คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Desperado 4 : ปราสาทแก้วของเทพธิดา
Desperado 4 : ปราสาทแก้วของเทพธิดา
“เอาละ เห็นโบสถ์ขาวๆนั่นมั้ย!?
นั่นเป็นโบสถ์ประจำค่ายอัศวินเรา
สมมติถ้าพวกเจ้ามีใครอยากแต่งงานกันก็มาใช้บริการได้ เอ้า!
ไหน ใครสนใจ! ยกมือ!!”
โคซีทุสเอ่ยปากแนะนำสถานที่ต่างๆภายในค่ายร่าเริง
พร้อมกับขมับมือไม้ประกอบการบรรยายอย่างคล่องแคล่ว
‘ค่ายอัศวินแห่งเซฟีรอส’ เป็นสถานที่ที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย
แต่กลับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้มาร์กาเร็ตโต้ต้องอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมสภาที่สร้างจากทองคำขาวทั้งห้อง
ห้องสมุดใหญ่ยักษ์ที่มีหนังสือเป็นหมื่นๆเล่ม น้ำพุที่พ่นน้ำอมฤตออกมา โบสถ์ขาวที่ลุงโคซีทุสแนะนำเมื่อกี้ก็ไม่น้อยหน้า
เพราะถ้ามองเข้าไปดีๆ จะเห็นรูปปั้นเทพธิดาที่ถูกสร้างจากผลึกเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงสุดเจิดจรัสตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในนั้น
และ เอ่อ… ถ้าเขาฟังไม่ผิด เหมือนลุงโคซีทุสจะทิ้งท้ายว่าหากใครไปขอพรที่นั่นจะโชคดี
ได้ภรรยาขาว สวย อกอึ๋ม เชปบ๊ะๆ มาให้นอนกอดเล่นๆ อีกด้วย!
แต่เขามีเอลีน่าอยู่แล้วนี่นา ขาว สวย ทุกอย่างครบเลยด้วย จะเอาคนอื่นมาเพิ่มอีกทำไมกัน?
...จริงๆแล้วค่ายนี้มันก็เหมือนกับเมืองขนาดย่อมๆละนะ! มีทั้งภูเขา ป่า และทะเลสาบแสนสวย รวมทั้งสิ่งก่อสร้างสำหรับอำนวยความสะดวกมากมาย บริเวณที่มีไว้ฝึกอาวุธกับจุดที่มีไว้เพื่อการพักผ่อนถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจนและเป็นระเบียบซะเสียซะจนมาร์กนึกอยากจะชมคนวางผังสักครั้ง
ทำได้ยังไงกัน นี่มันสุดยอดไปเลยนะ...!
แต่เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ทำให้มาร์กาเร็ตโต้ไม่สามารถสรุปรายละเอียดอื่นๆได้อย่างครบถ้วนนัก
แต่ก็สามารถพูดได้ว่าที่นี่เป็นค่ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดค่ายหนึ่งเลยทีเดียว!
“ส่วนตรงนั้นเป็นลานฟันดาบ
ข้างๆเป็นลานยิงธนู แล้วพอเดินเลยไปอีกหน่อยจะเป็นส่วนพยาบาล …ตามทันใช่มั้ย?” เซเฟียส อัศวินเก่าอีกคนที่มาช่วยแนะนำสถานที่ผายมือไปด้านข้างพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง
เส้นผมสีแดงของเจ้าตัวถูกสายลมพัดปลิวไปเล็กน้อย “ส่วนอีกด้านจะเป็นโรงเก็บอาวุธ
แต่ข้าแนะนำให้พวกเจ้าเก็บอาวุธไว้กับตัวจะดีกว่านะ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นจะได้ไม่ตกใจกัน”
ว่าจบ ผู้พูดก็ระบายยิ้มละไม สร้างบรรยากาศสบายๆ
และเป็นกันเองให้แก่ทุกคนที่รายล้อม
เซเฟียส วาเรเฟียร์ นับเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของกองอัศวิน
ยศของเขาเป็นถึง‘รองแม่ทัพแห่งเซฟีรอส’ มีอำนาจสั่งการรองจากแม่ทัพใหญ่
ที่สำคัญ หากเมื่อใดที่ท่านเจอโรม แม่ทัพอันเป็นที่รักของทุกคนติดภารกิจในฐานะไดมอนด์… เซเฟียสคนนี้จะเข้ามาทำหน้าที่บัญชาการรบแทน
ซึ่งฝีมือของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าผู้เป็นนายทัพสูงสุดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเก่งกาจจนน่าตกใจ ทั้งๆที่ร่างโปร่งผมแดงคนนี้มีชาติกำเนิดเป็นมนุษย์
"..."
