ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:TVXQ]....Be my last....(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 51



    [Fic] Be My Last
    .....

     

    Paring: Kiss Couple, YunJae, and XiahX....

     

    Rate: PG 15- NC 17

     

    Style: Romantic

     

    Author: Mio_MinMin

     

     

     

                .....เมื่อไหรกันนะ......

     

                    .....ที่จะได้พบกับคนที่ใช่......

     

                    .....เมื่อไหรกัน.....

     

                    .....ที่จะได้พบคนที่เป็นของเราเอง......

     

                    .....เมื่อไหรกัน.....

     

                    ......ที่จะได้พบ คนที่เป็นเจ้าของหัวใจดวงนี้......

     

     

     

    Intro:

     

     

                ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสีตามริมทางเพื่อโฆษณาร้านเหล้าผับบาร์มากมาย เชิญชวนให้พวกนักย่ำราตรีทั้งหลาย เข้าไปนั่งท่ามกลางแสงสีที่ชักชวนให้อยู่จนรุ่งสาง หากมองเข้าไปในร้านๆหนึ่งที่มีการตกแต่งอย่างโดดเด่น ดูคลาสสิกแต่ทว่ากลับดูเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก.....แม้จะจัดร้านไว้สวยงามเพียงใด แต่....เพราะบรรยากาศชวนเหงาใจนั่นเองทำให้มีคนเข้าไปน้อยเต็มทน.....

     

                    และมองไปยังเคาวน์เตอร์บาร์ เบื้องหน้าของบาร์เทนเดอร์ที่กำลังผสมเหล้าคอกเทลในมืออย่างคล่องแคล่วเพื่อบริการลูกค้า น้ำสีสวยถูกเสิร์ฟออกไปแก้วแล้วแก้วเล่า แต่เบื้องหน้าของบาร์เทนเดอร์คนนี้ กลับได้แต่ยื่นแก้วเพื่อให้บาร์เทนเดอร์คอยรินน้ำสีอำพันให้ไม่หยุดหย่อน แก้วแล้วแก้วเล่า.....

     

                   

                    โถ่โว้ย!!!!!! ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้!!! ทำไมนายต้องทิ้งฉันไปด้วยจุนซู!!!!!”

     

                    ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่า ทว่ากลับมีแต่เพียงความเมามายทำให้ใบหน้าหล่อนั้นดูไม่มีเสน่ห์เท่าเดิม มือแกร่งกำหมัดแน่นก่อนจะทุบลงกับโต๊ะอย่างไม่เกรงว่ามือจะเจ็บเลยแม้แต่น้อย....ดวงตาคมจ้องมองไปยังแก้วใสบรรจุของเหลวสีอำพันด้วยท่าทางเคียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง  ในหัวใจครุกกรุ่นไปด้วยความสับสนและความโกรธาที่ไม่มีทางจะสิ้นสุดลงได้เลยแม้แต่น้อย....

     

     

     

                    ย้อนไปเมื่อประมาณ 4 โมงเย็นของวันนี้........

     

     

                    ปาร์ค ยูชอน หนุ่มรูปหล่อบ้านรวยซึ่งกลับมาจากการไปอยู่อเมริกาปีครึ่งเกือบสองปี ในที่สุดก็ได้กลับมาอยู่ที่เกาหลีสักที สถานทีที่จากไปนาน ที่สำคัญตัวเขาคิดถึงคนรักใจจะขาด ถึงจะติดต่อกันเป็นประจำแต่มันก็ไม่เท่ากับที่จะได้พบตัวจริง.....และมันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่คนรักของเขาคงคิดแบบเดียวกันถึงได้โทรเรียกให้เขาออกไปหาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง.....

     

                    ทันทีที่เขาไปถึงร้านกาแฟเล็กๆที่จัดแต่งอย่างมีสไตล์เก๋ไก๋ มองไปรอบด้านก็มีแต่พวกวัยรุ่นแห่กันเข้ามานัดนัดพบกันที่นี่ ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆร้านเล็กน่ารัก นี้และแล้วก็ได้พบเจ้าของเรือนร่างเล็กน่าทะนุถนอมที่กำลังนั่งรอเขาอยู่.....

