ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Desperado's Series I] Sefiros Knight [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Desperado 2 : ผลึกแห่งเทพธิดา

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 58




    Desperado 2 : ผลึกแห่งเทพธิดา


                แสงแดดยามเช้าส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างไม้ที่ถูกเปิดอ้าเอาไว้ สายลมอ่อนๆ พัดพากลิ่นน้ำค้างโชยเข้ามาแตะจมูก อากาศที่ค่อนข้างเย็นเล็กน้อยทำให้มาร์กเผลอกระชับผ้าห่มเข้ามาแนบตัวโดยอัตโนมัติ

    อืม…”

    แต่หลังจากรู้สึกได้ถึงแสงตะวันที่ส่องกระทบเปลือกตา เขาก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้น พร้อมกับลืมตาอย่างช้าๆ เพื่อให้ดวงตาได้ปรับแสงเสียก่อน แม้จะยังงัวเงีย แต่การจะหลับต่อไปคงไม่ดีเท่าไหร่นัก

                ชายหนุ่มหันไปมองร่างเล็กของลูกชายที่กำลังนอนหลับปุ๋ยพร้อมรอยยิ้มบางๆ ร่างโปร่งเอื้อมมือไปลูบหัวมาโนโลที่ทำหน้าตาเหมือนกับกำลังหลับฝันหวานเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ ไม่ช้าหลังจากประตูปิดลง น้ำเสียงหวานนุ่มนวลเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างบางในชุดกระโปรงยาวที่หันมาส่งยิ้มละไมให้

                อรุณสวัสดิ์ ทานข้าวเช้าเลยมั้ยคะ?”

                หญิงสาวตรงหน้าเป็นสาวงามเจ้าของใบหน้างดงามดั่งเทพธิดา แพรผมสีทองเป็นประกายดั่งทองคำล้ำค่าเป็นลอนยาวเรื่อยไปถึงสะโพกมน ผิวขาวเนียนละเอียดดั่งดอกกุหลาบขาว ดวงตาสีน้ำตาลสวยงามยากที่จะละสายตา ความงามทุกอย่างลงตัวจนไม่มีใครแปลกใจที่เธอได้รับฉายาว่า ภาพเหมือนของเฮเลน

                เธอคือภรรยาของมาร์ก เอลีน่า กอนซาเลซ

                ไม่ต้องเหนื่อยหรอกน่าเอลีน่า เดี๋ยวข้าทำเอง วันนี้เวรข้าไม่ใช่เหรอ?”

    เอลีน่าระบายยิ้มจางๆ นั่นสินะคะ

    อื้ม เตรียมอร่อยได้เลย!”

    หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะไปหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดโต๊ะอาหารพร้อมกับเตรียมน้ำมาคอยท่า เธอเหลือบตามองสามีที่เดินเข้าไปจัดการเตรียมวัตถุดิบในห้องครัว แต่ไม่ช้า มาร์กาเร็ตโต้ก็หันกลับมา ก่อนที่ผู้เป็นสามีจะถามด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

    มื้อนี้กินอะไรกันดีละ?”

    อะไรก็ได้ค่ะ

    โธ่ เมนูนี้ไม่มีในสารบบนะ ฮ่าๆๆๆ

    ชายหนุ่มหันกลับไปหยิบอุปกรณ์เครื่องครัวขึ้นมาเตรียมไว้ หลังจากทุกอย่างพร้อม เขาก็จัดการทำอาหารทันที ไม่นานนัก กลิ่นหอมกรุ่นชวนน้ำลายสอก็โชยออกมาจากครัว

    ร่างสูงจัดแจงเทข้าวผัดฝีมือตัวเองลงในจานสามใบ เมล็ดข้าวเป็นสีทองอร่ามน่าทาน กลิ่นหอมของเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศผสานกันอย่างลงตัว เอลีน่าลุกขึ้นไปช่วยสามีหยิบจานมาวางที่โต๊ะ แต่เมื่อก้มลงไปเพื่อหยิบจาน ดวงตาสีน้ำตาลคู่งามก็ต้องเบิกกว้าง

    เอ๊ะ?”

    หือ? มีอะไรเหรอ?”

    เมื่อวานซื้อสร้อยคอมาใหม่เหรอคะ? หรือว่าซินญอร์มาเซลิโน่เอามาฝากจากเม็กซิโก?”

    สร้อยคอ…?

    สร้อยคออะไร??

