คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Alphabet 6 : กระเป๋าพูดได้กับยัยม้าศึก
Alphabet 6
กระเป๋าพูดได้กับยัยม้าศึก
“หา!! ก กระเป๋าพูด!!?”
“กระเป๋าพูดได้ไง!!”
ข้ารู้แล้ว!! พวกเจ้าไม่ต้องย้ำก็ด้ายยยยยยยยยยยยยย
นี่ขนาดคนอยู่ห่างๆยังตกใจขนาดนั้น แล้วคนอย่างข้าละ? ข้าอยู่ใกล้ไอ้ตัวต้นเหตุนี่ที่สุดเลยนะเฟ้ย! ไม่ต้องคิดเลยว่าข้าจะช็อคซีนีม่าอ้าปากเหวอขนาดไหน!!
ว่าแต่ เมื่อไอ้กระเป๋าพูดว่าอะไรฟะ?
“เฮ้อ… เด็กสมัยนี้มันน่าเบี่ย…”
น่าเบี่ย…? เฮ้ย กระเป๋าอินเทรนด์ว่ะ กระเป๋าพูดว่าน่าเบี่ยได้ด้วย แถมถอนหายใจเหมือนลุงแก่ๆ วัยกลางคนแถวบ้านข้าตอนบ่นขุนนางประจำถิ่นด้วย!
“อะไรกันว้า…”
กระเป๋าเริ่มพล่ามบ้าอะไรสักอย่างของมัน ข้าไม่รู้ละ ข้ากำลังช็อค ข้ามึนมาก ข้ากำลังตกใจ และข้ากำลังสับสนมากถึงมากที่สุด!
“เด็กสมัยนี้มันก็มีแต่ไม้กระดาน มองไปทางไหนก็มีแต่สี่เหลี่ยมแบนๆไร้ทรวดทรง… เฮ้อ… โลกใบนี้มันจะน่าเบื่อไปถึงหนายยยยยย”
เออะ… มันกำลังด่าข้าว่าหุ่นเรียบไม้กระดานอยู่เหรอ?!
สมองข้าประมวลผลช้าเหมือนเต่าเป็นตาปลาคลานมากตอนนี้ มันเบลอเหมือนโดนเอาขนมปังฝรั่งเศสทุบหัวไปหมด ก่อนจะสรุปได้แบบหยาบๆว่าไอ้กระเป๋ามันกำลังด่าเด็กสมัยนี้ด้วยน้ำเสียงกำลังเมาเหล้า โห!! อะเมซิ่งสุดๆ! นอกจากจะบิดก้นได้ พูดได้แล้ว กระเป๋ามันยังเมาเหล้าได้ด้วยเว้ยเฮ้ยท่าน!!
“…”
พอเงียบไปได้สักพัก ไอ้กระเป๋าก็กระทำการโหยหวนอีกครั้ง!!
“โอ้วววววว พี่สาวนมโต คัมทูมีพลีส!!!!!!”
ว้อนท์อะไรของมันวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
ข้าเกือบจะขาขึ้นมาถีบมันด้วยความช็อคระคนอนาถใจที่สั่งสมกันมาติดๆกันไปแล้ว ถ้าสลักล็อคกระเป๋าที่ติดอยู่บนไอ้กระเป๋าเมาเหล้านั่นมันไม่ขยับดุ๊กดิ๊ก ตอนแรกข้าก็งงนะ แต่แปปเดียวก็รู้ว่ามันกำลังถูกเปิดออกจากภายใน…
ฮะ!!! เปิดจากข้างใน!!!!?
“เฮ้ย! เฮ้ย! เฮ้ย!! เฮ้ย!!!?”
