คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ::Chapter 4::
Chapter 4:
อีกหนึ่งวันที่สดใสหลังจากที่จบจาการเลคเชอร์ วิชาทฤษฏีดนตรีที่ตัวเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร เนื่องด้วยต้นทุนเดิมแล้วเขาเป็นคนที่ชอบการปฏิบัติมากกว่า....และนี่เขาเองก็กำลังจะมุ่งตรงไปยังห้องซ้อมเปียโนที่ได้ชื่อว่าเป็นห้องส่วนตัวสำหรับเขา....
ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงอยู่ในหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นคณะแพทย์ศาสตร์ คณะนิเทศ หรือแม้แต่คณะดนตรี หรือ ดุริยางคศิลป์ก็เช่นกัน ในกรณีของคณะดนตรีนั้นมีความพิเศษอยู่ที่ว่านักเรียนในแต่ละสาขาเอกจะได้มีห้องซ้อมดนตรีเป็นของตัวเอง.....
ระหว่างทางที่จะเดินไปห้องซ้อมดนตรี เพราะหลังจากนี้แล้วเขาเป็นคาบว่างไม่มีชั่วโมงที่ต้องเข้าไปเล็คเชอร์ เขาก็ตั้งใจจะไปใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการซ้อม เพื่อพัฒนาฝีมือของตนเองให้ดียิ่งขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งคือไม่ต้องการมีเวลามานั่งคิดมากถึงจุนซูให้เจ็บปวด.....
แต่เมื่อจะเดินเข้าไปในตึกที่ห้องซ้อมดนตรีนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรที่เขาอยากทำมากกว่าแล้ว...จะว่าไปวันนี้ยังไม่ได้ไปแหย่คนน่ารักๆนั่นเลยนี่นา....ไปแหย่ให้โกรธเล่นหน่อยดีกว่า.....
ว่าแล้วคุณชายปาร์คก็คลี่รอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินออกไปทางเดินเดิมที่มุ่งเป้าไว้ แล้วเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ไปยังทางเดินที่เชื่อมไปยังอาคารเรียนของคณะแพทย์ศาสตร์ ซึ่งระหว่างทางนั้นจะมีโรงอาหารกลางแจ้งคั่นกลางอยู่ ยูชอนลองกวาดสายตาไปมา เผื่อว่าร่างบางที่เขากำลังนึกถึงอยู่จะมาอยู่แถวนี้เหมือนกัน....
และ....โป๊ะเช๊ะ!!!
เขาเห็นเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนนั้น กำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนอีกสองสามคนอย่างออกรสชาติ คุณชายปาร์คก็เตรียมเข้าไปแหย่ไปแกล้งให้หายเหงาปากเสียหน่อย ก็ต้องหยุดนิ่งลงเมื่อเห็นเจ้าตัวที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส พร้อมรอยยิ้มสวยเปื้อนบนใบหน้า และดูเหมือนเจ้าตัวจะปล่อยยิ้มเรี่ยราดไปนิด เพราะไม่ใช่แค่ตัวเขาที่เผลอเคลิ้มไปกับรอยยิ้มน่ารัก แต่ยังมีอีกหลายคนแถวนั้นที่จะมองร่างบางโดยที่ชางมินไม่ได้รู้สึกตัวเลย....
....น่ารักจัง.....
ยูชอนเริ่มสาวเท้าเข้าไปหาร่างบางโดยที่ไม่ให้รู้ตัว และในขณะเดียวกันที่ชางมินเองก็คงไม่ได้รุ้สึกถึงใครบางคนที่เข้ามาใกล้เลยแม้แต่น้อย....
“ฮะๆ อะไรของนายน่ะซองมิน~” ร่างบางกำลังหัวเราะร่าในความเปิ่นของเพื่อนหน้าหวานที่นั่งใกล้ๆกันซึ่งตอนนี้เป่าลมเข้าแก้มให้มันป่องๆดูแล้วน่ารักอย่างแรง...
“อะไรอ่ะ ชางมินอย่ามาว่าเค้านะ!!” เจ้าของชื่อ ซองมิน เอ่ยขึ้นอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของตนชักจะขำแรงไปแล้วมั้ง....
