ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE Kingdom Guardian (หลากหลายเรื่องราวกับตัวละครทั้ง 14 )

    ลำดับตอนที่ #8 : รับฝากโปรเจ็ค : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 55







    บทนำ

     

    ณ โบสถ์ที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง ในวันที่มืดมล ท้องฟ้าสีทมิฬแต่ดวงจันทร์กลับแดงฉานราวกับเลือด

    ในตัวโบสถ์แห่งนั้น...คนกลุ่มหนึ่งกำลังทำพิธีกรรมบางอย่างอยู่...พิธีกรรมที่สกปรกโสมม...พิธีกรรมที่ทำให้เกิดการแปดเปื้อน...พิธีกรรมที่ผู้ถูกอ้างถึงไม่ได้ต้องการให้คนอย่างพวกเขาทำ...พิธีกรรมที่ทำในสถานที่อันบริสุทธิ์แต่ตัวพิธีกรรมนั้นต่ำซาม...พิธีกรรมร่วมเพศสัมพันธุ์เพื่อบูชาซาตาน...

     

     

    ตูม!!!!!

     

     

    เสียงระเบิดดังขึ้นทางด้านประตูโบสถ์...ควันที่ดำโขมงไปทั่ว    ก่อนที่เปลวเทียน...จะดับลง...

    เสียงปืนและเสียงกรีดร้องดังขึ้นไปทั่วโบสถ์...กลิ่นคาวเลือดคลุ้งกระจายพอๆกับกลิ่นขี้เถ่าไหม้ๆที่ต้นเหตุมาจากปืน...  ก่อนที่ไฟจะสว่างขึ้นจากเปลวเพลิงบนฝ่ามือของชายหนุ่ม ผมสีนิล นัยน์ตาสีแดงเพลิง

    หญิงวัยกลางคนที่กำลังนอนอยู่บนร่างของชายวัยกลางคนที่กลายเป็นศพไปแล้ว ในสภาพเปลือยเปล่า เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมา

    “แซนซัส...ลูกนั้นเอง...ลูกได้เป็นรุ่นที่ 10 แล้วสินะ...นี่ลูกคงกลับมารับแม่ ให้ไปอยู่อย่างสุขสบายแล้วสินะ...ลูกรักของแม่...แม่บอกแล้วไงว่าลูก”

    “ไม่ใช่อย่างที่แกพูดหรอก...นังสวะ”

    ยังไม่ทันที่หญิงวัยกลางคนจะพูดจบ ชายหนุ่มที่ชื่อ แซนซัส ก็พูดขึ้นมาด้วยแววตาเย็นชาทำให้หญิงวัยกลางคนที่ได้ชื่อว่าแม่ของเขาเบิกตากว้างกับกระบอกปืนที่เล็งมาทางเธอ

    “ซะ...แซนซัส”

    Addio  mamma” ชายหนุ่มพูดพลางแสยะยิ้มชั่วร้าย น่ากลัวราวกับปีศาจก่อนจะลั่นไกปืน

     

     

    พรึบ!

     

     

    เปลวเทียนกลับมาอีกครั้ง เผยให้เห็นสภาพห้องโถงให้ของตัวโบสถ์ที่มีแต่ซากศพอันเหม็นเน่าของพวกมนุษย์โสโครก

    ...เมื่อได้เห็นหนังหน้าของหญิงวัยกลางคนที่เคยเรียกว่าแม่ตรงหน้าแล้ว...ก็พาลให้นึกถึงวัยเด็ก...นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่หญิงคนนี้ส่งเขาให้กับชายชราที่เขาเข้าใจว่าเป็นพ่อ...แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่...ถึงจะมอบความรักให้กับเขาและรักเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ...แต่สุดท้ายก็กลัวเขา...ความกลัวที่แสดงออกมานั้น...มันมากกว่าความรักที่มอบให้เสียอีก...

    ...ตัวเขามันก็แค่ปีศาจที่เกิดมาจากพิธีกรรมต่ำทรามพันนี้เท่านั้น...

    ...ไม่เคยมีใครมองว่าเขา...ไม่ใช่ปีศาจเลยสักคน...มีอยู่แค่...คนเดียวเท่านั้น...

    “พี่สาว”

     

    .

    .

    .

     

    นอกตัวโบสถ์แห่งนั้น...บนหลังคาโบสถ์ที่จู่ๆระฆังก็ดังขึ้นทำให้วิหคสีทมิฬโผบินขึ้นบนท้องนภาสีทมิฬ...มีร่างทั้ง 16 ร่าง ยืนอยู่บนหลังคา เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านฝาเพดานหลังคาที่ถูกทำให้โปร่งแสงจนเหมือนล่องหน...