มาร์กาเร็ตโต้พยักหน้ารับคำแนะนำของเซเฟียสอย่างเงียบๆ
ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองไปโดยรอบเพื่อเก็บภาพสถานที่ต่างๆให้ครบ
เอเซเควลกับเอนริคเดินอยู่ข้างๆเขา ร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีทองกำลังมองดูสิ่งก่อสร้างต่างๆ
ด้วยท่าทางตื่นเต้นปนสนุกสนานตามประสานักเดินทาง พร้อมกับชี้โน่นชี้นี่ไปตลอดทาง ความมีชีวิตชีวาของเอเซเควลผู้เป็นเพื่อนสนิททำให้มาร์กพลอยใจชื้นไปด้วย
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียวละนะ! มีคนอย่างเควลอยู่ด้วยทั้งคน ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่ๆ!
....และเมื่อมาร์กลองหันไปมองด้านหลัง หมายจะลองมองห้องสมุดของกองชัดๆอีกครั้ง เขาก็มีอันต้องชะงักน้อยๆ
เขาเห็น ‘คนๆนั้น’… ราฟาเอล ชาห์…
แม้จะถูกล้อมห้อมไปด้วยบรรดาอัศวินใหม่หลายต่อหลายคน
แต่คนๆนี้ก็ยังคงความโดดเด่นอย่างน่าประหลาด… เงามืดที่ทาบทับใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลไม่สามารถมองหน้าของราฟาเอลได้ชัดนัก
มันเหมาะเจาะราวกับจงใจ…
แปลกจริงๆนะ
ทุกครั้ง… ต้องบอกว่าทุกครั้งจริงๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่อดีตทายาทอัศวินตั้งใจจะมองหน้าราฟาเอลตรงๆ
มันก็มักจะมีอะไรบางอย่างบดบังใบหน้าของอีกฝ่ายเอาไว้เสมอ ทำให้เห็นอย่างมากสุดก็แค่เสี้ยวใบหน้า
ทว่า แม้เพียงแค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาหยุดหายใจได้ง่ายๆ…
แล้ว… ถ้าเห็นหน้านั่นเข้าตรงๆละ?...
ใบหน้านั่นก็คงจะ…
“เฮ้! มาร์ก!”
“ห หา?”
“ข้าเรียกเจ้าตั้งนานนะ” เอเซเควลขมวดคิ้ว มองหน้ามาร์กาเร็ตโต้อย่างนึกสงสัย “เป็นอะไรไปน่ะ?”
“เปล่าๆ มีอะไรเหรอ?”
“อ๋อ ข้าเห็นกระรอกสีรุ้งน่ะ!”
เพื่อนสนิทนักเดินเรือขยับมือขึ้นมาวางบนบ่าเขา
ก่อนจะชี้ขึ้นไปบนต้นแอปเปิ้ลที่อยู่ไม่ห่างจากตรงนั้นนัก สีหน้าของหนุ่มเลือดทะเลเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“นั่นๆๆๆ นั่นไง! เฮ้ย มาร์ก! มันพาลูกมาแล้ว!”
“อ๊ะ ไหน?!”
