ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัลเฟรเดรีย...โรงเรียนนักสู้ผู้พิทักษ์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3: พิธีปฐมนิเทศ

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 50


     

     

    บทที่ 3: พิธีปฐมนิเทศ

     

                    สองเด็กนักเรียนใหม่ก้าวเดินไปตามทางผ่านสวนใหญ่ ที่เชื่อมต่อไปยังประตูใหญ่ของป้อมอิฐขนาดยักษ์ที่เป็นเหมือนกำแพงขวางกั้นสถานที่เบื้องหลังเอาไว้

     

                    เอ่อ....คุณมิเกลคะ เซียร่าเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เดินห่างป่าดำอาถรรพ์มาพอสมควรแล้ว ชายหนุ่มผมสีทองยังงเดินนำทางทั้งสองคนต่อไป โดยที่เบือนหน้าหันมามองเพียงเล็กน้อยแทนการตอบรับว่าเขารับฟังอยู่

     

                    เรียก พี่มิเกล เฉยๆก็ได้ ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงแลดูอ่อนโยนชวนให้อุ่นใจ

     

                    คะ...พี่มิเกล แล้วนี่...อัลเฟรเดรียอยู่ข้างหลังกำแพงอิฐนั่นเหรอคะ สาวจอมเวทย์ถามอย่างใคร่รู้ อีกฝ่ายคลี่ยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่ม

     

                    ถ้าหากว่า...เป็นอาคารเรียน กับ หอพักล่ะก็อยู่ข้างในนั้น แต่สำหรับอัลเฟรเดรียเขตทั้งหมดตั้งแต่ป่าดำอาถรรพ์ จนถึงสวนนี้ที่เรียกว่า สวนเอดิล จนถึงบริเวณรอบนอกในรัศมี 3000 กิโลเมตรนี้เป็นเขตพื้นที่ของโรงเรียนอัลเฟรเดรียทั้งหมด... เขาอธิบายจนเธอเข้าใจแต่นั่นก็ถึงกับทำให้ชายหนุ่มสายลับเกือบหลุดเก๊กอ้าปากค้างไปกับความใหญ่โตของที่นี่ ส่วนสาวน้อยที่ท่าทางจะเป็นลูกคนรวยก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก

     

                    เอาล่ะ...ถึงแล้วล่ะ ชายหนุ่มเอ่ยบอกเมื่อพวกเขาทั้งสามคนเดินกันจนมาถึงหน้าป้อมแล้ว มิเกลยื่นมือออกปล่อยพร้อมส่งพลังเวทย์สีทองอร่ามที่มือ เพียงชั่วครู่ที่พลังเวทย์นั้นส่องสว่างรอบประตูป้อมบานใหญ่ยักษ์ก่อนที่มันจะเปิดออกอย่างช้าๆ....

                    เบื้องหลังประตูคือลานกว้างที่เหมือนดั่งเป็นสถานที่รวมตัว พร้อมพรั่งด้วยนักเรียนที่แต่งกายหลากหลายแลดูมาจากทุกสารทิศ รอบด้านมีอัฒจันทร์รอบด้านพร้อมด้วยนักเรียนที่เริ่มทยอยกันเข้ามานั่งมากมาย จนเหลือเพียงที่นั่งราวๆ 2 ถึง 3 แถวในแต่ละส่วน...ซึ่งแต่ละคนก็นั่งเรียงสีของเครื่องแบบอย่างเป็นระเบียบจนเต็มอัฒจันทร์คิดว่าคงเป็นพวกนักเรียนปี 2 – ปี 3 กระมัง มเกลบอกให้เขาไปรวมตัวกับพวกเด็กใหม่ที่อยู่ตรงกลางลานกว้าง ส่วนตัวของผู้นำทางก็เดินขึ้นไปนั่งรวมกับนักเรียนที่สวมเครื่องแบบสีดำ

     

     

                    ที่บนเวทีกลางนั้นมีโต๊ะยาวอันประดับประดาด้วยอัญมณีสีสดและรอยแกะสลักอย่างประณีตตามขอบโต๊ะ พร้อมเก้าอี้นั่งซึ่งมีเหล่าอาจารย์มากมายหลายคนกำลังนั่งรอดู และอาจารย์ชราที่นั่งอยู่ตรงกลางของโต๊ะยาวนั้นก็ลุกขึ้นมาอยู่ตรงกลางและเอ่ยด้วยเสียงอันดังก้องแลดูน่านับถือ...

