คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ::Chapter 6: ผู้มาเยือนคนใหม่::
Chapter 6: ผู้มาเยือนคนใหม่
“อ๊ะ......”
เสียงแหลมหากแต่ก็ฟังดูนุ่มนวลดังขึ้นก้องในห้องขนาใหญ่ที่เต็มไปด้วยกองหนังสือมากมายที่กองพะเนินบ้างก็ไม่มีระเบียบ แต่บางเล่มก็ถูกจัดวางบนชั้นอย่างเรียบร้อย เบื้องหน้าของหนุ่มร่างเล็ก เจ้าของหน้าตาน่ารัก แต่ก็ดูทรงอำนาจอย่างมิอาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ นั้นคือ กระจกทรงรีใสขนาดใหญ่สูงกว่าตัวของเขาทีเดียว ที่สามารถส่องมาเห็นอะไรได้อย่างชัดเจน และสิ่งซึ่งปรากฏเบื้องหน้าของหนุ่มร่างเล็กนั้นคือ ร่างสูงที่แสนสง่างามที่เขาตามหาอยู่.....
“ในที่สุดก็พบตัวสักที.....” เสียงแหลมเอ่ยขึ้นพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองร่างสูงที่สะท้อนผ่านกระจกอย่างไม่กระพริบตา โดยไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนที่แอบย่องเข้ามาในห้องส่วนตัวของเขาอีกแล้ว...
“พบอะไรงั้นเหรอจุนซู?”
เสียงผู้มาเยือนคนใหม่เอ่ยถามขึ้น เจ้าของนาม จุนซู หันไปมองต้นเสียง คิ้วเรียวมนขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจเมื่อ ชายหนุ่มหน้าหล่อ หากแต่แฝงความเจ้าเล่ห์นี้เข้ามาในห้องของเขาโดยไม่ขออนุญาตอีกแล้ว....
“ทำไมไม่หัดเคาะประตูซะบ้าง....ไม่รู้จักมารยาทที่ผู้ดีพึงกระทำรึไง ขุนนางใหญ่ แห่งวาร์กลา และรั้งตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพฝั่งตะวันออก....ปาร์คยูชอน.....” จุนซูหันไปกัดน้ำเสียงเย็นหากใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มสวยเหยียดแก่คนด้านหล่อด้านหน้า ซึ่งยังยิ้มร่าไม่สะทกสะท้านกับคำขบกัดของคนตัวเล็กคนนี้เลยสักนิด.....
....ถ้าไม่ด้านยามจีบ ก็ไม่ใช่ปาร์คยูชอนน่ะสิ!!.....
“แหมๆ ไม่เห็นต้องเรียกยศเต็มอย่างนั้นเลยนี่นา ความจริงเราก็สนิทสนมกันดีอยู่แล้วไม่เหรอ....” ไม่ยิ้มเปล่าทั้งยังถามคำถามด้วยน้ำเสียงชวนสยิวกิ้ว แถวยังยื่นหน้าที่เริ่มออกอาการหื่นนิดๆ เข้าไปใกล้คนน่ารักที่ชักจะทำหน้าบูดกับความไม่รู้กาลเทศะของคนตรงหน้ามากกว่าเดิมหลายเท่าตัว....
“ถ้านายยังไม่หยุดยื่นหน้าหื่นๆของนายมาใกล้ฉันล่ะก็....ฉันจะสาปให้กลายเป็น ไก่ถูกตอน ซะนี่!” จุนซูเริ่มกระชากเสียงโหดขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเจ้าตัวคนใกล้กลายเป็นไก่ตอนจะยังคงทำหน้าระรื่นราวกับยั้วะโมโหคนตัวเล็กกว่า แต่ในใจลึกๆก็กลัวจะต้องกลายเป็น ไก่เป็นหมันจริงๆ! แล้วแบบนี้เขาจะเป็นพ่อพันธุ์ใครได้เล่า!!....
“โธ่....คนน่ารักดุจังเลย แบบนี้เค้ากลั๊วกลัว” นอกจากจะยังทำหน้าตาระรื่นแถมยังดัดเสียงดัดจริตเพื่อยั่วโมโหเขาอีก จนทำให้ จอมเวทย์อันดับหนึ่งแห่งแวร์กลาอย่าง คิมจุนซู คนนี้ ชักอยากลองสาปให้ไอ้คนช่างกวนนี่กลายเป็นไก่ตอนขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว....
