คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ::Chapter 2::
Chapter 2
“รู้จักกันมาก่อนเหรอ?”
ยุนโฮถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจเมื่อน้องสาวสุดสวยของเขา กับเจ้าเพื่อนรักดูเหมือนจะเคยพบเจอกันมาก่อน...ทั้งที่ถ้าจะให้พูดแล้ว เขาไม่เคยพูดถึงเพื่อนรักให้น้องคนน่ารักรู้เลยสักครั้งนิ....
“เอ่อ....คือ.....” ร่างบางเหมือนจะรู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะตอบ ก็....จะให้เขาบอกได้ยังไงว่าที่เมื่อคืนไม่ยอมกลับบ้านของเขา มือถือก็ไม่เปิด ปล่อยให้ทั้งพี่ชายแสนดี กับพี่สาวคนสวยตามหากันจนวุ่นวายเกือบทั้งคืนนั่น เพราะว่าเขาเผลอหลับตอนอยู่ในบาร์....แถมมือถือก็ดันแบตหมด...ไม่รู้นั่นจะเป็นโชคร้ายหรือโชคดีของเขากันแน่นะ....
เมื่อเห็นว่าคงจะไม่ได้คำตอบจากน้องชายแสนรักของตัวเองแน่แล้ว จึงหันไปทางเพื่อนสนิทของตนแทน....
“ว่าไงวะยูชอน แกไปเจอน้องเขาที่ไหนมา แล้วเมื่อไหรด้วย?” ยูชอนหันมองเพื่อนของตนอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก และดูเหมือนจะยิ่งไม่สนใจดวงหน้าหวานของน้องมินมินที่น่ารักที่เหมือนจะเว้าวอนให้เขาโกหก แต่...ก็นะ....ไม่ใช่ว่าจะแกล้งแต่ไม่เห็นจริงๆต่างหาก.....
“เจอเมื่อคืน ที่บาร์น่ะ พอดีเมื่อวานฉันพึ่งอกหักเลยไปดื่มมา ก็เลยเจอชางมินที่นั่นแหละ”
“หืม? ที่บาร์ ? มินมิน น้องไปทำอะไรที่นั่นฮะ” เอาแล้ว เมื่อยุนโฮรูปหล่อเข้าโหมดพี่ชายเต็มตัวอีกครั้ง ตัวคนน่ารักถึงกับอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจังๆ....จึงได้แต่ก้มหน้าเงียบ.....เมื่อเห็นว่าน้องชายคนโปรดไม่ยอมตอบ คิ้วเรียกยักขึ้นนิดๆราวกับรู้ทัน....
“ชิม ชางมิน....น้องชายสุดที่รักของพี่ น้องไปดื่มเหล้ามาใช่ไหม?” พอได้ยินเช่นนั้น คนร่างบางก็สามารถรู้ได้ในทันทีว่าพี่ชายของเขากำลังโกรธมากขนาดไหน เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าไม่โกรธเขาจริงๆแล้ว ยุนโฮจะไม่เรียกเขาด้วยชื่อเต็มเป็นอันขาด!!!!.....
แทนคำตอบร่างบางเงียบ.....ยิ่งเงียบนี่สิ คนอย่างยุนโฮที่ดูแลชางมินมาเกือบ 6 ปี ตั้งแต่สมัยยุนโฮเป็นเด็ก ม.3 แล้ว ชางมินเป็นเด็ก ม.1 มีหรือจะไม่รู้คำตอบ.....
“มินมิน พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามดื่มเหล้า?! เป็นเด็กเป็นเล็กไปดื่มได้ยังไง แล้วมีเหตุผลอะไรถึงไปกินของแบบนั้นห๊า!!!!” ยุนโฮตวาดเสียงดังจนทำเอาร่างบางกลัวก้มหน้างุด ฝ่ายคนเป็นพี่สาว(?) เห็นแบบนั้นก็รีบโอบไหล่ของคนร่างบางพอๆกับตัวเอง แล้วลูบหัวปลอบโยน....