                   

                    ขอต้อนรับสู่ปีการศึกษาใหม่ที่โรงเรียนอัลเฟรเดรีย ทั้งนักเรียนที่เคยผ่านประสบการณ์มาแล้ว และ...นักเรียนใหม่ของปีนี้ก็เช่นกัน....ฉันคืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนอัลเฟรเดรีย ชื่อ ลุควิก ฟอสต์ ทันทีที่ได้ยินนามของชายชรานั้นก็ทำให้เริ่มเกิดเสียงเซ็งแซ่ทั่วบริเวณ...

     

                    นี่....ทำไมถึงตื่นเต้นกันนะนักน่ะ? เซียร่าที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยถามเขาขึ้น ตัวสายลับหนุ่มยักไหล่น้อยๆร้าวกับว่าไม่มีอะไรก่อนจะตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ก็ฟังแล้วชวนให้กวนฝ่าเท้าดีจริงๆ

     

                    ก็ไม่แปลกหรอก...ลุควิก ฟอสต์ น่ะเคยเป็นหนึ่งในทหารเอก ที่ร่วมกันปราบกบฏที่เคยคิดจะยึกอาณาจักรเอธิลยังไงล่ะ? หรือว่าเธอไม่รู้....? วีริดหันไปกับกระตุกคิ้วกวน สาวผมบลอนด์สะบัดหน้าเชอะไปอย่างหยิ่งยะโส ปล่อยให้ชายหนุ่มอมยิ้มแล้วจึงหันไปฟังสิ่งที่อาจารย์ใหญ่จะพูดต่อ

     

                    ก่อนอื่นฉันรู้สึกดีใจมากที่พวกเธอนักเรียนใหม่ทุกคนสามารถมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย ฉันเชื่อว่าทุกคนต่างได้เจอภยันตรายของสัตว์ร้ายที่เจอในป่าดำอาถรรพ์ซึ่งเป็นสถานที่เชื่อมระหว่างอัลเฟรเดรียกับโลกภายนอก แม้จะเจออุปสรรคแต่พวกเธอก็สามารถมาถึงจุดนี้ได้ ฉันขอชื่นชมจากใจที่ผ่านบททดสอบใหญ่ก่อนจะเข้าเรียนที่นี่ได้.... เมื่ออาจารย์ใหญ่พูด เหล่าเด็กปีหนึ่งก็เงียบลงอย่างตั้งใจและดูภาคภูมิใจกับสิ่งที่ชายชราเอ่ยชมพวกเขา หากจะมีก็แต่สายลับหนุ่มที่ยินกัดฟันกรอดๆอย่างเจ็บใจที่เขาถูกชายชราเบื้องหน้าหลอกให้ไปเสี่ยงอันตรายแทบตาย

     

                    ....ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้แก่!!!....

     

                    ฉันเชื่อว่าคงมีหลายคนไม่พอใจกับการทดสอบเช่นนั้น..... อยู่ดีๆอาจารย์ใหญ่คนนั้นก็เอ่ยขึ้นเล่นเอาเด็กหนุ่มที่แอบฝากความแค้นกับอาจารย์ใหญ่ไว้ในใจ เขาเงยหน้าขึ้นไม่รู้ทำไมเขารู้สึกว่าแววตาใจดีของชายชราจ้องมองที่เขา....

