คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Hemera 6 : ของที่ไม่ใช่ของเรา ควรหาทางไปคืนเจ้าของให้ไวที่สุด
Hemera 6 : ของที่ไม่ใช่ของเรา ควรหาทางไปคืนเจ้าของให้ไวที่สุด
ดินแดนแห่งความมืดเป็นศูนย์รวมความหรูหราอลังการ ไม่ใช่แค่ตึกรามบ้านช่อง แม้กระทั่งอาหารยังต้องอลังการ จะมาผัดข้าวผัดปกติอย่างที่อื่นไม่ได้ ข้าวผัดต้องผัดอย่างบรรจง… ใส่แม่พิมพ์… ตกแต่งเป็นรูปมงกุฎพระราชาแห่งอาณาจักรในตำนาน… ส่วนเครื่องซุปก็ต้องใส่ชามรูปมังกรน้ำสยายปีกที่สั่งทำเป็นพิเศษ ผัดผักก็ต้องตกแต่งเป็นรูปสวนดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์… ดูแล้วสภาพชวนให้รู้สึกว่ากำลังกินงานศิลปะไม่ใช่ข้าว…
ผู้คนที่นี่นิยมการแสดงชั้นสูงอย่างโอเปร่า ละครเวที ละครเพลงต่างๆ เป็นอย่างมาก มีการจัดการแสดงเหล่านี้ทุกวัน… ใช่! ทุกวันจริงๆ! เพิร์ลไม่รู้ว่าผู้ครองดินแดนละลายทรัพย์ไปกับการจัดแสดงเหล่านี้ไปแล้วเท่าไหร่ คาดว่าคงมากพอที่จะเอาเงินถมปล่องภูเขาไฟที่ฟานาทอสได้ครึ่งลูก แต่ดูเหมือนประชาชนแห่งความมืดจะไม่สนใจเรื่องจำนวนเงินสักนิด เป็นที่รู้ๆกันดีว่าคนของเขาชอบมากแค่ไหน แม้แต่นาซีเองก็คลั่งไคล้การแสดงเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กๆ ต่อให้มีคนมาประเคนค่าจ้างยี่สิบล้านเหรียญให้แต่นัดวันตรงกับการแสดงโอเปร่า นาซียินดีจะปัดงานทิ้งแล้วสะบัดตูดหนีไปดูโอเปร่าทันที
อา… เพิร์ลชักอยากไปดูโอเปร่าบ้างแล้วสิ ที่ฟานาทอสไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ ส่วนมากคนที่นั่นจะชอบจัดเทศกาลเกี่ยวกับไฟ เช่นเทศกาลเผาป่าล่ารางวัล เทศกาลเผาโน่นเผานี่เผานั่น กลัวคนไม่รู้ว่าเป็นดินแดนแห่งไฟ เยี่ยม เป็นดินแดนที่ร้อนแรงดีจริงๆ
“แก ปลาหมึกสุกแล้ว”
เพิร์ลที่กำลังสนุกกับการใช้ไฟส่วนตัวเร่งหม้อให้ร้อนไวๆ รีบใช้ตะเกียบคีบปลาหมึกบนตะแกรงเข้าปาก แล้วเธอก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี ตาโต แทบจะคายมันออกมา
“โอ๊ย ร้อน!”
“คนธาตุไฟร้อนเป็นด้วยเหรอ?”
ลูซี่เอ่ยกึ่งประชด เอามือแตะแก้วน้ำ ทำให้มันเย็นขึ้นด้วยเวท ก่อนจะส่งให้เพิร์ลกินดับร้อน
ตอนแรกพวกเธอไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารมาแล้ว แต่เพราะเจอกับปรากฏการณ์เขมือบงานศิลป์ไม่ลง อาหารสุดตระการตาเหนือโลกเหล่านั้นจึงถูกสั่งห่อกลับบ้าน นาซีก็งงๆว่าเป็นอะไรขึ้น แต่ก็ยอมพาออกมาหาอะไรกินในร้าน ‘ที่ (เพิร์ลและลูซี่คิดว่า) ปกติที่สุด’ อย่างร้านปิ้งย่างฉบับฟานาทอสแต่โดยดี
อืม… ร้านปิ้งย่างที่นี่เอาต้นฉบับมาจากดินแดนแห่งไฟก็จริง แต่ถูกเอามาปรับแต่งนิดหน่อยให้สมเป็นดินแดนแห่งความมืด เตาไฟเลยมีรูปร่างอ่อนช้อยสวยงามน่ากราบไหว้ หม้อลอกเลียนแบบมาจากหม้อของเทพธิดาในตำนานโบราณ ประดับลวดลายสีทองงามงดหมดจด ขนาดตะแกรงยังนำมาสานเป็นรูปนางฟ้าสุดสวยหน้าตาโอบอ้อมอารีกำลังสวดภาวนาเพื่อมวลมนุษยชาติ… แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเพิร์ล เวลาอาหารสดมาเสิร์ฟ เธอก็แค่วางโปะๆๆๆทับหน้านางฟ้าบนตะแกรงไป ก็แค่นั้น
“นี่พวกเราว่างกันใช่มั้ยเนี่ย?” นาซีคีบหมูเข้าปาก ยิ้มให้ทุกคนแบบขำๆ
“ว่างมากกกกกก” ลูซี่หัวเราะ “แล้วก็อยากว่างแบบนี้ตลอดไป”
“เถียนมันก็ว่างนะ แต่มันออกไปไหนไม่ได้ ว่างๆไปเยี่ยมมันแล้วจัดปาร์ตี้ที่วิหารจันทรากันเหอะ!” เพิร์ลเสนอ ลูซี่ทำหน้าอึ้งไปนิดหน่อย แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี ผิดกับนาซีที่ยิ้มแฉ่งจนออกนอกหน้า
“เนื้อแกะที่ดินแดนแห่งแสงสว่างอร่อย!”
