ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alpharian อภินิหารเทพบันลือโลก!

    ลำดับตอนที่ #13 : Alphabet 11 : ปริศนาแมน

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 58



    Alphabet 12

    ปริศนาแมน

    สิ่งแรกที่ข้าพบหลังจากลืมตาขึ้นมานั้น….คือก้นเด็ก

    ก้นเด็ก?

    …..ก้นเด็ก?

    ……..อะจะบะเฮ้ย!! ก ก้นเด๊กกกกกกก!!!!!!

    ไอ้สติวปิ เอ๊ย คิวปิด!”

    ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า แต่พูดถึงพวกที่บ้าไม่ใส่กางเกงบินไปบินมาก็มีแต่ไอ้พวกคิวปิดนั่นแหละ พอข้าลุกขึ้นมาแล้วใช้มือผลักไอ้ก้นดุ๊กดิ๊กๆ สุดอุจาดลูกตานั่นออกจากระดับสายตา ข้าก็พบว่ามันเป็นพวกคิวปิดจริงๆ แล้วดูสิดู! มีการทำหน้าตกใจ ประมาณว่าข้าฟื้นมาได้ยังไงด้วยนะ! ดูสิ! ดูมันทำ!!

    อ๊ะ! ท่าน G ฟื้นแล้วเหรอขอรับ!! ดีใจจัง นึกว่าต้องทำการผายปอดท่านซะแล้ว!”

    คิวปิดว่าพลางทำสีหน้าดีใจเป็นล้นพ้น ดวงตาของมันเป็นประกายวิ้งๆ ปีกตีกันพรึ่บๆเหมือนปีกไก่ มือประสานกัน แล้วก้น…. อื้อหือ เอ็งจะสะบัดก้นไปมาทำไมเนี่ย! น่ากลัวเป็นบ้า!

    เดี๋ยว ว่าแต่เมื่อกี้พูดว่าไงนะ ผายปอด…!? บ้าน่า หรือข้าจะฟังผิดไป?

    เมื่อกี้แกว่าไงนะ?”

    ผายปอดขอรับ!”

    ชัดเจนแจ่มแจ้ง!

    ไม่ได้จมน้ำเฟ้ย!!”

    แต่ว่าคิวปิดท้วง ท่าน G สลบไปตั้งสี่ชั่วโมงนะขอรับ เพื่อนๆของท่านเป็นห่วงกันมาก ท่านเรย์ก็เลยให้กระผมไปตามหน่วยพยาบาลมารักษา…”

    แล้วทำไมถึงกลายเป็นแกที่มาพยาบาลข้าแทนฟะ…?”

    หน่วยพยาบาลนัดกันตอนนี้พอดีขอรับ…”

    อื้อหือขอกุมขมับหน่อยเถอะ

    หน่วยพยาบาลภาษาอะไรฟะเนี่ย นี่ถ้าสมมติว่าข้าถูกม้ากินคนพวกนั้นรุมทึ้งแขนทึ้งขา ขาหลุดแขนขาด ข้าไม่ต้องเสียเลือดตายคาที่เพราะหน่วยพยาบาลนัดกันไปหรอกเรอะ!

    แต่ว่าพูดถึงคอกม้ากินคน…?

    ผู้ชายคนนั้นละ

    ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วซะอีกพิเอต้าที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหน้าข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้พูดขึ้น “… ข้าดีใจที่เจ้ายังไม่ตาย…”

    หือ?”

    ทำไมวันนี้มาซึ้งมีใครดักตีหัวนางรึเปล่า?

    เพราะถ้าเจ้าตาย ข้าก็จะไม่มีคนใช้ส่วนตัว…”

    โอเค รับทราบ เฮ้ย! เดี๋ยว!!” ข้าหันขวับไปทางพิเอต้า ข้าเป็นม้าศึกเฟ้ย! ม้า-ศึก!! ทำหน้าที่เกี่ยวกับสงคราม ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้สักกะเศษเสี้ยว!”

    เดี๋ยวนี้เจ้ากล้าขึ้นเสียงกับราชารึไง?”

    ข้าหันหน้ากลับ พร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ ช้าๆ

    จ้าๆ

    ว่าแต่ว่า…” มารินน์เปิดหัวข้อสนทนาใหม่ เจ้าไปทำอีท่าไหนถึงไปสลบเหมือดอยู่ในคอกม้าได้?”