“ว่าแต่....เมื่อกี้นายบอกว่าพบอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ยูชอนเบี่ยงประเด็นกลับเข้าเรื่องเดิมอย่างแนบเนียนเวลาที่จอมเวทย์แสนน่ารักคนนี้โกรธเขาเข้าให้ ร่างบางชักสีหน้าใส่คนช่างเนียนนิดๆก่อนจะหันไปทางกระจกใส่บานใหญ่ที่ขอบกระจกเป็นไม้สลักลายเถาวัลย์ไม้เลื้อยอย่างงดงามนั้นอีกครั้ง....
“ฉันพบ....ยุนโฮ แล้ว.....” พอได้ยินคำตอบเช่นนั้น ขุนนางหนุ่มถึงเบิกตาโพล่งขึ้นด้วยความแปลกใจก่อนจะรีบถามขึ้นด้วยน้ำเสียงท่าทางตกใจเป็นอย่างยิ่ง....
“จริงๆงั้นเหรอ!! นายหาองค์ชายพบแล้วงั้นเหรอ!!” คนร่างเล็กเพียงแค่พยักหน้ารับให้เบาๆก่อนจะยื่นมือออกไปแตะที่บานกระจกนั้นก่อนจะพึมพำเหมือนบทคาถามนตราที่หากไม่ใช่ผู้ที่ศึกษามาก็ไม่อาจจะเข้าใจได้....พลันทันใดนั้นร่างของจึนซูก็ส่องประกายแสงเรืองรองระยับเจิดจ้า จนทำเอาประสาทตาของร่างสูงที่ไม่ทันจะระวังตัวแทบพร่า....
“เฮ้!!!จุนซู!!!นายทำอะไรน่ะ” ยูชอนร้องออกมาอย่างตกใจ ขณะที่จอมเวทย์คนงามเพียงหันมาคลี่รอยยิ้มให้ พร้อกับเสียงที่แทรกมาตามแสงที่ส่องไปทั่ว
“ฝากไปบอกฝ่าบาทด้วยว่า ฉันจะพาองค์ชายกลับมาเอง ใช้เวลาไม่นานนักหรอก” สิ้นเสียงหวานใสแล้วนั้น แสงทั้งหมดก็พลันดับหายไป รางกับถูกดูดไปไหนกระจก ท่ามกลางของหนุ่มรูปหล่อที่ยังคงงงเป็นไก่ตาแตกต่อไป....
*********************************************************************
“ไม่ได้จริงๆเหรอ....”
เสียงกึ่งออดอ้อน แม้ยังคงไว้ซึ่งน้ำเสียงแข็งแบบเกร็งๆเนื่องจากเป็นคนที่ออดอ้อนใครไม่เป็น ชาติไม่เคยคิดว่าต้องมาก้มหัวขอร้องใครแบบนี้ แม้แต่ท่านพ่อของเขาที่เป็นถึงราชาแห่งประเทศแวร์กลายังต้องเป็นฝ่ายก้มหัวขอร้องเขาด้วยซ้ำ แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันที่คนอย่าง เจ้าชายชองยุนโฮ ต้องมาขอร้องจนแทบจะลงกราบร่างบางคนงามนี่ด้วย!!
“บอกว่า ไม่ได้ก็ไม่ได้! ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ยอมให้นายเอาดาบ นั่นมาแกว่งในเขตบริเวณบ้างฉันเด็ดขาด! ครั้งที่แล้วนายเล่นเอาโซฟาเจ๊งไปตัวหนึ่งแล้ว รู้ไหมว่าฉันต้องเสียเงินค่าซ่อมมากแค่ไหน!!” ร่างบางวีนลั่นเข้าให้ เหตุผลที่เจ้าชายรูปงงามต้องมาหงอต่อหน้านางพญาแจจุงเช่นนี้ ก็เนื่องด้วยว่า ยุนโฮ อยากจะฝึกวิชาใช้ดาบของเขาเขา แต่เพราะครั้งที่แล้วก่อเรื่องไว้ เนื่องด้วยขณะที่กำลังแกว่งดาบอยู่ดีๆ ดันเผลอไปฟันฉับเข้ากับโซฟาตัวเก่งของแจจุงซะจนเป็นแผลใหญ่ต้องเสียค่าซ่อมอยู่มาก เป็นเหตุให้ร่างบางหงุดหงิดอยู่แบบนี้....