“จริงปะ!!”
อดีตเจ้าอาณานิคมทำหน้าตื่นเต้น มือตบโต๊ะที่ไร้ความผิดจนมันสั่น หม้อแห่งเทพธิดาในตำนานโยกเยกไปตามแรงสั่นสะเทือนของโต๊ะ ลูซี่ผงะ ตาเหลือก ก่อนจะเอามือจับขาโต๊ะให้นิ่งอยู่กับที่
“กินไปดีๆเลย!”
“ฮู้ย” เพิร์ลหน้าบูด “ลูซี่ใจร้าย”
แล้วเพิร์ลก็จัดการแย่งอาหารบนตะแกรงแข่งกับนาซีอย่างเงียบๆ หลายครั้งที่ตะเกียบโดนกันแล้วเกิดสงครามตะเกียบย่อมๆ แต่พอลูซี่หันหน้ามา ทั้งสองก็ทำหน้าไร้เดียงสา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อดีตเจ้าอาณานิคมกำลังจะเอาเนื้อหมูเข้าปาก แต่จู่ๆพื้นดินก็สั่น แล้วก็มีอะไรก็ไม่รู้วิ่งผ่านเธอไป
เพิร์ลหรี่ตามอง อ้อ… รถม้านี่เอง…
ถึงจะเรียกว่ารถม้าแต่ก็ไม่ได้เทียมด้วยม้า รถคันนั้นเทียมด้วยราชสีห์สีเงิน ตัวรถมีลักษณะเรียบๆแต่หรูหราไม่ใช่น้อย ข้างบนประดับธงประจำแคว้นเฮสปาเนียปลิวไสว มีตราประจำตำแหน่งเคาท์อยู่ข้างๆ…
…
เฮสปาเนีย…? เคาท์?
พรวด!!
“อ้อ…” นาซีมองตาม ก่อนลากเสียงยาว “เฮสปาเนียนี่เอง”
ลูซี่หันไปมองตามบ้าง “อ้อ! มันอีกแล้ววววว!”
“แล้วพวกแกจะย้ำทำไมฟะ!”
ไม่รู้ว่าสองสหายที่นั่งอยู่ด้วยกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เพิร์ลพยายามวิจัยดูว่าอาหารปิ้งย่างของฟานาทอสมีคุณสมบัติทำให้คนกินมีกะจิตกะใจอยากจะแซวชาวบ้านขึ้นมาจริงหรือไม่… ซึ่ง… จากที่กินมาตั้งแต่อายุยังน้อยก็ไม่เห็นจะรู้สึกอยากแซวใครขึ้นมาแบบสองคนนี้เลย
อดีตเจ้าแห่งไฟเคี้ยวฟันตัวเอง จ้องมองตูดรถม้า… ไม่สิ รถสิงโตของเฮสปาเนียที่แล่นไปไกลขึ้นเรื่อยๆด้วยสีหน้าพูดอะไรไม่ออก จากการวิเคราะห์ ทางที่รถมุ่งหน้าไปน่าจะเป็น…
“ดูเหมือนกำลังจะไปเทมเพสเทีย…” ราวกับนาซีอ่านใจเธอได้ “ตรงนั้นต้องผ่านเบลเลีย แล้วก็ต้องผ่านซานาเซล คืนนี้คงต้องพักโรงแรม ไม่ถึงหรอก”
“พอผลึกหายไปอะไรๆก็วุ่นหมดเลยเนอะ…”
ลูซี่พูดลอยๆ เพิร์ลฟังตามอย่างเงียบๆ แต่รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรจี๊ดขึ้นมาในสมอง…
ผ ผลึก…?
