ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love story ก็มันเรื่องของรัก...(ตอนที่ 1)

    ลำดับตอนที่ #1 : เกิดอุบัติเหตุ...

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 49


    เอียด...ปัง !

    "เร็ว ๆ รถชนกัน โทรตามตำรวจเร็ว "

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "เร็ว ๆ รถชนกัน โทรตามตำรวจเร็ว "

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "เร็ว ๆ รถชนกัน โทรตามตำรวจเร็ว "

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "มีคนเจ็บด้วย ตามรถพยาบาลด้วยนะ เจ็บหนักทั้งสองคันเลย"
    เสียงร้องระงมของสมาชิกชมรมไทยมุงดังลัน ก่อนที่ฝูงชนนับสิบจะวิ่งกรูกันเข้าไปดูสภาพรถเก่งสีแดงคันที่เคยงาม แต่บัดนี้กลับมีสภาพพังยับ ฝากระโปร่งหน้ายุบแทบจะดูไม่รู้ว่าเคยมี ส่วนคู่กรณีอีกคันก็ไม่แพ้กันเมื่อด้านข้างฝั่งคนนั่งหายไปทั้งแถบไม่เหลือสภาพของรถยุโรปสีดำวาวคันงามแม้สักนิด

    "มันเกิดอะไรขึ้น โอ๊ย...เสียงอะไรดังหนวกหูจังเลย" ร่างบางยันกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะสังเกตสถานการณ์รอบข้าง ภาพที่เธอเห็นในขณะนี้คือภาพของอุบัติเหตุตรงหน้า รถสองคันพลิกคว่ำคนละทิศคนละทาง และผู้คนวิ่งวุ่นไปมา ภาพของชายฉกรรจ์สองคนกำลังหามร่างของชายหนุ่มใบหน้าบวมบิดเบี้ยว เลือดข้นสีแดงก่ำไหลหยดจากหน้าผากเหนือโหนกผ่านคิ้วเข้มได้รูปและสันจมูกโด่ง ดูเหมือนเขาจะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแต่ตอนนี้กลับโชกชุ่มไปได้เลือดสีแดงจนแทบไม่เหลือร่องรอยของความขาว กางเกงผ้าสีดำขาดวิ่นจนไม่เป็นชิ้นดี

    มันเกิดอะไรขึ้น โอ๊ย...เสียงอะไรดังหนวกหูจังเลย" ร่างบางยันกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะสังเกตสถานการณ์รอบข้าง ภาพที่เธอเห็นในขณะนี้คือภาพของอุบัติเหตุตรงหน้า รถสองคันพลิกคว่ำคนละทิศคนละทาง และผู้คนวิ่งวุ่นไปมา ภาพของชายฉกรรจ์สองคนกำลังหามร่างของชายหนุ่มใบหน้าบวมบิดเบี้ยว เลือดข้นสีแดงก่ำไหลหยดจากหน้าผากเหนือโหนกผ่านคิ้วเข้มได้รูปและสันจมูกโด่ง ดูเหมือนเขาจะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแต่ตอนนี้กลับโชกชุ่มไปได้เลือดสีแดงจนแทบไม่เหลือร่องรอยของความขาว กางเกงผ้าสีดำขาดวิ่นจนไม่เป็นชิ้นดี

    "นี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วเรามานอนอยู่ตรงนี้ได้ไง โอ๊ย!...ปวดหัวจัง" หญิงสาวกุมขมับตัวเองแน่ด้วยอาการปวดหัวอย่างแรง เธอค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นในความคิด

    นี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วเรามานอนอยู่ตรงนี้ได้ไง โอ๊ย!...ปวดหัวจัง" หญิงสาวกุมขมับตัวเองแน่ด้วยอาการปวดหัวอย่างแรง เธอค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นในความคิด

    "แกขับกลับไหวแน่นะเรย์ เราว่าคืนนี้แกค้างที่บ้านเราดีกว่า เอา ๆ เดินจะไม่ไหวอยู่แล้วยังไม่ยอมฟังอีก"

    " ไม่เป็นไร เรากลับได้ ไม่ต้องเป็นห่วง สบายๆ นะเชื่อฝีมือเราสิ" ร่างบางเซเล็กน้อยก่อนจะขยับดันตัวเองเข้าไปนั่งในรถเก่งคู่ใจ แล้วหันมากล่าวลาทรายขวัญเพื่อนสาวที่คบกันมานาน

    " ไม่เป็นไร เรากลับได้ ไม่ต้องเป็นห่วง สบายๆ นะเชื่อฝีมือเราสิ" ร่างบางเซเล็กน้อยก่อนจะขยับดันตัวเองเข้าไปนั่งในรถเก่งคู่ใจ แล้วหันมากล่าวลาทรายขวัญเพื่อนสาวที่คบกันมานาน

    แกขับกลับไหวแน่นะเรย์ เราว่าคืนนี้แกค้างที่บ้านเราดีกว่า เอา ๆ เดินจะไม่ไหวอยู่แล้วยังไม่ยอมฟังอีก"