กระรอกสีรุ้งที่ว่ามีลำตัวเป็นสีรุ้งจริงๆ! มาร์กเห็นมันกำลังส่ายก้นดุ๊กๆดิ๊กๆ
จนหางกระเพื่อมขณะแทะอะไรสักอย่างอยู่ พอเห็นว่ามีมนุษย์กำลังมอง
เจ้ากระรอกก็ทำตาแป๋ว หันมามองพวกเขาแบบงงๆ แล้วสะบัดหางใส่ทีนึงอย่างสงสัย
‘มองเก๊าทำไมเจ้ามนุษย์! เดี๋ยวเอาหางฟาดเลย!’
ใช่ สายตาเจ้ากระรอกเป็นแบบนั้นเลย!
“น่ารักใช่มั้ยละ!?”
“อื้ม! ช ใช่…”
ตอนแรกมาร์กก็สนใจไอ้กระรอกสีรุ้งที่ว่าอยู่หรอก! แต่จู่ๆ
เขาก็เกิดสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตบางอย่างที่ทำให้สันหลังของเขาเย็นเฉียบแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย…!
น้ำเสียงช่วงหลังจึงแปร่งๆ ฟังดูแผ่วๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด…
เพราะ…
อา เพราะเอนริคกำลังจ้องเขาตาเขียวปั๊ดยังไงละ!!
มือเล็กๆ ของเด็กน้อยกอดขาผู้เป็นพี่ชายเอาไว้อย่างหวงแหน… ใบหน้าจิ้มลิ้มเต็มไปความอาฆาตพยาบาท
รังสีฆ่าฟันที่แผ่ออกมาจากร่างเล็กๆนั่นมากเสียจนมาร์กต้องกลืนน้ำลายเอื๊อก…
ในขณะที่คนต้นเรื่องไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลยสักนิด!
“สีแปลกจริงๆ ให้ตายสิ มาร์ก ข้าว่าที่ฮิสปานิโอล่ามีของแปลกเยอะแล้วนะ!”
เอเซเควลขยับตัวมากอดคอเขา ขยับแขนแนบแน่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเต็มที่! แต่เอนริคไม่ยิ้มด้วย!
พระเจ้า! มาร์กอยากเป็นลม! ไอ้… เอ่อ… ไอ้ออร่าฆ่าฟันระดับมหาประลัย
มะเฟือง มะไฟ มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ฟักแฟงแตงโม ไชโยโห่ฮิ้วนี่มันอะไรกัน!!
รังสีนี่มันรุนแรงจนแทบล้างโลกได้แล้วนะ! เด็กคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!!
ทว่า ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างมาร์กจนได้! เมื่อเอเซเควลรู้สึกได้ถึงแรงกอดที่มากขึ้นบริเวณขาของตน
ร่างสูงจึงก้มหน้าลง แล้วมองหน้าน้องชายตัวจิ๋วด้วยแววตาสงสัย
“หือ? มีอะไรรึเปล่า
ริค?”
เอนริค มาเซลิโน่ค่อยๆ ระบายรอยยิ้มบนใบหน้าประดุจเทวดาตัวน้อยๆ
รังสีมรณะหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยมีมาก่อน…
“ข้าอยากดูกระรอกด้วย… ท่านพี่…”
“โอ้ ได้สิ!” เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตช้อนตัวน้องชายขึ้นมานั่งบนบ่าอย่างร่าเริง
พร้อมกับชี้นิ้วไปทางกระรอกสีรุ้งตัวเดิมที่กำลังเล่นตบแปะมุ้งมิ้งกับลูกน้อยของมันอยู่
“นั่นไง เห็นมั้ยริค! มันกำลังเล่นกับลูกอยู่เลย!”