     

                    จุนซู!!!” ยูชอนร้องเรียกลั่น นั่นทำให้เจ้าของนามหันดวงหน้าน่ารักน่าหยิกมาทางต้นเสียงเรียก เมื่อได้เห็นใบหน้าของแฟนตัวเองที่ถึงจะผ่านไปเกือบสองปี แต่ก็ยังคงน่ารักกระชากใจเขาเป็นอย่างยิ่ง....ร่างสูงรีบเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามของแฟนตัวเองอย่างรีบร้อน ความรู้สึกตื่นเต้นเอ่อล้นขึ้นมาในใจอย่างช่วยไม่ได้เลยทีเดียว

     

                    เป็นยังไงบ้างจุนซู เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ท่าทางนายสบายดีนะ คำถรามพรูออกมาจากปากห้อยๆของนายไก่หน้าหล่อไม่มีหยุดจน คนน่ารักแทบจะตอบไม่ทัน....

     

                    อ่ะ....อืม.....ก็.....ประมาณนั้น.......แล้วนาย.....เอ่อ....พึ่งกลับมานี่ว่างรึเปล่า? คนน่ารักเจ้าของนาม คิม จุนซู เอ่ยขึ้นขณะที่ดวงตาหรี่เล็กแต่ก็นับว่าเป็นคนที่ตาสวยคนหนึ่งเลยทีเดียวถามแฟนของตนเองด้วยท่าทางเกร็งๆผิดปกติ แถมใบหน้าก็ดูไม่ดีใจเท่าไหรที่เห็นเขากลับมาจนน่าแปลกใจ.....

     

                    ว่างอยู่แล้ว ถ้าเพื่อจุนซูล่ะนะ คนหล่อพ่อรวยเอ่ยบอกเสียงหวานพลางขยับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ชนิดที่ว่าไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย.....คนตัวเล็เพียงแค่ยิ้มรับน้อยๆ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเลี่ยงที่จะไม่สบตาเขาเลยแม้แต่นิดเดียว....

     

                เพราะไม่ได้คิดเอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย....เขายังรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก! ไม่ใช่เพราะเกิดมาหน้าตาดี....ไม่ใช่เพราะเกิดมาบ้ารวย แต่เพราะเกิดมาแล้วได้เป็นแฟนกับคนน่ารักอย่างจุนซูต่างหากเขาถึงได้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีและมีความสุขแบบนี้.....

     

                ยูชอน.... เสียงของคนรักทำให้เขาตื่นจากภวังค์ขึ้นมา ดวงหน้าหล่อจ้องประสานตรงๆกับดวงหน้าใสน่ารักของอีกฝ่าย ด้วยแววตาเข้าทำนองถามว่า มีอะไร?.....

     

                    คือว่า....ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกกับยูชอนนะ....

     

                    หืม....ครับ เรื่องอะไรเหรอครับ จุนซูยูชอนจ้องมองอีกฝ่าย อย่างพยายามตั้งใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะพูดออกมา....

     

                    คือว่า....เราเลิกกันเถอะ..... เพียงเท่านั้นเหมือนกับมีอะไรฟาดเปรี้ยงเข้ากลางใจของตนอย่างปาร์ค ยูชอนทันที

     

                    หมะ....หมายความว่าไงจุนซู!! เกิดอะไรขึ้น! ทำไมนายถึงพูดแบบนั้น!” ร่างสูงกระแทกเสียงถามอย่างรุนแรงด้วยความไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมแฟนของเขา...ถึงได้พูดเช่นนั้น....ดวงตาของคนน่ารักคลอเบ้าไปด้วยหยาดน้ำใสที่เอ่อล้น ขณะจ้องมองคนที่กำลังจะป็นอดีตคนรักอีกในไม่ช้า....

