ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:TVXQ]....Be my last....(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : ::Chapter 4::

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 51


     

    Chapter 4:

     

                    อีกหนึ่งวันที่สดใสหลังจากที่จบจาการเลคเชอร์ วิชาทฤษฏีดนตรีที่ตัวเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร เนื่องด้วยต้นทุนเดิมแล้วเขาเป็นคนที่ชอบการปฏิบัติมากกว่า....และนี่เขาเองก็กำลังจะมุ่งตรงไปยังห้องซ้อมเปียโนที่ได้ชื่อว่าเป็นห้องส่วนตัวสำหรับเขา....

     

                    ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงอยู่ในหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นคณะแพทย์ศาสตร์ คณะนิเทศ หรือแม้แต่คณะดนตรี หรือ ดุริยางคศิลป์ก็เช่นกัน ในกรณีของคณะดนตรีนั้นมีความพิเศษอยู่ที่ว่านักเรียนในแต่ละสาขาเอกจะได้มีห้องซ้อมดนตรีเป็นของตัวเอง.....

     

                    ระหว่างทางที่จะเดินไปห้องซ้อมดนตรี เพราะหลังจากนี้แล้วเขาเป็นคาบว่างไม่มีชั่วโมงที่ต้องเข้าไปเล็คเชอร์ เขาก็ตั้งใจจะไปใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการซ้อม เพื่อพัฒนาฝีมือของตนเองให้ดียิ่งขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งคือไม่ต้องการมีเวลามานั่งคิดมากถึงจุนซูให้เจ็บปวด.....

     

                    แต่เมื่อจะเดินเข้าไปในตึกที่ห้องซ้อมดนตรีนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรที่เขาอยากทำมากกว่าแล้ว...จะว่าไปวันนี้ยังไม่ได้ไปแหย่คนน่ารักๆนั่นเลยนี่นา....ไปแหย่ให้โกรธเล่นหน่อยดีกว่า.....

     

                    ว่าแล้วคุณชายปาร์คก็คลี่รอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินออกไปทางเดินเดิมที่มุ่งเป้าไว้ แล้วเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ไปยังทางเดินที่เชื่อมไปยังอาคารเรียนของคณะแพทย์ศาสตร์ ซึ่งระหว่างทางนั้นจะมีโรงอาหารกลางแจ้งคั่นกลางอยู่ ยูชอนลองกวาดสายตาไปมา เผื่อว่าร่างบางที่เขากำลังนึกถึงอยู่จะมาอยู่แถวนี้เหมือนกัน....

     

                    และ....โป๊ะเช๊ะ!!!

     

                    เขาเห็นเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนนั้น กำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนอีกสองสามคนอย่างออกรสชาติ คุณชายปาร์คก็เตรียมเข้าไปแหย่ไปแกล้งให้หายเหงาปากเสียหน่อย ก็ต้องหยุดนิ่งลงเมื่อเห็นเจ้าตัวที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส พร้อมรอยยิ้มสวยเปื้อนบนใบหน้า และดูเหมือนเจ้าตัวจะปล่อยยิ้มเรี่ยราดไปนิด เพราะไม่ใช่แค่ตัวเขาที่เผลอเคลิ้มไปกับรอยยิ้มน่ารัก แต่ยังมีอีกหลายคนแถวนั้นที่จะมองร่างบางโดยที่ชางมินไม่ได้รู้สึกตัวเลย....

     

                    ....น่ารักจัง.....

     

                    ยูชอนเริ่มสาวเท้าเข้าไปหาร่างบางโดยที่ไม่ให้รู้ตัว และในขณะเดียวกันที่ชางมินเองก็คงไม่ได้รุ้สึกถึงใครบางคนที่เข้ามาใกล้เลยแม้แต่น้อย....

     

                    ฮะๆ อะไรของนายน่ะซองมิน~” ร่างบางกำลังหัวเราะร่าในความเปิ่นของเพื่อนหน้าหวานที่นั่งใกล้ๆกันซึ่งตอนนี้เป่าลมเข้าแก้มให้มันป่องๆดูแล้วน่ารักอย่างแรง...

     

                    อะไรอ่ะ ชางมินอย่ามาว่าเค้านะ!!” เจ้าของชื่อ ซองมิน เอ่ยขึ้นอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของตนชักจะขำแรงไปแล้วมั้ง....

