ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Jurassic world : What if we love ถ้าพวกเรารักกัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : เหล่าเด็กน้อยที่ความคิดช่างไร้เดียงสา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.61K
      135
      5 เม.ย. 59





     
    ตอนที่ 2 : เหล่าเด็กน้อยที่ความคิดช่างไร้เดียงสา
     
     
     
     


    การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย...โดยเฉพาะลูกที่เป็นแร็ปเตอร์
     
     
                               ผ่านไป 1 อาทิตย์กับการใช้ชีวิตกับเหล่าแร็ปเตอร์ตัวน้อย โอเว่นแทบจะไม่ได้ออกนอกบ้านเพราะต้องคอยอยู่ดูแลเจ้าตัวเล็กพวกนี้ เวลาขาดเหลืออะไรเขาต้องโทรบอกให้แบร์รี่เพื่อนของเขาเป็นคนหามาให้ พวกแร็ปเตอร์ดูจะติดเขามากจนเกินไป เขาพอจะเข้าใจว่าพวกมันคิดว่าเขาเป็นแม่ของพวกมัน แต่แบบนี้มันก็ไม่ไหวนะ
    เวลาโอเวนเดินไปไหนมาไหนพวกแร็ปเตอร์จะเดินตามเขามาติดๆ ขนาดเข้าห้องน้ำยังแทบจะตามเข้ามาด้วย แม้แต่เวลานอนพวกมันยังตามขึ้นมานอนบนเตียงของเขา และที่สำคัญก็คือพวกมันหวงโอเว่นมากๆ
     
     “บลูอย่า!” โอเวนรีบคว้าตัวบลูไว้ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะพุ่งเข้าใส่แบร์รี่เพื่อนของเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกมันยังตัวเล็กอยู่ แต่เรื่องคมเขี้ยวกับแรงกัดเนี้ยคนละเรื่องเลย “ใจเย็นไอ้หนู”
     
     “ดุกันจริง”
     
     “เดลต้า อย่าแม้แต่จะคิด เอคโค่ถอยออกมา ชาร์ลี...อย่ากัดเชียวนะ” นอกจากบลูแล้ว แร็ปเตอร์ตัวอื่นๆยังเตรียมจะโจมตีแบร์รี่ได้ทุกเมื่อ โดนเฉพาะชาร์ลีที่ตอนนี้อยู่ใกล้แบร์รี่มากที่สุดและเตรียมจะกัดเขาแล้วถ้าไม่ได้โอเว่นห้ามไว้ก่อน
     
     “ไหงมาทีไร พวกมันจ้องแต่จะกัดฉันอย่างเดียวล่ะ?”
     
     “พวกเขาคงยังไม่ชินน่ะ”
     
     “พวกเขา?”
    แบร์รี่สงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะว่าเขาเองก็ไม่ต่างกับโอเว่นที่คิดว่าไดโนเสาร์ทุกตัวในพาร์คจะต้องเป็นตัวเมียหมด
     
     “เมื่อ 4 วันก่อน พวกเขามีอาการป่วย ฉันเรียกสัตวแพทย์มาตรวจแล้วพบว่า...พวกเขาเป็นตัวผู้หมด 4 ตัว และอาการป่วยเป็นแค่การปรับสภาพร่างกาย” โอเว่นอธิบายพร้อมกับกันแร็ปเตอร์ทั้งสี่ตัวให้ออกมาห่างๆจากแบร์รี่
     
     “ว้าว ข่าวใหม่ นายได้ลูกชาย”
     
     “ตลกตายล่ะแบร์รี่”
     
     “แล้ว เรื่องไข่ อีกสองฟอง”
     
     “ฉันคงไปเอาได้หรอก” โอเว่นเหลือบตามองแบร์รี่ทีหนึ่งก่อนจะอุ้มแร็ปเตอร์ทั้งสี่ตัวไปวางลงบนที่นอนสุนัขที่เขาให้แบร์รี่ไปซื้อมาให้ “อยู่กันตรงนี้แหละ”
     โอเว่นกับแบร์รี่ปลีกตัวมาคุยกันในห้องครัว โดยที่มีดวงตาสี่คู่จ้องมองมาที่พวกเขาตลอด
     