    " ไม่เป็นไร เรากลับได้ ไม่ต้องเป็นห่วง สบายๆ นะเชื่อฝีมือเราสิ" ร่างบางเซเล็กน้อยก่อนจะขยับดันตัวเองเข้าไปนั่งในรถเก่งคู่ใจ แล้วหันมากล่าวลาทรายขวัญเพื่อนสาวที่คบกันมานาน

    ไม่เป็นไร เรากลับได้ ไม่ต้องเป็นห่วง สบายๆ นะเชื่อฝีมือเราสิ" ร่างบางเซเล็กน้อยก่อนจะขยับดันตัวเองเข้าไปนั่งในรถเก่งคู่ใจ แล้วหันมากล่าวลาทรายขวัญเพื่อนสาวที่คบกันมานาน

    " แกเข้าไปนอนได้แล้ว วันนี้นะวันแต่งงานแกนะ จะให้เจ้าบ่าวรอนานได้ไง เดี๋ยวก็เสียฤกษ์เข้าหอกันพอดี ไป ไปได้แล้ว"

    "งั้นแกก็ขับรถกลับดี ๆ นะเรย์ ขับช้า ๆ นะเราเป็นห่วงนะเพื่อน ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยละ" ทรายขวัญยังคงไม่คลายความเป็นห่วงเพื่อนที่ขณะนี้น้ำเมาได้ดึกเอาสติของเธอหลุดลอยไปบ้างส่วน

    "งั้นแกก็ขับรถกลับดี ๆ นะเรย์ ขับช้า ๆ นะเราเป็นห่วงนะเพื่อน ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยละ" ทรายขวัญยังคงไม่คลายความเป็นห่วงเพื่อนที่ขณะนี้น้ำเมาได้ดึกเอาสติของเธอหลุดลอยไปบ้างส่วน

    แกเข้าไปนอนได้แล้ว วันนี้นะวันแต่งงานแกนะ จะให้เจ้าบ่าวรอนานได้ไง เดี๋ยวก็เสียฤกษ์เข้าหอกันพอดี ไป ไปได้แล้ว"

    "งั้นแกก็ขับรถกลับดี ๆ นะเรย์ ขับช้า ๆ นะเราเป็นห่วงนะเพื่อน ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยละ" ทรายขวัญยังคงไม่คลายความเป็นห่วงเพื่อนที่ขณะนี้น้ำเมาได้ดึกเอาสติของเธอหลุดลอยไปบ้างส่วน

    งั้นแกก็ขับรถกลับดี ๆ นะเรย์ ขับช้า ๆ นะเราเป็นห่วงนะเพื่อน ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยละ" ทรายขวัญยังคงไม่คลายความเป็นห่วงเพื่อนที่ขณะนี้น้ำเมาได้ดึกเอาสติของเธอหลุดลอยไปบ้างส่วน

    " โอ.เค จ๊ะ แล้วพรุ่งนี้เราจะรีบมาแต่เช้า ให้ทันส่งแกไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นะจ๊ะ บายจ๊ะเพื่อนรัก" พูดจบหญิงสาวก็เคลื่อนรถคู่ใจออกจากบ้านเพื่อนสาว

    โอ.เค จ๊ะ แล้วพรุ่งนี้เราจะรีบมาแต่เช้า ให้ทันส่งแกไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นะจ๊ะ บายจ๊ะเพื่อนรัก" พูดจบหญิงสาวก็เคลื่อนรถคู่ใจออกจากบ้านเพื่อนสาว

    รถเก่งสีแดงสดขับผ่านความมืดมิดของบรรยากาศรอบข้าง ความว่างของถนนในยามตี 2 จะ ตี 3 นั้นทำให้รถคู่ใจของเรวดีเร่งความเร็วได้อย่างเต็มพิกัด ประจวบกับฤทธิ์ของสุราทำให้หญิงสาวย่ำคันเร่งให้หนักยิ่งขึ้น

    ปี๊น........................แสงไฟสว่างวาบสาดส่องเข้ามาในรถ ปัง! แล้วแสงไฟสว่างก็หายไป หญิงสาวรับรู้ได้เพียงความเงียบ และว่างเปล่า ก่อนที่สติรับรู้สุดท้ายของเธอจะหายไป

    ปี๊น........................แสงไฟสว่างวาบสาดส่องเข้ามาในรถ ปัง! แล้วแสงไฟสว่างก็หายไป หญิงสาวรับรู้ได้เพียงความเงียบ และว่างเปล่า ก่อนที่สติรับรู้สุดท้ายของเธอจะหายไป

    2 จะ ตี 3 นั้นทำให้รถคู่ใจของเรวดีเร่งความเร็วได้อย่างเต็มพิกัด ประจวบกับฤทธิ์ของสุราทำให้หญิงสาวย่ำคันเร่งให้หนักยิ่งขึ้น

    ปี๊น........................แสงไฟสว่างวาบสาดส่องเข้ามาในรถ ปัง! แล้วแสงไฟสว่างก็หายไป หญิงสาวรับรู้ได้เพียงความเงียบ และว่างเปล่า ก่อนที่สติรับรู้สุดท้ายของเธอจะหายไป

    ........................แสงไฟสว่างวาบสาดส่องเข้ามาในรถ ปัง! แล้วแสงไฟสว่างก็หายไป หญิงสาวรับรู้ได้เพียงความเงียบ และว่างเปล่า ก่อนที่สติรับรู้สุดท้ายของเธอจะหายไป

    "เราประสบอุบัติเหตุหรือ แต่ทำไมเราไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?"

