ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:TVXQ]...*+Verglas+*...(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #12 : ::Chapter11: พบกันอีกครั้ง::

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 51


     

     

    Chapter 11: พบกันอีกครั้ง

     

                   

                    ตึก!ตึก!ตึก

     

                    แคร่ก!แคร่ก!แคร่ก

     

                    แฮ่ก....แฮ่ก....พ้นรึยังเนี่ย.....

     

                    เสียงของฝีเท้าที่ก้าววิ่งอย่างรวดเร็วประสานพร้อมกับเสียงที่ฝ่าพุ่มไม้หนา และจังหวะการหายใจเข้าออกอย่างเหนื่อยล้าของคนหน้าหวาน ที่ตอนนี้ได้เพียงแค่วิ่งหาที่หลบซ่อนท่ามกลางป่าไม้เช่นนี้....

     

                    หามันให้เจอ ค้นตามตัวให้ได้!!” เสียงแข็งกร้าวที่ออกคำสั่งตามมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าของม้าใหญ่หลายตัวควบไปรอบๆ เพื่อเป้าหมายคือร่างบางที่ตอนนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ใหญ่สูงอย่างยากลำบาก ยิ่งเมื่อต้องพยายามเก็บอาการตื่นเต้นไปด้วย เพราะความเงียบกับตัวเองทำให้ได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจของตน....

     

                    .....จะทำยังไงดี.......

     

                    ......นี่เราคงจะมาอยู่โลกเดียวกับยุนโฮแล้ว....

     

                    ......แต่ที่นี่คงไม่ใช่ประเทศแวร์กลาแน่ๆ.....

     

     

     

     

    ย้อนไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้านี้......

     

     

                    ว๊าบบบบบ!!ตุ๊บ!!!!

     

                    แสงส่องวาบพร้อมกับเสียงของร่างที่ตกลงก้นกระแทกพื้นอย่างไม่สวยงามอย่างรุนแรง แจจุงเอามือลูบหัวที่ก่อนจะเช็คส่วนบั้นท้ายที่ชักจะปวดหน่อยๆเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น....

     

                    โอ๊ย!!! เจ็บ!!! แล้วที่นี่มันที่ไหนเนี่ย!!” ร่างบางเปิดฉากแหกปากโวยวายขึ้น เมื่อดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆก็ไม่พบอะไรนอกจากพุ่มไม้ของกลิ่นดอกไลแลค เขาเริ่มเดินออกไปรอบๆเพื่อมองหาใครสักคนที่บอกได้ว่าที่นี่ที่ไหน เขาไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าที่นี่หนาวชะมัด....

     

                    ความหนาวที่เกาะกุมไปทั่วทั้งร่างจนเหมือนจะแช่ร่างบอบบางให้กลายเป็นน้ำแข็ง ไปให้จงได้ เดินมาเรื่อยๆก็ยื่งหนาว แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้าปรากฏเด่นชัดขึ้นมาก่อน ปราสาทเหมือนนิทานกว้างใหญ่โอฬาร แต่กลับมีแต่ความเย็นยะเยือกอยู่รอบด้าน รอบรั้วสูงของปราสาทขนาดย่อม ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นป้อมอะไรสักหนึ่งมากกว่านั้นซึ่งประดับประดาด้วยธงที่มีสัญลักษณ์ของเกล็ดน้ำแข็งและดาบไขว้สง่างามสีดำสลับน้ำเงินเข้ม....

     

                    ที่นี่คือ....แวร์กลา รึเปล่านะ??....

     

                    คำถามก่อเกิดขึ้นในห้วงความคิด และก็ดูเหมือนว่ากำลังจะได้คำตอบแล้ว เขาเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่สองคนในชุดเกราะสีเงินดำ และมีสัญลักษณ์ เฉกเช่นเดียวกับบนธงที่ปลิวสะบัดอวจศักดาอำนาจ...