     “อ้าว ถ้าเป็นยังงั้นแล้วนายจะทำยังไงล่ะ?” แบร์รี่รับขวดเบียร์มาจากโอเว่นแล้วยกขึ้นดื่ม เขาอดสังเกตไม่ได้ว่า ทุกๆครั้งที่พวกแร็ปเตอร์จู่โจมเขา มันจะเป็นในตอนที่เขาเข้าใกล้โอเว่น  บางทีพวกมันคงจะหวงโอเว่นมาก...มากจนน่ากลัว
     
     “ฉันบอกเรื่องนี้กับ ดร.วู แล้ว เขาเลยจะให้คนขนย้ายไข่มาให้ฉันแทน” โอเว่นกล่าวก่อนจะยกขวดเบียร์ขึ้นดื่ม ดวงตาเหลือบมองเหล่าแร็ปเตอร์ของเขาที่ทำท่าจะลงจากที่นอนสุนัขแล้ววิ่งตรงมาหาเขา แต่ก็ต้องหยุดเมื่อโอเว่นมองมาแล้วส่ายนิ้ว
     
     
     
    ก็อกๆๆ!
     
     
     
         เสียงเคาะหน้าประตูบ้านเรียกความสนใจเหล่าสิ่งมีชีวิตภายในบ้าน พวกแร็ปเตอร์เตรียมวิ่งไปต้อนรับคนแปลกหน้าที่เข้ามาในอาณาเขตของตนแต่ก็ต้องหยุดเพราะโอเว่นส่งเสียงห้าม
    โอเว่นเดินไปเปิดประตูก็พบกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์เพาะเลี้ยงที่มีกล่องไม้แบบเดียวกับที่เขาเคยเอามาจากศูนย์เพาะเลี้ยงในมือ
     
     “มีของมาส่งครับ จากดร.วู” เจ้าหน้าที่จากศูนย์เพาะเลี้ยงส่งกล่องไม้อันนั้นมาให้โอเว่นซึ่งมันหนักมาก หนักจนเขาเกือบทำกล่องหลุดมือ
    พอโอเว่นรับกล่องมาแล้ว เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ขับรถจากไปอย่างรวดเร็ว
     
     “นั้นอะไรน่ะ?” แบร์รี่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังโอเว่น เขาชะเงื้อมองสิ่งที่โอเว่นกำลังถืออยู่
     
     “ของจากดร.วู ไข่สองฟองที่เหลือ” โอเว่นกล่าวในขณะที่ยกกล่องไปวางบนเคาท์เตอร์ในครัว
     
     “มาเร็วจริงๆ ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ มีอะไรขาดเหลือก็โทรบอกฉันเหมือนเดิม” แบร์รี่เดินเข้ามาตบไหล่โอเว่นทีนึง ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน เหลือทิ้งไว้เพียงโอเว่นกับเหล่าแร็ปเตอร์
     
     “เอาล่ะ ไหนดูสิ” โอเว่นเปิดกล่องไม้ออกก่อนที่เขาจะหยุดนิ่งไป “โอ้วพระเจ้า ไม่จริงน่า”
    โอเว่นช็อกกับสิ่งที่อยู่ในกล่อง ไข่ขนาดใหญ่สองฟอง เหมือนไข่ของแร็ปเตอร์ แต่มันมีขนาดใหญ่กว่ามาก มันมีขนาดใหญ่เท่าไข่ของทีเร็กซ์ซึ่งทำให้โอเว่นคิดหนัก
     
             ดร.วูไม่ได้บอกว่าไข่อีกสองฟองเป็นของไดโนเสาร์สายพันธุ์อะไร ในตอนแรกเขาคิดว่าอาจจะเป็นของสายพันธุ์แวโรซีแร็ปเตอร์ แต่นี่มันไม่ใช่ โอเว่นไม่อยากคิดมาก แต่เขาคิดว่าไข่สองฟองนี้ไม่น่าจะใช่ไข่ของทีเร็กซ์และมันไม่ใช่ไข่ของแร็ปเตอร์แน่นอน แล้วมันเป็นของไดโนเสาร์สายพันธุ์อะไรล่ะ?
     