ภาพชวนตะลึงตรงหน้านั่นทำให้ข้าเบิกตากว้าง พูดคำว่าเฮ้ยซ้ำไปซ้ำมาขณะมองการเปลี่ยนแปลงของกระเป๋าใบนั้นอย่างอึ้งๆ ผ้าที่ใช้ปิดถูกแง้ม พร้อมกับมีมือโผล่หมับ! เปิดกระเป๋าออกพรึ่บ! เผยให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากกระเป๋าอย่างเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทั้งๆอย่างนั้น ดวงตาของเขามองมาข้างหน้าเหมือนคนกำลังเมาตด มี…… บรา อ่า เสื้อชั้นในของผู้หญิงนั่นแหละ ห้อยอยู่ที่หูซ้าย…
“จ เจ้าเข้าไปในกระเป๋าของข้าได้ยังไง!”
เอ็มม่าวิ่งถลาผ่านข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าของข้าหน่อยๆ ใบหน้าของเธอแดงซ่านขณะที่ชี้นิ้วไปที่ชายคนนั้น คนที่ข้ากำลังสงสัยอยู่ว่ายัดสารร่างตัวเองเข้าไปอยู่นั้นได้ยังไง!? กระดูกทำจากยางยืดเรอะ!?
“น นั่นมันของข้านะ!!!!”
“อ้าว เหรอ?”
“ข ของข้า!! เอามานะ!”
“…” ข้าเห็นชายคนนั้นดึงไอ้นั่น (?) ออกจากหูตัวเอง แล้วเอามันมาจ้องนิดนึงราวกับกำลังคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกับกำลังสบถ “ป๊าดโธ่! ก็แค่ไข่ดาวฟองจิ๋วๆ…”
“ไม่ใช่นะ!!!!!!!!!”
ข้าสงสารเอ็มม่าว่ะ ใบหน้าของหล่อนในตอนนี้แดงเถือกไปถึงกกหูเลย ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ยังยืนทำหน้าเหมือนเมาลมหายใจตัวเองอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนที่ไปไหน แต่แค่ยืนนิ่งๆ ก็สามารถทำร้ายจิตใจสาวน้อยอย่างเอ็มม่าไปได้อย่างโหดเหี้ยม… เก่งเนอะ?
ขอบรรยายหน่อย ผู้ชายคนนั้นผมสีเงิน สีตาข้าเห็นไม่ชัด แต่หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่ผู้ชายหนุ่มๆ… จากหน้าตาก็น่าจะประมาณสามสิบต้นๆได้ เห็นมะ ข้าเดาถูกด้วยว่าเป็นตาลุง ข้าเก่งใช่ม้า! ว่าแต่สีเงินนั่นเหมือนมาร์ชเมลโล่เลย! กินได้มั้ย!?
“ก็อย่างที่บอกอะนะ…” ลุงแกถอนหายใจ “เด็กสมัยนี้มันคงไม่โตกันแล้ว…”
“เอาคืนมา!”
“ให้ตาย โลกใบนี้มันเสื่อมทรามลงทุกวันๆ…”
“นี่เจ้า!!”
“ไร้ซึ่งดอกไม้งามอย่างพี่สาวหน้าอกโตมาทำให้สดใส…”
“นี่!! ฟังที่ข้าพูดสิ!!!”
“จบสิ้นแล้วสินะโลกใบนี้!!”
ตาลุงนี่กำลังเพ้อหาอะไรอยู่ฟะ!! ข้าสงสัย!!! หา? นี่! เฮ้ย!! บอกแล้วว่าอย่าตอบว่าหน้าอก ข้ารู้ แต่ข้าไม่อยากพูดถึงมัน มันน่าเกลียดเกินมากกว่าที่จะพูดได้! โธ่เว้ยยยย ใครก็ได้ช่วยหยุดความติดเรทของตาลุงนี่ทีดิ๊!! แล้วพิเอต้า มารินน์ กับวิโอล่าไปไหนเนี่ย? อ้าว!! เฮ้ย!! ปิดหน้าต่างหนีไปแล้ว!!? ตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะ!? แหมมมม รักม้าศึกคนนี้กันจังเลยนะแม่คุณ!!
งั้นก็แปลว่าเหลือข้ายืนหัวโด่อยู่กับจำเลย… และผู้ต้องหาที่ยังคงอยู่ในกระเป๋าแค่คนเดียว…สินะ?