     

                    เอ่อ....ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า ที่นี่.... เอ่ยถามไปอย่างอาจหาญ ชายหนุ่มสองคนที่เฝ้าหน้าประตูหันมาตามเสียงหวานด้วยความตกใจก่อนจะแหกปากเรียกทหารคนอื่น แทนคำตอบของเขาได้เป็นอย่างดี....

     

                    นั่น!! ผู้บุกรุก เจ้าคือทหารสอดแนมจาก แวร์กลา ใช่ไหม!! พวกเราจับมัน!!!!” ชายร่างยักษ์ตะโกนขึ้น และเป็นสัญญาณที่เรียกให้ทหารอีกหลายคนพร้อมทหารม้าบุกมาทางเขา...

     

                    คงไม่ต้องถามแล้วว่าที่นี่จะใช่ แวร์กลา รึเปล่า เพราะคำตอบมันออกมาแล้ว....นี่คงเป็นประเทศที่ศึกกับแวร์กลาอย่างที่ยุนโฮ กับ จุนซู บอกใช่มั้ย??....

     

                    แต่ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว....ตอนนี้......เผ่น!!!!!!!!!!!.......

     

                    แล้วสองขาบางๆก็รีบสาวเท้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตทันที!!!

     

     

     

     

    กลับเข้าสู่ปัจจุบัน.....

     

     

                    จากที่กล่าวไปนั้นก็เป็นคำตอบแล้ว่าทำไมเขาถึงต้องมาวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนขนาดนี้ โชคดีที่เขาตัวเล็กและรูปร่างบางๆ ถึงทำให้เข้ามาซ่อนในพุ่มไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่เหมือนน้ำแข็ง แต่กลิ่นเหมือนไลแลคคุกกรุ่น แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเพราะด้านนอกยังคงมีทหารป้วนเปี้ยนไปมาไม่หยุด....

     

                    .....อีกไม่นานก็คงต้องถูกหาเจอแน่ๆ.....

     

                    .....แล้วเขาจะทำยังไงดี.....

     

                    ตึก....ตึก......

     

                    เสียงหัวใจเต้นโครมครามด้วยความหวดกลัว เต้นดังมากจนเขากลัวว่าท่ามกลางความเงียบแบบนี้พวกนั้นจะได้ยินเสียงหัวใจของเขา....มือบางยกขึ้นกุมหน้าอกเพื่อให้หัวใจเจ้ากรรมสงบนิ่งต่อสถานการณ์คับขันแบบนี้....พอหัวใจเริ่มเต้นคงที่ก่อนที่จะค่อยๆวางลงไปที่พื้นเหมือนเดิม แต่เหมือนไม่เอื้ออำนวยเมื่อมือบางๆของเขานั้นดันไปโดนกิ่งของไม้นั้นจนส่งเสียงดังแกร๊ก....

     

                    .....อ๊ากกกก.....

     

                    ......ทำไมซวยอย่างนี้!!!!......

     

                    เฮ้ย!มีเสียงมาจากตรงนั้น ไปดูซิ!!” นั่น!!ความซวยไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงคำสั่งจากผู้บัญชาการที่ไล่ล่าเขาแบบนี้ เสียงฝีเท้าของคนที่ลงจากม้าเข้ามาใกล้พุ่มไม้ใหญ่เรื่อยๆ ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ....

     

                    .....ถ้าเราถูกจับไปจะเกิดอะไรขึ้น?.....

     

                    ....จะถูกฆ่ารึเปล่า??....

                   

                    ....อย่างน้อยถ้าจะต้องตาย ก็ขอพบกับคนๆนั้นอีกครั้งไม่ได้เหรอ?.....

     

     

                    !!พรึบ!!

     

                    ในเสี้ยววินาทีที่กำลังจะถูกจับได้นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงมือของใครบางคนที่เข้ามาล็อคตัวเขาไว้พร้อมกับปิดปากของเขาไว้แนบสนิท....ความตกใจหวาดกลัวถาโถมเข้ามา....อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว....คนเดยวที่เขานึกถึงตอนนี้มีอยู่เพียงคนเดียว....

     

                    .....ยุนโฮ!!!!.....

     

     

    *********************************************************************

     

     

                    อ๊ะ! แจจุง!”

