ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alpharian อภินิหารเทพบันลือโลก!

    ลำดับตอนที่ #11 : Alphabet 9 : ตำราม้าศึก

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 58



    Alphabet 10

    ตำราม้าศึก

     จริงเหรอ!!!! ท่านเรย์ถามถึงข้าด้วยเหรอ!!!!!”

    เยส

    อ๊ายยยยยยย!!!! ท่านเรย์ๆๆๆๆๆ!!! ท่านเรย์!!!! ท่านเรย์ถามถึงข้าด้วย!! กรี๊ดดดดดด!!!!!!!”

    เอ็มม่าออกอาการสติเตลิดชนิดเบรกแตก หน้าเริ่มแดงเถือกเหมือนลูกแอปเปิ้ลเข้าไปทุกที ถ้าแดงมากกว่านี้ข้าจะกระโดดงับหน้านางจริงๆนะ แล้วก็มีการเอามือปิดหน้าตัวเอง ตบไปตบมาดังผัวะๆๆๆๆ จนข้าชักกลัวว่าหน้านางจะแหก ตามมาด้วยการกรี๊ดไปกรี๊ดมาจนคนทั้งบ้านพักเกิดอาการอึ้งปนสะพรึงเล็กน้อย

    เฮ้อเด็กสมัยนี้มันอะไรกันหว่า...” ลุงเพลัวร์ถอนหายใจพลางส่ายหน้าระอาจิต ก่อนที่เบโรนิก้าจะพูดต่อ

    เรย์อาจจะอบเค้กอาบยาพิษมาให้เจ้าก็ได้นะ!”

    พูดได้ดีมากเบโร!!!” โนอากับเบโรนิก้ากระทำการไฮไฟ้ว์กันด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ว่าแต่สองคนนี้ไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหนฟะ?

    ข้าไม่เชื่อว่าจะมีคนจีบเจ้าหรอกนะ เอ็มม่าพิเอต้าพูดขึ้น ก่อนจะยกน้ำดื่มในมือขึ้นจิบ เรย์คงเมาระเบิดที่ยัยม้าศึกนี่สร้าง ก็เลยเมาๆ สมองเบลอๆ ความคิดก็เลยเพี้ยนตามไปด้วย หรืออาจจะเห็นภาพหลอนซ้อนทับร่วมด้วย…”

    อย่าว่าข้าแบบนั้นสิ!!”

    ที่เจ้าพูดมันเข้าข่ายอัพยาเกินขนาดนะข้าว่า! ข้าพูดกลั้วหัวเราะ คนทั้งห้องยกเว้นเอ็มม่าฮาครืน แต่พอข้าจะพูดต่อ อาการเจ็บจี๊ดก็แล่นแปลบเข้ามาที่แขน โอ๊ย! เจ็บ! เบาๆหน่อยสิ มารินน์!!”

    แหม!! ทีตอนวิ่งฝ่าระเบิดละไม่เจ็บ!” มารินน์จับคทาในมือแน่น ก่อนจะส่งพลังรักษาใส่แผลของข้าอีกรอบ ทนหน่อยดิ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว

    พวกเจ้านี่เหมือนสามีภรรยากันเลยว่ะ!”

    นั่นปากเหรอเบโร!! …อุ! มารินน์! ข้าบอกแล้วไงว่าเจ็บ!”

    ไม่ทนแล้วมันจะหายมั้ย แง่งงง!!!”

    ข้าจำใจกัดฟันทนไปจนกระทั่งแสงจากคทาของมารินน์ดับลง นั่นแปลว่าแผลทั่วตัวข้าหายหมดเรียบร้อยแล้ว พอยกแขนขึ้นมาเช็คดูก็ไม่พบร่องรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิดเดียว เวทย์ของมารินน์นี่เจ๋งจริงๆ ข้าชักอยากมีเวทมนต์บ้างซะแล้วสิ

    ขอบใจมากนะ

    ทีหลังก็อย่าทำแบบนี้อีกละ

    สามีภรรยา!!”

    ไอ้บ้า!! สามีภรรยาบ้านเจ้าดิฟะ!!!!”

