ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความบังเอิญที่ทำให้เรารู้จักกัน
วันนี้เป็นการเรียนวันสุดท้ายแล้ว ฉันไม่อยากให้ถึงวันนี้เลย นายจะลงครอสต่อไปรึเปล่านะ ฉันหมายถึงลูกลุงนาจอ่ะนะ นายหนึ่งฉันว่าจะไปดูเขาให้ทิพย์สักหน่อย ทิพย์ดูชอบเขามากนะ แต่ฉันก็กลัวเขาจะผิดหวังเพราะทิพย์ก็ไม่คิดจะจริงใจกับใครเหมือนกัน แต่ยังไงฉันก็ต้องช่วยเพื่อนก่อนแหละนะ
ฉันเดินวนไปวนมา อยู่หน้าห้องเขา จะถามว่าอะไรดีล่ะเนี่ย กลัวจังแหะ
“ฉันไม่รู้ว่าเธอมาหาใคร ให้ฉันเรียกให้ไหม” หนึ่งถามฉัน นี่เขาออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ตึกๆ ตึกๆ ใจเต้นแรงจังเลย บ้าชะมัด แค่นี้ทำเป็นตื่นเต้น
“ฉัน...ฉันมาหานายนั่นแหละ” เขาทำหน้าแปลกๆ แล้วยังมากวนประสาทฉันอีก
“วันนี้ฉันไม่ได้เอา ไฟแช็ค มาหรอก”
“ตกลงนาย ทำรึเปล่า” ฉันถามออกไป ก็เขาพูดเรื่องนี้ทำไม แล้วฉันก็ต้องตาโต เมื่อเห็นบุคคลที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา อาจารย์ที่ ให้ฉันตรวจเมื่อวันนั้นนี่นา
“เธอเอาไฟแช็คมาเหรอ วันนั้น” อาจารย์หันมาถาม หนึ่ง “ว่าไง เธอเป็นตรวจซินะ เขาเอามารึไง ห้ามปิดอาจารย์นะ” อาจารย์ถามฉัน ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร กลัวหนึ่งจะโดนทำโทษ
“ครับ ผมเอามาครับแต่เธอตรวจมาพบครับ” หนึ่งตอบอาจารย์ ตอบแบบนั้นได้ไง เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก
“ตรวจไม่พบงั้นเหรอ งั้นเธอไปได้ ส่วนเธอสุรวินทร์ เธอต้องโดนสอบสวน” อาจารย์บอกเขา ฉันจะทำอย่างไรดีล่ะ
“หนูเองค่ะ หนูผิดเองที่ไม่เอาไปให้อาจารย์” ฉันตัดสินใจพูดเผื่อเขาจะได้ลดโทษมาบ้าง
“งั้นพวกเธอตามอาจารย์มา” อาจารย์เดินนำพวกเราไป
“หัดใช้เซลล์สีเทาบ้างซิ” เขาหันมาว่าฉัน อะไรกันนี่ฉันพยายามช่วยนายนะ
อาจารย์ให้ฉันรออยู่ข้างนอกแล้วพาเขาเข้าไปในห้อง พูดอะไรกันฉันก็ไม่รู้หรอก สักพักอาจารย์ก็เดินนำออกมาและตรงมาหาฉัน “ไม่น่าเลย เธอน่าจะนำมาให้อาจารย์ตั้งแต่แรกนะ” อาจารย์บอกฉัน
“ผมผิดเองครับ ผมบอกเธอไปเธอจึงไม่ได้นำไปให้อาจารย์” ดูเขาจะพยายามรับผิดแทนฉันทุกอย่าง
“เชื่อคนง่ายจังนะ” อาจารย์ก็ว่าแต่ฉันคนเดียวนี่แหละ
“เรารู้จักกันครับ” เขาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย เขารู้จักฉันด้วยเหรอ
“รู้จัก? ไหนลองบอกชื่อเขามาซิ” จะให้บอกมันก็ได้นะ แต่กลัวหนึ่งจะตกใจว่าฉันรู้จักเขาได้อย่างไร
