ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ❖ ---- ± เรื่องเก่าเล่าขาน ± ---- ❖
ปฐมบทแห่งสงคราม
เป็นสงครามที่เกิดจากการที่เหล่ามหาอำนาจในซีกโลกตะวันออกขยายอำนาจจนคุกคามสันติภาพของโลก สงครามครั้งนี้กินเวลาเพียงสามปีเพราะทุกประเทศอ่อนแอ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือมหาสหพันธรัฐเอราซ และฝ่ายสมาพันธ์กลอเรียส ในช่วงแรกมหาสหพันธรัฐเอราซได้เปรียบ และมีความพร้อมต่อสงครามมากจนสุดท้ายสามารถตีจักรวรรดิซีเรเซียของสมาพันธ์กลอเรียส แตกได้สำเร็จ แต่สมาพันธ์กลอเรียสนั้นเข้มแข็งกว่า จนสามารถทำการฟื้นฟูอาณาจักร และร่วมกับพันธมิตรโจมตีกลุ่มมหาสหพันธรัฐเอราซ จะแตกพ่ายกลายเป็นกลุ่มคนเร่ร่อนไป
หลังจากที่สมาพันธ์กลอเรียสได้รับชัยชนะในสงคราม และมีความฮึกเหิมและเย่อหยิ่งในชัยชนะ กลอเรียเริ่มอยากได้ดินแดนจักรวรรดิซีเรเชีย จึงประกาศสงครามต่อซีเรเชีย แต่ในช่วงแรกสภาเทพมีมติให้ซีเรเชียไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลอเรียสเพราะจะทำให้เทพเสื่อมเสีย แต่ช่วงหลังๆ สมาพันธ์กลอเรียสเริ่มรุกหนักขึ้น ซีเรเชียจึงต้องทำสงครามกับสมาพันธ์กลอเรียสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้สงครามครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสงครามระหว่างเทพกับมนุษย์ครั้งแรก
หลังจากที่สงครามยืดเยื้อมากว่าสามสิบปี ซีเรเชียประกาศชัยชนะโดยสมบูรณ์แบบและเพื่อที่จะฟื้นฟูโลกให้เข้าสู่ยุคเทพเจ้าอีกครั้ง มหาเทพจึงมีโองการประกาศกวาดล้างจักรวรรดิที่เหลือทั้งหมด ใครก็ตามที่มีความชั่ว ให้นำลงยมโลกให้หมด ส่วนคนดีให้นำขึ้นสวรรค์ และโลกก็เข้าสู่ภาวะว่างเปล่า ทำให้ซีเรเชียครองโลกและมีอำนาจเกือบทั้งโลก อย่างไรก็ตาม ซีเรเชียไม่ได้มีอำนาจทั้งโลกอย่างแท้จริง เพราะสุดท้ายแล้ว หลังจากสงครามนี้จบลง พวกชนเผ่าเร่ร่อนและอนารยะชนก็เริ่มสร้างอำนาจขึ้นใหม่ แต่เริ่มก่อตั้งจักรวรรดิเอราชขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่สมาพันธ์กลอเรียสเป็นฝ่ายแพ้ ประชาชนทั่วหล้าต่างไม่พอใจในความปราชัยของตนเองและเตรียมพร้อมที่จะลุกฮือได้ทุกเมื่อ เนื่องจากขณะนั้นมาตรฐานการครองชีพของประชาชนกำลังตกต่ำลง ก็เกิดเหตุการณ์ข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือนร้อน มีการปล้นจี้ชิงทรัพย์ไม่เว้นวัน สังคมเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันกับที่แม่ทัพเอสนิสได้ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของสมาพันธ์กลอเรียส และถูกเนรเทศในทันที เนื่องจากทำสงครามแพ้ แม่ทัพเอสนิสจึงเคียดแค้นราชวงศ์เป็นอย่างมาก เขาจึงเข้ามาผู้ปลุกระดมประชาชนด้วยตัวเอง และในที่สุดก็สามารถจัดตั้ง ‘กลุ่มกบฏเซลนิค’ ในที่สุด