     

                    ก็อย่างที่บอก เราสองคนไปกันไม่ได้หรอก....ที่สำคัญ....... จุนซูหยุดนิ่งเหมือนกับมีอะไรมาจุกที่คอจนเขาไม่สามารถเอ่ยอะไรออกไป ยูชอนกำหมัดแน่นก่อนจะถามออกไป ดวงหน้าหล่อฉายความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด และในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา นั่นคือความพยายามที่จะระงับอารมณ์โกรธเอาไว้....

     

                    นาย...มีคนอื่นสินะ.....ช่วงเวลาที่ฉันไปอยู่อเมริกา....นายรอฉันไม่ได้เลยรึไง!”

     

                    ใช่....เพราะนายปล่อยให้ฉันรอนาน นายรู้ไหมว่า ฉันอ้างว้างแค่ไหน!! ฉันรู้สึกยังไง!!” จุนซูนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะตวาดใส่กลับเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มขึ้นเสียงใส่เขา....

     

                    แล้วทำไมนายไม่บอกล่ะ ฉันก็ติดต่อไปหานายไม่ใช่เหรอ?! ที่สำคัญตอนนี้ฉันก็กลับมาแล้ว เราจะมาเริ่มกันใหม่อีกไม่ได้เลยรึไงกัน....ยูชอนถาม แน่นอนว่าดวงตาคมนั้นพยายามจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนร่างเล็ก เหมือนกับต้องการหาคำตอบ และหวังในคำตอบที่จะได้รับ....แต่ก็เปล่าเลย....เมื่อริมฝีปากเล็กๆนั้นให้คำตอบเขา....

     

                    มันสายไปแล้วล่ะ.....มันสายไปแล้ว....ยูชอน.....ตอนนี้ฉัน....ฉันมี อึนฮยอก แล้ว....ฉันต้องไปแล้ว...ลาก่อน ยูชอน...... ร่างบางพยายามปาดน้ำตาออกจากดวงตาคู่สวยก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้ร่างสูงได้พูด หรือพยายามรั้งอะไรไว้

     

                    ยูชอนได้แต่มองคนรักเดินจากไป......คนรักที่เฝ้าจะมาเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน.....นับแต่วันที่ต้องไปอยู่ต่างแดนดินบ้านเกิด.....

     

     

                    เรื่องเลวร้ายที่สุดตั้งแต่กลับมาเกาหลีอีกครั้งของ ปาร์ค ยูชอน คือ คนที่เขารักมากที่สุดบอกเลิก......

     

                   

                    และนั่นเป็นเหตุผลที่คนอย่าง ปาร์ค ยูชอน ต้องมานั่งดื่มเหล้าพล่ามนู่นพล่ามนี้อย่างน่าสมเพชในบาร์ที่เงียบเหงาแห่งนี้ ผ่านไปนานเข้า บาร์เทนเดอร์ที่รินเหล้าให้ช้าไม่ได้ดั่งใจ ใส่เขาก็จัดการสั่งเหล้ามากมายให้มากองไว้บนโต๊ะก่อนจะจัดการรินมันแก้วใสของตัวเองอย่างไม่เสียดายเงิน.....

     

                    โดยได้แต่หวังว่า.....น้ำสีอำพันเหล่านั้น และความเมามายที่เกิดจากมัน จะช่วยทำให้เขาลืมความขมขื่นในวันนี้ไปได้เท่านั้น......

     

                    เวลาล่วงเลยไปขวดแล้วขวดเล่าของเหลวสีอำพันที่ถูกกลืนลงคอไปอย่างที่ยูชอนไม่รู้สึกพอ....ดวงตาปรือด้วยความเมามายที่เกิดขึ้น ทำให้เขาละจากขวดเหล้าและแก้วขึ้นมาสูดลมหายใจอยู่ครู่ เขามองไปรอบด้านแทบจะไม่มีคนอยู่ในร้านเลย....

     

                    ....เฮอะ....คงจะมีแต่เราที่ต้องมานั่งอยู่ในร้านเหงาๆแบบนี้....น่าสมเพชเป็นบ้า!.....