    คำพูดนั้นทำให้มาร์กต้องก้มลงไปมองคอตัวเองแทบจะทันที

    บนคอเขามีสร้อย? …สร้อยเส้นหนึ่งที่ถูกร้อยด้วยเชือกไร้ลวดลายเส้นยาวถึงกลางอก ที่โดดเด่นที่สุดคือจี้ตรงกลางที่เหมือนกับผลึกใสเหมือนแก้วเจียระไนชั้นเลิศ ขนาดของมันเท่านิ้วก้อย แกะสลักเป็นรูปคล้ายเทพธิดากำลังสยายปีก ยามที่ผลึกที่ว่านั้นต้องแสงสว่าง ก็จะเกิดประกายสีรุ้งยามระยับจับตาขึ้นมา

     ว่าแต่มาจากไหนเนี่ย? เขาไม่ได้ซื้อมันมาสักหน่อย!?

    เอ่อ…” มาร์กหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาดูในระดับสายตา ก่อนจะส่ายหน้า ข้าไม่ได้ซื้อนะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง?”

    อ เอ๋?”

    ปัง!

    มาร์ก!”

    ร่างสูงในชุดคลุมสีดำปักลายทองถลาเข้ามาในบ้าน เอเซเควลหอบจนตัวโยน เม็ดเหงื่อใสผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีเขียวเพอริดอทจ้องมองคอของเพื่อนสนิทไม่วางตา เมื่อเห็นวัตถุแปลกตาที่สวมอยู่บนคอของเพื่อนสนิท คิ้วของเจ้าทะเลหนุ่มก็ขมวดมุ่นเป็นปม ก่อนที่เจ้าของมันจะเอ่ยระคนเสียงหอบ

    แต่น่าแปลก เหมือนหนุ่มเจ้าทะเลจะเผยยิ้มตื่นเต้นออกมาด้วย!?

    “…เรื่องจริงเหรอเนี่ย?...”

    เควล? มีอะไรรึเปล่า??”

    เอเซเควลสูดลมหายใจเข้า มองมาร์กาเร็ตโต้ด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะดึงสร้อยคอของตัวเองที่ถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อออกมา เมื่อสัมผัสเปลวแดด ตัวจี้ที่ห้อยอยู่กับสายสร้อยก็ส่องประกายสีรุ้งระยิบระยับสะกดสายตา

    มันเหมือนกับสร้อยของมาร์กไม่มีผิดเพี้ยน!

    มีอัศวินมา

     

     

                “กองอัศวินแห่งเซฟีรอส?”

                ห้องรับแขกของตระกูลมาเซลิโน่นับว่าทั้งหรูหราและแปลกตา เครื่องเรือนราคาแพงและของประดับจากทั่วทุกมุมโลกถูกนำมาใช้ตกแต่งภายในห้องอย่างอลังการ หลายอย่างเป็นสิ่งที่มาร์กไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น แจกันเคลือบจากประเทศจีน หรือกรอบประตูสีสันสวยงามจากตุรกีที่หากเพ่งสายตามองไปดีๆ จะเห็นเอนริค น้องชายต่างแม่ของเอเซเควลเกาะอยู่ ใบหน้าน่ารักถมึงทึงเล็กน้อย ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยัง คนแปลกหน้า อย่างไม่ไว้วางใจ

                 คนแปลกหน้าที่ว่าสวมเครื่องแบบอัศวินสีฟ้าเข้ม ใบหน้าดูดีแบบชาวตะวันตกแฝงแววเคร่งขรึม เส้นผมสีทอง ดวงตาสีเทาหม่นดั่งเมฆพายุถูกผ้าปิดตาสีดำข้างหนึ่งปิดเอาไว้คล้ายกับผู้เป็นเจ้าของบ้าน ที่สะดุดตาที่สุดคือสร้อยคอที่ห้อยผลึกแปลกๆ นั่นอยู่

                ผู้ชายคนนี้ต้องรู้แน่ๆว่ามันคืออะไร?

                ถูกต้องชายผมทองพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว ข้าคาซึกิ เรียว โฆษกของกองอัศวิน ได้รับมอบหมายให้มารับตัวอัศวินกลุ่มใหม่ที่สเปน

    ว่าแต่กองอัศวินแห่งเซฟีรอสเหรอ?

    มาร์กขมวดคิ้วน้อยๆ

    แปลกจัง ข้าเองก็เคยเป็นอัศวินมาก่อน ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยละ?”

