คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Alphabet 7 : ห้องนอนอลเวง
Alphabet 7
ห้องนอนอลเวง
“บ้าเอ๊ย!!”
เจ็บหน้า!! ข้าเจ็บหน้ามากเลยตอนนี้!!
จำได้ใช่มั้ย ที่ข้าบอกว่าข้าโดนเอ็มม่าถีบไปรับอุกกาบาตแทนน่ะ เชื่อมะ เจ้าตัวมาขอโทษข้าทีหลังแล้วบอกว่าที่ถีบข้าไปนั้นเป็นเพราะรีแอคชั่นจากความกลัว คุณพระ กลัวมากไปรึเปล่า!? แล้วความกลัวของนางก็ทำให้ข้ากระเด็นไปใกล้ชิดกับอุกกาบาตที่พุ่งโหม่งพื้นโลกพอดี เท่านี้ก็พอจะรู้แล้วละมั้งว่าข้าโดนอะไร!? ใช่!! โดนหางอุกกาบาตฟาดหน้าเต็มๆ!! มันทำให้หน้าข้าเกิดรอยบากยาวเฟื้อยเป็นหางว่าว ดูแล้วเหมือนนักเลงไถเงินเด็กแถวหมู่บ้านไม่มีผิด!! บ้าที่สุดดดดดด!! แง้!
แล้วก็นะ พอได้ยินเสียงข้าร้องว้ากซะลั่นโลก พิเอต้า วิโอล่า แล้วก็มารินน์ที่ปิดประตูหน้าต่างหนีในช่วงก่อนหน้านั้นก็รีบวิ่งออกมาดูทันที พอเห็นว่าหน้าข้าแหกไปเรียบร้อยเพราะอุกกบาต ทุกคนก็จัดการหิ้วปีกข้าเข้าไปทำการรักษาพยาบาลข้างในบ้านทันที โชคดีที่เวทมนต์ของมารินน์แข็งแกร่งพอที่จะรักษาแผลให้ข้าได้ และทำให้รอยบากเยี่ยงมหาโจรบนใบหน้าของข้าหายสนิทเป็นปลิดทิ้งเหมือนกับไม่เคยมีมาก่อน เจ๋งไปเลย ตอนนี้หน้าข้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว รอยบากหายวับไปกับสายลม แต่มันยังเจ็บอะ ยังเจ็บหน้าอยู่เลย ให้ตายเหอะ!
“เจ้าทำให้หน้าข้าแหก!! รู้ตัวมั้ย!! เบโร!!”
ข้าว้ากใส่ตัวการของอุกกาบาตเมื่อตะกี้ด้วยสีหน้าหงุดหงิด มือข้างหนึ่งยังคงจับหน้าที่ยังเจ็บจี๊ดๆไว้อยู่ ส่วนตัวการน่ะเหรอ มันก็นั่งกินคุกกี้ซะจนแก้มตุ่ยอยู่นั่นไง! เฮ้ย!! อยากกินมั่งอะ! เอ๊ย ไม่ใช่!!
อะไรนะ? อ๋อ เบโร เบโรก็คือชื่อของยัยอุกกาบาตมนุษย์นั่นไง ตอนเข้ามาในบ้านพักช่วงต้นๆ นางแนะนำตัวกับทุกคนแล้วว่าชื่อของนางคือ ‘เบโรนิก้า’ เรียกว่าเบโรก็ได้ ตำแหน่งคือ B นักเล่นแร่แปรธาตุแห่งอัลฟาเรียน ที่สำคัญ นางยังเสริมอีกว่าที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าเมื่อกี้เป็นเพราะนางได้รับหมายเรียกจากคิวปิดแล้วไม่อยากวาร์ปมา ก็เลยใช้ผงแปรธาตุผสมเศษสะเก็ดดาวตกบินมาแทนเพราะอยากดูวิว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ ให้ตายสิพับผ่า อะไรเถือกๆนั้น
ใช่ ไม่คาดหมายเหมือนกันว่าประกายไฟมันจะแฉลบหน้าข้าน่ะ!!
