คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4: หอคอยแห่งดวงดารา
บทที่ 4: หอคอยแห่งดวงดารา
หลังจากที่พิธีปฐมนิเทศและการเลือกหอกับสายเป็นอันผ่านไปด้วยดีแล้ว ขณะที่พวกนักเรียนชั้นปี 2 และ ปี 3 เริ่มแยกย้ายกันไปทำภารกิจส่วนตัว ส่วนพวกปีหนึ่งหน้าใหม่นั้นก็จำเป็นต้องไปที่หอพักของตนเองเพื่อศึกษารายละเอียดมากมายโดยการนำทางของเหล่าการ์เดี้ยนประจำหอทั้งห้า
“จากตรงนี้ไปจะเป็นทางเดินแยกเข้าตามหอต่างๆและทางที่เรากำลังจะไปนี้ก็คือทางเข้าหอคอยแห่งดวงดาราของพวกเรา” ราซาร์ท มาร์เรส หัวหน้าของการ์เดี้ยนของหอคอยแห่งดวงดาราเอ่ยขึ้นขณะที่นำทางพวกนักเรียนใหม่ที่เดินกันอย่างเป็นระเบียบไปตามทางเดิน ผ่านสวนกว้างที่คล้ายกับสวนอีดิลที่อยู่หน้าป้อมกำแพงอิฐไม่มีผิด
เนื่องด้วยรุ่นพี่ท่านท่าทางดุเกินวัยทำเอาพวกน้องหน้าใหม่ไม่แม้แต่จะถามคำถามที่ค้างคาใจ ส่วนปีสี่การ์เดี้ยนที่เหลือก็เพียงเดินประกบซ้ายขวาหน้าหลังทำแค่ยิ้มๆเงียบๆไม่พูดอะไร
เดินมาได้สักพักก็เจอแม่น้ำยาวขวางกั้นเอาไว้ ส่วนอีกฝั่งของแม่น้ำคือสวนอันสวยงามและอาคารหอพักสูงใหญ่ตระหง่านลักษณะเหมือนป้อมและหอคอยรวมกัน ตรงกลางของหอคอยมีสัญลักษณ์เหมือนตราวงรีสีดำเหมือนนิล ตรงกลางเป็นรูปสลักของดาวเหนือสว่างเจิดจ้า รอบด้านมีดาวประกายระยับเป็นดาวบริวาร....ด้วยความใหญ่โต ความอลังการของหอคอยเบื้องหน้าทำเอาพวกน้องใหม่ถึงก็เริ่มออกตะลึงค้าง...
“เอ่อ....ขอโทษนะคะ พอไม่มีสะพานแบบนี้ แล้ว...พวกเราจะข้ามไปได้ยังไงล่ะคะ....” เฮลอายกมือขึ้นถามขึ้นอย่างใจกล้า ราซาร์ทหันมาด้วยใบหน้าจริงจังที่สร้างขึ้นบนดวงหน้าหล่อนั้นก่อนจะตอบว่า
“ใครว่าไม่มีสะพานล่ะ” และด้วยคำตอบนั้นสร้างความแปลกใจให้กับหลายคน จนต้องเริ่มหันมาซุบซินกันขึ้นอีกครั้ง...รุ่นพี่ผมสีน้ำตาลเข้มหันไปสบตากับรุ่นพี่หนุ่มผมทองที่นำทางพวกเขามายังอัลเฟรเดรีย
“มิเกล!” รุ่นพี่ราซาร์ทเอ่ยเรียกรุ่นพี่หนุ่มผมทองขึ้น มิเกลแย้มยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากจุดเดิมแล้วเดินไปข้างหน้าบริเวณที่ใกล้กับแม่น้ำ เพียงแค่เท้าสัมผัสกับพื้นหญ้าแถวริมฝั่งแม่น้ำเท่านั้นก็พลันปรากฏคลื่นน้ะลอกใหญ่ และเมื่อสายน้ำค่อยๆหยดลงกลับสู่ผืนน้ำนั้น...
ม้าใหญ่สีฟ้าใสประดุจสายน้ำครึ่งท่องล่างเป็นหางปลาใหญ่ครีบที่แผงคอและหางเป็นสีเขียวใสแลดูงดงามเหมือนนัยน์ตาของมัน มันส่งเสียงร้องกึกก้องทั่วบริเวณพร้อมแรงพลังเวทย์มหาศาลจากสัตว์ตัวนี้
“นะ...นั่นมันตัวอะไรน่ะ!!” นักเรียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางตกใจที่เห็นเจ้าสัตว์หลายคนก็ดูจะตกใจจนพร้อมเหมือนจะเรียกอาวุธออกมารบ
“ใจเย็นๆนะจ๊ะ ไม่มีอะไรหรอก....นั่นน่ะเป็นสัตว์วิเศษที่คอยปกป้องคุ้มครองหอพักของพวกเราต่างหากจ๊ะ” เสียงของรุ่นพี่การ์เดี้ยนสาวผู้มีผมหยักลอนสีเงินเอ่ยขึ้นอย่างใจดีเรียกขวัญน้องๆ รุ่นพ่สาวผมหางม้าสีดำอีกคนก็จึงเสริมเข้าให้
“ใช่ๆ อย่างที่ชาร์รี่พูดนั่นแหละ นั่นน่ะเป็น ฮิปโปแคมปัส ชื่อ แคมี่ เป็นสัตว์วิเศษที่ปกป้องพวกเรา” พอได้ยินรุ่นพี่เอนเดรียเอ่ยเช่นนั้นก็ทำให้หลายคนหายสงสัย....