                   

                    เจ้าชายอันดับที่หนึ่งเอ่ยขึ้น ขณะที่เขากำลังคุยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การรบในครั้งนี้ร่วมกับราชครูคนสนิทและแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่ทิศของแวร์กลา....

     

                    มีอะไรงั้นหรือ? องค์ชาย.... ชายท่าทางภูมิฐานะนามว่า คังตะ เอ่ยถามองค์ชายที่มีใบหน้าซีดเสียวขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ คงจะเป็นเพราะอาการเหนื่อยล้าจนเกินไป.....

     

                    ไม่มี....ขออภัยพวกท่านทุกคน วันนี้เรา....ขอพักก่อน.... เอ่ยเสร็จร่างสูงก็ก้าวออกจากห้องประชุมทันที ราชครูร่างเล็กรีบเดินตามออกมาด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาได้ยินคำพูดขององค์ชายที่พูดถึงคนๆหนึ่งจากมา.....

     

                    องค์ชายยุนโฮเดินออกมาเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อสักครู่ เขารู้สึกจริงๆนะ รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของแจจุงที่เรียกชื่อของเขา ความรู้สึกเสียวสันหลังที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา รวมกับความรู้สึกใจหายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนั่นอีก.....

     

                    ยุนโฮ.....นายเป็นอะไรไปเหรอ? เสียงของจอมเวทย์ร่างเล็กที่เดินตามเขาออกมาดังขึ้น เรียกความสนใจของเจ้าชายหนุ่มจากน้ำพุเบื้องหน้าไปได้ สีหน้าแห่งความเป็นหาวงฉายชัดอยู่บนใบหน้าของเพื่อนรัก ทำให้เขารู้สึกถึงความห่วงใยนั้นได้เป็นอย่างดี....

     

                    จุนซู....ฉันรู้สึกเหมือน ได้ยินเสียงของแจจุง.... กับจอมเวทย์ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนครูของเขา ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ร่างบางดูเหมือนจะงุนงงอย่างมากที่ได้ยินเช่นนั้นแต่ว่า เขาก็คิดว่าเพื่อนของเขาคงแค่เหนื่อยจากเหตุการณ์บ้านเมืองที่ไม่สงบเช่นนี้.....

     

                    นายใจเย็นๆเถอะ ยุนโฮ มันไม่มีอะไรหรอก....อาจจะแค่นายเหนื่อยเกินไปล่ะมั้ง.... จุนซูเอ่ยบอกแค่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่มีสีหน้าที่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงมีแต่ความกังวลที่มีต่อคนๆหนึ่งอยู่ซึ่งก็คงไม่พ้น คิม แจจุง อย่างแน่นอน.....

     

                    แต่ฉัน....ก็ไม่สบายใจอยู่ดี ขอร้องเถอะจุนซู ช่วย....ช่วยฉันเช็คให้แน่ใจทีเถอะนะ ว่าฉันคิดมากไปเอง.... ยุนโฮหันกลับมาขอร้องอย่างที่เจ้าชายผู้เย่อหยิ่งไม่เคยทำมาก่อน จุนซูเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดจากเจ้าชายยุนโฮ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีทั้งนั้น เขาคงปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นเพราะคิมแจจุง....แถมเป็นเพื่อนกันถ้าไม่ช่วยดูจะใจร้ายไปซักหน่อย....

     

                    ก็ได้....ฉันจะลองดู แต่ไม่รับประกันนะ.... จอมเวทย์แห่งแวร์กลาเอ่ยบอก ก่อนจะเดินนำร่างสูงที่คลี่รอยยิ้มขอบคุณออกมาไปยังห้องทำงานของตน ห้องที่เต็มไปด้วยตำราเวทย์มนตร์มากมายที่แทบจะลงมาทับหัว ลูกแก้ววิเศษ และกระจกวิเศษบานใหญ่ บานเดียวกับที่เขาใช้ค้นหายุนโฮในครั้งนั้น....

