ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:TVXQ]...*+Verglas+*...(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #11 : ::Chapter 10: คำนึงหา::

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 51


     

     

    Chapter 10: คำนึงหา

     

     

                    ......ไม่มีอีกแล้ว......

     

                    ......ใครคนนั้น......

     

                    .......ทั้งที่เขาก็แค่คนที่ผ่านมาเข้ามา......

     

                    .......และก็ถึงเวลาที่จะจากไป......

     

                    .......ไม่มีอีกแล้ว......

     

                    .......แม้กลิ่นอายของคนๆนั้น......

     

                    .......ไม่มีอีกแล้ว คนที่ฉันรัก......

     

                    .......ไม่มีแม้แต่เงาที่หลงเหลือ.......

     

                   

                    ฮึก.....ยุนโฮ......

     

                    คำแรกที่เอ่ยขึ้นมาต้อนรับเช้าวันใหม่ที่มันไม่สดใสเอาเสียเลยสำหรับคิม แจจุง....ดวงหน้าหวานสวยอิดโรยเพราะขาดการพักผ่อนเมื่อคืน หลังจากที่ยุนโฮ.....เจ้าชายต่างแดนที่มาเปลี่ยนชีวิตของเขา....และก็กลับไปพร้อมกับหัวใจของเขา....

     

                    .....แล้วที่เหลืออยู่ตรงนี้ คงมีแค่ร่างกาย....และ วิญญาณ......

     

                    .....ไม่มีแล้ว....หัวใจ......

     

                    แล้วหากว่าเขาไม่มีหัวใจแล้ว สิ่งที่ยังคงเต้นอยู่ในอกนี่ มันคืออะไรกัน? เครื่องยืนยันว่าต้องมีชีวิตทั้งที่ไม่อยากน่ะเหรอ??....

     

                    แค่คิดขึ้นมาน้ำตาก็รื้นขึ้นมาที่ขอบตาอีกครั้ง เมื่อคืนเขาอยู่ที่บ้านคนเดียว ตอนแรกฮีชอลบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเขาหลังจากที่เห็นเขาร้องไห้จนน้ำตาแทบจะไม่เหลือให้ร้อง ที่เหลืออยู่คงจะเป็นสายเลือดสีแดงข้นไหลเวียนในกายนี้เท่านั้นที่พร้อมจะหลั่งแทนน้ำตา.....

     

                    ยุนโฮ..... ร่างบางพึมพำชื่อของคนที่ตนรักจนชักเหมือนจะเพ้อเข้าไปทุกที....แค่คิดน้ำตาที่คิดว่าจะหยุดไหลไปแล้ว....ก็ค่อยๆรื้นชื้นที่ขอบตาจนมองเห็นแต่ภาพเบลอๆ...

     

                    .....อ่อนแอจริงๆ......

     

                    .....ทั้งที่เมื่อก่อนเขาก็อยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด......

     

                    .....แล้วนี่มันอะไรกัน?......

     

                    ......ไม่ได้!!! จะอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้!!!.....

     

                    ......ถ้ายุนโฮมาเห็นเราเป็นแบบนี้......

     

                    ......เขาก็คงไม่อยากจะกลับมาหาคิมแจจุงที่อ่อนแอหรอก!!......

     

                    เมื่อคิดได้ร่างบางก็ใช้ฝ่ามือเรียวทั้งสองแปะลงบนแก้มใสเนียนทั้งสองข้างของตนเต็มแรงเพื่อเรียกสติให้กลับมา ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งปาดคราบน้ำตาออกไป ดวงหน้าสวยที่เมื่อครู่ยังดูโทรมอยู่ก็เปลี่ยนมาดูสดใสขึ้นกว่าเมื่อครู่....

     

                    เอาล่ะๆ!!! จะมามัวซึมไม่ได้ เราเองก็ต้องสู้!! คิม แจจุง Fighting!!!” ร่างบางกำหมัดแน่นพร้อมสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเช้าวันใหม่อย่างสดใสด้วยการไปเตรียมอาหารเช้าใส่ท้องของตนเอง....ดวงตาคู่สวยมองผ่านหน้าต่างไปสู่ท้องฟ้าสีครามใสนั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวัง....

     

                    ....ยุนโฮ.....

     

                    .....นายจะรู้สึกไหม?.....

     

                    .....ตอนนี้ฉันกำลังพยายามอยู่นะ.......