“แต่ฉันเป็นเจ้าชายของแวร์กลานะ! แถมประเทศของฉันก็ยังอยู่ในภาวะสงคราม!! ถ้าเกิดฉันไม่ฝึกดาบแล้วจะเอาอะไรต่อกรกับศัตรูล่ะ!!........” ยุนโฮเริ่มเถียงกลับลั่น แต่ก็พลันหยุดนิ่งเงียบขึ้นเมื่อนึกถึงประเทศบ้านเกิดที่จากมา ความกังวลฉายชัดอยู่ในแววตานั้น เรียกให้ร่างบางที่มองใบหน้าคมนั้นอย่างหาเรื่องในตอนแรก ต้องอ่อนลงในทัใด....ร่างบางพลลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยบอกเสียงอ่อน....
“ก็ได้...ฉันยอมให้นายออกไปซ้อมดาบอะไรของนายก็ได้แต่ต้องที่สวนนอกบ้าน เข้าใจ?” แจจุงเอ่ยบอกพร้อมเน้นย้ำ ดวงตากลมโตจ้องเข้าไปในดวงตาอีกฝ่ายเพื่อต้องการคำตอบ เล่นโดนตาสวยๆแบบนั้นจ้องเข้าก็ทำเอาชายหนุ่มร่างสูงหวั่นไหวไปเหมือนกัน เขาแอบหลบสายตาของแจจุงนิดๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเหมือนเกร็งผิดปกติ....
“อ่ะ....อืม เข้าใจแล้ว....ขะ....ขอบใจนะ.....” ว่าเสร็จร่างสูงก็หันไปหยิบฝักเสียบดาบคู่ใจก่อนที่ก้าวเดินออกไปทางประตู ร่างบางมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นก็เผลอคลี่รอยยิ้มออกมา ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อไปหยิบหนังสือมาอ่าน....ยังไงเขาก็กะจะไปเฝ้าเจ้าชายนั่นอยู่แล้ว กันสวนพัง.....
.....นี่ก็นานแล้วที่ยุนโฮมาอยู่กับเขา.....
.....แจจุงต้องยอมรับว่า การที่มียุนโฮมาอยู่ด้วยทำให้เขาแทบไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย.....
......ทั้งที่โดยปกติแล้ว.....
......เขาเบื่อกับชีวิตประจำวันที่สุด......
ยิ่งคิดร่างบางก็หวนคิดไปเรื่อย ไม่ว่าจะเรื่องเปิ่นๆที่เจ้าตัวทำไว้ให้ได้ดูแล้วขบขัน หรือแม้แต่ตอนที่เจ้าชายจอมหยิ่งนั้นหงอเวลาเขาโกรธให้ และยิ่ง....ตอนที่เจ้าตัวอ่อนแอยามนึกถึงมารดา....นั่นเป็นครั้งแรกและคงเป็นครั้งเดียวที่แจจุงได้เห็นความจริงในใจของเจ้าชายที่แสนเย่อหยิ่งนั่น.....ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นคนที่ขี้เหงาคนหนึ่งเท่านั้น....แค่ต้องการใครสักคน......เหมือนกับเขา....ไม่ใช่เหรอ......
แต่ก่อนที่จะได้คิดฟุ้งซ่านอะไรไปมากกว่านั้น ขาเรียวยาวก็ก้าวเข้ามาถึงหน้าห้องนอนของตนเองเสียแล้ว มือขาวหมุนลูกบิดประตูก่อนจะหมุนมันให้กลอนประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นห้องนอที่จัดไว้เป็นระเบียบอย่างเรียบง่ายนั้น
เมื่อเดินเข้าไปแจจุงก็มุ่งไปยังตู้หนังสือกระจกในห้องนั้นทันที แล้วจึงเอื้อมหยิบหนังสือที่อ่านค้างเอาไว้มาไว้ในมือ ขณะที่กำลังจะเดินออกไปนั่นเองสายตาก็พลันไปหยุดลงที่หนังสือเล่มสีขาวประดับขอบทอง....Verglas.....
.....เขาจำได้ว่า เขาขอกับหนังสือเล่มนี้ให้มีใครสักคนมาเคียงข้างเขา.....แล้วคนๆนั้นจะใช่ ยุนโฮ รึเปล่านะ?.......
