คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Desperado 3 : สภาอัศวินแห่งเซฟีรอส
Desperado 3 : สภาอัศวินแห่งเซฟีรอส
“โห! ไอ้หนุ่ม!!
หน้าละอ่อนแบบนี้มีลูกแล้วเหรอเนี่ย!? บ๊ะ!
ให้ตายเหอะ ทันใช้ดีเหลือเกิน ข้าละนับถือเลย!”
เสียงหัวเราะดังลั่นมาจากร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลแก่ที่กำลังทำหน้าที่เดินนำเหล่าผู้มาใหม่ไปยังปราสาท
ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมเป็นประกายแวววับขณะที่เจ้าของของมันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจเต็มที่
ผิดกับเอนริคที่ทำหน้านิ่ง… ไร้เสียงหัวเราะตามโดยสิ้นเชิง…
มือเล็กจับไหล่พี่ชายของตนเอาไว้อย่างหวงแหนขณะที่เจ้าของบ่ากำลังก้าวเดินตรงไปยังปราสาทหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ปลายทาง
“แล้วเด็กคนนี้?” โคซีทุสที่รู้สึกได้ถึงสายตาประหลาดหันขวับ ก่อนจะเผยยิ้มกว้าง “โห! เจ้าก็มีลูกเหมือนกันเหรอเอเซเควล
หน้าเหมือนกันเชียว!”
“ไม่ใช่หรอกลุง นี่น้องชายข้าเอง
หน้าเหมือนกันจนเป็นเหมือนพรหมลิขิตใช่มั้ยละ!!”
ตอนแรกเอนริคทำท่าจะถลึงตาใส่ผู้อาวุโสแห่งกองอัศวิน
ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ชาย
พร้อมกับนัยน์ตาสีเพอริดอทที่ตวัดมามองอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าของทายาทคนเล็กแห่งมาเซลิโน่ก็ถูกระบายด้วยรอยยิ้มดั่งเทวดาตัวน้อย
เอนริคพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปซบไหล่พี่ชายต่างแม่อย่างออดอ้อน
“ท่านพี่ของข้าพูดถูกที่สุด”
“เอนริคเป็นเด็กดีจริงๆนะ ข้าเป็นประกันให้เลย!”
มาร์กาเร็ตโต้ช่วยยืนยันอีกเสียง
แม้จะค่อนข้างงงว่าทำไมคำว่า ‘ของข้า’ ถึงได้ชัดเจนผิดปกติเหลือเกิน
แต่อดีตทายาทอัศวินก็ยังคงยืนยันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจของโคซีทุส
“ข้าชักถูกใจเด็กรุ่นนี้ซะแล้วสิ!
ฮ่าๆๆๆๆ”
“เฮ้… ลุง…”
เรียวกุมหน้าผาก ดวงตาสีเมฆหมอกปราดมองโคซีทุสอย่างเหนื่อยหน่าย “ช่วยแนะนำอะไรเกี่ยวกับที่นี่สักนิดสิ อย่าพาพวกเขาไร้สาระได้มั้ย?”
“ความทรงเสน่ห์ไม่ได้เรียกว่าไร้สาระ!”
“ทรงเสน่ห์อะไรกัน ไม่เกี่ยวเลยลุง!”
“เออน่า! ถ้าเข้าไปข้างในยังไงแมรี่ก็ต้องอธิบายอยู่แล้ว
ถึงไม่อธิบายพวกเราก็มีเวลาเรียนรู้กันอีกเยอะ…!” ว่าจบ
ผู้อาวุโสของกองก็เลิกคิ้วเหมือนคิดอะไรได้ ดวงตาสีน้ำตาลปราดมองเรียวครู่หนึ่ง “เออ แล้วที่ข้าจดไปให้ละเรียว?”