“แล้วเจ้าม้านั่นจะมาเฝ้ายามได้ยังไงล่ะเนี่ย” เด็กหนุ่มที่อยู่ในแถบนั้นคนหนึ่งเอ่ยบ่นขึ้นจณะเหล่มองไปที่สัตว์วิเศษตัวขนาดกลางนั่น
“ไม่ใช่ม้า...แต่เป็น ฮิปโปแคมปัส ต่างหาก” สาวน้อยนามชารอนเอ่ยขึ้นเพียงกับเด็กหนุ่มฮ้าวๆคนนั้น...
“ช่างเถอะจะเป็นตัวฮิปโปอะไรก็ช่าง แต่ฉันแค่อยากรู้ว่ามันทำอะไรได้ก็เท่านั้น” ลอนซาเอ่ยตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก สายลับหนุ่มที่ได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มกระตุกยิ้มขึ้นหน่อยก่อนจะเอ่ยขึ้นกลางวงด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมใบหน้าแย้มยิ้มสุภาพบุรษ
“ฮิปโปแคมปัสน่ะ เป็นสัตว์วิเศษที่เขาว่ากันว่าเหลือน้อยแล้ว พวกนี้จะมีพลังเวทย์เกี่ยวกับธาตุน้ำมากเป็นพิเศษ แถมยังเป็นองค์รักษ์ชั้นเยี่ยมด้วยนะ ที่สำคัญพวกนี้ทั้งฉลาดแล้วก็จงรักภักดีเอามากๆเลยล่ะ...” วีริดเอ่ยขึ้นทำเอาเด็กปีหนึ่งรอบด้านที่ได้ยินนั้นต่างก็พากันชื่นชมในความฉลาดและท่าทางเป็นสุภาพบุรุษ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสาวๆทั้งนั้น...
....ฮึๆ เรียบร้อยเท่านี้สาวๆร่วมชั้นก็จะเป็นแฟนคลับของเราเสียส่วนใหญ่แล้ว....
เมื่อแผนการเรียกแฟนคลับของตนเองประสบความสำเร็จลุล่วงหนุ่มสายลับก็แอบยิ้มอย่างถูกใจคนเดียว แต่แน่แหละสาวน้อยที่เคยเห็นธาตุแท้ของหมอนี่มาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเพียงเท่านั้น
“เอาล่ะ!พวกปี 1 ทุกคน การที่เธอจะผ่านแม่น้ำไปได้ก็จำเป็นต้องผ่าน เอ่อ...เจ้าฮิปโปแคมปัสตัวนี้ไปให้ได้ ซึ่วิธีก็คือท่องรหัสลับ ขอให้จากนี้พวกเธอจงฟังที่มิเกลจะใช้พูดให้ดีๆแล้วจำให้ได้จากนี้ทันที!” พี่ราซาร์ทเอ่ยเสียงห้าว แต่ก็รู้สึกว่าเจ้าตัวจะเว้นไม่ยอมเรียกชื่ออันแสนน่ารักของเจ้าฮิปโปแคมปัสนั่นยิ่งเรียกรอยยิ้มขบขันให้เพื่อนๆการ์เดี้ยนกันเป็นแถบ....เด็กปี 1 ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรได้แต่มองสถานการณ์อย่างเงียบๆก่อนจะหันไปมองรุ่นพี่ผู้แสนใจดีที่ยืนอยู่ต่อหน้าสัตว์วิเศษ....
“ณ ดวงดาราอันทอแสงสุกสกาวที่ท้องฟ้า ขอโปรดนำทางไป องค์รักษ์แห่งสายน้ำเอ๋ย โปรดอนุญาติให้ข้าข้ามผ่านด้วยเถิด....”
เสียงนุ่มของรุ่นพี่มิเกลเอ่ยขึ้นมาขณะที่พวกน้องๆกำลังตั้งใจฟัง เจ้าม้าฮิปโปแคมปัสสีฟ้าเหมือนจะพยักหน้ารับคลื่นเวทย์ที่ทอแสงมาอย่างอ่อนๆจากตัวของมัน เรียกคลื่นน้ำที่แสนอ่อนโยนให้มารวมตัวกันก่อนที่จะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นสะพานหินอ่อนขนาดกว้างที่พอให้นักเรียนหลายคนผ่านไปได้ในคราวเดียวกัน...