    เฮ้ยๆ ภรรยาเป็นห่วงสามีอีกแล้ว!”

    ไม่ใช่เว้ยเบโร!!”

    มารินน์กุมขมับ ก่อนจะถามย้ำทันที ตอบมาสิเฟ้ย แง่มมมมม!!”

    อ่า…” ข้าลากเสียงยาว ตามองมารินน์ที่เริ่มสบถภาษาแม่มดอีกแล้วจู่ๆพลังของข้ามันก็ขัดข้องนิดหน่อย มันก็เลยระเบิดใหญ่ แล้วข้าก้ควบคุมมันไม่ได้…” ข้าทำมือประกอบ บรึ้มเน่ายกวง

    ม้าตายมั้ยนั่น?” มารินน์ถามอีก

    น่าจะรอด พวกมันอึดจะตาย โดนหอกฟาดไปตั้งหลายทียังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนข้าพยักหน้ายืนยันคำพูดตัวเอง

    ตรงๆเลยนะ บททดสอบในวันนี้ข้าไม่ผ่านแน่ๆอย่าว่าแต่สยบม้าเลย ขนาดชีวิตตัวเองยังเกือบเอาไม่รอด แล้วจะมีปัญญาที่ไหนไปจัดการม้าอึดเว่อร์พวกนั้นแปลว่าข้าต้องทำอะไรผิดพลาดไปสักอย่าง ประจวบเหมาะกับพลังมาขัดข้องตอนนั้นพอดี ก็เลยไปกันใหญ่ ดีที่หมอนั่นมาช่วยไว้

    ว่าแต่หมอนั่นเป็นใคร? แม่ย่านางคอกม้าเหรอ? ไม่สิ ผู้ชาย ต้องเป็นพ่อย่านาง

    เออ ใช่ พวกเจ้าข้ากวาดสายตาไปทางทุกคนที่อยู่ตรงนั้น เรย์พาข้ากลับมาใช่มั้ย? แล้วหมอนั่นเห็นอ่า ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในคอกม้ารึเปล่า?...”

    ทุกคนดูอึ้งไปเหมือนกำลังคิด สุดท้าย เอ็มม่าก็เป็นฝ่ายพูดออกมา

    ข้าจำได้ว่าท่านเรย์พูดแค่ว่าพอเข้าไปก็เห็นเจ้าสลบอยู่แล้ว แค่นั้นเองนะ แล้วก็ให้คิวปิดช่วยตามหน่วยพยาบาล แค่นั้นแหละนางขมวดคิ้ว มีผู้ชายอยู่ในคอกม้าอีกคนเหรอ?”

    ใช่ข้าพยักหน้า

    ตาฝาดรึเปล่า?” คนที่ถามคือลุงเพลัวร์ ข้านิ่งคิดไปสักครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ

    ข้าเห็นเขาชัดมาก ชัดสุดๆ ปลายผ้าคลุมเกือบจะจั๊กจี้แก้มข้าอยู่แล้ว เออ แล้วเขาก็เป็นคนหยุดระเบิดพวกนั้นด้วย อย่างน้อยข้าก็คิดว่าอย่างนั้น…”

    ทุกคนดูเหมือนกำลังคิดกันหนัก สีหน้าคล้ายกับกำลังไล่เปิดดูพจนานุกรมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ควรอยู่ในคอกม้า หาคำตอบกันมันส์ (มั้ง) ว่าคนที่ข้าเจอเป็นพ่อย่านางคอกม้าจริงๆ หรือเป็นวิญญาณคนที่ถูกม้ากิน  …เอ๊ะ? หรือว่าหมอนั่นจะเป็นผู้ชายที่ถูกผู้ชายฉุดไปทำมิดีมิร้าย! แล้วหมอนั่นทนความอับอายไม่ได้ ทำให้กลายเป็นนีท สิงคอกม้าไปตลอดชีวิตเพื่อล้างอาย แบบว่าชีวิตนี้มันเศร้า!! เราเข้าคอกดีกว่า กระซิกๆๆ อะไรประมาณนี้!? ใช่แล้ว! มันต้องใช่แน่ๆ! …แล้วรอดมาได้ยังไงโดยไม่โดนม้าเขมือบละเนี่ย? หรือว่า

    ฮีจะมีซัมธิงกับม้าพวกนั้น!!?