     

                    ......นายเองก็ต้องปลอดภัยจากสงคราม.......

     

                    ......แล้วกลับมาหาฉันนะ.......

     

                    ......นายสัญญาไว้แล้วนะ.......

     

     

    *********************************************************************

                   

                โลมาที่ร๊ากกก~ ฉันจะไม่ยอมให้นายไปไหนอีกแล้ววววว~”

     

                    เสียงร้องครวญคราญชวนเอน็จอนาถดังก้องทั่วโถงทางเดินของพระราชวังหลวงที่ดูหรูหราอันประดับด้วยทองคำและอัญมณีมากมายแสดงถึงความร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินนี้.....

     

                    อย่าเข้ามาใกล้ฉันในระยะ 2 เมตร!!” จอมเวทย์ผู้น่ารักยื่นคำขาด ข้างกายเขาคือ องค์ชายยุนโฮ ที่หายตัวไปจากอาณาจักรเสียนาน ทันทีที่ทั้งสองออกมาจากท้องพระโรงหลังจากที่เข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งแวร์กลามาแล้วนั้นก็ยิ่งทำให้ทั้งสองเหนื่อยมากขึ้นหลังจากการเดินทางที่แสนยากลำบาก.....

     

                    ง่า....ทำไมงั้นอ่ะ ไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ?????? ชายหนุ่มรูปงามผู้รั้งตำแหน่งขุนนางใหญ่ และแม่ทัพของกองทัพฝั่งตะวันออกแห่งแวร์กลา แสร้งทำหน้าตาน่าสงสารที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นในใจของโลมาน้อยเลยแม้แต่นิดเดียว....

     

                    ไม่! ไปไกลๆ ฉันจะพายุนโฮไปส่งที่ห้อง!” ร่างบางว่าขึ้น ตอนนั้นเองที่ดวงตาของขุนนางหนุ่มเหลือบไปมองชายหนุ่มด้านข้างจอมเวทย์ร่างเล็กที่เงียบไม่พูดอะไรตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว....

     

                    องค์ชาย!!ทรงกลับมาแล้ว??? คนเป็นเจ้าชายหันมามองทางขุนนางหนุ่ม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนซี้ย้ำปึ๊กของเขาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วด้วยสายตาบ่งบอกความไม่พอใจอย่างแรง....เออ ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว แกมัวแต่เหล่อาจารย์ฉันจนไม่สนใจเพื่อนเลยเนอะ!.....

     

                    เออ! ถ้าไม่กลับมาจะอยู่ตรงนี้รึไง! อีกอย่างบอกแล้วอย่าเรียกฉันองค์ชาย ฟังแล้วขนลุก!” ขุนนางหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็คลี่รอยยิ้มถูกใจออกมาอย่างอดไม่ได้....

     

                    ฮะๆ ก็นายเงียบเกินเหตุนี่หว่า ฉันเองก็รู้สึกแปลกๆถ้าต้องเรียกนายว่าองค์ชายน่ะ ยุนโฮ ขุนนางปาร์คเอ่ยอย่างอารมณ์ดี อันที่จริงตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เขาก็ไม่เคยคิดจะเรียกเจ้าชายนี่ว่าองค์ชายหรอก มันขนลุก!!....

     

                    แล้วนี่ไปหาองค์ชายชางมินมารึยัง? ยูชอนถามขึ้น ถึงองค์ชายชางมินจะมีอายุน้อยกว่าเขาและยุนโฮก็ตาม แต่เพราะเขาเองก็ไม่ได้สนิทมากขนาดจะเรียกชื่อได้ อย่างไรก็ต้องให้เกียรติในฐานะรัชทายาทลำดับที่ 2....

     

                    หา? ยังอ่ะ แล้วเจ้านั่นสบายดีรึเปล่า?? องค์ชายลำดับที่ 1 ตอบพลางถามกลับ ขุนนางหนุ่มยักไหล่น้อยๆก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย....

     

                    ก็ไม่เชิง ตอนนี้คงจะพักผ่อนอยู่เพราะต้องทำหน้าที่เจ้าชาย ทั้งในส่วนของตัวเองและของนายในตอนที่นายไม่อยู่..... ขุนนางหนุ่มตอบ และนั่นทำให้เจ้าชายผู้ดูหยิ่งๆในปกติมีสีหน้าจิตตกไม่น้อย....เขาไม่ได้ทำหน้าที่เจ้าชายที่ดีเลย....มีแต่สร้างความเดือดร้อน และคนที่ต้องมารับภาระแทนเขาเสมอ ก็ไม่พ้นน้องชายเพียงคนเดียวของเขา....