    "เอ๊ะ ! นั้นรถเรานี่ แล้วจะเอาไปไหนล่ะ ฉันจะเรียกประกันมาดูเอง อย่าเอารถคันเก่งฉันไปนะ" เรวดีร้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ยกรถของเธอขึ้นรถลากแล้วลากออกไปพร้อมรถยุโรปสภาพดูไม่ได้อีกคัน หากแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่น้อย

    "เอ๊ะ ! นั้นรถเรานี่ แล้วจะเอาไปไหนล่ะ ฉันจะเรียกประกันมาดูเอง อย่าเอารถคันเก่งฉันไปนะ" เรวดีร้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ยกรถของเธอขึ้นรถลากแล้วลากออกไปพร้อมรถยุโรปสภาพดูไม่ได้อีกคัน หากแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่น้อย

    เราประสบอุบัติเหตุหรือ แต่ทำไมเราไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?"

    "เอ๊ะ ! นั้นรถเรานี่ แล้วจะเอาไปไหนล่ะ ฉันจะเรียกประกันมาดูเอง อย่าเอารถคันเก่งฉันไปนะ" เรวดีร้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ยกรถของเธอขึ้นรถลากแล้วลากออกไปพร้อมรถยุโรปสภาพดูไม่ได้อีกคัน หากแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่น้อย

    เอ๊ะ ! นั้นรถเรานี่ แล้วจะเอาไปไหนล่ะ ฉันจะเรียกประกันมาดูเอง อย่าเอารถคันเก่งฉันไปนะ" เรวดีร้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ยกรถของเธอขึ้นรถลากแล้วลากออกไปพร้อมรถยุโรปสภาพดูไม่ได้อีกคัน หากแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่น้อย

    "โอ๊ยปวดหัวจัง ตกลงจะไม่มีใครสนใจฉันเลยหรือ ฉันก็ประสบอุบัติเหตุนะ" เรวดีโวยลัน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะหันมาสนใจเธอ ทุกคนยุ่งอยู่แต่การมุ่งดูและวิพากษ์วิจารณ์ เท่านั้น

    โอ๊ยปวดหัวจัง ตกลงจะไม่มีใครสนใจฉันเลยหรือ ฉันก็ประสบอุบัติเหตุนะ" เรวดีโวยลัน แต่ก็ไม่มีใครคิดจะหันมาสนใจเธอ ทุกคนยุ่งอยู่แต่การมุ่งดูและวิพากษ์วิจารณ์ เท่านั้น

    "คุณครับ คุณอย่าโวยวายไปเลยครับ"

    คุณครับ คุณอย่าโวยวายไปเลยครับ"

    เสียงทุ่มนุ่มของใครคนหนึ่งหยุดการโวยวายของเรวดีลง ก่อนเธอจะหันไปมองที่มาของเสียงแล้วก็ต้องตกใจจนแทบล้มทั้งยืนเมือภาพที่ปรากฏตรงหน้า คือภาพของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ แต่หน้าเขาช่างละม้ายคล้ายกับชายที่พึ่งโดนหามผ่านหน้าเธอไปเมือไม่นานนี้เอง ถึงแม้ว่าใบหน้าของชายคนนั้นจะโชกไปด้วยเลือดหากแต่เธอก็ยังจำเขาได้ติดตา แต่ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอกลับไม่มีร่องรอยของหยดเลือดเช่นเขาคนนั้น ใบหน้าคมสัน รับกับจมูกโด่งริมฝีปากหยักได้รูป คิ้วเข้มเชิดขึ้นเล็กน้อง และยิ่งดูดีมากขึ้นเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าเข้ม

    "คุณ..." เสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางได้รูปของเรวดีเป็นเพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วเบา

    คุณ..." เสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางได้รูปของเรวดีเป็นเพียงแค่เสียงกระซิบแผ่วเบา

    "คุณครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" ชายหนุ่มรีบสาวเท้าเข้าไปหาสาวน้อยร่างบางที่ยืนเบิกตาโผล่งมองเขาไม่กระพริบอยู่ตอนนี้

    คุณครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" ชายหนุ่มรีบสาวเท้าเข้าไปหาสาวน้อยร่างบางที่ยืนเบิกตาโผล่งมองเขาไม่กระพริบอยู่ตอนนี้

    "กริ๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผีหลอก" เรวดีร้องสุดเสียงก่อนที่ร่างบางจะล้มลงสลบไปด้วยความตกใจ

    กริ๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผีหลอก" เรวดีร้องสุดเสียงก่อนที่ร่างบางจะล้มลงสลบไปด้วยความตกใจ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×