    “คิก...ชายหนุ่มผู้ถือกำเนิดจากพิธีกรรมบูชาซาตาน...น่าสนใจดีเนอะ...ที่รัก” หญิงสาวในชุดรัดรูปวาบหวิวพูดขึ้นพลางเดินไปกอดคอชายหนุ่มผมสีเขียวเข้มจนเกือบดำ นัยน์ตาสีเดียวกับสีผมสวมแว่นที่กำลังสูบบุหรี่อยู่

    “เด็กเธอนี่ สึนะ” ชายหนุ่มผมสีเขียวพูดเสียงล้อเลียนพลางหันไปมองหญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวฟูฟ่อง นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตน่ามองในชุดกระโปรงยาวสีดำ ที่ในตอนนี้กำลังนั่งมองลงไปยังชายหนุ่มผมสีนิลที่บนใบหน้าคมนั้น เหมือนจะแสดงออกถึงความเศร้าหมองบางอย่างออกมา

    “ทำบาปอีกแล้วนะ เด็กน้อย” หญิงสาวพึมพำพลางมองชายหนุ่มที่เดินออกไปจากโบสถ์

    “เอาเป็นว่า ฉันยกบุตรของซาตานตนนี้ให้เธอดูแลก็แล้วกันนะ สึนะ” ชายหนุ่มผมสีนิลยาวมัดรวบ นัยน์ตาข้างซ้ายสีฟ้า ในขณะที่ข้างขวามีผ้าปิดตาเหมือนผ้าปิดตาของโจรสลัดผิดไว้...แต่มิได้มีลวดลายเหมือนผ้าปิดตาของโจรสลัด...พูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเรียบทำให้หญิงสาวหันมามองก่อนจะยิ้มให้อย่างน่ารัก

    “ขอบคุณที่อนุญาตให้หนูทำงานนี้นะคะ ป๊ะป๋า...แต่ถึง ป๊ะป๋าไม่บอก หนูก็ต้องดูแลเขาอยู่แล้วล่ะคะ  เพราะว่าหนูสัญญากับเขาไว้ ว่าหนูจะดูแลเขา จนกว่าจะถึงวันที่เขาไม่ต้องการหนู” สึนะพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปจับจ้องร่างสูงที่เดินออกมาแล้วปล่อยเพลิงพิโรธมาเผาโบสถ์

    “ไอ้วันที่เจ้านั้นไม่ต้องการเธอน่ะ คงไม่มีหรอก” ชายหนุ่มผมสีลวงข้าว นัยน์ตาสีม่วงสวมแว่นตากำลังยืนสูบบุหรี่พูดขึ้นก่อนที่ทั้ง 16 ร่างจะกระโดดออกจากโบสถ์ที่กำลังเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิงของซาตาน...เปลวเพลิงแห่งความโกรธ...

    “เดี๋ยวพอมันตายทุกอย่างก็จบ” ชายหนุ่มผู้ถูกพันด้วยผ้าพันแผล ยกเว้นส่วนดวงตาที่เป็นสีทองกับส่วนผมที่เป็นสีแดงเพลิง พูดขึ้น ทำให้สึนะหันมามองด้วยความไม่พอใจที่ชายหนุ่มพูดเรื่องความตายอันโหดร้ายแบบนั้นได้ลงคออย่างหน้าตาเฉยอีก

    “ในบันทึกแห่งชะตากรรมของน่าแคลร์ เจ้าหนุ่มนี่จะอายุยืนยาวพอๆกับพวกเรานะ” ชายหนุ่มผมสีทอง ในตาสีฟ้า สวมหน้ากากลายตารางหมากรุก สวมหมวกและใส่เสื้อคุลมยาว ถือไม้เท้าพูดขึ้น

    “เฮ้อ~...งั้นหนูคงต้องปวดหัวเลยเหนื่อยใจกับเขาไปอีก ร้อยปีสินะคะ กว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริงได้น่ะ” สึนะพูดพลางถอนหายใจก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ขับรถแล่นออกไปจากโบสถ์ที่ตอนนี้ลกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงก็พาลให้เธอนึกถึงอดีต...ในตอนที่เธอเจอกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรก...

