คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Alphabet 3 : บ้านพักหมายเลขสอง
Alphabet 3
บ้านพักหมายเลขสอง
หลังจากใช้สกิลออดอ้อนซ้ำไปซ้ำมาให้เป็นประโยชน์จนพิเอต้ารำคาญ (?) ร่วมด้วยแรงช่วยเหลือจากนางฟ้าน้อยวิโอล่า ในที่สุด ข้าก็ได้เข้าบ้านพักซะที!
อา… ณ จุดๆนี้ ข้ากำลังนั่งไขว่ห้างเอกเขนกอยู่บนโซฟา มองโน่นมองนี่ในบ้านพักแก้เบื่อระหว่างที่พี่น้องเขาคุยกัน (ส่วนโนอาวิ่งไปหาอะไรฆ่าอีกแล้วครับท่านผู้ชม! เชื่อเขาเลย!) อืม… อ่า… จากสายตาของข้าที่มองไปจะรอบด้านแล้วนะ ข้าว่าบ้านหลังนี้ค่อนข้างอลังการโอ่อ่าวิจิตรตระการตามาก ถึงจะมีแค่ชั้นเดียวก็เหอะ แต่จำนวนชั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ตัวบ้านทั้งบ้านทำจากวัสดุที่ล้ำค่าทั้งนั้น ตั้งแต่ประตูหน้าบ้านยันฐานรองชักโครกเลยทีเดียว แต่ดีจังแฮะ ที่นี่มีชักโครกด้วย! แถวบ้านข้ามีแต่พวกมหาเศรษฐีเท่านั้นแหละที่จะได้ใช้ ในที่สุดข้าก็มีบุญกับเขาซะที!
เสียงเพลงบรรเลงหวานๆดังมาจากเครื่องเสียงทองเหลือง หน้าตาเหมือนดอกไม้อันใหญ่ๆ ที่วิโอล่าเพิ่งเปิดเมื่อตะกี้ ตรงกลางใหญ่มากจนเอาหน้าคนเข้าไปใส่ได้ นี่ก็เป็นอีกอย่างที่นักรบกินแกลบอย่างข้าไม่มีทางได้มาครอง ราคามันแพงเกินไปอะ! แต่เสียงชัดมากเลยนะเนี่ย เพราะด้วย ฟังแล้วข้าอยากจะลุกขึ้นมาแด๊นซ์… แต่คิดๆดูแล้ว ไม่เอาดีกว่าแฮะ
จริงๆแล้วข้าชอบเต้นนะ โดยเฉพาะกับเพลงจังหวะเร็วๆมันส์ๆ เหมือนมันได้ปล่อยตัวเองไปในตัว แต่พอข้าลุกขึ้นมาเต้นทีไร ไอ้เจ้าเพื่อนแถวบ้านมันชอบบอกว่าท่าเต้นข้าน่ากลัว เหมือนจะไปยั่วใครที่ไหนก็ไม่รู้ ดูมันพูดดิ! ข้าเสียหายนะเนี่ยเฮ้ย! ก็แค่ยักย้ายส่ายสะโพกหน่อยเดียว ทำตกตะลึงยังกับเป็นยัยป้าร้านพาสต้าคนนั้นไปได้! เฮ้ จำป้าแกได้ใช่มะ ที่โผล่มาตอนบทนำไง ใช่ๆ นั่นแหละๆ
“เจ้า”
หา? เสียงพิเอต้า?
เสียงห้าวๆของพิเอต้าทำให้ข้าขมวดคิ้ว ตอนแรกข้าโคตรงงเลยว่านางเรียกวิโอล่าแบบนี้เหรอ? แต่พอคิดไปคิดมาก็รู้ว่านางเรียกข้าแน่นอนชัวร์ พอหายงงแล้ว ข้าก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปตามเสียงเรียก
“หา?”
“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่าเจ้าเป็นอักขระอะไร” พิเอต้าลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองตรงมาทางข้า “การแนะนำตัวเองให้ครบถือเป็นคุณสมบัติของคนมีมารยาทนะ…”
“ประเด็นก็คือท่านพี่อยากชวนท่านคุยน่ะค่ะ!”
“...”
