คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Mamorial Dust ความทรงจำในวันวาน
...บางครั้งการที่รับรู้บางสิ่งบางอย่าง อาจจะทำให้เราเจ็บปวดกว่าเดิมก็ได้นะ...
ลืมตาขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับวันใหม่
แสงตะวันยามเช้าสาดส่องลอดผ่านมากระทบกับสิ่งต่างๆภายในห้อง ทำให้ทุกอย่างสว่างจ้า
เด็กสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
เธอหลับตาลงอีกครั้ง
ระหว่างหลับตา เด็กสาวรู้สึกถึงบางอย่างที่มันช่างเจ็บปวด แต่เธอกลับนึกสิ่งนั้นไม่ออก
เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ
"สู้ๆ!"
เด็กสาวกล่าวกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับเดินออกจากห้องไป
ทำไม...?
ทำไมความทรงจำในวันนั้น...ฉันถึงนึกอะไรเกี่ยวกับวันนั้นไม่ออกเลยละ...
เหมือนกับมีอะไรคอยบังไว้อย่างงั้น...
แต่...
ความทรงจำของฉันนะ ฉันนี่แหละจะตามมันกลับมาเอง!
ท้องฟ้าสีคราม
โดยเฉพาะวันนี้ ยิ่งแจ่มใสเป็นพิเศษ
เหล่าพฤกษาต่างชูช่อเริงร่าและไหวเอนไปตามกระแสลมที่พัดเอื่อยๆ
ทาคาราโนะ ฮิคาริ เดินออกจากประตูบ้าน จากนั้นเธอแหงนหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้าสีครามเบื้องบน
สายลมเอื่อยๆกระทบกับใบหน้าได้รูปของเธอ ผมสีน้ำตาลอ่อนต่างไหวพร้อมกับสายลม
"...จะทำยังไงดีนะ...ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนเลย..." ฮิคาริพูดกับตัวเองแล้วก้าวเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย
ขณะนี้เข้าสู่เดือนเมษายนแล้ว อากาศจึงอบอุ่นขึ้น
บรรยากาศอุ่นสบายตัว ต้อนรับกับวันแรกของการปิดภาคเรียน เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเก้าโมงตรง
ฮิคาริสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกระโปรงยาวสีเดียวกับเสื้อ
ตอนนี้เธอเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง
ภาพลางๆ ได้แล่นผ่านเข้ามายังสมองของเธอ ภาพในวันนั้น...
วันนั้นมีฝนตกโปรยปราย
ฝนเทลงมาทั้งวันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าต่างมืดครึ้มไปทั่วทุกบริเวณ
ยูนิฟอร์มของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งเปียกปอนไปด้วยหยาดฝน...
เสียงของผู้คนดังอื้ออึงทั่วบริเวณ...
ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูฝน ก่อนจะปิดภาคเรียนแรก
หนึ่งวันก่อนหยุดยาว
พักกลางวันหลังจากที่เธอเดินกลับเข้ามายังห้อง ม.4/D ซึ่งเป็นห้องเรียนของเธอเอง
"นี่ ฮิคาริ!"
ฮิคาริสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมองดูเจ้าของเสียงที่เรียกเธอ
พอหันกลับไป ฮิคาริก็เห็นคนที่เธอรักมากยืนอยู่
"มีอะไรหรอ ยามาโตะคุง?"
ฮิคาริเอ่ยปากถามเขา
ผมสีน้ำตาลเข้มรองทรง
ชุดนักเรียนที่เรียบร้อยไม่ฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน ให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้าน
เขาคือ'มัทสึดะ ยามาโตะ'เด็กหนุ่มเรียนดี ห้องD ของฮิคาริ
ยามาโตะชอบมาหยอกล้อฮิคาริเล่นประจำ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาทั้งสองกลับรักกันดี
"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ตอนปิดเทอม...ฉันอยากอยู่กับฮิคารินะ "
"อะ...อืม...ฉันก็อยากอยู่กับยามาโตะจ๊ะ "
อยากอยู่ด้วยกันตลอดไปเลย...
รุ่งขึ้นเช้าของการหยุดยาว
ตอนฟ้าเริ่มกลายเป็นสีฟ้าคราม และแสงอาทิตย์ได้ถักทอเป็นสีแดงจาง
ฮิคาริใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการเดินทางออกจากบ้าน ก่อนจะหยุดที่หน้าบ้านใครคนหนึ่ง เหมือนในตอนนี้...
