ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marry Phone

    ลำดับตอนที่ #3 : การพบกันที่ไม่น่าประทับใจ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 50


    เช้าวันใหม่กับโคนัน ฉันนั่งดูการ์ตูนสุดโปรด ซึ่งพ่อฉันก็นั่งอยุ่ใกล้ๆ เช่นกัน ได้ยินเสียงแม่บ่นแต่เช้าเลย      ทีวันไปโรงเรียน หรือวันมีธุระ เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ลุก อีทีดูการ์ตูนนี่รีบตื่นมาดูจังนะ เอาอีกแล้วแม่ฉันบ่นเป็นยายแก่ทุกทีเลย

    แม่ก็บ่นแบบนี้ได้ทุกสัปดาห์นั่นแหละ บ่นไม่รู้จักเบื่อเลยจริงๆ พ่อฉันเป็นคนพูดและหันมาทางฉัน

    ก็คนมันชอบนี่ ฉันบอกพ่อที่แอบมองค้อนฉัน

    ก็คำนี้ทุกที แม่ก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ บ่นได้บ่นไป

    แม่ก็รู้ว่าหนูจะพูดคำนี้ แม่ก็อย่าบ่นซิ หนูจะได้ไม่พูดคำนี้อีก ฉันย้อนทันควัน โอยๆ ท่าทางจานข้าวที่แม่ถือจะลอยมาหาฉันแน่ๆ ถ้ายังไม่หยุดพูด

    บ่นอย่างนี้ ไม่รู้นักเรียนทนกันได้ยังไง พ่อฉันเป็นเปิดประเด็นขึ้นอีก

    ช่าย ๆ ดีนะที่หนูไม่เรียนจนจบ

    ก็พ่อรู้ไง เลยให้เรียนแค่เทอมเดียว อืมๆ ฉันกับพ่อก็อย่างนี้แหละ

    เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ แม่ฉันก็ไม่วายหันมาทำตาเขียวใส่ โธ่ก็พ่อลูกกันนี่นา

    พ่อ วันนี้ไม่ไปสวนที่ชุมชนต้นกล้าเหรอ ฉันถามพ่อ ฉันรู้ว่าพ่อชอบไปที่ชุมชนต้นกล้าแล้วจะแวะที่บ้านลุงนาจเพื่อแข่งปิงปองกัน พ่อกับลุงนาจเป็นเพื่อนเก่ากันแต่ไม่ค่อยสนิท แต่แม่ฉันไม่ค่อยชอบครอบครัวนั้นไม่รู้ทำไม

    อยากไปสวน หรือทางผ่านไปสวนกันแน่ พ่อแกล้งถามฉัน

    แล้วพ่ออยากไปรึเปล่าล่ะ ฉันรู้ว่าพ่อพูดถึง sport club ร้านกีฬาของลุงนาจ พ่อฉันเล่นกีฬาได้แทบทุกอย่างเท่าที่ฉันนึกได้ไม่ได้แค่เล่นพอเป็นนะ แต่เล่นเก่งซะด้วย โดยเฉพาะปิงปอง

    วันนี้แม่มีประชุมที่โรงเรียน ฉันกับพ่อเลยได้ทีเข้าสวนซะเลย ฉันก็ไปช่วยคนงานห่อผลไม้ พอซัก 4 โมงก็กลับกัน รอเวลานี้มานานแล้ว ฉันและพ่อแวะที่ร้านลุงนาจ

    ไม่เห็นลูกคนโตเลย ไม่อยู่รึไงนะ ฉันจึงเดินไปเรื่อยๆ เห็นเขาเล่นแบดกัน ฉันก็นั่งดูแต่ไม่สนุกแหะ จึงเดินไปเรื่อยๆ เห็นสนามบาส แต่ไม่มีคนเล่น มีลูกบาสวางอยู่นิ่งๆ ฉันจึงเข้าไปหยิบเพื่อจะชู้ต เล่น