กบฏเซลนิคได้เผยแพร่ความคิดของตนเองไปทั่วทั้งติดประกาศและกระจายเพลงไปทั่วเมือง และพยายามล้างสมองประชาชนทั่วประเทศ จนกระทั่งเกิดการลุกฮือครั้งใหญ่ ประชาชนออกมาชุมนุมกันแน่นขนัด สร้างความไม่สบายให้กับพระเจ้าเฟซัสซึ่งเป็นประมุขของสมาพันธ์กลอเรียสเป็นอย่างมาก พระเจ้าเฟซัสจึงทรงส่งให้ทหารองครักษ์คนสนิทนำทัพไปถล่มกลุ่มกบฏเซลนิค ทำให้เกิดการลุกฮือครั้งรุนแรงกว่าเดิม จนต่อยอดไปเป็นสงครามกลางเมืองกลอเรียสที่รุนแรง สุดท้ายฝ่ายราชวงศ์แพ้ ทั้งเฟซัสและขุนนางจึงถูกจับประหารในที่สุด สมาพันธ์กลอเรียสล่มสลายลง และแม่ทัพเอสนิสได้ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐกลอเรียสขึ้นใหม่อีกครั้ง
หลังจากที่สมาพันธ์กลอเรียสได้รับชัยชนะในสงคราม และมีความฮึกเหิมและเย่อหยิ่งในชัยชนะ กลอเรียเริ่มอยากได้ดินแดนจักรวรรดิซีเรเชีย จึงประกาศสงครามต่อซีเรเชีย แต่ในช่วงแรกสภาเทพมีมติให้ซีเรเชียไม่ยุ่งเกี่ยวกับกลอเรียสเพราะจะทำให้เทพเสื่อมเสีย แต่ช่วงหลังๆ สมาพันธ์กลอเรียสเริ่มรุกหนักขึ้น ซีเรเชียจึงต้องทำสงครามกับสมาพันธ์กลอเรียสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้สงครามครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสงครามระหว่างเทพกับมนุษย์ครั้งแรก
หลังจากที่สงครามยืดเยื้อมากว่าสามสิบปี ซีเรเชียประกาศชัยชนะโดยสมบูรณ์แบบและเพื่อที่จะฟื้นฟูโลกให้เข้าสู่ยุคเทพเจ้าอีกครั้ง มหาเทพจึงมีโองการประกาศกวาดล้างจักรวรรดิที่เหลือทั้งหมด ใครก็ตามที่มีความชั่ว ให้นำลงยมโลกให้หมด ส่วนคนดีให้นำขึ้นสวรรค์ และโลกก็เข้าสู่ภาวะว่างเปล่า ทำให้ซีเรเชียครองโลกและมีอำนาจเกือบทั้งโลก อย่างไรก็ตาม ซีเรเชียไม่ได้มีอำนาจทั้งโลกอย่างแท้จริง เพราะสุดท้ายแล้ว หลังจากสงครามนี้จบลง พวกชนเผ่าเร่ร่อนและอนารยะชนก็เริ่มสร้างอำนาจขึ้นใหม่ แต่เริ่มก่อตั้งจักรวรรดิเอราชขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่สมาพันธ์กลอเรียสเป็นฝ่ายแพ้ ประชาชนทั่วหล้าต่างไม่พอใจในความปราชัยของตนเองและเตรียมพร้อมที่จะลุกฮือได้ทุกเมื่อ เนื่องจากขณะนั้นมาตรฐานการครองชีพของประชาชนกำลังตกต่ำลง ก็เกิดเหตุการณ์ข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือนร้อน มีการปล้นจี้ชิงทรัพย์ไม่เว้นวัน สังคมเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันกับที่แม่ทัพเอสนิสได้ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของสมาพันธ์กลอเรียส และถูกเนรเทศในทันที เนื่องจากทำสงครามแพ้ แม่ทัพเอสนิสจึงเคียดแค้นราชวงศ์เป็นอย่างมาก เขาจึงเข้ามาผู้ปลุกระดมประชาชนด้วยตัวเอง และในที่สุดก็สามารถจัดตั้ง ‘กลุ่มกบฏเซลนิค’ ในที่สุด
กบฏเซลนิคได้เผยแพร่ความคิดของตนเองไปทั่วทั้งติดประกาศและกระจายเพลงไปทั่วเมือง และพยายามล้างสมองประชาชนทั่วประเทศ จนกระทั่งเกิดการลุกฮือครั้งใหญ่ ประชาชนออกมาชุมนุมกันแน่นขนัด สร้างความไม่สบายให้กับพระเจ้าเฟซัสซึ่งเป็นประมุขของสมาพันธ์กลอเรียสเป็นอย่างมาก พระเจ้าเฟซัสจึงทรงส่งให้ทหารองครักษ์คนสนิทนำทัพไปถล่มกลุ่มกบฏเซลนิค ทำให้เกิดการลุกฮือครั้งรุนแรงกว่าเดิม จนต่อยอดไปเป็นสงครามกลางเมืองกลอเรียสที่รุนแรง สุดท้ายฝ่ายราชวงศ์แพ้ ทั้งเฟซัสและขุนนางจึงถูกจับประหารในที่สุด สมาพันธ์กลอเรียสล่มสลายลง และแม่ทัพเอสนิสได้ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐกลอเรียสขึ้นใหม่อีกครั้ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น