ฮิคาริยืนตรงพร้อมกับมองดูสิ่งต่าง ๆ รอบบ้านหลังนั้น
"บ้านของยามาโตะคุงนิ..."
"อ่ะ...ฮิคาริมาเที่ยวบ้านฉันหรอ เข้ามาก่อนสิ"
จู่ ๆ ยามาโตะก็เปิดประตูบ้านออกมาก่อนที่จะเอ่ยปากชวนเธอเข้าไปข้างใน
ในห้องที่มีสีขาว ทั้งผนังและเพดานต่างถูกทาทับด้วยสีขาวโพลน
เตียง ผ้าปูและผ้าห่มล้วนเป็นสีเดียวกัน
เด็กสาวนั่งอยู่กับพื้นที่ข้างเตียง
"นี่ห้องฉันเอง รกไปหน่อย แหะ ๆ "
"ไม่หรอก"
เธอตอบกลับอย่างทันควัน
ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน
...จะคุยเรื่องอะไรดีนะ
...นึกไม่ออกเลย ทำไงดี!
...นี่เป็นครั้งแรกเลย
...ที่เราได้เข้ามาในห้องของยามาโตะคุง
...ดีใจจัง...
...กริ๊ง...กริ๊ง...♪
แว่วเสียงดังอยู่ใกล้ ๆ
เสียงกระพรวน ดังใสอยู่ภายในห้อง
"สิ่งบางที่ไม่สมควรจะรู้ แต่สุดท้ายก็ย่อมรู้ ไม่มีใครที่จะหลีกหนีไปได้ตลอดหรอก"
เสียงพูดกังวานอยู่ภายในห้อง
ปรากฏร่างของเด็กสาว เธอนั่งอยู่บนเตียง
ผมสีดำมัดรวบด้วยริบบิ้นสีเงินและชุดกระโปรงสีดำ ตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวอย่างสิ้นเชิง
เด็กสาวนั่งมองฮิคาริและยามาโตะอยู่บนเตียงอย่างเงียบ ๆ
และสิ่งที่เธอสันนิฐานนั้น ถูกต้อง
ยามาโตะและฮิคาริเหลียวมองเจ้าของเสียงที่ไม่ได้รับเชิญอย่างแปลกใจ
"เธอ..."
ก่อนเขาจะทันเอ่ยถาม เด็กสาวสีดำก็ชิงตัดหน้า
"ตอนนี้ เวลาของพวกเธอเหลือน้อยลง เธอไม่อาจหลีกหนีความจริงได้หรอกนะฮิคาริ..." เด็กสาวหยุดชะงักก่อนจะพูดต่อ
"ความทรงจำของเธอน่ะ เธอหลีกหนีมันเองมากกว่า เธอยังจำมันได้ดี"
ฮิคาริสบตากับเด็กสาวก่อนจะเอ่ยปากถาม
"เธอ...เป็นใครกันแน่?!"
"ลัทซ์ เป็นเอ็กโซซิสต์"
สาวน้อยในชุดกระโปรงสีดำตอบกลับมาด้วยสีหน้านิ่ง
"เอ็กโซซิสต์..." ประโยคแรกถูกเอ่ยออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม ที่นั่งอึ้งอยู่ข้างตัวของฮิคาริ
ทันทีที่เขาจะเอ่ยต่อ แสงสว่างจ้าก็เกิดขึ้นตรงหน้า จนเขาต้องหรี่ตาลงในทันที และแน่นอนฮิคาริเองก็เช่นกัน
เมื่อแสงสว่างนั้นดับวูบลง พวกเขาก็สังเกตเห็นว่า...
ร่างของสายน้อยในชุดกระโปรงสีดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงเสียงที่กังวานอยู่ทั่วทุกมุมห้อง
"ก่อนเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ ขอให้มันมีค่ากับพวกเธอมากที่สุด"
กริ๊ง...กริ๊ง...♪
แสงอาทิตย์ยามเช้ายังคงสดใสเหมือนเช่นทุกวัน
บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยแสงแดดอุ่นกระจัดกระจายไปทั่วทุกบริเวณ
ฮิคาริยืนอยู่เงียบๆ บริเวณหน้าบ้าน
เธอกำลังรอใครบางคน...
"ฮิคาริ!รอนานไหม?"