     

    ****************************************************************************

     

    หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคฤหาสน์...ไม่สิ...ปราสาทหลังโตตรงหน้าด้วยหน้าตาใสซื่อจนคนอื่นๆพากันมองด้วยความเอ็นดู แต่บางคนก็มองด้วยความริษยา

    วันนี้เป็นวันที่ทางบริษัทจัดหาพี่เลี้ยงที่เธอเพิ่งไปสมัครเข้าทำงานจะพาพวกพี่เลี้ยงที่พวกเขาคิดว่าน่าจะรับมือกับลูกของลูกค้าได้มาทดสอบหรือให้ดูตัวอะไรทำนองนั้น

    ยืนดูได้ไม่นาน พวกเธอก็ถูกต้อนเข้าไปในปราสาทหลังโตก่อนจะเดินตรงไปยังห้องๆหนึ่งซึ่งการ์ดของปราสาทบอกให้พวกเรานั่งรออยู่ข้างนอกแล้วก็ให้พวกเราเข้าไปทำความรู้จักกับลูกของลูกค้าทีละคนๆ...เหมือนกับสอบสัมภาษณ์เลยแหะ...

    แต่...ไม่ว่าจะให้ใครเข้าไป...ก็ดูเหมือนจะสอบตกหมด...เพราะแต่ละคนที่เดินเข้าไป...ต่างก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเจ็บใจกันทั้งนั้น...บางคนถึงกับกรี๊ดจนคนอื่นๆต้องพากันยกมือขึ้นมาอุดหูแทบไม่ทัน

    เธอได้ยินผู้หญิงที่นั่งข้างๆคุยกันว่า ถ้าใครได้ทำงานที่นี่อาจสบายไปตลอดชีวิต เพราะปราสาทหลังใหญ่ๆแบบนี้ เจ้าของปราสาทต้องเป็นเศรษฐีแน่ๆเป็นใครก็อยากทำงานให้กับเศรษฐีที่รวยๆแบบนี้ทั้งนั้น ราวไปถึง พวกการ์ดที่นี่ยังหล่อๆทั้งนั้นอีก...

    ...สำหรับเธอแล้ว...ความคิดพวกนี้ งี่เง่าชะมัด...เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้มองคนจากภายนอกทั้งนั้น...ความจริงแล้ว...เธอน่าจะได้ทำงานเป็นอาจารย์ในโรงเรียนของญาติๆเสียด้วยซ้ำ...ถ้าไม่ใช่เพราะสงครามกลางเมือง...กับปัญหาในตระกูลของเธออีกมากมายทำให้ตอนนี้อะไรๆยังไม่ลงตัวจนเธอต้องมาหางานทำเพื่อช่วยครอบครัว...เห็นว่างานนี้ต้องการรับสมัครพี่เลี้ยงเธอจึงมาสมัคร...เพราะงานอื่นมันเต็มหมด...เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ก็น่าอ่อนใจ...หวังว่าเธอจะได้งานนี้...ไม่งั้นเธอจะไปทำงานเป็นซิสเตอร์ในโบสถ์วะเลย...

    แต่พอปลายตามองผู้หญิงพวกนี้แล้ว...กลิ่นบาปแห่งความโลภ อิจฉาริษยา ขี้เกียจและหยิ่งยโสหึ่งไปเลยเชียว...นี่คงเป็นกากเดนของบริษัทที่หางานทำไม่ได้สินะ...หรือไม่ก็ทำงานได้แค่เพียงวันเดียวแล้วโดนลูกค้าไล่ออกมาล่ะสินะ...มิน่าล่ะ เด็กถึงไม่ค่อยชอบเท่าไร...

    พี่เลี้ยงคนอื่นๆเริ่มทยอยเข้าไปและออกมาด้วยความผิดหวังไปทีละคนจนถึง คนข้างๆเธอและเธอเป็นคนสุดท้าย

    “พวกเธอทั้งสองคน เข้ามาพร้อมกันเลย” ชายหนุ่มผมสีทองชะโงกหน้าออกมาจากทางประตูพูดขึ้น

    หญิงสาวที่นั่งข้างๆเธอเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปอย่างมั่นใจในขณะที่ตัวเธอถอนหายใจแล้วเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไป

    “ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่ต้องการพี่เลี้ยง ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ!!!” เสียงทะเลาะวิวาทดังขึ้นมาก่อนที่ชายวัยกลางคนจะปิดประตูลง

    สึนะหันไปมองสองพ่อลูกที่ไม่สมกับวัยยืนทะเลาะกัน ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต จ้องดูเด็กชายผมสีนิล นัยน์ตาสีโลหิต ก่อนจะขมวดคิ้ว...เด็กคนนั้น...มีกลิ่นของซาตาน...