“ข้าไม่สนนน~~” เบโรนิก้ายิ้มแฉ่ง พร้อมกับตวัดเสียงคำสุดท้ายขึ้นสูงแบบกวนๆ “หน้าเจ้า ไม่ใช่หน้าข้า”
“เบโร!!”
“ว็อท? มีปัญหาไรเพ่?”
“ย อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ! ยังไงทุกคนก็เป็นอัลฟาเรียนเหมือนกันนะคะ!”
วิโอล่ารีบออกมาห้ามทัพอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าอาจจะเกิดสงครามระหว่างม้าศึกกับนักเล่นแร่แปรธาตุขึ้นได้โดยมีพิเอต้าคอยโอบไหล่ของเธอไว้ไม่ห่าง ข้าที่ขี้เกียจจะมีเรื่องต่อจึงตัดสินใจไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะนั่งกุมหน้าตัวเองเงียบๆบนโซฟา มันเจ็บนะ แต่น้อยลงแล้วละ และจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยถ้าข้าได้กินช็อคโกแลตฟองดูตอนนี้! เย้!!!
“ขอโทษแล้วกัน” เบโรพูดกับข้า อา ความจริงข้าก็ไม่ใช่คนคิดแค้นอะไรใครมากนักหรอก ก็เลยพยักหน้ารับไปทีนึง
“ช่างมันเหอะ ยังไงแผลก็หายไปแล้วนี่”
“เอ้า ไถ่โทษ”
เบโรนิก้าพูด ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในถุงคุกกี้ หยิบออกมาชิ้นหนึ่ง ก่อนจะโยนมาตรงหน้าข้าได้อย่างสวยงาม เอาเถอะ ท่าโยนจะเป็นยังไงก็ช่าง! ข้ารู้แต่ว่าคุกกี้น่ากินมาก!! ช็อคโกแลตชิป!! น่าเขมือบที่สุด!!!
“ขอบใจ! เบโร!”
“ไม่เป็นไร คุณหญิงสาวผู้ไม่ได้กินอะไรมาสามวัน…”
นางว่าข้าเรอะ? เออๆ ว่าก็ว่าไป คุกกี้สำคัญกว่า อ๊ากกกกก อร่อย!!!
“แล้วจะทำยังไงกันต่อ?” พิเอต้ายกมือขึ้นมากอดอก ปราดสายตามองทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้านิ่งๆ “ข้าไม่อยากให้เวลาอันมีค่าของวิโอล่าจะต้องมาเสียไปเพราะพวกเจ้าทุกคน”
“ท่านพี่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ!”
หลังจากที่วิโอล่าพูดจบ คนที่เอ่ยปากเป็นคนถัดไปก็คือมารินน์ที่ยืนเงียบอยู่นาน
“เมื่อกี้ข้ามองสำรวจดูแล้ว บ้านหลังนี้มีห้องนอนสี่ห้อง ข้าว่าถ้าแบ่งเป็นคู่ๆก็น่าจะนอนกันได้พอดีห้องอะนะ”
พวกเราที่อยู่ในบ้านนี้มีด้วยกันแปดคนสินะ… มีข้า พิเอต้า วิโอล่า มารินน์ เอ็มม่า เบโรนิก้า เพลัวร์ (อ๊ะๆ อย่าเพิ่งลืม ตาลุงเมาเหล้าคนนั้นไงเล่า!) และอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตอนนี้ แต่ระดับความอันตรายพุ่งปรี๊ดทะลุเพดานไม่แพ้ชาวบ้าน ใช่ คือโนอานั่นแหละ แปดคนครบพอดี มีสี่ห้อง แบ่งเป็นคู่ๆก็ครบพอดีอย่างที่มารินน์บอก
ข้ายกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาพาดโซฟา ก่อนจะพยักหน้ารับคำพูดของมารินน์เหมือนกับทุกคนภายในห้อง “อ่าฮะ”
“แล้วใครจะคู่ใครละ?”
