ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Jurassic world : What if we love ถ้าพวกเรารักกัน

    ลำดับตอนที่ #1 : intro

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 59






    Intro
     



     
     
     
    “โดยธรรมชาติของสัตว์หลายชนิดเมื่อแรกเกิด โดยเฉพาะหลังจากที่เพิ่งฟักออกจากไข่ หากมันพบเห็นใครหรือสิ่งไหนเป็นสิ่งแรก พวกมันจะคิดว่าสิ่งนั้นคือพ่อแม่ของพวกมันและมักจะมีพฤติกรรมเลียนแบบทำตามรวมทั้งเชื่อฟัง”
     
    คอนราด  โลเรนซ์
     
     
     
     


     
     
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++
     
     


     
     
     
     
    “มันจำเป็นต้องทำจริงๆเหรอดร.?” ร่างที่นอนแผ่อยู่บนเตียงผ่าตัดเอ่ยถาม ดร. เฮนรี่  วู ด้วยความไม่แน่ใจ ในทางกลับกัน โอเวน  เกรดี แทบจะไม่เห็นด้วยกับการผ่าตัดในครั้งนี้ เขามองว่ามันไม่เห็นจะมีความจำเป็นเลยสักนิด แล้ว ถ้าเขาไม่เห็นด้วย ทำไมเขาจะต้องมานอนแผ่บนเตียงผ่าตัดนี้รอให้ดร.วู ทำอะไรก็ไม่รู้กับร่างกายของเขาด้วยล่ะ?
    “ก็ ถ้าคุณจะไม่เข้ารับการผ่าตัด ผมก็คงต้องบอกฮอสกินส์ ว่าเขาเลือกคนผิด” ดร.วู ทำท่าจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกเพื่อรายงานให้ วิค ฮอสกินส์ได้ทราบ แต่ทว่าโอเวนกลับจับข้อมือของเขาไว้เสียก่อน
    “มันจะไม่แย่ ใช่มั้ย? ผมหมายถึง ผมจะไม่กลายเป็น สัตว์ประหลาดใช่มั้ย?” โอเวน ไม่แน่ใจกับการผ่าตัดในครั้งนี้ หรือให้ถูกคือเขากังวลจนแทบจะนอนอยู่นิ่งๆสงบๆไม่ได้
    “คุณกังวลมากเกินไป เบสจีโนมของคุณจะยังคงเป็นของมนุษย์เหมือนเดิม...ผมหมายถึง คุณยังคงเป็นมนุษย์เหมือนเดิม เกือบทุกอย่าง ผมแค่จะปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย ที่จริง ต้องเรียกว่าเพิ่มความสามารถอะไรให้คุณ นิดหน่อย เพื่อความอยู่รอด”ดร.วู พยายามพูดให้โอเวนคลายความกังวล แต่มันไม่ได้ทำให้โอเวนรู้สึกคลายความกังวลเลยสักนิด ยกเว้นตรงส่วนที่ว่าเพื่อความอยู่รอด มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
    โอเวนไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาถูกบังคับให้ออกจากการเป็นทหารเรือ แล้วยังถูกจับยัดมารับหน้าที่ฝึกและเลี้ยงไดโนเสาร์กินเนื้ออีก...รู้สึกว่าจะเป็นสายพันธุ์แวโลซีแร็ปเตอร์เสียด้วย...
    อันที่จริงงานนี้เขาจะปฏิเสธก็ได้ ถ้าเขาอยากจะอดตายล่ะก็นะ
    เป็นที่รู้กันว่าฮอสกินส์กับบริษัทอินเจนนั้นมีอำนาจมากขนาดไหน เพียงแค่พวกนั้นต้องการ โอเวนจะกลายเป็นบุคคลต้องห้ามของทุกๆกองทัพหรือทุกๆสถานที่ ที่เขาจะไปสมัครทำงาน  พวกนั้นบีบบังคับทางเลือกของเขาให้เขาเหลืองานที่สามารถทำได้แค่งานเดียว และถ้าเขาไม่รับงานนี้ นั้นสินะ เขาก็คงจะต้องอดตายไปตามระเบียบ
    อย่างที่ดร.วูพูด สิ่งที่โอเวนกำลังจะทำต่อไปนี้คือการกระทำเพื่อความอยู่รอด
    “เอา ล่ะ ผ่อนคลายเข้าไว้ เดี๋ยวผมจะให้คุณสูดอ็อกซิเจน คุณจะได้หลับสบาย เชื่อเถอะ มันจะผ่านไปเร็วเสียจนคุณคิดว่าไม่มีอะไรเกินขึ้น” ดร.วูบีบที่ไหล่ของโอเวนคล้ายการให้กำลังใจก่อนจะหันไปเตรียมและตรวจเช็ค อุปกรณ์ให้เรียบร้อย
    การผ่าตัดนี้ดร.วูต้องทำเพียงคนเดียว เพราะมันเป็นความลับของเขากับทางอินเจนทำให้เขาไม่มีผู้ช่วยและคิดว่าคงต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนานเป็นแน่
    “บอกหน่อยดร. ที่พวกคุณให้ผมมาผ่าตัดอะไรนี่เพราะพวกคุณไม่เชื่อในศักยภาพของผมอย่างงั้นเหรอ?”
    “พวกเราไม่ได้ไม่เชื่อในศักยภาพของคุณ แต่พวกเราไม่เชื่อในศักยภาพของมนุษย์”
    “แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ”
    “คุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทั้งคุณและผมต่างก็รู้ดีว่าสัตว์ก่อนประวัติศาสตร์พวกนี้มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ธรรมชาติคือสิ่งที่ไม่แน่นอนและเราไม่อาจเข้าไปควบคุมมันได้ ถึงพวกเราจะทำให้พวกมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะควบคุมมันได้เต็มร้อย คุณก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพาร์คของจอห์น แฮมม่อนด์นี่”
    “ใช่ และผมก็สงสัยว่าทั้งๆที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา ทำไมพวกเขาถึงยังคงเปิดพาร์คต่อกันล่ะ?”
    “อาจจะเป็นเพราะวิทยาศาสตร์ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์หรือความต้องการของมนุษย์ ล่ะมั้ง”
    “ผมว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง”
    “ผมก็ว่างั้น แต่ที่จริงแล้ว มันคือสิ่งที่จอห์น แฮมม่อนด์ได้ขอกับไซม่อน มัซรานิไว้ก่อนตายต่างหาก”
    ดร.วูหันกลับมาหาโอเวนพร้อมกับหน้ากากอ็อกซิเจนในมือ เขาจัดการครอบหน้ากากนั้นลงบนใบหน้าของโอเวนก่อนจะหมุนเปิดอ็อกซิเจนให้เข้ามาในหน้ากาก ผลพวงจากอ็อกซิเจนบริสุทธิ์จำนวนมาก ทำให้ดวงตาของโอเวนเริ่มหนักอึ้ง สติเริ่มเลือนรางจนกระทั่งโอเวนหลับไป...โดยที่ไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของดร.วู...
     