เจ้าของเสียงพูดอย่างรีบเร่ง โดยที่ไม่เอ่ยปาก'อรุณสวัสดิ์'แต่อย่างใด
'ยามาโตะ'เขาวิ่งมาด้วยท่าทางรีบเร่ง ก่อนจะยืนหอบอยู่ตรงหน้าคู่รักของเขาเอง
"ฉันรอไม่นานหรอก แต่...ยามาโตะไม่เห็นต้องวิ่งมาเลยนี่นา ค่อยๆเดินมาก็ได้"
ฮิคาริบอกกับเขาด้วยความเป็นห่วง
เธอยิ้มให้เขาแบบจางๆ แต่ในใจแล้วเธอคงอยากจะร้องไห้ซะมากกว่า
เพราะวันนี้...เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่กับเขาแล้วนี่
"ป่ะ เราไปเที่ยวสวนสนุกกันดีกว่า ฉันเห็นฮิคาริบอกว่าอยากไปด้วยนี่นา"
วันนี้พวกเขาทั้งสองคนตกลงกันว่าจะมาเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน
ยามาโตะเป็นคนเอ่ยปากชวนเธอตอนที่เธอขอตัวกลับบ้าน
สวนสนุกที่คู่เดทมักจะมากันบ่อยๆ
วันนี้ทั้งสองคนมาตั้งแต่เช้า ประมาณแปดโมง กว่าจะมาถึงสวนสนุกก็ราวๆเก้าโมง ทำให้ยังไม่มีคนมาเยอะมากนัก
"ตั๋วสองใบครับ"
เด็กหนุ่มเดินตรงไปซื้อตั๋วที่บริเวณหน้าประตู ก่อนจะเข้าไปยังสวนสนุกภายด้านใน
ทั้งคู่จับมือกันแน่น
"เราไปเข้าบ้านผีสิงกันเถอะ"
ฮิคารชวนยามาโตะ เข้าไปในคฤหาสน์ผีสิง หรือที่เรียกกันว่าบ้านผีสิง
ถึงเธอจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็เถอะ... แต่เธออยากจะลองเข้าดูสักครั้งในชีวิต...
...กาลเวลามันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริง...
ไม่ว่าจะช่วงเวลสุขหรือทุกข์ กาลเวลานั้นก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น จะสั้นหรือเร็วอยู่ที่...เราจะเห็นคุณค่าอันน้อยนิดของมันรึเปล่าละ...
ทั้งคู่เดินออกมาจากคฤหาสน์ผีสิงได้ แต่ก็ใช้เวลาไปมากพอสมควร
"ตัวเองกลัวก็ยังจะเข้าอีกนะ ยัยบ๊อง!"
ยามาโตะเขกหัวเธอเบาๆ ก่อนจะยกนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้ายขึ้นมาดู
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเที่ยงครึ่ง พวกเขามีเวลาเหลือแค่ประมาณ 11 ชั่วโมง
"ก็...อยากเข้านี่นา ฉันอยากลองเข้าดูสักครั้งในชีวิตนะ ยิ่งเข้ากับยามาโตะด้วยแล้ว ถึงจะมีสิ่งหน้ากลัวแค่ไหน ฉันก็ไม่กลัวหรอก"
ฮิคาริยิ้มให้เขา
"พักทานข้าวกันก่อนไหม?"
เด็กหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
"อื้ม" เธอพยักหน้าตอบรับ
กริ๊ง...กริ๊ง...♪
เสียงกระพรวนแว่วดังอย่างไม่ขาดสาย กระพรวนนั้นกวัดแกว่งไปมาอย่างช้าๆ
สาวน้อยสีดำนั่งมองดูคู่รักนั้นอย่างเงียบงัน บนต้นไม้ต้นใหญ่บริเวณนั้น
เธอนั่งมองดูพวกเขาตลอดโดยที่ไม่ปริปากพูดสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว
...ขอเวลลาหน่อยนะ ขอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดี ช่วงเวลที่มีความสุขนี้...ขอเถอะนะ...
ไม่มีแล้วละ...เวลานะ...
ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากสีครามกลายเป็นสีทองและถูกปกคลุมลงด้วยสีดำอย่างช้าๆ
ดวงดาวทองแสงเกลื่อนฟากฟ้า แต่ไร้ซึ่งเเสงจากดวงจันทร์
"นี่ๆ นามาโตะคุง นั่น..."