“ก็มันจริงอ่ะ ใครที่ไหนเขาเอาแบงค์กาโม่ใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์แล้วจ่ายค่าอาหารแบบนั้นล่ะ จริงไหม รยออุค” และแล้วคนน่ารักก็ยังไม่ยอมทีจะหัวเราะลงเลย ขณะหันไปหาความเห็นจากเพื่อนหน้าหวานท่าทางเรียบร้อยอีกคน....
“อืม...ก็จริงนะ ซองมินน่ะเอ๋อชะมัด” คำว่าที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากเพื่อนสุดเรียบร้อย ก็ยิ่งทำให้ซองมินงอนขึ้น แล้วเปลี่ยนไปหาพรรคพวกอีกคนที่กำลังดูดน้ำส้มผ่านลำคออย่างไม่สนใจอะไรเท่าไหร....
“ทงเฮอยู่ฝ่ายฉันใช่ไหม?” ซองมินหันไปส่งสายตากระพริบปริบๆ อย่างมีความหวังกับเพื่อนอีกคนที่ละจากการดูดน้ำส้มมองหน้าของเพื่อนที่เหมือนกระต่ายตัวเล็กที่สงสายตาปิ๊งๆมาหาเขาอย่างออดอ้อน สลับกับเพื่อนหน้าหวานสุดแสนน่ารักที่ยังคงพยายามกลั้นหัวเราะไม่เลิก....
“อืม....ฉันขออยู่ฝ่ายชางมินดีกว่านะ^^” ทงเฮว่ายิ้มๆ ขณะที่ทำเอากระต่ายน้อยแทบร้องไห้.....ไม่มีใครเข้าข้างเค้าเลย...คยูฮยอนช่วยเค้าด้วย~~~.......และไม่วายก็พาลไปคิดถึงแฟนสุดหล่อที่ตอนนี้ยังติดพันเล็คเชอร์อยู่.....
ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่สนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆนี่คงจะเป็นเวลาเดียวที่เขาจะลืมความเศร้าในหัวใจที่เกี่ยวกับพี่ยุนโฮไปได้นั่นแหละนะ.....
~หมับ~!!!
ขณะที่ร่างบางกำลังสนุกสนานกับการหยอกล้อกระต่ายน้อยแสนน่ารักอยู่นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนของใครบางคนที่เข้ามาโอบกอดเอวของเขาอย่างถือดีที่ข้างหลัง และไวเท่ากับความคิดชางมินรีบหันขวับกลับไปและแว๊ดเขาใส่ตัวการทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าของมือปลาหมึกเนี่ยใคร....
“คุณยูชอน!!! ทำอะไรของคุณน่ะ!!” ร่างบางตะโกนใส่เสียงดังอย่างไม่อายใคร ขณะที่มือบอบบางพยายามแกะมือหนึบๆนั้นออก แต่ด้วยเพราะแรงที่น้อยกว่า และประสบการณ์อันน้อยนิดที่จะต่อสู้กับพวกหื่นโรคจิต(?) จึงทำให้ไม่ว่าจะทำยังไงก็แกะไม่ได้เสียที....
“ก็....กอดไง ไม่รู้จักเหรอ?” นอกจากจะเพิกเฉยต่อคำต่อว่าของคนน่ารักในอ้อมกอดแล้ว ยังมีการตอบแบบชวนกวนประสาทอีกต่างหาก....
“รู้!!! ปล่อยซักทีเซ่!!!” ชางมินตอบกระแทกๆด้วยความรู้สึกที่เหลือทนอย่างแรง กับความกวนของตาไก่บ้านี่! ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนพี่ยุนโฮนะ....จะ.....จะ.....จะอะไรดีอ่ะ.....เอาเป็นว่าได้เห็นดีกันแน่!!!....
“หืม? รู้เนี่ยแน่เหรอ....ว่า ‘กอด’ หมายถึงอะไร” ร่างสูงของคนหล่อเอ่ยอย่างยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด ยิ่งไอ้ประโยคหลังที่มากระซิบแถวๆใบหูชวนให้จั๊กจี้ แถม...แถม...แถม ไอ้ความหมายที่ส่อเนี่ย เด็กอัจฉริยะอย่างเขามีเหรอจะไม่รู้ว่าเจ้าตัวหมายความว่ายังไง กลายเป็นว่าร่างบางต้องหน้าแดงขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยความอาย....