     




     
     
     
    12  ชั่วโมงหลังจากนั้น
    โอเวนตื่นขึ้นมาบนเตียงผ่าตัดในห้องทดลองห้องเดิม เขาหันไปมองด้านข้างก็พบกับดร.วูที่กำลังเก็บอุปกรณ์อยู่ เขารู้สึกสบายตัว แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกๆเช่นเดียวกัน มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
    “อ้าว ฟื้นแล้วเหรอคุณเกรดี ผมผ่าตัดให้คุณเสร็จได้ 2 ชั่วโมงกว่าๆแล้ว รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?” ดร.วู ที่หันมาตอนโอเวนกำลังขยับตัวถาม
    “ก็...ไม่รู้สิ มันรู้สึกตัวเบาแปลกๆ และ...นี่คุณทำอะไรกับร่างกายของผมบ้างเนี้ย?”โอเวนรู้สึกสงสัย แต่เขาไม่รู้ว่าเขาสงสัยอะไร เขารู้สึกเพียงแค่มันมีอะไรแปลกๆ ไม่ชอบมาพากลก็เท่านั้นเอง
    “ก็แค่การผ่าตัดเองคุณเกรดี ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง อีกอย่างนึง มันผ่านไปแล้วและมันผ่านไปได้ด้วยดีเสียด้วย คุณไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”ดร.วูหันมามองโอเวน ใบหน้าของเขาอาจดูสงบนิ่งเหมือนเรื่องที่เขาพูดมันเป็นเรื่องปกติ แต่โอเวนก็ยังคงรู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่ดีซึ่งสิ่งที่โอเวนรู้สึกมันแสดงออกทางสีหน้าเสียจนดร.วูรับรู้ “บางทีคุณอาจจะรู้สึกแปลกๆเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้รับการผ่าตัด ใช่มั้ย?”
    “ใช่มันเป็นครั้งแรก...บางที คุณอาจจะพูดถูก ผมคงคิดมากไปเอง” โอเวน เลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกๆ แต่ทว่าสิ่งที่ดร.วูพูดนั้น มันสมเหตุสมผลพอที่จะทำให้เขาไม่ใส่ใจมันอีก 
    “งั้นก็ดี เดี๋ยวผมจะติดต่อไป หลังจากเราสร้างไดโนเสาร์ของคุณเสร็จแล้ว”
    “ไดโนเสาร์ของผม...เฮอะ...ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ”
    “หึหึหึ ในระหว่างนี้ คุณก็ไปพักผ่อนเสียเถอะนะ คุณมีที่พักแล้วใช่มั้ย?”
    “มีแล้วดร.”
     