    เอ้า! ไป  ไม่ลงแหะ      เอาใหม่ๆ ถ้าลงแสดงว่าเรา เอ็นคณะที่ชอบได้ ฉันชอบทำแบบนี้เสมอแต่ก็ไม่ได้จะจริงจังกับที่พูดไปหรอกนะ

    ถ้าลงก็ฟลุ๊ค แล้วล่ะ เสียงห้าวของคนๆนึงดังขึ้นข้างหลังฉัน ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมอง

    อ๊ะ ลูกลุงนาจน่ะเอง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปทำอะไรมาเหงื่อเยอะขนาดนั้นนะ  เขาแย่งลูกบาสไปจากมือฉัน และทำท่าจะชู้ต

    ดูนะ ถ้าลงแสดงว่าเธอเอ็นไม่ติด 

    สวบ ! ก็ลงอ่ะดิ แล้วมาว่าฉันจะเอ็นไม่ติดได้ไง

    อีกลูก ถ้าลงแสดงว่าเธอเอ็นติด

    สวบ! ก็ลงอยู่ดี เฮ้อ.....ดีจัง ฉันเผลอตบมืออย่างดีใจ เขายิ้มแต่กลับหันหลังเดินเข้าบ้านไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย   อ้าวฉันจะเล่นบ้างกลับก็กลับคนเดียวซิไม่เห็นต้องถือลูกบาสกลับไปด้วยเลย ขี้หวงจัง

    ฉันเดินไปหาพ่อต่อ แต่พ่อก็ยังเล่นไม่หยุดซักที ฉันจึงเดินไปดูของในร้าน ก็มีพวกหนังสือคู่มือ อุปกรณ์กีฬา ฉันเดินดูไปเรื่อยๆ ก็สะดุดเข้ากับรูปภาพ เป็นภาพวาดที่คุ้นตา ภูกระดึงนั่นเอง ที่ผาหมากดูก ก็ฉันเคยไปที่นั่นฉันจำได้

    ลูกลุงเขาไปเที่ยวแล้ววาดมาน่ะ ลุงนาจเดินเข้ามาหาฉัน อืม ลูกลุงวาดเหรอสวยจัง

    ภูกระดึงใช่ไหมค่ะ ฉันถามออกไปเพื่อความชัวร์

    ใช่ เอ้อ พ่อจะกลับแล้วน่ะ ลุงนาจบอกฉันเหมือนกลับลืมไปถึงจุดประสงค์ที่มาตามฉัน

    เหรอค่ะ ขอบคุณค่ะ ลูกลุงวาดรูปสวยนะคะ ฉันพูดแค่นั้นแล้วจึงเดินออกมา

    พ่อฉันเหรอเนี่ยตัวเปียกโชกเชียว แล้วจะเข้าบ้านยังไงเนี่ยแม่ต้องสงสัยแน่ๆ   โห พ่อ ตัวเปียกเชียว

    ไปเหอะ หิวข้าวด้วย พ่อบอกฉัน

    เขาน่าทำร้านอาหารด้วยเนอะ น่าจะขายดี คนเล่นกีฬาเสร็จ หิวๆก็กินต่อเลย ฉันออกความเห็นให้พ่อฟัง     แน่ล่ะเรื่องปากเรื่องท้องเป็นเรื่องใหญ่นะ

    นี่ก็เรื่องใหญ่เหมือนกันแม่นั่งอยุ่หน้าบ้านเลย ฉันและพ่อจึงแอบเข้าทางหลังบ้าน แม่ไม่ชอบให้ไปร้านลุงนาจเห็นว่าไม่ถูกกับภรรยาลุงนาจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

    คุณ ไปร้านนั่นมาใช่ไหม กึก ทั้งฉันและพ่อหยุดชะงักกับเสียงที่ดังขึ้น พ่อโดนจับได้แล้ว

    เปล่าไปสวนมา ทำงานน่ะ ร้อนจังเลย ไปอาบน้ำแล้วนะ ไม่ทันขาดคำพ่อก็รีบเข้าห้องไปเลย

    ยัยเม โอย แม่อย่าหันมาหาเมซิ 

    เปล่านะแม่ หนูไม่รู้เรื่อง       ไม่รอให้โดนว่าเหมือนกันเผ่นดีกว่า

     