“เฮ้ เจ้า” ข้าก้าวไปด้านหน้า ใช้เวลาประมาณสองวินาทีในการปั้นใบหน้าให้ดูเท่ ดูมีอำนาจ ดูมีสง่าราศีมากที่สุด พอจัดการปั้นหน้าเรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาคือการเก๊กเสียงให้ทุ้มต่ำ โอเค! พร้อมแล้วเฟ้ย!! “ข่มเหงอิสตรีมิใช่วิถีของนักรบหรอกนะ…”
เท่โคตร!!! เห็นมั้ย! ถึงข้าจะตะกละแต่ก็เท่ได้นะ!
ว่าแต่มีใครแอบคิดเหมือนข้าบ้างมั้ย? สมมติว่าถ้าการข่มเหงสตรีไม่ใช่วิถีของนักรบ งั้นก็แปลว่าวิถีแห่งนักรบคือการข่มเหงบุรุษสินะ? อา ช่างมันเหอะ ข้าคงคิดมากไป
ลุงในกระเป๋าทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกใส่ข้า ผิดกับเอ็มม่าที่กรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น ก่อนจะชี้นิ้วมาทางข้า
“ท่าทางแบบนั้นมัน!! เหมือนอัศวินแห่งธัวร์น็อคไม่มีผิดเลย!!”
อะไรคืออัศวินแห่งธัวร์น็อคฟะเฮ้ย!! (เอ่อ ตอนแรกที่ฟังข้าได้ยินคำว่าธัวร์เป็นถั่วละ…บ้าชะมัด ข้าหิวอีกแล้วสิเนี่ย อูย…)
“อัศวินแห่งธัวร์น็อค?” ข้าทวน
“อื้ม! มันเป็นนิทานน่ะ เรื่องของมันก็มีอยู่ว่ามีอัศวินคนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในราชอาณาจักรธัวร์น็อค อาณาจักรที่เหลวแหลกที่สุดในขณะนั้น ผู้คนต่างพากันเสพสุขจนละเลยเทพเจ้า และทำให้เทพเจ้าพิโรธ เหล่าเทพจึงคิดจะทำลายเมืองแห่งนี้ด้วยสายฟ้าพิฆาต! แล้วคนที่ออกมาปกป้องชาวบ้านเมืองก็คืออัศวินผู้นี้นั่นเอง! เขายืนยันว่ายังมีคนดีแฝงตัวอยู่ในคนเลวเหล่านั้น!”
“โห…”
“สุดท้าย อัศวินแห่งธัวร์น็อคก็สะดุดก้อนหินหัวฟาดพื้นตาย…”
“ปัดโธ่!”
ไอ้เราก็อุตสาห์ชื่นชมมาตั้งนาน!! ชีวิตท่านช่างอาภัพอะไรเช่นนี้! ท่านอัศวิน!
ข้ายกมือขึ้นมาก่ายหน้าฝากอย่างป่วยจิต ถ้ามองในอีกแง่หนึ่งคือการไว้อาลัยให้ท่านอัศวินที่หัวฟาดพื้นตายอย่างหมดสิ้นความเป็นผู้เป็นคนคนนั้น… พอทำทุกอย่างเสร็จ ข้าก็กลับไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ต่อ แน่นอน ด้วยสีหน้าที่ข้ายังอดชมตัวเองไม่ได้เลยว่าเท่มาก!
“เจ้าเป็นใคร…?” ข้าแอ๊บเสียงขรึมอีกครั้ง… แหม่! ข้าชอบตัวเองตอนเก๊กแบบนี้จัง มันดูมีสง่าราศีมาก! เฮ้ย! จะพูดอะไรน่ะ! หยุด! ยอมรับก็ได้ว่าข้าเท่อยู่คนเดียวในโลกของข้า ไม่ต้องมาตอกย้ำกันหรอก!