     

                    ก็มันจริงอ่ะ ใครที่ไหนเขาเอาแบงค์กาโม่ใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์แล้วจ่ายค่าอาหารแบบนั้นล่ะ จริงไหม รยออุค และแล้วคนน่ารักก็ยังไม่ยอมทีจะหัวเราะลงเลย ขณะหันไปหาความเห็นจากเพื่อนหน้าหวานท่าทางเรียบร้อยอีกคน....

     

                    อืม...ก็จริงนะ ซองมินน่ะเอ๋อชะมัด คำว่าที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากเพื่อนสุดเรียบร้อย ก็ยิ่งทำให้ซองมินงอนขึ้น แล้วเปลี่ยนไปหาพรรคพวกอีกคนที่กำลังดูดน้ำส้มผ่านลำคออย่างไม่สนใจอะไรเท่าไหร....

     

                    ทงเฮอยู่ฝ่ายฉันใช่ไหม? ซองมินหันไปส่งสายตากระพริบปริบๆ อย่างมีความหวังกับเพื่อนอีกคนที่ละจากการดูดน้ำส้มมองหน้าของเพื่อนที่เหมือนกระต่ายตัวเล็กที่สงสายตาปิ๊งๆมาหาเขาอย่างออดอ้อน สลับกับเพื่อนหน้าหวานสุดแสนน่ารักที่ยังคงพยายามกลั้นหัวเราะไม่เลิก....

     

                    อืม....ฉันขออยู่ฝ่ายชางมินดีกว่านะ^^” ทงเฮว่ายิ้มๆ ขณะที่ทำเอากระต่ายน้อยแทบร้องไห้.....ไม่มีใครเข้าข้างเค้าเลย...คยูฮยอนช่วยเค้าด้วย~~~.......และไม่วายก็พาลไปคิดถึงแฟนสุดหล่อที่ตอนนี้ยังติดพันเล็คเชอร์อยู่.....

     

                    ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่สนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆนี่คงจะเป็นเวลาเดียวที่เขาจะลืมความเศร้าในหัวใจที่เกี่ยวกับพี่ยุนโฮไปได้นั่นแหละนะ.....

     

     

                    ~หมับ~!!!

     

                    ขณะที่ร่างบางกำลังสนุกสนานกับการหยอกล้อกระต่ายน้อยแสนน่ารักอยู่นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนของใครบางคนที่เข้ามาโอบกอดเอวของเขาอย่างถือดีที่ข้างหลัง และไวเท่ากับความคิดชางมินรีบหันขวับกลับไปและแว๊ดเขาใส่ตัวการทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าของมือปลาหมึกเนี่ยใคร....

     

                    คุณยูชอน!!! ทำอะไรของคุณน่ะ!!” ร่างบางตะโกนใส่เสียงดังอย่างไม่อายใคร ขณะที่มือบอบบางพยายามแกะมือหนึบๆนั้นออก แต่ด้วยเพราะแรงที่น้อยกว่า และประสบการณ์อันน้อยนิดที่จะต่อสู้กับพวกหื่นโรคจิต(?) จึงทำให้ไม่ว่าจะทำยังไงก็แกะไม่ได้เสียที....

     

                    ก็....กอดไง ไม่รู้จักเหรอ? นอกจากจะเพิกเฉยต่อคำต่อว่าของคนน่ารักในอ้อมกอดแล้ว ยังมีการตอบแบบชวนกวนประสาทอีกต่างหาก....

     

                    รู้!!! ปล่อยซักทีเซ่!!!” ชางมินตอบกระแทกๆด้วยความรู้สึกที่เหลือทนอย่างแรง กับความกวนของตาไก่บ้านี่! ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนพี่ยุนโฮนะ....จะ.....จะ.....จะอะไรดีอ่ะ.....เอาเป็นว่าได้เห็นดีกันแน่!!!....

     

                    หืม? รู้เนี่ยแน่เหรอ....ว่า กอดหมายถึงอะไร ร่างสูงของคนหล่อเอ่ยอย่างยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด ยิ่งไอ้ประโยคหลังที่มากระซิบแถวๆใบหูชวนให้จั๊กจี้ แถม...แถม...แถม ไอ้ความหมายที่ส่อเนี่ย เด็กอัจฉริยะอย่างเขามีเหรอจะไม่รู้ว่าเจ้าตัวหมายความว่ายังไง กลายเป็นว่าร่างบางต้องหน้าแดงขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยความอาย....