ราซาร์ทเดินนำขบวนผ่านหินอ่อนและทางเดินที่ปูด้วยหินอ่อนสีขาวอีกครั้ง บรรยากาศรอบๆนับว่างดงามไม่ต่างจากราชวังยิ่งทำให้พวกปี 1 หน้าละอ่อนทั้งหลายยังตะลึงไม่หายจนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตูของหอคอยสูงใหญ่....ประตูสลักขนาดใหญ่นั้นเปิดออกทันทีที่ได้ก้าวเข้าไป....
เมื่อทั้งคณะเดินเข้ามาจนถึงภายในห้องนั่งเล่นรวมขนาดกว้างใหญ่จนจะเป็นห้องโถงอยู่แล้วนั้น รอบด้านประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมาย เตาผิงไฟ และรูปประดับรวมถึงโคมไฟระย้าคริสตัลที่ด้านบนนั่นด้วยช่างหรูหราเกินจะบอกว่าเป็นแค่หอพักแล้ว....
“เอาล่ะ นี่คือภายในหอคอยแห่งดวงดารา....ตามทางเดินทั้งสองฝั่งนั้นจะมีทางบันไดเพื่อขึ้นไปที่ห้องนอนของพวกเธอ ทางฝั่งซ้ายเป็นฝั่งของผู้ชาย ส่วนฝั่งขวาเป็นของผู้หญิง ถ้าหากขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเองได้เลยจะพบว่ามีกระเป๋าเสื้อผ้าของพวกเธออยู่พร้อมแล้ว....” ราซาร์ทเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนยืนนิ่ง ขณะที่พวกการ์เดี้ยนที่ยืนล้อมรอบพวกเขาก็เริ่มเดินมารวมตัวข้างหน้า
แถมยังมีคนที่เป็นรุ่นพี่เริ่มมารวมกันหลายคนเข้า ซึ่งแต่ละคนก็มีสัญลักษณ์ต่างๆที่บอกว่าเป็นคนสำคัญของหอคอยแห่งนี้เอามากๆเกือบทุกๆคน...แต่ละคนดูองอาจและสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกันจนน่าตกใจ...
ซึ่งดูเหมือนเด็กหนุ่มสายลับและสาวน้อยอมเวทย์เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังนั้นก่อนใครถึงกับต้องประหลาดใจจนทั้งสองไม่ค่อยกล้าพูดอะไรเท่าไหร หนึ่งในพวกรุ่นพี่คนหนึ่งก้าวออกมานั่นก็คือ ไลเตอร์ปี 2 ที่เป็นคนประกาศชื่อของพวกเขา เฟอร์โด้หันไปโค้งน้อยๆให้พวกรุ่นพี่ที่ยืนอยู่จุดใกล้ๆกับเขาเพื่อแสดงความเคารพ...
“ก่อนที่พวกเธอจะแยกย้ายกันไปจัดของ...พวกฉันจะขอแนะนำเกี่ยวกับหอของพวกเราอย่างง่ายๆและจะพูดถึงตำแหน่งหน้าที่ต่างๆด้วย....” เฟอร์โด้เอ่ยบอกว่าก่อนจะเงียบอยู่ครู่ แล้วจึงพูดขึ้นต่อ
“กฏง่ายๆของหอคอยแห่งดวงดาราไม่มีอะไรมาก...แค่พวกเราต้องสามัคคีกัน ห้ามมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งในหอ...ต้องฟังคำสั่งของพวกที่มีตำแหน่งอย่างเคร่งครัดใครฝ่าฝืนจะถือว่าทำผิดกฏและจะมีบทลงโทษ....”
ฟังแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่พอพูดถึงไอ้บทลงโทษนี่สิมันคืออะไรก็ไม่มีรุ่นพี่คนไหนพูดถึง แถมทำไมไม่รู้ถึงได้รู้สึกถึงออร่าแปลกๆที่แผ่ออกมานับไม่ถ้วน!!