              ความคิดของโอเว่นถูกขัดจังหวะด้วยรอยแตกที่ปรากฏบนเปลือกไข่ฟองหนึ่ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเขาเห็นกรงเล็บสีขาวคล้ายสีของกระดูกโผล่ออกมาจาก เปลือกไข่และเปลือกไข่มันหลุดออกมากว้างพอที่จะทำให้โอเว่นสามารถมองเห็น สิ่งที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน ดวงตาสีแดงของสิ่งมีชีวิตข้างในจ้องมองมาที่เขา ทำเอาโอเวนหยุดหายใจไปชั่วครู่ เพียงพริบตา เจ้าไดโนเสาร์ตัวน้อยก็ออกมาสู่โลกกว้าง สิ่งแรกที่มันทำคือยืนขึ้นแล้วมองมาที่โอเว่น
    โอเว่นเพิ่งมาสังเกตเห็นตัวหนังสือที่ถูกเขียนไว้ข้างกล่องไม้ว่า “อินดอมินัสเร็กซ์” เท่าที่เขารู้ มันไม่มีไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้...นอกจาก...

     “เอาจริงดิ” โอเว่นพึมพำ เขามองสำรวจไดโนเสาร์ตัวใหม่ของเขาที่มีสีขาวเหมือนกระดูก มีจุดสีเทากระจายตั้งแต่ส่วนหัวลงมาตลอดจนถึงหางของมัน มีหนาวเล็กๆเต็มแผ่นหลังของมันและที่สำคัญมันมีเขา ฟันและกรงเล็บคมกริบ แต่ที่ทำให้โอเว่นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีก็คือส่วนของมือที่มี 5 นิ้ว มันเหมือนของแร็ปเตอร์ของเขาซึ่งกับพวกบลู เขายังไม่คิดอะไรมาก แต่พอมาเห็นของอินดอมินัสเร็กซ์มันทำให้เขาพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงสังหรณ์ใจไม่ดีเกี่ยวกับมัน

    ก็ส่วนมือที่มีนิ้ว 5 นิ้วนั้นมันดูคล้ายกับมือของมนุษย์

         ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรต่อ เสียงแตกของไข่อีกใบก็ดึงความสนใจจากทั้งเขาและอินดอมินัสเร็กซ์อีกตัวให้หันไปมอง กรงเล็บสีขาวทะลุออกมาจากเปลือกไข่และโอเว่นสังเกตว่า เจ้าตัวนี้ไม่เหมือนกับตัวแรก สีขาวของมันเหมือนสีขาวของหิมะมากกว่ากระดูก มือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บทำหน้าที่ดึงเปลือกไข่ออกจากตัวจนกระทั่งส่วนหัวโผล่ออกมา แต่ก็ยังมีเปลือกไข่ติดอยู่บนหัวของมัน

    โอเว่นอดหัวเราะไม่ได้เพราะมันดูเหมือนเจ้าตัวเล็กกำลังใส่หมวกอยู่ อินดอมินัสเร็กซ์ตัวใหม่พยายามสลัดเปลือกไข่ที่อยู่บนหัวของมันออกซึ่งมันเปล่าประโยชน์ มันหยุดการกระทำของมันแล้วหันมองหาที่มาของเสียง ซึ่งเสียงที่ว่าก็คือเสียงหัวเราะของโอเว่น

    โอเว่นยิ้มก่อนจะค่อยๆยื่นมือออกไปดึงเปลือกไข่ออก เขาค่อนข้างระแวงนิดๆว่าอินดอมินัสเร็กซ์ตัวแรกจะกัดเขารึไม่ แต่มันไม่กัด มันทำเพียงแค่จ้องมองการเคลื่อนไหวของมือของเขาอย่างสนอกสนใจ เมื่อเขาดึงเปลือกไข่ออกแล้ว เขาก็พบว่าอินดอมินัสเร็กซ์ตัวนี้มีดวงตาสีเดียวกับตัวพี่ของมัน แม้ว่าตาคู่นี้จะดูเป็นประกายมากกว่าก็ตาม อินดอมินัสเร็กซ์ทั้งสองจ้องมองมาที่เขาตาแป๋วเหมือนพวกแร็ปเตอร์ที่พอเกิดมาก็เห็นเขาเป็นคนแรก