     

                    ฉันจะลองติดต่อดู แต่ไม่รู้นะว่าจะได้รึเปล่า ฉันไม่อัจฉริยะเหมือนคุณฮีชอลหรอกนะ ไม่รู้ว่าจะใช้พลังเวทย์ติดต่อกับมิติที่ต่างกันได้รึแปล่า.... จุนซูอธิบาย ถึงคราวนั้นเขาจะสามารถข้ามจากแวร์กลาไปยังอีกมิติได้ก็จริง แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือความบังเอิญ ตอนนั้นเขาก็เสียงเป็นเสียงตายเหมือนกัน ว่าเขาจะไปได้รึเปล่า....ซึ่งคงเป็นโชคดีอย่างมากที่เขาสามารถไปยังมิติคู่ขนานนั้นได้อย่างปลอดภัย.....

     

                    มือบางแตะลงบนบานกระจกใสที่สะท้อนเงาของตนและยุนโฮ เบาก่อนจะใช้เวทย์มนตร์สร้างรอบกระจกให้เกิดคลื่นแสงบางอย่าง คลื่นของพลังจิตที่ต้องใช้สมาธิอย่างมากเพื่อที่จะติดต่อกับคนที่อยู่ในมิติคู่ขนานที่ไม่มีวันจะได้เจอกันถ้าไม่ใช่ความบังเอิญ ก็คงเป็นพรหมลิขิต.....

     

                    แต่ทว่า.....

     

                    อ๊ะ..... จุนซูร้องขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังจิตของใครบางคนที่กล้าแข็งกว่าเขาเข้าแทรกการค้นหา มันคือพลังจิตที่ต้องการติดต่อ.....

     

                    มีอะไรเหรอจุนซู.... องค์ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นท่าทางที่ผิดปกติของคนเป็นเพื่อนและครู....

     

                    มีคนติดต่อทางจิตมา.... จุนซูตอบและโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าชายหน้าหมีถามแม้แต่น้อย ร่างบางวาดวงเวทย์ใหม่ขึ้นบนกระจกด้วยปลายนิ้วเพื่อเปิดช่องให้จิตสามารถติดต่อกันได้ ไม่นานนักภาพเจ้าของพลังเวทย์กล้าแข็งก็สะท้อนอยู่บนกระจก......

     

                    คุณฮีชอล??? จอมเวทย์หนุ่มทักด้วยความประหลาดใจ เมื่อดวงหน้าสวยดุจอิสตรีฉายอยู่บนบานกระจก สีหน้าเคร่งเครียดนั้นแสดงให้รู้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน....

                   

                    แจจุง อยู่ที่นั่นรึเปล่า? คำถามแรกของฮีชอลนั้นทำเอาหัวใจของเจ้าชายชองยุนโฮตกลงไปกองกับพื้นได้ถ้ามันเด้งหลุดออกจากร่างกายของเขา....หมายความว่ายังไงกัน.....

     

                    คุณฮีชอลหมายความว่าไง? จุนซูรีบถามขึ้นทันทีเขาเองก็ตกใจไม่น้อย จอมเวทย์ที่ละทิ้งบ้านเมืองและไม่คิดจะหวนกลับคืนมาไม่คิดแม้แต่จะติดต่อทั้งที่ทำได้ กลับติดต่อมาเช่นนี้....แถมยังมาด้วยคำถามชวนน่าตกใจ....

     

                    ก็หมายความอย่างที่พูดแจจุงหายไปแล้ว ฉันตามหาที่ไหนก็ไม่เจอ ทั้ง ประตูก็หายไปด้วย แล้วที่นี่ยัง.....อ๊ะ ช่างมันก่อนเดี๋ยวค่อยอธิบาย แจจุงอยู่ที่นั่นรึเปล่า!!!” ฮีชอลเริ่มจะพูดไม่รู้เรื่องเลยวนกลับมาที่คำถามเดิมว่าเพื่อนรักของตนอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของตนรึเปล่า....