     

                    ทางคนร่างสูงเอง ที่เห็นดวงหน้าหวานกำลังแดงสุกไม่ที่อย่างน่ารัก ก็ทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบางๆบนมุมปากก่อนที่จะเข้าไปเอ่ยกระซิบข้างใบหูอีกครั้ง....

     

                    งั้นก็ช่วยบอกหน่อยสิ ว่าแปลว่าอะไร....ว่าไงชางมิน~” ยิ่งโดนถามเข้าไปเรื่อยๆแบบนี้ ร่างบางก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก ทั้งโกรธ ทั้งอาย ตอนนี้เขาก็แยกไม่ออกเสียแล้วว่ากำลังหน้าแดงเพราะอะไรกันแน่....และขณะที่เหมือนว่าทั้งสองจะลืมไปแล้วว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน....

     

                   

                ชะ.....ชางมิน~~ นายมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหรอ่ะ!!” 

                   

                    คำถามที่ชวนให้เพื่อนรักจัดการเสยสักทีให้หายอายว่าขึ้นจากกระต่ายน้อยที่เลิกซึมเรื่องเก่าแล้วเข้าสู่ประเด็นใหม่ได้อย่างรวดเร็วจนน่ากลัว....

     

                    จะบ้าเหรอ!! ฉันไม่คิดจะเอาคนหื่นกามแถมปากห้อยพรรณนี้ไปเป็นแฟนหรอก!” ปากก็ทำเป็นว่าใส่เพื่อนคนน่ารักที่ถามอะไรออกมาไม่ถูกกาลเทศะ แต่มันก็กระทบคนที่ยังคงกอดเขาเป็นมือปลาหมึก ชวนให้ชางมินแอบสะใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นใบหน้าของคนถูกว่าเริ่มตีหน้าเบ้อย่างโมโห เขาก็ยิ่งสะใจ!

     

                    หืม....เมื่อกี้ ชางมินพูดว่าอะไรนะครับ..........นี่นาย....ถ้านายยังว่าฉันอีกล่ะก็ ฉันจะเอาเรื่องที่นายไปบาร์เหล้าให้แฉให้ยุนโฮฟังนะจะบอกให้.... ประโยคแรกเอ่ยเสียงหวานจ๋อย แถมยังส่งสายตาไปให้ร่างบางอย่างหยาดเยิ้ม และไม่วายที่จะว่งสายตาหวานๆเจ้าชู้นั้นไปให้กับเพื่อนหน้าตาหวานสวยของชางมินอีก 3 คน....ซึ่งแต่ละคนเริ่มออกอาการเขินอายม้วนกันเป็นแถบ....

     

                    .....ท่าทางเสน่ห์ของคาสโนว่าก่อนจะเจอจุนซูยังไม่หายไปนะเนี่ย......

     

                    ไอ้ประโยคแรกเนี่ยดูไม่เป็นปัญหา แต่ประโยคหลังที่กระซิบเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ต่อให้โง่ก็ยังรู้นี้ขู่เขางั้นเรอะ!!!!!!!!! ชางมินรีบหันไปมองร่างสูงเจ้าปัญหาเพื่อท้าทายแต่ทว่าสายตาที่ส่งมาให้เขานั้นไม่ได้มีท่าทีของการขู่เลย...แต่มันกะเอาจริงเลยต่างหาก!!! เขาจึงได้แต่กัดริมฝีผากอิ่มสวยอย่างขัดใจที่ต้องพ่ายไอ้ไก่ปากห้อยนี่ซะได้!!!

     

                    เอ่อ.....ชางมิน นี่คือ....... รยออุคผู้เรียบร้อย เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตั้งเนิ่นนานแล้ว ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคนรูปหล่อที่อยู่ๆก็มาทำสวีท(?)กับเพื่อนรักของเขาต่อหน้าเขาแบบนี้....

     

                    คือ....เขาเป็น......

     

                    ปาร์ค ยูชอน ครับ อยู่ปี 2 คณะดนตรี ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคนสวย~” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้ทันช่วยแนะนำให้ ตัวก็แนะนำตัวเองเสร็จสับ ยังไม่พอพี่แกยังส่งยิ้มพิฆาตที่ทำให้หัวใจของสาวๆและหนุ่มหน้าหวานหลายๆคนต้องตกเป็นของพี่แกไปให้เรียบร้อย ทำเอารยออุคผู้แสนอินโนเซนต์และเรียบร้อยถึงกับยิ้มเขินอายม้วน.....