     “ใจเย็นๆ ไม่เป็นไร” โอเว่นอุ้มทั้งสองลงมาวางลงบนพื้นซึ่งมีพวกแร็ปเตอร์มายืนจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว 

     “อย่าทำอะไรน้องใหม่ล่ะพวกนาย”

    พวกแร็ปเตอร์ไม่ได้มีอาการเหมือนพวกอินดอมินัสเร็กซ์เป็นศัตรู พวกมันทำเพียงแค่ส่งเสียงคุยกันสักพักใหญ่ก่อนทั้งฝูงจะมองมาที่โอเว่น ซึ่งมันทำเขารู้สึกขนคอลุกนิดหน่อย
     
     
     
    .
    .
    .
     
     
     
            เขาไม่ชอบไอ้คนๆนี้ มันเข้าใกล้แม่ของเขามากจนเกินไป

     “กัดมันเลยดีมั้ยบลู” ชาร์ลีถามเขา เจ้านี่เป็นน้องชายเล็กของฝูงของเขา แต่ลำดับในฝูงคือเป็นที่สองรองจากเขา ที่จริง ก่อนหน้านี้เขาเป็นสัตว์เพศเมีย แต่ตอนนี้ดันกลายเป็นเพศผู้เสียอย่างงั้น ไม่รู้ทำไม แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

     “เอาเลย” บลูสั่ง ทั้งสี่ตัวเตรียมพุ่งเข้าไปกัดเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อแบร์รี่ แต่ก็ดันมีด่านที่ทำให้พวกเขาผ่านไปไม่ได้...

     “บลูอย่า!” โอเวนคว้าตัวเขาไว้ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวแบร์รี่ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขายังตัวเล็กอยู่ แต่เรื่องคมเขี้ยวกับแรงกัดเนี้ยคนละเรื่องเลย “ใจเย็นไอ้หนู”

     “แม่” ถึงจะขัดใจ แต่การได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ช่วยลดอาการขัดใจจนหายเป็นปลิดทิ้ง   ถือว่าครั้งนี้มันรอดตัวไป เพราะเขามีอย่างอื่นให้สนใจมากกว่า อ่า กลิ่นตัวแม่นี่หอมจังเลย

     “ดุกันจริง”

     “เดลต้า อย่าแม้แต่จะคิด เอคโค่ถอยออกมา ชาร์ลี...อย่ากัดเชียวนะ” ตัวอื่นๆที่ใกล้เข้าถึงแบร์รี่โดนแม่กันออกมาห่างๆหมด ชาร์ลีเกือบจะได้กัดมันแล้วเชียว ถ้าแม่ไม่ห้ามนี่ มันเสร็จแน่!

     “ไหงมาทีไร พวกมันจ้องแต่จะกัดฉันอย่างเดียวล่ะ?” ...เพราะแกเข้ามาใกล้แม่ของพวกเรา...

     “พวกเขาคงยังไม่ชินน่ะ” ...อีกกี่ครั้งก็ไม่ชินหรอกแม่...

     “พวกเขา?”

     “เมื่อ 4 วันก่อน พวกเขามีอาการป่วย ฉันเรียกสัตวแพทย์มาตรวจและพบว่า...ตัวผู้หมด 4 ตัว และอาการป่วยเป็นแค่การปรับสภาพร่างกาย” บลูและน้องๆถูกแม่อุ้มออกมาห่างๆแบร์รี่ ซึ่งการสัมผัสของแม่ทำให้พวกเขาสงบลงเยอะ

     “ว้าว ข่าวใหม่ นายได้ลูกชาย”

     “ตลกตายล่ะแบร์รี่”

     “แล้ว เรื่องไข่ อีกสองฟอง”

     “ฉันคงไปเอาได้หรอก” โอเว่นเหลือบตามองแบร์รี่ทีหนึ่งก่อนจะอุ้มแร็ปเตอร์ทั้งสี่ตัวไปวางลงบนที่นอนสุนัขที่เขาให้แบร์รี่ไปซื้อมาให้ “อยู่กันตรงนี้แหละ”

