คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : * Cosette * [Levi x Eren] Chapter 1
สายลมพัดเอื่อยๆในบรรยากาศช่วงบ่ายของวัน สีส้มของแสงอาทิตย์สาดส่องไปทุกแห่งหนของเขตชิน่า ผู้คนต่างเดินขวักไขว่ตามตรอกซอยของเมือง พร้อมกับบรรดาสารวัตทหารที่ต่างพากันเดินตรวจตราความเรียบร้อย บ้างก็นั่งสังสรรค์ บ้างก็พูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับชาวบ้านที่เดินผ่านมา
ด้านบนหลังคาของร้านขายผักที่กำลังตั้งตาขายวัตถุที่ค่อนข้างเก่าเก็บ เด็กหนุ่มสองคนกำลังนอนราบไปกับหลังคาสีส้มอ่อนอย่างสบายอารมณ์ เสียงบรรยากาศด้านล่างช่างเป็นเสียงขับกล่อมได้เป็นอย่างดี เอเลนนอนผิวปากอย่างอารมณ์ดี จนโดนคนที่นอนข้างๆเอ็ดไปหลายรอบ
“ อากาศดีเนอะวันนี้ “ เอเลนกล่าวอย่างอารมณ์ดีพลางกระดิกเท้าที่กำลังไขว่ห้างกันอยู่ ริมฝีปากบางเริ่มผิวปากขึ้นด้วยความเคยชินพลางหลับตาพริ้ม
“ วันไหนที่ไม่มีพวกไททันก็ดีหมดสำหรับฉัน “
“ เฮย์โจว !!! “ คนที่รู้ว่ากำลังโดนพาดพิงลุกขึ้นมาเอ็ดคนข้างๆ มือบางหันไปทุบรัวๆที่คนที่กำลังนอนอยู่ด้วยความโมโห จนรีไวล์ต้องพยายามหันตัวหนีฝ่ามือที่ดูบอบบางแต่ก็เจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน แถมเค้ายังหยุดขำไม่ได้ด้วยซ้ำ การได้แกล้งเอเลนให้โมโหมันน่าสนุกยิ่งกว่าอะไร
“ ฉันไม่ได้ว่านายซะหน่อย ทำไมต้องร้อนตัวด้วย “ รีไวล์เริ่มยกยิ้มที่มุมปากพลางสายหน้าไปมาใส่เอเลนที่เริ่มเม้มปากด้วย ความโมโห คนอื่นจะรู้มั้ยนะว่าเวลาเอเลนออกอาการจะน่ารักได้ขนาดนี้……ให้ตายเถอะ
จนสุดท้ายทั้งคู่ต้องกลับมานั่งชันเขาข้างๆกันเหมือนเดิม รีไวล์ฟุบหน้าลงกับตัวเองเบาๆ พยายามจะสะกดรอยยิ้มของตัวเองไม่ให้เผยไปมากกว่านี้ … รีไวล์ได้แต่ย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าตอนนี้เค้าอยู่นอกสถานที่ ที่ที่ทุกคนสามารถจะเห็นการกระทำที่ส่อไปทางพิรุจได้ แต่ไม่วายที่จะช้อนสายตามองคนข้างๆที่นั่งอมยิ้มมองหน้าเค้าอยู่
“ ผมเริ่มหิวแล้วนะรีไวล์ “ เอเลนเริ่มลูบท้อง ป่านนี้ได้เวลาอาหารเย็นของกองสำรวจแล้ว
รีไวล์ได้มองเอเลนที่เริ่มบ่นเป็นครั้งที่สามแล้วว่าหิวข้าว ช่วยไม่ได้นิ เค้าอยากจะอยู่กับเอเลนให้มากกว่านี้ซักหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้รีไวล์เองก็รุ้สึกว่าต้องหาอะไรเข้าท้องแล้วเหมือนกัน
เอเลนลุกขึ้นก่อนจะก้มไปดึงแขนเสื้อเชิ้ตขาวให้ลุกขึ้นตาม รีไวล์คว้าเข้าที่เอวที่บาง แถมนิ่มเกินผู้ชายทั่วไป มือหยาบกระชับเอเลนให้กระชับมือ ก่อนจะที่มือบางจะสอดมาจับไหล่เค้าจากด้านหลังอย่างคุ้นเคย รีไวล์หันมามองหน้าเอเลนเล็กน้อยก่อนจะยิงเครื่องสามมิติออกไป เป้าหมายคือพื้นดิน เพียงแค่วินาที รองหัวหน้าหนวยลาดตระเวนก็พากันลงมาถึงที่หมาย
.
.
.
.
.