     

    วันนี้ฉันต้องไปเรียนแล้ว  เคมี เฮ้อ..........มันยากจังแหะ จะเรียนรู้เรื่องรึเปล่านะ ฉันคิดไปถึงตอนเย็นแล้ว แต่ตอนนี้เนี่ยซิ ฉันยังเรียนอยู่ในห้องเรียน

    ทิพย์ บอยไม่ได้มาด้วยเหรอวันนี้ ฉันถามออกไปเนื่องจากวันนี้ไม่เห็น บอยมาส่งทิพย์เลย

    ไม่ได้มา เธอตอบฉันเท่านั้น

    แปลกจัง ก็ทำไมจะไม่แปลก วันนี้ไม่มาส่ง พักหลังก็หายหน้า แล้ววันนี้ทิพย์พูดน้อยผิดปกติ

    เลิกกันแล้ว อ้าว เลิกกันเหรอ

    ทำไมอ่ะ ฉันถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ

    ก็เบื่อแล้ว เอ้อ ฉันเจอคนๆนึง ด้วยนะ น่ารักชะมัด เข้มอ่ะ ทิพย์พูดอย่างกระตือรือร้นแล้วไอ้ท่าทีเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วนะ

    อือ ฉันตอบสั้นๆ รู้แล้วล่ะ เธอพบคนใหม่แล้วนี่เอง ยัยทิพย์      แล้วทีนี้ใครล่ะ ฉันถามออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

    นี่แกเต็มใจถามรึเปล่าเนี่ย ไม่เป็นไร ถึงไม่เต็มใจถามก็จะบอก เขาอยู่โรงเรียนอันดับหนึ่งล่ะ ชื่ออะไรฉันยังไม่รู้หรอกนะ เรียนพิเศษ ที่เดียวกันเนี่ยแหละ เธอเล่าให้ฉันฟัง     อ้อ แล้วเขาก็นั่งรถกลับบ้านสายเดียวกันด้วยนะ เธอบอกฉัน

    ใครหว่า ฉันก็สงสัยสิ แถวบ้านเธอก็ใกล้บ้านฉันด้วย เพียงแต่นั่งรถคนละสายเท่านั้นเอง เรียนด้วยกันเดี๋ยวก็คงเจอเองแหละ

     

    ติ้ง ติง ติ่ง ติ่ง ................. เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น พวกเราทั้งสามได้เดินทางไปสถานที่ที่เรียนพิเศษ เมื่อทราบห้องเรียนแล้ว ฉันอยู่ห้อง B สายเคมี เรียนรู้เรื่องแหะ สนุกอีกด้วย อยากเรียนแบบนี้จังที่โรงเรียนไม่สอนบ้าง

    ทิพย์ก็ได้แต่พูดถึงเพื่อนที่เรียนด้วย มีแต่น่ารักๆทั้งนั้น แถมฉันยังได้เพื่อนใหม่มาอีกนะ

    เม

    อ๊ะ ใครเรียกฉัน เมื่อฉันมองทุกด้านรอบทิศแล้วจึงพบกับ นายอิทธิ เพื่อนร่วมห้องของฉันเอง ฉันกำลังจะไปเรียนพิเศษ แต่นายอิฐทำเหมือนมีอะไรจะบอกฉัน        ทำไมเหรอ

    ก็เธอ....... เอ๊ะ นายมีอะไรจะบอกฉันกันแน่ อ้ำอึ้งจัง

    เธอ........เธอลืมทำเวร

    หา?” แค่เนี้ย ทำเป็นมาอ้ำอึ้ง     เออ ใช่ ฉันยังไม่ได้ทำเวร โอ๊ย ตายแล้ว ทำไงดี จะเข้าเรียนแล้วด้วย คือ ฉันฝากนายทำด้วยนะ ฉันจะไปเรียนแล้ว แล้วฉันจะชดใช้ให้ทีหลัง ฉันไม่รอฟังเขาพูดก็รีบวิ่งไปแล้ว