     
     


     
     
    ++++++++++++++++++++++++++
     
     


     
     
     
    เวลาผ่านไปไม่ทราบแน่ชัด(?)
     
     
    ดร.วู เรียกโอเว่นมายังแล็บเพื่อมารับไข่ไดโนเสาร์ไปดูแลซึ่งไข่ไดโนเสาร์ที่ว่ามีทั้งหมด 4 ฟอง
    “ที่จริงแล้ว คุณต้องรับไข่ไปดูแลทั้งหมด 6 ฟอง แต่วันนี้มารับไปแค่ 4 ฟองก่อน ส่วนอีก 2 ฟอง เราต้องสังเกตการณ์สักพัก ไว้มันพร้อมเมื่อไร เราจะติดต่อไป” ดร.วูกล่าวในขณะที่กำลังตรวจเช็คความเรียบร้อยของไข่ก่อนออกเดินทาง
    “ 6 ฟอง? แค่ 4 ฟองผมยังไม่คิดว่าจะเลี้ยงรอดเลย แล้วทำไมผมต้องเอาไปดูแลตั้งแต่อยู่ในไข่ด้วยล่ะ? ไว้ตอนมันฟักแล้วค่อยเรียกผมมาพามันไปไม่ดีกว่าเหรอ?”
    “ว่ากันว่าสัตว์แรกเกิดมักจะผูกพันธุ์กับสิ่งแรกที่พวกมันเห็น ถ้าอยากให้พวกมันเชื่องหรือไว้ใจ ก็ต้องอยู่กับพวกมันตั้งแต่แรกเกิดเลยจึงจะมีโอกาสได้ผลมากที่สุด”
    “ใช่ และที่คุณพูดมาน่ะ คุณพูดยังกับจะส่งผมไปเป็นแม่ของพวกมันยังงั้นแหละ”
    “ก็ประมาณนั้น ฮะๆๆๆๆ” ดร.วู หัวเราะก่อนจะเดินไปสั่งงานกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ปล่อยให้โอเวน ยืนมองไข่ทั้ง 4 ฟองตรงหน้าที่เขาต้องลำเลียงใส่กล่องขนย้ายไปยังกรงที่อยู่อีกฟากนึงของเกาะอิสลา นูบลาร์ ด้วยระยะทางที่ไกลและเส้นทางที่ไม่ค่อยจะราบลื่น  ทำให้เขาค่อนข้างกังวลว่าเขาจะขนย้ายไข่พวกนี้โดยที่พวกมันไม่แตกไปเสียก่อนได้หรือเปล่า  ด้วยสีหน้ากังวลของโอเวนทำให้ดร.วูต้องเข้ามาชวนคุยเพื่อคลายความกังวล “คุณกำลังกังวลเรื่องอะไรงั้นเหรอคุณเกรดี?”
    “หืม ก็แค่ กำลังกังวลว่าผมจะขนย้ายไข่พวกนี้ไปยังกรงที่พวกมันต้องอยู่ โดยที่พวกมันไม่แตกได้หรือเปล่า ก็เท่านั้นเอง”
    “กรงที่พวกมันต้องอยู่? ผิดแล้วคุณเกรดี พวกมันไม่ได้จะถูกขนย้ายไปยังกรงที่พวกมันต้องอยู่ ถ้าทำแบบนั้น เราให้คนของเราขนไปจะง่ายเสียกว่า แต่เราจะให้พวกมันไปอยู่ที่บ้านของคุณ” โอเวนหันไปมองหน้าดร.วูแทบจะทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ
    “บ้านของผม? ทำไม?”
    “อย่างที่ผมเคยพูดไปว่าสัตว์แรกเกิดมักจะผูกพันธุ์กับสิ่งแรกที่พวกมันเห็น ถ้าอยากให้พวกมันเชื่องหรือไว้ใจ ก็ต้องอยู่กับพวกมันตั้งแต่แรกเกิดเลย และไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะคุณเกรดี คุณต้องอยู่กับพวกมันอย่างใกล้ชิด ถ้าทำแบบนั้น มันจะง่ายต่อการฝึกและโอกาสรอดของคุณก็จะสูงขึ้น”
    “หรือไม่ก็โอกาสรอดลดน้อยลง”
    “หึหึหึ ไม่หรอก ผมอุตส่าห์ทำการผ่าตัดให้คุณ โอกาสรอดมันก็ต้องสูงขึ้นสิ”
    “คุณให้ผมเลี้ยงและฝึกสอนไดโนเสาร์กินเนื้อ ไม่ว่าจะคิดยังไงโอกาสรอดของผมก็น้อยอยู่ดี”