“เอาล่ะ...เรื่องของกฏก็มีแค่นั้นแหละส่วนหน้าที่ และตำแหน่งต่างๆในหอนะ....เริ่มจากที่ ไลเตอร์ประจำชั้นปี ซึ่งจะมีหน้าที่ดูแลผู้ร่วมชั้นปี ซึ่งของพวกเธอ จะเลือกไลเตอร์ประจำชั้นปี แหมือนกันแต่จะเริ่มเมื่อไหรมันก็แล้วแต่พวกเธอ...ส่วนฉันคือ ไลเตอร์ประจำชั้นปี 2 เฟอร์โด้ อโพรอนัส ปี 2 สายนักสู้ ซึ่งเชื่อว่าพวกเธอคงจะรู้ดีอยู่แล้ว” พอเอ่ยเสร็จแล้วไลเตอร์แห่งปี 2 ก็เดินถอยหลังไป เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้รุ่นพี่อีกคนก้าวเดินออกมา ท่าทางดูขึงขังแต่ก็ออกจะน้อยกว่าพี่ราซาร์ท
“ฉันไลเตอร์ประจำชั้นปี 3 ชื่อ อาร์ค ลากาซซา ปี 3 สายนักสู้....” แนะนำตัวเพียงแค่นั้นจึงเดินกลับไปยังจุดเดิมโดยไม่คิดจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น และตอนนั้นเองที่เหล่าการ์เดี้ยนทั้ง 5 ก็ก้าวขึ้นมาและคนที่นำหน้าขึ้นมาก็ไม่พ้นที่จะเป็นพี่ราซาร์ทผู้ที่ยิ่งกว่าคำว่าขึงขัง
“พวกเรา 5 คนก็คือ การ์เดี้ยนของหอคอยแห่งดวงดารามีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในหอ และคอยดูแลพวกเธอทุกคนไม่ให้ทำอะไรผิดระเบียบหรือที่ไม่เหมาะไม่ควรด้วย...ส่วนฉันคิดว่าพอรู้กันดีอยู่แล้ว ฉันหัวหน้าของการ์เดี้ยน...ราซาร์ท มาร์เรส ปี 3 สายนักสู้....” พอพูดเสร็จก็จึงหยุดนิ่งเหมือนเป็นการเรียกให้เหล่าการ์เดี้ยนคนอื่นๆขึ้นมาแนะนำตัวกัน รุ่นพี่หนุ่มผมทองท่าทางใจดีเดินขึ้นมาแล้วแตะไหล่ของเพื่อนสนิทเบาก่อนจะคลี่ยิ้มนุ่มนวลแล้วพูดขึ้นว่า
“ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นก็ได้ราซาร์ท พวกเธอก็ไม่ต้องกลัวจนตัวแข็งขนาดนั้นก็ได้....ฉัน มิเกล คอนสแตนติน ปี 3 สายนักเวทย์ เป็นการ์เดี้ยนเหมือนกัน” เอ่ยเสร็จรุ่นพี่ผมทองก็คลี่รอยยิ้มอ่อนโยนสร้างบรรยากาศอบอุ่นทั่วบริเวณ เรียกสายตาเคลิบเคลิ้มจากพวกรุ่นน้องผู้หญิงหน้าใหม่ได้เพียบ!
“ว้าว....พี่มิเกล อ่อนโยนจังเลย....” เพื่อนสาวร่วมรุ่นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมือทั้งสองก็ประสานสายตาจับจ้องไปที่รุ่นพี่หนุ่มผมทองผู้ใจดีด้วยท่าทางเคลิบเคลิ้มดวงหน้าแดงก่ำ....พอวีริดได้เห็นแบบนั้นแล้วก็อดแอบหมั่นไส้ไม่ได้เลยทีเดียว
“เชอะ...แค่ใจดีนิดหน่อยนี่ จะเท่ห์เกินหน้าเกินตาฉันงั้นเหรอ” เด็กหนุ่มสายลับแอบพึมพำอยู่คนเดียว พอเหมือนเห็นสาวร่วมรุ่นเหล่มามองก็จำต้องรีบสวมหน้ากากเทพบุตรใหม่กลบเกลื่อนด้วยความรวดเร็ว และเหมือนจะมีคนคิดแบบเดียวกับวีริดอยู่รุ่นพี่หนุ่มการ์เดี้ยนอีกคนก็เดินออกมา พร้อมตบหัวของมิเกลดังก๊อก!
“เลิกยิ้มโปยเสน่ห์ได้แล้วนะแก เห็นแล้วมันหงุดหงิดโว้ย!”
“ฉันเปล่ายิ้มโปรยเสน่ห์ซักหน่อย...” มิเกลลูบหัวเบานวดคลายความเจ็บขณะเหล่ไปมองเพื่อนที่ยังคงทำหน้าหงุดหงิดจนน่ากลัว แล้วยิ่งพวกปีหนึ่งหน้าใหม่ยิ่งเริ่มสั่นบางคนก็ทำหน้าเฉยๆไม่สนใจ...แต่ดูเหมือนรุ่นพี่ตาเหยี่ยวคนนี้จะเห็นพวกที่ตัวสั่นกับการกระทำเมื่อครู่
“มองหาพระแสงอะไรวะ พวกแก!! เออๆ ลืมไปวะ....ฉัน โยฟิเอล ไลท์ ปี 2 สายนักสู้ การ์เดี้ยนของหอคอยแห่งดวงดารา ใครมีปัญหาตายสถานเดียว!” รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยขึ้นทั้งที่จะมองจากตรงไหนก็ดูเป็นคนใจเย็นแท้ๆ...ทั้งสีผมน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีฟ้า....แถมชื่อ ก็ยังเป็นนามเดียวกับ อัครเทวดาองค์หนึ่งอีก....แต่ไหงนิสัยมันตรงกันข้ามอย่างนี้!!! พอได้ยินน้ำเสียงขู่ระดับนั้นเล่นเอารุ่นน้องทั้งหลายเริ่มกลัวรุ่นพี่คนนี้ขึ้นมากระทันหัน....