คุณลุงยกยิ้ม เหมือนจะเท่ และเท่แน่หน้าตาไม่เหมือนคนเมา “ข้าชื่อเพลัวร์ เอิ๊ก… P แห่งอัลฟาเรียน”
อัลฟาเรียนงั้นเหรอ? แล้วเอิ๊กนั่นหมายความว่ายังไงละนั่น นามสกุลเรอะ!?
“เอิ๊กกกกก!! เอาเหล้ามาเติม!!”
นี่สรุปเมาจริงไม่ติงนังเรอะ!?
ณ บัดนี้ ข้าเข้าใจแล้วว่าเอิ๊กนั่นเป็นเสียงเรอของคนเมา ขอโทษที่คิดว่าเป็นนามสกุลนะ แล้วสรุปตาลุงนี่ก็เป็นอัลฟาเรียนเหรอ? ตำแหน่ง P มันตำแหน่งอะไรละนั่น ข้าจำไม่ได้ซะด้วย
“อัศวินแห่งธัวร์น็อค เจ้าต้องช่วยข้านะ ข้ากลัวลุงคนนี้อะ!” พอเอ็มม่าเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้วก็มาหลบอยู่หลังข้า “ไปเลยยยย จัดการมันเลยยยยย!”
“จะให้ข้าทำยังไงเล่า!”
ตอนนี้ข้ากำลังอยากได้ผู้ช่วยสักคนอะ พิเอต้าก็ได้ มารินน์ก็ดี และที่ดีที่สุดคือโนอา! ใช่เลย โนอา!! ข้าว้อนท์นางมากตอนนี้! ใครก็ได้ไปตามโนอาให้ข้าทีสิ!
“ข้าพูดไม่ได้ยินรึไง!” คุณลุงนามว่าเพลัวร์เริ่มโวยวาย “เหล้าน่ะ เหล้า…หือ?”
จู่ๆ คำพูดของคุณลุงก็ถูกตัดฉับ เขาหยุดคำพูดกลางคัน แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองอะไรก็ไม่รู้บนท้องฟ้า เอ็มม่ามองตามขึ้นไป ข้าก็เหมือนกัน แล้วไอ้สิ่งที่อยู่บนฟ้าก็ทำให้ข้าอ้าปากเหวอเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน!!
อะไรฟะเนี่ย!!!! ดาวตกกำลังตกลงมากลางวันแสกๆ!! มันคือคำอวยพรจากเทพบิดรหรือการลงโทษจากสวรรค์ฟะนั่น!? เฮ้ย ไม่สิ… ม มันไม่ใช่ดาวตก!
ฟ้าวววววววววววววว
สิ่งที่กำลังพุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงคือสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายๆกับดาวตกก็จริง แต่มันไม่ใช่แน่ๆ มันมีรูปร่างเหมือนคน แต่มีประกายไฟเหมือนอุกกาบาตหุ้มตัวอยู่ พระเจ้า! นั่นมันอะไร! อุกกาบาตมนุษย์เรอะ!!!
ข้าไม่รู้ว่าตัวเองใช้เวลาตกใจนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกที ไอ้เจ้าอุกกาบาตมนุษย์ก็เข้ามาใกล้แบบสุดๆซะแล้ว!!
“ไม่นะ!!!”
เสียงของเอ็มม่า นางร้องกรี๊ดเสียงดัง ก่อนจะถอยหนีออกจากระยะที่เจ้าอุกกาบาตนั่นอาจมาถึงตัวได้ ข้าเองก็เตรียมถอยเหมือนกัน แต่ทว่า…
เปรี้ยง!!!
“เฮ้ย!!!!”
ก่อนที่จะหนีได้ดังใจ ข้าก็ดันข้าโดนเอ็มม่ายกเท้าขึ้นถีบไปเสนอหน้ารับอุกกาบาตแทนโดยไม่ทันตั้งตัว!!
ตูมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!
เทพบิดร!! ท่านเกลียดข้ามากขนาดนี้เลยเหรอ!!?
ความคิดเห็น