ทางคนร่างสูงเอง ที่เห็นดวงหน้าหวานกำลังแดงสุกไม่ที่อย่างน่ารัก ก็ทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบางๆบนมุมปากก่อนที่จะเข้าไปเอ่ยกระซิบข้างใบหูอีกครั้ง....
“งั้นก็ช่วยบอกหน่อยสิ ว่าแปลว่าอะไร....ว่าไงชางมิน~” ยิ่งโดนถามเข้าไปเรื่อยๆแบบนี้ ร่างบางก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก ทั้งโกรธ ทั้งอาย ตอนนี้เขาก็แยกไม่ออกเสียแล้วว่ากำลังหน้าแดงเพราะอะไรกันแน่....และขณะที่เหมือนว่าทั้งสองจะลืมไปแล้วว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน....
“ชะ.....ชางมิน~~ นายมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหรอ่ะ!!”
คำถามที่ชวนให้เพื่อนรักจัดการเสยสักทีให้หายอายว่าขึ้นจากกระต่ายน้อยที่เลิกซึมเรื่องเก่าแล้วเข้าสู่ประเด็นใหม่ได้อย่างรวดเร็วจนน่ากลัว....
“จะบ้าเหรอ!! ฉันไม่คิดจะเอาคนหื่นกามแถมปากห้อยพรรณนี้ไปเป็นแฟนหรอก!” ปากก็ทำเป็นว่าใส่เพื่อนคนน่ารักที่ถามอะไรออกมาไม่ถูกกาลเทศะ แต่มันก็กระทบคนที่ยังคงกอดเขาเป็นมือปลาหมึก ชวนให้ชางมินแอบสะใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นใบหน้าของคนถูกว่าเริ่มตีหน้าเบ้อย่างโมโห เขาก็ยิ่งสะใจ!
“หืม....เมื่อกี้ ชางมินพูดว่าอะไรนะครับ..........นี่นาย....ถ้านายยังว่าฉันอีกล่ะก็ ฉันจะเอาเรื่องที่นายไปบาร์เหล้าให้แฉให้ยุนโฮฟังนะจะบอกให้....” ประโยคแรกเอ่ยเสียงหวานจ๋อย แถมยังส่งสายตาไปให้ร่างบางอย่างหยาดเยิ้ม และไม่วายที่จะว่งสายตาหวานๆเจ้าชู้นั้นไปให้กับเพื่อนหน้าตาหวานสวยของชางมินอีก 3 คน....ซึ่งแต่ละคนเริ่มออกอาการเขินอายม้วนกันเป็นแถบ....
.....ท่าทางเสน่ห์ของคาสโนว่าก่อนจะเจอจุนซูยังไม่หายไปนะเนี่ย......
ไอ้ประโยคแรกเนี่ยดูไม่เป็นปัญหา แต่ประโยคหลังที่กระซิบเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ต่อให้โง่ก็ยังรู้นี้ขู่เขางั้นเรอะ!!!!!!!!! ชางมินรีบหันไปมองร่างสูงเจ้าปัญหาเพื่อท้าทายแต่ทว่าสายตาที่ส่งมาให้เขานั้นไม่ได้มีท่าทีของการขู่เลย...แต่มันกะเอาจริงเลยต่างหาก!!! เขาจึงได้แต่กัดริมฝีผากอิ่มสวยอย่างขัดใจที่ต้องพ่ายไอ้ไก่ปากห้อยนี่ซะได้!!!
“เอ่อ.....ชางมิน นี่คือ.......” รยออุคผู้เรียบร้อย เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตั้งเนิ่นนานแล้ว ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคนรูปหล่อที่อยู่ๆก็มาทำสวีท(?)กับเพื่อนรักของเขาต่อหน้าเขาแบบนี้....
“คือ....เขาเป็น......”
“ปาร์ค ยูชอน ครับ อยู่ปี 2 คณะดนตรี ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคนสวย~” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้ทันช่วยแนะนำให้ ตัวก็แนะนำตัวเองเสร็จสับ ยังไม่พอพี่แกยังส่งยิ้มพิฆาตที่ทำให้หัวใจของสาวๆและหนุ่มหน้าหวานหลายๆคนต้องตกเป็นของพี่แกไปให้เรียบร้อย ทำเอารยออุคผู้แสนอินโนเซนต์และเรียบร้อยถึงกับยิ้มเขินอายม้วน.....