     

                    จริงสิ....ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย เราเปลี่ยนที่คุยกันดีไหม? ยูชอนว่าขึ้น สีหน้าขี้เล่นหยอกเย้าเมื่อครู่หายไปในทันที มีเพียงดวงหน้าเงียบขรึมแสดงความจริงจังขึ้นมา เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่า...จะคุยเรื่องอะไร....

     

                    โอเค....จุนซูพาเราไปที่สงบๆที่คุยกันได้หน่อยสิ องค์ชายหนุ่มหันไปบอกราชครูของตนที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับ....ฮ่วย! ฉันเป็นจอมเวทย์นะ ไม่ใช่สารถี!!!...

     

                    ถึงจะแอบบ่นอยู่ในใจผ่านทางสีหน้าที่บ่งบอกความไม่พอใจ แต่ก็ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายในวงระยะแคบ จนพาร่างของทั้งสามไปสู่ห้องหนังสือส่วนพระองค์ของยุนโฮ ซึ่งปกติแล้วเจ้าตัวแทบไม่เคยเข้ามา ถ้าจอมเวทย์แสนน่ารักไม่ลากมาเรียนหนังสือที่นี่....

     

                    ขอบใจนะ จุนซู

     

                    ขอบคุณคร๊าบบบบ หวานใจของปาร์ค~~~” คงไม่ต้องบอกว่าประโยคไหนเป็นของใคร ร่างบางหันไปยิ้มรับคำขอบคุณขององค์ชายก่อนจะใช้เท้ายันหน้าไอ้ขุนนางหื่นที่จะพุ่งเข้ามาสวมกอดเขาอย่างไม่ดูกาลเทศะ

     

                    เอ่อ....แล้วมีอะไรงั้นเหรอ ยูชอน... ยุนโฮรีบเอ่ยขึ้นก่อนที่ห้องหนังสือของเขา จะกลายเป็นขั้วโลกเหนือ ด้วยพลังเวทย์น้ำแข็งของราชครูของเขา....

     

                    อ้อ...จริงด้วย....ระหว่างที่นายไม่อยู่น่ะมี ทหารสอดแนม จากประเทศกลาสต์ เข้ามาในเขตประเทศของเรา เป้าหมายที่มาก็คลังอาวุธ และคอยมาสอดแนมการซ้อมรบของพวกเรา... ยูชอนอธิบายนั้นทำให้ร่างสูงของยุนโฮดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที....

     

                    .....ประเทศกลาสต์ทำไมต้องประกาศสงครามขนานี้ มีเหตุผลอะไรอย่างนั้นเหรอ?.....

     

                    ฉันว่า....คนที่เป็นต้นความคิด ก็คงเป็น คิบอมอย่างแน่นอน.... ชื่อหนึ่งที่เอ่ยออกมาจากขุนนางหนุ่มเรียกให้ดวงตาคู่เรียวตวัดมองอย่างไม่พอใจ....

     

                    อย่าพูดอย่างนั้น ยูชอน....คิบอมไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน! ฉันเชื่อใจคิบอม!!” ยุนโฮเอ่ยบอกเสียงหนักแน่น เมื่อได้ยินเพื่อนขุนนางของตนพูดถึงเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้กลายเป็นกษัตริย์ของประเทศกลาสต์ที่กำลังก่อสงครามกับทางเขาอยู่....แต่ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไม.....

     

                    แล้วถ้าไม่ใช่! ทหารสอดแนมพวกนั้นคืออะไร แล้วที่ประกาศสงครามกับพวกเราน่ะ มันคืออะไร???!!” ยูชอนเริ่มขึ้นเสียงหนักแน่น จนแทบขะตวาด ขณะดวงตาเรียวจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมของคนเป็นเจ้าชายที่ยังคงฉายแววความดื้อรั้นออกมาเต็มเปี่ยม....

     

                    ยุนโฮหันหลังเดินออกจากประตูไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น....จอมเวทย์หนุ่มมองตามเจ้าชายแห่งแวร์กลาออกไปด้วยสายตาเหนื่อยอ่อน....

