ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถ้าหากโลกนี้ไม่มีโวลเดอร์มอร์

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่10

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 48




        หลังเสร็จพิธีก็มีการฉลองกัน ที่ลานกว้างหน้าโบสถ์ เสียงคุยจอแจดังไปทั่วแขกกว่าร้อยคนที่ได้รับเชิญมางานต่างพูดคุยกันในเรื่องสับเพเหระต่างๆ รับประทานอาหารกัน เต้นรำกัน พวกเด็กๆต่างวิ่งเล่นกันไปมา จนทำให้เหล่าพ่อแม่ปวดหัวพอดู



        “เฮ้ยยย” แฮร์รี่ถอนหายใจเบาๆ หลังไปทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวมาหมาดๆ



        “รู้สึกแปลกๆ ไงไม่รู้สิหน่า” แฮร์รี่พูดกับรอนที่กำลังกิน(สวาปาม)อาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย



        “แปก – ไง – อะ” รอนถามทั้งที่มีพายเนื้ออยู่เต็มปาก



        “มันรู้สึกเหมือนกับว่า มันจะมีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้นสักอย่าง ตาข้างขวามันกะตุกๆ ไงชอบกล” แฮร์รี่พยายามหาคำมาอธิบายความรู้สึกที่เขามีอยู่ในขณะนั้น



        “นายอาจจะต้องตายเร็วๆนี้ก็ได้” รอนตอบพรางหัวเราะหึหึ



        “จะบ้าหรือไง นายก็เป็นเหมือนทรีลอว์นีย์อีกคนไปได้” แฮร์รี่ว่า



        “โถ่.. ล้อเล่นน่า ฉันรู้ว่านายมันพวกไม่กลัวความตายหรอกจริงมะ” รอนว่าพรางสอดส่ายสายตามองหาอาหารอย่างต่อไปที่จะเอามาใส่ปาก



        “ใช่.. ช่าย.. บางทีอาจไม่ใช่ฉันแต่อาจจะเป็นนายก็ได้” แฮร์รี่หยอกกลับไปบ้าง



        “ไม่ใช่หรอก พระเจ้ารู้ว่าฉันยังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ ถึงจะมาพาไปฉันก็ไม่ยอมไปหรอก” รอนตอบ



        “อะไรที่ นายยังไม่ได้ทำล่ะ” แฮร์รี่ถามอย่างใคร่รู้



        “อืม...” รอนทำท่าคิด “เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ หรืออาจจะแต่งงานกับใครบางคนล่ะมั้ง”



        “แต่งงานกับใครล่ะ เฟลอร์เหรอ” แฮร์รี่แกล้งถาม



        “เห้.. นายตกข่าวเหรอแฮร์รี่ เฟลอร์แต่งงานกับบิลไปตั้งนานนมแล้ว มีลูกด้วยกันแล้วมั้งได้ข่าว ” รอนว่า



        “งั้นฉันไปดีกว่า” แฮร์รี่พูด “ฉันมีนัดนิดหน่อย”



        “นัดกับใครเหรอทำไมไม่เห็นนายพูดถึงเลย” รอนว่าพรางหยุดปากจากการจัดการอาหารตรงหน้า



        “นายจะมาด้วยไหมล่ะ ฉันว่าคน คนนี้มีเรื่องที่นายอยากรู้” แฮร์รี่พูดอย่างมีลับลมคมในชอบกล



       ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



        แฮร์รี่พารอนมาที่ด้านหลังโบสถ์(อย่าพึงคิดไปไกลนะค่ะ) มีคนคนหนึ่งกำลังยืนพิงกำแพงอยู่ เขาคือมัลฟอยนั้นเอง



        “พอตเตอร์ ถ้านายจะนัดใครก็สมควรจะมาก่อนนัดนะ” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ



        “โทษที ฉันไม่ใช่นักธุรกิจที่ทุกวินาทีมีค่าอย่างนาย” แฮร์รี่พูดเรียบๆ รอนที่เดินมาข้างหลังถึงกับเงียบไม่นึกว่าคนที่แฮร์รี่นัดไว้คือมัลฟอย



        “นายมีอะไรจะถามฉันก็รีบๆถามมา” มัลฟอยพูดพรางหันมามองหน้า



        “ฉันแค่อยากรู้ว่า ที่นายแต่งงานกับเฮอร์ไอนี่ นายรักเขาหรือปล่าว รักตั้งแต่เมื่อไหร่และเพราะอะไรถึงได้รัก” แฮร์รี่พูดรวดเดียวจบจนไม่หายใจ