“นี่ๆอย่าไปขู่น้องๆเขาสิ....ขอโทษแทนโยฟิเอลด้วยนะ นี่ก็นะ...เป็นการทักทายตามแบบฉบับของเขาน่ะ” หญิงสาวผู้มัดรวบผมสีดำยาวประบ่าให้เป็นทรงหางม้าเอ่ยขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มร่าเริง เรียกกำลังใจนิดๆจากรุ่นน้องหนุ่มๆ
“จริงสิ...ฉันชื่อ เอนเดรีย รูริเอล ปี 2 สายนักเวทย์จ้า” เธอว่าขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มร่าเริงอีกครั้ง รุ่นพี่หญิงอีกคนยิ้ม...วีริดพอจะจำได้ว่ารุ่นพี่ที่ชื่อ เอนเดรีย...เรียกเธอว่า ชาร์รี่...
“ส่วนฉันชื่อ ชาริแตม แคลชีวาส ปี2 สายนักสู้....จากนี้ก็ขอให้น้องๆทุกคนปฏิบัติตามที่การ์เดี้ยนอย่างพวกเราสั่งด้วยนะจ๊ะ” เธอเอ่ยน้ำเสียงใจดี แต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นผู้นำมันช่างน่าฟังยิ่งกว่าคำขู่ของรุ่นพี่หนุ่มนามโยฟิเอลยิ่งนัก
พอเหล่าการ์เดี้ยนแนะนำตัวกันหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ทั้ง 5 ก็เดินกลับไปยังจุดเดิมแล้วปล่อยให้รุ่นพี่ชายหนุ่มท่าทางองอาจอีกสองคนเดินออกมา และดูจากสัญลักษณ์ที่เข็มขัดแล้วเหมือนกับรุ่นพี่แห่งหอคอยแห่งสุริยาคนนั้น....สัญลักษณ์ของวอร์ลอร์ด....
“พวกเราคือวอร์ลอร์ดของหอคอยแห่งดวงดาราพูดง่ายๆก็คือ คนที่ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับหอคอยแห่งดวงดารา ทั้งเป็นคนจัดการรับผิดชอบเรื่องของความปลอดภัยในหอคอยนี้ ก็นะ...ฉันก็อธิบายไม่ค่อยเก่งเท่าไหรเอาเป็นว่าทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้ว ฉันชื่อ คีย์ เวฟเซนต์ ปี 3 สายนักสู้ผสานเวทย์....” รุ่นพี่หนุ่มผมสีควันบุหรี่เอ่ยด้ยท่าทางอารมณ์ดี ผิดกับพวกพี่ที่เป็นการ์เดี้ยนลิบลับ...
“ใช่ๆ พวกเธอไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ฉันก็เป็นวอร์ลอร์ดเหมือนกัน ยามัส สเกลเลตอน ปี 3 สายนักสู้ ขอฝากใจไว้กับพวกสาวๆผู้น่ารักแห่งปี 1 ทุกคนด้วยนะ...” ว่าแล้วพี่ท่านผู้มีผมสีทอง ก็ส่งนัยน์ตาสีอะเมทิสต์ที่ราวกับแย้มยิ้มให้ เพื่อเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด ซึ่งก็ทำได้ดีเสียด้วย....จนพวกเพื่อนร่วมรุ่นก็เริ่มเอียนไปบ้าง...หนึ่งในการ์เดี้ยนคนหนึ่งอยู่ก็นึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามออกไป....
“แล้วจะว่าไป....ลูฟซิลไปไหนซะแล้วล่ะ?” เอนเดรียเอ่ยถามขึ้น และนั่นทำให้วอร์ลอร์ดสองคนนั้นพลันนึกตามขึ้นมาได้...
“เออ...จะว่าไปเจ้าลูฟซิลมันไปอู้อยู่ที่ไหน....” คีย์เอ่ยขึ้น และนั่นทำให้พวกน้องๆปี 1 ชักจะไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าพวกนี้พึ่งพาได้แน่ๆรึเปล่า....
!!!โครมมมม!!!!
เสียงเหมือนอะไรตกลงมาจากทางโซฟาเรียกให้ทั้งพวกปี 1 และพวกที่ครองตำแหน่งต่างๆต้องหันไปสนใจอย่างใคร่รู้ ทางโซฟาหรูของห้องนั่งเล่นที่หันหลังให้อยู่นั้น เหมือนมีมือๆหนึ่งจับขึ้นมาชวนให้สยองขวัญยิ่งกว่าวันฮาโลวีน....
“โอ๊ย...เจ็บชะมัด....” เสียงหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่จะขยับก็พบกับเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินยาวพอระถึงต้นคอ นัยน์ตาสีทองคู่สวยแสดงความเหยเกเมื่อความเจ็บปวดที่หัวลงไปกระแทกพื้นห้องอย่างดีนั่นดังปั๊ก!