ชางมินที่มองภาพนั้นแทบอยากจะเอามือกุมขมับที่เริ่มปวดหนึบๆเสียแล้วติดก็อยู่แค่มือปลาหมึกที่กอดไม่ปล่อยนั่นแหละ จนเขาต้องใช้ไม้เด็ด เอาเรี่ยวแรงที่เดิมทีไม่ค่อยจะมี ส่งพลังเต็มที่ไปยังข้อศอกแล้ว....กระทุ้งเข้ากับท้องของคนที่เล่นไม่รู้เวลาเต็มรัก!!
“อุ๊กส์!” ยูชอนร้องโอดอายขึ้นอย่างเจ็บปวด ดวงตาคู่คมที่เมื่อครู่ส่อประกายเจ้าชู้นั้นพลันต้องหันขวับมามองร่างบางที่เขาต้องยอมปล่อยออกอย่างนึกเสียดาย....ด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่ตาคู่หวานนั้นกลับไม่ยอมสบตากับเขาแถมยังยิ้มเยาะอย่างสะใจอีกต่างหาก!
....ถึงจะน่ารักก็เถอะ แต่นี่มันน่านัก!.....
“นั่งลงก่อนไหมครับรุ่นพี่ยูชอน” เสียงหวานอย่างนุ่มนวลสุภาพแต่แอบแฝงด้วยความเย้ายวนที่ตัวเขาไม่แน่ใจว่าได้ยินไปเองรึเปล่าเอ่ยบอกให้อย่างมีมารยาทผู้ดี หลังจากที่ทงเฮเอ่ยชวน ชายปาร์คก็สนองคำเชิญด้วยการหย่อนตัวลงนั่งข้างๆคนน่ารักที่เตรียมจะค้าน ทว่าก็ถูกส่งสายตาที่เขาอ่านออกได้ในทันทีว่า แปลว่า ‘ถ้านายขัดใจฉันเรื่องถึงยุนโฮแน่!’
แต่ชางมินก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจให้คุณชายปาร์คได้โมโหเล่นอย่างสนุกสนาน....และเมื่อได้เห็นรอยยิ้มพิฆาตหวานๆที่ส่งมาทำให้ทั้งสามแทบจะอยากจะกรี๊ดแดดิ้นเสียตรงนั้นเลย....คนอะไรหล๊อหล่อ!!....
“จะว่าไปแล้ว พี่ยังไม่รู้จักชื่อของน้องๆเลยนะครับ ไม่ทราบว่าคนน่ารักทั้งสามเนี่ยชื่อว่าอะไรกันเหรอครับ” เสียงทุ้มพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ทำให้ทั้งสามต้องถึงกับหน้าแดงบิดอายม้วนกันไปเป็นแทบ ชางมินที่ไม่ได้พิศวาสอะไรในคนตรงหน้าเลยซักนิดเนี่ยแทบอยากจะอาเจียนมื้อเช้าสายบ่ายเที่ยงออกมาให้ด้วยความคลื่นไส้กับตาไก่ปากห้อยนี่จริงๆ....
“ซองมิน ฮะ....ลี ซองมิน” กระต่ายน้อยรีบแนะนำตัวก่อนคนแรกด้วยท่าทางตื่นเต้นแทบยังแอบกรี๊ดกร๊าดในใจไปกับความหล่อเหลาของคนตรงหน้า....และคงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองนะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว....=.=......
“เอ่อ....คิม รยออุค ฮะ....” รยออุคเอ่ยแนะนำด้วยท่าทีเขินอายตามประสาคนเรียบร้อย แถมไม่วายที่จะหน้าแดงน้อยๆอย่างน่ารักเหตุเพราะรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ถูกส่งมาเรื่อยๆ.....นี่ก็อีกคนที่ลืมไปแล้วว่าตัวเองก็มีแฟนแล้ว......
“ลี ทงเฮ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” แนะนำพลางส่งรอยยิ้มสวยที่เหมือนกับจะยั่วเย้ากามตัณหาของคนร่างสูงอย่างไรอย่างนั้น แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เร่าร้อนขนาดนี้.....ยิ่งกลับอดีตเพลย์บอยอย่างยูชอนนี่ก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่......คนนี้ทั้งที่น่ารักจะลืมนิสัยคาสโนวี่(?)เก่าไปแล้ว ตั้งแต่มีแฟนเนี่ย ก็เอาใหม่อีกแล้ว.....