ถูกต้องเลยเบโรนิก้า ใครจะคู่ใครนั่นละปัญหา
พอได้ยินคำพูดของเบโรนิก้า ทุกคนก็เริ่มตื่นตัว มองซ้ายมองขวาหาคู่นอน เอ่อ ไม่เอาๆ คำนี้มันทะลึ่งไปหน่อย ใช้คำว่าอะไรดีละ? รูมเมท? เออ คำนี้ละกันนะ นั่นละ ทุกคนก็เริ่มมองหารูมเมทกันยกใหญ่
ข้าว่านอนกับโนอามันก็ปลอดภัยดีนะ ถ้าจู่ๆมีศัตรูบุกเข้ามาในห้องเนี่ยข้าปลอดภัยชัวร์ แต่ว่า… พอมาคิดดูดีๆแล้ว ถ้าไม่มีศัตรู คนที่จะไม่ปลอดภัยก็คือข้าชัวร์ เหอๆๆ ไม่เอา! ข้าจะไม่ยอมตายก่อนจะได้กินแฮมรมควันที่อร่อยที่สุดในโลก!! เออ ใช่ พูดถึงแฮมแล้วสงสัย เจ้าว่าแฮมรมควันกับไส้กรอกรมควันอันไหนอร่อยกว่ากันอะ ข้าว่ามันอร่อยทั้งคู่เลยนะ ยิ่งตอนจิ้มกับซอสบาร์บีคิวนะ ให้ตายเหอะ!! น้ำลายไหล! อยากกินว่ะเฮ้ย! ไม่ต้องคิดแล้ว กินมันสองอันพร้อมกันนั่นแหละ!! ฮี่ๆๆๆ~
“มิร่า นอนด้วยกันปะ?”
อุแว้กกกกก!!!
จู่ๆ มารินน์ก็ชะโงกหน้ามาหาข้า เล่นเอาคนถูกเอ่ยชื่ออย่างข้าสะดุ้งเหมือนโดนน้ำซุปร้อนๆสาด พอสะดุ้งจบข้าก็เริ่มคิดทวนว่านางพูดอะไร อา นอนกับมารินน์เหรอ? ก็ไม่เลวนะ ยังไงนางก็ดูเป็นปกติชน …ถ้าไม่นับเรื่องแช่แข็งประตูอะนะ
“เอาสิ”
ข้ามีคนเลือกแล้วเฟ้ยยยยย!!!!! วะฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!!!!!
“ตกลงว่าเจ้า” พิเอต้ามองมาที่มารินน์ ก่อนจะหันหน้ามาทางข้า “อยู่กับยัยม้าศึกนี่สินะ… งั้นข้าอยู่กับวิโอล่าก็แล้วกัน”
“ข้ายังไงก็ได้อะนะ…” คุณลุงเพลัวร์ใช้มือเสยผมสีเทาๆของตัวเองไปด้านหลัง พลางเอนตัวพิงโซฟาช้าๆ พิเอต้าใช้ดวงตาสีเหลืองสวยของตนมองแกนิดหน่อย ก่อนจะพูดเสียงที่ฟังดูคล้ายคำสั่ง
“งั้นเจ้านอนห้องเดียวกับเอ็มม่า”
“หา!!!!”
“แล้วเบโรนิก้า เจ้านอนกับยัยนักดาบผมดำตาเขียวนั่นละกัน เป็นอันจบ…”
“ไม่มีปัญหา”
แล้วการแบ่งห้องที่น่าจะยุ่งยากก็จบลงอย่างง่ายดายด้วยคำพูดประกาศิตของพิเอต้า และแน่นอน… ไม่มีใครสนใจเสียงท้วงติงของเอ็มม่าสักคน น่าสงสารแฮะ
“ใช้เวทย์จัดห้องเสร็จรึยังมารินน์?”
