เป็นฝ่ายชนะ
”ใครอ้าาา โทรมาปลุกเค้าแต่ช้าววเลยย” หากแต่เสียงที่ตอบกลับมานั้นร้อนรนจนทำเอาคนที่รับสายตาสว่างเกือบจะทันใด
”มีนๆๆๆ ช่วยฝนด้วย!!” มีนาแทบจะลืมคำพูดที่พูดออกไปอย่างรัวเร็ว เสียงที่ตอบดังกลับมาทำให้ดวงตาของเจาหล่อนวิบวับขึ้นอย่างโกรธแค้น ...หนอย ขนาดนี้ยังตามมารังควานอีกรึ!!!..
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะบิดขี้เกียจ สมองพลางทบทวนสิ่งที่ได้รับฟังมาตามสายสักครู่นี้ ทบทวนสถานที่ ก่อนที่ร่างกายจะหลายเป็นกระฉับกระเฉงอย่างไม่น่าเชื่อ วิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปจักการธุระส่วนตัวของตนจนสำเร็จเรียบร้อย
นิ้วเรียวจัดการปลดเสื้อแขนกุดเกือบเป็นเสื้อกล้ามแต่ยาวกว่าและไม่รัดรูปสีชมพูออกจากราวอย่างรีบๆ พร้อมกับที่หวีผมยาวสลวยไปด้วยพร้อมๆกัน ก่อนจะคว้ากระโปรงสั้นผ้ายีนส์ตัวเก่งของหล่อน ที่ใส่จนเก่า จนเกือบขาว จนซีดแล้ว แต่เพราะความสบายของมัน ทำให้หล่อนไม่ยอมทิ้งไปซะที แล้วรวบผมเป็นหางม้ากลางศีรษะ ฉีดน้ำหอมพอประมาณ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายเผ่นออกจากห้องอย่างรีบเร่ง
....เวรกรรม รองเท้าในรถดันมีแต่รองเท้าแตะอีก เอาวะ ใส่ไปเหอะ ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนก็ไม่ทันแล้ว ก็โทรศัพท์ที่เร่งตามยิกๆอยู่นี่น่ะมันจับหล่อนให้ลุกขึ้นมาในวันดีๆแบบนี้...
....หนอยเพราะอีตานั่นคนเดียว ดันโผล่ไปเดินห้างที่เดียวกับฝนอีก พอเจอกันก้โป๊ะเชะพอดี โอ้ยย อะไรมันจะพอดิบพอดี แถมบังอินแสนบังเอิญ ป๊ะเหมาะพอดีกับที่นายนั่นมาคนเดียว แถมฝนก็มาคนเดียว ตานั่นเลยฉวยโอกาสเกาะฝนไม่เลิก ต้องให้ฉันไปจัดการอีก!!! คอยดูนะ เจอหน้าจะฉะให้เละเลย....
รถคันสวยถอยเข้าที่จอดรถอย่างเหมาะเหม็ง ห้างเพิ่งเปิดแบบนี้ คนยังไม่ค่อยมาเดินกัน แต่ถึงยังไง ย่านนี้ก้เป็นย่านที่คนพลุกพล่านตลอดเวลา ที่จอดรถจึงมีให้เห็นบ้างเพียงประปราย มีนาตัดสินใจเลือกจอดในซองที่ใกล้ทางเข้าห้างที่สุด เท่าที่เธอมองเห็นนตอนนี้
เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของมีนาแผดเสียงร้องอย่างเมามัน ไม่ยอมหยุด จนมีนาต้องหยุดควานหาโทรศัพท์บนบันไดเลื่อน
“ฮัล...โล๋ๆ ฝน มีน....อยู่ชั้น 2 ....แล้ว เดี๋ยว....จะ....ขึ้นไป ....ไม่เกิน 5..... นาที.....จ้ะ รับรอง....ได้ๆ”
หญิงสาวพูดโทรศัพท์มือถือพร้อมกับวิ่งไปด้วย ทำให้เสียงขาดๆหายๆบ้างเป็นระยะๆ ผลพวงมาจากอาการเหนื่อยหอบ
ใครเห็นคงงงพิลึก หญิงสาวแต่งตัวค่อนข้างดี วิ่งอย่างไม่รักษามาดในห้างสรรพสินค้าแบบนี้ มีเรื่องอะไรให้รีบกันนักหนา!!
....โอ้ยย เหนื่อยๆๆๆๆ เพราะอีตาบ้านั่นคนเดียว ฝนก็โทรตามยิกๆ ไม่วิ่งก้ไม่ได้ เพื่อสวัสดิภาพของเพื่อนที่ไม่รู้จะถูกงาบไปเมื่อไหร่ ป่านนี้นายนั่นจะแทะโลมฝนถึงไหนแล้วก้ไ ม่รู้ พี่ซี่กลับมาเมื่อไหร่จะต้องบังคับให้เลี้ยงหล่อนไปซัก 4 เดือน โอ้ยเหนื่อยย ฝนจ๋า รอแป๊ปนะ เดี๋ยวมีนไปฉะไอ้นั่นให้...
หญิงสาวมาหยุดหอบบนบันไดเลื่อนที่กำลังเลื่อนขึ้น ...โอ้ยย อีก 2 ชั้น ไม่วิ่งแล้วนะ!!!!! ...
ความคิดเห็น