    “นั้นก็ใช่ เถอะน่า มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอก คิดซะว่ากำลังเลี้ยงสุนัขป่าก็แล้วกัน”
    “มันไม่เหมือนกันนะดร. พวกคุณให้ผมเลี้ยงแวโลซีแร็ปเตอร์นะ...ไม่ได้ช่วยอะไรเล๊ย~
    “ฮะๆๆๆๆ”
    “แล้วพวกมัน...จะไม่หนีเหรอดร.?”
    “ไม่ต้องห่วงคุณเกรดี พวกมันหนีจากคุณไม่ได้หรอก เพราะคุณกำลังจะเป็นแม่ของพวกมันนี่ พวกมันไม่หนีแม่ของตัวเองไปหรอก”
    “...ตลกตายล่ะดร.”
    “ฮะๆๆๆๆๆๆๆ”
    หลัง จากคุยกันเสร็จ ดร.วูก็บอกกับโอเวนว่าเขาตรวจเช็คไข่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกมันพร้อมสำหรับการออกเดินทาง ไข่ทั้ง 4 ฟองถูกลำเลียงใส่ลังไม้ขนาดกลางที่ภายในเต็มไปด้วยขี้เลื่อยและเศษกระดาษ เพื่อให้ความอบอุ่นกับไข่และช่วยลดแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นเวลารถแล่น แต่ถ้ารถล้มหรือไข่กระเด็นออกจากลังล่ะก็...บอกลาไดโนเสาร์น้อยได้เลย...
    โอเวนขับรถอย่างระมัดระวังเท่าที่จะทำได้จนกระทั่งมาถึงบ้านพักของเขาที่อยู่เกือบอีกฟากนึงของเกาะ เขาพักอยู่ในบ้านไม้ที่ข้างๆมีรถพ่วงอยู่หนึ่งคัน  ทิวทัศน์รอบบ้านเขาไม่มีอะไรมากนอกจากป่ากับทะเลสาบ ถือว่าทำเลดี เขาได้แต่หวังว่ามันจะเหมาะกับการเลี้ยงไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้...อันที่จริงมันก็เหมาะนั้นแหละ แต่ในตอนนี้เขาโคตรจะคิดมากเรื่องต้องเลี้ยงดูเจ้าพวกนี้สุดๆ 
    โอ เวนไม่ใช่นักชีวะวิทยาหรือนักบรรพชีวินวิทยาเสียหน่อย เขาจะได้รู้และเข้าใจเรื่องไดโนเสาร์อย่างถ่องแท้ แต่นี่เขาเป็นทหารเรือ เขารู้แค่เรื่องรบกับการต่อสู้เท่านั้น ถึงแม้ว่าก่อนจะมาที่นี่เขาเคยพบกับดร.อลัน แกรนท์มาแล้วเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแวโลซีแร็ปเตอร์ แน่นอนว่าอลันบอกว่าเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ให้ความช่วยเหลือโดยการให้ข้อมูลกับเขามามากพอควร และก่อนกลับบ้าน ดร.วูได้ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับเขาหลายอย่าง เกี่ยวกับเรื่องของไดโนเสาร์ที่เขาต้องเลี้ยงแต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี ไหนจะเรื่องที่พอพวกมันโตขึ้นแล้วพวกมันจะต้องพยายามหนีไปจากเขาอีก
    โอเวนรู้ดีว่าไดโนเสาร์ไม่มีทางเชื่อง พวกมันเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยิ่งโอเวนคิดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเครียดมากขึ้นเท่านั้น
    โอเวน สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว แล้วทำใจ ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป เขาสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานและจะทำมันอย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้รับปากว่าจะไม่ทำงานพลาด พวกนั้นอยากจะผิดหวังก็เชิญตามสบายเพราะเขาได้พยายามเต็มที่แล้ว 