“ลายมือห่วยมาก…”
“…”
โคซีทุสยืนอึ้ง… ก่อนจะถอนหายใจยาว… ทำหน้าเสียดายและผิดหวังที่สุดเท่าที่เอเซเควลและมาร์กาเร็ตโต้เคยเห็นมา
“นั่นเป็นลายมือระดับเทพเชียวนะ…
ไม่นึกว่าเจ้าจะตาไม่ถึง…”
“…”
เรียวถึงขั้นเบือนหน้าหนีด้วยความรับไม่ได้……
คาซึกิ เรียวและโคซีทุส
สองอัศวินเก่านำว่าที่อัศวินใหม่ทั้งสามเดินตัดผ่านสนามหญ้าสีเขียวตรงไปยังปราสาท
ระยะทางที่ค่อนข้างห่างจากรั้วพอสมควรทำให้การเดินทางค่อนข้างกินเวลาอยู่บ้าง
แต่เพียงชั่วอึดใจ ทั้งหมดก็มาถึงหน้าประตูบานใหญ่ของปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่ราวกับกำลังคอยท่า
เรียวยกมือขึ้นทาบบานประตูสีขาวอย่างเบามือ
ก่อนจะหันมาเอ่ยกับสามร่างที่เหลือ
“ตอนนี้น่าจะกำลังมีปฐมนิเทศอัศวินใหม่อยู่
อย่าทำเสียงดังละ”
“อื้อ!”
“วางใจได้เลย!”
“งั้นก็…”
แอ๊ด…
โฆษกแห่งเซฟีรอสใช้มือดันประตูเบาๆ
มันเปิดออกอย่างง่ายดาย ส่งผลให้แสงสว่างจากภายในห้องโถงของปราสาทสะท้อนออกมายังพื้นด้านนอกเป็นแนวยาวตามรอยแยกของประตู
ราวกับจะเชื้อเชิญให้เข้าไป มาร์กใช้มือข้างหนึ่งจับบานประตูให้แง้มออกมากขึ้น ในขณะที่เขากำลังกังวลเรื่องมารยาทอยู่นั้น
เอเซเควลก็หัวเราะออกมา ใบหน้าหล่อเหลาไร้แววกังวลโดยสิ้นเชิง
“กังวลอะไรเล่ามาร์ก มาเถอะ!”
เจ้าของนัยน์ตาสีเพอริดอทคู่สวยยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน
ไม่สนใจแม้ว่าจะถูกมองมาด้วยสายตาอันหลากหลาย เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก ทุกคนก็ต่างหันกลับไปเหมือนเดิมหลังจากที่เสียงของหญิงสาวมาดขรึมที่ยืนอยู่ด้านในสุดถูกเอ่ยขึ้น
“คนที่มาสายเชิญนั่งตรงที่ว่างได้เลยค่ะ
ทางนี้ขออนุญาตไม่ย้อนเนื้อหาที่เพิ่งประชุมกันไปนะคะ”
ผู้มาใหม่ผงกหัวรับ ดวงตาสีน้ำตาลปราดมองไปโดยรอบ
ห้องนี้เป็นสีขาวราวไข่มุก… แสงจันทร์นวลสะท้อนผ่านกระจกสีเข้ามาด้านใน
เทียนนับสิบถูกจุดขึ้นเพื่อมอบแสงสว่างภายในห้อง
สาดสะท้อนกับรูปปั้นเทพธิดามากมายที่ถูกนำมาประดับ ดูงดงามและเปี่ยมมนต์ขลังในคราเดียวกัน…
การออกทะเลบ่อยๆ ทำให้สายตาของเอเซเควลค่อนข้างไวกว่ามาร์กนัก
ไม่นาน ชายหนุ่มก็พบที่นั่งว่างจำนวนหนึ่งที่ซ่อนอีกอยู่มุมหนึ่งของห้อง ดวงตาสีเขียวสดเป็นประกายอย่างพอใจ
“มีที่ว่างพอดีเลย โชคดีแฮะ”
“โห ตาดีนะเนี่ย เควล”