..
.
.
...
..
“ อ้าวเอเลน ….นายหายไปไหน “
เสียงใสของอาร์มินเอ่ยขึ้นพลางกำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยในมือ ทำให้คนอื่นๆหันไปให้ความสนใจกับเจ้าของชื่อที่กำลังเดินเข้ามาในห้องอาหาร หากใครสังเกตแล้ววันนี้ทั้งวันเอเลนแทบไม่ได้อยู่กับเพื่อนทหารรุ่นเดียวกัน เลยด้วยซ้ำไป
“ ธุระน่ะ นายก็รู้ช่วงนี้ฉันโดนเรียกไปไหนต่อไหนตลอด “ เอเลนตอบตามปกติพลางรับถ้วยอาหารจากแจนที่ถือมาเยอะมาก เค้าชินแล้วกับการต้องโกหกใครต่อใครว่าหายไปไหนมาตลอดระยะเวลาสามปีนี้
มิคาสะบีบไหล่ของเอเลนเป็นเชิงทักทาย เอเลนยิ้มกว้างให้เธอเป็นเชิงทักทาย ช่วงหลังมานี้เค้าห่างเหินกับเธอมากเหลือเกิน มิคาสะที่เค้ารู้จักเธอเป็นคนเข้มแข๊งเกินผู้หญิงทั่วๆไป สายตาคู่นั้นของเธอช่างสวยเกินผู้หญิงของไหนและก็เจือปนด้วยความเศร้า มากกว่าผู้หญิงคนไหนเหมือนกัน
บรรดาทหารรุ่น 104 กำลังนั่งจับกลุ่มกินมื้อเย็นกันอยู่ที่โต๊ะตัวอย่างกลางโรงอาหารที่เป็น อาคารไม้แบบชั้นเดียว เนื่องจากจำนวนทหารที่มากขึ้น ทำให้จำเป็นต้องย้ายโรงอาหารที่อยู่ในตัวอาหารมาสร้างใหม่แบบชั่วคร่าวที่ลา นกล้างระหว่างอาคารพักอาศัยของทหารอย่างพวกเค้า กับอาคารพักอาศัยของบรรดารุ่นพี่หน่วยลาดตระเวนกับหัวหน้าเอลวิน
“ พรุ่งนี้ฉันกับนายต้องไปเข้าเวรที่กำแพงชั้นนอกนะเอเลน อย่าลืมซะล่ะ “ แจนกำลังกัดไก่ทอดชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะคว้าแก้วน้ำของอาร์มินมากินจนหมดแก้ว ผิดกับเอเลนที่ยังเขี่ยข้าวยังไม่ถึงครึ่งถ้วย การแปลงร่างเป็นไททันสูญเสียพลังงานไปมากก็จริง แต่ก็ทำให้กินอะไรไม่ค่อยลงมากกว่าเดิม
“ อื้ม …. ฉันอิ่มล่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ “ เอเลนยิ้มเจื่อนๆให้ทุกคนก่อนจะเบี่ยงตัวเองออกจากม้านั่งตัวยาว
“ เดี๋ยวเอเลน ….. “ เสียงหวานพูดพร้อมกับคว้าแขนของเพื่อนสมัยเด็ก มิคาสะสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อของคนตรงหน้า อาจจะไม่บ่อยที่เธอได้สัมผัสร่างกายของคนที่เธอห่วงใย แต่รับรู้ได้ว่าร่างกายของเอเลนเริ่มบอบบางยิ่งกว่าเธอที่เป็นผู้หญิง
เอเลนยกยิ้มให้มิคาสะเป็นเชิงถาม แต่เธอได้ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะปล่อยแขนของเอเลนให้เป็นอิสระ มิคาสะหันหลังกลับเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารเหมือนเดิม บรรยากาศบนโต๊ะเงียบลงแทบทันที มิคาสะที่ปกติแทบไม่พูดอะไรมากมายกับส่วนรวม พอได้เห็นเธอดูหัวเสียยิ่งไม่มีใครกล้าเอ่ยปากอะไร
“ มิคาสะ …. “ เอเลยคราง
“ เยเกอร์ “ เอเลนหันไปตามต้นเสียง เพียงแค่นั้นก็ทำให้ทุกคนบนโต๊ะรีบลุกขึ้นทำความเคารพ ไม่ใช่เพราะว่าไม่ได้เจอกันมานาน แต่สำหรับหัวหน้าเอลวิน เป็นบุคคลที่เหล่าทหารทุกคนนับถือ ยิ่งกว่ากษัตรย์ ยิ่งกว่าหัวหน้ารีไวล์ และหัวหน้าเอลวินแถบไม่เคยลงมาทำความสนิทสนมกับทหารคนไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาอาหาร
ด้านหลังข้างเอลวินขนาบมาด้วยรุ่นพี่ฮันซี่ที่อยู่ในท่าทางสบายๆกำลัง ยิ้มทักทายเค้าอย่างคุ้นเคย กับรุ่นพี่อีกสองคนที่เอเลนไม่สนิทด้วยเท่าไหร่ ด้วยความที่เอเลนมีความสามารถที่ค่อนข้างพิเศษทำให้โดนเรียกให้ไปอยู่กับ บรรดารุ่นพี่หน่วยลานตระเวนบ่อยจนนับครั้งไม่ทัน เพราะเหตุนี้ถึงสนิทสนมกับหัวหน้ารีไวล์เป็นพิเศษ
“ สะ…สวัสดีครับหัวหน้าเอลวิน “ เป็นไรเนอร์ที่กล่าวคำทักทายด้วยความเคารพ เอลวินทักทายกลับเล็กน้อยตามประสาก่อนจะหันมามองหน้าคนที่เค้าเรียกทักเป็น ครั้งแรก
“ ฉันแค่มาเยี่ยมเธอ เห็นฮันนี่บอกนายไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย..ช่วงนี้ “
มิคาสะหลี่ตาลงเล็กน้อย เธอไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่ได้ยินนักแต่ก็คงต้องนิ่งเอาไว้ก่อน เธอบอกตัวเองเสมอว่าเอเลนไม่ใช่ของเธอ ยิ่งได้รู้ว่าเอเลนได้กลายเป็นไททัน เอเลนยิ่งกลายเป็นสมบัติของมนุษย์ชาติไปอย่างช่วยไม่ได้
“ คือบางทีผมคงเพลียๆไปมากกว่า ไม่มีอะไรหรอกครับ …. “ เอเลนก้มหัวเป็นการขอบคุณ ทั้งหัวหน้าเอลวินและรุ่นพี่ฮันซี่ แถมยังต้องจ๋อยโดนสายตาดุๆของมิคาสะที่มองมาทางเค้า ทำไมเค้าช่างเป็นไททันที่น่าสงสารขนาดนี้กันนะ T T
“ งั้นก็พักผ่อนเยอะๆ รีไวล์เค้าเป็นห่วงนายมากนะรู้เอาไว้ “ เอลวินกล่าวทิ้งท้ายพลางตบไหล่ของเอเลนเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในเพื่อทักทายทหารคนอื่น ชื่อของหัวหน้ารีไวล์ทำเอาใจเต้นแทบผิดจังหวะ ห่างกันแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงแค่ได้ยินชื่อก็ทำให้เค้าคิดถึงขึ้นมาอย่างบอก ไม่ถูก …. หัวหน้ารีไวล์เป็นเหมือนยาเสพติดที่เสพเท่าไหร่ไม่เคยพอ
“ หัวหน้ารีไวล์นี่เค้าดูเป็นห่วงพวกเรามากเลยนะ “ อาร์มินที่กำลังปลื้มกับคำของหัวหน้าเอลวิน ทำเอาแจนถึงกับรีบขัดคอ
“ เพ้อเจ้อน่ะอาร์มิน … หัวหน้ารีไวล์โหดยิ่งกว่าปีศาส หัวหน้าก็พูดไปงั้นแหละ …… “
“ กะ…ก็ “ ยังไม่ทันได้เถียง อาร์มินที่ตัวเตี้ยกว่าก็คนที่กำลังหมั่นไส้ล๊อกคอออกจากโรงอาหารไป พร้อมกับบรรดาเพื่อนพ้องคนอื่นๆที่เตรียมตัวกลับที่พัก
เอเลนที่โดนมิคาสะเมินใส่เล็กน้อยจำใจต้องเดินตามทุกคนไปตามทางกลับที่ พัก เพราะขืนหายไปตอนนี้คงยิ่งเป็นน่าสังเกตมากกว่าเดิม ทุกคนโบกมืออำลากันตรงทางเข้าหอพักที่แยกชายหญิงเพื่อความเหมาะสม หลังจากที่ก่อนหน้านี้จับได้ว่ามีเรื่องชุ้สาวเกิดขึ้นห้องนอน เอลวินลงดาบให้มีการแยกห้องนอนเพื่อความปลอดภัย
เอเลนคว้าข้อมือเล็กที่ดูมีกล้ามเนื้อมากกว่าตนเสียด้วยซ้ำ มิคาสะยกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยอมหันหน้ากลับมาหาเอเลน เด็กหนุ่มกวาดตามองบริเวณรอบตัวเล็กน้อย ก่อนจะจูงมิคาสะออกไปที่ด้านข้างของอาคาร บริเวณนี้เป็นตรอกเล็กแคบๆที่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่าน เป็นทางเดินที่เค้าใช้บ่อยเวลาแอบไปหาหัวหน้ารีไวล์