ดวงหน้าเรียวส่ายหน้าน้อยๆ อย่างไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัวหนักหัวมากมาย เขาจึงตัดสินใจจะเดินออกไปจากห้องนอนทันที ทว่าในช่วงที่เท้ากำลังจะก้าวออกไปนั่นเอง....
!!!พรึ่บ!!!พรึ่บ!!!
หน้ากระดาษของหนังสือเล่มสีขาว ถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงกระดาษเปิดพลิกทำให้แจจุงรู้สึกตกใจจนต้องรีบหันมาดูด้วยท่าทางแปลกๆ และตอนนั้นเองก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นอย่างรุนแรง เหมือนกับครั้งแรกที่ยุนโฮออกมาจากหนังสือนั่น....
หนังสือที่อยู่ในมือของร่างบางนั้นหล่นลงพื้นเพราะแรงโน้มถ่วงของโลกเมื่อเจ้าของมือเรียวบางนั้นไม่ได้จับกุมมันไว้ เพราะเอามือมาป้องสายตาไว้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าชายหนุ่มวิ่งตึกๆขึ้นมาในห้อง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก แต่เมื่อดวงตาคมเหลือบมองมายังหน้าต่างห้องของแจจุงจากสวนนอกบ้าน ก็เห็นแสงสว่างประหลาดส่องมานั่นทำให้เขารู้สึกห่วงร่างบางจนทนไม่ได้ ต้องรีบวิ่งขึ้นมาในทันใด
“แจจุง เกิดอะไรขึ้น!!” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้น ขณะที่คว้าตัวคนสวยเข้ามาประคองกอดไว้ค่อยๆ และใช้ป้องกันแสงสว่างที่เจิดจ้าจนอาจทำให้ตาบอดนั้นไม่ให้ส่องเข้าดวงตาคู่สวยของแจจุง....
“ไม่รู้อ่ะยุนโฮ อยู่ดีๆที่หนังสือมันก็ส่องแสง....” ร่างบางเอ่ยเสียงอู้อี้เมื่อคนตัวสูงแทบจะกดให้ดวงหน้าของเขาเข้าไปเบียดอยู่กับแผ่นอกกว้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ....
เจ้าชายหนุ่มหันไปมองทางต้นเหตุของลำแสงประหลาดที่บัดนี้ค่อยๆจางลงแล้ว แจจุงที่รู้สึกได้ว่าแสงเมื่อครู่เจือจางลงแล้วจึงขยับดวงหน้าออกจากอกกว้างของยุนโฮ แล้วมองไปยังจุดที่วางหนังสือเอาไว้....
หนังสือเล่มสีขาวยังคงถูกวางอยู่ที่เดิม เพียงแต่พื้นของห้องเบื้องหน้าของคนทั้งสองบัดนี้กลับปรากฏแสงจางๆที่เหมือนกับห่อหุ้มร่างบางเล็กๆร่างหนึ่งเอาไว้ และเมื่อแสงสง่างนั้นจางหายไปจนหมดนั้น เผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางของชายหนุ่มร่างเล็ก ดวงหน้าหวานน่ารักหมดจด ดวงตาสวยไม่แพ้กับร่างบางเจ้าของบ้านเลยแม้แต่น้อย คนเบื้องหน้าที่อยู่ในชุดประหลาด คล้ายๆเหมือนจะเป็นพ่อมดในนิยายปรัมปรา เพียงแต่ดูดีกว่ามากนั้น คงจะดูดียิ่งกว่านี้ ถ้าหากว่า จะมีรอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้านั้นบ้าง.....
ในวินาทีที่ได้พบเห็นคนเบื้องหน้า ดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าชายหน้าหมีแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตาด้วยความตกใจที่ได้พบเห็นคนที่ปรากฏกายขึ้นมานั้น....
“จะ...จุนซู.....” ยุนโฮเรียกชื่อของอีกฝ่ายนั่นทำให้ร่างบางที่พยายามเบียดดวงหน้าออกจากอกอุ่นนั้นเงยขึ้นมามองร่างสูงอย่างประหลาดใจ....