    ไม่แปลกหรอก พวกเราเซฟีรอสเป็นอัศวินที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของโลก เรียกได้ว่าทำงานใกล้ชิดกับเหล่าเทพ เราทุกคนได้รับพลังและการเกื้อหนุนจากมารดาของพวกเรา ซึ่งก็คือต้นไม้แห่งเทพธิดาหรือเซฟีร่า

    เซฟีร่า?”

    เซฟีร่าคือต้นไม้แห่งโลกเรียวตอบทันควัน สร้อยที่อยู่บนคอของพวกเจ้านั่นก็เป็นดอกผลของเซฟีร่า เราเรียกมันว่า ผลึกแห่งเทพธิดา

    อย่างนั้นเหรอ…”

    ผลึกแห่งเทพธิดาเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่บอกให้รู้ว่าพวกเจ้านั้น…. เอ่อ….”

                “…?”

    อ่า…”

    สองเพื่อนสนิทมองหน้ากันก่อนจะเห็นเรียวแอบดึงหยิบกระดาษยับๆแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ดวงตาสีเทาเข้มเหล่มองเนื้อความในนั้นอย่างเคร่งเครียด ได้รับเลือกจากนางให้เป็นอัศวิน อ่า แล้วยังไงต่อนะ…”

    นั่นนั่นดูโพยใช่มั้ย!!?

    สำหรับเรื่องหน้าที่ กองอัศวินชั้นยอดของเรามีหน้าที่ต่อสู้กับพวกปีศาจ คอยปกป้องโลกของเราให้รอดพ้นปลอดภัยจากเงื้อมมือมาร มอบความหวังให้มนุษย์ทุกคน รวมถึงการคุ้มครองเซฟีร่าไม่ให้ถูกฝ่ายศัตรูทำลาย เรียกว่าทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แล้วก็ง่ะทำไมลายมือลุงโคซีทุสอ่านยากจัง?”

    สรุปว่า…” คุณชายมาเซลิโน่เอ่ยแทรก กองอัศวินของพวกเจ้าเป็นพวกที่ได้รับเลือกจากต้นไม้ของโลก มีหน้าที่ต่อสู้กับปีศาจ ข้าเข้าใจถูกใช่มั้ย?”

    เรียวพยักหน้า รีบยัดกระดาษแผ่นเดิมกลับเข้ากระเป๋าอย่างแนบเนียน

    เอ่อและมันจะแนบเนียนกว่านี้ถ้าสองสหายไม่สังเกตเห็นมันตั้งแต่ต้น!

    กองอัศวินของเรามีสวัสดิการด้วยนะ ที่พักฟรี เสื้อผ้าฟรี อาหารฟรี มีเงินเดือน แม่ทัพใจดีมีเมตตา ถ้าพบรักกันในกองก็สามารถแต่งงานกันได้ ครอบครัวของเจ้าจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีจากกองทัพของเรา สามารถลากลับบ้านได้สามครั้งต่อสองเดือน หรือมากกว่านั้นหากมีความดีความชอบ และถ้าหากเจ้าตาย ทางเราจะจัดการฝังศพให้อย่างถูกต้องตามพิธีกรรม

    ฟังดูน่าสนุกดีนี่! ว่ามั้ย!? ริค?”

    เอเซเควลฉีกยิ้มกว้าง พร้อมกับหันไปมองน้องชายของตนที่ยืนเกาะขอบประตูอยู่ไม่ห่าง ตอนแรกเอนริคสะดุ้งเล็กน้อย แต่สักพักก็ค่อยๆพยักหน้า แล้วคลี่ยิ้มหวานละลายใจดุจเทวดาน้อยๆ

    ข้าเห็นด้วยกับท่านพี่…”

    สิ้นเสียง เอนริคก็จัดการหยิบสร้อยของตนออกมาจากอกเสื้อ ประกายสีรุ้งงดงามที่ส่องสว่างออกมาบ่งบอกได้ดีว่าสิ่งนั้นคืออะไร

    ผลึกแห่งเทพธิดา!

    ได้รับเลือกเหมือนกันเลยเหรอ! นี่มันโชคชะตาชัดๆ!” ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเขียวเพอริดอทฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนจะอุ้มร่างเล็กที่ท่าจะถูกใจคำว่าโชคชะตาขึ้นมาชูขึ้นสูง น่าตื่นเต้นใช่มั้ยละ! ว่าไง มาร์ก!?”