บรรยากาศเงียบสงัด แม้แต่แสงจันทร์ยังสาดส่องไปทั่วถึง บรรยากาศที่เคยอบอุ่นของเค้าทั้งคู่ในตอนนี้มันกลับเป็นเพียงแค่ความคุ้นเคย เอเลนได้แต่ยืนมองผู้หญิงตรงหน้าคนที่เค้ารักเปรียบเสมือนคนในครอบครัว กำลังยืนก้มหน้านิ่ง เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอ่ยคำไหนออกไปเพื่อให้เธอกับเค้าไม่เป็นแบบนี้
“ นายรู้มั้ย ….. เราไม่คุยกันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว “ มิคาสะยังเอ่ยเสียงเรียบ น้ำเสียงของเธอเจือปนด้วยอารมณ์โกรธเคืองและความน้อยใจ และเธอเลือกที่จะเก็บทุกความเศร้าใจไว้เพียงคนเดียว เอเลนได้เพียงแค่ทอดสายตาให้ต่ำลง ตั้งแต่ที่รีไวล์เข้ามา ในหัวใจของเค้าก็แทบไม่เหลือที่ว่างให้กับใครหน้าไหนอีก
“ ฉันรู้มิคาสะ ……. ฉันขอโทษ “ เอเลนรับรู้ได้ถึงเสียงสะอื้นของคนต้องหน้า แสงจันทร์ที่สาดส่องเค้ามาที่ใบหน้าของมิคาสะอย่างเลือนลาง มือหนาเอื้อมมือไปปาดน้ำใสๆที่ไหลอาบแก้มสวยของเธอ เลื่อนลงมาบรรจงช้อนใบหน้าของเธอเป็นเชิงปลอบ เอเลนรับรู้ได้ถึงร่างกายที่กำลังสั่นระลึกของผู้หญิงตรงหน้า
เอเลนชั่งใจเล็กน้อย ขาขวาไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมไปกอดไหล่บางให้เข้ามาในอ้อมกอด มิคาสะซุกหน้าลงตรงไหล่ของเค้า ร่างกายที่เหมือนจะเริ่มสงบกลับเริ่มสั่นขึ้นมากอีกครั้ง เอเลนรับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหล่ขวา และแรงกอดที่แน่นขึ้นกว่าเดิม มือหนายกขึ้นลูบเส้นผมสีดำขลับที่ซุกอยู่ในกับเค้า
นานนับหลายนาทีที่ทั้งคู่ยืนกอดกันกลม มิคาสะเริ่มหยุดร้องไห้ ไม่จำเป็นเธอไม่เคยอยากให้เอเลนเห็นเธอในสภาพแบบนี้ เอเลนส่งเสียงปลอบเธออยู่หลายครั้งจนหญิงสาวสงบลงได้
“ เอเลน …. “
เพล้ง ! ทั้งคู้ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรแตกจากที่ที่ค่อนข้างห่างไกล ภายในค่ายทหาร ไม่มีอันตรายอะไรให้น่าเป็นห่วง แต่แค่เอเลนฟัง เค้าก็พอจะเดาออกว่าเสียงนั้นมันคืออะไร แถวนี้เป็นที่ๆเค้ากับรีไวล์นัดพบกันค่อนข้างบ่อย ไม่แปลกใจ ถ้าจะรู้ว่าใครอีกคนมีอาการไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
“ เข้าห้องพักเถอะมิคาสะ อากาศเริ่มหนาวแล้วนะ “ เอเลนตัดสินใจตัดบทพลางเดินเข้าไปโอบเธอกลับไปตามทางที่มาเป็นเชิงบังคับ มิคาสะบ่นอุบอิบเล็กน้อยแต่เธอก็ยอมเดินกลับห้องพักกับเอเลน หญิงสาวถึงกับก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อโดนอ้อมแขนของใครบางคนโอบไหล่เธอเดินกลับ มาอย่างลืมตัว
………คืนเดือนมืดแบบนี้แสงจันทร์คงไม่เผยให้เห็นแก้มขาวนวลที่บัดนี้เริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้
………. ฉันรักนาย เอเลน ………
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ยามเช้าของวัน
ณ กำแพงชั้นนอก ฝั่งตะวันออก เขตชิน่า
เอเลนเดินทอดน่องอยู่บนกำแพงชั้นนอกตามหน้าที่เวรยาม แม้ตัวจะออกมาลาดตระเวน แต่ภายในหัวสมองกับยุ่งเหยิงอย่างหาคำตอบไม่ได้ มิคาสะที่เริ่มมาแสดงอาการแปลกๆใส่เค้าแบบเมื่อคืน ไหนจะหัวหน้ารีไวล์ที่น่าจะเห็นเรื่องเมื่อคืนและน่าจะกำลังโกรธเค้าอยู่ที่ ไหนซักแห่ง แค่คิดเค้าก็เริ่มตีหน้ายุ่ง มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ
“ เป็นอะไรของนาย …. อยากกระโดดลงจากกำแพงหรอไง “
เฮือก ! เสียงเข้มของคนที่เอเลนก็รู้ว่าใครดังมาจากด้านหลัง เอเลนได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าแม้จะหันหลังไปมอง ริมฝีปากเริ่มเม้มเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม เอเลนเกร็งตัวแน่น ปกติก็น่ากลัวอยู่แล้วแต่พอมาเจอแบบนี้ ยิ่งอยากจะใช้เครื่องสามมิติหนีออกไปหาพวกไททันยังจะน่ากลัวน้อยกว่า
เสียงใบไม้ขยับตัวตามเสียงลม เอเลนยังยืนนิ่งหันหลังให้อีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังแถมยังเดือดปุๆ
“ เอเลน …. นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ …….. ห๊ะ !!! “ รีไวล์เริ่มขึ้นเสียง อารมณ์ที่พยายามสะกดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเริ่มปะทุเดือด เค้าพยายามนับหนึ่งถึงร้อยเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองกระโดดลงไปประกาศกร้าวให้ ใครต่อใครรู้ว่าเอเลนเป็นอะไรกับเค้า แต่หน้าที่และเกียรติยศมันค้ำคอยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
“ ฮึก “ เอเลนเผลอกัดริ่มฝีปากล่างอย่างลืมตัว เด็กหนุ่มตัดสินใจหันไปมองหน้าของคนรักอย่างช้าๆ จนต้องหลบสายตาจากตาคม รีไวล์เป็นคนอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าใครแม้แต่ใครก็ห้ามไม่ได้ ยิ่งตอนนี้สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่ค่อนข้างหงุดหงิดเอามากๆ
“ เฮย์โจว ….. คือผม “ ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำใดต่อ เอเลนก็รับรู้ถึงแรงปะทะที่ทำให้เค้าหงายลงไปนอนที่พื้นตามด้วยรีไวล์ที่ ขึ้นคร่อมพร้อมกับกระชากคอเสียงของคนใต้ร่างด้วยความโมโห ใกล้จนแทบรับรู้ถึงลงหายใจร้อนที่กำลังอยู่ตรงหน้า รีไวล์แทบอยากจะก้มลงไปจูบริมฝากแดงช้ำอย่างน่าโมโห
“ หรือนายจะให้ฉันมีอะไรกับนายซะตรงนี้ดีมั้ยเอเลน “ รีไวล์กระชากทีเดียว กระดุมเสื้อสามเม็ดบนของคนใต้ร่างก็ขาดออกอย่างง่ายดาย เอเลนรู้สึกได้ถึงแผนหลังที่ปะทะกับพื้นเย็นวาบ บ่อยครั้งที่เค้าต้องเจ็บตัวเพราะคนตรงหน้าเกิดโมโหขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ ผมกับมิคาสะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ….. เราเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น “ เอเลนยันตัวเองให้เข้าไปสู้หน้ารีไวล์ ตาหวานเริ่มหลี่ตาใส่คนด้านบนที่ตอนนี้กลับดูน่าโมโหมากกว่าเดิม
รีไวล์ชั่งใจ ก่อนจะลุกขึ้นผละออกมาจากสถานการณ์ที่ดูหมิ่นเหม่ เค้าก็ไม่ชอบตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาหาโมโหใส่อารมณ์กับคนรักของตัวเอง แถมเดี๋ยวนี้เอเลนก็เถียงเค้าเก่งยิ่งกว่าเมื่อก่อน รีไวล์เดินหนีออกมาจากวงสนทนา มือหยาบขยับไปที่เครื่องเคลื่อนไหวสามมิติ หันมามองหน้าเอเลนที่ยังนั่งชันเข่ามองมาที่เค้า ดวงตาหวานของเอเลนเรียบเฉยเจือปนไปด้วยความเศร้าอย่างสัมผัสได้
ความคิดเห็น