    “ไม่เอาน่า แซนซัส อย่าดื้อสิ” ชายชราเอ่ยอย่างเหนื่อยใจในขณะที่เด็กชายเชิดหน้า

    สึนะมองการกระทำนั้นก่อนจะเลิกคิ้วแล้วยกมือขึ้นปิดปากกลั้นหัวเราะเพราะท่าเชิดนั้นเหมือนกับหญิงสาวที่ยืนข้างๆเธอไม่มีผิด

    “ไม่มีปัญหาหรอกคะท่าน เดี๋ยวดิฉันจัดการเอง” หญิงสาวที่ยืนข้างๆสึนะเอ่ยอย่างมั่นใจก่อนจะปรายตามองสึนะ ด้วยสายตาประมาณว่า ...ฉันเหนือกว่า...และต้องได้งานนี้แน่นอนมาทางสึนะ...ซึ่งร่างบางก็ยิ้มให้ ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะเดินออกไปเพื่อแสดงความสามารถในการเลี้ยงเด็ก

    เด็กชายหันมามองหญิงสาวผมสีทองที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์

    “นะ...”

    “ออกไปซะ...ยัยสวะ” เด็กชายพูดก่อนจะเชิดหน้าใส่หญิงสาวที่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกด่าเสียแล้ว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้แค่นั้น...

    “มะ...แหม่ พ่อหนุ่ม พูดก่อนผู้ใหญ่แบบนี้มันไม่ดีนะ...”

    “หุบปากแล้วไสหัวออกไปซะ...ยัยสวะร่านตัณหากลับ” เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดจบก็โดนเด็กชายสวนเข้าให้เต็มๆ

    “ทะ...เธอพูด...อะไร...” หญิงสาวถึงกับหน้าซีดและเริ่มจะยิ้มแบบเทพธิดาไม่ออก แต่จะกลายเป็นยิ้มปีศาจเอง

    “หึ...สับเพล่ามากเลย พ่อ...คิดยังไงถึงได้จ้างโสเภณีมาเป็นพี่เลี้ยงไม่ทราบ...คิดจะให้มันขืนใจผมแล้วหุบเงินหนีหายไปงั้นเหรอหะ!!” เด็กชายแสยะยิ้มพูดทำให้หญิงสาวหน้าซีดขาสั่นทันทีก่อนจะโดนชายหนุ่มผมสีทองที่เรียกการ์ดมาหิ้วปีกหญิงสาวแสนสาวที่ถอดคราบกลายเป็นปีศาจไปเสียแล้วออกไปก่อนที่เธอจะทันได้ตบหน้าเด็กชาย

    ในตอนนี้ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทั้งหมดหันมามองที่สึนะที่เป็นคนสุดท้าย

    “ไม่ต้องคาดหวังอะไรมากนักก็ได้นะอีหนู” ชายหนุ่มผมสีทองกระซิบบอกเธอ

    “นั้นคำแนะนำของคุณเหรอคะ?” สึนะถามพลางหันไปมองด้วยแววตาใสซื่อ

    ชายหนุ่มยักไหล่ยิ้มๆ เหมือนกับพยายามทำให้เธอไม่คิดมาก ทำให้สึนะยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กชายที่ยืนจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชาเกินอายุในขณะที่ชายชราถูกพยุงออกไปนั่งรอข้างนอกเพราะมั่นใจว่าเธอคงโดนไล่เป็นแน่ แต่ก็อยากให้โอกาสเธอจึงปล่อยไป เช่นเดียวกับชายหนุ่มผมสีทองที่เดินออกไปเช่นกัน  ทำให้ทั้งห้องเหลือแค่เธอกับเด็กชายตรงหน้าเท่านั้น

    “ฉันไม่ต้องการพี่เลี้ยง...ออกไปซะ” เด็กชายบอกน้ำเสียงเย่อหยิ่ง

    “ก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ต้องการพี่เลี้ยง แต่เธอต้องการเพื่อนหรือพี่สาวมากกว่า ใช่ไม...แซนซัส”สึนะอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงภายในใจของเด็กชาย ว่าเขาเหงาและต้องการอะไร ซึ่งชายชราผู้เป็นพ่อก็พยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการ แต่ก็ผิดพลาดหลายครั้งจนเด็กชายต้องมาเป็นคนเลือกเองอย่างนี้

    “อย่ามาเรียกชื่อชั้น ยัยสวะตัวเล็ก” เด็กชายคำราม

    สึนะเริ่มคิ้วกระตุกเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาเรียกเธอว่าตัวเล็ก แต่เธอก็ต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้ เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เด็กที่ไม่รู้จักตัวเธอ ทำให้เธอยิ้มสู้ลูกสิงโตตัวน้อย(?)

