ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:TVXQ]...*+Verglas+*...(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : ::Intro::

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 51




    [Fic]
    ....*+Verglas+*....

     

    Paring: YunJae, YuSoo, MinRic

     

    Rate: PG – PG 13 (มั้งคะ)

     

    Style: Fantasy Romance

     

    Author: Mio_MinMin

     

     

     

                    .....คน คนหนึ่งเกิดมาเพื่อเฝ้ารอใครสักคน......

     

                    .....คน คนหนึ่งเกิดมาเพื่อตามหาใครสักคน.....

     

                    .....และ......

     

                    .....คน ทั้งสองคนต่างเกิดมา เพื่อกันและกัน......

     

     

     

    Intro:

     

     

     

                    !ตึก!ตึก!สวบ!สวบ!

     

     

                    เสียงการวิ่งฝ่าแมกไม้ใบหญ้าและพงไพรอย่างรวดเร็วเพื่อหนีเอาชีวิตรอดจากคนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมไปด้วยสรรพาวุธมากมายซึ่งกำลังไล่ตามชายหนุ่มผู้หนึ่งไปติดๆและดูเหมือนว่าจะสลัดทิ้งยากเสียด้วย

     

                    เร็ว!!รีบตามมันไป!!”

     

                จับมันให้ได้!!!”

     

     

                    เสียงโห่ร้องของคนกลุ่มใหญ่เหล่านั้นไล่หลังเขาดังตามมาเป็นระลอกและดูเหมือนไม่มีท่าทางว่าจะหยุดลงได้ง่ายๆเสียด้วย ตัวของชายหนุ่มก็ยังคงมุ่งที่จะหนีต่อไปเรื่อยๆ ดวงตาคมเหลือบมามองทางกลุ่มทหารทางด้านหลังที่ควบม้าตามเขามา ในขณะที่ตัวเขาต้องวิ่งด้วยเท้าเปล่า 

     

                วิ่งให้ตายยังไงก็ต้องโดนตามทัน!!!

     

                    ยิ่งเขาคิดเขาก็ยิ่งเจ็บใจและรู้สึกแย่มากที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหนี ยิ่งแย่ไปกว่านั้นเมื่อหนึ่งในทหารเหล่านั้นเริ่มยิงศรลูกดอกลูกธนูตามออกมาไม่หยุด ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงต้องวิ่งหลบซ้ายขวาแทบไม่ทันแถมเกือบจะโดนลูกดอกเสียบเข้ากลางหลังอยู่แล้ว!

     

                ด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วเขาก็รีบชักดาบออกมาจากฝักเพื่อเตรียมเข้าปะทะต่อสู้กับฝ่ายศัตรูชายหนุ่มอยู่ยืนอยู่กับที่พร้อมเตรียมชักดาบตั้งมมั่นให้พร้อม!

     

                    เข้ามาเลย พวกสวะทั้งหลาย!!”

     

                    ชายหนุ่มร้องลั่นด้วยความโกรธทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้ ทหารฝ่ายศัตรูคนหนึ่งขว้างหอกพุ่งเข้าใส่เขาอย่างจัง แต่ชายหนุ่มก็สามารถใช้ดาบที่ฟันหอกจนหักออกเป็นสองท่อน โดยที่ไม่ได้แตะต้องเขาแม้แต่ปลายก้อยไม่มีกระทั่งรอยบาดแผล ดวงตากลมส่งสายตาดูหมิ่นราวกับเย้ยหยันอีกฝ่ายที่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย

     

                    หนอย!! ลุยมันเข้าไปเลย เอามันให้ตาย!!” ผู้นำของฝ่ายนู้นตะโกนลั่นขึ้นมาด้วยความโกรธที่เหมือนถูกฝ่ายชายหนุ่มตาคมนั่นดูถูกเหยียดหยามด้วยสายตาเช่นนั้น เขาชักดาบออกจากฝักเตรียมเข้าฉะกับฝ่ายหนุ่มตามคมทันที ซึ่งดูเหมือนว่าทางหนุ่มหน้าคมก็พร้อมแล้วจึงได้พุ่งเข้าไปพร้อมดาบคู่ใจเพื่อตัดสินกันตรงๆ ทว่า....