        เมื่อรอนได้ยินแฮร์รี่ถามดังนั้นก็หูผึ่งตั้งใจฟังทันที



        “เรื่องนี้เองเหรอพอตเตอร์” มัลฟอยถาม



        “ก็ใช่นะซิ” แฮร์รี่ตอบกลับ



        มัลฟอยหันมามองแฮร์รี่และรอนที่ยืนอยู่หน้าต้นไม้ต้นใหญ่ที่ช่วยบัง เขาจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา (แต่ที่นี้มันข้างหลังโบสถ์นะ ใครบ้าที่ไหนจะมาเดินผ่าน)



        “ที่ฉันแต่งงานก็เพราะฉันรักเฮอร์ไมโอนี่จริง แต่เรื่องที่ฉันรักตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันก็ไม่รู้ แต่หน้าจะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเฮอร์ไมนี่ละมั้ง”



        “ครั้งแรกอะไรนาย ถ้าฉันจำไม่ผิดครั้งแรกที่นายเจอเรานายมาแกล้งเราไม่ใช่เหรอ” รอนที่เงียบอยู่นานเปิดปากเถียงกลับอย่างรวดเร็ว



        “กอ.. ก็ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกอย่างนั้น.. มันเป็นความรู้สึก.. รู้สึกใจเต้นแรง ฉันรู้สึกชอบความรู้สึกนี้มาก แต่ตอนนั้นฉันคิดว่ามันเป็นความสุขที่ฉันแกล้งเฮอร์ไมนี่กับพวกนาย แต่พอฉันเริ่มขึ้นปี 4 ฉันก็เริ่มเข้าใจความจริง ว่าที่ฉันรู้สึกกับเฮอร์ไมโอนี่มันคือความรัก ความสุขที่ได้พบหน้าเธอ ไม่ใช่ ความเป็นสุขจากการได้แกล้งเธอ” มัลฟอยพูดถึงจะกุกกักบ้างแต่แฮร์รี่มันใจว่าที่เขาพูดเป็นความจริง จากสายตาที่ดูจริงจัง และมั่นใจในคำพูดของเขา



        “แล้วทำไมตอนนนั้นนายถึงชอบแกล้งแฮร์รี่ละ ทั้งๆที่รู้ว่าการทำอย่างนั้นจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สบายใจ” รอนสวนกลับเพราะเขาไม่ค่อยเชื่อใจกับสิ่งที่มัลฟอยพูด



        “ก็ ... ก็” มัลฟอยเริ่มอึกอักอีกครั้ง “ก็... ฉันหึงเขานิ”



        “หึงงง” แฮร์รี่กับรอนพูดเสียงดังพรางหันมามองหน้ากัน



        “ใช่ หึง” มัลฟอยพูด หน้าซีดๆ (ที่ส่วนใหญ่ดูแล้วกวน TEEN) เริ่มมีสีชมพูเรื่อๆขึ้น “ก็ข่าวของริต้า เรื่องพอตเตอร์กับเฮอร์ไมโอนี่ไงล่ะ แล้วหลังจากนั้นก็ครัมอีก”



        “แล้วนายไม่ใช่คนปล่อยข่าวเรื่องเฮอร์ไมโอนี่กับฉันเหรอ” แฮร์รี่ถามอย่างงงๆ



        “ฉันซะที่ไหนล่ะ ยายแพนซี่นู้นที่ปล่อยข่าวอย่างนั้น” มัลฟอยตอบสีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นมารในทันที



        “แฮร์รี่” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างนอก ไม่ใช้เสียงของใครอื่น ของเฮอร์ไมโอนี่นั้นเอง



        “รอน” เฮอร์ไมโอนี่ยังเรียกพวกเขาอีก “มัลฟอย อยู่ไหน”



        เมื่อได้ยินเสียงนั้นมัลฟอยก็เบือนหน้าหนีพรางพูดเสียงเบาๆให้แฮร์รี่ได้ยินเพียงคนเดียวว่า “ฉันบอกทุกอย่าที่นายอยากรู้แล้วพอตเตอร์ ฉันไปนะ”