เรียวยกมือขึ้นทาบริมฝีปาก
ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นการเตือน
“ชู่ว…”
“…รายชื่อผู้รับตำแหน่งเสนาธิการก็หมดไปแล้ว
ตอนนี้ดิฉันจะเริ่มประกาศตำแหน่งสำคัญต่างๆตามที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนะคะ ขอบอกไว้ก่อนว่ารายชื่อของผู้ที่ได้รับตำแหน่งเหล่านี้เป็นไปตามประสงค์ของมารดาแห่งโลก
ไม่มีการเข้าข้างหรือกินสินบนใดๆทั้งสิ้นค่ะ”
“…”
มาร์กเหลือบมองผู้พูดขณะค่อนๆหย่อนตัวนั่งบนที่นั่ง
เอนหลังที่เริ่มเมื่อยขบพิงพนัก ดวงตาสีเข้มจับจ้องไปยังภาพตรงหน้าอย่างสนใจระคนตื่นเต้น
“สำหรับผู้ที่ถูกเอ่ยชื่อ
กรุณาก้าวออกมายืนข้างๆดิฉันเพื่อให้ท่านเจอโรม… แม่ทัพของเราทำการเปลี่ยนผลึกแห่งเทพธิดาด้วยค่ะ”
สิ้นเสียง ทุกสายตาก็พากันจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายหญิงสาวผู้ประกาศ
ดวงหน้างดงามราวอิสตรีของเขานิ่งเรียบ เส้นผมสีทองซีดพลิ้วไหวไปตามสายลม
ข้างกายมีเหล่าอัศวินในชุดเต็มยศหลายคนยืนคุ้มกันอยู่ไม่ห่าง ท่าทีที่ดูแตกต่างจากคนอื่นทำให้มาร์กพยักหน้ารับเบาๆ
อืม…
แม่ทัพสินะ…
“ตำแหน่งแรกที่ดิฉันจะประกาศคือตำแหน่ง
‘อาร์ก’…” หญิงสาวกล่าวเสียงขรึม
“ตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนปีกแห่งเซฟีรอส
มีบทบาทในการผสานสมดุลของมารดา มีจำนวนทั้งหมดสองคนค่ะ”
ใบหน้าสวยยังคงแฝงแววจริงจังเอาการเอางานไม่จางหาย
มือเรียวหยิบแผ่นกระดาษสีซีดแผ่นหนึ่งขึ้นมา หลังจากใช้เวลาปราดมองแวบเดียว เธอก็เปล่งเสียงประกาศออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นกว่าทุกครั้ง
ตอนแรกมาร์กคิดว่าตำแหน่งอาร์กคนแรกคงเป็นสักคนในห้องที่เขาไม่รู้จัก
แต่เมื่อได้ยินชื่อ ชายหนุ่มก็แทบจะลุกขึ้นมาตบเก้าอี้ดังๆให้รู้กันไปทั้งโลก!
“อาร์คฝ่ายซ้าย เอเซเควล เรเยส มาเซลิโน่”
“เฮ้ย!?”
ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหู แล้วรีบหันไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆทันที!
ดวงตาสีเขียวของเอเซเควลเปล่งประกายตื่นเต้นออกมาอย่างปิดไม่มิด
เจ้าทะเลหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนต่อหน้าทุกคนอย่างไม่ขัดเขิน พร้อมกับโค้งตัวลงแสดงความเคารพทุกคนในที่ประชุมอย่างสวยงาม!
“ดีใจด้วยเควล! ยอดไปเลยนะ สุดยอดๆ!”
“ขอบคุณมากมาร์ก!”