    (เอ่อ หมายถึงสนิทกับม้าเหมือนเป็นพวกเดียวกันน่ะ แบบว่าซี้ย่ำปึ้กอะไรประมาณนี้ ข้าเปล่าคิดอะไรอกุศลนะเฟ้ย!)

    ก่อนที่ความคิดของข้าเริ่มเฉเข้าสู่โหมด เพ้อเจ้อไปมากกว่านี้ เอ็มม่าก็ประสานมือเข้าหากัน แล้วมองมาทางข้าด้วยแววตาเป็นประกายเหมือนรวมดาวนับล้านดวงไว้ข้างใน

    เจ้าเจอกับเขาตอนที่ตกอยู่ในอันตรายใช่มั้ยจีจี้ แหม! คิดอยู่ตั้งนานแน่ะว่าเหมือนนิทานเรื่องอะไร แบบนี้มันตำนานรักของเซราฟิน่ากับไซทัสชัดๆเลยนี่นา! เรื่องมีอยู่ว่าเซราฟิ….”

    หมับ!

    อุ๊บ!”

    กลับไปเพ้อหาท่านเรย์ของเจ้าต่อเหอะ…”

    ประโยคเดิม คนพูดคนเดิม และได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม อืม เอ็มม่ากลับไปอยู่ในโลกสีชมพูของตัวเองแล้วละค่ะพี่น้อง!

    เอาละ ข้าควรกลับเข้าสู่เรื่องเรื่องของเรื่องคือข้าอยากกินข้าวผัดทะเลจัดมากับซุปร้อนๆ ขนมปังสักก้อน ไส้กรอก แฮม ไก่ย่างตัวโตๆ หม้อไฟสักหม้อ แล้วก็เอ๊ะ อ่า เหมือนจะไม่ใช่เรื่องนี้มันต้องเป็นเรื่องของปริศนาแมนที่ข้าพบในคอกม้าสิ!

    ปริศนาแมนคนนั้น (แหม ข้าชอบชื่อนี้จัง!)ถ้าไม่ใช่ทั้งพ่อย่านาง วิญญาณที่โดนม้าหม่ำ แล้วก็บุรุษผู้ถูกบุรุษด้วยกันฉุดแบบที่ข้าคิดไว้ พนันด้วยหัวเบโรนิก้าได้เลยว่าหมอนั่นจะต้องเป็นคนที่เก่งบรมแน่ๆ ท่าทางผีมือจะไม่ใช่ย่อยเลย แค่ดูจากลักษณะการยืนก็รู้แล้วว่าหมอนั่นจะต้องเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายแน่ๆ!

    แล้วหมอนั่นลักษณะยังไงละ?” มารินน์ว่า คือแบบดูเป็นอสุรกายมั้ย หรือดูเหมือนเทพแบบเรย์?”

    การส่ายหน้าเกิดขึ้นทันทีที่จบคำถาม ข้าก็ไม่ชัวร์เหมือนกันแต่ข้าว่าไม่ใช่อสุรกายแฮะ ดูเหมือนพวกเราๆนั่นแหละ

    แล้วหน้าตา?” พิเอต้าถามห้วนๆ

    หน้าหัก หน้าหล่อ หน้าบูด หน้าเบี้ยว?” โนอาเงยหน้าขึ้นจากการขัดดาบ หรือน่าฆ่า!!”

    ข้าไม่เห็นหน้าเต็มๆอะ น่าเสียดาย แต่…” ข้าทำมือแกว่งๆไปด้านหลัง ทำท่าให้เหมือนผ้าคลุมโบกสะบัด แต่ดันเหมือนนกยูงรำแพนหางมากกว่า แต่ข้าก็ปล่อยมันไป โดยเลือกจะพูดรายละเอียดของผู้ชายคนนั้นให้คนอื่นๆฟังต่อแทน ใส่ผ้าคลุมด้วยนะ โคตรพลิ้วเลย ทรงผมก็เท่ดี ซอยเรี่ยๆ สีอ่า สีอะไรวะ อ้อ สีไวน์พอเห็นทุกคนทำหน้างง ข้าก็รีบอธิบายต่อ คือสีมันไม่แดงไม่ดำแฮะ ที่สำคัญ ข้าเห็นผมหมอนั่นแล้วหิวชะมัดน่าหม่ำฝุดๆ เห็นแล้วนึกถึงน้ำผลไม้แถวบ้าน…”

    ทำไมทุกคนต้องมองหน้าข้าแบบนั้นด้วยอะข้าพูดอะไรผิดไปเหรอ…?