เอเซเควลหัวเราะอย่างสดใส ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ต่างกัน
เด็กน้อยผมทองยิ้มบางๆอย่างน่ารักน่าเอ็นดูพร้อมกับเอาแก้มชนแก้มพี่ชายตนเบาๆ
“ข้าอยากเล่นกับท่านพี่ด้วย…”
เล่นอะไร?
อืม… อ้อ ใช่แล้ว! เอนริคคงหมายถึงเล่นฟันดาบสินะ!? แบบที่มาโนโลลูกชายเขาชอบเล่นไง!
ใช่ๆ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ! เล่นฟันดาบยังไงละ!
และก่อนที่มาร์กจะคิดสะระตะไปมากกว่านี้
เสียงของโคซีทุสก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ ปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ในที่สุด
“เอาละๆ ดีใจกันหน่อย!
ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักกันแล้ว!”
ดวงตาสีน้ำตาลหันกลับมามองตรงไปข้างหน้า
ก่อนที่มันจะเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า ‘ที่พัก’!
"อ โอ้โห!?"
มันเป็นปราสาทแก้วหลังงามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียวขจี
ตัวปราสาทสะท้อนแสงจันทร์เป็นสีรุ้งสวยงามดั่งแสงออโรร่า แก้วใสที่ประกอบกันเป็นปราสาทไร้ตำหนิใดๆทั้งสิ้น
มันเปล่งประกายระยิบระยับคล้ายอัญมณีน้ำงามยามต้องแสงสว่าง… เมื่อรวมกับแสงจันทร์นวลที่สาดส่องลงมาจากเบื้องบนแล้ว
ปราสาทหลังนี้ก็ยิ่งดูสง่างามและอ่อนโยนราวกับเป็นสิ่งสร้างของเทพธิดา…
“อา…”
มาร์กาเร็ตโต้อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด
ปราสาทตรงหน้าของพวกเขางดงามราวกับภาพฝัน… งดงามกว่าจินตนาการใดๆ…
อืม…
เขาเกิดและโตในสเปน ปราสาทในบ้านเกิดของเขามีมากมาย
ทั้งที่เป็นสิ่งก่อสร้างของชาวคริสต์และชาวมัวร์ที่เคยเข้ามาปกครอง ทุกหลังล้วนแต่งดงามตรึงใจ
แต่มาร์กค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีปราสาทหลังไหนสวยเท่าปราสาทแก้วตรงหน้าเลยสักหลัง
“ส สุดยอดเลย!”
“สวยมาก!!”
“นี่ที่พักของเราเหรอเนี่ย!?”
ผู้อาวุโสประจำกองอัศวินมองสีหน้าของบรรดาผู้มาใหม่แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
โคซีทุสพยักหน้า รับคำชมเหล่านั้นอย่างภาคภูมิใจ
“ช่าย… สีน้ำตาลสวยใช่มั้ยละ?”
หา?...
ส สีน้ำตาลเหรอ???
มาร์กขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินคำพูดของโคซีทุส
เขาหรี่ตา พยายามเพ่งมองปราสาทแก้วตรงหน้าอีกครั้ง
มันไม่ใช่สีน้ำตาล?
หลังจากเพ่งแล้ว เพ่งอีก เพ่งซ้ำหลายๆรอบ แต่มาร์กก็ยังไม่เห็นว่าปราสาทใสๆ
ตรงหน้ามันจะมีสีอื่นเจือปนมาตรงไหน!?
หรือเขาตาบอดสีแล้ว!? ไม่จริง! ไม่!!!
“สีน้ำตาลตรงไหนกันลุง? ก็เห็นอยู่ว่ามันเป็นปราสาทแก้ว!”
“ไม่ๆ ปราสาทนั่นมันที่พักของพวกผู้หญิง
ของพวกเราเท่กว่านั้นเยอะ!” โคซีทุสยิ้ม
ก่อนจะผายมือไปอีกด้าน “นั่นไง”
ขวับ!
เหล่าอัศวินหันไปตามทิศทางที่ชี้โดยอัตโนมัติ! แล้วทุกคนก็เข้าสู่ภาวะตกตะลึง!!!