เจ้าของดวงตาสีส้มคิดทบทวนในใจอยู่ครู่หนึ่ง ขณะเงี่ยหูฟังเพื่อนๆคุยกันต่อ ในขณะที่เพิร์ลกำลังจะหยุดคิดอยู่นั้น ลูซี่ก็พูดขึ้น
“ผลึกแห่งวายุสวยนะ ใสๆ ข้างในมีสายลมหมุนติ้วๆ อยู่ ภาษาเวทเขาเรียก ‘สายลมแห่งเทีย’…”
ผลึก…?
มีสายลมหมุนอยู่…??
ปัง!!
ฝ่ามือฟาดเข้าบนโต๊ะที่ไร้ความผิดตัวเดิมอีกครั้ง ลูซี่และนาซีมองเพิร์ลที่จู่ๆก็เด้งพรวด ลุกขึ้นจากโต๊ะมาทำหน้ายักษ์ หม้อเทพธิดาเกือบพลิกใส่หน้านาซี แต่เธอไม่สน อดีตเจ้าแห่งไฟกำหมัดแน่น นึกย้อนไปยังรถสิงโตที่ลับสายตาไปแล้ว
“มีใครรู้บ้างว่าไอ้เคาท์นั่นจะไปพักที่ไหน!!?”
รู้เรื่องที่พักของเคาท์แห่งเฮสปาเนียเรียบร้อย… ถึงเพิร์ลจะไม่อยากไปเจอหน้าคนที่ได้อาณานิคมของตัวเองไป บวกกับเป็นเพื่อนกับผู้นำกบฏนามบ่อเขียด… แถมยังเป็นเพลย์บอยเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ยังมีจิตสำนึกที่ดีพอจะเอาผลึกแห่งวายุที่มีคนปาใส่กระจกบ้านเธอไปคืนเจ้าของ แล้วจะได้ซ่อมกระจกสักที
ช่างน่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าเพ่ยเซียนกับเจ้าหญิงไอนาริเอลไปพักกันที่ไหน ไม่อย่างนั้นเธอคงฝากให้เพ่ยเซียนเอาผลึกไปให้เจ้าหญิง แล้วให้เจ้าหญิงเอามันไปคืนให้กับปราสาทแวนเดียร์อย่างถูกต้องไปแล้ว แต่นี่ไม่… เธอไม่รู้ว่าสองคนนี้อยู่ที่ไหน และคนเดียวที่เธอรู้จักในบรรดาคนใหญ่คนโตที่แห่กันมานี่ก็มีแค่เคาท์ซิลเวอร์เท่านั้น…
คืนนี้เคาท์ซิลเวอร์จะพักอยู่ที่ซานาเซล ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ขึ้นตรงกับทวีปใด ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างดินแดนแห่งความมืดกับเทมเพสเทีย ถ้าจะข้ามผ่านชายแดนแห่งความมืดไปต้องเจอกับป่าเบลเลียก่อน แล้วจึงจะถึงเมืองซานาเซล ที่นั่นมีโรงแรม นาซีฟันธงว่าเคาท์ซิลเวอร์พักที่นั่นชัวร์ๆ
เพิร์ลรีบกลับไปยังฟานาทอส ฉวยผลึกแห่งวายุเข้ากระเป๋า ควบม้าสีดำผ่านดินแดนแห่งความมืด มุ่งตรงไปยังป่าเบลเลียอย่างบ้าคลั่ง กว่าจะถึงดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าพอดี แล้วยิ่งพอพ้นเขตป่าก็ยิ่งดึกเข้าไปกันใหญ่ โชคดีที่พอจะเห็นเขตเมืองแล้ว เพิร์ลจึงตัดสินใจผูกม้าไว้แถวๆนั้น ให้มันพักกินหญ้ากินน้ำ แล้วทำการเดินเท้าเข้าซานาเซล เดินมาไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พักของเคาท์ซิลเวอร์ เป็นโรงแรมที่หรูหราสมฐานะของเขาดี แต่ที่ไม่ดีคือมียามหน้าตาไม่รับแขกยืนเฝ้าอยู่ทั่วโรงแรม แววตายามทุกคนเหมือนพร้อมจะฆ่าตัดตอนทุกคนที่มาวุ่นวายกับแขกผู้เกียรติทุกคน ที่เพิร์ลคาดว่าคงกำลังนอนเกาสะดืออยู่ในนั้น
ร่างบางยืนนิ่ง… ซ่อนตัวเองอยู่หลังเสา ชะโงกหน้าออกไปดูทางหนีทีไล่…
ที่นี่มีสองประตู ประตูแรกมียามเฝ้า… ประตูที่สองมีสัตว์เวทท่าทางดุร้ายที่สามารถตะบปคนทีเดียวสมองทะลักได้ยืนเฝ้าอยู่หนึ่งตัว…
เพิร์ลพยักหน้ากับตัวเอง… ถ้าจะให้ไปฟัดกับไอ้สัตว์เวทนั่น เธอยอมฟัดกับยามดีกว่า… แต่ทางที่ดีเธอไม่ควรฟัดกับอะไรเลย…