     

                    ร่างสูงคิดอย่างใจลอย แต่แล้วดวงตาคู่คมที่เริ่มเบลอเพราะความเมามายก็หันไปพบกับเด็กหนุ่มหน้าหวานอีกคนที่นั่งตรงเคาวน์เตอร์ไม่ไกลจากเขานัก กำลังซดน้ำสีอำพันแก้วใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตาย...และยัง....

     

     

                    ทำไม!!! พี่ยุนโฮถึงไม่สนใจผมบ้าง!!!! ทำไมถึงไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของผมเลย!!!!”

     

                    เสียงออกจะหวานหากแต่ยังคงฟังเหมือนเด็กๆ แถมยังโวยวายอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ได้ศัพท์ ตัวยูชอนเองก็ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหรนัก เพราะตัวเขาเองก็เริ่มเมาหลังจากที่ดื่มมาหนักพอดู....

     

                    ....ก็คงเป็นพวกอกหักมาพอกัน.....

     

                    คุณเองก็อกหักมาเหรอครับ? ด้วยความเมามายไม่ได้สติ ทำให้ยูชอนชักนึกสนใจคนที่มัวแต่พล่ามไม่เลิกนั่น เขาหันไปถาม ซึ่งดูเหมือนว่าคนหน้าหวานจะรู้ตัวว่าถูกถามแม้จะเมาแล้วก็ตามที ดวงหน้าหวานท่ามกลางแสงไฟมืดๆตามบรรยากาศเหงาๆของบาร์แห่งนี้ หันมามอง...ดวงหน้าหวานน่ารัก ดวงตากลมท่าทางจิ้มลิ้มนั้นหันมามองทางเขาอย่างงงๆอยู่ครู่ก่อนจะตอบไปหลังจากทวนคำถามของร่างสูงอยู่ในใจแล้ว....

     

                    ครับ...คุณก็อกหัก....ง้าน....หรอ...... เสียงฟังดูยานคางเพราะความเมามายของน้ำสีอำพัน....แต่ก็ยังคงดูหวานน่าฟังอยู่ดี.....

     

                    ....น่ารัก....เห็นคนน่ารักๆแบบนี้ แล้วก็ชวนให้นึกถึงจุนซู......

     

                    ยูชอนคิดในใจก่อนจะเค้นหัวเราะออกมาอย่างสมเพชกับตัวเอง ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงนึกถึงอดีตคนรัก แม้ขณะนี้เขาจะเมามายขนาดนี้แล้วก็ตาม....

     

                    ฮะๆ...มันมีอะไรหรอกครับ....ก็แค่ถูกแฟนทิ้งน่ะครับ....คุณคงจะเคยได้ยินใช่ไหมล่ะ.....รักแท้....แพ้....ใกล้ชิด.... ร่างสูงเอ่ยออกไป เหมือนกับเป็นการระบายความรู้สึกของเขาไปในตัว เหมือนอีกฝ่ายจะตั้งใจฟัง ก่อนจะตอบกลับไป....

     

                    คุณน่าสงสารจังนะครับ......

     

                    ไม่หรอกครับ....น่าสมเพชซะมากกว่า ฮะๆ คุณคิดดูซิ! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ผมทำอะไรให้เขา เขาถึงได้มาบอกเลิกผม! ฮะๆ ยูชอนยังคงพยายามหัวเราะให้กับตัวเอง ทั้งที่เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่ซึมชื้นอยู่ทั่วขอบตา...ยิ่งรู้ตัวแบบนี้ก็ยิ่งสมเพชในความน่าทุเรศของตัวเอง....

     

                    ไม่ร้อกกก....ของคุณน่ะ....ถูกแฟนทิ้ง....แต่ผมสิ.....ยังไม่มีโอกาส.....แม้แต่จะบอกรักเลย....แถมเขา...เขายัง....ให้ผมช่วยจีบคนๆหนึ่งให้ด้วย และคุณว่าตลกไหม ผมช่วยให้เขารักกัน แต่ผมกลับต้องทนเก็บไว้แบบนี้.... อีกฝ่ายระบายความในใจออกมา ก่อนจะแตะแก้วใสบรรจุน้ำสีอำพันไว้เต็มแก้วก่อนจะซดมันจนหมดในทีเดียว มือหนึ่งของยูชอนคว้าขวดบรรจุเหล้าของตัวเองก่อนจะยื่นไปรินใส่แก้วของอีกฝ่าย แล้วจึงแก้วของตัวเองขึ้น....