มันคือบ้านพักสีน้ำตาลตุ่นๆ
สภาพร่อแร่เต็มทน…
รั้วที่ล้อมรอบเป็นสีขาวที่มีรอยแตก มีหยากไย่เกาะ
หนูวิ่งผ่านหน้าไปตัวหนึ่ง ประตูผุใกล้พัง หน้าต่างโทรมแถมยังมีรู ฝุ่นเพียบ รอยรั่วบนหลังคามีกระดาษโง่ๆแผ่นหนึ่งแปะไว้แบบไร้ความรับผิดชอบ
ต้นไม้ขึ้นรก มีงูนอนขี้เกียจอยู่บนกิ่งไม้ และอีกสารพัดสารเพที่มาร์กไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้…
…
ในขณะที่ทุกคนกำลังมองอยู่นั่นเอง
หน้าต่างบานหนึ่งก็หลุด… กระเด็นออกมาจากกรอบ
มันร่วงลงมากระแทกพื้นอย่างสวยงามท่ามกลางสายตาไร้คำบรรยายของบรรดาผู้มาใหม่
โครม…!
“…”
“…”
“…”
ใบ้กินกันทั้งกอง…
มาร์กหันหน้าไปมองปราสาทแก้ว ถอนหายใจอย่างชื่นชมครู่หนึ่ง
แล้วหันกลับมามองบ้านพักโกโรโกโสของตนอีกครั้ง…
เซฟีรอสเป็นอัศวินของเซฟีร่า…
เซฟีร่าเป็นเทพธิดา
เทพธิดาเป็นผู้หญิง…
“…”
ปราสาทแก้วส่องประกายวิบวับ ตรงข้ามกับบ้านพักเส็งเคร็งของพวกเขาดุจฟ้ากับเหว…
มาโนโล
พ่อเห็นความไม่เท่าเทียมทางสังคมละลูก…
“เฮ้ๆ เดี๋ยวนะลุง”
บาร์ธาซาร์ แอสโมดิอุส อำพันแห่งเซฟีรอสเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา
ดวงตาคมจ้องมองคนที่ถูกเรียกว่าลุงอย่างไม่เข้าใจ “ไอ้บ้านพักสมถุยนี่มันอะไรเนี่ย?
งบหมดเหรอ”
“อ้าว? ผู้หญิงก็ต้องได้สิ่งที่ดีกว่าสิ!”
อำพันหนุ่มถอนหายใจยาวเหยียด
สีหน้าโคตรเพลียจิตกับการบริการอันกดขี่ทางเพศของค่าย ชายหนุ่มผมแดงปราดสายตามองบ้านพักหนักใจตรงหน้า
ก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา
“เป็นบ้านที่ไม่ให้เกียรติความหล่อข้าเลย…”
“โถ ไอ้หนุ่ม ข้าหล่อกว่ายังทนได้เลย!”
“เหี่ยวแล้ว
เลิกเพ้อเจ้อเหอะลุง”
“ข้าไม่ได้เหี่ยว!”
อัคมัล คนที่มาร์กจำได้รางๆว่าเป็นหนึ่งในสภาอัศวินเหมือนกันยิ้มแห้งๆให้กับภาพตรงหน้า
ท่าทางของอัคมัลไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นลมแบบคนส่วนใหญ่ ดูจากท่าทางแล้ว
เด็กหนุ่มผมเงินคนนี้น่าจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีพอสมควรเลยทีเดียว
พอเห็นมาร์กมองมา
เด็กหนุ่มผิวขาวก็ระบายยิ้มให้เขาอย่างสดใส
นั่นทำให้เขาเผลอยิ้มตามออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะผงกหัวให้เป็นเชิงทักทาย
อา เห็นแบบนี้มาร์กก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย!