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างโรงแรม บนชั้นสี่มีห้องที่ใหญ่ที่สุด นาซีบอกว่าเป็นห้องของท่านเคาท์…
เพิร์ลใช้เวทพรางตัว ทำให้คนอื่นมองไม่เห็น เวทนี้เป็นเวทชั้นสูง ลูซี่สอนเธอมา แต่เพราะเพิร์ลเป็นนักรบแต่กำเนิด ทำให้อำนาจพลังเวทไม่มากเท่าจอมเวทโดยเนื้อแท้อย่างลูซี่นัก หลังจากทดสอบโดยการแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เด็กที่เดินผ่านมาจนแน่ใจว่าไม่มีใครมองเห็นตัวแล้ว เพิร์ลก็ทำตัวลีบ… แทรกผ่านยามคนหนึ่งเข้าไป พยายามระวังไม่ให้ส่วนไหนของร่างกายถูกตัวยาม จากนั้นเธอก็เริ่มปีนหน้าต่าง ปีนไปจนถึงชั้นสี่ แล้วแอบเปิดหน้าต่างห้องที่ใหญ่ที่สุดเบาๆ โชคดีว่าไม่มีใครสังเกตเห็น
นาซีบอกว่าซิลเวอร์พักอยู่ห้องนี้…
ในห้องตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งห้องปิดไฟเงียบ มีแค่แสงจากดวงจันทร์เท่านั้นที่จะส่องผ่านเข้ามาได้ เพิร์ลชะโงกหน้าไปมอง อืม... ใช่... คนที่นอนอยู่บนเตียงคือซิลเวอร์จริงๆ เธอจึงกลั้นหายใจ ย่องไปใกล้มากขึ้นอีก… พยายามเดินให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้… แล้วค่อยๆ คว้าผลึกแห่งวายุออกมาจากกระเป๋า ตั้งใจจะวางไว้ที่หัวเตียงแล้วชิ่งหนี ให้ท่านเคาท์หัวเงินตื่นมาด้วยความประหลาดใจ ละเมอเพ้อพกว่านางฟ้าเอามาให้หรืออะไรก็ว่าไป…
อดีตเจ้าอาณานิคมกำลังจะวางผลึกแห่งสายลมลงบนหัวเตียง แต่แล้ว ทันใดนั้น ทั้งห้องก็สว่างพรึ่บ! เพิร์ลถึงกับผงะ เงยหน้าขึ้นไปมองแชนเดอเลียร์บนเพดานที่จู่ๆก็มีไฟติดขึ้นมาเอง ไม่ทันจะได้ใช้เวทพรางตัวอีกครั้ง ร่างที่อยู่บนเตียงก็พุ่งเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ ก่อนจะผลักให้นอนราบลงไปกับพื้นพรม
ก่อนที่เพิร์ลจะกรี๊ดออกมา สภาพของผู้ชายที่คร่อมอยู่ด้านบนก็ทำให้ …ทำให้… ทำให้เพิร์ลถึงกับร้องอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว!!………
ซิลเวอร์… เป็นเคาท์ซิลเวอร์แห่งเฮสปาเนียไม่ผิดแน่ เขาดูเหมือนกำลังงัวเงียอยู่ แต่ที่เพิร์ลช็อคไม่ใช่เพราะท่าทางล่อแหลมเหมือนหลุดมาจากนิยายรักโรแมนซ์ผสมอีโรติคที่เถียนเถียนชอบเขียน… สิ่งที่เธอตกใจคือสิ่งที่อยู่ใต้ลำคอลงไป…
ซิลเวอร์… ไม่ได้…
“อ้าว…” เคาท์รูปหล่อดูแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะในลำคอ “เธอ เองเหรอ?”
เมื่อท่านเคาท์แห่งเฮสปาเนียเอ่ยทัก เพิร์ลก็พยักหน้ารับทั้งๆที่ยังอ้าปากค้าง… เขาทำเพียงแค่เลิกคิ้ว ไม่รู้สึกรู้สา ผิดกับเพิร์ลที่จวนจะน้ำลายฟูมปากตายคาที่
“ทำไมนายถึงใส่แค่กางเกงในละ!!!!!?”
ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อตอนนิดหน่อยนะคะ แหะๆๆ
ยังไงก็ สุขสันต์วันปีใหม่ย้อนหลังค่ะ! ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นึกสิ่งใดสมใจปรารถนาทุกประการ แล้วก็อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดนะคะ ไรท์เตอร์รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ! >w<
พบกันอีกครั้งตอนหน้านะคะ!
ความคิดเห็น