“ยุนโฮ.....รู้จักคนๆนั้นเหรอ....” คนหน้าสวยถามแต่ดูเหมือนว่า แต่ดูเหมือนคนถูกถามจะไม่มีสมาธิพอที่จะฟังคำถามนั้นเลยเสียนิดเดียว
“ไม่เจอกันนาน....ท่าทางสบายดีนะพะยะค่ะ องค์ชายยุนโฮ.....” เจ้าของนามจุนซูเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับก้มโค้งศีรษะให้ ยุนโฮมองคนเบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย เพียงแต่เหมือนกับแฝงความหวาดเกรงอะไรสักหนึ่งเอาไว้....เมื่อหัวกลมๆของคนที่แจจุงคิดว่าเป็นจอมเวทย์นั้นเงยขึ้นมา ดวงหน้าน่ารักคลี่รอยยิ้มบางๆ หลายคนอาจเคลิบเคลิ้ม แต่ว่า....ภายในรอยยิ้มนั้นกลับให้ความรู้สึกประหลาดเหมือนกับเสียวสันหลังวาบขึ้นมา!!!
“ก่อนอื่น....หม่อมฉัน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบพระองค์ หม่อนฉันคิดว่าฝ่าบาทเองก็จะทรงยินดีเช่นกัน.....และ....นายมัวไปทำบ้าอะไรมา ชอง ยุนโฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ร่างบางเอ่ยอย่างสุภาพนอบน้อมในช่วงแรก และจึงเว้นระยะเล็กน้อยก่อนจะที่หวีดร้องขึ้นมาเสียงแหลม เหมือนมีโลมามาปล่อยคลื่นเสียงสื่อสารกันซะอย่างนั้น!!
เสียงแหลมบาดแก้วหูที่ร่างบางผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย เกือบเอามือปิดหูไม่ทัน ส่วนทางเจ้าชายหนุ่มนั้นดูไม่สะทกสะท้านราวกับชาชินเสียแล้ว เหมือนกับมีภูมิต้านทานอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งเมื่อเห็นท่าทางที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ยิ่งทำให้ร่างบางในอ้อมกอดนั้น....รู้สึก.....
....ครั้งแรกตั้งแต่ไอ้เจ้าชายหน้าหมีมาอยู่กับเขา....นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกนับถือมันจากใจจริง!!!!.....
“หนวกหูน่า จุนซู” ยุนโฮเอ่ยกลับเรียบๆ ขณะมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างกวนส้นฝ่าพระบาท จนคนถูกจ้องชักอยากเอาฝ่ารองเท้าคู่ใหม่ลูบพักตร์ไอ้เจ้าชายไม่เจียมนี่จริงๆ....
“ห้ามมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ ยุนโฮ ถึงนายจะเป็นองค์ชาย แต่ก็อย่าว่าฉันเป็นราชครูของนายรู้ไว้ซะ!!!” จุนซูยังคงไม่ยอมแพ้พร้อมบอกยศฐานะของตนไปด้วย เผื่ออีกฝ่ายจะยอมอ่อนข้อลงบ้างแต่ก็เปล่าเลยเจ้าตัวก็ยังคงตีสีหน้ากวนประสาทเหมือนเดิม และ....ดูเหมือนว่าจะลืมไปว่าแขนแข็งแกร่งนั้นกำลังรัดร่างเล็กๆที่อ้อมกอดแน่นชนิดที่คนในวงแขนชักต้องดิ้นเพราะหายใจไม่ออก....
“จะยังไงก็เถอะ ยุนโฮ....ฉันว่านายปล่อยเขาก่อนดีไหม?” จุนซูบอกพลางชี้ไปที่ร่างเล็กๆที่อยู่ในอ้อมกอดของนักเรียนตัวแสบของเขา ที่กำลังหาทางดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของร่างสูง พอได้ยินเช่นนั้นยุนโฮก็พึ่งจะรู้สึกตัว จึงรีบปล่อยร่างบางออกอย่างร้อนรน พลันนั้นดวงหน้าหล่อของเจ้าชายรูปงามก็พลันแดงขึ้นมาหน่อยๆ ขณะที่ร่างบางซึ่งกำลังสูดลมหายใจอย่างรุนแรงราวกับกระหายอยากมานานให้เต็มปอด ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดไม่รู้เป็นเพราะขาดอากาศหายใจ หรือ เพราะอะไรกันแน่.....
หลังจากที่ได้รับอากาศจนชุ่มปอดแล้ว ดวงตากลมสวยตวัดไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างเอาเรื่องเป็นที่สุด....ก็เล่นกอดแน่นจนเขาหายใจไม่ออก....