     

                    ชางมินที่มองภาพนั้นแทบอยากจะเอามือกุมขมับที่เริ่มปวดหนึบๆเสียแล้วติดก็อยู่แค่มือปลาหมึกที่กอดไม่ปล่อยนั่นแหละ จนเขาต้องใช้ไม้เด็ด เอาเรี่ยวแรงที่เดิมทีไม่ค่อยจะมี ส่งพลังเต็มที่ไปยังข้อศอกแล้ว....กระทุ้งเข้ากับท้องของคนที่เล่นไม่รู้เวลาเต็มรัก!!

     

                    อุ๊กส์!” ยูชอนร้องโอดอายขึ้นอย่างเจ็บปวด ดวงตาคู่คมที่เมื่อครู่ส่อประกายเจ้าชู้นั้นพลันต้องหันขวับมามองร่างบางที่เขาต้องยอมปล่อยออกอย่างนึกเสียดาย....ด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่ตาคู่หวานนั้นกลับไม่ยอมสบตากับเขาแถมยังยิ้มเยาะอย่างสะใจอีกต่างหาก!

     

                    ....ถึงจะน่ารักก็เถอะ แต่นี่มันน่านัก!.....

     

                    นั่งลงก่อนไหมครับรุ่นพี่ยูชอน เสียงหวานอย่างนุ่มนวลสุภาพแต่แอบแฝงด้วยความเย้ายวนที่ตัวเขาไม่แน่ใจว่าได้ยินไปเองรึเปล่าเอ่ยบอกให้อย่างมีมารยาทผู้ดี หลังจากที่ทงเฮเอ่ยชวน ชายปาร์คก็สนองคำเชิญด้วยการหย่อนตัวลงนั่งข้างๆคนน่ารักที่เตรียมจะค้าน ทว่าก็ถูกส่งสายตาที่เขาอ่านออกได้ในทันทีว่า แปลว่า ถ้านายขัดใจฉันเรื่องถึงยุนโฮแน่!’

     

                แต่ชางมินก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจให้คุณชายปาร์คได้โมโหเล่นอย่างสนุกสนาน....และเมื่อได้เห็นรอยยิ้มพิฆาตหวานๆที่ส่งมาทำให้ทั้งสามแทบจะอยากจะกรี๊ดแดดิ้นเสียตรงนั้นเลย....คนอะไรหล๊อหล่อ!!....

     

                    จะว่าไปแล้ว พี่ยังไม่รู้จักชื่อของน้องๆเลยนะครับ ไม่ทราบว่าคนน่ารักทั้งสามเนี่ยชื่อว่าอะไรกันเหรอครับเสียงทุ้มพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ทำให้ทั้งสามต้องถึงกับหน้าแดงบิดอายม้วนกันไปเป็นแทบ ชางมินที่ไม่ได้พิศวาสอะไรในคนตรงหน้าเลยซักนิดเนี่ยแทบอยากจะอาเจียนมื้อเช้าสายบ่ายเที่ยงออกมาให้ด้วยความคลื่นไส้กับตาไก่ปากห้อยนี่จริงๆ....

     

                    ซองมิน ฮะ....ลี ซองมินกระต่ายน้อยรีบแนะนำตัวก่อนคนแรกด้วยท่าทางตื่นเต้นแทบยังแอบกรี๊ดกร๊าดในใจไปกับความหล่อเหลาของคนตรงหน้า....และคงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองนะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว....=.=......

     

                    เอ่อ....คิม รยออุค ฮะ.... รยออุคเอ่ยแนะนำด้วยท่าทีเขินอายตามประสาคนเรียบร้อย แถมไม่วายที่จะหน้าแดงน้อยๆอย่างน่ารักเหตุเพราะรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ถูกส่งมาเรื่อยๆ.....นี่ก็อีกคนที่ลืมไปแล้วว่าตัวเองก็มีแฟนแล้ว......

     

                    ลี ทงเฮ ยินดีที่ได้รู้จักครับ แนะนำพลางส่งรอยยิ้มสวยที่เหมือนกับจะยั่วเย้ากามตัณหาของคนร่างสูงอย่างไรอย่างนั้น แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เร่าร้อนขนาดนี้.....ยิ่งกลับอดีตเพลย์บอยอย่างยูชอนนี่ก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่......คนนี้ทั้งที่น่ารักจะลืมนิสัยคาสโนวี่(?)เก่าไปแล้ว ตั้งแต่มีแฟนเนี่ย ก็เอาใหม่อีกแล้ว.....