     

                    ยิ่งพูดก็ยิ่งสับสนทั้งแจจุง และ หนังสือที่เป็นประตูหายไป คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นนั่นคงจะหมายความว่า แจจุงจะต้องหลุดมาที่นี่....ไม่งั้นก็ต้องหลุดไม่ยังห้วงมิติว่างเปล่าที่ไม่มีทางออกอย่างแน่นอน....

     

                    ไม่ครับ....แจจุงไม่ได้มาที่นี่!” จุนซูรีบตอบอย่างร้อนรน หันไปมองทางเพื่อนที่บัดนี้หน้าซีดด้วยความกังวลมากมายว่าคนที่เขารักหายไปไหน แล้วจะเกิดอันตรายขึ้นรึเปล่า....

     

                    นายรีบตามหาเลย ใช้เวทย์มนตร์ Sight ที่ฉันเคยสอนนายเข้าใจไหม!! ฉันเองจะหาทางช่วยเท่าที่ทำได้!!” ว่าแล้วจอมเวทย์อัจฉริยะก็ตัดการติดต่อทันที จุนซูไม่รอช้ารับใช้เวทย์มนตร์ที่ฮีชอลว่ากับกระจกทันที sight เป็นเวทย์มนตร์สำหรับการค้นหาชั้นสูงที่มีไม่กี่คนที่ทำได้ และเขาเองก็ได้รับการสอนเวทย์นี้จากจอมเวทย์อัจฉริยะฮีชอลเช่นกัน.....

     

                    พลังจิตแรงกล้าส่งไปยังกระจกขณะที่นึกถึงใบหน้า ของคนที่หายตัวไปอย่างแน่วแน่ และไม่นานนักท่ามกลางหัวใจที่ร้อนรนของจอมเวทย์หนุ่ม และ เจ้าชาย บนกระจกเวทย์ก็สะท้อนภาพที่เหมือนกับแผนที่ประเทศหนึ่งที่เขาไม่อยากให้แจจุงไปโผล่ที่นั่น....ประเทศกลาสต์......

     

                    ยุนโฮ.... จุนซูหันไปมองเพื่อนรักอีกครั้งที่ตอนนี้เปลี่ยนจากใบหน้าวิตกกังวลกลายเป็นความร้อนรนก่อนที่จะรีบก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำคัดค้านของจอมเวทย์หนุ่มแม้แต่น้อย....

     

                    ......รอเดี๋ยวนะแจจุง....ฉันกำลังจะไปหานายแล้ว อย่าเป็นอะไรไปนะ!!!......

     

     

    *********************************************************************

     

     

                    อื้อ....อ๊อย อั้น อ๊ะ!!!”

     

                    เสียงร้องอู้อี้ของร่างบางที่เป็นการบอกให้ชายหนุ่มรูปร่างทิ้มนิดๆ แต่ก็นับว่ารูปร่างดีพร้อมทั้งใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อน้อยยุนนั้นให้ปล่อย แต่ชายหนุ่มในชุดของทหารที่คล้ายๆกับพวกที่ตามเขา แต่ดูดีและดูมีตำแหน่งกว่ามากนั้นกลับปิดปากเขาแน่นกว่าเดิมพร้อมกับกระซิบบอก....

     

                    เบาๆสิ ถ้าพวกมันได้ยิน คนที่แย่คือนายนะ คำเตือนของคนๆนั้นทำให้แจจุงต้องยอมปิดปากเงียบแต่โดยดี ขณะที่ปล่อยให้คนๆนี้ลากเขาไปยังอีกทางหนึ่งที่หลบเลี่ยงพวกทหาร จะเรียกว่ามุมอับสายตาก็ได้ พอเห็นว่าค้นหาเท่าไหรก็ยังไม่เจอ พวกทหารพวกนั้นก็ตกลงใจล่าถอยออกไป รอไม่นานพวกทหารเหล่านั้นก็หายไปจนหมด....

     

                    พอเห็นว่าปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มก็ปล่อยมือออกจากร่างบางให้เจ้าตัวได้มีโอกาหายใจเพราะอาการตื่นเต้นเหมือนเข้าเส้นตายเมื่อครู่หายไป....