เอเซเควลโบกมือให้กับทุกคนที่ปรบมือให้พร้อมกับโปรยรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ตลอดทาง
ร่างสูงเดินตรงไปด้านหน้า ผลึกแห่งเทพธิดาบนคอของชายหนุ่มเลือดทะเลถูกแม่ทัพที่มาร์กได้ยินว่าชื่อ
‘เจอโรม’ สัมผัสเบาๆ
ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นรูปปีกซ้ายอย่างสวยงามท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องของทุกคนในห้อง
“ตำแหน่งอาร์คฝ่ายขวา” ไม่ปล่อยให้ช้า หญิงสาวทำการประกาศรายชื่อต่อแทบจะทันที “ราฟาเอล ชาห์…”
มาร์กที่กำลังยกยิ้ม เตรียมยกมือขึ้นมาโบกแสดงความยินดีให้กับเพื่อนสนิทที่ถึงกับเปลี่ยนสีหน้า
เขาจะไม่เป็นอะไรเลย
หากร่างที่ลุกขึ้นยืนนั้นไม่ใช่ร่างที่คุ้นตาจนน่าใจหาย…
ผ้าคลุมฮู้ดสีดำ…
ไม่ใช่สิ… นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าไหร่…
ไม่น่าตกใจเท่ากับบรรยากาศแปลกๆ ที่ทั้งดึงดูดและน่าใจสั่นรอบๆกายของเขา…
มันเหมือนกับผู้ชายคนนั้น คนที่จูบมือเขาในงานเทศกาล!!!
ร่างสีดำก้าวออกไปเบื้องหน้าอย่างสง่างาม
เสียงรองเท้าบูทส้นหนากระทบพื้นดังเป็นจังหวะ แม้จะมองไม่เห็นหน้า
แต่มาร์กค่อนข้างมั่นใจว่าแทบทุกคนในห้องประชุมรู้สึกไม่ต่างจากเขา ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ… ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมที่พัดอยู่นอกปราสาท
ราวกับทุกสายตาถูกสะกดให้มองตามแผ่นหลังของชายลึกลับคนนี้…
ราฟาเอล ชาห์… ผู้ชายคนนั้นเดินตรงไปหาแม่ทัพเจอโรมอย่างนิ่งเงียบทว่างามสง่าชวนให้นึกถึงเจ้าชายผู้สูงศักดิ์… เมื่อผลึกแห่งเทพธิดาถูกเปลี่ยนเป็นรูปปีกข้างขวา
เจ้าของร่างก็ขยับตัวไปยืนอีกด้าน เงามืดของยามราตรีส่องกระทบใบหน้าที่ถูกฮู้ดบดบัง
เพิ่มความลึกลับขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“…”
มาร์กลอบเม้มปาก
รู้สึกได้ว่าแผ่นอกร้อนผ่าวอย่างน่าประหลาด มันทั้งร้อนทั้งวูบไหวจนเขาต้องจิกมือตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมา
บ้าไปแล้ว… เจ้าเป็นพ่อคนแล้วนะมาร์ก!
“…ต่อไปจะเป็นการประกาศรายชื่อ ‘สภาอัศวินแห่งเซฟีรอส’… ใครที่มีรายชื่อ
ขอเชิญขึ้นมาบนปะรำพิธีด้วยนะคะ”
“มาถึงตำแหน่งสำคัญแล้วไอ้หนุ่ม…”
โคซีทุสที่นั่งอยู่ด้านหลังชะโงกตัวมาเท้าไหล่มาร์กพร้อมกับจ้องไปข้างหน้าทั้งรอยยิ้ม
เล่นเอาคนที่กำลังตีกับความคิดตัวเองสะดุ้งโหยง “ตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนลมหายใจของเซฟีรอสเลยนะ
ใครได้เป็นนี่เท่สุดๆไปเลย! ตั้งใจฟังแมรี่ให้ดีละ!”