     

                    งั้นผมเลี้ยงแก้วนั้น....มาร่วมดื่มให้กับความน่าสมเพชของตัวเองกันเถอะครับ.... ร่างบางหันมาส่งรอยยิ้มหวานให้ และก็ช่างเป็นรอยยิ้มหวานจับใจสำหรับยูชอนในตอนนั้นเลยก็ได้ ก่อนจะยกแก้วขึ้นมา...

     

                    ขอบคุณครับ....แล้วก็ขอดื่มให้กับคุณที่น่าสงสาร..... ร่างบางว่าขึ้นก่อนจะชนแก้วกับอีกฝ่าย และทั้งสองก็ดื่มแก้วนั้นไปพร้อมๆกัน....

     

                    .....ทั้งความเมามาย....รสชาติของเหล้า....และความน่าสมเพช ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด.....

     

                    ดวงตาของร่างสูงเริ่มรู้สึกหนักอึ้งก่อนจะไม่รู้สึกอะไรอีก.....

     

     

                   

                    นี่คุณ....คุณ!!”

     

                    เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าปลุกให้ร่างสูงตื่นขึ้นจากห้วงนิทราขึ้นมา ความรู้สึกปวดที่หนักจนหัวแทบจะระเบิดจู่โจมเขาแทบจะในทันที ยูชอนกวาดตามองไปรอบด้านและก็ได้พบว่าบาร์แห่งนี้เริ่มเก็บแล้ว เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเรือนแพงของตน.....01:30.....ตีหนึ่งครึ่งแล้ว.....

     

                    คือ ผมจะต้องเก็บร้านแล้วครับ ถ้ายังไงก็ช่วยจ่ายเงินด้วยครับ....

     

                    อ่ะ...เออ....แล้วเท่าไหรล่ะ.... บาร์เทนเดอร์หันไปนับขวดเหล้า และบอกราคาให้ร่างสูงซึ่งก็แพงอย่างน่าตกใจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนบ้านรวยอย่างยูชอนขนหน้าแข้งร่วงได้แม้แต่เส้นเดียว และเมื่อเขาจะลุกออกไปจากร้านแล้วนั้น....

     

                    นี่คุณ!”  เสียงของพนักงานอีกคนดังขึ้น พร้อมกับพยายามเขย่าเรียกคนๆหนึ่งให้ตื่นขึ้นมาเช่นกัน ดวงหน้าคมหันไปมองตามเสียงก็พบว่า พนักงานอีกคนหนึ่งกำลังเขย่าร่างบางที่นอนฟุบเคาวน์เตอร์อย่างชนิดที่จะไม่ยอมตื่นง่ายๆอีกต่างหาก....

     

                    เอ่อ....ขอโทษนะครับ....คือว่า ผมเห็นคุยคนนั้นเขาคุยกับคุณเมื่อหัวค่ำน่ะครับ.... บาร์เทนเดอร์ผู้เป็นคนรินเหล้าให้กับร่างสูงเอ่ยขึ้น เพียงแค่นั้นแหละ....ปาร์ค ยูชอน ก็รู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขา.....

     

                   

                    หลังจากการเจรจากับพวกบาร์เทนเดอร์ และ พนักงานในบาร์ อยู่นาน ก็ต้องลงเอยด้วยที่ว่า ปาร์ค ยูชอน ต้องจ่ายค่าเหล้าให้กับร่างบางที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง นับว่าเขายังโชคดีที่คนหน้าหวานนี่ดื่มไปไม่เยอะ เรียกว่า ดื่มไม่ถึงหนึ่งในสิบที่เขาดื่มไปเลยด้วยซ้ำ.....แต่กลับเมาแอ๋ อย่างนี้แปลว่าคงคออ่อน......

     

                   

                    .....แค่เรื่องจ่ายค่าเหล้าแทน เขายังพอรับได้ แต่ทำไม......