     

                    แฮ่ก....แฮ่ก.....

     

                    นายคงไม่ใช่คนของประเทศกลาสต์สินะ.... ชายคนนั้นถามขึ้น คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าชายคนนี้คงจะเป็นคนของประเทศที่ชื่อว่า กลาสต์ นี่แหละ....ถึงจะกลัวๆแต่ก็ต้องยอมรับว่าคนๆนี้ช่วยเขาไว้ได้อย่างหวุดหวิดจากการถูกจับได้....

     

                    ไม่ใช่....แล้วเอ่อนาย....รู้ไหมว่า แวร์กลา จะไปยังไง? ร่างบางตอบสั้นได้ใจความ ก่อนจะถามเข้าสู่ประเด็นชายคนนั้นดูท่าจะแปลกใจไม่น้อยก่อนจะถามต่อ....

     

                    นี่นายไม่ใช่คนของแวร์กลาหรอกเหรอ? ชายคนนั้นยิงคำถามต่อไปทันที....ร่างบางส่ายหน้าก่อนจะตอบไปอย่างซื่อๆ.....

     

                    ไม่ใช่หรอก ถ้าจะพูดนายจะหาว่าฉันบ้ารึเปล่า ฉันมาจากอีกโลกหนึ่ง.... พอได้ยินแบบนี้ชายร่างหนาก็นิ่งไปครู่ไอ้เชื่อมันก็เชื่อหรอก เพราะดูจากที่ร่างบางแต่งตัวแล้วมันไม่เหมือนที่เขาหรือพวกแวร์กลาใส่เลย แถมยังหาทางกลับไม่ถูกด้วย อีกอย่าง....ก็มีคนๆหนึ่งเคยบอกเขาถึงเรื่องของโลกต่าง.....

     

                    ก็ไม่ว่าหรอก....ฉันชื่อ คังอิน แล้วนายล่ะ.... ชายนามคังอินถามขึ้นอีกครั้ง....

     

                    ฉันแจจุง....คิม แจจุง....แล้วตกลงว่านายรู้รึเปล่าว่าจะไปแวร์กลาน่ะไปยังไง? ร่างบางตอบพร้อมกับยิงคำถามขึ้นอีกครั้ง...ชายคนนั้นคิดว่าถ้าเกิดเป็นอย่างนี้คงไม่มีประโยชน์ถ้าจะถามเรื่องที่เขาอยากรู้.....

     

                    รู้ ที่นี่น่ะ เป็นจุดเชื่อมระหว่างป้อมหน้าด่านกับชายแดนระหว่างประเทศกลาสต์และประเทศแวร์กลา เดินทางอีกนิดหน่อยก็คงจะถึงแล้วล่ะ มาสิ....ฉันจะนำทางไปให้ ว่าเสร็จคังอินก็เดินนำไป เพียงชั่วครู่เดียวที่แจจุงเห็นสีหน้าที่ดูเหมือนผิดหวังอย่างรุนแรงบนใบหน้าของชายหนุ่ม แต่แจจุงก็ไม่ได้เอ่ยอะไร...นอกจากเดินตามไปอย่างเงียบๆ....ผ่านอากาศที่หนาวเย็นจนเข้าไปถึงกระดูก.....

     

                    เอ่อ....คังอิน....ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? อยู่ดีๆร่างบางที่เดินตามเขามาเงียบๆ ก็เอ่ยถามขึ้นมา ชายหนุ่มถึงแม้จะไม่ได้หันมาแต่ก็ส่งเสียงเป็นแนวว่าถามมาสิ....

     

                    นายเป็นทหารของประเทศกลาสต์ที่ประจำที่นี่เหรอ? แจจุงถามขึ้นเครื่องแต่งกายและการอยู่ที่นี่ของร่างสูงใหญ่นั้น

     

                    ก็ไม่เชิง....ความจริงฉันประจำอยู่ในเมืองหลวงที่ห่างออกไป....

     

                    แล้วนายมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ?

     

                    ก็....มีเรื่องต้องสืบให้รู้ให้ได้เท่านั้น....