“ชอง...ยุน....โฮ!!!! นายจะฆ่าฉันรึไง!!! คิดอะไรของนายอยู่ ถ้าฉันเกิดตายในอ้อมกอดของนายจะทำยังไง!!!!......” ทั้งที่มีเรื่องที่เขาอยากจะต่อว่าอีกยาว แต่ทว่าพอเขาพูดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ดวงหน้าขาวสวยก็พลันแดงก่ำขึ้นมากะทันหันจนพูดอะไรไม่ออก....
....ยิ่งคิดมากเท่าไหร.....
.....ดวงหน้าขาวก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นไปอีก......
......เสียงหัวใจก็เต้นระรัวเล็กน้อย.....
......จากแค่นิดเดียว.....
......ก็เริ่มแรงขึ้นจนน่ากลัวมาจะหลุดออกมาจากอกรึเปล่า......
“อ้าว....นึกว่านายชอบเสียอีก....เห็นท่าทางเคลิ้มอยู่ตั้งนาน....” ร่างสูงคลี่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา หากแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน ขณะเอ่ยแซวคนหน้าหวานข้างกาย ที่พอได้ฟังก็จะยิ่งทวีความโกรธขึ้นแถมไอ้เจ้าชายจอมแสบยังทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกต่างหาก....
ส่วนทางแจจุงจะเถียงก็เถียงไม่ออก เพราะมันเป็นเรื่องจริง ทันทีที่ตอนนั้นเขาได้ซุกเข้ากับแผงอกแกร่ง เขาก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปไม่น้อย รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกอบอุ่นจนไม่อยากออกจากอ้อมกอดนั้นเลย ถ้าไม่ติดว่า...เขาหายใจไม่ออกล่ะนะ.......
พอร่างโปร่งเห็นแม้นางพญาสิงโตไม่ตอบโต้อะไร ก็พลันคลี่ยิ้มหวานอย่างถูกใจ เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เขาจะสามารถแกล้งเจ้าคนหน้าสวยนี่ได้สักที ถึงมันจะเป็นยิ้มประกาศชัยชนะก็ตาม แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่ทำให้แจจุงถึงกับใจเต้นได้ชั่วครู่หนึ่งเลยทีเดียว.....
“อะแฮ่ม.....ไม่ทราบว่าจะช่วยสนใจกันนิดนึงได้ไหม?”
เสียงของผู้มาเยือนคนใหม่เอ่ยขัดขึ้นมาทำให้แจจุงได้สติ และหันไปทางร่างเล็กผู้มาใหม่คนนั้นอย่างแปลกใจรวมทั้งเจ้าชายที่มองมาทางจอมเวทย์เลื่องชื่อด้วยสายประมาณว่าขัดความสำราญของเจ้าตัวเต็มประดา....และเมื่อเห็นว่าทั้งสองหันมาสนใจเขาเสียที เจ้าของดวงหน้าน่ารักก้มโค้งให้แจจุงพอเป็นพิธี แต่ช่างคงไว้ซึ่งมารยาทของชนชั้นสูง ขณะที่แจจุงได้แต่ก้มโค้งตอบอย่างเงอะๆงะๆด้วยความที่ยังคงตกใจอยู่....
“ท่านคงเป็นเจ้าของบ้านหลังนี่สินะ......” ดวงตาหวานกวาดมองทั้วรอบห้องนอนของแจจุงอย่างพินิจพิจารณา
“อ่ะ....อืม ครับ.....”
“รู้สึกยินดีที่ได้พบท่านคิดว่าการมาของผม คงทำให้ท่านตกใจไม่น้อยสินะ” จุนซูถามขึ้น แทนคำตอบร่างบางหน้าสวยเพียงแค่พยักหน้ารับอย่างงงๆ เปลือกตาหรุบลงอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นต่อ....
“ขอทราบนามของท่านได้หรือไม่?”
“เอ่อ....ผม คิม แจจุง ครับ.....” ทั้งที่ดูจากลักษณะภายนอกแล้ว ร่างเล็กที่แสนน่ารักเหมือนโลมาน้อยนี่ก็ดูจะอายุไม่ได้ต่างจากเขาเท่าไหร แต่อะไรบางอย่างบอกให้ยำเกรงคนเบื้องหน้าไว้อย่างบอกไม่ถูก....