     

                    .....เขาถึงต้องแบกเจ้าคนหน้าหวานนี่ออกมาด้วย!!!!.........

     

               

                    ร่างสูงเดินไปอย่างยากลำบากเมื่อที่หลังก็ต้องแบกเจ้าคนตัวบางนี่ไปด้วย ดีที่ยังไม่หนักเท่าไหร....แต่ปัญหามันอยู่ที่เขาไม่รู้ว่า เจ้าคนหน้าหวานนี่มันเป็นใคร แล้วอยู่ที่ไหน! แถมนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย ตัวเขาเองก็ง่วงนอนจะแย่อยู่แล้ว....

     

                    นี่คุณ....ตื่นเถอะ...... ความพยายามรอบที่ล้านของร่างสูงที่พยายามจะเรียกให้คนน่ารักนี่ตื่นให้ได้ แต่ไร้ผล ยูชอนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เขาอยากจะนอนเต็มแก่แล้วตอนนี้ แต่บ้านของเขาก็ไกลจากที่นี่มาก ยังไงคืนนี้ก็ดึกแล้ว เขาควรจะหาที่นอนซักที่.....และเมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจึงกวาดตามองอีกครั้ง ก็พบโรงแรมหรูอยู่แห่งหนึ่ง....

     

                    เขาไม่รีรอเลยที่จะเดินเข้าไปรีจิสทันที แต่เนื่องจากเกิดเหตุบ้าอะไรเขาก็ไม่รู้ที่บังเอิญว่าโรงแรมนี้เหลือห้องสวีทหรูอยู่เพียงห้องเดียว ไอ้เรื่องแพงเขาไม่แคร์หรอก แต่ที่เขารู้สึกว่ามันแย่เนี่ย....ก็เพราะต้องนอนร่วมกับใครก็ไม่รู้นี่ต่างหาก!!!

     

     

                   

                    ห้อง 5403......

     

                    ในที่สุดปาร์ค ยูชอน ก็มาถึงห้องพักจนได้ เขาไม่สนใจหรอกว่าห้องนี้มันจะรู้ขนาดใหญ่แค่ไหน หรือ หรูหราเพียงใด สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือ เตียงนอนขนาดใหญ่เบื้องหน้า เขาวางคนหน้าหวานที่อยู่บนหลังของเขาอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะหย่อนตัวเองลงตามไป....

     

                    เฮ้อ.....ง่วงชะมัด ยูชอนบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะมองไปยังหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เขาแทบจะไม่ได้นอน แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงสม่ำเสมอ เปลือกตาปิดสนิท....หลับสนิทจริงแฮะ....หนุ่มหล่อมองสำรวจดูดีๆก็ยิ่งรู้สึกว่าร่างบางคนนี้น่ารักใช่ย่อย....ดวงหน้าหวาน ผิวขาวแต่ก็ออกสีน้ำผึ้งนิดๆ ท่าทางใบหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ ดูน่าทะนุถนอม จนชวนให้นึกถึงใครที่เขาอยากจะลืมไปเสีย.....

     

                    ไร้สาระ...... เขาบ่นเบาๆกับตัวเอง....ดวงตาคู่คมค่อยๆปิดลงอย่างเชื่องช้าด้วยความเหน็ดเหนื่อย และเมามายที่ยังคงคั่งค้างอยู่ ก่อนจะเอนกายลงนอนข้างๆคนหน้าหวานนั่น มือหนึ่งก็ควานหาผ้าห่มและห่มมันให้เขา ทั้งยังเผื่อให้คนหน้าหวานที่นอนอยู่ข้างๆเช่นกัน....

     

     

                    .....ถ้าเลือกได้....ฉันอยากให้วันนี้มันเป็นแค่ฝันร้าย.....

     

                    ......อยากให้มันเป็นแค่นั้นจริงๆ จุนซู......

                   

     

                    เวลา ตี 2: 45 นาที ในที่สุด ปาร์ค ยูชอนก็ได้นอนหลับ....โดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในวันพรุ่งนี้.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×