ข้าใช้ไหล่กระแทกประตูห้องหนักๆทีนึงเพราะมือไม่ว่าง พอดีว่าข้าวของสัมภาระเต็มอ้อมกอด (?) ไปหมด หลังจากที่เมื่อกี้ข้าออกไปดำเนินการแยกกระเป๋าที่หน้าห้องโถงมา ภาพแรกที่เห็นตอนเข้าไปในห้องก้าวแรก คือห้องที่ถูกจัดเป็นสัดส่วนระเบียบเรียบร้อย ยังมีละอองเวทมนต์ลอยวนไปวนมาเป็นหลักฐานว่าการจัดห้องๆนี้เป็นไปด้วยเวทของมารินน์ สุดยอดเลย ไวดีแฮะ มีรูมเมทเป็นแม่มดมันดีแบบนี้นี่เอง! ถ้าข้าหิวตอนดึกๆนี่ก็ใช้มารินน์เสกของกินให้ได้ใช่ปะ!!?
“เสร็จแล้วววว!!”
หลังจากสะบัดคทาเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียงต่างๆก็เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นขยับไปคนละทิศทางเพื่อให้อยู่ในที่ๆมันควรอยู่ พร้อมๆกับที่เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นมากมายก่อตัวขึ้นจากละอองเวทมนต์รอบๆห้อง มีพรมที่พื้นด้วยอะ! นุ่มมาก! ตอนแรกมันยังไม่มีเลยนะ งั้นก็แปลว่ามารินน์เสกมันขึ้นมาสินะ เฮ้ย เจ๋ง! เพิ่งรู้ว่าเวทมนต์มันดีขนาดนี้นะเนี่ยเฮ้ย
ข้าวางกระเป๋าสัมภาระสองใบลงที่พื้น ก่อนจะเอาเท้าเขี่ยพรมเล่น มันนุ่มมาก! สบายเท้าสุดๆ!! สีก็สวย! นี่ถ้าเอาไปขายในตลาดคงได้เงินมาซื้อเนื้อสเต็กหมักพริกไทยดำหลายชิ้นเลยนะเนี่ย!! ว้าว ยอดๆๆๆๆ!!
“มันให้เตียงสองชั้นมา” มารินน์ชี้เตียงที่ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง “เจ้านอนข้างบนหรือข้างล่างดี?”
“ข้างล่างแล้วกัน ข้าเกลียดความสูง”
“โอเค”
รู้สึกว่าคู่ของข้ากับมารินน์จะเข้ากันง่ายดีนะ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดไปกันไม่ได้ขึ้นมาคงยุ่งชัวร์ ข้าก็คงกินข้าวไม่อร่อยอะนะ… เอ่อ รู้สึกจะไม่เกี่ยว…
“จะจัดของละน้า!!” มารินน์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะลงมือเปิดกระเป๋าของตัวเองออก ข้าเองก็ค่อยๆนั่งลงข้างๆ เตรียมเปิดกระเป๋าของตัวเองเหมือนกัน แต่พอหางตาเหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของมารินน์เท่านั้นละ! ข้าก็ถึงกับสะดุ้งในหลายๆความหมาย!!
มีหมาหนึ่งตัว นกฮูกหนึ่งตัว แล้วก็นกหนึ่งตัวอยู่ข้างใน!!
ดีนะที่ขนาดของมันประมาณฝ่ามือ ไม่งั้นข้าจะตะโกนถามเลยว่ายัดเข้าไปได้ยังไงวะ!!!?
“นั่นอะไรน่ะ?”