“อ้าว...ลูฟซิลโดดมาอยู่ที่นี่เองเหรอ??” ยามัสถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่ยังคงคว้าดาบคู่ใจมาใช้พยุงตัวให้ลุกขึ้นมาดีๆ...เจ้าของชื่อ ลูฟซิล เพียงแค่ยิ้มแห้งๆก่อนจะตอบไปว่า
“แฮะๆก็ไม่เชิงหรอกครับ พอดีว่าผมไปดูงานปฐมนิเทศน์ แต่พอดีว่าเผลองีบเลยตกลงมาจากอัฒจันทร์ รู้สึกเจ็บๆก็เลยมานอนพักในหอคอยน่ะครับ....” เจ้าตัวตอบด้วยท่าทางสบายๆ แต่ทำเอาพวกรุ่นน้องปี 1พากันเหงื่อตกไปเลย...
“จะเอายังไงก็เถอะ....ถึงตานายแนะนำตัวแล้ว” คีย์ผู้เป็นหัวหน้าของวอร์ลอร์ดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เจ้าตัวคนต้องแนะนำตัวเลยคว้าดาบคู่ใจแล้วกระโดดข้ามโซฟาพร้อมเดินมาอยู่จุดเดียวกับที่วอร์ลอร์ดอีกสองคนยืนอยู่ด้วย
“เอ่อ....แนะนำตัวเหรอ....ลูฟซิล ซินโวรอน ปี 2 สายนักเวทย์ เป็นวอร์ลอร์ดของหอคอยแห่งดวงดาราเหมือนกัน...แนะนำแบบนี้ใช่รึเปล่า?” หลังจากแนะนำที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่แน่ใจว่าจะต้องแนะนำยังไงแถมยังหันไปถามกับรุ่นพี่ที่เป็นวอร์ลอร์ดเหมือนกันอีก....ดูยังไงก็ไม่น่าใช่วอร์ลอร์ด....
แต่ที่หน้าแปลกกว่านั้น ปากก็บอกว่าเป็นสายนักเวทย์ แต่ไหงพกดาบเล่าท่าน!!!!....
ดูเหมือนพวกมีตำแหน่งทั้งหลายก็พอจะรู้นิสัยตรงนี้ของเจ้าคนที่ทำตัวไม่เหมือนวอร์ลอร์ดเอาเสียเลยนั่นแล้วจึงได้เฉยๆปล่อยให้คนที่ตำแหน่งสูงกว่าเดินเข้ามาแนะนำตัวกัน ทั้งคู่เป็นชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่ง แต่ก็ดูเหมือนมีภูมิฐานอย่างที่อธิบายไม่ออก....
“ไงปี 1 ทุกคนพวกฉันสองคนคือ ดยุค กับ ดัชเชส ของหอคอยแห่งดวงดาราแห่งนี้ มีหน้าที่ก็คือ การจัดการภายในของหอคอยไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายหรือว่าเรื่องการติดต่อประสานงานต่างๆ...ฉันคือ ดยุคของหอคอยแห่งดวงดารา เมเฟียร์ แอนเดรีย ลาฟาร์ต...ปี 3 สายนักเวทย์...พอดีชื่อของฉันมันออกจะยาวไปหน่อยเรียกว่า มาล ก็ได้....” พอพูดเสร็จเท่านั้นรุ่นพี่ตาสองสี ข้างหนึ่งคือสีม่วง ส่วนอีกข้างเป็นสีแดง ซึ่งชวนให้ฉงนใจนั้นเขาก็เงียบและไม่พูดอะไรอีก....
“อะแฮ่ม....ฉัน เซเดีย เดอมาเดส ปี 3 สายนักเวทย์....ดัชเชสแห่งหอคอยแห่งดวงดารา...” รุ่นพี่สาวกระแอมเล็กน้อยเพื่อเรียกความสนใจให้กลับมาหาเธอ ก่อนที่จะแนะนำตัวด้วยท่าทางเชิดหยิ่งเสียจนดูน่าหมั่นไส้นิดๆ เธอสะบัดผมยาวสีเกาลัดอันหยักเป็นลอนสลวยเล็กน้อยก่อนจะเดินเบี่ยงแยกทางกับดยุคราวกับจะหลีกทางให้ใครสักคน....
“ทะยอยกันมาแนะนำตัวแบบนี้เนี่ย...จะหมดรึยังล่ะเนี่ย....” สาวผมแดงปีหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างนึกเซ็ง ส่วนเพื่อนคู่หูที่มาด้วยกันก็แค่ยักไหล่เงียบๆไม่สนใจอะไร...
“ก็นั่นน่ะสินะ....อ๊ะ.....” เพื่อนสาวเซียร่าเอ่ยด้วยท่าทางเป็นคุณหนูแต่อยู่ก็ต้องสะดุดขึ้น เนื้อตัวของสาวน้อยจอมเวทย์พลางสั่นเทาขึ้นน้อยๆอย่างไม่มีเหตุผล...