     

                    แต่หากพวกเธอไม่มีความกล้าแล้ว คงจะเป็นนักสู้ไม่ได้ฉันจึงต้องใช้วิธีนี้ทดสอบพวกเธอ... ลุควิกเอ่ยต่อราวกับอ่านใจของวีริดได้ แถมยังไขข้อข้องใจให้กับเขาอีกต่างหาก....

     

                    เอาล่ะ...และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ฉันจะขออธิบายเกี่ยวกับกฏคร่าวๆของอัลเฟรเดรียให้พวกเธอฟัง...ถัดจากลานประชุมแห่งนี้เข้าไปจะเป็นอาคารเรียนซึ่งพวกเธอต้องใช้เรียนร่วมกันทั้ง 3 หอ และเมื่อเข้าไปลึกอีกหน่อย และเลี้ยวตามทางแยกที่ให้ไว้พวกเธอก็จะพบกับทางเข้าหอพักของเธอ ซึ่งจะทำการเลือกต่อจากนี้....นั่นเป็นเรื่องที่จะทำการอธิบายให้กระจ่างอีกครั้งตอนที่พวกเธอจะถูกคัดเลือกเข้าแต่ละหอ....ส่วนกฏที่ฉันอยากจะเน้นย้ำสำหรับเด็กปี 1 อย่างพวกเธอ.....อย่างแรก ห้ามออกจากเขตป้อมพิทักษ์นี่เด็ดขาด เพราะพวกสัตว์ร้ายอาจจะออกจากป่าดำมาทำร้ายพวกเธอก็ได้ ซึ่งฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น....อย่างที่ 2 ถ้าหากไม่มีความจำเป็นอย่างที่สุดจริงๆในตอนกลางงคืนห้ามไปหอคอยอื่นที่ไม่ใช่หอคอยของตัวเองเด็ดขาด.....และอย่างที่ 3 ห้ามเข้าไปในห้องใต้ดินที่ลึกที่สุดของอาคารเรียนเป็นอันขาด......นอกจากนั้นเธออยากจะทำอะไรฉันก็ไม่ว่าทั้งนั้น....

     

                    ทันทีที่อาจารย์ใหญ่เอ่ยเสร็จเขาก็เดินกลับเข้าไปนั่งรวมกับอาจารย์ท่านอื่น ปล่อยให้เหล่าพวกน้องใหม่เริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีเวลาให้พวกเขาพูดมากนักหรอกนะ

     

                   

                พวกเด็กใหม่ปี 1 ทุกคนจงฟังให้ดี!!”

     

                    เสียงดังกึกก้องพร้อมด้วยร่างของเด็กหนุ่มท่าทางองอาจซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบสีดำเหมือนกับที่ผู้นำทางของทั้งสองใส่ทำให้เดาได้ไม่ยากมากว่าเป็นนักเรียนของหอคอยแห่งดวงดาราก้าวขึ้นตรงกลางพร้อมเอ่ยเสียงดังก้องทั่วบริเวณก่อนจะตามมาด้วยร่างของหญิงสาวร่างบางอีกสองคน คนหนึ่งอยู่ในเครื่องแบบสีแดง ส่วนอีกคนมีเครื่องแบบสีทอง ก้าวเดินเข้ามาเช่นกัน

     

                    ต่อจากนี้จะเป็นการคัดเลือกพวกเธอที่พึ่งเข้ามาให้ไปอยู่ตามหอพักแต่ละหอ รวมถึงสายที่พวกเธอจะต้องเรียนนับจากนี้ หอพักแบ่งออกเป็น สามหอพักด้วยกันนั่นคือ หอคอยแห่งสุริยา หอคอยแห่งจันทรา และหอคอยแห่งดวงดารา....จากนี้ฉัน เฟอร์โด้ อโพรอนัส สายนักสู้ ไลเตอร์ประจำชั้นปีที่ 2 ของหอคอยแห่งดวงดารา จะเป็นผู้การขานเรียกชื่อเธอ ชื่อของใครถูกเรียกแล้ว...ให้ก้าวขึ้นมาและเดินเข้าไปเมลรัน... พอเอ่ยจนถึงชื่อหญิงสาวจบ สาวน้อยผู้มีเรือนผมยาวประบ่าสีดำสนิท เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าชวนหลงซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิงสีทอง และเข็มกลัดการ์เดี้ยนรูปเสี้ยวดวงจันทร์ที่อกซ้ายก็ก้าวเดินออกมา....