    “จะออกไปดีๆ หรือว่าจะตายอยู่ที่นี่” เด็กชายกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับเปลวเพลิงที่ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของเขา แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ...หญิงสาวตรงหน้า ดูจะไม่ตกใจเหมือนกับคนอื่นๆที่เห็นพลังของเขาเลยสักนิด...แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขากลับสั่งให้เปลวเพลิงพุ่งใส่สึนะ

    สึนะกรอกตาก่อนจะสั่งให้เปลวเพลิงที่พุ่งมาทางเธอหยุดแล้วกลืนเปลวเพลิงเหล่านั้นลงท้องไปก่อนจะปล่อยเปลวเพลิงของเธอใส่แซนซัสเป็นการสั่งสอน

    เด็กชายที่โดนเปลวเพลิงเข้าไปไม่ได้รู้สึกร้อนแต่กลับรู้สึกว่าขาของเขามันเต้นเองไม่ยอมหยุด ถึงแม้เขาจะพยายามสั่งมันให้หยุดสักเท่าไร มันก็ไม่ยอมเชื่อฟังจนเด็กชายเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจและรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ

    สึนะใจอ่อนทันทีเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กชายก่อนจะปล่อยเปลวเพลิงใส่แซนซัสอีกครั้งแล้วลูบหัวปลอบเด็กชาย

    “อย่าร้องแซนซัส ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ ฉันก็แค่สั่งสอนเด็กไร้มารยาทที่ปากดีไม่เหมาะกับตัวก็เท่านั้น” สึนะพูด แต่ก็เผลอว่าเด็กชายไปนิดหน่อยจนเจ้าตายเงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

    “นี่ฟังนะ...อายุอย่างเธอน่ะ...ไม่ควรไปพูดแบบนั้นกับผู้ใหญ่เขานะ รู้มั้ย...เพราะมันอาจทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายได้นะ” สึนะพูดด้วยความเป็นห่วงซึ่งในน้ำเสียง สีหน้าและแววตาของหญิงสาว ไม่ได้มีความกลัวหรือความรู้สึกอื่นๆแฝงอยู่เลย ...เธอเป็นห่วงเขาอย่างจริงใจ...

    “หึ...อย่างฉันเนี้ยนะ จะตกอยู่ในอันตราย...เจ้าพวกนั้นไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอก” แซนซัสพูดอย่างเย่อหยิ่งอีกครั้ง จนสึนะคอดว่า แซนซัสตอนร้องไห้ดูน่ารักกว่าตอนนี้เยอะ

    “ถ้าคิดว่า อิทธิพลของพ่อเธอช่วยได้หมดล่ะก็...คิดผิดคิดใหม่เถอะเด็กน้อย” สึนะพูดอย่างเหนื่อยใจพลางถอนหายใจ

    “ใครว่าล่ะ...ถ้าใครมันคิดไม่ซื่อกับฉัน ฉันก็แค่จัดการฆ่ามันซะก็หมดเรื่อง” แซนซัสพูดพลางแสยะยิ้มราวกับปีศาจจนโดนสึนะดีดหน้าผากไปทีหนึ่งทำให้เด็กชายหุนมามองด้วยความโกรธ

    “อยากโดนอีกไมล่ะ” สึนะพูดพลางโชว์เปลวเพลิงที่ฝ่ามือของเธอทำให้แซนซัสเบิกตากว้าง

    “คุณเอง ก็มีเปลวไฟดับเครื่องชน” แซนซัสอุทานอย่างตื่นเต้น เพราะนอกจากเขาและรุ่นที่ 9 แล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นใครมีไฟดับเครื่องชนแบบเขาอีกโดยไม่สนใจคำขู่ของสึนะ

    “แต่ผมไม่เห็นทำได้เหมือนคุณเลย” เด็กชายพูดด้วยความไม่พอใจซึ่งดูเหมือนเด็กชายจะสุภาพกับเธอขึ้นมาบ้างแล้วทำให้สึนะดับไฟที่ฝ่ามือลง

    “อืม...มันก็แล้วแต่น่ะนะ ว่าตอนที่เธอใช้เปลวเพลิงน่ะ เธอรู้สึกยังไง...ถ้าเธอรู้สึกอยากฆ่าตอนปล่อยเปลวเพลิงออกมา เปลวเพลิงนั้นก็จะฆ่าและทำร้ายผู้คนตามที่เธอต้องการ ถ้าเธอต้องการรักษาหรือปกป้อง เปลวเพลิงนั้นก็จะทำตามที่เธอต้องการ” สึนะอธิบายสีหน้ายิ้มแย้มอย่างอ่อนโยนและจริงใจ