     

                    อะแฮ่ม....พวกนายลืมอะไรกันไปรึเปล่าเนี่ย....ชางมินเอ่ยขัดขึ้นพร้อมส่งสายตาไปเตือนสติ ซึ่งก็ดูเหมือนจะมีแค่รยออุคคนเดียวที่สะดุดนึกขึ้นได้....

     

                    ....ง่า เยซอง รยออุคขอโทษ เผลอนอกใจซะแล้ว TT^TT......

     

                    รยออุคแอบกรีดร้องอยู่ในใจ แต่อีกสองคนก็ยังคงดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน แต่นันก็ทำให้พ่อไก่คาสโนว่าตัวดีเริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา...

     

                    นี่....พวกน้องโสดกันรึเปล่าครับ ถามอย่างไว้เชิง แต่ก็ยังคงเปี่ยมด้วยน้ำเสียงทุ้มส่อแววเจ้าชู้...ทงเฮยิ้มกริ่มอย่างยั่วยวนแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ได้วิญญาณของคาสโนวี่กลับมาตั้งแต่เจอคนหล่อคนใหม่....

     

                    ก็....ไม่โสดนักหรอก แต่ว่า....ถ้าเกิดสนใจผมก็ยินดีที่จะทำความรู้จักกับรุ่นพี่ยูชอนให้มากขึ้นนะครับ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มเผยขึ้นมาจากริมฝีปากของปาร์คยูชอนทันที....แหม เห็นหน้าตาท่าทางเรียบร้อยที่แท้ก็แอบแรงนี่หว่า.....

     

                    แล้วน้องรยออุค กับ น้องซองมินล่ะครับ พอได้คำตอบจากคนหน้าตาสะสวยคนหนึ่งแล้วก็เบี่ยงไปถามคนน่ารักอีกสองคนแทน เจ้าของชื่อแรกดูมีท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบไป....

     

                    คือ...ผมมีแล้วครับ.....

     

                    แถมแฟนของรยออุคน่ะ หวงสุดๆเลยรู้ไหมครับ!” คนหนึ่งที่เงียบอยู่นานชักจะทนไม่ไหวที่คนได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายเขา กำลังแทะโลมเพื่อนเขาเป็นเวลาเล่นจึงได้เปล่งเสียงออกมาเป็นแนวดุๆ แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวก็แกล้งทำไม่สนใจแล้วเอ่ยกัคนน่ารักผู้แสนเรียบร้อยต่อไป....

     

                    ว้า~ น่าเสียดายจัง แต่ว่าของพี่ต้องแย่งชิงมาน่ะ พี่ก็ชอบนะ เพราะสายตาเจ้าชู้ที่มองไปนั้นทำให้รยออุคถึงกับต้องอายม้วนอีกครั้ง....

     

                    ความจริงผมเองก็มีแฟนแล้ว.....แต่ถ้าพี่ยูชอนอยากจีบผม ผมเองก็พร้อมรับนะครับ คำพูดสุดแสนน่ารักที่เถรตรงๆสุดทำให้ร่างสูงต้องหันไปคลี่รอยยิ้มพิฆาตใส่กระต่ายน้อยแสนน่ารัก ชางมินที่เห็นเช่นนั้นก็ชักรู้สึกปวดหัวตุบๆอย่างบอกไม่ถูก....

     

                    ......ตกลงพวกนายจะเข้าโหมดนอกใจแฟนตัวเองกันให้หมดใช่ไหมเนี่ย!!!.....

     

                    นี่!พวกนายเลิกล้อเล่นอะไรแบบนี้ได้แล้ว นี่ถ้าเกิด คยูฮยอน คิบอม แล้วก็เยซองมาได้เห็นพวกนายเป็นแบบนี้จะทำยังไงห๊ะ! คุณยูชอนเองก็เลิกอ้อล้อกับเพื่อนผมซักที!!” ชางมินเอ่ยเสียงดุขึ้นมาทำให้ทั้งสี่ชีวิตที่กำลังคุยกันอย่างออกรสชาติต้องหันมามองกันเป็นตาเดียวและก็ได้เห็นใบหน้าหวานๆนั้นกำลังบูดบึ้งได้ที่แล้ว!