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ มินมิน พี่ยุนโฮเขาแค่เป็นห่วงน่ะ มินมินมีเหตุผลใช่มั้ย มองตาพี่แจจุงสิ” เสียงหวานของคิม แจจุง ทำให้น้องผู้น่ารักเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยก่อนพยักหน้าน้อยๆ แจจุงคลี่รอยยิ้มอ่อนโยนปลอบรับขวัญก่อนจะหันไปพูดกับแฟนหนุ่มของตน....
“นี่....ยุนโฮเห็นไหมว่า น้องกลัวแล้วน่ะ ฉันว่ามินมินน่ะต้องมีเหตุผลจริงไหม? นายก็ฟังน้องเขาหน่อยสิ....” พอได้ฟังคำติจากคนสวยของตน ก็ทำให้หนุ่มหล่ออารมณ์เย็นขึ้นมาได้บ้างก่อนจะมองไปยังน้องสุดหวงของตน มองตาเพื่อเค้นคำตอบแต่อีกฝ่ายก็ยังคงก้มหน้างุดอยู่เช่นเดิม....
“เอ่อ.....คือ.....” มือบางกำชายเสื้อของตนแน่น เพราะมีบางอย่างที่พูดไม่ได้....พูดไม่ได้จริงๆนะพี่ยุนโฮ.....ส่วนอีกคนที่มองดูเหตุการณ์พี่อบรมน้องเมื่อครู่นั้นเห็นสังเกตท่าทางเกร็งจัดของคนหน้าหวาน ก็นึกถึงคำพูดของร่างบางที่พูดเมื่อคืนตอนเมาหนักได้ขึ้นมา.....
หรือว่าจะ.....
“เมื่อคืนฉันผิดเองวะ”
ไม่ใช่เสียงใครอื่นนอกจากเสียงของคุณชายปาร์ค ยูชอน ว่าขึ้นทำเอาเพื่อนคู่หูคู่เกลอต้องหันไปมอง และไม่ต้องถามตัวคนหล่อก็รู้เลยว่าเพื่อนของตนจะถามอะไร....
“ก็แบบว่านะ....เมื่อคืนฉันเสียใจเรื่องจุนซูเอามากๆ เลยอยากหาคนไปเป็นเพื่อนดื่มพอดีเจอน้องเค้าโดยบังเอิญน่ะ เลยลากน้องเค้าไปดื่มด้วย ใช่ไหมชางมิน?” ยูชอนอธิบายพลางหันไปสบตาเพื่อให้ย้ำคำพูดของตนด้วยแววตาที่บอกประมาณว่าให้ตอบไปตามนั้น....
“จริงรึเปล่า มินมิน?” พี่ชายสุดหล่อก็ร่วมวงเข้ามาถามด้วย พร้อมด้วยสายตาแสดงความเป็นห่วงจากพี่สาวแจจุง ทำให้คนน่ารักที่มีท่าทีกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบไปว่า...
“อ่า....ครับ....”
“ไอ้ยูชอน! นี่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนหรอกนะ! ฉันจะไม่เอาเรื่องที่แกพาน้องสุดที่รักฉันไปดื่ม แต่ถ้ามีคราวหน้า....ตาย!!!” ขู่เสร็จสับพลางกอดอกเชิดอย่างมั่นใจในความวาจาหมีศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเพื่อนไก่นั้นเพียงแค่ยักเรียวคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างชวนกวนโทสะแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร....
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มทานข้าวเที่ยงกัน พร้อมด้วยเสียงพูดคุยเฮฮาตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้พบเจอกันนาน คนที่คุยส่วนใหญ่จะเป็น ยุนโฮกับยูชอนเสียมากกว่า โดยปกติแล้วแจจุงเป็นคนเรียบร้อยเลยไม่ค่อยพูดเป็นทุนเดิม แต่ที่น่าแปลกใจจนพี่สาวสุดสวยอย่างคิมแจจุงยังประหลาดใจเมื่อคนที่ปกติแล้วจะพูดมากเป็นพิเศษอย่างชางมินวันนี้กลับเงียบนิ่ง แถมยังก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตากับใครจนดูเหมือนมีอะไรปิดบัง แต่คนหน้าสวยก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรเช่นกัน.....