“อะแฮ่ม....พวกนายลืมอะไรกันไปรึเปล่าเนี่ย....”ชางมินเอ่ยขัดขึ้นพร้อมส่งสายตาไปเตือนสติ ซึ่งก็ดูเหมือนจะมีแค่รยออุคคนเดียวที่สะดุดนึกขึ้นได้....
....ง่า เยซอง รยออุคขอโทษ เผลอนอกใจซะแล้ว TT^TT......
รยออุคแอบกรีดร้องอยู่ในใจ แต่อีกสองคนก็ยังคงดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน แต่นันก็ทำให้พ่อไก่คาสโนว่าตัวดีเริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา...
“นี่....พวกน้องโสดกันรึเปล่าครับ” ถามอย่างไว้เชิง แต่ก็ยังคงเปี่ยมด้วยน้ำเสียงทุ้มส่อแววเจ้าชู้...ทงเฮยิ้มกริ่มอย่างยั่วยวนแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ได้วิญญาณของคาสโนวี่กลับมาตั้งแต่เจอคนหล่อคนใหม่....
“ก็....ไม่โสดนักหรอก แต่ว่า....ถ้าเกิดสนใจผมก็ยินดีที่จะทำความรู้จักกับรุ่นพี่ยูชอนให้มากขึ้นนะครับ” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มเผยขึ้นมาจากริมฝีปากของปาร์คยูชอนทันที....แหม เห็นหน้าตาท่าทางเรียบร้อยที่แท้ก็แอบแรงนี่หว่า.....
“แล้วน้องรยออุค กับ น้องซองมินล่ะครับ” พอได้คำตอบจากคนหน้าตาสะสวยคนหนึ่งแล้วก็เบี่ยงไปถามคนน่ารักอีกสองคนแทน เจ้าของชื่อแรกดูมีท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบไป....
“คือ...ผมมีแล้วครับ.....”
“แถมแฟนของรยออุคน่ะ หวงสุดๆเลยรู้ไหมครับ!” คนหนึ่งที่เงียบอยู่นานชักจะทนไม่ไหวที่คนได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายเขา กำลังแทะโลมเพื่อนเขาเป็นเวลาเล่นจึงได้เปล่งเสียงออกมาเป็นแนวดุๆ แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวก็แกล้งทำไม่สนใจแล้วเอ่ยกัคนน่ารักผู้แสนเรียบร้อยต่อไป....
“ว้า~ น่าเสียดายจัง แต่ว่าของพี่ต้องแย่งชิงมาน่ะ พี่ก็ชอบนะ” เพราะสายตาเจ้าชู้ที่มองไปนั้นทำให้รยออุคถึงกับต้องอายม้วนอีกครั้ง....
“ความจริงผมเองก็มีแฟนแล้ว.....แต่ถ้าพี่ยูชอนอยากจีบผม ผมเองก็พร้อมรับนะครับ” คำพูดสุดแสนน่ารักที่เถรตรงๆสุดทำให้ร่างสูงต้องหันไปคลี่รอยยิ้มพิฆาตใส่กระต่ายน้อยแสนน่ารัก ชางมินที่เห็นเช่นนั้นก็ชักรู้สึกปวดหัวตุบๆอย่างบอกไม่ถูก....
......ตกลงพวกนายจะเข้าโหมดนอกใจแฟนตัวเองกันให้หมดใช่ไหมเนี่ย!!!.....
“นี่!พวกนายเลิกล้อเล่นอะไรแบบนี้ได้แล้ว นี่ถ้าเกิด คยูฮยอน คิบอม แล้วก็เยซองมาได้เห็นพวกนายเป็นแบบนี้จะทำยังไงห๊ะ! คุณยูชอนเองก็เลิกอ้อล้อกับเพื่อนผมซักที!!” ชางมินเอ่ยเสียงดุขึ้นมาทำให้ทั้งสี่ชีวิตที่กำลังคุยกันอย่างออกรสชาติต้องหันมามองกันเป็นตาเดียวและก็ได้เห็นใบหน้าหวานๆนั้นกำลังบูดบึ้งได้ที่แล้ว!