     

                    โอ๋.....นี่ชางมินกำลังน้อยใจอยู่ใช่ไหมล่ะ ที่พี่ไม่ให้ความสนใจน้องชางมินเลย~” ทั้งสรรพนามที่เปลี่ยนวิธีเรียกทั้งแทนตัวเองและชื่อของเขา แถมยังสายตากรุ้มกริ่มที่กวนส้นฝ่าพระบาทสุดขั้วนั้นทำให้เขาแทบอยากจะบ้า จนต้องร้องขึ้นพลางสะบัดหน้าหนีอย่างเชิ่ดๆ....

     

                    จะบ้ารึไง ใครจะน้อยใจคนอย่างคุณ!!” ท่าทางงอนๆแต่ก็ชวนน่ารักนั้นทำให้เขาถึงกับต้องคลี่รอยยิ้มออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น....แหม ก็คนน่ารักตรงหน้าเนี่ย น่ารักน้อยซะเมื่อไหรล่ะ.....

     

                    จะว่าไปแล้ว....รุ่นพี่ยูชอน กับ ชางมิน รู้จักกันได้ยังไงเหรอครับซองมินเอ่ยถามขึ้นหลังจากสงสัยอยู่นาน และนั่นทำให้ร่างสูงคลี่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนยื่นมือออกไปโอบไหล่บางของคนข้างๆอย่างถือสิทธิ.....

     

                    ก็.....ไม่มีอะไรมากหรอกครับ....เราสองคนแค่มี....สัญญาใจกับลับๆ..... ไอ้คำที่เน้นๆเนี่ยทำให้ซองมินกับทงเฮหันไปกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น ขณะที่รยออุคนั่งเขินๆ แต่....กับคนที่ถูกพาดพิงว่ามีสัญญาลับกันเนี่ย แทบจะระเบิดด้วยความโกรธและอายผสมปนเปกันไปหมด!....

     

                    ....ไอ้ไก่ปากห้อยนี่มันมาไม้ไหนอีกเนี่ย!!!!....

     

                    ขณะที่เตรียมจะหันไปแว๊ดด้วยอารมณ์สุดจะทนแล้วเนี่ย....ก็เหมือนมีระฆังห้ามมวยดังขึ้นก่อน.....


     

                    น้องมินครับ~ พวกพี่มารับไปเรียนคาบต่อไปแล้วครับ 

     

                    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เรียกให้ทั้งห้าชีวิตที่นั่งกันล้อมรอบโต๊ะกลมม้าหินอ่อนนั้นหันไปมอง และพบกับกลุ่มห้าหนุ่มที่ได้ชื่อว่าหล่ออย่างแรง แม้ว่าอีกคนจะมากับรูปร่างท้วมๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาดีอยู่ โดยเฉพาะเจ้าของเสียงเมื่อครู้นั้นกลับมีรูปลักษณ์หน้าตาที่โดดเด่นกว่าใคร....

     

                    อ๊ะ.....พี่ไรอัน....จริงด้วยได้เวลาเรียนคาบต่อไปแล้วนี่นา ชางมินทักขึ้นเมื่อก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่ชี้บอกเวลาว่าได้เวลาไปเลคเชอร์ชั่วโมงต่อไปที่ค่อนข้างจะสำคัญแล้วด้วย....

     

                    ก็ใช่น่ะสิครับ พี่ว่าเราไปกันเถอะครับ อีกหนึ่งหนุ่มหน้าตาภูมิฐานดูเป็นผู้ดีลูกพ่อรวยไม่แพ้กับบุคลิกของชายหนุ่มนามไรอันเลยแม้แต่น้อยนั้นว่าขึ้น....

     

                    เข้าใจแล้วครับ พี่เอเจ งั้น....ฉันไปก่อนนะ ห้ามคิดนอกใจแฟนๆของพวกนายเด็ดขาด!” ชางมินตอบรับพร้อมกับหันมากำชับกับเพื่อนๆอีกครั้ง พร้อมกับหอบกองหนังสือเรียนของตน ซึ่งก็ดูเหมือนจะถือได้ไม่นานเมื่อ หนุ่มหล่อตี๋นามว่า นีโอ แล้วก็ หนุ่มท่าทางห้าวๆนามว่า เอช นั้นดึงไปช่วยถือไว้แทนแม้ว่าชางมินจะพยายามยื้อกลับมาก็ดูเหมือนจะไร้ผลจึงต้องปล่อยไปตามนั้น....

     

                    ปล่อยให้หนุ่มหล่อหน้าไก่ที่เหวอไปกับการปรากฏตัวของหนุ่มหล่อทั้งห้าที่ตัวเขามั่นใจว่ายังไงเขาก็หล่อกว่า....แถมยังเกิดความรู้สึกกรุ่นๆในใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นท่าทางอันแสนสนิทสนมระหว่างชางมินผู้น่ารักกับทั้งห้าคนนั้น....