     

                    !วาบบบ!!

     

                    ขณะที่กำลังจะเข้าต่อสู้กันนั้น อยู่ก็ปรากฏลำแสงสว่างขึ้นที่เท้าของชายหนุ่มหน้าคม มันส่องสว่างขึ้นจนแสบตาส่งผลให้ฝ่ายพวกทหารศัตรูบนหลังม้าต้องยกแขนขึ้นป้องลำแสงที่สว่างจนตาพร่ามัวไป 

     

                    เฮ้ย!” ชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่เหนือจุดลำแสงอันสว่างจ้านั้น ร้องลั่นด้วยความตกใจที่เกิดสิ่งประหลาดขึ้นกับตน และเมื่อลำแสงนั้นหายไปแล้ว พวกกองทหารม้าก็รีบหันกลับมาเบื้องหน้าทว่า...เป้าหมายของพวกเขากลับหายไปเสียแล้ว....

     

                    ชิ! บ้าจริง! หายไปไหนแล้วว่ะ เจ้าชองยุนโฮ!!” 

     

     

    *********************************************************************

                   

     

                    ณ เมืองที่สงบสุขในประเทศที่มีชื่อว่าเกาหลี ภายในกรุงโซลซึ่งเต็มไปด้วยโลกแห่งเทคโนโลยี และความทันสมัยของยุคโลกาภิวัฒณ์ ที่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในกรุงโซลกำลังเกิดปัญหาเล็กน้อย....

     

                    ไม่เอา!!! จียอนจะอยู่กับพี่แจจุง!!!!”

     

                    เสียงของเด็กหญิงคนน้อยเจื้อยแจ้ว ขณะที่ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนพรมสีขาวนุ่มเหมือนจนสัตว์ สร้างความลำบากใจกับผู้เป็นมารดา และ ชายหนุ่มเจ้าของนาม แจจุง....คิมแจจุง.....

     

                    ไม่เอาน่า จียอน พี่แจจุงเขาต้องกลับบ้านแล้วนะจ๊ะ พี่แจจุงเขาเหนื่อยแล้วนะลูก หญิงสาวนาม จีอึน เอ่ยบอกลูกสาวของตนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนใจกับความเอาแต่ใจของลูกสาวของตนเหลือเกิน

     

                ไม่เอายังไงจียอนก็ไม่ยอม!! จียอนอยากให้พี่แจจุงอยู่ด้วยนี่นา!!!” แม้ว่าคนเป็นแม่จะพยายามอธิบายจะอธิบายให้ลูกของตนฟังเหตุผลสักเท่าไหร แต่มันก็ไม่ได้ผลเมื่อแม่ลูกสาวตัวดีของเธอหัวรั้นขนาดนี้ จีอึนยกมือขึ้นก่ายหน้าผากด้วยความลำบากใจ พอเห็นเช่นนั้นแล้ว ชายหนุ่มร่างบอบาง เจ้าของเส้นผมนุ่มสลวย ผู้มีดวงตากลมโตสีดำสนิทชวนให้หลงใหล ริมฝีปากแดงระเรื่อ แก้มขาวแต่งแต้มเลือดฝาดเล็กน้อยพองาม และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ หน้าตาที่สวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิง...