“เป็นอะไรของเธอน่ะเซียร่า...เอ๊ะ...นี่มันกลิ่นอะไร รู้สึกได้กลิ่นหอมหวาน...เหมือนกุหลาบ....” เด็กหนุ่มผมเงินผู้เป็นสายลับเอ่ยขึ้น และนั่นทำให้พวกปี 1 อีกหลายคนก็รู้สึกตามได้กลิ่นหอมหวานที่เหมือนกับกุหลาบ แถมยังรู้สึกได้ถึงจิตเวทย์มหาศาลที่คืบคลานเข้ามา...
“รู้สึกหนาวๆขึ้นมาเหมือนกันนะ...” ฟิลเน่ที่ไม่ได้พูดอยู่นานอยู่ดีๆก็เอ่ยขึ้น สัมผัสเย็นเยือนที่ราวกับจะแช่แข็งทุกสิ่งค่อยๆย่างกรายเข้ามา....ท่ามกลางความตื่นตระหนกระคนประหลาดใจของพวกปี1หน้าใหม่ หากแต่พวกมียศทั้งหลายกลับเพียงยิ้มเท่านั้น...
“เนี่ยน่ะเหรอ น้องๆหน้าใหม่ปี 1 น่ะ”
เสียงหวานใสราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าเอ่ยขึ้นมาทำให้พวกปี1 หลายคนต้องมองไปทางต้นเสียงและจึงได้เห็นคนคู่หนึ่งที่เดินเข้ามา...จากไหน?...
....ทั้งที่เมื่อกี้ไม่ได้รู้สึกถึงจิตของบางอย่างที่เข้ามาใกล้ในรัศมีเท่านี้เลย...แล้วโผล่มาจากตรงไหน?....
วีริดคิดอย่างนึกตระหนกแลประหลาดใจการเข้ามาเยือนของสองคนนี้เป็นอย่างยิ่ง ชายหนุ่มหญิงสาวเดินเคียงคู่กันมา ผ่านเหล่าการ์เดี้ยน วอร์ลอร์ด และดยุคกับดัชเชส และดูเหมือนว่าพวกมียศทั้งหลายออกจะนอบน้อมกับสองคนที่มาใหม่เป็นอย่างยิ่ง...
ชายหนุ่มผมทองบลอนด์เป็นประกาย นัยน์ตาสีทองพราวระยับ รูปร่างสูงโปร่ง พร้อมด้วยหน้าหล่อเหลาคมคายยิ่งกว่าเหล่าเทพบุตรในชุดเครื่องแบบอันประดับประดาด้วยเครื่องยศแห่งหอคอยที่มากกว่าคนอื่น สัญลักษณอันเป็นที่เหมือนเข็มกลัดที่ตั้งไหล่ ตรายศที่ดูดงงามกว่าอันอื่นที่อกเสื้อ และประดับที่เอวด้วยสายสร้อยเพชรรูปดาวที่ห้อยฝั่งหนึ่งของเข็มขัด....ที่แขนข้างหนึ่งของเขานั้นมีหญิงสาวสวยกอดแขนข้างนั้นของเขาอย่างแนบแน่น...
สาวงามผู้มีเรือนผมยาวสยายสีชมพูอ่อนเหมือนดอกลิลลี่หยักเป็นลอนที่ปลายถึงช่วงสะโพก นัยน์ตาสีโกเมนเจิดจรัสเหมือนอัญมณี ริมฝีปากอิ่มเหมือนกับกลีบกุหลาบ ดวงหน้าที่ราวกับเทพธิดามาจุติ เครื่องแบบหญิงที่เธอใส่ออกจะมีลักษณะเด่นเมื่อที่แขนทั้งสองฝั่งมีผ้าพริ้วใสขนาดสั้นอยู่รอบช่วงแขนแต่เปิดใชว์หัวไหล่บางเย้ายวน ที่แขนข้างหนึ่งมีแถบรัดข้อมือเงินประดับเพชรรูปดาวอันเป็นเหมือนการบอกตำแหน่งที่อกเสื้อประดับด้วยตราสัญลักษณที่เชื่อมกับสายสร้อยเพชร และที่กระโปรงก็มีผ้าพริ้วใสติดกับกระโปรงด้านหลังดูพริ้มสยายเหมือนนางสวรรค์...แต่กลับมีกลิ่นอายที่อันตรายอย่างน่าพิศวง...
“ปี 1 ทุกคน...นี่คือ คิง และ ควีน ของหอคอยแห่งดวงดาราของพวกเรา ผู้ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับหอคอยแห่งดวงดารา ทั้งยังเป็นผู้นำ และผู้ปกครองหอคอยนี้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเธอทั้งหมดต้องให้ความเคารพ...” ราซาร์ทเอ่ยขึ้น แม้เขาจะเป็นคนขึงขังแต่เมื่อได้เห็นผู้มีอำนาจสูงสุดของหอกลับเต็มไปด้วยความยำเกรง...