“โอ๋.....นี่ชางมินกำลังน้อยใจอยู่ใช่ไหมล่ะ ที่พี่ไม่ให้ความสนใจน้องชางมินเลย~” ทั้งสรรพนามที่เปลี่ยนวิธีเรียกทั้งแทนตัวเองและชื่อของเขา แถมยังสายตากรุ้มกริ่มที่กวนส้นฝ่าพระบาทสุดขั้วนั้นทำให้เขาแทบอยากจะบ้า จนต้องร้องขึ้นพลางสะบัดหน้าหนีอย่างเชิ่ดๆ....
“จะบ้ารึไง ใครจะน้อยใจคนอย่างคุณ!!” ท่าทางงอนๆแต่ก็ชวนน่ารักนั้นทำให้เขาถึงกับต้องคลี่รอยยิ้มออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น....แหม ก็คนน่ารักตรงหน้าเนี่ย น่ารักน้อยซะเมื่อไหรล่ะ.....
“จะว่าไปแล้ว....รุ่นพี่ยูชอน กับ ชางมิน รู้จักกันได้ยังไงเหรอครับ”ซองมินเอ่ยถามขึ้นหลังจากสงสัยอยู่นาน และนั่นทำให้ร่างสูงคลี่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนยื่นมือออกไปโอบไหล่บางของคนข้างๆอย่างถือสิทธิ.....
“ก็.....ไม่มีอะไรมากหรอกครับ....เราสองคนแค่มี....สัญญาใจกับลับๆ.....” ไอ้คำที่เน้นๆเนี่ยทำให้ซองมินกับทงเฮหันไปกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น ขณะที่รยออุคนั่งเขินๆ แต่....กับคนที่ถูกพาดพิงว่ามีสัญญาลับกันเนี่ย แทบจะระเบิดด้วยความโกรธและอายผสมปนเปกันไปหมด!....
....ไอ้ไก่ปากห้อยนี่มันมาไม้ไหนอีกเนี่ย!!!!....
ขณะที่เตรียมจะหันไปแว๊ดด้วยอารมณ์สุดจะทนแล้วเนี่ย....ก็เหมือนมีระฆังห้ามมวยดังขึ้นก่อน.....
“น้องมินครับ~ พวกพี่มารับไปเรียนคาบต่อไปแล้วครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เรียกให้ทั้งห้าชีวิตที่นั่งกันล้อมรอบโต๊ะกลมม้าหินอ่อนนั้นหันไปมอง และพบกับกลุ่มห้าหนุ่มที่ได้ชื่อว่าหล่ออย่างแรง แม้ว่าอีกคนจะมากับรูปร่างท้วมๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาดีอยู่ โดยเฉพาะเจ้าของเสียงเมื่อครู้นั้นกลับมีรูปลักษณ์หน้าตาที่โดดเด่นกว่าใคร....
“อ๊ะ.....พี่ไรอัน....จริงด้วยได้เวลาเรียนคาบต่อไปแล้วนี่นา” ชางมินทักขึ้นเมื่อก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่ชี้บอกเวลาว่าได้เวลาไปเลคเชอร์ชั่วโมงต่อไปที่ค่อนข้างจะสำคัญแล้วด้วย....
“ก็ใช่น่ะสิครับ พี่ว่าเราไปกันเถอะครับ” อีกหนึ่งหนุ่มหน้าตาภูมิฐานดูเป็นผู้ดีลูกพ่อรวยไม่แพ้กับบุคลิกของชายหนุ่มนามไรอันเลยแม้แต่น้อยนั้นว่าขึ้น....
“เข้าใจแล้วครับ พี่เอเจ งั้น....ฉันไปก่อนนะ ห้ามคิดนอกใจแฟนๆของพวกนายเด็ดขาด!” ชางมินตอบรับพร้อมกับหันมากำชับกับเพื่อนๆอีกครั้ง พร้อมกับหอบกองหนังสือเรียนของตน ซึ่งก็ดูเหมือนจะถือได้ไม่นานเมื่อ หนุ่มหล่อตี๋นามว่า นีโอ แล้วก็ หนุ่มท่าทางห้าวๆนามว่า เอช นั้นดึงไปช่วยถือไว้แทนแม้ว่าชางมินจะพยายามยื้อกลับมาก็ดูเหมือนจะไร้ผลจึงต้องปล่อยไปตามนั้น....
ปล่อยให้หนุ่มหล่อหน้าไก่ที่เหวอไปกับการปรากฏตัวของหนุ่มหล่อทั้งห้าที่ตัวเขามั่นใจว่ายังไงเขาก็หล่อกว่า....แถมยังเกิดความรู้สึกกรุ่นๆในใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นท่าทางอันแสนสนิทสนมระหว่างชางมินผู้น่ารักกับทั้งห้าคนนั้น....