    “คุณจะบอกว่า เปลวเพลิงมันจะทำตามความปรารถนาของพวกเรางั้นเหรอฮะ” แซนซัสสรุปถามแววตาเป็นประกายเมื่อเขาเริ่มรู้สึกถูกใจพี่สาวคนนี้

    “หัวไวดีนี้หนุ่มน้อย” สึนะพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะขยี้ผมสีรัตติกาลนุ่มๆนั้นอย่างสนุกมือ

    “แต่มันก็ควบคุมยากนะ...เพราะส่วนใหญ่เปลวเพลิงจะใช้ได้เฉพาะตอนต่อสู่หรือป้องกันตัวเท่านั้น...ทำให้การใช้ในการรักษาหรืออย่างอื่นนั้นยากมาก...ต้องฝึกและใช้ความพยายามสูงเลยล่ะ” สึนะอธิบายต่อ

    “พวกเราคงเริ่มทำความรู้จักกันในตอนแรก ไม่ค่อยดีสักเท่าไร... ผมชื่อแซนซัส” เด็กชายตัดสินใจแนะนำตัวทำความรู้จักกับหญิงสาวตรงหน้าอย่างเป็นทางการ

    “ยินดีที่ได้รู้จัก แซนซัส ฉันชื่อ สึนะโยชิ โนเวีย หรือจะเรียวว่า พี่สึนะหรือพี่สาวก็ได้นะ” สึนะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเช่นกัน

    “หวังว่าคุณคงไม่หักหลังผมเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านๆมาหรอกนะครับ” แซนซัสถามเพื่อความแน่ใจ

    “ทำไมฉันจะต้องหักหลังเธอด้วยล่ะ เราเพิ่งรู้จักกันนะ?” สึนะถามกลับด้วยใบหน้าใสซื่อจนเด็กชายรู้สึกเหมือนกับหัวใจมันเป็นไม่เป็นจังหวะ

    “ก็คนพวกนั้น ต่างก็กลัวผม หาว่าผมเป็นปีศาจเพราะผมใช้ไฟพวกนี้ได้ หรือไม่ก็ พอได้เงินจากพ่อแล้ว พวกเขาก็จะทิ้งผมไป ไม่มีใครจริงใจกับผมเลยสักคน” แซนซัสพูดเสียงเศร้าซึ่งสึนะก็พอเข้าใจว่าสังคมที่แซนซัสอยู่นั้นมันมีแต่พวกไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น

    “รู้มั้ย...ใครๆก็หาว่าฉันเป็นแม่มดเพราะฉันใช้ไฟพวกนี้ได้เหมือนกัน...เพราะฉะนั้น ฉันเข้าใจเธอดีนะ ว่าเธอคงไม่อยากไว้ใจใครสักเท่าไร แต่เธอไว้ใจฉันได้นะ เพราะว่าฉันจะไม่มีวันทรยศหักหลังเธอ และไม่มีวันทิ้งเธอไปไหน ฉันจะอยู่กับเธอจนถึงวันที่เธอไม่ต้องการฉันเลยล่ะ” สึนะพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจโดยที่เธอยกมือขึ้นลูบหัวปลอบเด็กชายที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาถูกทอดทิ้ง รวมไปถึงความกลัวในสายตาของคนรอบข้าง

    “สัญญานะ” ดวงตาสีแดงเงยขึ้นมาสบดาตากลมโตสีน้ำตาล  เป็นประกายอย่างมีความหวัง

    “แน่นอน  ฉันสัญญา” สึนะตอบตกลงพลางยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเด็กชายที่ยื่นนิ้วก้อยของตนมาเกี่ยวกับของเธอด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนเด็กๆในวัยเดียวกัน...ยิ้มสมวัยเสียที...

    แต่ที่แปลกใหม่สำหรับเด็กชายคงเป็นการยกนิ้วโป้งขึ้นมาชนการอีกทบทำให้แซนซัสเงยหน้าขึ้นมองสึนะด้วยความสงสัย

    “มันแทนความหมายว่า คำสัญญาที่ไร้ช่องว่าง เมื่อสัญญาแล้วจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัด ถ้าผิดสัญญาเมื่อใด เจ้าผู้ผิดสัญญาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต...มันเป็นการให้สัญญาของตระกูลฉันน่ะ” สึนะตอบเสียงใสทำให้แซนซัสยิ้มด้วยความดีใจที่ทำให้เขามั่นใจขึ้นมาอีกนิดว่าสึนะจะไม่หักหลังเขาเหมือนคนอื่นๆและจะทำตามสัญญาอย่างแน่นอน

    ...น่าแปลก...ที่เขาเชื่อจะเธอคนนี้จนหมดหัวใจ...