“แหม...ไม่ต้องซีเรียสก็ได้นี่จ๊ะ ราซาร์ท...” สาวผมสีชมพูอ่อนผู้เป็นควีนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานใสจนเหมือนอีกฝ่ายต้องมนต์เสน่ห์....ชายหนุ่มผมทองผู้เป็นคิงเหมือนแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่ครู่ก่อนจะทำท่าเอ่ยแนะนำตัว หากแต่ก็ถูกปลายนิ้วเรียวยาวสวยของหญิงสาวทาบติดที่ปาก นัยน์ตาที่น่าหลงใหลมองไปยังคิงก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาน...
“นี่...เครย์อาซ...ต้อง เลดี้ เฟิร์ส ก่อนสิ....ขอฉันแนะนำตัวก่อนได้ไหม...นะ.....” น้ำเสียงหวานที่เหมือนชวนให้หลงเอ่ยขึ้น ผู้เป็นคิงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะตอบรับ
“ตามใจเธอโคโค่เว็ต...” หญิงสาวแย้มยิ้มรับก่อนจะขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มเธอละปล่อยแขนของเครย์อาซออกมา สองมือไพล่หลังไว้ ใบหน้าสวยแย้มรอยยิ้มหวานชวนให้เคลิบเคลิ้ม...
“สวัสดีจ๊ะปี 1 ทุกคน...ฉันชื่อ จิโคลเรีย โคลเว็ตวี่ ปี 3 สายนักสู้ผสานเวทย์ เป็น ควีนของหอคอยแห่งดวงดารานี้...ถ้ายังไงเรียกฉันว่า โคโค่เว็ต ฉันจะดีใจมากกว่านะ....” พอว่าเสร็จเธอก็ยังคงแย้มรอยยิ้มที่เหมือนทำให้ทุกคนตกอยู่ในมนต์เสน่ห์พร้อมกลิ่นหอมที่ไม่รู้มาจากไหน โคโค่เว็ตหันไปมองทางชายหนุ่มผมทองแทนการบอกว่าให้ขึ้นมาแนะนำตัว...เขาหรุบตาลงเล็กน้อยก่อนจะก้าวออกมาด้วยท่าทางองอาจสง่างาม
“ฉันคือ คิง ของหอคอยแห่งดวงดารา เครย์อาซ เลโบรดิก ปี 3 สายนักสู้ผสานเวทย์....” เพียงแค่ได้ยินชื่อรัศมีของผู้นำอันเจิดจรัสก็ราวกับส่องแสงออกมา และพวกปีหนึ่งก็เริ่มกระซิบกระซาบกันอย่างประหลาดใจ
“นี่ๆ ทำไมพวกเราถึงต้องฮือฮากันด้วยน่ะ” เฮลอาเอ่ยถามกับเพื่อนๆกลุ่มของเธอที่ดูประหลาดใจทันทีที่ได้ยินชื่องเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย
“จะไม่ให้ฮือฮาไม่ได้ยังไงล่ะเฮลอา...นั่นน่ะ เจ้าชายรัชทายาทแห่งเนเรดีสเลยนะ” เพื่อนสาวอย่างเซียร่าช่วยไขข้อสงสัย แม้คนทีไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรอย่างเฮลอาถึงกับต้องประหลาดใจจนต้องร้องออกมาเสียงหลง เด็กหนุ่มสายลับเหล่มองไปทางคิงของหออย่าพินิจพิเคราะห์....
....เนี่ยน่ะเหรอ....เจ้าชายรัชทายาทแห่งเมืองหลวงเนเรดีส....ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเจอกันที่นี่....
“หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว...ขอให้พวกเธอทุกคนแยกย้ายขึ้นไปจัดของ ส่วนที่พวกเธอจะใช้อยู่จะมีรายชื่อติดไว้อยู่แล้ว พวกเธอจะมีรูมเมทร่วมห้องละ 3 คน...แยกย้ายได้แล้ว....” ทันทีที่เครย์อาซสั่งพวกรุ่นน้องก็เริ่มทะยอยแยกย้ายกันตามที่สั่งอย่างดี
“แหม...ทำหน้าตาขึงขังเชียวนะ เครย์อาซ...” โคโค่เว็ตเอ่ยบอกเสียงหวาน ขณะที่มือทั้งก็เอื้อมเข้าไปกอดแขนของอีกฝ่ายอีกครั้ง
“โคโค่เว็ต....” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเย็น เรียกให้สี่พระหน่อแห่งปี 1 ที่ใครรู่แอบมองดูอย่างเงียบๆ...
“ไม่เอานะ...เครย์อาซนี่ล่ะก็ไม่เห็นต้องเครียดไปเลยนะ....” หญิงสาวยังคงเอ่ยเสียหวานร่าเริง ส่วนพวกติดยศทั้งหลายดูเหมือนจะชินตากับภาพแบบนี้เสียแล้ว....
....ตกลงสองคนนี้เป็นแค่คิงกับควีนของหอ หรืออะไรกันแน่เนี่ย!!....
ความคิดเห็น