“เฮ้อ....ตรงเวลาเหลือเกินนะ พวกพี่ๆกลุ่ม Paran เนี่ย” ทงเฮบ่นพึมพำขึ้นพลางดูดน้ำส้มเข้าปากอย่างใจเย็น และนั่นเรียกความสนใจจากหนุ่มไก่หน้าหล่อได้ในทันที....
“กลุ่ม Paran เนี่ย....พวกขี้เก๊กเมื่อกี้น่ะเหรอครับ น้องทงเฮ” ยูชอนถามขึ้น และคนตอบก็ไม่ใช่คนที่เป็นคนพึมพำขึ้นมากลับเป็นกระต่ายน้อยช่างเจรจาแทน....
“ครับ เขาเป็นกลุ่มที่ป็อปที่สุดในมหา’ลัยของเราตอนนี้เลยนะครับ จะว่าเป็นกลุ่มหนุ่มหล่อๆติดท็อปเท็นของมหา’ลัย พอๆกับรุ่นพี่ชอง ยุนโฮเลยนะครับ” ซองมินเอ่ยตอบพลางพูดถึงชื่อเพื่อนรักของเขาด้วย....พึ่งรู้ว่าไอ้เพื่อนหน้าหมีของเขามันก็ติดท๊อปเท็นกับเขาด้วยเว้ย....
“รุ่นพี่ยูชอน ไม่รู้จักหรอกเหรอครับ?” เป็นรยออุคที่ถามขึ้นมา ยูชอนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ก่อนจะเอ่ยตอบไปว่า....
“อ๋อ....พอดีพึ่งย้ายหน่วยกิตมาเมื่อเร็วๆนี้แหละ พี่พึ่งกลับมาจากเมืองนอกน่ะครับ” เขาตอบ ทั้งสามหนุ่มน่ารักพยักหน้ารับรู้ ขณะที่ชายหนุ่มแอบพยายามชำเลืองมองหากลุ่มคนที่มาพาเอาคนน่ารักของเขาไปแต่ก็ดูเหมือนจะหายไปเสียแล้ว....
“แล้วนี่....ปกติพวกกลุ่ม พารัน นั่น....เขามารับชางมินไปเรียนอย่างนี้ตลอดเลยเหรอครับ?” ในที่สุดเขาก็ได้ถามเข้าประเด็นที่เขาอยากรู้อย่างแรงเสียที.....แล้วนี่ทำไมเขาต้องอยากรู้ด้วยล่ะเนี่ย???.....
“ครับ ก็พี่ๆกลุ่มพารันเขาตั้งตัวเป็น องค์รักษ์พิทักษ์ชางมิน นี่นา แต่ก็เพราะอย่างนี้แหละครับ ถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบชางมินที่น่ารักขนาดนั้นสักที” ทงเฮเอ่ยตอบยิ้มๆ และเรียกเสียงสนับสนุนจากซองมินได้ไม่ยากเลยเพราะนั่นคือความจริงที่เขาก็แอบคิดอยู่....
“ใช่ๆ” จากถ้อยคำที่คุยกันของพวกน้องๆช่างเมาท์นั้นทำให้เขาได้ข้อมูลไหม....ชิม ชางมิน คนน่ารัก ยังไม่มีแฟน....ความจริงเขาเองก็คิดๆอยู่แล้ว แต่ว่า พอได้ข้อมูลตรงๆแบบนี้ก็ยิ่งเบาใจ....
....ถ้าชางมินไม่มีแฟนอยู่แล้วก็ดีน่ะสิ.....เอ๊ะ....แล้วทำไมเขาต้องดีใจด้วย.....
“แต่ไม่แน่นะ....ถ้าเกิดอยู่แบบนี้ไปนานๆฉันว่า พี่ไรอันน่ะ อาจจะได้เป็นแฟนของชางมินก็ได้” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของซองมินทำเอาเขาที่นั่งฟังอยู่ก็สะดุดกึด ความรู้สึกร้อนๆที่คุกกรุ่นอยู่ในใจนี้ทำให้เขาหงุดหงิดจนบอกไม่ถูก.....
......เขายอมรับว่า....ช่วงนี้เขาชักแปลกๆไปเหมือนกัน.....