ว้ายยยย! อยากชวนเค้าคุยทำไมต้องซึนด้วยอ่ะ! กิ๊วๆๆ~ โอ๊ยยย นี่ข้าเล่นบ้าอะไรอีกแล้ว!?
“ข้ามิร่า แฟลร์ธาเวย์ G ม้าศึกแห่งอัลฟาเรียน ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”
ข้าพูดด้วยเสียงที่ร่าเริง เอามือข้างหนึ่งตบอกเพื่อให้ตัวเองดูพาวเวอร์ฟูลมากขึ้น จากนั้นก็มองไปยังสองพี่น้องด้วยความมั่นใจว่าพวกนางทั้งคู่ต้องคิดว่าข้าเท่อย่างแน่นอน!!
วิโอล่าพยักหน้ารับยิ้มๆอย่างน่ารัก ทำให้ข้ารู้สึกปลื้มเล็กๆ แต่พิเอต้ากลับเดินเข้ามาใกล้ข้าทีละก้าว เชิดปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย มองปรายลงมา จิกตา แล้วก็เปล่งเสียงออกมา
“ข้าพิเอต้า A ราชาแห่งอัลฟาเรียน”
และนี่ก็คือคำพูดของพิเอต้า อืม อ่าฮะ แล้วไง ฟังดูไม่ค่อยน่าตกใจ ก็แค่ราชา…
…
หือ? หา? เหอ? เฮ้ย!! ว่าไงนะ!!? ราชา!?
ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองตาโตมากแค่ไหนแล้ว รู้แค่ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอึ้งกิมกี่โคตรๆ… อึ้งยังไงน่ะเหรอ? ก็เหมือนกับเห็นผู้หญิงสวยๆคนหนึ่งเดินบิดสะโพกผ่านมา นางสวยมากเลยนะ ยังกับนางฟ้านางสวรรค์ หน้าหวานปานน้ำผึ้ง อกเอวสะโพกนี่ตู้มต้ามน่าเจี๊ยะ… แล้วสักพักนางก็เฉลยว่าความจริงแล้วนางไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชายปลอมตัวมาเพื่อมาตามหาผู้ชายอีกคนที่หนีไปกับผู้ชายอีกคน!! เอ้า พอจะนึกภาพออกรึยังว่าข้าอึ้งขนาดไหน!?
ให้เทพบิดรช่วยเซ่! เอ่อ แค่สบถน่ะสบถ…
ข้าเคยได้ยินมาว่า A เป็นตัวอักษรที่เป็นผู้นำของตัวอักษรทั้งหมด มีตำแหน่งที่พ่วงมาด้วยคือราชา แต่ข้าไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าข้าจะกำลังประจันหน้ากับราชาตรงๆแบบนี้อะ! แล้วนี่พิเอต้าเป็นผู้หญิง ข้าต้องเปลี่ยนมาเรียกว่าราชินีมั้ย?
เอ่อ ไม่ดีกว่า เห็นหน้าหล่อๆของพิเอต้าแล้วพูดคำว่าราชินีไม่ออกเลย…
“ส่วนนี่” พิเอต้าพูดต่อพร้อมกับผายมือไปทางวิโอล่า “วิโอล่า หรือ V เจ้าหญิงแห่งอัลฟาเรียน…”
เจ้าหญิง! โอ้พระเจ้า! มากันครบเซ็ต!!
ข้าอึ้ง …อึ้งแบบไม่มีเหตุผล โอ้จอร์จ! นี่ข้ากำลังอยู่ในราชสำนักไหนฟะเนี่ย! ต้องพูดราชาศัพท์กับพิเอต้ากับวิโอล่ารึเปล่า พวกอัลฟาเรียนต้องพูดแบบนั้นกับราชามั้ย? แล้วผู้หญิงต้องลงท้ายว่าพ่ะย่ะค่ะใช่ปะ? รับทราบพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทอะไรงี้? ไม่รู้เฟ้ย! ข้าไม่เคยเรียนราชาศัพท์!!
อืม ต้องโค้งหกสิบองศา แล้วก็คุกเข่าเอามือจูบแหวนจุ๊บๆด้วย โอเค ข้าจะทำเดี๋ยวนี้ คอยดูนะ อีกสักพักข้าจะคุกเข่าลงไปแล้วก็พูดว่าถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท แล้วก็จูบจ๊วบๆที่... หยึย เหวย... ขั้นตอนจูบนี่ข้าทำไม่ลงอะ!!