“ผมคิดว่า ผมรู้จักเธอฝ่ายเดียว” แค่บอกชื่อก็คงจบใช่ไหม
“เขาชื่อ สุรวินทร์ อนันต์รักษาค่ะ” ฉันพูดออกไปแล้วดูเหมือนว่าจะไม่หยุดด้วย “ต้องการอีกไหมคะ เขามีน้องสาวอีกหนึ่งคน
”
“พอได้แล้ว ไปเข้าเรียนได้แล้ว” อาจารย์บอกพวกเรา แล้วจึงเดินไป
“ไปเรียนได้แล้ว แล้วนี่...หัดใช้บ้างนะ” นี่ เขาชี้ไปที่ศีรษะ เขาว่าฉันไม่ยอมใช้สมองงั้นเหรอ นายหนึ่ง
วันนี้ฉันได้ไปสวนกับพ่อ ผ่านหน้าบ้านหนึ่งด้วยล่ะ แต่วันนี้ดูร้านแปลกๆไปแหะ อ๋อ ร้านอาหาร
“อ้าว พ่อ นี่เขาทำร้านอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ฉันถามพ่อ เมื่อผ่านหน้าบ้านของหนึ่ง
“ก็หลังจากที่มาครั้งที่แล้ว 2 อาทิตย์แหละ” พ่อตอบฉันก็หลังจากที่ฉันพูดกับพ่อว่าเขาน่าจะมี ร้านอาหารสินะ “สงสัยเขาจะได้ยินที่แกพูดเรื่องร้านอาหาร ก็เลย ไอเดียบรรเจิด ทำร้านอาหารล่ะมั้ง”
เมื่ออยู่ที่สวนฉันก็ไม่รู้จะทำอะไร หลังจากไปช่วยเขาลากสายยางรดน้ำมา ฉันไปเปิดหนังสือหน้าเหลือหาเบอร์โทรศัพท์ เขาดีกว่า ฉันเปิดดูตั้งแต่ชื่อพ่อก่อน อำนาจ อนันต์รักษา ไม่มีแหะ แล้วชื่อแม่เขาก็ไม่รู้ซะด้วยซิ ฉันตัดสินใจเริ่มหาตั้งแต่ ตัวก.ไก่
“โอ๊ย จะบ้าตาย ทำไมหายากอย่างนี้เนี่ย” ฉันบ่นกับตัวเอง
ขากลับผ่านหน้าบ้านเขาอีกครั้ง ฉันดูป้ายหน้าร้าน Sport club บรรทัดล่างสุดของป้ายมีเบอร์โทรศัพท์ด้วยนี่นา นี่ฉันโง่ซะตั้งนาน ฉันเผลอหัวเราะในความโง่เขลาของตนเอง จนพ่อหันมามอง คงคิดว่า ลูกฉันบ้ารึเปล่าเนี่ย
คืนนี้ ฉันตัดสินใจโทรศัพท์ ไปหาหนึ่ง อืมเผื่อจะมีอะไรดีๆไปบอกทิพย์ แล้วอีกอย่างไม่ต้องกลัวเขารู้ว่าเป็นฉันด้วย เพราะฉันจะโทรเข้าเบอร์บ้านเขา
“ฮัลโหล” นั่นเสียงหนึ่ง โอย หัวใจจะวาย ฉันจะพูดอะไรดีล่ะ ฉันเงียบไป
“ฮัลโหล ต้องการพูดกับใครครับ” ฉันก็ยังไม่ยอมพูดเขาต้องคิดว่าฉันเป็น ไอ้โรคจิตแน่ๆเลย แล้วเขาก็เงียบไป เอ๊ะ... เงียบทำไมอ่ะ
“ฮัลโหล วางแล้วเหรอ” ฉันตัดสินใจถามออกมา เห็นว่าเงียบไปนาน เขาอาจจะวางไปแล้วก็ได้
“ยังครับ” ฉันก็เงียบไปอีก “ต้องการพูดกับใครครับ นั่นเพื่อนสอง รึเปล่า” เขาพูดถึงน้องสาวของเขา
“หนึ่งค่ะ”
“ครับ พูดอยู่” เงียบอีกแล้วแหะ “ไม่ทราบว่าใครพูดอยู่ครับ”
นั่นเขาถามฉันใช่ไหม ตอบสิยัยเม ตอบเขาไปสิว่าใครพูด
“ทิพย์ค่ะ”สุดท้ายฉันก็ต้องอ้างว่าเป็นทิพย์ ก็ฉันติดต่อให้ทิพย์นี่นา เฮ้อ...