     

                    ฉันชื่อ เมลรัน ชาร์เต้ ปี 2 สายนักเวทย์ หนึ่งในการ์เดี้ยนของหอคอยแห่งจันทรา...ฉันจะเป็นคนทำการคัดเลือกพวกเธอเข้าไปอยู่ตามหอ.... พอเอ่ยแนะนำตัวเสร็จสาวน้อยนามเมลรันก็ยื่นมือออกมาแล้วเรียกกล่องสมบัติซึ่งประดับด้วยโกเมนสีสดขนาดย่อมให้ปรากฏขึ้นบนมือของเธอ และเมื่อฝาของมันถูกเปิดออกก็ปรากฏเพชรเม็ดงามออกมา สามเม็ดซึ่งแต่ละอันก็มีสีและรูปลักษณ์ที่ต่างกันลอยขึ้นมาเหนือกล่องจนเห็นเด่นชัด...

     

                    เพชรสีแดงสดถูกสลักออกเป็นรูปดวงตะวันอันเจิดจ้า....

     

                    เพชรสีทองอำพันถูกสลัออกมาให้เป็นรูปดวงจันทราอันสว่างไสว....

     

                    และ....

     

                    เพชรเม็ดใสแวววาวถูกสลักออกมาให้เป็นรูปของดวงดาวอันส่องประกาย....

     

                    เมื่อพวกเธอถูกเรียกแล้วให้มาหาฉัน แล้วจงยื่นมือออกมาเพื่อให้เพชรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละหอได้สัมผัส และผลก็จะปรากฏออกมา... เมื่อเมลรันเอ่ยจบเธอก็ก้าวเดินไปประจำจุดยืนของเธอซึ่งเยื้องออกไปทางซ้าย ส่วนสาวสวยเจ้าของเรือนผมสีเงินยาวสยายจนถึงเอวในชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิงสีแดง ซึ่งคาดด้วยเข็มขัดหนังที่ช่วงเอวนอกเสื้อ อันมีสัญลักษณ์ที่หัวเข็มขัดเงินสลักเป็นรูปดวงอาทิตย์และประดับด้วยอัญมณีสีแดงเข้มก็ก้าวเดินตามมา....

     

                    ฉันคือ ไอเรเซีย คิเนล เคอร์ตนิสเวลล์ ปี 3 สายนักสู้ผสานเวทย์ ดัชเชสของหอคอยแห่งสุริยา....หลังจากที่พวกเธอได้ทำการคัดเลือกหอแล้วจงเดินมาฉันและฉันจะทำการทดสอบพวกเธอว่าควรจะไปอยู่สายไหน โดยใช้ลูกแก้วเวทย์มนตร์เหล่านี้...พอเธอพูดเสร็จก็ดัดนิ้วขึ้นดังเป๊าะก่อนที่ลูกแก้วเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่สามลูกต่างสีที่เธอว่าจะลอยมาจากกล่องที่วางอยู่ข้างๆเธอ

     

                    เมื่อเดินเข้ามาหาฉันแล้วขอให้พวกเธอใช้ออร่าจากร่างกายของพวกเธอสัมผัสลูกแก้วเหล่านี้ ลูกแก้วสีแสดคือสายนักสู้....ลูกแก้วฟ้าครามนั้นคือ สายนักเวทย์....และลูกแก้วสีเขียวมรกตนี้คือ สายนักสู้ผสานเวทย์....และถ้าเกิดลูกไหนส่องแสงสว่างจะเป็นตัวตัดสินว่าพวกเธอสมควรจะเรียนสายนั้นนั่นแหละ.... พอเอ่ยเสร็จแล้วเธอก็เดินไปพร้อมลูกแก้วทั้งสามยังตำแหน่งที่เยื้องจากตรงกลางไปทางขวา....พร้อมกับพนักหน้าราวกับให้สัญญาณแห่ไลเตอร์หนุ่มปี 2 ซึ่งพยักหน้ารับ....