เด็กสาวยิ้มพร้อมกับชี้ไปยังเครื่องเล่นวงกลมใหญ่ ที่มีกระเช้าหลายอันหมุนวนกันเป็นวงกลมอย่างช้าๆ
"ชิงช้า...???" เด็กหนุ่มทำหน้างง
"เราไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กัน"
"ฮะ...เฮ้ย!"
เด็กหนุ่มไม่ทันที่จะทักท้วง เขาก็ถูกฮิคาริลากไปยังกระเช้าชิงช้าจนได้
เขาไม่ได้บอกกับเธอ ว่า...เขากลัวความสูง
เวลาสี่ทุ่ม เข็มนาฬิกาแสดงเวลาอย่างนั้น เมื่อเขายกนาฬิกาขึ้นมาดูอีกครั้ง
เหลือเวลา 2 ชั่วโมง...
กระเช้าชิงช้าเริ่มลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทิวทัศน์ภายนอกนั้นสวยงาม
บริเวณต่างๆ ต่างก็ถูกปกคลุมด้วยสีดำ
มีแสงไฟตามจุดต่างๆ อย่างปะปราย
แสงจากหลอดไฟระยิบทั่วเมือง ราวกับดวงดาวนับล้านบนฟากฟ้า ดูแล้วช่างสวยงามราวกับอยู่บนจักรวาลเสียจริง
"ฉันคิดว่า...ถ้าเราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป...มันจะดีมากเลย"
ฮิคาริพูด พร้อมกับกุมมือยามาโตะไว้แน่น
"อยากหัวเราะด้วยกัน...อยากอยู่ด้วยกันอีก...จนวินาทีสุดท้าย..."
"ไม่!!!"
ยามาโตะพูดตัดบทเธอจนเสียดัง
"เราต้องได้อยู่ด้วยกันตลอดไปสิ!"
เด็กสาวส่ายหน้า
"เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงสองชั่วโมง..."
เธอไม่พูดต่อแต่หยุดไว้แค่นั้น
ยามาโตะใช้มืออุ่นๆ ค่อยๆ เอื้อมไปกอดเธอเอาไว้
"ขออยู่อย่างนี้ซักพักจะนะ"
"จ๊ะ..."
เหลือเวลา 15 นาที
ทั้งคู่ลงมาจากกระเช้าแล้ว
ทั้งสองเงียบ ปล่อยให้เวลาผ่านล่วงเลยไปทีละนิดๆ
จนกระทั่ง...
"คิดจะเงียบแบบนี้อีกนานไหม? ถ้าไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว ฉันก็ต้องขอตัวฮิคาริไปแล้วหล่ะ"
เสียงกังวานคุ้นหู ดังขึ้นข้างหลังของพวกเขาทั้งสอง
กริ๊ง...กริ๊ง...♪
เสียงกระพรวนยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด ทั้งที่'ลัทซ์'เองก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน
...เสียงกระพรวนนั่น!
...มันจะพรากเราให้แยกจากกัน!
...ฉันไม่ยอมให้ใครพาฮิคาริไปจากฉันทั้งนั้น!
"ฮิคารวิ่งเร็ว!"
"อ่ะ?!"
ยามาโตะดึงข้อมือของฮิคาริ พร้อมกับบอกให้เธอวิ่ง
"...อีกสิบนาทีสินะ ก็ยังพอมีเวลา"
ลัทซ์เดินตามเขาทั้งสองไปอย่างไม่รีบร้อนนัก
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ"
เสียงหอบของสองร่างดังมาแต่ไกล
ยามาโตะพาฮิคาริวิ่งออกจากเขตสวนสนุกมาซะไกล
พวกเขาเดินมาจนถึงถนน เป็นถนนเล็กๆ ที่มีไฟติดไว้เป็นดวงๆ
"อย่าหยุด ฮิคาริวิ่งเร็วเข้า!"
เด็กสาวรั้งตัวเองไว้ ก่อนจะค่อยๆ แกะมือชายผู้เป็นที่รักออก
"ขอโทษนะ ยามาโตะคุง ฉันคงจะไปกับเธอไม่ได้หรอก"
"?!!" ยามาโตะไม่เข้าใจที่เธอพูดแม้แต่น้อย
"เพราะ ยามาโตะคุงได้แต่วิ่งหนี มันจึงทำให้ยามาโตะคุงต้องย้อนกลับมาที่เดิม"
"หมายความว่า..."