“คริสตัล เฟรย่า ไฟร์ดสไวด์”
โคซีทุสไม่ทันพูดจบดีด้วยซ้ำ
น้ำเสียงเคร่งขรึมของ ‘แมรี่ รี้ด’ ก็ถูกประกาศขึ้น
ก่อนที่ร่างสวยเด่นของหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจะลุกขึ้นยืน
ดวงตาสีเงินอมฟ้าใสกระจ่างทอดมองไปด้านหน้าอย่างไม่เชื่อหูเล็กๆ แต่สองเท้าก็ยังพาร่างก้าวตรงไปด้านหน้าอย่างงดงาม
เธอเป็นคนที่เรียกได้ว่าสวยสะดุดตาแม้ว่าใบหน้าจะติดดุเล็กๆ
…ทุกส่วนของร่างกายชวนให้นึกถึง
‘คริสตัล’ สมตำแหน่งจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมยาวสีเงินที่ยาวจรดสะโพกมน ดวงตาสีเงินอมฟ้าราวน้ำแข็ง
ผิวขาวซีดดั่งหิมะ
เกราะเบาสีเงินที่เธอสวมเอาไว้ส่องประกายสว่างเมื่อกระทบกับแสงจันทร์
เพียงแค่เจอโรมขยับมือผ่านเท่านั้น ผลึกที่ถูกสวมไว้ก็แปรเปลี่ยนเป็นคริสตัลเปล่งประกายทันที
เมื่อเฟรย่ากลับตัวเดินไปอีกทาง
แมรี่ก็ขยับกระดาษในมือ เปล่งเสียงประกาศรายชื่อคนต่อไปโดยไม่ให้เสียเวลา
“มาลาไคต์ โจชัวร์ แอมเมอเร็ทท์”
คราวนี้เป็นชายหนุ่มผิวออกเหลืองนิดๆที่นั่งอยู่ในสุดของที่ประชุม
เส้นผมของเจ้าตัวเป็นสีควันบุหรี่รับกับดวงตาสีเขียวอมเทาขุ่นมัว…
ที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นรอยแผลบากใหญ่บนใบหน้าและหูแพะที่ห้อยออกมา
เป็นสิ่งที่การรันตีกับมาร์กได้อย่างดีว่าคนๆนี้ไม่ได้มีชาติกำเนิดเป็นมนุษย์…
ลำแสงสีเขียวสว่างวาบเมื่อผลึกที่สวมถูกเปลี่ยนเป็นมาลาไคต์เม็ดงาม
พร้อมๆกับรายชื่อสมาชิกสภาคนต่อไปที่ถูกขานขึ้น
“อเมทิสต์ ฟาร์เรลล์ แชนเดลอร์”
เจ้าของชื่อเป็นชายหนุ่มเจ้าของรูปร่างขนาดกลางๆ
ไม่ได้สูงใหญ่เท่ากับอัศวินที่ยืนคุ้มกันเจอโรมอยู่ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเข้ากับดวงตาสีโกเมนอย่างน่าประหลาด
ผิวขาวเหลืองคล้ายคนตะวันออกทำให้มาร์กลอบเป่าปากออกมาเบาๆ ตามประสาคนมาจากประเทศที่สนใจโลกตะวันออกเป็นพิเศษ
เมื่อผลึกบนลำคอถูกเปลี่ยนเป็นอเมทิสต์ ก็ดูจะเข้ากับเจ้าของร่างอย่างมหัศจรรย์
จะพูดว่าเหมาะสมก็ได้มั้ง…?
พอสรุปได้แบบนั้น
มาร์กาเร็ตโต้ก็เป่าลมออกจากปาก มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปรบมือแสดงความชื่นชมพร้อมๆกับคนอื่นๆในห้องโถง
พร้อมกับระบายยิ้มชื่นชมให้แก่บรรดาผู้ถูกคัดเลือกที่ยืนเรียงรายกันอยู่ข้างหน้า
“ข้าว่านะ มีแต่คนที่เหมาะสมกับตำแหน่งทั้งนั้นเลย”
“แหงอยู่แล้วไอ้หนุ่ม
พวกที่ได้เป็นน่ะระดับหัวกะทิที่เซฟีร่าคัดมาทั้งนั้น!”