    คำพูดของเพื่อนสนิทเหมือนจะเรียกทุกสายตาในห้องให้มองมาที่เจ้าของชื่อ มาร์กที่นั่งเงียบมานานยกยิ้มแห้งๆ พลางยก ผลึกแห่งเทพธิดา ที่สวมอยู่บนลำคอขึ้นมาคลำเบาๆ ดวงตาคมสีน้ำตาลหลับลง พร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวเหยียดเหมือนคนกำลังใจความคิด

    ไปเป็นอัศวินปกป้องโลกมันก็ดีอยู่หรอก

    แต่ว่า

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มตัดสินใจส่ายหน้า พร้อมกับเอ่ยปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ด้วยความคิดที่อยากจะรักษาน้ำใจอีกฝ่ายไว้ให้ได้มากที่สุด แม้จะเป็นการปฏิเสธข้อเสนอที่ถูกยื่นให้ก็ตาม

    ข้าต้องดูแลลูก ขอโทษด้วยนะ ขอโทษจริงๆ…”

    ปฏิเสธไม่ได้…”

    ห หา?”

    ถ้าเจ้าปฏิเสธการเป็นอัศวิน เซฟีร่าจะสาปแช่ง…” เรียวประสานมือเข้าหากัน ดวงตาสีเทาหม่นจ้องตรงไปด้านหน้า น้ำเสียงดูจริงจังกว่าที่ผ่านๆมาเป็นเท่าตัว ครอบครัวของเจ้าจะทำมาค้าไม่ขึ้น โชคร้าย ดวงซวย ถูกปล้นทุกห้านาที ทุกๆคืนจะมีผีมาซ่อนใต้เตียง ลูกหลานที่เกิดมาจะหน้าตาไม่ดี แล้วเมืองที่เจ้าอาศัยอยู่ก็จะพลอยโดนหางเลขไปด้วย

    เอ๊ะ?!”

    “…จะเกิดฝนตก น้ำท่วม ส้วมเต็ม เห็บระบาด ผักกาดกลายพันธุ์ มันฝรั่งกลายเป็นปีศาจ ลูกกวาดจะมีอาถรรพณ์ สันในหมูจะ…”

    “…………..”

    เฮ้ย มาร์ก ไหวรึเปล่าน่ะ?!”

    มาร์กาเร็ตโต้เข้าสู่ภาวะช็อคค้าง รู้สึกวิงเวียนคีรษะเหมือนลมจะใส่ เขาไม่แน่ใจว่าในคฤหาสน์มาเซลิโน่มียาดมรึเปล่า แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าหากเขาเป็นลมหงายหลังหัวทิ่มไปจริงๆ เก้าอี้ราคาแพงลิบลิ่วข้างหลังต้องรองหัวเขาได้อย่างพอดิบพอดีแน่นอน

    มาโนโล ช่วยพ่อด้วย!!!



     กว่ามาร์กจะล่ำลากับครอบครัวเสร็จเรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนดึก

                ตอนแรกมาโนโลร้องไห้เสียงดัง เด็กน้อยทั้งรัก ทั้งติดผู้เป็นพ่อมากกว่าอะไร ต้องให้ทั้งเอเซเควลและเอลีน่าช่วยกันกล่อมเป็นเวลานานพอสมควรกว่ามาโนโลจะหยุดร้อง มาร์กเองก็ไม่อยากจากลูกชายไป แต่ก็สัญญาว่าจะส่งจดหมายกลับมาหาบ่อยๆ แล้วก็จะกลับมาเยี่ยมทุกครั้งที่มีโอกาส

                มาร์กาเร็ตโต้คุกเข่าลงบนพื้น ยื่นมือไปจับแก้มลูกชายเบาๆ พร้อมกับส่งยิ้มนุ่มนวลให้เหมือนทุกครั้ง

                มาโนโล ตอนพ่อไม่อยู่ ลูกต้องเชื่อฟังแม่เขานะรู้มั้ย?”

    ฮะพ่อ

    เป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เล่นของเล่นเสร็จแล้วก็ต้องเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

    ฮะ…”

    พ่อรักลูกเสมอนะ! มาโนโล

    รักพ่อเหมือนกันนะฮะฮึกโฮ!! แง้~!!!”

    โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะๆ คนเก่งของพ่อ…” มาร์กอุ้มมาโนโลขึ้นมากอดไว้แน่น มือขวาลูบเส้นผมนุ่มๆของเด็กน้อยเบาๆเป็นเชิงปลอบโยน นี่ อัศวินในอนาคตต้องเข้มแข็งรู้มั้ย

    ฮ ฮะ…”

    เอ้า ไหน…” ชายหนุ่มเผยรอยยิ้ม ค่อยๆ ใช้มือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มเบาๆ ลองยิ้มกว้างๆให้พ่อดูหน่อยซิ! เจ้าตัวแสบ!”

    อื้อ!! ยิ้มมมม ยิ้มให้พ่อเยอะๆ!”

    มาโนโลพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนฉีกยิ้มให้ผู้เป็นพ่อดูทั้งๆที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและมีน้ำมูกใสๆไหลย้อยออกมาจากจมูก เด็กชายตัวน้อยสูดน้ำมูกฟืดๆ ก่อนจะโผเข้ากอดมาร์กแน่นราวกับหวงแหน ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ พลางยกมือขึ้นลูบหลังลูกชายอย่างอ่อนโยน ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองภรรยาสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

    เอลีน่า…”

    หญิงสาวแสนสวยระบายยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ

    ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ สู้ให้เต็มที่เถอะ ข้ากับลูกจะเอาใจช่วยเสมอ

    ได้ยินแบบนี้ข้าก็สบายใจขึ้นเยอะเลย แล้วจะกลับมาหาบ่อยๆนะ

    ทราบแล้วค่ะว่าจบ บนใบหน้าสวยหวานราวนางฟ้าของหญิงสาวก็ปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน มือขาวบางดั่งดอกกุหลาบขาวของเธอเอื้อมไปลูบหัวลูกชายเบาๆ พร้อมกับเอ่ยเสียงหวาน เห็นมั้ยจ๊ะมาโนโล พ่อบอกว่าจะกลับมาหาบ่อยๆ ลูกก็ต้องไม่ร้องไห้นะ ร้องไห้มากๆพ่อเขาลำบากใจรู้มั้ย…”

    ฮะ ผมจะไม่ร้องแล้ว

    มาโนโลพยักหน้ารับ ก่อนที่เอลีน่าจะยื่นมือไปรับเด็กชายมาอุ้มไว้แนบอก มาร์กาเร็ตโต้ส่งยิ้มให้กับครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจึงสูดหายใจเข้า กลั้นใจกลับหลังหันเดินมาสมทบกับเอเซเควล เอนริค และเรียวที่ยืนคอยท่าอยู่ไม่ไกลกันนัก ร่างสูงของทายาทหนุ่มแห่งตระกูลมาเซลิโน่ยิ้มกว้างออกมา ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังตื่นเต้นกับ การผจญภัยครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้

    แล้วต่อจากนี้พวกเราต้องทำยังไงกันต่อเหรอ เรียว?”

    คาซึกิ เรียว ชายผมทองหน้าตาดูดีที่สองพี่น้องเพิ่งจะรู้ว่าเป็นลูกครึ่งตะวันตกและตะวันออกยังคงสีหน้าเคร่งขรึมไว้เหมือนเดิม ถ้าไม่ได้เห็นกับตา คงไม่มีใครเชื่อว่าเรียวจะเป็นคนเดียวกับคนที่ส่องโพยได้อย่างตระการตาเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้

    แต่เรียวก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ คนอย่างเอเซเควลเจอผู้คนมามากมายทั้งในและนอกคาบสมุทร สำหรับการมองคนแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากหรอก! เชื่อสิ! แม้แต่เอนริคก็ยังดูออกว่าเรียวเป็นคนดี!

    แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น

    เด็กน้อยก็ยังแอบส่งสายตาอาฆาต แผ่รังสีฆ่าฟันใส่เรียวทุกครั้งที่หันมาคุยกับพี่ชายของเขา

    อาต้องนับว่าสายตาของเอนริคทรงพลังอำนาจมากจริงๆถึงขนาดที่ว่าพักหลังๆ เรียวต้องเริ่มเบนเป้าหมาย เปลี่ยนมาพูดกับมาร์กแทนเพื่อลดรังสีอำมหิตอันแสนน่ากลัวนั่น

    เราก็จะเดินทางไปที่ค่าย

    ได้ เรือของบ้านข้าทอดสมออยู่ที่ชายฝั่ง ดึกขนาดนี้ไม่มีใครเห็นแน่นอน

    เราจะใช้เวทมนต์น่ะ

    หา?”