    แต่เบโรไม่สะทกสะท้าน นางยังมีหน้าหันไปซุบซิบกับโนอา และข้ากล้าสาบานว่าซุบซิบของพวกมันเท่ากับการพูดปกติของคนทั่วไป และที่ทำท่าซุบซิบก็แค่เพื่ออัพเลเวลความกวนอวัยวะเบื้องล่างเท่านั้น!

    เฮ้ยๆ เจ้าว่าใครสามี ใครภรรยา?”

    มิร่าเป็นสามีเว้ย มารินน์เป็นภรรยา!”

    น น โนอา เจ้าก็บ้าเล่นด้วยเรอะ!!

    ไม่ใช่โว้ย!!!” มารินน์ว้าก แล้วข้าก็ว้ากตามไปติดๆ

    ใช่!! ข้าจำได้ว่าบอกไปแล้วนะว่าข้าชอบ ผู้-ชาย’!!”

    เบโรนิก้าทำท่าเหมือนกำลังลูบเคราทั้งที่ไม่มีเคราให้ลูบ ยังชอบผู้ชายอยู่อีกเรอะ?”

    เออสิฟะ!!”

    คนทั้งห้องหัวเราะกันอย่างเฮฮาปาจิงโกะ แม้กระทั่งพิเอต้าก็ตาม แต่นางไม่หัวเราะถึงขั้นปล่อยก๊ากแบบหลายๆคน แต่ทำเพียงแค่หัวเราะหึๆๆ ในลำคออย่างผู้ดี๊ผู้ดี สมกับเป็นราชาสาวห้าวของพวกเรา

    หือ? ทำไมข้ารู้สึกว่าหนึ่งในพวกเราหายไปคนนึง?

    เอ่อ พิเอต้า วิโอล่าหายไปไหนละ?” ข้าถามออกไปด้วยสีหน้าสงสัย พิเอต้าใช้ดวงตาสีเหลืองทองมองมาทางข้า ชั่วครู่หนึ่ง ข้าเห็นประกายของความไม่พอใจแบบสุดขั้วอยู่ในนั้น

    อะจะเฮ้ย ข้าพูดอะไรผิด?

    วิโอล่า…” พิเอต้ากดเสียงต่ำ ถูกแยกไปฝึกเป็นการส่วนตัวที่สวนของวิหาร…”

    โห่ แค่สวน เจ้าทำหน้ายังกับวิโอล่าโดนฉุดไปปราบโจรสลัด...”

    กับไอ้เด็กดอกไม้นั่น!!!!!!!!”

    เด็กดอกไม้!?”

    เด็กทารกแบบไอ้พวกคิวปิด ใส่กระโปรงทำจากกลีบดอกไม้ยืนเต้นไปเต้นมา ร้องเพลงลัลล้าไปทั่ว บนหัวมีมงกุฎดอกไม้นี่คือสิ่งแรกที่แล่นเข้ามาในหัวข้าหลังจากที่พิเอต้าพูดคำว่า เด็กดอกไม้’…

    อะไร? ธัมเบลิน่าเหรอ?”

    อ๊ะ!! เจ้ารู้จักธัมเบลิน่าด้วยเหรอ!!” เอ็มม่าที่เงียบมานานหูตาตั้ง ตาเป็นประกายปิ๊งๆเชียว เป็นเรื่องที่โรแมนติกมากเลยละ! สื่อถึงการหลบหนีจากสิ่งที่ตัวเองไม่รักไปยังสิ่งที่ตัวเองรัก อ๊าย! น่ารักที่สุดเลย! นี่ๆๆๆ ข้าแต่งภาคต่อให้ด้วยแหละ เรื่องก็มีอยู่ว่า…..”

    กลับไปเพ้อหาท่านเรย์ของเจ้าเหอะ…”

    ลุงเพลัวร์พูดสั้นๆ ง่ายๆ แต่ทำให้เอ็มม่ากลับไปอิ๊อ๊างกับตัวเองได้อย่างง่ายดาย พอเอ็มม่าเงียบเสียงไปแล้ว เพลัวร์ก็รับหน้าที่อธิบายให้ข้าฟังต่อว่าเด็กดอกไม้มันคือตัวบ้าอะไร

    เด็กดอกไม้มันก็คือคนดูแลสวนดอกไม้ของวิหารนั่นแหละ เฮ้อ พิเอต้าเล่นเรียกซะเสีย…”

    เพลัวร์ เจ้าอย่ามาต่อล้อต่อเถียงข้านะ…”

    เออ ใช่ ข้าต้องรีบไปแล้วจู่ๆ โนอาก็ลุกขึ้นเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก ข้ามีทดสอบฆ่าคนต่ออะ!!!”