    “ใครกันนะ มองว่าเด็กน่ารักๆอย่างเธอเป็นปีศาจไปได้”สึนะพูดยิ้มๆพลางลูบหัวเด็กชายอย่างเอ็นดู ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะติดใจกับผมนุ่มๆของเด็กชายเสียแล้ว

    “คุณไม่เห็นว่าผมเป็นปีศาจหรือ ทั้งๆที่ผมตั้งใจจะทำร้ายคุณนะ ถึงจะไม่สำเร็จ แต่คุณ...”แซนซัสพูดยังไม่ทันจบนิ้วเรียวก็มาจรดที่ริมฝีปากของเขาเป็นเชิงห้ามให้หยุด

    “อย่ามองคนในแง่ร้ายแบบนั้นไปซะหมดสิ...เธอน่ะไม่ใช่ปีศาจหรอกนะ...เพราะถ้าเธอเป็นปีศาจ...คนอื่นๆก็เป็นปีศาจเช่นกัน...เธอน่ะไม่ได้ต่างไปจากคนอื่นๆเลยสักนิด...และถ้าเธอกลายเป็นปีศาจ มันก็มาจากผู้คนรอบช้างนั้นแหละที่ทำให้เธอกลายเป็นแบบนั้น สำหรับฉันน่ะ เธอเป็นคนดีจะตาย” สึนะพูดปลอบแต่ดูเหมือนจะสั่งสอนแซนซัสเสียมากกว่า

    “คุณเพิ่งจะรู้จักผมเองนะ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นคนดีน่ะ” แซนซัสถามถึงจะรู้สึกดีใจกับคำปลอบของหญิงสาวก็ตาม

    “อืม...นั้นสินะ...เพราะว่าฉันเชื่อใจเธอยังไงล่ะ”สึนะตอบยิ้มๆ

    “คุณมองโลกในแง่ดีมากเกินไปแล้ว ระวังอายุจะไม่ยืด” แซนซัสเตือนด้วยใบหน้าเซ็งๆกับคำตอบของสึนะ

    “ฉันก็มองโลกในแง่นี้มาตั้งแต่เด็กๆ ก็อยู่รอดได้จนมาถึงตอนนี้นี่แหละ”สึนะพูดก่อนจะหยิกแก้มเด็กชายด้วยความหมั่นไส้ปนเอ็นดู

    “อ่า~...อำอะไออะ (ทำอะไรน่ะ)” แซนซัสพูดเสียงอ้อมแอ้มพลางจับมือของสึนะที่ยังดึงแก้มของเขาอยู่ก่อนจะปล่อยเสียที

    “เล่นอะไรเป็นเด็กๆ” แซนซัสพึมพำ

    “เธอเป็นผู้ใหญ่ตายล่ะ เด็กน้อย” สึนะพูดก่อนจะอุ้มแซนซัสจนตัวลอยทำให้แซนซัสตกใจจนต้องกอดคอของเธอไว้

    “เห็นมั้ย...เธอน่ะยังเด็กกว่าฉันมากนะ...ฉันมีแรงเยอะกว่าเธอจนสามารถยกเธอได้เลยล่ะ” สึนะพูดยิ้มๆก่อนจะสังเกตใบหน้าของเด็กชายใกล้ๆที่ตอนนี้เด็กชายก้มหน้าลงมาใกล้ๆกับใบหน้าของเธอ ซึ่งใบหน้าของแซนซัส ทำให้เธอนึกถึงใครบางคน

    “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องด้วยความตกใจจนสะดุดขาตัวเองล้มลงไปนอนกับพื้นโดยมีแซนซัสอยู่บนตัวของเธอ และที่เธอตกใจก็เพราะ จู่ๆเด็กชายก็ซุกใบหน้าที่ต้นคอของเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่เป่าลดต้นคอทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ

    “ไม่เป็นอะไรนะครับ?”แซนซัสเงยหน้าขึ้นมาถามเสียงเป็นห่วง

    “อะ...เอ่อ...ไม่เป็นไร” สึนะตอบพลางยิ้มแห้งๆด้วยความรู้สึกอายที่เสียงฟอร์มต่อหน้าเด็ก