     

                    ทำไมนายถึงมีสีหน้าเศร้าสร้อยจัง.... คำถามสุดท้ายนี่ทำเอาเขาเงียบ ทำไมคนๆนี้ถึงได้รู้ทั้งที่แทบจะไม่รู้จักกันเลย ทำไมถึงรู้ว่าเขากำลังเศร้า....คนอย่างเขาไม่เคยเปิดเผยอะไรอย่างไม่จำเป็น แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาจะพูดอะไรมากมายกับคนที่พึ่งรู้จักกันแบบนี้....

     

                    เพราะ.....ฉัน.....กำลังตามหาคนๆหนึ่งอยู่ เขาหายตัวไป....คนสำคัญของฉัน.... คังอินตอบและไม่พูดอะไรอีกเลย แต่แจจุงก็รู้ว่าภายในน้ำเสียงนั้นเจ็บปวดแค่ไหน....

     

                    .....เขารู้สึกว่าเข้าใจดี.....

     

                    .....ว่าเวลาคนสำคัญหายไป.....

     

                    .....มันเจ็บปวดแค่ไหน.....

     

                    .....คิดถึงนายจังเลย......

     

                    ......ยุนโฮ......

     

                    เอาล่ะ....ฉันส่งแค่ตรงนี้ล่ะ.... เสียงคังอินดังขึ้นเรียกสติที่เข้าสู่ภวังค์ของร่างบางให้กลับมาเบื้องหน้าของเขาเป็นทางโล่งที่มีเพียงต้นไม้ไม่กี่ต้นเท่านั้น และเบื้องหน้าที่ทางเชื่อมไปยังทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อีกที่หนึ่ง....

     

                    ถ้าพ้นทุ่งหญ้านั้นไปได้ ก็จะเจอประเทศแวร์กลา นายไปตามทางนั้นแล้วก็ระวังทหารลาดตระเวณแถวนี้ด้วย ฉันช่วยนายได้แค่นี้ล่ะ.... คังอินอธิบายเสร็จสับก่อนทำท่าจะหันหลังกลับไปทางป่าเดิม...แต่ก็ได้ยินเสียงของร่างบางนี้รั้งเอาไว้....

     

                    เดี๋ยวคังอิน!” ร่างสูงใหญ่หันมาด้วยสีหน้าประมาณว่ามีอะไรอีก.....

     

                    ขอบคุณที่ช่วยนะ ฉันเชื่อนะว่านายจะต้องหาคนสำคัญของนายเจออย่างแน่นอน.... ร่างบางเอ่ยบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มให้กกำลังใจก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้พบเจอกับทหารลาดตระเวณอย่างที่คังอินบอก ร่างสูงมองตามร่างนั้นจนลับสายตาไปพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆที่ปรากฏบนใบหน้า....

     

                    คนๆนั้น....เหมือนนายนิดหน่อยนะ จองซู....... พอเอ่ยสร็จเขาก็เดินหันหลังกลับไปเพื่อไปยังเป้าหมายสำคัญของเขา.....

     

                    .....ฉันจะต้องหานายให้พบ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม จองซู!!!.....

     

     

    *********************************************************************

     

     

                    .....โอ๊ยยย!!! ทำไมถึงซวยแบบนี้!!!!.....

     

                    ร่างบางโวยวายอยู่ในใจขณะที่วิ่งไม่คิดชีวิตอย่างที่สุด พอเขาวิ่งแยกกับคังอินได้ไม่นานความซวยก็บังเกิดอีกครั้ง เมื่อเขาเจ๊อะเข้ากับพวกทหารลาดตระเวณชายแดนอย่างที่คังอินบอกเป๊ะ!!! แน่ล่ะ เขาทำได้อย่างเดียวคือวิ่ง!!!

     

                    ฝ่ายทหารที่วิ่งไล่เขามาก็ไม่มีความลดละเอาเสียเลย ถือหอกใหญ่วิ่งไล่ตามเขามา อย่างไม่คิดแบบนี้!!ถ้าวิ่งเฉยๆเขาก็คงพอมีสิทธิหนีรอดแต่นี่ดันขี่ม้าไล่เขามานี่นา!!!