     

                    เอาล่ะ! ถ้าฉันชานชื่อใครก็จงขึ้นมาบนเวทีนี้ทันที.....เฟิสเดีย ริอาร์!!” เฟอร์โด้กางใวนกระดาษรายชื่ออกพร้อมกับขานชื่อแรกออกมา สาวน้อยร่างบางตัวเล็กท่าทางร่าเริงผู้มีผมสีเขียวก็เดินขึ้นบันไดเชื่อมไปยังเวทีด้วยท่าทางร่าเริง

     

                    สาวเจ้าของชื่อ เฟิสเดีย ริอาร์ ก้าวเดินเข้าไปหาสาวจากหอคอยจันทรา เธอยื่นมือเรียวบางออกไปทางเพชรเม็ดงามสามเม็ดด้วยท่าทีหวาดหวั่นเล็กน้อย และเพียงครู่เดียวเท่านั้น เพชรสีทับทิมรูปดวงตะวันก็ลอยขึ้นแล้วหมุนวนรอบเฟิสเดียและปล่อยให้มีประกายแวววาวรอบด้าน เพียงชั่วอึดใจเดียวชุดที่เธอใส่มาตั้งแต่แรกก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นเสื้อแขนกุดแดงเข้มมีกระดุมสีขาวตั้งแต่ปดเสื้อ กระโปรงจีบสั้นสีขาว รวมถึงรองเท้าบู๊ทสั้นส้นสูงสีน้ำตาลเข้มเข้ากันกับชุดถูกสวมให้กับเธออย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมือนกับชุดที่รุ่นพี่แห่งหอคอยสุริยาใส่เรียกเสียงฮือฮาได้จากพวกปีหนึ่งทุกคน...

     

                    แม้จะงุนงงกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นกับเธอแต่ว่าเฟิสเดียก็เปลี่ยนจุดเดินไปหารุ่นพี่ปีสามซึ่งยืนรออยู่แล้ว และทันทีที่เธอยื่นมือออกไปโดยใช้เวลาไม่นานนัก หนึ่งในลูกแก้วที่ลอยขึ้นอยู่ด้านหน้าของเธอก็ส่องแสง...มันคือ ลูกแก้วสีฟ้าคราม....

     

                    เฟิสเดีย ริอาร์ ปี 1 สายนักเวทย์ หอคอยแห่งสุริยา!!” เฟอร์โด้ซึ่งยืนอยู่ตรงกลางและเห็นผลทั้งหมดที่ออกมาก็ประกาศเสียงลั่นตามด้วยเสียงปรบมือแสดงความยินดีจากพวกหอคอยแห่งสุริยา น้องใหม่แห่งหอคอยสุริยายิ้มร่าก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่อัฒจันทร์แถวที่เว้นไว้สำหรับปี 1 พร้อมด้วยท่าทางสดชื่นแจ่มใจของพวกรุ่นพี่

     

                   

     

                    ว้าว...สุดยอดไปเลย....

     

                    วีริดเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้เห็นการทดสอบของคนแรกที่ผ่านไปแล้ว และการคัดเลือกก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆเขากอดอกแน่นพลางทำเสียงเชิ่ดหน่อยๆ

     

                    ก็งั้นๆแหละแค่เวทย์มนตร์พื้นๆเอง!”

     

                    แล้วเธอทำได้อย่างนั้นไหมล่ะ? ครั้งที่แล้วยังใช่เวทย์มนตร์พลาดอยู่เลย หนุ่มสายลับเอ่ยเสียงกวนนิดๆ สาวเจ้าเธอกัดฟันกรอดๆด้วยความแค้นหากแต่ ก็ไม่สามารถเถียงอะไรได้....