     

                    จียอนครับ....อย่าดื้ออย่างนี้สิครับ เสียงหวานใสปานน้ำผึ้งเดือนห้าเอ่ยบอกขณะที่เขาก้าวเดินเข้ามาเด็กหญิงคนน้อยที่ยังนอนดิ้นงอแงไม่เลิกนั้น

     

                    แต่ว่า จียอนอยากให้พี่แจจุงอยู่เล่นกับจียอนนี่นา เด็กหญิงหน้างอง้ำด้วยเหตุเพราะว่าถูกขัดใจ เธอคว้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ตัวโปรดที่แจจุงเคยมอบให้เธอเมื่อวันเกิดปีก่อนมากอดแนบแน่น แจจุงถอนใจเบาๆก่อนจะบอกอย่างนิ่มนวลและอ่อนโยน

     

                    พี่ก็อยากจะอยู่กับจียอนนะครับ แต่ว่าวันนี้พี่ต้องกลับไปทำธุระจริงๆนะครับ 

     

                    แต่ว่า.... แม้ว่าตัวจียอนเหมือนจะเข้าใจแต่เธอก็ยังไม่อยากให้แจจุงกลับอยู่ดี เห็นเช่นนั้นร่างบางหน้าหวานก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

     

                    จียอนครับ...จียอนอยากทำให้คุณแม่ลำบากใจเหรอครับ แจจุงว่าต่อ พลางหันไปมองจีอึนที่ตอนนี้มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลำบากใจเต็มที่ และนั่นเป็นผลที่ทำให้เด็กหญิงต้องมองตามไปและก็เกิดรู้สึกผิดขึ้นมา จึงก้มหน้าลงเอาหน้าซบกับตุ๊กตาหมีตัวโปรดทันที และส่ายหน้าแทนคำตอบให้แจจุงช้าๆ


                   
    จียอนครับ เดี๋ยวพี่จะต้องกลับแล้วนะครับ เป็นเด็กดีขึ้นไปทำการบ้านแล้วก็เชื่อฟังพ่อแม่นะครับ แล้วไว้พี่จะมาเล่นด้วยใหม่นะครับ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนใจดีของชายหนุ่มทำให้เด็กหญิงยอมเชื่อฟังแต่โดยดี เธอเงยหน้าจากตุ๊กตาหมีแล้วยิ้มรับให้กับแจจุงอย่างสดใส

     

                    งั้นก็ได้คะ จียอนจะเป็นเกดี จียอนจะไปทำการบ้าน แล้วพี่แจจุงต้องรักษาสัญญานะคะ ต้องมาหาจียอนอีกนะคะ!!” เธอเอ่ยเสียงสดใสก่อนจะหิ้วปีกตุ๊กตาตัวโปรด แล้วรีบวิ่งขึ้นบนบันไดเพื่อไปทำการบ้านที่ห้องของเธอ โดยไม่ลืมที่จะโบกมืออำลาพี่แจจุงของเธอด้วย ชายหนุ่มโบกมือลาเด็กหญิงด้วยรอยยิ้มใจดี จนเด็กหญิงลับสายตาไปแล้ว

     

                    ขอบใจมากนะจ๊ะ แจจุง... จีอึนเอ่ยขึ้น

     

                    ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณจีอึน เรื่องเล็กน้อยน่ะครับ เขาตอบเสียงแผ่วนุ่ม หญิงสาวยิ้มรับน้อยๆก่อนจะยื่นซองบรรจุเงินค่าจ้าง พี่เลี้ยงเด็กให้กับแจจุง แต่เขากลับผลักมันออกพร้อมกับบอกว่า

     

                    ไม่ต้องหรอกครับ คุณจีอึน เรื่องแค่นี้เองครับ อีกอย่างผมเองก็รักการดูแลเด็กอยู่แล้วน่ะครับ เขาตอบ แต่จีอึนกลับยัดซองนั้นใส่มือของชายหนุ่มพร้อมกับบอกว่า

     

                    ไม่ได้หรอกจ๊ะ เพราะแจจุงมาช่วยดูแลจียอน น้าถึงมีเวลาว่างสำหรับทำงานมากขึ้น เพราะแจจุงแท้ๆเลยนะจ๊ะ

     

                    แต่ว่า....