    “ดีแล้วครับ” แซนซัสยิ้มตอบและพอมาสังเกตดูดีๆแล้ว แซนซัสในตอนนี้กำลังเอามือเท้ากับหน้าอกของเธอยู่ ทำให้สึนะหน้าขึ้นสีระเรื่อ แต่ก็ไม่คิดอะไรเพราะอีกฝ่ายเป็นแค่เด็ก

    แซนซัสมองใบหน้าขึ้นสีระเรื่อของหญิงสาวตรงหน้าพลางยิ้มอย่างถูกใจก่อนจะขยับมือนิดหน่อยก็ทำให้มีเสียงแปลกๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากคู่สวยได้...แต่เขายังไม่ทำอะไรสึนะตอนนี้หรอก...เพราะดูจากรูปการแล้ว สึนะคงจะเก่งกว่าเขาในตอนนี้อยู่มาก...เอาไว้เขาโตก่อนเถอะ...

    “นี่...ขอผมเรียกคุณว่าพี่สาวนะฮะ” แซนซัสถามด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา

    “อืม” สึนะตอบตกลงด้วยรอยยิ้มก่อนจะสะดุ้งเมื่อเด็กชายซุกใบหน้าลงไปที่กลางอกของเธอแล้วกอดเธอแน่น

    “ขอผมกอดคุณ แบบนี้สักพักนะฮะ พี่สาว” แซนซัสพูดพลางยกยิ้มอย่างมีความสุขกับความอบอุ่นที่เขาได้รับจากหญิงสาวตรงหน้าซึ่งแซนซัสก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

    “อบอุ่นจังเลย” แซนซัสพึมพำทำให้สึนะรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่แซนซัสปล่อยออกมา...ความปรารถนา...ที่ต้องการความรักความอบอุ่นจากอกแม่...

    ร่างบางยกมือขึ้นลูบหัวเด็กชายในขณะที่อีกมือยกขึ้นกอดตอบแซนซัส

     

     

    ...และนั้น...ก็คือการพบกันครั้งแรก...

    ...แต่พอมารองคิดดูอีกที...

    ...เธอไม่น่ามาทำงานนี้แล้วสัญญาแบบนั้นกับแซนซันเลย...

     

    ***********************************************************************

     

    ...พี่สาวคือรักแรกของผม...

    “เธอไม่ใช่ปีศาจหรอกนะ”

    ...พี่สาวเป็นเพียงคนเดียวที่จริงใจกับผม...

    “ฉันเชื่อใจเธอ”

    ...พี่สาวมองเห็นตัวจริงของผม...และดูแลปกป้องผมมาตลอด...

    “ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทิ้งเธอ”

    ...พี่สาว มอบความรักความอบอุ่นให้ผม...

    “เก่งมากแซนซัส...เดี๋ยวฉันทำกับข้าวฉลองให้นะ หรือว่าจะไปเที่ยวฉลองกันดี”

    ...พี่สาว...

    “สุขสันต์วันเกิดแซนซัส โตขึ้นอีกปีแล้วนะ”

    ...พี่สาว...

    “พ่อเขารักแซนซัสนะ ถึงจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่เขาก็รักแซนซัสนะ”

    ...พี่...

    “ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอหรอกนะ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะทิ้งเธอ เพราะเธอยังมีฉันอยู่คนหนึ่ง ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนหรอก”

    ...พี่ฮะ...

    “ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะไม่ทิ้งเขาหรอกคะ”

    ...ขอบคุณฮะพี่...แต่ทำไม...

    “ฉันต้องไปแล้ว”

    ...ทำไม...

    “อย่าห่วง...ฉันจะติดต่อเธอตลอดเวลาเลย...รับรองว่าต่อให้ฉันไปเธอก็จะไม่เหงาหรอก”

    ...ทำไมกัน...

    “ฉันจะกลับมาก่อนเธอคิดถึงเสียอีก”

    ...ทำไม...

    “สงสัยกลับมาครั้งต่อไป เธอคงโตเป็นหนุ่มใหญ่ไปแล้วล่ะมั้ง”

    ...ทำไม พี่ต้องทิ้งผมไปด้วย!!!!...

    “สึนะโยชิ  โนเวีย ตายไปแล้ว”

    ...ไม่จริง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!...

     

     




    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    เขาว่าฝากไว้ก่อนเพราะมันเป็นแค่ต้นแบบ...เขาว่าพี่น้องคนใดมีความสามารถมาต่อได้(ซึ่งไรเตอร์ก็คือหนึ่งในนั้น)ก็สามารถต่อมันไปได้เลย...เอาไว้ถ้าไรเตอร์พร้อมจะมาลองตอนที่ 1 นะเจ้าคะ และเจอกันนะเจ้าคะ~













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×