“เฮ้ย! วิชาต่อไป ‘จารย์ เข้าแล้ววะ แถมวิชายากซะด้วยต้องเข้าไปเลคเชอร์ว่ะ ไปกันเถอะครับแจจุง” ว่าแล้วคุณเพื่อนรักหน้าหมีก็คว้ามือบางของแฟนคนสวยเอาไว้ เตรียมไปยังห้องเรียนทันทีก่อนจะไม่ทันเล็คเชอร์จรวดของอาจารย์คังตะ แต่ก่อนที่จะไปร่างสูงก็ไม่ลืมหันไปหาน้องน้อยที่แสนน่ารัก อีกครั้ง....
“มินมิน ฝากดูแลเพื่อนพี่หน่อยนะ แล้วก็วันนี้ห้ามกลับบ้านดึกล่ะ แวะมากินข้าวเย็นที่บ้านพี่ด้วยวันนี้แจจุงเค้าจะลงมือทำเอง โอเค?” ยุนโฮว่าขึ้น คนเป็นน้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาของพี่ชายสุดหล่อก่อนจะยิ้มรับอย่างร่าเริง...
“ครับ พี่ยุนโฮ แล้วเจอกันครับ” เมื่อได้ยินน้องเล็กว่าแบบนั้น คนได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายก็กุมมือของแฟนตัวเองแน่นแล้วเดินจากไป โดยไม่ได้ทันสังเกตเห็นสายตารวดร้าวของคนๆหนึ่งที่มองตามไปจนทั้งสองคนหายลับไปจากสายตา....
และเจ้าตัวที่มัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง คงไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีคนที่นั่งอยู่ด้วยนั้นมองมาทางเมื่อครู่ และได้เห็นสายตารวดร้าวของร่างบางด้วย....
“นี่....เธอ.....” ยูชอนเอ่ยเรียกหวังจะให้อีกฝ่ายหันมา แต่ดูเหมือนจะเหม่อลอยจนไม่ทันได้สนใจเขา....
“ชิม ชางมิน!” ยูชอนเรียกชื่ออีกครั้งและดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ผลเมื่อคนหน้ารักหันมาทางเขาอย่างงงๆและเหมือนจะนึกได้ว่า ไอ้คนลามกที่ได้ชื่อว่าเพื่อนของพี่ยุนโฮยังนั่งอยู่ด้วย....คนน่ารักหันไปมองอย่างสงสัยแกมด้วยความหงุดหงิดเต็มประดาประมาณว่า จะเรียกหาพระแสงไรฟระ!.....
เหตุเพราะความแค้นเมื่อเช้ามันยังคงหลงเหลืออยู่นั่นเอง......
“เฮ้....อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นสิ เมื่อกี้ฉันพึ่งช่วยเธอไว้นะ” ร่างสูงว่าขึ้นพลางทวงบุญคุณน้ำเสียงและหน้าตาหล่อที่ทำหน้าตาอย่างมีชัยเหนือกว่าได้อย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด....
“ผมไม่ได้ขอให้คุณช่วย!” ชางมินเถียงกลับพร้อมตวัดสายตากลับอย่างดุๆ แต่ว่าในสายตาของยูชอนตอนนี้แล้วมันออกจะน่ารักน่าหยิกเสียมากกว่า....
“แต่ถ้าฉันไม่ช่วย แล้ว....นายจะรอดจากการสอบสวนของไอ้ยุนมันเหรอ?” ยูชอนว่าขึ้นทำเอาอีกฝ่ายสะดุดกึก....จริงอย่างเขาว่า.....พอรู้ว่าเถียงไม่ชนะร่างเล็กก็รีบสะบัดหน้าออกไปอย่างงอนๆไม่จ้องหน้าอีกฝ่าย....