     

                    เฮ้อ....ตรงเวลาเหลือเกินนะ พวกพี่ๆกลุ่ม Paran เนี่ย ทงเฮบ่นพึมพำขึ้นพลางดูดน้ำส้มเข้าปากอย่างใจเย็น และนั่นเรียกความสนใจจากหนุ่มไก่หน้าหล่อได้ในทันที....

     

                    กลุ่ม Paran เนี่ย....พวกขี้เก๊กเมื่อกี้น่ะเหรอครับ น้องทงเฮ ยูชอนถามขึ้น และคนตอบก็ไม่ใช่คนที่เป็นคนพึมพำขึ้นมากลับเป็นกระต่ายน้อยช่างเจรจาแทน....

     

                    ครับ เขาเป็นกลุ่มที่ป็อปที่สุดในมหาลัยของเราตอนนี้เลยนะครับ จะว่าเป็นกลุ่มหนุ่มหล่อๆติดท็อปเท็นของมหาลัย พอๆกับรุ่นพี่ชอง ยุนโฮเลยนะครับ ซองมินเอ่ยตอบพลางพูดถึงชื่อเพื่อนรักของเขาด้วย....พึ่งรู้ว่าไอ้เพื่อนหน้าหมีของเขามันก็ติดท๊อปเท็นกับเขาด้วยเว้ย....

     

                    รุ่นพี่ยูชอน ไม่รู้จักหรอกเหรอครับ? เป็นรยออุคที่ถามขึ้นมา ยูชอนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ก่อนจะเอ่ยตอบไปว่า....

     

                    อ๋อ....พอดีพึ่งย้ายหน่วยกิตมาเมื่อเร็วๆนี้แหละ พี่พึ่งกลับมาจากเมืองนอกน่ะครับ เขาตอบ ทั้งสามหนุ่มน่ารักพยักหน้ารับรู้ ขณะที่ชายหนุ่มแอบพยายามชำเลืองมองหากลุ่มคนที่มาพาเอาคนน่ารักของเขาไปแต่ก็ดูเหมือนจะหายไปเสียแล้ว....

     

                    แล้วนี่....ปกติพวกกลุ่ม พารัน นั่น....เขามารับชางมินไปเรียนอย่างนี้ตลอดเลยเหรอครับ? ในที่สุดเขาก็ได้ถามเข้าประเด็นที่เขาอยากรู้อย่างแรงเสียที.....แล้วนี่ทำไมเขาต้องอยากรู้ด้วยล่ะเนี่ย???.....

     

                    ครับ ก็พี่ๆกลุ่มพารันเขาตั้งตัวเป็น องค์รักษ์พิทักษ์ชางมิน นี่นา แต่ก็เพราะอย่างนี้แหละครับ ถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบชางมินที่น่ารักขนาดนั้นสักที ทงเฮเอ่ยตอบยิ้มๆ และเรียกเสียงสนับสนุนจากซองมินได้ไม่ยากเลยเพราะนั่นคือความจริงที่เขาก็แอบคิดอยู่....

     

                    ใช่ๆจากถ้อยคำที่คุยกันของพวกน้องๆช่างเมาท์นั้นทำให้เขาได้ข้อมูลไหม....ชิม ชางมิน คนน่ารัก ยังไม่มีแฟน....ความจริงเขาเองก็คิดๆอยู่แล้ว แต่ว่า พอได้ข้อมูลตรงๆแบบนี้ก็ยิ่งเบาใจ....

     

                    ....ถ้าชางมินไม่มีแฟนอยู่แล้วก็ดีน่ะสิ.....เอ๊ะ....แล้วทำไมเขาต้องดีใจด้วย.....

     

                    แต่ไม่แน่นะ....ถ้าเกิดอยู่แบบนี้ไปนานๆฉันว่า พี่ไรอันน่ะ อาจจะได้เป็นแฟนของชางมินก็ได้ น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของซองมินทำเอาเขาที่นั่งฟังอยู่ก็สะดุดกึด ความรู้สึกร้อนๆที่คุกกรุ่นอยู่ในใจนี้ทำให้เขาหงุดหงิดจนบอกไม่ถูก.....

     

                    ......เขายอมรับว่า....ช่วงนี้เขาชักแปลกๆไปเหมือนกัน.....