เขายังไม่ลืมว่าตัวเองได้รับเลือกให้เป็น ‘ทับทิม’ แห่งสภาเซฟีรอส ดังนั้น เขาจึงต้องทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมสภาอีกยาว พอเห็นท่าทีของอัคมัลเขาก็เบาใจขึ้นเยอะ! อย่างน้อยอัคมัลก็ดูเป็นคนนิสัยดี
ไม่ได้มองเขาด้วยสายตาระแวงปนเกลียดกลัวเหมือนอัศวินเก่าบางคน
อา ไม่สิ
จริงๆ ทุกคนในสภาก็ดูเป็นคนดีกันทั้งนั้น เขาเชื่อนะ!
รู้สึกว่าจะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกรับเลือกเป็นหนึ่งในสภาด้วย
จะเป็นคนแบบไหนกันนะ? แล้วเขาก็อยากลองคุยกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่งเอเชียสักครั้ง… รู้สึกว่าจะเป็นแซฟไฟร์ละมั้ง? อีกคนก็ด้วย…
คนที่มีหูแพะนั่นก็ไม่ได้ดูใจร้าย…
“เอ้า
อย่าเพิ่งตกใจกันนะทุกคน มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก พวกเราอัศวินก็ต้องอดทนอยู่แล้ว”
เซเฟียสยิ้ม รอยยิ้มของเขาสะกดผู้ฟังทุกคนได้อย่างง่ายดาย “ฟังกันต่อนะ ห้องพักของเราเป็นเตียงคู่ เพราะฉะนั้นเราจะมีการจับคู่รูมเมทกัน”
“แต่พวกเรามีกันเป็นเลขคี่
เพราะงั้นจะมีหนึ่งคนที่ได้นอนห้องเดี่ยว”
โคซีทุสเสริม
พลางชี้นิ้วขึ้นหนึ่งนิ้วประกอบคำพูด
“ลุง”
“อะไรอีก?”
“ที่แบ่งเป็นคู่ๆเนี่ย…” อำพันหนุ่มหรี่ตา ทำหน้าหล่อ “เพราะอยากให้อัศวินสนิทกันไวๆใช่มะ?”
แล้วโคซีทุสก็ยิ้ม! ท่าทางภูมิใจที่สุดในโลก!
“เพราะห้องไม่พอต่างหากละ!”
“…….”
เซเฟียสที่เห็นภาพนั้นหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะเริ่มอธิบายต่อไปอย่างชำนาญสมเป็นรองแม่ทัพ
“เดี๋ยวจะมีตัวเลขปรากฏบนผลึกบนคอของพวกเจ้า
นั่นคือหมายเลขห้อง ใครได้เลขเดียวกันก็แปลว่าอยู่ห้องเดียวกันนะ
ยกเว้นคนที่เป็นพี่น้องกันที่เราให้อยู่ห้องเดียวกันอยู่แล้ว …เอาละ ตอนนี้มีใครสงสัยอะไรมั้ย?”
…พี่น้องอยู่ห้องเดียวกัน? งั้นก็แปลว่าเอเซเควลก็ต้องอยู่ห้องเดียวกับเอนริคสินะ
มาร์กจับคางคิด
แล้วเขาจะอยู่กับใครละเนี่ย? ถ้าเป็นพวกที่ดูนิสัยดีแบบอัคมัลคนนั้นก็ดีสิ...!
“มาถึงที่พักกันแล้วเหรอ?”
“ท่านเจอโรม!”