    ตั้งใจเรียนแล้วกันนะ เสียงนี้ฉันได้ยินไม่ถนัดนัก นั่นนายอิทพูดรึเปล่านะ คงไม่หรอกคนปากเสียอย่างนั้นไม่มีทางพูดแน่ๆ

     

    เรียนเสร็จฉันจึงไปหาทิพย์และชลซึ่งเรียนเสร็จเราก็จะนัดเจอกันเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน

    เมๆ เร็วๆ ทิพย์เรียกฉัน ขณะที่ฉันยังเดินอยู่ไกลๆอยู่เลย     นี่ ฉันรู้แล้วนะ เขาเรียนเคมีล่ะอยู่ห้อง A เม ช่วยฉันนะ

    อีกแล้วอ่ะ ไม่เอาแล้ว ทำไมเธอไม่วานชลล่ะ ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวนี่นา ทำไมฉันต้องเป็นแม่สื่อให้เธอทุกทีเลยนะ

    ไม่เกี่ยว ฉันไม่รู้จักซักหน่อยคนของยัยทิพย์ ชลรีบปฏิเสธ งั้นก็ฉันทุกที

    แล้วใครล่ะ ชื่ออะไร ฉันจะได้ไปด่อมๆมองๆได้ ฉันถามทิพย์

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชื่ออะไร เดี๋ยวเห็นเมื่อไหร่ชี้ให้ดูนะ ทิพย์บอกฉัน เฮ้อ.........น่าช่วยไหมเนี่ย

     

    นักเรียนชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหากลุ่มฉัน ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 5 วันของการเรียนฉันก็ยังไม่เห็นเด็กห้อง A ของทิพย์เลยแล้วคนที่เดินมานี่ใครหว่า คนนี้หรือเปล่า

    กร นี่เม เพื่อนฉันเอง ทิพย์แนะนำ กร ให้ฉันรู้จัก

    หวัดดี ฉันพูดออกไป ???????????????????? ใครเนี่ย?????????

    เม เห็นชลไหม ทิพย์ถามฉัน

    ไม่เห็นเลยนี่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้ว แล้วฉันก็เพิ่งมาด้วย  ฉันตอบออกไป

    ฝากดูห้อง A  ด้วยนะ เธอพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป 

    ฉันเรียนเคมี จะเรียนอยู่ชั้น 4 ฟิสิกส์ ชั้น 2 ห่างกันจังเลย ฉันเดินขึ้นไปถึงชั้น 4 ฉันเดินมาอยู่หน้าห้อง A เอ๊ะ มีอะไรกัน ทำไมคนมุงดูกันเยอะจัง ฉันจึงไปดูว่าเขามีอะไรกัน นักเรียนชายถูกออกมายืนหน้าห้องโดยมีนักเรียนหญิง อยู่ในห้องเหมือนกับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋านักเรียนของทุกๆคน อยู่ๆฉันก็ถูกดันเข้าไปในห้อง ไม่ทันได้หันหลังกลับ อาจารย์ก็เรียกฉันซะแล้ว

    นักเรียนที่อยู่ตรงประตู มานี่ที ฉันมองแล้วไม่มีใครนอกจากฉันที่ยืนอยู่คนเดียว ทำไงได้ก็ต้องไปหาซิ          ค้นใบนี้ด้วย เจออะไรน่าสงสัยเอามาให้อาจารย์ อาจารย์สั่งแล้วเดินออกไป

    อาจารย์คะ แล้วถ้าเก็บไว้กับตัวล่ะคะ นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น

    งั้น ค้นตัวนักเรียนทุกคน ไฟแช็ค ไม้ขีดก็เอามาให้อาจารย์ ค้นอะไรกันแน่เนี่ย แล้วฉันก็ไม่ได้อยู่ห้องนี้ด้วย โอย ให้ค้นตัว ฉันไม่เอาด้วยหรอก  ฉันเดินออกหลังห้องก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาใหม่    ลูกลุงนาจ !!!!!!