“ยินดีที่ได้รู้จัก คุณแจจุง....ตัวของผมเป็นจอมเวทย์แห่งแวร์กลา....คิม จุนซู ครับ....และมีศักดิ์เป็น ราชครู ขององค์ชายยุนโฮ” ดวงตากลมโตเบิกโตยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะหันไปทางเจ้าชายหน้าหมีที่อยู่ข้างๆราวกับถามเพื่อความแน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดจริงรึเปล่า ซึ่งดูเหมือนว่ายุนโฮก็เดาออกว่าร่างบางจะพูดอะไรจึงตอบออกมา....
“ใช่แล้วล่ะ แจจุง....จุนซู น่ะเป็นราชครูของฉัน แล้วก็เป็นจอมเวทย์ที่มีพลังสูงที่สุดในแวร์กลา” จุนซูโค้งราวกับน้อมรับในคำชมของร่างสูงผู้เหนือศักดิ์กว่า....
“คิดว่าเราคงมีเรื่องต้องคุยกันนะครับ คุณแจจุง....” จุนซูเอ่ยขึ้นนั่นทำให้ร่างบางที่กำลังงงๆอยู่เผลอทำหน้าเอ๋อออกมาอย่างไม่ตั้งใจ....
จอมเวทย์หน้าหวานขยับยิ้มขำๆกับท่าทางที่อีกฝ่ายแสดงออกมา นิ้วเรียวสวยดีดกันดังเป๊าะก่อนที่ร่างของทั้งสามจะมาปรากฏอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกชั้นล่างเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งแก้วชาที่จัดการชงตัวมันเองอย่างน่าอัศจรรย์นั่นยิ่งทำให้ร่างบางเจ้าของบ้านยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก....
“ไม่ต้องตกใจไปครับ คุณแจจุง มันก็แค่เวทย์มนตร์เด็กๆ” จอมเวทย์หน้าเหมือนโลมาเอ่ยบอกพร้อมกั
บขยับนิ้วเรียวให้หาน้ำชารินน้ำชาชั้นดีหอมกรุ่นลงไปในถ้วย และคุมให้มันลอยไปอยู่บนมือของคนอีกสองคน...ยุนโฮรับมันมาด้วยความรู้สึกที่เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ประมาณว่าชาชินแล้ว แต่ดูเหมือนว่าร่างบางจะยิ่งทึ่งในพลังประหลาดที่คนอย่างเขาไม่เคยเชื่อมาก่อนจนได้เห็นด้วยตาตัวเองนี่แหละ.....
.....ตกลงชีวิตของเขามันยังไงกันเนี่ย!!!!.....
“อย่างที่คุณรู้อยู่แล้วนะครับ คุณแจจุง....ว่าทั้งผม และตัวของ องค์ชายยุนโฮ มาจากมิติ เชื่อมขนานของโลกใบนี้....” จุนซูเริ่มต้นอธิบายและคนหน้าสวยเองก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็อยากจะรู้คำตอบทั้งหมดเช่นกัน....ว่าทำไมยุนโฮถึงมาอยู่ที่บ้านของเขาได้ เป็นเพราะหนังสือเล่มนั้นจริงรึเปล่า.....
“ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งที่ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับโลกใบนี้ได้เลย แต่ว่า....ทั้งโลกของคุณและโลกของผม ก็ยังมีประตูเชื่อมเพียงจุดเดียว ที่จอมเวทย์โบราณเมื่อนานมาแล้วในโลกของผม ได้สร้างประตูนั้นขึ้นมา และได้กำหนดจุดหมายที่ประตูนั้นจะเปิดขึ้นที่นี่....แต่ก็ยังไม่เคยมีใครลองผ่านประตูนั้นเลย จนเมื่อราวๆ 4-5 ปีที่แล้ว ได้มีจอมเวทย์คนหนึ่งเปิดประตูข้ามมายังโลกแห่งนี้ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิติ........” จอมเวทย์หนุ่มเว้นช่วงหายใจ พลางยกชากลิ่นหอมขึ้นมาจิบเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อไป ขณะที่อีกคนยังคงตั้งใจฟัง.....
“และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนที่ ฉันจะช่วยนายออกมาจากวงล้อมศัตรูในตอนนั้น ถึงได้หลุดมายังอีกมิติ ยังไงล่ะ.....” จอมเวทย์หนุ่มว่าขึ้น ขณะจ้องไปยังเจ้าชายหนุ่มที่นั่งเงียบ และได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ตนถึงได้หลุดอกมาจากโลกเดิม หลังจากอยู่ในวงล้อมของศัตรู.....แจจุงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียดภายในห้องนี้ก็รู้สึกอึดอัด แต่วตอนนั้นเองที่ร่างบางก็ฉุกคิดขึ้นมาได้....