น้ำเสียงนิ่งเรียบราวกับน้ำแข็งนั้นดึงความสนใจของทุกคนได้ชะงัด
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังผู้มาใหม่ที่ย่างเท้าเข้ามารวมกลุ่มด้วย
ตราสัญลักษณ์ที่ดูโดดเด่นบนหน้าอกกับผลึกแห่งเทพธิดาที่มีลักษณะคล้ายเพชรทำให้ทุกคนทราบโดยอัตโนมัติว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เจอโรเม ฮานีฟ
แม่ทัพแห่งเซฟีรอส…
‘ท่านเจอโรม’ เป็นเด็กหนุ่มผมที่มีหยักศกสีทองซีด รับกับสีผิวที่ขาวซีดดุจหิมะแรกในฤดูหนาว
ดวงตาของเจอโรมมีสีที่ต่างกัน… ข้างซ้ายเป็นสีฟ้าน้ำทะเล
ส่วนข้างขวาเป็นสีม่วงงดงาม ใบหูที่แหลมขึ้นมาทำให้มาร์กทราบได้ทันทีว่าคนๆนี้มีเชื้อสาย
‘เอลฟ์’
มาร์กนึกประหลาดใจน้อยๆ… จริงอยู่ที่เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเอลฟ์มาบ้าง
แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง จนกระทั่งได้มาเห็นกับตา…
ที่สำคัญ
ใบหน้าของผู้เป็นแม่ทัพยังสวยหวานเหมือนผู้หญิงจนน่าเข้าใจผิด ชนิดที่ว่าหากท่านเจอโรมไม่ได้สวมเครื่องแบบอัศวินชายเอาไว้
มาร์กอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าแม่ทัพของเซฟีรอสเป็นผู้หญิงสวยก็ได้!
การมาถึงของแม่ทัพทำให้ทุกคนดูตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย
โคซีทุสกับเซเฟียสทำท่าจะก้มตัวลงไปโค้งคำนับเด็กหนุ่มผู้มาใหม่
แต่เจอโรมกลับยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้ ดวงตาสองสีของผู้เป็นนายทัพแห่งเซฟีรอสกวาดมองไปโดยรอบ
ก่อนจะขยับริมฝีปาก เรียกชื่อใครบางคนออกมาเรียบๆ
“มาร์กาเร็ตโต้
กอนซาเลซ”
“ค ครับ?”
“ไม่ต้องรอสุ่มหมายเลข…” แม่ทัพสายเลือดเอลฟ์เอ่ยนิ่งๆ ดวงตาต่างสีคู่สวยจ้องมาร์กไม่วางตา “เจ้าต้องอยู่ห้องเดียวกับข้า”
“เอ๋?”
อะไรนะ!!?
มาร์กทำสีหน้าไม่ถูก สีหน้าอึ้งตะลึงประดุจถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายในพงหญ้า…
อีกครั้งนะอีกครั้ง!
ทับทิมแห่งเซฟีรอสต้องการคนบอกคิวหนึ่งอัตรา!! จะเป็นใครก็ได้!
ช่วยมากระซิบบอกคิวเขาทีเหอะ! จู่ๆ
ก็เรียกชื่อกันแบบนี้มันตั้งตัวไม่ติดสุดๆนะเฮ้ย!
เตรียมตัวก็ไม่ทัน มีคนเข้าใจเขาบ้างมั้ยเนี่ยยยยยยย!!?
นอกจากความตกใจ ในหัวของอดีตทายาทอัศวินยังสุมไปด้วยคำถามที่ไม่รู้จะได้คำตอบเมื่อไหร่… เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ทัพเจาะจงว่าเป็นเขา?
จะว่าทำตัวเป็นปัญหาก็ไม่น่าใช่… เขาเพิ่งมาถึงทีหลัง
ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิดนอกจากขึ้นไปรับตำแหน่งแบบงงๆ เมื่อตะกี้…
แปลกจัง…
หรือว่ามันจะเกี่ยวกับที่เขาเป็น ‘ทับทิม’ อะไรนั่น?