    ตื่นเต้นเลยนะโนอา!” มารินน์ล้อ โนอาหันกลับมายิ้มแฉ่ง ก่อนจะกำหมัดแน่น ดวงตาสีเขียวเรืองแสงเป็นประกายวิ้งวั้งราวกับน้ำซุปกระดูกหมูตอนถูกแสงแดดส่องก็มิปาน!

    ฆ่า!! ฆ่า!! ฆ่า!!!!!!!!”

    นี่แหละ! ตัวตนที่แท้จริงของโนอา!!

    ข้าโบกมือบ๊ายบายโนอาพร้อมๆกับคนอื่นๆ ก่อนจะอ้าปากหาวหวอดใหญ่ หนังตาเหมือนจะตกไม่รู้ทำไม พอทำแผลเสร็จแล้วร่างกายเหมือนจะเพลียๆแฮะ ง่วงโคตร สงสัยร่างกายจะเหนื่อยหิวด้วย แต่ง่วงมากกว่า

    แง่มเดี๋ยวค่อยลงมาจัดหนักตอนมื้อเย็นละกัน

    ข้าขึ้นไปนอนก่อนนะ ไว้เย็นๆจะลงมาใหม่ ไม่ไหวละ…” ข้าลุกขึ้น พร้อมกับเอ่ยลาทุกคนที่อยู่ห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้ามึนๆ เมาๆ เหมือนโดนชามข้าวตีหัวอย่าเพิ่งกินข้าวเย็นกันหมดละ!”

    ฝันดี ข้าก็จะไปหาอะไรทำเหมือนกันพิเอต้าพูด เจอกันอีกทีตอนเย็น

    นั่นละ พอพิเอต้าพูดจบปุ๊บ ทุกคนก็สลายโต๋ไปตามที่ชอบๆของตัวเองปั๊บ ดูท่าทุกคนจะมีอะไรที่อยากจะทำ ข้าก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าสิ่งที่ข้าอยากจะทำจะดูไร้แก่นสารก็ตามทีเหอะ ก็คนมันง่วงนี้เฟ้ยแจ่บๆๆ

    ข้าอ้าปากหาวหวอดรอบที่สอง ก่อนจะเดินดุ่มๆ ผ่านทางเดินในบ้านพัก ก้าวเดินไปยังห้องนอน แล้วหมุนลูกบิดห้องนอนให้เปิดออกอย่างเงียบๆ

    ง่วงโคตร

     

    ปี๊~~!!!!”

    โฮ่งงงง!!!!!!”

    ฮูกกกกกก

    ว้ากกกกกกกกกก!!!!!!”

    และแล้ว จนแล้วจนรอดข้าก็ไม่ชินกับไอ้สามสหายวายวอดของมารินน์ซะที!

    ข้าเหวี่ยงผ้าห่มทิ้งด้วยความพิโรธ! ก่อนจะถลึงตาแดงๆใส่ไอ้นกสองหมาหนึ่งที่กำลังตีปีกๆ เขย่าขาหน้าไปๆมาๆ ทำท่าเหมือนกำลังเต้นแอโรบิกอยู่กลางห้อง แต่ขอโทษ! เสียงมันลอยมาเข้าหูข้าเต็มๆเลยฟ่ะ!!

    ดังนั้น ข้าก็เลยถลึงตาสีแดงใส่โดยหวังว่ามันจะกลัวหัวหด แล้วหุบปากไปซะที….

    ข้าจ้อง

    จ้อง

    จ้อง

    เป็นไง กลัวอะดิ!

    ปี๊!!!!!~~”

    ฮูกกกกกกก

    โฮ่งงงง!!!”

    ว้อยยยย!!! ข้าชักอยากเปิดโรงฆ่าสัตว์!!

    เฮ้ย!! ข้าจะนอน!!” ข้าแหกปาก ชี้นิ้วไปยังสามสหายวายวอดตรงกลางห้อง แล้วรู้มั้ยว่ามันทำยังไงต่อ? พวกมันสามัคคีหันมาทำตาแบ๊วใส่หน้าด้วยสีหน้าที่น่ากระทืบสุดๆน่ะเซ่!