......เพราะอะไรกันนะ.......
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
“ขอบคุณนะครับ ที่มาส่ง รบกวนพวกพี่ๆจริงเลยครับ”
เสียงหวานๆจากคนน่ารักที่หนุ่มๆพารันนั้นเดินมาเป็นเพื่อนจากที่หนทางระยะห่างไกลจากที่เมื่อสักครู่นั่งกันอยู่นั้น ทำให้พวกเขาถึงกับหายเหนื่อยยิ้มได้เห็นรอยยิ้มหวานจากคนน่ารักๆนี้ก็ยิ่งแล้วกันไปใหญ่....
“ไม่รบกวนเลยครับ น้องมินไม่ต้องคิดมากหรอก พวกพี่เต็มใจนะ” ไรอันเอ่ยขึ้นเป็นคนแรกอย่างอบอุ่น....
“ใช่ๆ ถ้าเกิดพวกพี่ไม่มาส่งแล้วใครฉุดน้องมินไปขึ้นมาล่ะแย่เลย” หนุ่มตาตี๋เจ้าของชื่อ นีโอ ว่าขึ้นทำให้มือเล็กๆตรงเขาทุบที่แขนแกร่งเบาๆด้วยความเขินอาย....
“บ้า พี่นีโอ อย่างผมไม่มีใครเขาฉุดหรอกครับ”
“โหย น้องมินอย่าถ่อมตัวเลย รู้ป่าวว่านี่พวกพี่ต้องป้องกันน้องมินจากสายตาแทะโลมเนี่ยกี่คู่” น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความขี้เล่นของเอชทำให้ชางมินถึงกับเริ่มสะบัดหน้างอนอีกครั้ง...
“อ้าวๆ น้องมินงอนมากเดี๋ยวแก่เร็วนะ” เอเจได้ทีแซวขึ้นบ้าง นั่นยิ่งทำให้คนน่ารักงอนมากกว่าเดิมแล้ว....
“พวกนายเลิกแกล้งน้องมินได้แล้ว ถึงเขาจะน่ารักหน้าแกล้งขนาดไหนก็เถอะ” หนุ่มร่างท้วมนามพีโอเอ่ยขึ้นบ้างยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งหกได้อีกครั้ง....
“ฮะๆ พวกนายพอๆ น้องมินรีบเข้าไปเรียนเถอะครับ เดี๋ยวจะสายนะครับ” เป็นไรอันที่เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่น้องมินที่แสนน่ารักของเขาจะไม่ได้เข้าไปเรียนกันจริงๆ....
“ครับ พี่ไรอัน งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับ” ว่าแล้วร่างบางก็เดินเข้าไปทางประตูที่มุ่งเข้าไปข้างในตึกเรียนของคณะแพทย์ศาสตร์เหลือเพียง ไรอันที่ลอบยิ้มตามไป แต่ภายในแววตานั้นกลับมีอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก....
ขณะเดียวกันทางคนร่างบางที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องเรียนนั้น ก็พลางคิดถึงเหตุการณ์ก่อนที่พวกกลุ่มพารันจะมารับเขา....ทำไมตอนนั้นเขาถึงได้หงุดหงิดขนาดนั้นนะ....มันไม่สมเป็นตัวเขาเองเลยแม้แต่น้อย.....
โกรธเพราะเพื่อนๆกำลังนอกใจแฟนของตัวเองกันงั้นเหรอ....ก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าเพื่อนๆก็แค่เล่นๆกันเท่านั้น ปกติสวีทหวานแหววจนลืมเขาไปเลยนี่นา คงไม่เลิกกันง่ายๆหรอก.....
หรือว่าเขาจะน้อยใจ ที่ยูชอนไม่สนใจเขาจริงๆ.....โอ๊ย!!! บ้าๆ!!!ทำไมเขาต้องแคร์เกี่ยวกับตาไก่บ้านั่นด้วย!!! เลิกๆๆ เข้าเรียนๆๆๆ!!!!!!!.....
ร่างบางโวยวายอยู่ในใจก่อนจะตัดสินใจรีบเข้าห้องไปเรียนก่อนที่จะเข้าไปเล็คเชอร์ไม่ทัน....แม้ในใจก็ยังคงสับสนวุ่นวายอยู่ในใจ....ความสับสนที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ......
ความคิดเห็น