     

                    นายคิดว่า....คิบอม คนนั้นคือ คนบงการทั้งหมดจริงๆน่ะเหรอ? จอมเวทย์จุนซูเอ่ยถามเสียงเศร้าขึ้นมา เพาะเขาก็รู้ว่ายุนโฮคงยังไม่สบายใจเรื่องนี้....ระหว่าง หน้าที่ กับ มิตรภาพ.....

     

                    ฉันเองก็ไม่รู้......แล้วนายว่ายังไง? นี่เป็นครั้งแรกที่ยูชอนเอ่ยเสียงเครียดๆกับจอมเวทย์หน้าหวาน มือเรียวยกขึ้นจับคางอย่างใช้ความคิด....

     

                    ฉันเคยลองติดต่อ....จอมเวทย์อีทึก ดูนะ.....แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เลยไม่รู้ จุนซูตอบ....

     

                    จอมเวทย์อีทึก??? อ๋อ....คนที่เป็นราชครูของคิบอม....น่ะเหรอ?? ยูชอนถามที่ได้กลับมามีเพียง แค่การพยักหน้าตอบรับ....เขาลืมไปได้ยังไงนะ ว่าคนที่จอมเวทย์เหมือนกันก็คงต้องรู้จักกันเป็นธรรมดา มั้ง??...

     

                    อยากให้ คุณฮีชอล อยู่ที่นี่จัง.... อยู่ดีๆร่างบางก็เอ่ยขึ้นมาใช่....ถึงจะพึ่งจะจากกันไม่นานนี้แต่ว่า ถ้าเป็นอดีตจอมเวทย์อัจฉริยะคงจะให้คำตอบอะไรได้ดีกว่านี้ ยิ่งฮีชอลรู้จักันอีทึกเป็นการส่วนตัว....ซ้ำแล้วในตอนที่จอมเวทย์ฮีชอล ยังเป็นจอมเวทย์แห่งราชอาณาจักรแวร์กลานั้น ตอนนั้นได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของจอมเวทย์เลยก็ได้....

     

                    ....เพราะว่า....

     

                    .....ที่ แวร์กลา มี จอมเวทย์ฮีชอล.....และ......ที่กลาสต์ มี จอมเวทย์อีทึก.....

     

                    .....สุดยอดจอมเวทย์อัจฉริยะที่ร้อยปีจะมีได้....

     

                    .....น่าแปลกที่มีถึง 2.......

     

                    ฮีชอล....คิม ฮีชอล.....อดีตจอมเวทย์อัจฉริยะ คนนั้นน่ะเหรอ? ยูชอนถามตอนแรกเขายอมรับว่าเกือบจะหลุดคำว่า คนทรยศไปแล้ว แต่ก็เบรกไว้ได้ทันเพราะเขารู้ว่า จอมเวทย์โลมาน้อยของเขา (?) ให้ความเคารพอดีตจอมเวทย์แห่งแวร์กลาคนนั้นขนาดไหน.....

     

                    ใช่....พอพูดถึงคุณฮีชอล แล้ว....เอ่อ....หมอนั่น....ฮันกยอง น่ะเป็นไงบ้าง? ร่างบางหันไปถามอีกครั้ง เขาเองตอนที่เจอกับคุณฮีชอล ก็มัวแต่ดีใจที่ได้หนทางจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง โดยลืมเรื่องคนๆหนึ่งที่คงจะคิดถึงคุณฮีชอลแทบขาดใจ.....

     

                    ก็....เหมือนเดิมน่ะ ตั้งใจฝึกซ้อมรบ แต่ก็ไม่ยอมสุงสิงกับใครเหมือนเดิม.... ร่างสูงตอบเรื่องแค่นี้เองก็ในเมื่อ ฮันกยองน่ะเป็นทหารเอกของกองทัพฝ่ายเขาเองนี่นา....

     

                    เฮ้อ....เมื่อไหร.....ประเทศของเราจะสงบสุขกันนะ..... จุนซูบ่นพึมพำเสียงเศร้า เขาไม่เคยต้องการสงครามไม่อยากให้สงครามบ้าๆนี่เกิดขึ้นมาด้วย....ทำไมกัน? แล้วเมื่อไหร ที่มันจะจบลงสักที....ต้องสูญเสียอีกเท่าไหรนะ??....