    โอเว่นกับแบร์รี่ปลีกตัวมาคุยกันในห้องครัว โดยที่พวกเขาทำได้แค่มองตามตาปริบๆ

     “ไข่อีกสองฟองที่ว่านี่คือ เรากำลังจะได้น้องใหม่งั้นเหรอ?” เดลต้าหันมาถาม ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไรที่พวกเขาจะมีน้องใหม่เพิ่ม มันอาจเป็นเรื่องดีที่มีสมาชิกในฝูงเพิ่มขึ้น แต่ถ้าต้องมาสู้กันเพื่อแย่งแม่นี่ก็ไม่ไหวนะ เพราะบลูเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถชนะได้ต่อไปไหม ถ้าวันไหนเขาแพ้ เขาจะต้องกลายเป็นตัวที่สองที่ได้ผสมพันธุ์กับแม่ แบบนั้นไม่เอานะ!!

     “เดี๋ยว งั้นก็แปลว่า แม่จะออกไข่งั้นสิ?” คำถามของชาร์ลีทำให้พี่ๆทั้งสามหันมามองน้องเล็ก

     “แล้วใครเป็นพ่อของลูกล่ะ? ไม่สิ ต้องถามว่า ใครทำแม่ท้อง!!” เอคโค่ร้องก่อนที่ทั้งหมดจะหันไปมองแบร์รี่เป็นตาเดียวกัน
     

    ...แกงั้นเหรอ!!!...
     

    ทั้งสี่ตัวเตรียมพุ่งไปฟัดแบร์รี่ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อโอเว่นมองมาที่พวกเขาแล้วทำนิ้วมือส่ายไปมาเป็นการห้าม
     

     
     
    ก็อกๆๆ!
     

     
     
           เสียงแปลกๆหน้าประตูเป็นสัญญาณเตือนสำหรับพวกเขาว่ากำลังจะมีผู้บุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของพวกเขา บลูและน้องๆเตรียมวิ่งไปต้อนรับเจ้าผู้บุกรุกที่ว่า แต่ก็ต้องหยุดเพราะโอเว่นส่งเสียงห้าม
    มีสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าตัวหนึ่งกำลังส่งอะไรสักอย่างให้แม่ก่อนที่มันจะจากไป เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อแบร์รี่ไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังแม่แล้วพูดอะไรสักอย่างกับแม่ก่อนที่มันจะสัมผัสไหล่ของแม่แล้วจากไป

     
    ...ไปเสียได้ก็ดี!!...

     
            แม่ถือเจ้าสิ่งที่ทำจากไม้นั้นเข้ามาในถ้ำ(บ้าน)แล้วเอามันไปวางไว้ในห้องอาหาร แม่มีสีหน้าแปลกๆเมื่อมองเจ้าสิ่งนั้น
    พวกเขาทั้งสี่เดินเข้ามาใกล้แม่ กลิ่นบางอย่างแตะจมูกเหมือนกับ...

     “กลิ่นเหมือนไข่เลย” เดลต้าพึมพำ

    “กลิ่นเหมือนไข่ของพวกเรา แต่ มีอะไรแปลกๆ” เอคโค่หันไปพูดกับเดลต้า

     “ถ้างั้น นี่ก็เป็นไข่สองฟองที่ว่านั้นสิ” เดลต้ากล่าว

     “ฉันนึกว่าแม่จะออกไปเสียอีก?” ชาร์ลีกล่าวอย่างงงๆซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับพี่ๆอีกสามตัวของเขา

     “ฉันก็คิดว่าแม่จะต้องวางไข่เสียอีก หรือว่าการออกไข่ที่ว่าคือการที่มีตัวอะไรสักอย่างเอาไข่มาให้ที่หน้าถ้ำ(บ้าน)งั้นเหรอ?” เอคโค่พูดเหมือนจะเข้าใจ แต่ตัวเขาเองก็ยังงงๆอยู่ดี

     “อย่างงี้นี่เอง จะได้ลูกทั้งทีต้องรอให้ตัวอะไรเอาไข่มาให้ที่หน้าถ้ำ(บ้าน)งั้นสินะ” เดลต้าพูดเหมือนจะเข้าใจ แต่บลูกับชาร์ลีรู้สึกว่ามันไม่ใช่ยังไงไม่รู้