     

                    พวกเธอทั้งสองคนนี่สนิทสนมกันเร็วจริงนะ เสียงของหญิงสาวที่ออกแนวห้าวๆเอ่ยขึ้นมาเรียกให้ทั้งสองหันไปแทบพร้อมกันแถมยังพูดออกมาพร้อมกันอีก!

     

                    สนิทกันตรงไหน!!!!!”

     

                    ดูสิท่าทางสนิมกันดีออกว่าไหม ฟิล... หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีเพลิง หัวเราะขำๆ นัยน์ตาสีเขียวฉายแววสนุกระยับ เด็กหนุ่มร่างสูงผู้มีเรือนผมสีดำสนิทสลวย พร้อมนัยน์ตาสีอะเมทิสต์ซึ่งยืนขนาดข้างๆเธอต้องถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

     

                    เฮลอา...ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าไปทักใครสุ่มสี่สุ่มห้าน่ะ เจ้าของชื่อ ฟิล เอ่ยขึ้นนัยน์ตาหล่อเหลาฉายแววเรียบเฉย มองไปทางคนสองคนก่อนจะเหล่ไปที่เส้นผมสีเงินของวีริด

     

                    ผมสีประหลาด.... ฟิลเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน้ายเรียกความโกรธนิดๆให้กับชายหนุ่มหากแต่เขายังคงรักษาหน้ากากสุภาพบุรุษเอาไว้ ส่วนแม่จอมเวย์สาวก็ได้แต่ยืนขำเงียบๆเท่านั้น...

     

                    ว่าแต่...พวกเธอน่ะเป็นใคร? วีริดถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนประเด็นเรื่องสีผมของเขา...และดูเหมือนนี่จะทำให้สาวผมแดงที่เข้ามาทักเขาก่อนนั้นเหมือนจะนึกขึ้นมาได้

     

                    จริงด้วย....ฉันชื่อ เฮลอา โรเนส....ส่วนนี้เพื่อนสมัยเด็กของฉันชื่อ ฟิลเน่ ชาร์ช เรียกหมอนี่ว่า ฟิล ก็ได้นะ เจ้าของชื่อ เฮลอา พูดจบเสร็จสับไม่เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆได้พูดเลยแม้แต่น้อย

     

                    ฉันชื่อ วีริด....วีริด แร๊ก...ส่วนนี้.... ชายหนุ่มผมเงินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเทพบุตรก่อนจะผายมือเพื่อจะแนะนำสาวน้อยน่ารักข้างกาย แต่เธอก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

     

                    ฉันชื่อ เซโรเวร่า เซรุเนส เรียกว่า เซียร่า ก็ได้จากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะจ๊ะ เฮลอา... สาวผมบลอนด์พูดด้วยน้ำเสียงหวานพร้อมจับมือกับเฮลอาแบบกระชับมิตร ใบหน้าประดับรอยยิ้มสวย ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบรับอย่างร่าเริง....

     

                    ถ้าได้อยู่หอเดียวกันก็ดีน่ะสินะ.... เฮลอาพูดขึ้นแต่ระหว่างนั้นเธอก็ได้ยินเสียงประกาศเรียกชื่อของเธอ...

     

                    เฮลอา โรเนส!!!”

     

                    งั้นฉันไปก่อนนะ สาวผมแดงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปตามบันไดและหยุดลงที่ด้านหน้าของรุ่นพี่แห่งหอคอยจันทรา....เฮลอายื่นมือออกไปใกล้เพชรทั้งสาม และเพชรเม็ดสีขาวรูปดวงดาวก็ลอยขึ้นโปรยประกายผงไปรอบๆตัวเธอ เสื้อผ้าของเธอถูกเปลี่ยนสลับให้กลายเป็นเครื่องแบบหญิงของอัลเฟรเดรียด้วยตัวเสื้อสีดำสนิท กระโปรงจีบสั้นสีขาว และรองเท้าบู๊ทสั้นส้นสูงพอประมาณสีน้ำตาล...เธอมีท่าทางยินดีอยู่ครู่ก่อนจะเปลี่ยนไปหารุ่นพี่ปีสาม ยังไม่ทันที่เธอจะยื่นมือออกไปใกล้ลูกแก้วด้วยซ้ำ...ลูกแก้วสีแสดก็ส่องแสงวาบออกมา

     

                    เฮลอา โรเนส ปี 1 สายนักสู้ หอคอยแห่งดวงดารา!!!”