“เอ่อ....คุณจุนซู ที่คุณบอกว่า ‘จุดหมาย’ ของประตูมิติที่คุณว่าน่ะ....หรือว่าจะเป็น.....” ตาคู่สวยจ้อมกลับไปยังดวงตาหวานหยดนั้นอย่างเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของบ้านหลังนี้จะเอ่ย เขาพยักหน้ารับ....
“ใช่แล้วคุณแจจุง....จุดหมายที่ว่านั้น ก็คือ หนังสือ เล่มนี้ยังไงล่ะ” ไม่ทันว่าปากเปล่า มือคู่สวยกรีดออกเล็กน้อยเรียกให้หนังสือเล่มขาวที่เมื่อครู่ยังอยู่บนห้องนอนของแจจุงมาอยู่บนมือของจอมเวทย์หนุ่มอย่างง่ายดาย ด้วยพลังแห่งเวทย์มนตร์....
“งั้นก็หมายความว่า.......ฉันถูกกำหนดให้มาอยู่กับแจจุงที่นี่อย่างนั้นเหรอ?” ยุนโฮที่นิ่งเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้น และนั่นทำให้ร่างบางก็ถึงกับใจเต้นขึ้นมาหน่อยๆกับคำถามนั้น.....
.....แปลว่า.....
.....ตั้งแต่เขาตกลงปลงใจเอาหนังสือเล่มนี้กลับมา......
.....ก็เหมือนกับ กำหนดให้ยุนโฮต้องมาอยู่กับเขาอย่างนั้นเหรอ........
“มันก็ไม่แน่....เพราะมันเป็นแค่ความบังเอิญที่คุณแจจุงได้รับหนังสือเล่มนี้มาเท่านั้น.....ที่สำคัญคือ นายต่างหาก องค์ชายยุนโฮ ตอนนี้ที่แวร์กลาน่ะ ไฟสงครามกำลังลามไปทุกหย่อมหญ้า นายในฐานะองค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่ง ต้องกลับไปเดี๋ยวนี้.....” จุนซูว่าขึ้น และนั่นทำให้ร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับจอมเวทย์หนุ่มหน้าหวานข้างๆยุนโฮถึงกับรู้สึกใจหล่นหายแวบไปกับคำพูดนั้น....ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม.....
“ฉันไม่กลับ....” เจ้าชายหนุ่มเอ่ยตอบเสียงแข็ง และนั่นยิ่งทำให้ทั้งคนสวยด้านข้างและราชครูถึงกับแปลกใจ.....ไม่รู้ทำไม เขาถึงตอบไปเช่นนั้น แต่เหมือนกับหัวใจส่วนหนึ่งร้องประท้วงว่าอยากจะอยู่ที่นี่......
ราชครูจอมเวทย์ตีหน้านิ่งครู่หนึ่ง เหมือนกับพอจะอ่านความคิดความอ่านของร่างสูงผู้แสนรั้นออก ถึงเจ้าตัวจะรักสนุก แต่เวลายามนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะเล่นสนุกอีกต่อไป เมื่อความเป็นไปของบ้านเมืองขึ้นอยู่กับว่าที่กษัตริย์องค์ใหม่คนนี้.....
“เสียใจด้วย....ฉันคงทำตอบที่นายยอกไม่ได้ ฉันขอยืนยันคำเดิมว่านายต้องกลับไป....” พริบตาที่สิ้นสุดคำพูดลง มือบางของจอมเวทย์หนุ่มกางหนังสือสีขาวออก ริมฝีปากบางพึมพำคำบางอย่างที่คิดว่าคงเป็น บทร่ายเวทย์มนตร์ที่รัวเร็วจนฟังไม่ได้ศัพท์ พลันนั้นแสงสว่างก็ส่องขึ้นจ้าอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจของคนอีกสองคน....
“เดี๋ยว!!!!!!” เสียงหวานของแจจุงร้องลั่น ขณะที่มือบางพยายามความหามือของร่างสูงข้างกายท่ามกลางแสงสว่างที่ส่องมาอย่างแรงนั้น....แล้วทันใดนั้น.....!
ความคิดเห็น