        พูดจบมัลฟอยก็ก้าวออกไปข้างนอก ทิ้งให้แฮร์รี่และรอนยืนนิ่ง



        “ผมอยู่นี้ ที่รักมีอะไร” (เลี่ยนจังว่าไหมค่ะ) เสียงมัลฟอยดังมาจากข้างนอก



        “คุณเห็นแฮร์รี่กับรอนไหมค่ะ” เฮอไมโอนี่ถาม



        “ผมไม่เห็นเลย งั้นเราเข้าไปดูในงานกันดีกว่า” มัลฟอยบอกกับเฮอร์ไมโอนี่แล้วพาเฮอร์ไมโอนี่เดินจากไป



       -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------    



        เช้าวันต่อมา



        “แฮร์รี่หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้นะ” รอนล่ำลาแฮร์รี่ที่กำลังยืนค่อมไม่กวาดไฟโบร์ (ถูกไหมค่ะ ไม่แน่ใจ) เพื่อจะเดินทางไปพักผ่อน



        “แล้วนายจะไปที่ไหนต่อเหรอ” รอนยังถามต่อ



        “คงจะแวะไปที่อียิปพวกเขามีปัญหาใหญ่กับมัมมี่ที่เฝ้าสุสาน และค่อยกลับบ้าน” แฮร์รี่พูด “ไปนะรอน จินนี่ คงจะได้พบกันเร็วๆนี้นะ”



        แฮร์รี่พูดจบก็ถีบไม้กวาดบินออกไป



       -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



        “เห้ยยยย ถึงสักที” แฮร์รี่พึมพัมกับตัวเองพรางร่อนลงบนพื้นทราย กลางทะเลทรายแห่งหนึ่งในประเทศอียิป



        “สวัสดีครับคุณพอตเตอร์ คุณเดินทางมาไกลเข้ามาพักที่ในค่ายก่อนเถอะครับ เราจะเริ่มงานกันพรุ่งนี้ตอนเช้านะครับ” ชายคนหนึ่งพูดพรางรีบวิ่งตรงมาหาแฮร์รี่



        แฮร์รี่ ไม่พูดอะไรเพียงแต่เดินตามชายคนนั้นไปที่ค่ายที่เป็นกลุ่มกระโจมประมาณเกือบสิบกระโจม มีกระโจมแบบเปิดทุกด้านอยู่ตรงกลาง



        “นี้ที่พักของคุณครับ” ชายผู้นำทางพูด



        เขาพามาที่กระโจมเล็กๆหลังหนึ่งที่ตบแต่งอย่างง่ายๆ มีเตียงที่เกิดจากการยกพื้นให้สูงขึ้นแล้วปูด้วยผ้าและขนสัตว์ ในแนวของคนที่อยู่ในทะเลทราย กับโต๊ะตัวเตี้ยๆและเบาะรองนั่งสำหรับเขียนหนังสือหรืออย่างอื่น พร้อมกับที่ว่างที่มุมกระโจมสำหรับวางหีบหรือสัมภาระ



       “ขอบคุณครับ คุณ...” แฮร์รี่กล่าว



        “ออ.. อ๋อ ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อราอุล เป็นฝ่ายประสานงานของทีมนี้น่ะครับ” ราอุลแนะนำตัว



        “ขอบคุณครับคุณราอุล” แฮร์รี่กล่าวคำขอบคุณ



        หลังจากราอุลออกไปจากกระโจมแฮร์รี่ก็ทิ้งกระเป๋าของตน จนเกิดเสียงดัง “โครม”

    แล้วทรุดตัวลงนอนบนที่นอน



        ซักพักแฮร์รี่ก็ผลอยหลับไป



       ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



        เช้าวันรุ่งขึ้นราอุลมาปลุกแฮร์รี่แต่เช้า เขาจึงรีบแต่งตัวแล้วไปรับประทานอาหารที่กระโจมกลาง



        หลังจากแฮร์รี่กินข้าวเสร็จ ก็นั่งฟังแผนการทำงานของวันนี้อย่างตั้งใจ



        “เอ้า วันนี้ก็มีแค่นี้นะ พยายามทำงานให้เต็มที่นะทุกคน” หัวหน้าทีมกลุ่มนี้พูด เขาชื่อโบน สมิท เป็นคนที่บิลบอกว่าทำงานได้ดีมาก