    ปี๊?” พอมองหน้าข้าเสร็จ เจ้าฟีนิกซ์หันไปหาเจ้าหมา

    บ๊อก…” เจ้าหมาหันไปทางเจ้าฮูก

    ฮูก…” เจ้าฮูกหันมาทางข้า ก่อนที่พวกมันจะ

    ปี๊!!!!!!!! / โฮ่ง!!!!! / ฮูกกกกกก!!!!”

    ไอ้พวกบ้าเอ๊ยยยยยยยย!!!!!!”

    ไม่นอนแล้วก็ได้ฟะ!!

    ข้าโยนผ้าห่มทิ้งลงพื้น เดินเหยียบมันไปทีนึง ก่อนจะกระทืบเท้าปังๆเดินออกจากห้องไปด้วยความหัวเสีย และแน่นอน ไอ้เจ้าสามทหารเสือบ้าๆนั่นยังไม่หยุดหวีด แถมคราวนี้ประสานเสียงเป็นทำนองเพลงเฉลิมฉลองซะด้วย! เออ จะเยาะเย้ยที่ข้ายอมถอยว่างั้นเซ่!!

    จำไว้เลยนะพวกแก!”

    ข้าหันไปพูดด้วยสายตาอาฆาต ก่อนจะกระแทกประตูห้องปิดไปด้วยแรงอันเหลือล้น เชื่อปะ ขนาดออกมาแล้วข้ายังได้ยินเสียงโหยหวนของพวกมันอยู่เลย! โอ๊ยยยย นี่กะจะให้หลอนกันไปข้างนึงเลยใช่มั้ยไอ้พวกบ้าเอ๊ย!!

    ในที่สุด ข้าก็ต้องเสด็จก้นออกจากห้องในสภาพหน้าโทรมๆ นอนไม่พอ หัวสีน้ำตาลทรายกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ เหมือนซอมบี้มาจ่ายตลาด หือ? พูดถึงตลาด ข้าชักอยากกิน….

    อ้าว! จีจี้!!”

    จีจี้? จีจี้มันไผฟะ

    เจ้านั่นแหละ!”

    เออะ…?

    ข้ามองเอ็มม่าอย่างงงๆ ก่อนจะยินยอมรับชื่อ จีจี้มาอย่างเต็มใจแปลกๆ อย่างน้อยตำแหน่งของข้าก็คืออักษร G อะนะ ไม่ได้เสียหายอะไร ถึงแม้มันจะแบ๊ว แลดูผุดผ่อง ไม่เข้ากับหน้าข้าเลยก็เหอะ ว่าแต่นางมีชื่อให้ข้ากี่ชื่อแล้วเนี่ย? คาฝาบ้าน? อัศวินแห่งถั่วเน่า? แล้วก็ล่าสุดคือจีจี้แหล่มมาก

    โย่เอ็มม่า กินข้าวเย็นกันไปรึยัง?” ข้าเอ่ยถาม

    ยังๆ มารินน์กำลังทำให้อยู่จ้ะ

    อ๋อข้าพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟากับเพลัวร์ที่ท่าทางจะนั่งท่องประมวลกฎหมายอย่างเมามันส์อยู่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ข้างๆมีกองหนังสือกองสุมๆกันอยู่ สูงเกือบมิดหัวลุงแกได้ แต่ละเล่มนี่ปกแข็งทั้งนั้น! ถ้ามันร่วงลงมาทับ ข้าก็ไม่มั่นใจนะว่ามารินน์จะรักษาไหวมั้ย…? กระดูกกระเดี้ยวลุงวัยสามสิบกว่าๆนี่ไม่ถึกเหมือนหนุ่มๆสาวๆ และ ชัวร์ การรักษาไม่ได้ทำกันง่ายๆแน่

    ไงลุงแกทักข้า

    โย่ ลุง สวัสดีตอนเย็นข้าพูด ไม่ปวดหัวบ้างเลยเหรอ กฎหมายเนี่ย?”