เห็นแบบนั้นยูชอนก็หัวเราะออกมาเบาๆ...ก่อนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรต่อกัน ไม่มีจริงๆ....จะมีก็แค่สายลมที่พัดมาเบาๆให้รู้สึกเย็นสบายเท่านั้น....ยูชอนปล่อยตัวเองให้คิดอะไรไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น....และก็เหมือนมีเสียงของคนน่ารักที่พูดกับเขาเมื่อลอยเข้ามาในหัว.....
‘ผมสิ.....ยังไม่มีโอกาส.....แม้แต่จะบอกรักเลย....’
และนั่นทำให้ต่อมความช่างสงสัยของยูชอนกระตุกขึ้นมา ก่อนจะมองไปยังคนร่างเล็กที่มีท่าทีเหม่อลอยอยู่ไม่ห่างจากเขาเท่าไหรนัก....
“นี่เธอน่ะ....รัก ยุนโฮ งั้นเหรอ?” เหมือนมีคนเอาน้ำเย็นมาราดเขาในเวลาที่อากาศร้อนสุดใจจนสะดุ้งขึ้นมา ดวงตาคู่สวยช้อนมองอีกฝ่ายที่ถามเขาเมื่อครู่ด้วยท่าทางตื่นตระหนก....สงสัยจะจริง.....
“คุณรู้ได้ยังไง?” ร่างเล็กถามอย่างตื่นตระหนก ส่วนอีกคนเพียงแค่กระตุกยิ้มกวนขึ้นมาแล้วตอบไปว่า....
“ก็เมื่อคืน....เธอเป็นคนบอกฉันเองนี่ จะไม่ได้งั้นเหรอ?” ได้ยินคำตอบเช่นนั้น ร่างบางก็นึกขึ้นได้ ตอนที่เขาเมามายอย่างไร้สติก็เผลอเล่าความรู้สึกออกไปโดยไม่ตั้งใจกับคนแปลกหน้า และท่าทางว่าคนที่เขาเล่าให้ฟังเนี่ยจะไวกับเรื่องพวกนี้เป็นที่สุดเสียด้วย....
“..........” มีเพียงความนิ่งเงียบที่เขามาแทนที่เท่านั้น....ร่างเล็กไม่ตอบอะไร.....และทางชายหนุ่มก็รู้ตัวแล้วว่าถามละลาบละล้วงไป แต่แววตาที่เขาเห็นคนร่างบางนี่มองเพื่อนรักของเขา เขารู้ได้เลยเพราะมันเป็นแววตาที่ส่อความรักอย่างเห็นได้ชัด จนชักรู้สึกว่าเพ่อนของเขาซื่อบื้อหรือว่าความรักมันเข้าตาจนมองไม่เห็นความรักที่คนอื่นมอบให้งั้นเหรอ???....
แต่....ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนนอก ไม่มีสิทธิจะไปก้าวก่ายเรื่องของร่างบางที่อยู่ตรงหน้าเขา.......
“แล้ว....เอ่อ.....คุณยูชอน อยากจะให้ผมพาไปไหนในมหา’ลัยนี่รึเปล่า?” อยู่ดีๆร่างบางก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาหนุ่มหล่อถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาเหมือนไม่รู้เรื่องแบบนั้น คนนห้าหวานก็มุ่ยหน้าอย่างหงุดหงิดก่อนจะตอบไปว่า....
“ก็พี่ยุนโฮบอกให้ผมช่วยดูแลคุณ แต่ถ้าเกิดคุณไม่มีอะไรผมก็จะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดแล้ว” ชางมินว่าขึ้น อีกฝ่ายเลิกคิ้วเรียวขึ้นอย่างชวนกวนโทสะก่อนจะยอกย้อนไปว่า...
“แล้วเธออยากพาฉันไปที่ไหนล่ะ?” คำย้อนที่สมควรโดนรองพระบาทลูบหน้าหล่อๆนั่นสักทีสองทีในสายตาของชางมิน นั่นทำเอาคนใจเย็นอย่างหนุ่มน่ารักก็เดือดขึ้นมาได้เหมือนกัน!
ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนพี่ยุนโฮล่ะก็นะ พ่อจะซัดให้กระเด็น!!!....
“ถ้าเกิดคุณไม่ว่าอะไร งั้นก็เชิญคุณนั่งอยู่ที่นี่ตามสบาย ผมจะไปห้องสมุด!” ร่างบางว่าขึ้นพลางลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินหนี แต่ก็ถูกปีกของพ่อไก่คว้าหมับเอาไว้ที่ข้อมือบาง น้องมินหันขวับกลับไปมองด้วยสายตาเอาเรื่อง....
“อะไรของคุณ?”
“ก็จะทิ้งให้ฉันอยู่แบบนี้คนเดียวมันจะดีแน่เหรอ?” ร่างสูงย้อนถามอีกครั้ง เรียกใบหน้างอง้ำให้ปรากฏของคนตัวเล็กได้ในทันที....เพราะสายตาเจ้าเล่ห์ที่ส่งมาบอกเขาประมาณว่า....ถ้าทิ้งฉันไว้คนเดียว เรื่องที่ไปดื่มเหล้าเมื่อคืนจริงๆได้ถึงหูยุนโฮแน่......
“ถ้างั้นก็ตามผมมา....บอกไว้ก่อนว่าผมจะไปห้องสมุด ไม่ใช่สถานเริงรมย์!!!” ชางมินเอ่ยหัดร่างสูงที่ยังคงยิ้มกวนสลอนให้กับร่างบางตลอด แม้จะโดนคนร่างเล็กนี่กัดก็ตามมันก็ไม่ได้ทำให้เขาสลดอะไรเลย ซ้ำยังยิ้มร่าอีกต่างหาก....
ทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันมาแม้จะเว้นระยะห่างพอตัว นั่นเพราะแม้ยูชอนจะพยายามเขยิบประชิดตัวร่างบางนี่มากแค่ไหน เจ้าตัวก็พยายามจะเดินหนีห่างออกไปมากเท่านั้น ด้วยความระแวงที่มีอยู่แต่เดิมมา...
“รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” ร่างสูงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้อึดอัดนี้...ดวงตาคู่หวานหันตวัดมามองด้วยสายตาดุดันก่อนจะตอบกลับไปว่า....
“ก็คุณมันน่าไว้ใจซะที่ไหน!”
“เฮ้ๆ เห็นแบบนี้ฉันก็เป็นรุ่นพี่เธอนะ....เกรงใจกันนิดนึง” ยูชอนทวงศักดิ์ความสูงวัยกว่า แต่ดูเหมือนรุ่นน้องผู้น่ารัก เพียงแค่ตวัดสายตากวนๆมาให้ก่อนจะถามกลับไปต่อ....
“แล้วคุณอยู่คณะอะไรล่ะ?”
“คณะดนตรี ดุริยางคศิลป์ เอกเปียโน แล้วเธอล่ะ?” ร่างบางกระตุกคิ้วเรียวขึ้นอย่างแอบนึกสงสัยอยู่ในใจว่า ไอ้คนหื่นกามแบบนี้เล่นดนตรีเป็นด้วยงั้นเหรอ?.....
“ปี 1 คณะแพทย์ศาสตร์ คุณน่ะไม่ใช่รุ่นพี่ร่วมคณะของผมที่สำคัญ คุณน่ะไม่มีความเป็นรุ่นพี่เหมือนกับพี่ยุนโฮ หรือพี่แจจุงเลยแม้แต่นิดเดียว!” ว่าเสร็จปุ๊บร่างเพรียวก็เดินจ้ำอ้าวออกไป ชายหนุ่มเบ้ปากลงอย่างถูกขัดใจ เมื่อถูกร่างบางที่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงวันว่าเอาแบบนี้.....
“พูดจาไม่น่ารักเอาซะเลย!” ยูชอนบ่นพึมพำ แต่ดูเหมือนว่าคนหน้าหวานจะไม่ได้สนใจเขาขนาดที่ว่า ตัวเขาจงใจพูดให้ได้ยินยังไม่ได้ยินอีก.....
แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะยิ่งเงียบขึ้นไปอีก และดูเหมือนว่า เส้นทางเดินไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจะยาวไกลกว่าที่เขาคิดยิ่งนัก.....ยูชอนเปลี่ยนใจจากการมองคนหน้าหวานที่ไม่สนใจเขาเลยสักนิดเป็นต้นไม้รอบด้านที่ปลูกเรียงรายด้วยดอกท้อ ซึ่งเท่าที่เขาเคยได้ยินมามีเพียงมหาวิทยาลัยแห่งนี้เท่านั้นที่ปลูกดอกท้อ แถมยังปลูกได้ดอกที่ผลิบานอย่างสวยงามเป็นที่สุด....
“คุณ....ทำไมถึงเลิกกับแฟนอย่างนั้นเหรอครับ?” อยู่ดีๆร่างบางข้างเขานั้นก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอาคนอย่างเขาตั้งตัวไม่ทันเลยได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างงงๆ....
“ก็....เห็นเมื่อคืนคุณพร่ำเพ้อถึงคนรักของคุณนี่ครับ” ดวงตาคู่หวานมองสบกับดวงตาคู่คมที่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองก็เล่าเรื่องความน่าสมเพชของตัวเองให้ร่างเล็กๆข้างๆนี้ฟังเช่นกัน....และนี่เป็นครั้งแรกของวันนี้ที่เขานึกถึงจุนซูขึ้นมา.....
“ฉันก็ไม่รู้.....เพราะเขาเป็นฝ่ายบอกเลิกฉัน.....” ยูชอนเอ่ยบอกเสียงค่อย แต่ร่างบางที่ตั้งใจฟังก็ได้ยิน และสิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่คมที่ชอบมองเขาอย่างทะเล้นนั้น....ชางมินรู้ได้ว่ามันคือความเจ็บปวด......คนตาหวานหรุบตาลงเล็กน้อย เขาเดินนำหน้าร่างสูงผู้มีศักดิ์ในด้านอายุเป็นรุ่นพี่นั้นก่อน จะหันดวงหน้าหวานมาทางชายหนุ่มเพื่อให้ได้มองหน้ากันชัดๆ.....
“น้ำเสียงที่คุณพูดกับผมเมื่อคืนน่ะ....มันฟังดูเจ็บปวดมากเลยนะ” ชางมินเอ่ยขึ้น ยูชอนไม่ตอบอะไรนอกจากนิ่งเงียบ....ร่างบางจึงเอ่ยต่อน้ำเสียงนุ่มชวนน่าฟัง....
“ผมน่ะ....ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนรักของคุณ หรือตัวคุณหรอกนะ.....แต่ว่า.....ถ้าหากคุณยังเชื่อมั่นในความรักของคุณ ผมเชื่อนะ....ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะกลับมาหาคุณ....” คำพูดที่ให้กำลังใจอย่างที่สุดสำหรับร่างสูงที่หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากสีกุหลาบนั้น ช่างน่าฟังยิ่งนัก......
น่าแปลก....เพียงแค่คำของคนที่รู้จักไม่กี่ชั่วโมงจะทำให้เขารู้สึกสบายใจได้ขนาดนี้.....ทั้งที่ไม่รู้จักนิสัยใจคอดีเลยแท้ๆ แต่เขากลับรู้สึกอยากจะเชื่อในคำพูดของร่างบางตรงหน้า.....
“ขอบใจ....” ยูชอนเอ่ยเสียงแผ่วเบา ร่างบางที่ได้ยินคำขอบคุณเบาๆนั้นก็คลี่ยิ้มรับคำนั้นด้วยรอยยิ้มหวาน....หวานเสียจนเอาหัวใจของเขาเกือบตกลงไปที่ตาตุ่ม.....
....รอยยิ้มที่เหมือน....นางฟ้า......
“แล้วทำไมอยู่ดีๆเธอถึงได้ถามฉันขึ้นมา?” ร่างโปร่งเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เรียกให้ใบหน้าหวานถอนหายใจยาวน้อยๆก่อนจะตอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกวนๆอีกครั้ง....