     

                    พอเห็นคนน่ารักมีสีหน้าเศร้าซึมไป เขาเองก็รู้สึกปวดใจ เขาชอบร่างเล็กคนนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม หรือว่ายามโกรธ เขาก็ชอบทั้งหมดที่เป็น คิม จุนซู....แต่ขออย่างเดียว อย่ามีความเศร้าสร้อยบนใบหน้าหวานนั้นเลยนะ.....

     

                    จุนซูครับ..... เสียงเรียกทุ้มลึกของขุนนางหนุ่มเรียกความสนใจของคนตัวเล็กให้หันไปมองทางนั้น และจังหวะเดียวกันที่ริมฝีปากของยูชอนกดจูบลงไปบนพวงแก้มใสนั้นด้วยความรวดเร็ว แล้วรีบผละออกอย่างเร็วแล้วเดินหนีไปทันที....

     

                    ....ส่วนร่างบางน่ะเหรอ.....งงเต๊กไปแล้ว! กว่าจะรู้ตั้งสติได้อีกที ไอ้ไก่บ้านั่นก็ไปแล้ว!!....

     

                    .....หนอย!!ไอ้ไก่ลามาก เจอกันคราวหน้าแกได้กลายเป็นไก่ตอนแช่แข็งแน่!!!.....

     

                   

                    อีกด้านหนึ่งเจ้าชายรัชทายาทลำดับที่หนึ่งแห่งแวร์กลาที่เดินตรงมายังห้องนอนทันที หลังจากหนีการตอบคำถามของขุนนางหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสุดซี้มา....

     

                    ตอนนี้เขามีอะไรให้คิดมากมาย ทั้งเรื่องของ คิม คิบอม....กษัตริย์ของประเทศกลาสต์ คนปัจจุบัน คนที่เคยเป็นสหายของเขา....ใช่เขาที่บงการให้เกิดสงครามนี้จริงๆน่ะเหรอ??.....

     

                    .....เท่าที่เขาจำได้ คิบอมไม่ใช่คนอย่างนั้น......

     

                    .....มันเกิดอะไรขึ้น......

     

                    .....ที่ประเทศกลาสต์ กันแน่.......

     

                    ขาเรียวยาวก้าวผ่านเตียงนอนขนาดใหญ่ที่กลางห้องบรรทมแสนกว้าง อันประดับประดาห้องอย่างเลิศหรู ไปยังรั้วระเบียงกว้าง เขาแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่สดใสไร้เมฆปกคลุมก็พาลให้คนๆหนึ่งที่เขาได้ฝากหัวใจไว้....คนที่เขาสัญญาด้วยหัวใจนี้ ว่าจะปกป้อง และรักตลอดไป.....

     

                    คิดถึงนายจังเลย....แจจุง.....

     

     

    *********************************************************************

                   

     

                    เหนื่อยจังเลย.....

     

                    ร่างบางเอ่ยอย่างหมดแรงก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวนิ่ม ดวงตาคู่สวยถูกพาดผิดด้วยแขนบางนั้น ความเหนื่อยล้ามากมายถาโถมเข้ามาจนไม่อยากจะทำอะไร.....เหนื่อยทั้งเรียน และงาน.....

     

                    .....ที่เหนื่อยที่สุด ก็คงจะเป็น.....

     

                    .....เรื่องที่ทำเป็นฝืนยิ้ม.....

     

                    .....ฝืนความรู้สึกตัวเอง......

     

                    .....ความรู้สึกที่ว่า.....

     

                    .....ถึงจะไม่มียุนโฮ........

     

                    .....เขาก็สามารถอยู่ได้........

     

                    ......เหนื่อยเหลือเกิน......

     

                    อยู่คนเดียวอีกแล้วเหรอ? ร่างบางบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆก็ไม่พบอะไรนอกจากตัวของเขาเองที่นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา....

     

                    ตอนนั้นเองที่แจจุงเหลือบมองไปยังรูปครอบครัวของเขา....รูปของคุณพ่อ กับ คุณแม่.....สมัยที่พวกท่านยังอยู่.....

     

                    คุณพ่อ คุณแม่ครับ....ผมเหนื่อยจังเลย...... เสียงหวานแว่วเอ่ยอย่างอ่อนล้ากับรูปของบุพการีทั้งสอง....จริงด้วยสินะ....นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้คุยกับรูปของคุณพ่อ คุณแม่ แบบนี้.....