        “คุณพอตเอตร์ครับ ผมขอคุยกับคุณหน่อยนะครับ” โบนเรียก



        “ได้ครับ” แฮร์รี่ตอบ



        “คือ... ที่เราเรียกคุณมาที่นี้ก็เพราะ เราอยากให้คุณช่วยจัดการกับมัมมี่ที่อยู่ในปีรามิดนั้น เท่าที่พวกเรารู้มา พวกเขาเป็นพ่อมดที่ถูกสังเวยให้เทพเจ้า ซึ้งตามตำนานเขาเชื่อกันว่าพวกมัมมี่นั้นเฝ้าห้องใจกลางปีรามิด ซึ่งทำให้เราไม่สามารถ ตรวจสอบได้ว่ามีสมบัติอยู่ในนั้นหรือไม่” โบนอธิบาย



        “ผมคิดว่าผมจัดการได้ครับ” แฮร์รี่ตอบ



        “งั้นก็ดีครับ ผมจะพาคุณไปนะครับ” โบนพูดจบแล้วเดินนำแฮร์รี่เข้าไปในปีรามิด



        ในปีรามิดมีทางเดินที่ค่อนข้างแคบจึงสามารถเดินได้ทีละคนเดียว ตามฝาผนังมีตัวหนังสือแกะสลักเป็นตัวหนังสืออียิปโบราณเรียงรายกันแน่น



        แฮร์รี่เดินตามโบนขึ้นสูงไปเรื่อยๆเพื่อไปที่ห้องฝังศพที่เป็นทางผ่านไปยังห้องใจกลางปีรามิด



        “ระวังหน่อยล่ะครับเพราะที่นี้มีการลงคาถากันคนนอกเอาไว้ด้วย” โบนบอกกับ

    แฮร์รี่



        เสียดังบางอย่างเข้ามากระทบโสตประสาทของแฮร์รี่ เสียงของผู้ชายหลายคนกำลังสู้กับบางสิ่งบางอย่าง



        โบนเมื่อได้ยินเสียงนั้นก็รีบวิ่งไปที่ต้นเสียงทันที



        ภาพการกระทำที่ทำให้เกิดเสียงเหล่านั้นคือเสียงของกลุ่มนักล่าสมบัติจำนวนเกือบ 10 คน พยายามต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่มีจำนวนมากในบริเวณห้องที่มีความกว้างพอๆกับสนามเทนนิสเกือบ 3 สนามมาต่อกัน



        “มัมมี่ที่เฝ้าสุสาน” โบนกระซิบบอกแฮร์รี่ “ต้องกำจัดเวทมนตร์ที่ควบคุมมัน ไม่ใช้กำจัดมัมมี่”



        “ทราบแล้วฮะ” แฮร์รี่ตอบรับ แล้วหยิบไม้กายสิทธ์ออกมาเพื่อทำลายเวทมนตร์ที่คงอยู่มากว่าพันปี



        “ทุกคนกรุณาถอยไป” โบนตะโกนเหมือนรู้ว่าแฮร์รี่กำลังจะทำอะไร



        เมื่อทุกคนก้าวถอยออกมาดูเหมือนมัมมี่ทุกตัวจะเบนความสนใจมาที่แฮร์รี่เพียงคนเดียวเท่านั้น



        แฮร์รี่ตั้งสมาธิพร้อมกับร่ายคาถา “............(กรุณาคิดเอาเอง).................”



        แสงสีขาวพุ่งออกมาจากไม้กายาสิทธ์ของแฮร์รี่ แสงนั้นพุ่งไปยังมัมมี่ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด



        มัมมี่ตัวนั้นกระแทกกับแสงเข้าอย่างจัง แล้วแสงนั้นก็ขยายขนาดแล้วพุ่งไปหามัมมี่ตัวที่อยู่ทัดไปราวกับเป็นไวรัสก็ไม่ปาน



        มัมมี่ที่โดนแสงนั้นเข้าก็หาไปในพริบตาเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรอยู่ที่นั้น



        “ขอบคุณมากนะครับคุณพอตเตอร์ที่มีช่วยเรากำจัดมัมมี่” โบนพูด



        “ไม่เป็นไรหรอกครับ” แฮร์รี่ตอบ “ผมขอเดินดูอะไรในนี้หน่อยได้ไหมครับ”



        “ได้ซิครับแต่ระวังตัวด้วยนะครับเพราะอาจจะมีที่ ที่เรายังไม่ได้สำรวจ” โบนบอก



       ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×