     

                    เฮลอากระโดดเหยงด้วยความดีใจก่อนจะไปยังที่นั่งของปี 1 แห่งหอคอยแห่งดวงดาราท่ามกลางการต้อนรับอย่างดีใจจากเพื่อนๆที่ไปนั่งรอก่อนแล้วรวมถึงรุ่นพี่ปี 2 ที่อยู่ใกล้ๆ...

     

                    ฟิลเน่ ชาร์ช!!!” หลังจากที่เฮลอาขึ้นไปแล้วจึงตามด้วยเพื่อนที่มากันกับเฮลอา เขาก้าวขึ้นไปด้วยท่าทางเรียบเฉยจากการคัดเลือกหอนั้นเพชรรูปดาวก็มาหมุนวนรอบตัวเขา และเปลี่ยนจากชุดเสื้อคลุมให้กลายเป็นเสื้อแขนยาวขายาวซึ่งเป็นเครื่องแบบนักเรียนชายสีดำ อย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นเขาก็เดินไปทดสอบสายและดวงแก้วที่ส่องสว่างก็คือสีฟ้าคราม...

     

                    ฟิลเน่ ชาร์ช ปี 1 สายนักเวทย์ หอคอยแห่งดวงดารา!!” เฟอร์โด้เอ่ยประกาศฟิลเน่จึงเดินไปยังที่นั่งซึ่งมีเฮลอารอรับอย่างดีใจด้วยการล็อกคอกอดอย่างดีใจจนน่าสงสารเด็กหนุ่มที่ถูกรัดว่าจะตายก่อนไหมเนี่ย!!

     

                    การคัดเลือกก็ยังดำเนินต่อไปคนแล้วคนเล่า...ที่ถูกเรียกขึ้นไปและได้รับการคัดเลือก....

     

                    มารีน่า โอวิเดส ปี 1 สายนักสู้ผสานเวทย์ หอคอยแห่งสุริยา!!”

     

                    ลินชาแตม แคลชีวาส ปี 1 สายนักสู้ หอคอยแห่งจันทรา!!!”

     

                    เอเรีย เออร์นิเทีย ปี 1 สายนักสู้ผสานเวทย์ หอคอยแห่งดวงดารา!!”

     

                ปารินทร์ เวสพรีน่า เธโอตานาเซีย ปี 1 สายนักสู้ผสานเวทย์ หอคอยแห่งจันทรา!!!”

     

                   

                หลังจากการขานเรียกชื่อแล้วชื่อเล่าได้ผ่านไปนั้น...จนในที่สุด.....

     

                    เซโรเวร่า เซรุเนส!!” ไลเตอร์แห่งปี 2 ขานเรียกแม่จอมเวทย์สวมหน้ากากคุณหนูผู้สง่างามทันควันก่อนจะย่างก้าวเดินขึ้นไปด้วยอากัปกริยาสง่างามก่อนที่จะเดินไปหารุ่นพี่เมลรัน และเมื่อสาวน้อยยื่นมือออกไปสัมผัสเพชร....เพชรสีขาวสะอาดรูปดวงดาวก็ส่องประกายแล้วหมุนวนรอบตัวเธอเปลี่ยนให้ชุดสไตล์คุณหนูของเธอเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิงสีดำ หากแต่ยังคงไว้ซึ่งสร้อยที่มีจี้สีม่วงเช่มเดิม....