    เมื่อพบว่าทั้งมาร์กและเอเซเควลแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ เรียวก็จัดการทำการสาธิต มือข้างขวายกขึ้นสัมผัสผลึกแห่งเทพธิดาทันที ก็แค่เอามือแตะแบบนี้ แล้วนางก็จะพาเราไปเอง

    มาร์กและเอเซเควลมองหน้ากันก่อนจะใช้มือแตะที่ผลึกตามคำแนะนำของเรียว หมายจะได้เห็นการเดินทางด้วยเวทมนต์อันน่าอัศจรรย์ใจในไม่ช้า!

    แต่

    “…”

    “…”

    เอ่อ…”

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น

    เจ้าว่ามันเสียรึเปล่า?” เอเซเควลเขย่าผลึกเจ้าปัญหา ดวงตาสีเขียวสดที่ไม่ได้ถูกผ้าปิดตาบดบังหรี่มองมันอย่างสงสัย รึว่าพวกเรามีบุญไม่พอ?”

    ข้าไม่แน่ใจนะเควล ถ้ามันเสียก็คง…”

    ฟุ่บ!!

    เฮ้ย!”

    จู่ๆ อักขระสีทองนับล้านก็พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้น แล่นปราดเข้ามาหมุนวนรอบร่างทั้งสามร่างอย่างรวดเร็ว! สายลมรอบกายแปรปรวนคล้ายเกิดพายุขนาดย่อมๆ ทั้งก้อนหิน ทั้งเศษหญ้า ทุกอย่างถูกลมพายุพัดหอบขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง! จนมาร์กเผลอยกมือขึ้นมาป้องกันตาตัวเองเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลง มองตัวอักษรประหลาดที่เริ่มกระพริบแสงวูบวาบ

    เปรี๊ยะ!

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่ออากาศตรงหน้าปริแตกออกเป็นแนวยาว ก่อนจะเกิดลำแสงสีทองเจิดจ้าเล็ดลอดออกมาจากรอยร้าวกลางอากาศนั้น มันสว่างมากเสียจนไม่มีใครทนลืมตาต่อไปไหว

    ให้ตายเถอะ! สว่างไปแล้ว!!

    นี่เขาจะตายมั้ยเนี่ย!?

    วูบบบ!

    สายลมรุนแรงหอบผ่านร่างของพวกเขาวูบใหญ่ คราแรกมาร์กนึกหวั่นใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่ออีก แต่เมื่อสายลมหยุดลง ทุกอย่างกลับนิ่งสนิท นิ่งจนเขากล้าพอที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

    ทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้าแทบทำให้พวกเขาลืมหายใจ

    มันเป็นค่ายอัศวินขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้า ทะเลสาบ ป่า และภูเขาสีเงินสวยงาม ท้องฟ้าสีครามเข้มที่เป็นฉากหลังโปร่งโล่งจนสามารถเห็นดวงจันทร์สีเงินและดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ใจกลางค่ายมีปราสาทหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเด่น บนยอดมีธงสีฟ้าสดประดับตราสัญลักษณ์สีทองปลิวไสวไปตามลม

    บนธงนั้นถูกเขียนว่า ‘Sefiros’

    มากันแล้วเหรอไอ้หนูทั้งหลาย การประชุมจะเริ่มแล้วนะ

    ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาทักทาย ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมอง ว่าที่อัศวินใหม่ทั้งสามด้วยสีหน้าอารมณ์ดี ก่อนจะวาดยิ้มเป็นมิตร

    ข้าโคซีทุส ยินดีต้อนรับเข้าสู่ค่ายอัศวินแห่งเซฟีรอส




    ไรท์เตอร์ชอบคุณลุงค่ะ ชอบมากค่ะ ชอบ... #ผิด

    ในที่สุดก็เข็นบทที่สองออกมาจนได้ ตอนหน้าก็ประกาศตำแหน่งสภาแล้วค่ะ! เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังรอคอย อุฮิ (?) ตัวละครเริ่มทยอยๆกันออกมาแล้วนะคะ สำหรับตอนนี้เป็นคิวของเรียวคุงผู้น่ารัก (?) เป็นคนแรกที่ไรท์เตอร์คิดถึงเวลาเขียนฉากนี้เลยค่ะ!

    ไม่พูดมากแล้ว เจอกันตอนหน้านะคะ! <3

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×