เขาพูดไม่ทันจบ เด็กสาวพูดต่อทันที
"ใช่ ที่นี่คือถนนสายนั้น ถนนสายที่ฉันโดน'รถชน'ยังไงละ..."
♪
"พรุ่งนี้ปิดเทอมแล้ว เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี?"
"ไม่รู้สิ แต่ฉันอยากไปเที่ยวสวนสนุกนะ"
เด็กสาวพูดพรางใช้มือหยิบหนังสือเรียนใส่ลงในกระเป๋าหนังสีดำ
"เอางั้นก็ได้ ป่ะกลับบ้านกันเถอะ"
ยามาโตะเอ่ยปากชวนฮิคาริกลับบ้าน
"วันนี้ฝนตกทั้งวันรู้สึกไม่ดีเลยแหะ" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับใช้มือกางร่มออก
"อืม...นั่นสินะ"
วันนี้เป็นวันก่อนปิดภาคเรียนแรก
ทั้งวันมีฝนตกโปรบปราย และท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มอยู่ทั้งวัน
ยามาโตะและฮิคาริเดินออกมาจากโรงเรียนด้วยกัน
ทั้งสองอยู่ในร่มเดียวกัน
บริเวณนั้นเป็นถนนเล็กๆ ที่คดเคี้ยว แต่ก็กว้างพอที่จะรองรับรถบรรทุกสินค้าที่นานๆ ทีจะมีผ่านมาสักคัน
ทั่วทั้งถนนเปียกชื้นไปด้วยฝน
"อ๊ะ!จริงสิ...ฉันลืมลูกฟุตบอลไว้ที่โรงเรียน ฉันขอตัวกลับไปเอาก่อนนะ"
"จ๊ะ ฉันจะรอนะ"
นี่...เป็นประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเธอ
เด็กหนุ่มวิ่งฝ่าสายฝนแล้วมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน เขาไม่เหลียวหลังกลับมาแม้แต่น้อย
และนั่นเองละมั้ง ที่ทำให้เขาต้องหันหลังให้กับความเป็นจริง...
พอร่างของเด็กหนุ่มลับตาไป ฮิคาริจึงเหลียวกลับไปทางด้านหลัง เมื่อเธอได้ยินเสียงบางอย่าง...เสียงคล้ายๆกับรถแล่น
สิ่งปรากฎเบื้องหน้าเธอคือรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ วิ่งปรี่ออกมาจากทางโค้งข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนมาถึงจุดที่เธอยืนอยู่
"เอ๊ะ!นั่นเขามุงอะไรกันนะ...?"
เด็กหนุ่มที่เพิ่งอุ้มลูกฟุตบอลเดินผ่านฝูงชนจำนวนมาก พร้อมกับใช้สายตามองหาคู่รักของเขาทันที
เสียงพูดคุยกันหนาหูเรื่องเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกรถบรรทุกสินค้าชนแล้วหนี
เขาแหวกขบวนผู้คนมากมายเข้าไปดูใกล้ๆ แต่แล้วก็มีเชือกกั้นไว้ เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินงานได้สะดวก
ร่างของเด็กสาวคนหนึ่งนอนอยู่กับพื้น มีผ้าสีขาวคลุมตลอดทั้งตัว น้ำสีแดงไหลย้อมพื้นบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีแดงฉาน
กระเป๋าหนังสีดำตกอยู่บนพื้นเปรอะไปด้วยโคลน
ร่มสีฟ้าอ่อนหักงอซะจนใช้การไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าเด็กสาวผู้โชคร้ายคนนั้นคือใคร แต่ขออย่าให้เป็นไปตามที่เขาคิดเลย
กระทั่ง...เขาสังเกตเห็นป้ายที่เเขวนติดกับร่ม มีชื่อเขียนว่า'ทาคาโนะ ฮิคาริ' ถ้าจำไม่ผิดอีกด้านของชื่อนี้ก็ต้องเป็นชื่อของเขา'มัทสึดะ ยามาโตะ'
...ไม่จริง เป็นไปไม่ได้
...พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันแท้ๆ
...ทั้งที่เราเคยบอกว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
...แต่ ตอนนี้...ตอนนี้มันกลับหายไปจนหมด!
...ขอร้องละ ใครก็ได้ ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันอีกสักครั้งเถอะ อีกแค่หนึ่งนาทีก็ยังดี!