    ไม่ละข้าเป็นผู้พิพากษาแห่งอัลฟาเรียนทั้งที อ๋อ ใช่เพลัวร์เว้นจังหวะครู่หนึ่ง มือข้างซ้ายผละออกหนังสือกฎหมายในมือ (หนามาก! ทุบหม้อหุงข้าวแตกได้เลยนะเนี่ย!) แล้วควานๆหาหนังสือที่อยู่ล่างสุดในกองข้างๆมายื่นให้ข้า

    มันคือ…?”

    คู่มือการสงคราม ลุงพูด ข้าเห็นว่าเหมาะกับตำแหน่งเจ้าดี ก็เลยเอามาเผื่อ

    ขอบใจนะลุง!”

    เล็กน้อย

    รักลุงเพลัวร์จัง!!

    ข้าเอนหลังลงบนเบาะนุ่มๆของโซฟา พลางยกขาไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งเอาขึ้นมาหนุนหัว ตั้งใจจะโชว์สกิลเปิดหนังสือด้วยมือเดียวให้โลกประจักษ์ แต่ก็เหลว หนังสือร่วงลงพื้น แล้วกระแทกนิ้วเท้าข้าเต็มๆ

    ปึก!

    อูย!!”

    “…สม

    อ้าว! ลู๊งงงงงง!!!!

    สุดท้ายก็ข้าก็ต้องกลับมาอ่านแบบปกติมนุษย์ฮึกเสียใจชะมัด

    ข้าขยับตัวให้อยู่ในท่าสบาย มือค่อยๆ เปิดหนังสือออกอ่านตั้งแต่หน้าแรก สายตาจ้องมองไปยังตัวอักษรในหนังสือ ก่อนจะตั้งอกตั้งใจอ่านมันปานประดุจว่ามันเป็นคู่มือการกินอาหารให้อร่อยหลังจากไล่สายตาอ่านสารบัญเสร็จ ข้าก็ตัดสินใจว่าจะอ่านบทความในหัวข้อ การเอาชนะข้าศึก

    สารบัญบอกข้าว่าให้เปิดไปหน้าที่ 37… โอเค 37 ใช่มั้ย?

    ข้าเอามือกรีดสันหนังสือ ตาจ้องแต่เลขหน้า พอเห็นเลข 37 แล้ว ข้าก็หยุด แล้วก็อ้าหนังสือออก จ้องมองหน้านั้นโดยหมายจะอ่านแล้วเอาไปประเทืองปัญญา แต่ กลางหน้ากระดาษดันมีข้อความเขียนไว้ว่า

    ขอโทษที สารบัญบอกเลขหน้าผิด เจ้าต้องเปิดกลับไปที่หน้า 26’

    อะไรของมันฟะ….?

    อ่ะ ได้ๆ ตกลง ข้าจะเปิดกลับไปหน้า 26…

    แล้วพอข้าเปิดกลับไปที่หน้า 26 ปุ๊บ! ข้าก็เจอข้อความนี้เข้ามาทักทายปั๊บ!

    ล้อเล่นน่า มันอยู่หน้าที่ 59’

    อ้าว…?

    แล้วพอข้าเปิดไปหน้า 59…

    ฮ่าๆๆๆ ติดกับแล้ว ความจริงมันอยู่หน้าที่ 69 ต่างหาก!!’

    ไอ้หนังสือนี่!

    แล้วพอไปที่หน้า 69 ปั๊บ!!!

    จะถึงแล้ว อีกหน้านึงมีแน่ๆ!!’

    เจ้าบ้าเอ๊ยยังจะให้เปิดไปหน้า 70 อีกรึไง….?

    หน้าตาข้าตอนนี้เหมือนยักษ์ที่อยากจะเขมือบหนังสือลงท้องกะทันหัน ปากก็พึมพำเสียงฮึ่มแฮ่ออกมาเป็นชุดๆ นี่มันหนังสือบ้าอะไรฟะ! นี่ถ้าข้าโมโหหิวมากกว่านี้ ไอ้หนังสือบ้านี่โดนข้าจับโยนลงหม้อตุ๋นแน่ๆ! ฮ่วย!!

    แต่นับว่ายังดี พอข้าเปิดไปที่หน้าเจ็ดสิบ ข้าก็พบว่ามันมีตัวอักษรเต็มพรืดเขียนอยู่จริงๆ ทำให้ข้าพอจะใจเย็นลงได้บ้าง พอจะทำใจลืมๆความกวนส้นก่อนหน้านี้ลงไปได้ และในที่สุดข้าตั้งใจอ่านมันเพื่อนำมาเป็นความรู้ประดับสมอง

    การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้

    ทำไมวรรคแรกมันดูเกรียนๆจังฟะ?...

    และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ

    เหมือนมันวนกลับมาที่เดิมนะหรือข้าคิดไปเอง?

    การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ การทำสงครามให้ชนะ คือการทำสงครามให้ไม่แพ้และการทำสงครามให้ไม่แพ้ คือการทำสงครามให้ชนะ

    ไอ้ว้อยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ไม่ต้องมีการอาลัยอาวรณ์อะไรทั้งนั้น! ข้าปิดหนังสือด้วยแรงมากเท่ากับตอนที่ปาดหอกใส่ระเบิดแผ่น จากนั้นก็ทำการเขวี้ยงมันลงพื้นอย่างแรง! นี่ถ้าเหยียบหนังสือแล้วไม่บาป ข้าจะตามไปกระทืบซ้ำอีกรอบให้ดู!

    เกรียนไปไหน มันจะเกรียนไปไหนฟะ!!!!

    เฮย…. อะไรของเจ้าเนี่ย เขวี้ยงหนังสือลงพื้นทำไม? มีแมลงสาบรึไง?”

    เสียงปา ไม่ดิ ไม่ปา มันคือการเขวี้ยง ใช่ เสียงเขวี้ยงดังป้าบทำให้ลุงเพลัวร์ที่อ่านหนังสืออยู่หันมามองข้าด้วยสายตาตำหนิ มือของเขาขยับแว่นนิดนึง เพื่ออะไรก็ไม่รู้ละ (?) ลุงแกดูสงบ (จนเข้าขั้นเอื่อย) ผิดกับข้าที่ตอนนี้ที่ร้อนระอุดั่งไฟเผ หวา! เฮ้ย!! มือเริ่มร้อนแล้ว! ข้าควรอัดพลังทำลายใส่หนังสือเล่มนี้เลยมั้ย!?

    แล้วทำไมต้องแสดงพลังด้วยมิทราบหา….”

    ข้าบังคับมันไม่ได้เฟ้ยลุง!!

    ลุงลองเปิดหนังสือเล่มนั้นดูสิ แล้วลุงจะรู้ว่ามันมีอะไร

    ข้าใช้วิธีพยักเพยิดหน้าไปทางหนังสือแทนการใช้มือชี้ มือข้าไม่ว่าง ข้างหนึ่งกำลังกำหมัดอยู่ ส่วนอีกข้างก็จับมือข้างนั้นไว้ไม่ให้พลังทำลายหลุดออกมา เยี่ยมนี่ถ้าข้าเกิดนึกสนุก เล่นกำแล้วแบแบบเด็กสองขวบขึ้นมา พลังก็คงจะทะลักพรวดออกมา แล้วบึ้มบ้านพักนี่วอดแหงแซะ!! ดีไม่ดีข้าอาจโดนเด้งออกจากตำแหน่ง G ข้อหาทำลายทรัพย์สินของสภาเทพด้วยนะ!! นั่นละคือเหตุผลที่ข้าพยายามควบคุมมันไว้อย่างสุดกำลังอยู่ในตอนนี้!

    ไหน…”

    ลุงแกถอนหายใจ แล้วจึงลุกอย่างโซฟาอย่างช้าๆย่อตัวลง ค่อยๆหยิบหนังสือขึ้นมาแบบเนิบๆ คงเพราะกลัวกระดูกตัวเองจะหักพอหยิบได้ ลุงแกก็ค่อยๆ เปิดมันออกอ่าน

    ไปหน้าเจ็ดสิบลุง…”

    ดวงตาของลุงเพลัวร์ตวัดมาทางข้าแวบนึง มือค่อยๆเปิดไปตามหน้าที่ข้าบอกอย่างช้าๆตามประสาคนอาวุโส พอถึงปุ๊บ ลุงแกก็ก้มลงมอง ข้าเห็นลุงแกขมวดคิ้วครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นหนังสือกลับมาทางข้าด้วยท่าทางสงบพลางพูดเสียงเรี๊ยบเรียบ

    เผามันทิ้งซะ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×