“ทิพย์?” เขาพูอย่างไม่แน่ใจ
“ยะ...ย่ะ...ยุ่งอยู่รึเปล่าคะ เอ่อ...ถะ... ถ้ายุ่งเดี๋ยวฉันโทรไปใหม่ก็ได้” ฉันถามออกไป อย่างตะกุกตะกัก
“ไม่ยุ่งครับ เอ่อ.ผมว่าคุณรวบรวมสติก่อนดีไหม ดูคุณตื่นๆยังไงไม่รู้” นี่เขาว่าฉันงั้นเหรอ แต่ก็จริง ก็ฉันตื่นเต้นนี่นา นี่หัวใจจะทะลุออกมาเต้นอยู่ข้างนอกอยู่แล้วนะ
“Okay ฉันจะถามว่าคุณจะมีเวลาคุยกับฉันไหมค่ะ”
“หาเพื่อนทางโทรศัพท์รึไง ครับ” เขาถาม
“เอ่อ ถ้าคุณจะคิดแบบนั้น” ฉันก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน
“คุณเอาเบอร์ ผมมาจากไหน” เขาถามฉันด้วยเสียงที่แข็งมากๆ
“สุ่มเอาค่ะ” ฉันก็สวนกลับไปอย่างไม่คิด
“คุณเอาชื่อผมมาจากไหน” เขาก็ถามทันควันเหมือนกัน
“สุ่ม...เอ๊ย...คือเพื่อนให้มา” เกือบไปแล้วไหมล่ะ
“หรือครับ ผมก็นึกว่าคุณจะบอกว่าคุณสุ่มชื่อผมมาซะอีก” เขานี่ช่างจับผิดจริงแหะ “ครับ ผมมีเวลาคุยกับคุณ คุณทิพย์” ดูเขาจะเน้นชื่อของทิพย์จังแหะ “เอาสิ ตอนนี้ผมว่างอยู่พอดี คุณจะคุยเรื่องอะไรล่ะ การเรียน การเงิน หรือ...ความรัก”
“แหวะ” ดูสำนวนเขาสิ ฟังได้ที่ไหน
“ห๊า... นี่คุณแหวะผมงั้นเหรอ” เขาพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย มันตลกงั้นเหรอ
เราพูดคุยกันจน ถึง 4 ทุ่ม 2 ชั่วโมงเลยแหะ ไม่รู้ว่าสรรหาเรื่องอะไรมาพูดนัก แต่ฉันก็รู้เรื่องเขามามากพอที่จะบอกทิพย์นั่นแหละ
“คุณง่วงนอนรึยัง” เขาถามฉัน
“ก็ไม่ค่อยนะ แต่ก็ถึงเวลานอนแล้วล่ะ” ฉันบอกเขาไป ก็ฉันยังไม่อยากวางนี่นา
“งั้นผมว่า เราควรจะนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า จะได้สดชื่น”
“อ๊ะ อืม” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรนอกจาก ฟังที่เขาพูด
“ฝันดีครับ” นั่นเขาพูดกับฉันใช่ไหม เขาบอกฉันว่าฝันดี
“อืม เช่นกันค่ะ” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้วอ่ะ รอเขาวางไปแล้วกัน
“เอ่อ/เอ่อ” เราสองคนพูดออกมาพร้อมกัน
“คุณจะพูดว่าอะไรเหรอ” เขาถามออกมา
“ก็จะถามว่าทำไมนายไม่วางล่ะ”
“ผมก็รอคุณวางอยู่นี่ไง คุณก็วางสิ”
“งั้นเหรอ งั้นวางนะ บาย” ฉันก็ไม่ได้รอคำตอบ สุดท้ายฉันก็เป็นคนวางก่อน เฮ้อ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น