โคซีทุสฉีกยิ้มกว้าง ขยับมือขยับไม้ประกอบ ทำท่าจะพูดต่ออธิบายอีกมากมาย
ถ้าไม่ติดว่ามีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“หึ มิน่าทำไมลุงไม่ได้เป็น”
เจ้าของเสียงยกขาขึ้นมาไขว่ห้างพร้อมกับกอดอกอย่างมั่นใจ… เขาเป็นชายหนุ่มผิวขาว
เรือนผมสีเลือดหมูกระเซิงเล็กน้อยแต่ก็ยังดูดีทั้งที่เป็นแบบนั้น นัยน์ตาสีเพลิงขุ่นมัวปรายมองโคซีทุสอย่างระอาพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อยพอเป็นเป็นพิธี…
“อ้าว นี่ ไอ้หนุ่ม พูดแบบนี้ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีใช่มั้ยเนี่ย?”
มาร์กถูกโคซีทุสดันหน้าไปอีกทางจนกระดูกคอแทบเคล็ด
ก่อนที่ชายสูงวัยกว่าจะหันไปประจันหน้ากับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเอาเรื่องสุดชีวิต!
มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาเสยผมเสริมความดูดีมีระดับบนใบหน้ามากวัย
แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยังคงกระดิกขาเล่นโดยไร้ความเกรงกลัว
“ข้าหล่อกว่าลุง”
“เฮ้ยๆ ระวังปากไอ้หนุ่ม ข้าสิหล่อกว่า!”
“คนหล่ออะไรแก่ขนาดนี้? ดูกระจกบ้างสิลุง ดูกระจก ที่บ้านมีมั้ย?”
“…ชะ!”
“อำพัน บาร์ธาซาร์ แอสโมดิอุส”
เสียงของแมรี่ขัดโคซีทุสไปได้พักหนึ่ง แต่แล้ว
ชายวัยกลางคนก็ต้องเบิกตากว้าง…! เมื่อชายผมแดงที่เป็นคู่กรณีลุกขึ้นยืน
พร้อมกับก้มมองลงมาด้วยใบหน้าถือไพ่เหนือกว่าสุดชีวิต!
“มองนะลุง มองหน้าข้านี่” เจ้าของชื่อยืนขึ้น เลิกคิ้ว พร้อมกับเอามือชี้หน้าตัวเอง “ข้าหล่อ…”
“…”
“…”
แล้วเจ้าของเส้นผมสีเลือดหมูก็กลับหลังหัน
ก้าวฉับๆจากไปอย่างมาดมั่นที่สุดในโลก ทิ้งโคซีทุสที่ยังคงจุกกับคำว่าแก่ไว้กับที่… ทำให้มาร์กต้องยกยิ้มแห้งๆ เป็นการปลอบใจฝ่ายตรงข้ามไปกลายๆ
“แก่แล้วก็หน้าตาดีได้
บางคนยิ่งแก่ยิ่งหล่อด้วยซ้ำไปนะ!”
“อืม ถ้ามีคนคิดแบบเจ้าเยอะๆก็ดีสิ”
ชายวัยกลางคนบ่นพึมพำ “ว่าแต่เด็กนั่นเป็นถึงอำพันเชียวเรอะ!?”