    โอเวนยกลังไม้เข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเลเพราะต้องระมัดระวังไข่ที่อยู่ภายใน ชายหนุ่มยกลังเข้ามาวางไว้บนเคาท์เตอร์ในครัว พอเขาเปิดฝาลังออกก็ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อไข่ทั้ง 4 ฟองยังอยู่ครบและยังไม่มีใบไหนแตก บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไป  แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องมาฉุกคิดว่าจะต้องทำยังไงต่อไปกัน?
    เมื่อมาลองนึกๆดูแล้ว ไข่ทุกๆฟองในห้องแล็บต้องอยู่ในตู้อบหรือไม่ก็ใต้แสงไฟที่จะให้ความอบอุ่น...
    “ความอบอุ่น ต้องทำรัง” โอเวนรีบตรงดิ่งไปที่ห้องนอนของตัวเองเพื่อทำรังสำหรับนำไข่มาวาง แต่เขาก็ตระหนักได้ว่า ถ้าเขาต้องนอนเฝ้าไข่บนเตียงแคบๆแบบนี้ เขากลัวว่าเขาจะเผลอนอนทับไข่เอา
     โอ เวนจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นห้องนั่งเล่นของเขาแทน เขาทำการเคลียร์พื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นพื้นว่างๆ โอเวนเดินกลับเข้าไปหยิบหมอนกับผ้าห่มในห้องนอนออกมาข้างนอก เขานำหมอนมาวางกองกันให้มันสภาพออกมาดูเหมือนรังมากที่สุดแล้วเอาผ้าห่มมาปู ทับอีกที
    เมื่อจัดการเสร็จแล้ว โอเวนก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อไปยกลังบรรจุไข่ออกมา ทุกๆครั้งที่เขาออกเดิน เขารู้สึกเกร็งไปทั้งตัวเพราะกลัวว่าเขาจะพลาดทำลังไข่ตกแล้วมันจะทำให้ไข่แตก โชคยังดีที่เขาไม่พลาด
     โอเวนค่อยๆวางลังไม้ลงข้างๆรังที่เขาทำไว้ ชายหนุ่มค่อยๆนำไข่ทั้ง 4 ฟองออกมาวางบนรังทีละฟองๆอย่างเบามือ
    “เฮ้อ~” โอเวนถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่อกเมื่อเขาจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาค่อยๆเอนตัวลงนอนแผ่หลาบนพื้นข้างๆรังอย่างสบายใจ แต่แค่เปราะหนึ่งเท่านั้น
    โอเวนหันมามองไข่ทั้ง 4 ฟองที่วางอยู่บนรังที่ทำขึ้นมา ก็พาลให้คิดว่า พวกมันจะอุ่นดีหรือเปล่า หรือว่าจะร้อนไปหรือเปล่า
    “อยู่รอดให้ได้นะหนู” โอเวนเอื้อมมือไปลูบสัมผัสไข่ฟองหนึ่งอย่างเบามือ ผิวสัมผัสของเปลือกไข่นั้นอบอุ่นและสบายมือเสียจนโอเวนยิ้มออกมา เขาลูบสัมผัสไข่ทุกๆฟองอย่างอ่อนโยนและเขาตั้งใจว่า เขาจะพยายามดูแลลูกไดโนเสาร์พวกนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
     
     
     
     
     





     
     
     
     
     
     
     
     
    TBC.
















     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×