“กอนซาเลซ” เจอโรมปราดสายตามองเขา
ก่อนจะหันหลังเดินนำเข้าไปในที่พัก “ตามข้ามา”
ดวงตาสีน้ำตาลยังไม่คลายแววสงสัย แต่เจ้าของร่างก็ยอมตามเจอโรมไปแต่โดยดี
โดยไม่ลืมหันไปโบกมือให้กับเอเซเควลที่ยังคงรวมกลุ่มอยู่กับคนอื่นๆที่ดูจะตื่นเต้นกับตัวเลขที่ปรากฏในผลึกแห่งเทพธิดา… กระทั่งราฟาเอลคนนั้นก็มองตามเขามาเช่นกัน
ซึ่งมาร์กก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ แล้วก้าวตามแม่ทัพแห่งเซฟีรอสเข้าไปด้านใน
เอี๊ยด…!!
ทันทีที่ถูกปลายนิ้วเท้าสัมผัส ฝุ่นก็ฟุ้ง จากนั้นพื้นก็ลั่นเอี๊ยด!...
“ฮัด…!”
มาร์กยกมือขึ้นปิดปาก
เขาเกือบจามออกมาแล้วถ้าห้ามตัวเองไม่ทัน ฝุ่นในนี้มันหนาจนเกินไป… ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด
จนเขาชักสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ ว่าพวกอัศวินเก่าอยู่กันได้ยังไง?
เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกรึเปล่า? แบบว่าถ้าทนได้ก็จะเป็นอัศวินที่ดีได้!
อะไรแบบนี้??
“ที่พักก็เป็นแบบนี้แหละ” แม่ทัพเจอโรมเอ่ยขึ้นราวกับอ่านใจได้ “ช่วงนี้เป็นช่วงสงคราม
เราไม่มีเวลามาทำความสะอาด”
“…”
มาร์กพยักหน้ารับ
สองขาเดินตามเจอโรมขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดดังตามจังหวะการเดิน
แถมฝุ่นยังหนาจัด แค่หายใจเบาๆก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว… แถมถ้ามองดีๆ จะเห็นขยะเป็นก้อนๆ
ถูกซุกไปตามมุมต่างๆของบ้านอีก…
ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งหันกลับมาช้าๆ ก่อนจะนึกกังวลในใจ
ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะ…
มาแล้วค่า! มาแล้ว! ไรท์มาแล้ววววววว!!!!
คิดถึงกันมั้ยคะ! ไรท์เตอร์คิดถึงทุกคนเลย!
ตอนแรกตอนนี้จะยาวมาก แต่คิดว่าคงแต่งไม่ทัน
ตอนแรกตอนนี้จะได้เปิดหน้าราฟาเอลแล้วเชียว… เสียดายค่ะ (?) ไม่เป้นไร เปิดหน้าท่านเจอโรมแทนละกันเนอะ!
สำหรับท่านเจอโรม หน้าตาก็ประมาณนี้ละเน้อ...
ส่วนด้านหลังคือปิแอร์ เมะ(?)ของท่านเจอโรมเขาค่ะ!
ไรท์เตอร์ไม่รู้ว่าตอนนี้สำนวนแย่ลงรึเปล่านะคะ...
ถ้ามันแย่ลงก็ต้องขอโทษด้วย พอดีว่าไรท์เตอร์ตั้งใจว่าจะอัพก่อนไปต่างประเทศน่ะค่ะ
ตั้งหน้าตั้งตาอัพสุดชีพ เสร็จแล้วก็เอาลงเลย! เพราะไรท์เตอร์รักทุกคน ฮิ้ววววว
<3
วันพรุ่งนี้ไรท์เตอร์ไม่อยู่นะคะ
ไปเที่ยวรัสเซียหกวันแน่ะ แต่เอาสมุดไปนั่งปั่นด้วย สบายใจหายห่วง!
ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ! คาดว่าคงได้เปิดเผยโฉมหน้าพระเอกสักที! แต่ถ้าสมมติใครอยากเห็นก่อนก็ >>จิ้ม<<
ปล. เซฟีร่าเป็นแฟมินิสต์ค่ะ =w=b
ปลล. ราฟาเอลเป็นสิ่งมีชีวิตที่หล่อวัวตายควายล้ม เอรื่อออออ
ความคิดเห็น