     

                ....ตายๆๆๆๆๆ คิมแจจุง ทำไมนายถึงได้ดวงซวยแบบนี้!!!!!.....

     

                    วิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิตได้เท่าไหร ก็พลันต้องล้มหน้าทิ่มจูบพื้นเพราะสะดุดหินเข้าอย่างจัง!! เพราะล้มเมื่อครู่เลยทำให้ขาแพลง จะลุกก็ลุกไม่ได้ เสียงของพวกทหารลาดตระเวณยังคงดังกึกก้อง...

     

                    จับมัน!!!” เสียงหนึ่งในนั้นตะโกน เขารู้ตัวแล้วว่าหนีไปไหนไม่รอดอย่างแน่นอน....ทำไมนะ....แค่อยากจะเจอนายเท่านั้นเอง ยุนโฮ.....

     

     

                   

                    แจจุงงงงงงงงง

     

                    เสียงหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างที่สุดมาพร้อมกันกับที่มืออุ่นๆของคนๆหนึ่งที่เขาจำสัมผัสได้เป็นอย่างดีเข้ามาโอบอุ้มเขาไว้และดึงเข้าขึ้นไปนั่งบนม้าสีขาวสะอาดอย่างรวดเร็ว ในมือก็แกว่งดาบไล่พวกทหารลาดตระเวณที่กรูกันเข้ามา....

     

                    ยุนโฮ.... ร่างบางพึมพำชื่อของร่างสูงเจ้าของใบหน้าคมคายที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดคนที่เข้ามาช่วยเขาเหมือนอัศวินม้าขาวที่ตอนนี้กำลังฉะดาบกับพวกทหารลาดตระเวณเพื่อฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้จนไม่มีเวลาคุยกับเขาซึ่งอันนี้แจจุงก็เข้าใจ....

     

                องค์ชาย ทางนี้พะยะค่ะ!!!” เสียงของอีกคนหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นเรียกยุนโฮให้หันไปมองนายทหารหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มคนหนึ่งที่ใช้ดาบตีฝ่าวงล้มออกไปได้ส่วนหนึ่งให้ตามมา ไม่รอช้าเจ้าชายหนุ่มก็รีบควบม้าคู่ใจตามไปอย่างรวดเร็วในทันที

     

                    ความเร็วของม้าควบไปอย่างรวดเร็วประดุจสายลมทำให้สามารถหนีพ้นจากพวกทหารลาดตระเวณได้ เมื่อมาถึงกลางทุ่งกว้างใหญ่แล้วพวกมันก็คิดจะตามมาเพราะกำลังจะเข้าเขตของประเทศแวร์กลาแล้ว....คนสวยที่นิ่งเงียบปล่อยให้คนที่ดึงตัวเองขึ้นม้าให้มานั่งอยู่ด้านหน้าและองค์ชายประกบด้านหลังนั้นมองไปยังเจ้าชายรูปงามและคงเป็นจังหวะเดียวกันที่เจ้าชายมองมายังเขา....

     

                    ดวงตาทั้งสองคู่ประสานตากันความหมายลึกวึ้งมากมายที่ปรากฏ ทั้งห้วงแห่งความคิดถึงคำนึงหากันแม้จะจากกันไม่นาน.....

     

                    ....ในที่สุดก็ได้พบแล้ว.....

     

                    พบกันอีกแล้วนะ แจจุง.... เสียงของยุนโฮเอ่ยขึ้นมา ขณะที่ควบม้าไปในจังหวะสม่ำเสมอไม่ให้กระแทกมากเกินไปเพราะกลัวร่างบางในด้านหน้านี้จะเจ็บปวดจากการอักเสบที่เท้าแพลงเมื่อสักครู่ ร่างบางแย้มรอยยิ้มสดใสกลัพร้อมกับเอ่ยว่า....

     

                    อื้อ....ในที่สุดก็ได้พบแล้ว....

     

     

    *********************************************************************

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×