    โอเคๆ สรุปนะสรุปเอาเป็นว่าหมอนั่นหน้าตาเหมือนเราๆ แขนสองขาสองปากหนึ่งจมูกหนึ่ง ผมสีไม่แดงไม่ดำ แล้วก็ตาอ่า จริงด้วย หมอนั่นตาสีแดงเพลิง…” ว่าจบ ข้าก็ชี้ตาตัวเอง จิ้มๆๆ ที่ใต้ตาดังจึ้กๆ เนี่ย แบบข้าเลย!”

    โอ้ แบบเจ้าเลยเหรอ?” มารินน์ย่อตัวลงมาดูสีตาข้าชัดๆ

    ใช่! …หือ?”

    แล้วการตอกย้ำถึงสีตาที่ตัวเองมีก็ทำให้ข้านึกออกมาได้เรื่องหนึ่ง

    จำที่ข้าเคยบอกได้มั้ยว่าข้าเป็นคนเดียวในบ้านที่ตาสีนี้ ทั้งท่านพ่อ นักบวชแถวบ้าน หรือแม้กระทั่งพวกคิวปิดรู้ดีว่าดวงตาของข้ามีความหมายว่าไง มันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิดเจ้าพวกคิวปิดบอกพ่อข้าไว้ตอนข้าเพิ่งคลอดว่ามันเป็นของขวัญจากเทพบิดร แล้วก็เป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำตำแหน่งของข้าไม่มีใครใต้หล้าจะมีสีตาแบบนี้อีกแล้ว นอกเสียจากคนที่เกิดมาเป็นม้าศึก หรือ G แห่งอัลฟาเรียน

    พูดง่ายๆ คนที่เป็นม้าศึกเท่านั้น ถึงจะมีตาสีแดงเพลิง

    แล้วทำไมหมอนั่นถึง…??

    ทั้งห้องเงียบอยู่อย่างนั้น ถึงแม้จะมีเสียงออกความเห็นเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีใครได้คำตอบอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าที่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าหมอนั่นเป็นใครกับแน่ จะว่ายังไงดีละ ข้าเชื่อที่เจ้าคิวปิดนั่นพูดนะ ที่ว่าคนที่จะมีตาสีแดงเพลิงได้มีแค่ G หรือม้าศึกเท่านั้น ถ้าเป็นไปตามนั้นจริงๆ ก็แปลว่าหมอนั่นคือม้าศึกเหรอ? ตลกน่า ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าอัลฟาเรียนมีธรรมเนียมสองคนต่อหนึ่งตำแหน่งด้วย!

    หรือว่ามันจะเป็นแบบในนิทานปรัมปราของพวกนักรบ? แบบว่าเลือกมาสองคน สุดท้ายให้ต่อสู้กันเองเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดอะไรเถือกๆนั้น แบบนั้นมันก็ฟังดูฮาร์ดคอร์ดี แต่ไม่เห็นจะเคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ แต่ละคนก็ไม่เห็นจะบ่นว่าเจอราชาคนที่สอง นักฆ่าคนที่สอง แม่มดคนที่สอง หรือผู้พิพากษาคนที่สองเลยนี่หรือจะเป็นแบบนี้เฉพาะม้าศึก? ไม่ บ้าบอเกินไป จะทำอะไรก็ควรทำให้เท่าเทียมสิ ใช่มะ? หรือว่าไง

    เอาเหอะๆข้าส่งเสียงออกมาในที่สุด เอาเป็นว่าเรื่องปริศนาแมนอะไรนั่นช่างมันก่อนเถอะ พวกเจ้าไปเตรียมตัวทดสอบกันก่อนดีกว่า คิดมาก เดี๋ยวสมองไม่ปลอดโปร่งเอานา

    อันที่จริงก็คือข้าจะหลบออกมาคิดทบทวนเรื่องนี้คนเดียวต่างหาก
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×