ก๊อกๆๆๆ
หา?
ข้าหันไปมองที่บานประตูที่ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะ พิเอต้ากับวิโอล่าก็ทำเช่นเดียวกัน พวกเราจ้องมองบานประตูเพื่อประเมินสถานการณ์สักครู่ แน่นอน ไม่มีใครเดินไปเปิดประตู… ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากอีกฝั่งของประตูมันไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดาจนใครๆก็สัมผัสได้…
หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่าอำนาจเวทมนต์?...
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะชุดที่สองตามมาติดๆ ข้าลุกขึ้นจากโซฟาแล้วจ้องประตูเขม็งโดยสัญชาติญาณ ทุกอย่างเว้นช่วงไปประมาณสิบกว่าวินาที แล้วข้าก็ไม่ได้ยินเสียงเคาะรอบที่สามดังขึ้นเหมือนที่กะว่าจะได้ยิน
“เจ้าว่าใคร?” พิเอต้าดันให้วิโอล่าไปหลบอยู่ข้างหลังแล้วมองมาทางข้า
“ไม่รู้” ข้าส่ายหน้า
บานประตูไม่ขยับเขยื้อน… ไม่ขยับจริงๆนะ ข้าจ้องซะขนาดนี้ยังไม่เห็นมันขยับเลย หรือว่าเจ้าคนที่หน้าประตูจะไปแล้ว? แล้วมันเป็นใครฟะ? เพื่อนร่วมบ้านพักรึเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แล้วไอ้บรรยากาศไม่ปกตินั่นมันอะไร?
‘เหอๆๆๆ….’
แม่จ๋า! นี่มันเสียงบ้าอะไร!!!?
ในตอนที่ข้ากำลังคำนึงถึงมารดาบังเกิดเกล้า ข้าก็สังเกตเห็นว่าเกิดบ้าอะไรสักอย่างขึ้นกับประตู… ตอนแรกข้านึกว่าประตูเปลี่ยนสีเองได้ จากสีน้ำตาลอ่อนเป็นสีฟ้า จากล่างสุดไปยังบนสุด แต่พอข้าระลึกได้ว่านั่นมันประตู ไม่ใช่กิ้งก่าเท่านั้นแหละ ข้าก็ตรัสรู้ทันที…
น น้ำแข็ง!? ประตูข้าถูกแช่แข็ง!!?
“วิโอล่า หลบหลังพี่!”
พิเอต้าที่ดูเหมือนจะรู้สึกถึงน้ำแข็งบ้านั่นแล้วเหมือนกันเอ่ยขึ้น ดวงตาสีเหลืองสวยของนางจ้องไปที่บานประตูที่ถูกน้ำแข็งหุ้มอยู่ทั้งบานแบบตึงเครียด มือก็กั้นน้องสาวไว้ราวกับต้องการปกป้องอันตราย โห รักกันจริงๆพี่น้องคู่นี้…
“นี่ เจ้า! ม้าศึก!”
“หา?”
“ไปจัดการซิ”
แหม่!! รักข้ากันจังเล้ยยยยยยย!!
นี่ถ้าไอ้ตัวหน้าประตูมันเป็นปีศาจหิมะ ข้าจะกลายเป็นน้ำแข็งไสคนแรกรึเปล่าฟะ…? เหอะ! ข้าเป็น G นะเฟ้ย! ไม่เสียศักดิ์ศรีถึงขนาดโดนทำเป็นน้ำแข็งไสหรอกน่า! ไอ้ปีศาจนั่นต่างหากที่จะกลายเป็นบัวลอยหิมะให้ข้ากินหลังสู้เสร็จ! ชิ!! หิวโว้ย!
และเนื่องด้วยความเป็นม้าศึกที่ดีของราชา (?) ข้าตัดสินใจเดินตรงไปข้างหน้า แต่ยังเดินไม่ถึงสี่ก้าว ไอ้ประตูบ้านั่นก็สั่น สั่นเหมือนเป็นโรคลมชักจนสลักหลุดกระเด็นไปไหนไม่รู้ และสุดท้ายมันก็จบลงด้วยการปลิวลอยมาทางข้า!!