     

                    ถ้าไม่รับ น้าจะถือว่าแจจุงไม่รับคำขอบคุณจากน้านะจ๊ะ

     

                    อ่า....งั้นก็ได้ครับ ขอบคุณนะครับคุณจีอึน งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ว่าแล้ว แจจุงก็ขอกลับบ้าน เขาเดินออกมาจากบ้านเล็กๆหลังนั้น พร้อมกับเดินไปตามถนนใหญ่ เพื่อกลับบ้าน...

     

                    แต่ไม่ว่าเดินอยู่ที่ไหนด้วยใบหน้าที่แสนสะดุดตาที่ชวนให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างต้องเคลิบเคลิ้มกันไป เลยทีเดียว แจจุงเดินไปเรื่อยเปื่อยขณะที่ต้องนึกเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย....

     

                    จนเขาเดินจนมาผ่านร้านหนังสือเก่าๆที่เขารู้สึกเหมือนว่าพึ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก....

     

                    ร้านนี้มาจากไหนเนี่ย... ด้วยความสงสัยดั่งเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ดูดให้เขาเข้าไปในร้าน ไม่ว่าจะมองไปทางซ้ายขวาเขาก็เจอแต่หนังสือเล่มเก่าๆ แบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งแบบที่เลิกพิมพ์ไปแล้วก็ยังมี ภายในร้านที่ทั้งโทรมและซอมซ่อนั้น มีชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้เก่าๆที่เหมือนจะพังลงมาให้ได้ จากความคิดของแจจุงแล้วคิดว่า คนนั้นคือเจ้าของร้าน นี่แหละ

     

                    แจจุงเดินวนไปรอบร้านและไปหยุดที่ชั้นหนังสือเก่าๆที่โยกเอนไปมาเหมือนจะพังครืนลงมาทับใส่ร่างบางๆของเขาให้จงได้ ดวงตากลมโตไล่เรียงไปทั่วชั้นแผงหนังสือ ทุกเล่มนั้นก็ดูไม่ต่างอะไรกันเท่าไหร ก็เป็นแค่หนังสือเล่มเก่าๆเท่านั้นเอง แต่แล้วสายตาของเขาก็ต้องหยุดและจับจ้องไปยัง....

     

                    หนังสือปกแข็งสีขาวสะอาด ซ้ำยังดูใหม่กว่าเล่มใด แจจุงหยิบมันออกมาอย่างพิจารณา ตัวเล่มสีขาวสะอาด ที่หน้าปกของมันถูกพิมพ์ชื่อเรื่องไว้อย่างดี....‘Verglas’.....

     

                    .....อะไรเนี่ย....รู้สึกว่า จะเป็นภาษาฝรั่งเศส....อ่านว่าอะไรนะ.....

     

                    ......ใช่ แวร์กลา....รึเปล่านะ.....

     

                    มือบางเปิดหนังสือนั้นเพื่ออ่านข้อความข้างใน ทว่าภายในกระดาษสีขาวสะอาดตานั้น กลับไม่มีอะไรเลยนอกจากกระดาษเปล่าๆ แจจุงลองเปิดไปเรื่อยๆจนหมดเล่ม หากแต่ก็ไม่มีข้อความใดเขียนไว้จนหน้าสุดท้ายของหนังสือ และนั่นทำให้ร่างเล็กแปลกใจมาก

     

                    สนใจหนังสือเล่มนั้นเหรอ พ่อหนุ่ม เสียงอันสั่นเนื่องจากอายุของชายชราเจ้าของร้านเอ่ยขึ้น เมื่อดวงตาที่แสนอิดโรยเพราะวัยชราภาพนั้นจับจ้องไปที่ร่างบางที่ยังไม่ยอมวางหนังสือเล่มนั้นลงเสียที....