     

                    ......เพราะอะไรกันนะ.......

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

                ขอบคุณนะครับ ที่มาส่ง รบกวนพวกพี่ๆจริงเลยครับ

     

                    เสียงหวานๆจากคนน่ารักที่หนุ่มๆพารันนั้นเดินมาเป็นเพื่อนจากที่หนทางระยะห่างไกลจากที่เมื่อสักครู่นั่งกันอยู่นั้น ทำให้พวกเขาถึงกับหายเหนื่อยยิ้มได้เห็นรอยยิ้มหวานจากคนน่ารักๆนี้ก็ยิ่งแล้วกันไปใหญ่....

                                                       

                    ไม่รบกวนเลยครับ น้องมินไม่ต้องคิดมากหรอก พวกพี่เต็มใจนะ ไรอันเอ่ยขึ้นเป็นคนแรกอย่างอบอุ่น....

     

                    ใช่ๆ ถ้าเกิดพวกพี่ไม่มาส่งแล้วใครฉุดน้องมินไปขึ้นมาล่ะแย่เลย หนุ่มตาตี๋เจ้าของชื่อ นีโอ ว่าขึ้นทำให้มือเล็กๆตรงเขาทุบที่แขนแกร่งเบาๆด้วยความเขินอาย....

     

                    บ้า พี่นีโอ อย่างผมไม่มีใครเขาฉุดหรอกครับ 

     

                    โหย น้องมินอย่าถ่อมตัวเลย รู้ป่าวว่านี่พวกพี่ต้องป้องกันน้องมินจากสายตาแทะโลมเนี่ยกี่คู่ น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความขี้เล่นของเอชทำให้ชางมินถึงกับเริ่มสะบัดหน้างอนอีกครั้ง...

     

                    อ้าวๆ น้องมินงอนมากเดี๋ยวแก่เร็วนะ เอเจได้ทีแซวขึ้นบ้าง นั่นยิ่งทำให้คนน่ารักงอนมากกว่าเดิมแล้ว....

     

                    พวกนายเลิกแกล้งน้องมินได้แล้ว ถึงเขาจะน่ารักหน้าแกล้งขนาดไหนก็เถอะ หนุ่มร่างท้วมนามพีโอเอ่ยขึ้นบ้างยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งหกได้อีกครั้ง....

     

                    ฮะๆ พวกนายพอๆ น้องมินรีบเข้าไปเรียนเถอะครับ เดี๋ยวจะสายนะครับ เป็นไรอันที่เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่น้องมินที่แสนน่ารักของเขาจะไม่ได้เข้าไปเรียนกันจริงๆ....

     

                    ครับ พี่ไรอัน งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับ ว่าแล้วร่างบางก็เดินเข้าไปทางประตูที่มุ่งเข้าไปข้างในตึกเรียนของคณะแพทย์ศาสตร์เหลือเพียง ไรอันที่ลอบยิ้มตามไป แต่ภายในแววตานั้นกลับมีอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก....

     

     

                    ขณะเดียวกันทางคนร่างบางที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องเรียนนั้น ก็พลางคิดถึงเหตุการณ์ก่อนที่พวกกลุ่มพารันจะมารับเขา....ทำไมตอนนั้นเขาถึงได้หงุดหงิดขนาดนั้นนะ....มันไม่สมเป็นตัวเขาเองเลยแม้แต่น้อย.....

     

                    โกรธเพราะเพื่อนๆกำลังนอกใจแฟนของตัวเองกันงั้นเหรอ....ก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าเพื่อนๆก็แค่เล่นๆกันเท่านั้น ปกติสวีทหวานแหววจนลืมเขาไปเลยนี่นา คงไม่เลิกกันง่ายๆหรอก.....

     

                    หรือว่าเขาจะน้อยใจ ที่ยูชอนไม่สนใจเขาจริงๆ.....โอ๊ย!!! บ้าๆ!!!ทำไมเขาต้องแคร์เกี่ยวกับตาไก่บ้านั่นด้วย!!! เลิกๆๆ เข้าเรียนๆๆๆ!!!!!!!.....

     

                    ร่างบางโวยวายอยู่ในใจก่อนจะตัดสินใจรีบเข้าห้องไปเรียนก่อนที่จะเข้าไปเล็คเชอร์ไม่ทัน....แม้ในใจก็ยังคงสับสนวุ่นวายอยู่ในใจ....ความสับสนที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ......

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×