เฟี้ยว!!!!!!
ข้ามองประตูที่ปลิวมาด้วยความไวแสง สัญชาติญาณในการป้องกันตัวเองตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ!
ผัวะ!!
สัญชาติญาณการเอาชีวิตรอดเร่งให้ข้ายกเท้าขึ้นถีบมันทันที! โดนเต็มๆด้วยละ! เท้าซ้ายข้าแนบชิดติดกับแผงน้ำแข็งบนประตูแบบเหมาะเจาะ ความเย็นชนิดเยือกแข็งของมันแล่นแปลบมาที่เท้าข้าทั้งๆที่ข้าใส่รองเท้าแบบหนา เย็นวาบ และสิ่งที่ตามมาคือสิ่งบ้าๆที่เรียกว่าประตูติดเท้า!!
อาเพศแล้วไง!!
ในระหว่างที่ข้ากำลังยกเท้าชี้ขึ้นฟ้าโดยมีประตูบานนึงห้อยติดมาด้วยอยู่นั่นเอง ความรู้สึกเย็นยะเยือกตรงฝ่าเท้าก็ลดความเย็นลง พร้อมๆกับความร้อนระอุตรงฝ่ามือที่เข้ามาแทนที่ ข้าเม้มปากเข้าหากัน ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาดูโดยที่ขายังชี้อยู่แบบนั้น (ดีนะที่ข้าเคยฝึกยืนข้าเดียว ฮ่วยยยย!) และสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือก็ทำให้ข้าดีใจจนแทบเต้น!
อักษรรูปตัว G!! เยี่ยม! นานๆทีมันจะโผล่มาถูกเวลาซะที!
ไม่รอให้เท้าโดนความเย็นกัดจนเหวอะไปมากกว่านี้ ข้าแปะมือลงบนประตูน้ำแข็ง ก่อนที่พลังนั่นจะแสดงอำนาจของมันโดยการเปล่งแสงวูบนึง แล้วก็ระเบิดสิ่งที่ถูกประกบเสียจนกลายเป็นแค่ซาก พอจัดการสิ่งที่ติดอยู่เสร็จ ข้าก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้กระทำที่ยืนอยู่หน้าบ้านด้วยสายตาหงุดหงิดเนื่องจากโดนความเย็นกัดฝ่าเท้า ว้อย! เจ็บนะเฟ้ยเนี่ย!!
“เจ้าคือ…?”
คนพูดคือพิเอต้า แต่คนที่อยู่ใกล้นางที่สุดคือข้า
ก็นะ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าข้าในตอนนี้เป็นคนสวยคนหนึ่ง ผมรวบเกล้าขึ้นเป็นหางม้าข้างเดียวตรงด้านซ้าย ส่วนสีตาน่ะเหรอ… ข้าว่ามันเป็นสีที่ข้าไม่เคยเห็นที่ข้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน…
สีม่วง สวยโคตรๆ เหมือนองุ่นเลย ควักออกมากินได้ปะ?
อา เอ่อ ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยบอกข้าว่านี่ไม่ใช่ประเด็น… โอเค ประเด็นที่น่าตกใจกว่าตาสีเหมือนองุ่นนั่นคือเสื้อผ้าที่นางสวม กับไม้อะไรก็ไม่รู้ในมือของนางต่างหาก มันเป็นสีฟ้าที่เป็นประกายอย่างประหลาดกับผ้าคลุมสีดำปักเลื่อม แล้วไอ้ไม้นั่นยังมีแสงประหลาดส่องออกมาด้วย
ชัดเลย… ประกายประหลาดนั่น…
แม่มด…!
สวัสดีทุกท่านค่ะ! จะว่ายังไงดี ไรท์เตอร์รู้สึกดีใจที่มีคนอ่าน สัญญาว่าจะอัพเรื่อยๆนะคะ!
ส่วนท่านที่ติดตามเฮเมร่าอยู่ ไรท์เตอร์กำลังปั่นอยู่นะคะ ตอนนี้ก็ได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เดี๋ยวคงได้อ่านกันค่ะ
เอาใจช่วยมิร่า (?) ได้ในตอนหน้านะคะ!
ความคิดเห็น