“ก็แหม...ผมมันเป็นพวกเห็นคนอื่นเจ็บปวดเพราะความรักไม่ได้นี่นา~” พอเห็นร่างบางกลับเข้าโหมดกวนนิดๆอีกครั้ง ร่างสูงเลยแกล้งถามอีกครั้ง....
“แล้วตกลงเรื่องของเธอ กับยุนโฮ...ใช่อย่างที่ฉันคิดรึเปล่า?” พอได้ยินคำถามนั้นเท่านั้นแหละ ร่างบางที่เมื่อครู่ยังแย้มยิ้มงดงามพลันบูดบึ้งทันทีก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา....
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ.....”
“อะไรกัน....ทีเรื่องของฉัน ฉันยังตอบเธอเลยนะ.....” ยูชอนว่าขึ้น น้องมินถึงกับเงียบอย่างพูดอะไรไม่ออก...มันก็จริง....ตามหลักยื่นหมูยื่แมว เขาเองก็ต้องเล่าด้วยใช่มะ?.....พอเห็นคนเบื้องหน้าไม่ยอมตอบเสียที ก็ได้ทียิงคำถามใหม่เข้าทันทีเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้.....
“แต่ว่า ยุนโฮ มีแฟนแล้วก็คือ แจจุง ไม่ใช่เหรอ?” ชางมินนิ่งเงียบอีกครั้งก่อนจะรีบหันหลังไม่มองหน้าคนถามเหมือนกับจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้.....และบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้นั้นก็ไม่ใช่อื่นใดนอกจากใบหน้าที่แสดงความอ่อนแอ....
“พี่แจจุงเป็นคนดี.....ผมเชื่อว่า เขาจะทำให้พี่ยุนโฮ มีความสุขได้.....ถึงจะไม่มีผมก็ตาม.....” ทันทีที่เอ่ยเสร็จชางมินก็เดินตรงลิ่วไปโดยไม่มองคนเบื้องหลังแม้แต่น้อย เพื่อไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรก...นั่นคือห้องสมุด....ในขณะที่ขายังมีแรงจะเดินนี่แหละ.....ก่อนที่หัวใจเจ้ากรรมจะหมดแรง จนทำให้เขาเดินไม่ได้.....
เพราะยูชอนไม่ได้เดินตามมา ด้วยเพราะมัวแต่นิ่งกับคำพูดของร่างบาง...น้ำเสียงที่สั่นน้อยๆไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวรึเปล่า....แต่ก็ยังกลั่นคำนั้นออกมา ทั้งที่หัวใจคงเจ็บปานถูกมีดกรีด....ถ้าหากว่าสิ่งที่คาดเดาจากร่างบางนั้นถูกต้องล่ะก็.....
โดยที่ไม่มีใครเห็นชางมินที่เดินมาเรื่อยจนหยุดอยู่ที่ใต้ต้นท้อต้นหนึ่งหยุดเดินเสียดื้อๆ....มือบางลูบไปตามแกนลำต้นสากของต้นไม้ ใหญ่ ขณะมองดอกท้อที่ผลิบานอย่างสวยงามต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่แตกต่างกับหัวใจของเขาโดยสิ้นเชิง....
“ใช่....ความสุข....ถ้าพี่ยุนโฮมีความสุข.....ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว....” ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่วกับต้นไม้ต้นนั้นราวกับมันเป็นตัวแทนของใครคนหนึ่งที่เขากำลังนึกถึงอยู่.....
น้ำตาหยาดใส ที่คลอเบ้าอยู่นั้น ค่อยๆไหลลงมาเป็นสายทางจนจรดที่ปลายคาง และหยดลงสู่พื้นดินเบื้องหน้าที่ละหยดสองหยดไปเรื่อยๆ.....น้ำตายังคงไหล แม้ไม่มีเสียงสะอื้นไห้จากเจ้าของหยาดน้ำเหล่านั้นเลยแม้แต่เล็กน้อย......
ความคิดเห็น