     

                    .....ทำไมเขาถึงต้องคอยคุยกับรูปถ่าย?......

     

                    .....เพราะว่ามันทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเขาไม่ได้อยู่คนเดียว......

     

                    .....แล้วทำไมถึงพึ่งมาคุยอีกทีก็ตอนนี้กัน?.....

     

                    ......เพราะตอนนี้ไม่มีใครอีกแล้ว....เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว.....

     

                    คุณพ่อครับ....คุณแม่ครับ....ฮึก.....ผม...ฮึก....ผมเหงาเหลือเกิน.....ว้าเหว่จังเลย.....ยุนโฮ.....ฮึก....อยากพบนาย..... คำพูดที่ติดขัดมาพร้อมกับเสียงสะอื้นไม่มีที่สิ้นสุด ความเศร้าเหงาและว้าเหว่ประดังเข้ามาในหัวใจจนหยุดไม่ได้ ความรู้สึกเหล่านั้นสุดท้ายแล้วก็กลั่นออกมาเป็นสายน้ำจากดวงตาคู่งาม.....

     

                    .....เมื่อไหรกัน?......

     

                    ......ที่เขากลายเป็นคนที่อยู่คนเดียวไม่ได้อีกต่อไป......

     

                    ......เมื่อไหรกัน?.....

     

                    ......ที่กลายเป็นคนกลัวการอยู่คนเดียวขนาดนี้.......

     

                    ......รู้ไหม?.....

     

                    .....เพราะนายคนเดียว ชองยุนโฮ......

     

                    .....นายมาเปลี่ยนชีวิตของฉัน......

     

                    .....ทำให้ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้อีกแล้ว.......

     

                    .....คิดถึงนายจังเลย.....ยุนโฮ......

     

                    อยากให้เจอนายจริงๆนะ เจ้าชายหมีอ้วน!”ร่างบางส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับจะระบายความในใจที่ต้องเก็บซ่อนไว้ทั้งวัน....แค่เพียงวันเดียวก็แทบขาดใจ.....

     

                    .....แล้วเขาต้องทนไปอีกเท่าไหรกัน.....

     

                    .....กับความรู้สึกแบบนี้.....

     

                ตอนนั้นเองดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปทางหนังสือสีขาว ขอบทองที่ดูโดดเด่นสะดุดตาอยู่บนโต๊ะสิ่งเดียวที่ทำให้เขาได้พบ ได้เจอ และได้รัก ผู้ชายที่ชื่อ ชอง ยุนโฮ....เป็นสิ่งเดียวที่พายุนโฮออกไปจากชีวิตของเขา....และเป็นสิ่งเดียวที่รำลึกการมีอยู่ของชอง ยุนโฮ ในอีกสถานที่ที่แสนห่างไกล....

     

                    แวร์....กลา..... ร่างบางอ่านชื่อของหนังสือนั้นอย่างช้าๆ มือบางยกขึ้นไปจับหนังสือเล่มนั้นมาไว้ในอ้อมกอดเพื่อรำลึกเสมือนได้กอดคนๆหนึ่งอยู่....แม้จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม....ก่อนจะเปิดเข้าไปในหนังสือที่ไม่มีตัวอักษรใดเลยปรากฏอยู่ และ.....ที่หน้าหนึ่งของหนังสือ.....หน้าเดียวที่มีตัวอักษร ลายมือของเขา......

     

     

                    คำอธิษฐานที่ทำให้ได้พบกับยุนโฮ......

     

                   

    ขอใครสักคน...ที่จะมาอยู่เคียงข้างผม.....คิมแจจุง

     

                   

     

                    คำอธิษฐานจากหัวใจที่เหงาหงอย ถูกเรียบเรียงเป็นอักษร จะเป็นเพราะความบังเอิญหรือพระเจ้าดลใจยังไงก็ตาม แต่ดีใจเหลือเกินที่มันทำให้เขาได้พบกับคนที่จะมาอยู่เคียงข้างจริงๆ....เพียงแต่เขาไม่สามารถอยู่กับเขาได้ในตอนนี้เลย......

     

                    ถ้าสมมุติว่า.....

     

                    พระเจ้าให้พรอีกข้อกับคนขี้เหงาอย่างเขา........สิ่งเดียวที่เขาจะขอมีแค่.......