     

                    เอ่อ....ก็ประมาณนั้นครับ....แต่ว่าทำไม...หนังสือเล่มนี้ถึงไม่มีอะไรเขียนเอาไว้เลยล่ะครับ ร่างบางถามขึ้น รอยยิ้เกี่ยวย่นปรากฏขึ้นบนดวงหน้าใจดีที่เต็มไปด้วยรอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่น ก่อนจะตอบไปว่า

     

                    หนังสือเล่มนั้น เป็นหนังสือพิเศษพ่อหนุ่ม....หากว่าเขียนคำอธิษฐานลงไปในสมุดพร้อมกับชื่อของพ่อหนุ่ม คำอธิษฐานของเธอก็จะเป็นจริง นั่นยิ่งทำให้แจจุงแปลกใจ เขาไม่ใช่เชื่ออะไรแบบนี้อยู่ด้วยสิ...เขาตั้งใจจะเก็บมันไว้ที่เดิม แต่ใจหนึ่งกลับเรียกร้องที่จะเอามันกลัไปด้วย การต่อสู้ระหว่างสองความคิดเป็นไปอยู่นานจนสุดท้ายร่างบางก็เลือกที่จะซื้อหนังสือเล่มเปล่านี้กลับไปด้วย

     

                    เล่มนี้เท่าไหรเหรอครับ? ร่างบางถามขึ้น ชายชราคลี่รอยยิ้มเหี่ยวย่นอีกครั้งก่อนจะตอบ

     

                    สำหรับเล่มนั้น ฉันยกให้พ่อหนุ่มเลยแล้วกัน

     

                    เอ๋? มันจะดีเหรอครับ คือผมเกรงใจ...

     

                    เอาไปเถอะพ่อหนุ่ม....เพราะว่าหนังสือเล่มนั้นมันรอเธอน่ะ...รอมาตลอดให้เธอเป็นคนมาซื้อมัน.... ชายแก่ตอบซึ่งตัวแจจุงเองก็ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย ยิ่งประโยคหลังนี่เขายิ่งไม่เข้าใจ....หนังสือไม่มีชีวิต....และหนังสือจะรอเขาได้ยังไง.....

     

                    พอเห็นหน้าตาสวยหวานที่ระคนไปด้วยความสงสัยชายแก่ก็ยิ้มอีกครั้งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งเหม่อลอย....

     

                    พ่อหนุ่มรู้ไหม....คนน่ะไม่ได้เป็นคนเลือกหนังสือ แต่หนังสือต่างหากที่เป็นคนเลือกเจ้าของๆมัน เพราะฉะนั้นตอนนี้หนังสือเล่มนั้นก็เป็นของเธอแล้ว แจจุงเห็นว่าต่อให้เขาอยากจะยื่นเงินเพื่อจ่ายค่าหนังสือนี่เท่าไหร แต่เจ้าของร้านคนนี้ก็คงจะไม่ยอมเป็นแน่ ร่างบางจึงเดินเข้าไปพร้อมกับยื่นถุงที่บรรจุขนมปังอ่อนนุ่มที่เขาซื้อมาเพื่อจะเก็บไว้เป็นมื้อเย็นของวันนี้ให้กับชายชราไป

     

                    งั้น....ถ้าเกิดว่าคุณจะไม่รับเงินของผม แต่ยังไงก็รับขนมปังชิ้นนี้ไว้ด้วยนะครับคิดเสียว่าเป็นคำขอบคุณจากผมแล้วกันนะครับ ชายชรารับขนมปังชิ้นนั้นไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนอีกครั้ง ร่างบางคลี่ยิ้มสวยออกมา ก่อนจะที่บอกลาและเดินออกจากร้านไปปล่อยให้ชายชรามองตามไปด้วยรอยยิ้มราวกับพึงพอใจ....

     

                    ในที่สุด....แวร์กลาก็ได้พบกับคนที่มันรอคอยแล้ว.... เจ้าของร้านพึมพำเสียงค่อย....

     

     

                    ....และตอนนี้วังวนแห่งโชคชะตากำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว.....

     

     

     

    *********************************************************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×