♪
ความทรงจำเมื่อ 8 เดือนก่อน แล่นผ่านสมองเขาอย่างรวดเร็ว
น้ำตาเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาคู่กลมนั้น
เด็กหนุ่มทรุดเข่าลงนั่งกับพื้น
"ฮิคาริ..." เขาพูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นภาพในอดีตสะท้อนออกมาอีกครั้งตรงหน้า
...มีเด็กผู้ชายยืนร้องไห้ให้กับผู้หญิงที่ตนรักท่ามกลางสายฝน
และนั่น...ก็คือตัวเขาในยามนั้น
กริ๊ง...กริ๊ง...♪
เสียงกระพรวนดังก้องไปทั่วบริเวณ
ในความมืดมิดปรากฎร่างที่มีสีขาวตัดกับสีดำ
"หมดเวลา ควรจะดีใจด้วยซ้ำ ที่ฉันให้เวลาพวกเธอมากถึงแปดเดือน"
เสียงของลัทซ์ดังออกมาจากความมืด
สาวน้อยยกไม้กางเขนสีทองอร่ามขึ้น เธอชูมันขึ้สูงระดับศรีษะ ถึงแม้ด้ามของไม้กางเขนนั้นจะยาวเกือบเท่าตัวเธอก็เถอะ
เธอร้องเพลงขับกล่อมได้อย่างไพเราะ
ร่างของฮิคาริค่อยๆ จางหายไปราวกับเป็นส่วนหนึ่งของอากาศ
"ไม่...ฮิคาริ..."
ยามาโตะพยายามดึงรั้งร่างของเธอเอาไว้ แต่เขาในตอนนี้... ไม่สามารถที่จะจับต้องผู้เป็นที่รักได้อีกแล้ว
"ยามาโตะคุง ฉันน่ะไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ฉันน่ะยังคงอยู่ในนี้"
ฮิคาริยกมือขึ้นแตะตรงบริเวณอกเขา
"ฉันยังอยู่ในใจของยามาโตะคุงเสมอไม่ใช่หรอ? ฉันยังอยู่ข้างๆ กายยามาโตะคุง เรายังคงอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ฉันเองจะไม่ลืมยามาโตะคุงเลย...ยามาโตะเองก็... อย่าลืมฉันละ เพราะฉันเองก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของยามาโตะคุงนั่นแหละ เพราะฉะนั้น...ขอเพียงยามาโตะคุงยิ้มให้ฉัน เท่านั้น..."
เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
เป็นรอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นนาน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น
ร่างของฮิคาริหายไปแล้ว
แต่เขายังคงรู้สึกอบอุ่น ขณะที่น้ำตาอุ่นๆ ก็ยังคงทะลักออกมา
ความอบอุ่นที่เขาได้รับจากเธอ แม้ว่าเธอจะจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ว่าฮิคาริยังอยู่กับเขา แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นเธอแล้วก็ตาม
"ขอบคุณนะฮิคาริ..."
เขายิ้มออกมาทั้งน้ำตา
"คนที่ตัดสินใจนะ ก็เธอคนเดียวนั่นแหละ"
สาวน้อยสีดำเดินมาพร้อมกับไม้กางเขนด้ามยาวสีทอง
"ฮิคารินะ เธอเข้มแข็งยอมรับสถานะของตัวเอง เธอยอม เพราะไม่อยากให้ยามาโตะเจ็บปวดมากไปกว่านี้ เพราะ...มนุษย์เราน่ะเป็นสิ่งที่... ยากจะเข้าใจกว่าสิ่งใดในโลก"
สาวน้อยฉีกยิ้มให้กับเขาก่อนจะเดินลับหายไปกับยามราตรี
...ความจริงนั้นโหดร้าย แม้โหดร้ายเพียงใดก็ไม่ทำให้จิตใจของมนุษย์พ่ายแพ้ได้หรอก...
♪
...ฉัน'ลัทซ์'ค่ะ นักขับขานบทเพลงแห่งพระเจ้าเพื่อขับกล่อมและมอบความสุข ให้กับสิ่งต่างในโลกแห่งนี้ ในโลกนี้สิ่งที่ผิดหวังมากที่สุดก็คือ'มนุษย์' แม้ว่า... คุณจะผิดหวังกับความรักมากเพียงใด แต่ฉันเชื่อคะ ว่าตอนนี้ยังมีใครสักคนที่รอคุณอยู่ อย่างแน่นอน...
ความคิดเห็น