     

     

     

    อยากพบกับยุนโฮอีกครั้ง.....คิมแจจุง....

     

     

                    ถ้าจะบ้า.....พระเจ้าจะให้พรกับเด็กโลภมากอย่างเราอีกได้ยังไง? แจจุงเอ่ยอย่างนึกสมเพชตัวเองที่คิดว่าถ้าเขียนลงไปในหนังสือนั่นอีกครั้งแล้วเขาจะได้พบกับคนที่รักอีกครั้ง....มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พระเจ้าจะมอบพรให้เขามากมาย.....

     

                    ปลายปากกาที่จรดอยู่บนกระดาษหลังจากเขียนชื่อลงท้ายเรียบร้อยนั้น พลันสั่นและหลุดออกจากมือบาง ร่างบอบางสั่นเทิ้มเพราะก้อนสะอื้นที่อยู่ในลำคอ ดวงตาคู่หวานสั่นระริกก่อนที่น้ำตาจะไหลรินออกมาอีกครั้ง....

     

                    ยะ.....ยุนโฮ......ฮึก......

     

                    เสียงสะอื้นที่ยังคงไม่ขาดสายพลางพร่ำเรียกชื่อของคนรักซ้ำไปมาเหมือนเล่นเทปที่ถูกอัดเสียง ภาพเช่นนี้คงจะทำให้ใครหลายคนเศร้าใจไปตามๆกัน เพียงแต่ว่า....ที่นี่ไม่มีใครเลย......

     

                    น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่กลั่นออกมาจากดวงตาคู่งาม ก่อนที่หยดหนึ่งจะหยดลงไปประโยคน้ำหมึกที่เขียนคำอธิษฐานะข้อใหม่ไว้ใกล้ๆกับข้อเก่า จนน้ำหมึกที่ยังไม่แห้งสนิทดีกลายเป็นดวงกว้าง.....

     

                   

                    !!!แว๊บบบบ!!!

     

                   

                    แสงสว่างส่องผ่านหน้ากระดาษของหนังสือเรียกความสนใจจากร่างบางที่กำลังกลั้นน้ำตาให้มองลงไปด้วยความประหลาดใจ....นี่มันเกิดอะไรขึ้น อย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน แจจุงถูกแสงนั้นดึงเข้าไปในหนังสือเหมือนกับที่ร่างสูงและจอมเวทย์ถูกดึงเข้าไป!!

     

                    อ๊ะ!!” เสียงร้องอุทานอย่างตกใจของร่างบางดังขึ้นก่อนที่กายบอบางจะหายไปจากโซฟา แสงสว่างที่ยังส่องประกายดูดกลืนหนังสือเล่มขาวนั้น ก่อนที่มันจะหายไปพร้อมกับร่างบางในพริบตา.....

     

                    .....ในบ้านของตระกูลคิม.....

     

                    .....บัดนี้เหลือเพียง......

     

                    ......ความว่างเปล่า......

     

     

    *********************************************************************



    คุยกับคนแต่ง

    หวัดดีค่าทุกคน เราชื่อ เอ้ นะคะ

    หลังจากที่แต่งเรื่องนี้มาก็ 11 ตอน รวม Intro ด้วย ก็พึ่งจะมีโอกาสมาทักทายกันนะค่า

    ก็ขอบคุณที่ชื่นชอบและก็ติดตามผลงานเรื่องนี้ของเรานะคะ

    คงมีหลายอย่างที่จำเป็นต้องปรับปรุง  แต่ผู้อ่านทุกคนก็คอบเป็นกำลังใจให้เราสร้างผลงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ

    ขอบคุณจากหัวใจคะ แล้วเราสัญญาว่าตอนหน้าจะมาให้ท่านได้อ่านฝนอีกเร็ววันนี้

    ตอนนี้แจจุงก็กำลังจะไปหายุนโฮแล้ว แต่จะไปในลักษณะไหนก็ต้องรอติดตามกันในตอนหน้านะคะ

    ขอบคุณทุกแรงกำลังใจจากทุกคนนะคะ

    สำหรับหลายคนที่เราอ่านในคอมเม้นท์แล้วบอกว่าตามมาจากบอร์ดคmyfics ขอบอกว่าเราตื้นตันใจมากๆค่า

    ขอบคุณที่ติดตามผลงานของเรานะคะ

    เราสัญญาว่าจะพยายามต่อไปนะคะ Fighting!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×