     

                    เซียร่าขยับรอยยิ้มถูกใจเล็กน้อยก่อจะเดินต่อไปเพื่อไปเลือกสายและนี่เป็นอีกครั้งที่ยังเจ้าของพลังยังไม่ทันได้ยื่นมือออกไป แต่ด้วยพลังเวทย์ที่มีอยู่ในตัวของเธอทำให้ลูกแก้วสีฟ้าครามรีบส่องสว่างวาบขึ้นมา....

     

                    เซโรเวร่า เซรุเนส ปี 1 สายนักเวทย์ หอคอยแห่งดวงดารา!!!”

     

                    พอได้ยินการประกาศของตนสาวน้อยจอมเวทย์ก็เดินตรงไปยังที่นั่งอัฒจันทร์พร้อมเริ่มออกวงคุยกับสาวผมแดงอย่างเฮลอาอย่างสนุกสนาน...

     

                    ....อืม.....

     

                    ....แล้วจะว่าไปแล้ว.....

     

                    ....เราจะได้อยู่หอไหนกันนะ......

     

                    วีริดคิดอย่างเหม่อลอยแต่ก็ไม่ได้มีเวลาให้เขาคิดมากนักเสียงจากเฟอร์โด้ก็ประกาศเรียกชื่อของเขา...

     

                    วีริด แร๊ก!!!”

     

                    พอได้ยินเขาก็รู้หน้าที่ทันที่ เด็กหนุ่มก้าวเดินขึ้นไป เริ่มจากไปหารุ่นพี่จากหอคอยแห่งจันทราเขายื่นมือออกไป เพื่อให้ออร่าจากร่างกายแผ่ไปยังเพชรทั้งสามและแล้วเพชรรูปดาวก็ลอยออกมาหมุนวนรอบตัวของเขาพร้อมปล่อยแสงประกายแวววาวเปลี่ยนชุดของเขาให้เป็นเครื่องแบบสีดำ...

     

                    ....อืม หอคอยแห่งดวงดารา....

     

                คราวนี้วีริดเกินไปทางขวาเพื่อเข้าการทดสอบเพื่อจะเข้าเรียกทางสายไหน เขายื่นมือออกมาแผ่ออร่าเพื่อให้ลูกแก้วเวทย์มนตร์ทดสอบ ทว่า...ลูกแก้วทั้งสามกลับเริ่มส่องแสงขึ้นพร้อมกัน! นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ประหลาดที่สุดจนอาจารย์หลายท่านรวมถึงนักเรียนทุกคนเริ่มกระซิบคุยกัน หากแต่มีแค่กลุ่มคนเล็กๆที่นั่งอยู่บนสุดของอัฒจันทร์ในที่ๆสบายที่สุดๆของทั้งสามหอเพียงแค่คลี่รอยยิ้มบางๆเท่านั้นและดูว่าไอเรเซียซึ่งใช่พลังเวทย์คุมให้ลูกแก้วลอยขึ้นเพื่อทำการทดสอบก็ยังต้องตื่นตะลึงมันเป็นเหตุการณ์ที่ประหลาด...

     

                    ท่ามกลางความประหลาดใจนั้น อาจารย์ใหญ่คลี่รอยยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น...

     

                    วีริด แร๊ก....เธอต้องการจะเรียนสายไหน? ลุควิกเอ่ยถามขึ้น ทำเอาเขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับประหลาดใจ...แต่ก็รู้ตัวว่าต้องตอบ...

     

                    อ่ะ...เอ่อ....นะ....นักสู้ผสานเวทย์...ครับ... ด้วยอะไรบางอย่างที่ดลใจเขาให้เลือกเรียนสายนี้ อาจารย์ใหญ่ลุควิกคลี่ยิ้มอ่อนโยนอีกครั้งก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับเฟอร์โด้ที่ดูว่าจะมีอาการตกตะลึงอยู่เหมือนกัน...

     

                    เอ่อ....วีริด แร๊ก ปี 1 สายนักสู้ผสานเวทย์ หอคอยแห่งดวงดารา!!!”

     

    ===================================================

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×