“สัตว์เลี้ยงของข้าเอง” นางยิ้มหวานปานประดุจน้ำผึ้งที่ข้าซ่อนไว้ใต้เตียงที่บ้าน (แล้ววันดีคืนดีมดก็ขึ้นตรึม แต่ละตัวกัดโคตรเจ็บเลย!) “ความจริงมันตัวใหญ่กว่านี้นะ แต่ว่าข้าใช้เวทย์ย่อส่วน… เดี๋ยวจะให้ดูขนาดออริจินัล…”
“ไม่ต้องงงงง!!!!”
แล้วก็เป็นไปตามที่คิด นางไม่ฟังข้า แล้วหยิบคทาขึ้นมาร่ายมนต์ใส่คณะสัตว์เลี้ยงน่ารักในกระเป๋าหน้าตาเฉย!!
พริบตาที่เวทมนต์ถูกร่ายขึ้น ละอองเวทย์สีฟ้า (ท่าทางมารินน์จะบ้าสีฟ้า) ก็ลอยไปจับตัวสัตว์เลี้ยงขนาดมินิ ตัวของพวกมันเปล่งแสงวูบวาบชวนแสบตา ก่อนจะคืนสู่ขนาดดั้งเดิมของมันท่ามกลางสายตาตกตะลึงของข้า!!
เจ้าหมา… พอตัวใหญ่ขึ้นแล้ว ข้าก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นหมาของพวกตอนเหนือ พวกเจ้าเรียกมันว่าอะไรนะ อ๋อ ไซบีเรียน อืม นั่นละ ขนาดตัวมันใหญ่ประมาณเอวข้าได้…
ต่อไป เจ้านกฮูก มันตัวโตขึ้น กลายเป็นนกฮูกขนาดเท่าแขนข้า แล้วก็บินไปเกาะบนตู้เสื้อผ้าของข้า…ใช่ ของข้า
ที่เด็ดสุดคือเจ้านกตัวสุดท้ายเฟ้ย!! มันตัวใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น และในที่สุด มันก็ปุ้ง!! ตัวใหญ่มาก เล็กกว่าเตียงนิดนึง และจากการประเมินด้วยสายตาก็ทำให้ข้าได้รับรู้ว่า มันคือนกฟีนิกซ์! แต่ไม่ใช่ฟีนิกซ์ที่ตัวเต็มไปด้วยไฟอย่างที่พวกเจ้าคิด มันเป็นฟีนิกซ์สีฟ้าขาวเหมือนกับถูกหุ้มไปด้วยผลึกน้ำแข็ง ใช่… มันคือฟีนิกซ์น้ำแข็ง! สัตว์ในตำนานที่ติดหนึ่งในสิบของสิ่งมีชีวิตที่หายากโคตรๆในตอนนี้! มันสวยมากเลยนะ ผลึกตามตัวส่องประกายแวววาว หางก็เหมือนกับเกล็ดน้ำแข็งใสๆ สวยมาก สวยสมคำเล่าลือจริงๆ… แต่ว่านะ… นี่มันห้องนอนนะเว้ยเฮ้ยยยยยยยย!!!!
“นี่เจ้าจะเปิดสวนสัตว์ในห้องนอนรึไง!!?”
พอข้าถาม และมารินน์ก็ตอบด้วยสีหน้านิ่ง เรียบ เหมือนกล้ามเนื้อหน้าหยุดทำงานไปแล้ว พร้อมด้วยรอยยิ้มมั่นใจที่ริมฝีปาก
“อือฮึ!!”
ข้ามองหน้านางด้วยสีหน้าอึ้งๆครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองไซบีเรียนฮัสกี้ นกฮูก และนกฟีนิกซ์ที่กำลังเร่ร่อนรอบห้องตามลำดับด้วยสีหน้าที่ยากจะประเมินได้ว่าตกตะลึงพรึงเพริดถึงไหนต่อไหนแล้ว
ให้เต้าเจี้ยวหกเหอะ!!! นี่มันห้องนอนหรืออะไรกันแน่ฟะเนี่ย!!!!
ความคิดเห็น