     “แน่ใจนะว่าพวกนายเข้าใจถูก” บลูถาม

     “ใครน่ะ?” เสียงไม่คุ้นทำให้แร็ปเตอร์ทั้งสี่ตัวมองหาที่มาของเสียง พวกเขาหันไปมองโอเว่นที่เหมือนกับกำลังมองอะไรสักอย่างอยู่

     “แม่มองอะไรน่ะ?” ชาร์ลีถาม

     “จะรู้มั้ยล่ะก็ยืนอยู่ด้วยกันเนี้ย” เอคโค่ตอบและพยายามชะเงื้อคอมองว่าแม่ของพวกเขากำลังมองอะไรอยู่
    เสียงอะไรบางอย่างเหมือนเสียงอะไรแตกดังขึ้นสักพักแล้วก็ตามมาด้วยเสียง “ทำไมมันมืดจัง? ใครก็ได้เอามันออกไปจากหัวฉันที”

     
    ...ใครวะ...

     
         ทั้งสี่ตัวต่างรู้สึกสงสัยกับเสียงที่ไม่คุ้นเคยเหล่านั้น สักพักแม่ก็หัวเราะและยิ้ม ซึ่งมันยิ่งทำให้พวกเขาสงสัย  แต่ตอนแม่หัวเราะและยิ้มนี่ก็น่ามองนะ

    สักพักโอเว่นก็อุ้มตัวอะไรก็ไม่รู้ลงมาวางตรงหน้าพวกเขา พวกมันดูตัวใหญ่กว่าพวกเขามาก ตัวหนึ่งสีคล้ายกระดูกไก่ที่พวกเขาเคยแทะส่วนอีกตัวสีขาวเหมือนหิมะที่พวกเขาเคยเห็นผ่านกล่องสี่เหลี่ยมที่แม่เรียกมันว่าทีวี อ้อ เรื่องออกไข่กับผสมพันธุ์และความรู้อีกมากมายพวกเขาก็รู้ผ่านไอ้กล่องเนี้ยแหละ

     “อย่าทำอะไรน้องใหม่ล่ะพวกนาย” โอเว่นกล่าว

     “น้อง” ทั้งสี่ตัวหันมาพูดพร้อมกันก่อนจะหันไปมองไอ้สองตัวนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกมันไม่มีส่วนไหนเหมือนเขาเลยสักนิด ถึงพวกเขาจะไม่รู้สึกว่าพวกมันเป็นศัตรู แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าพวกมันเป็นพี่น้องหรืออะไรพวกนั้น

     “เอาล่ะฟังนะ ฉันเป็นเบต้าของที่นี่ และเป็นพี่ใหญ่ของฝูง พวกนายเพิ่งมาใหม่ จึงต้องเป็นน้องเล็กของฝูง เข้าใจมั้ย” บลูก้าวออกมาพูดกับทั้งสองตัว ไอ้ตัวขาวมองเขาแต่เขาไม่รู้สึกว่ามันเป็นอันตรายเท่าไอ้ตัวสีขาวกระดูกไก่นี่

     “ใครเป็นอัลฟ่า?” ไอ้ตัวกระดูกไก่ถาม

     “คนที่นายเห็นเป็นคนแรกนั้นไงล่ะ และเขาเป็นแม่ของพวกเรา”

     “แม่เรอะ? เขาไม่เห็นจะเหมือนพวกเราตรงไหนเลย แถมยังดูอ่อนแออีกด้วย เขาจะเป็นอัลฟ่าได้ยังไง?”
    คำถามของไอ้ขาวกระดูกไก่ทำเอาบลูไม่สามารถตอบได้ ตัวเขากับน้องๆเองก็ไม่เคยคิดถึงข้อนี้มาก่อน แต่เขาไม่คิดจะใส่ใจมัน ถ้ามันมาถามกันแบบนี้แปลว่ามันคิดจะทำร้ายแม่สินะ

     “ถามแบบนี้นายคิดจะเป็นอัลฟ่ารึไง?”

     “ก็ใช่”

     “คิดจะทำร้ายแม่เรอะ”

     “...ก็...ไม่นี่ การจะเป็นอัลฟ่า ไม่จำเป็นจะต้องทำร้ายอัลฟ่าตัวเก่าเสียหน่อย”

     “แล้วนายคิดจะทำอะไรไม่ทราบ?”