“ฮะๆๆๆ”
แมรี่
รี้ดยังคงทำหน้าที่ผู้ประกาศต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อผลึกของบาร์ธาซาร์ถูกเจอโรมเปลี่ยนเป็นอำพันสีใส เธอก็จัดแจงเลื่อนแผ่นกระดาษ
ปราดดวงตาใต้กรอบแว่นสีเข้มอ่านรายชื่อคนต่อไปโดยไม่ให้ขาดช่วง
“แซฟไฟร์ อัคมัล”
ผู้ถูกเรียกคราวนี้เป็นคนที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากมาร์กนัก
เจ้าของชื่อโค้งรับเสียงปรบมืออย่างสุภาพ พร้อมกับหันมายิ้มให้ทุกคนอย่างนอบน้อม เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้ยิ้มตามได้อย่างง่ายดาย
อัคมัล… ผู้ถูกเลือกให้เป็นแซฟไฟร์นั้นเป็นเจ้าของใบหน้าหมดจดสวยงาม
แม้จะดูออกยากว่าเป็นเพศใดแต่ก็ยังคงมีเสน่ห์
เรือนผมสีเงินงดงามพลิ้วไปตามแรงลมขณะที่เจ้าตัวก้าวเดินตรงไปด้านหน้า
ดวงตาสีเทาที่คล้ายกับจะยิ้มไปพร้อมๆกับริมฝีปากมอบบรรยากาศชวนสบายใจให้กับผู้คนรอบกาย
ทว่า…
หลังจากตำแหน่งแซฟไฟร์ถูกประกาศออกไป… บรรยากาศแปลกๆก็แพร่กระจายไปทั่วห้อง
มาร์กสังเกตเห็นดวงตาของบรรดาอัศวินเก่าๆที่เคยแสดงความชื่นชมยินดีกับคนอื่นๆ ดูเคร่งเครียดและกดดันขึ้นมาอย่างน่าประหลาด…
ทุกคนที่เป็นอัศวินเก่าดูจดจ่อกับรายชื่อต่อไปจนน่าตกใจ
ทำไม?…
ตำแหน่งต่อไปมันมีอะไรรึไงกัน…
“และสุดท้าย… ทับทิม…”
น้ำเสียงของแมรี่ลากยาวเล็กน้อย
มือเรียวดันกรอบแว่นให้เข้ารูป ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาช้าๆ
“มาร์กาเร็ตโต้ อันโตนิโอ เทเซียโร่
เด ลา กอนซาเลซ…!”
มาร์กาเร็ตโต้ อันโตนิโอ เทเซียโร่ เด ลา
กอนซาเลซ…
มาร์กาเร็ตโต้ อันโตนิโอ เทเซียโร่ เด ลา กอนซาเลซ…..
ม ม มันชื่อเต็มเขานี่หว่า!?
เมื่อชื่อเต็มที่ไม่มีใครเอ่ยมานานถูกเรียกขึ้น
มาร์กาเร็ตโต้ก็ถึงกับผงะไปหลายวินาที! เอเซเควลที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดปรบมือชอบใจเสียงดัง
ก่อนจะยื่นมือมาเตรียมอ้าแขนรับเพื่อนสนิททั้งรอยยิ้มกว้าง โดยไม่รู้ว่ามาร์กช็อคตาตั้งคาที่นั่งไปแล้ว!
เอ่อ… อ่า… จริงๆ
เขาก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่อยากเป็นหรือรังเกียจการรับตำแหน่งอะไรขนาดนั้น… แต่มันออกแนวงงๆ มากกว่า! จู่ๆ ชื่อเต็มๆ ของตัวเองก็ถูกประกาศออกมาแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยกลางสาธารณชน
มันควรจะมี… อ่า คนมากระซิบบอกคิวกันสักหน่อยสิ!!
“เอ้า ไปสิ ชื่อเจ้าไม่ใช่เหรอ?”
“ฮะ? อ…
เอ่อ… คือ...”
“ไปเถอะน่า!
ฮ่าๆๆๆ”
รู้ตัวอีกที
โคซีทุสก็ดันให้เขาออกไปข้างหน้าซะแล้ว มาร์กได้แต่เดินตรงไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก… เขาพยายามยิ้มให้กับทุกคน
พวกอัศวินใหม่ๆปรบมือต้อนรับเขาดี จะมีก็แต่พวกอัศวินเก่าบางคนที่ทำสีหน้าแปลกๆ เหมือนหวาดระแวงอะไรในตัวเขาสักอย่าง…
แม้กระทั่งเจอโรมเองก็ตาม…
เจอโรมผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ใช้มือแตะบนผลึกแห่งเทพธิดา
ก่อนที่ละอองแสงสีขาวบริสุทธิ์จะสว่างวาบออกมา ทำให้สร้อยคอที่เคยเป็นเพียงแค่ผลึกธรรมดาๆ
กลายเป็นทับทิมเม็ดสวยในชั่วพริบตา
มาร์กใช้มือสัมผัสสร้อยทับทิมที่สวมอยู่บนลำคอเบาๆ
รู้สึกได้ถึงสายตาไม่ไว้วางใจหลายคู่ที่จ้องมองมา เขาไม่เข้าใจนักว่าเพราะอะไร
ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับตำแหน่งของเขารึเปล่า…
ทำไมกัน?
ทับทิม… ตำแหน่งนี้มันมีอะไรเหรอ?
“กอนซาเลซ…”
“หือ?”
ดวงตาสองสีของแม่ทัพเจอโรมตวัดมองมาร์กสลับกับทับทิมที่ส่องประกายแดงฉานราวกับเลือด
“รู้สึกแปลกๆบ้างรึเปล่า?”
“แปลกเหรอ?” อดีตทายาทอัศวินขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า
“ไม่มีนี่นา ทุกอย่างปกติดีนะ?”
“งั้นก็ดี…”
มาร์กพยายามยิ้มแห้งๆ เพื่อกลบเกลื่อนความสงสัยที่ฟักตัวในจิตใจ
เขาไม่เข้าใจท่าทางแปลกๆของบางคนในห้องที่มองเขาเหมือนเป็นตัวประหลาด
ความหวาดระแวงที่เข้มข้นแผ่ออกมามากเสียจนเขาเริ่มจะชาไปทั้งตัว
โชคดีที่ยังพอกลั้นอาการไว้ไหว
มันเคยมีเรื่องอะไรมาก่อนรึเปล่า?
“มาร์ก! มานี่สิ!
ดีใจด้วยนะ!!”
“อ อื้อ! ขอบคุณนะเควล!”
เอเซเควลหันมายิ้มรับเพื่อนสนิทพร้อมกับทำท่าชวนให้เพื่อนสนิทไปยืนข้างๆ
ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปโบกมือรับเสียงปรบมือแสดงความยินดีที่ดังกึกก้องไปทั่วห้องประชุม
มาร์กหัวเราะให้กับท่าทางนั้น ก่อนจะกลืนความคิดสงสัยลงไป
แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวไปอีกด้าน
เขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงของใครคนหนึ่ง
“ยินดีด้วยนะ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับรอยยิ้มที่คล้ายมนต์สะกดของร่างในชุดดำ
เงามืดทาบทับใบหน้าของเจ้าของร่างไว้อย่างพอดิบพอดี
ทำให้ยากที่จะมองเห็นอะไรนอกจากรอยยิ้มลึกลับ ทว่าดึงดูดอย่างร้ายกาจนั่น
ราฟาเอล ชาห์…
ชั่วพริบตาที่ไม่มีใครเห็น ชายในชุดสีรัตติกาลคว้ามือของมาร์กขึ้นมา
ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนปลายนิ้วชี้ของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา…
“กอนซาเลซ…”
ไม่ได้หายไปไหนนะคะ
ไรท์เตอร์ไปอ่านหนังสือสอบกับปั่นการบ้านมา TwT
ประกาศรายชื่อสภาแล้วค่ะ! อะฮ้า! เป็นยังไงกันบ้างคะ มีลูกชายลูกสาวใครติดบ้างเอ่ยยยยย? สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสภาไม่ต้องเสียใจนะคะ ไรท์เตอร์หาที่วางบทให้ทุกคนได้หมดแล้วค่ะ บางคนจับคู่ให้แล้วด้วยยยย
บทนี้อาจจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควรนะคะ
เพราะตอนนี้ศัพท์ภาษาฝรั่งเศสทับหัวไรท์เตอร์แรงมาก (ไรท์เตอร์เรียนสายศิลป์ฝรั่งเศสค่ะ =w=b) แต่ก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อคนอ่านทุกคนค่ะ!
กุปิ๊งๆๆๆ
เจอกันตอนหน้านะคะ!
ปล. ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เปิดเผยชื่อหนุ่มปริศนา โล่งอกค่ะ (?)
ความคิดเห็น