     “นั้นสินะ ผสมพันธุ์กับอัลฟ่าเป็นไงล่ะ”

     “ว่าไงนะ!!

          คำตอบของไอ้กระดูกไก่ทำเอาบลูและน้องๆถึงกับเดือด เอคโค่เตรียมพร้อมจะพุ่งเข้าใส่มันได้ทุกเมื่อแต่ก็โดนเดลต้าเอาสะโพกกระแทกเป็นการเตือนและห้ามกรายๆ

     “ก็ตามนั้น เมื่อฉันโตขึ้น ฉันจะเป็นอัลฟ่า และเจ้านี่ นายเรียกมันว่าแม่สินะ หึ และแม่จะต้องเป็นคู่ของฉัน ฉันจะเป็นตัวแรกที่ผสมพันธุ์กับแม่”

     “ไม่มีวันเสียหรอก! ฉันเป็นเบต้าและฉันเกิดก่อนพวกนาย ตัวแรกที่จะได้ผสมพันธุ์กับแม่คือฉัน!

     “อย่าคิดเองเออเองดีกว่าน่าไอ้เปี๊ยก”

     “แกนั้นแหละอย่าคิดเองเออเอง ไอ้กระดูกไก่”

     "ไม่รู้หรอกนะว่ามันแปลว่าอะไร แต่ฉันไม่ชอบ”

     “นี่ๆ พวกนายจะทะเลาะกันทำไมน่ะ? ยังไงสะพวกนายก็มีจุดประสงค์จะผสมพันธุ์กับอัลฟ่าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่แบ่งกันล่ะ”

    คำพูดของไอ้ขาวหิมะทำให้ทั้งฝูงหันมามอง

     “อืม ก็ได้ยุ...”

     “ไม่ได้โว้ย!!

             ทั้งบลูและไอ้กระดูกไก่ตอบพร้อมกันก่อนจะหันมามองหน้ากันปานจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้เดลต้าที่เป็นตัวที่ตอบว่าก็ได้รีบหุบปากที่กำลังจะพูดต่อทันที

     “ตามใจพวกนาย ไม่ว่าพวกนายตัวไหนจะได้ผสมพันธุ์กับอัลฟ่าเป็นตัวแรก ฉันก็ขอ บอกไว้เลยว่าตัวต่อไปที่จะผสมพันธุ์กับอัลฟ่าคือฉัน”

     “ก็ตามใจนายน้องชาย หาช่องว่างจากฉันให้ได้ล่ะ”

     “งั้นอย่าเผลอ เพราะถ้านายเผลอเมื่อไรล่ะก็ อัลฟ่าจะกลายเป็นของฉัน”

     “พวกแกสองตัวเลิกพูดเองเออเองสักทีได้มั้ย!!

     “อัลฟ่าเป็นของพวกเรานะ พวกเรามาก่อน เกิดก่อน ตามลำดับการเกิดการเข้าฝูงสิวะ”

     “เห้ยชาร์ลี ถ้างั้นนายก็ไม่ใช่ตัวที่สองที่จะได้ผสมพันธุ์กับอัลฟ่าแล้วล่ะ เพราะว่าฉันเกิดก่อนนาย ฉันจะต้องได้ผสมพันธุ์ก่อนนาย”

     “อย่ามาเอคโค่ นายลำดับสุดท้ายในฝูง แต่ก่อนสองตัวนั้นแน่นอน”

     “ไม่รู้แหละยังไงอัลฟ่าก็ต้องเป็นของพวกเรา”

     “พวกเราฝูงเดียวกันแล้วนะ ก็แบ่งๆกันสิ”

     “...”

     “...”

    ทั้งฝูงเงียบไปสักพัก คิดกันอย่างหนักว่าจะแบ่งอัลฟ่าด้วยกันดีมั้ย ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ...
    ทั้ง 6 ตัวหันมามองโอเว่นด้วยสายตาที่มุ่งมั่นแน่วแน่

     
    ...อัลฟ่าจะต้องเป็นของพวกเขา!!...
     
     
     
     
     








     
     
     
     
     
     
     
    TBC.





















     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×