    อย่าให้รู้นะว่าใครแอบสูบบุหรี่ อาจารย์จะส่งกลับบ้านทันที ไม่ต้องมาเรียน เสียงอาจารย์แว่วเข้าหูฉัน

    เขาเรียนด้วยเหรอเนี่ย อยู่ห้องไหนกันนะ เรียนเคมีซะด้วย ชื่ออะไรนะ อยากถามจัง แต่เห็นเขาจ้องกลับก็ต้องหลบสายตา ไปเรียนดีกว่าแหะเรา

    มาพอดี เธอน่ะ ค้นตัวเขาสิ อาจารย์หันมาสั่งฉัน

    หา? ฉันน่ะเหรอ ให้ฉันค้นตัวเขาเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ ฉันจะไปเรียน

    ค้นไปเถอะ ฉันไม่ถือ ลูกลุงนาจบอกฉัน

    ค้นซิ อาจารย์จะไปดูคนอื่น ถ้าเจอก็เอามาให้อาจารย์นะ อาจารย์บอกฉัน

    ค่ะๆ ฉันเริ่มจากกระเป๋าหนังสือ หนังสือใหม่จัง เรียนเล่มเดียวกับเราเลยนี่นา ไม่เจอแหะ ค้นตัวเหรอ

    เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาให้ฉัน ฉันหยิบขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้เปิดออก

                    นายล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาทั้งสองข้างหน่อยสิ ฉันบอกเขา จะให้ล้วงเข้าไปไม่เอาหรอก

    เขาล้วงกระเป๋าออกมาโดยปลิ้นให้เห็นเนื้อผ้าของกระเป๋า ไฟแช็ค ฉันรีบฉวยไฟแช็คนั้นมา

                    นายเอามาทำไม ฉันถามเขาอย่างจริงจัง ฉันนึกว่าเขาจะเป็นคนดีเสียอีก

                    วันนี้วันเกิดเพื่อนฉัน ฉันจำเป็นต้องเอามา เขาบอกฉันอย่างนั้น คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ

                นายดวงไม่ดีเลยนะที่มีเพื่อนเกิดวันนี้ ฉันบอกเขา

                    เป็นไง พบอะไรไหม อาจารย์โผล่หน้ามาถามฉัน ฉันมองหน้าเขา

                    ไม่พบอะไรเลยค่ะ ฉันหยิบของสิ่งนั้นใส่กระเป๋าเสื้อเขา นี่หัวใจเขาเต้นแรงจัง คงจะกลัวความผิดสินะ

                    เอาไปส่งซิ ฉันมีเหตุผลเพียงพอ แล้วหลักบานฉันก็มี เขาบอกฉัน นี่เขาท้าทายฉันใช่ไหมเนี่ย

                    ถ้านายทำผิดไม่ใช่แค่ อาจารย์ที่รู้แต่พ่อของนายก็ต้องรู้ เขางง ในคำพูดของฉัน คงจำฉันไม่ได้แน่ๆ

                    ฉันกำลังจะเปิดกระเป๋าสตางค์ของเขา แต่เมื่อมองหน้าเขาแล้วแลสีหน้าไม่ดีเลย ไม่ดูก็ได้

                    เอาไป ฉันส่งกระเป๋าสตางค์คืนให้เขาไป เขาทำหน้างงอีกครั้ง

                    ไม่เปิดดูเหรอ เขาถามฉัน ไม่ต้องหรอกแค่นั้นฉันก็พอรู้อะไรๆแล้ว พอแล้วล่ะ ฉันบอกเขา

                    เม ๆ ชลเรียกฉัน อ้าว ชลมาอยู่ชั้นนี้ทำไมเนี่ย ฉันเดินไปหาชล

                    มาอยู่นี่เองฉันไปหา เธอที่ห้องตั้งนาน ชลบอกฉัน

                    มีอะไรเหรอ มาหาฉันทำไม  ชลมองฉันแล้วมองลูกลุงนาจที่เดินเข้าห้องไป

                    นั่น หนึ่ง รึเปล่า ชลถามฉัน หนึ่ง?

                    ก็หนึ่ง ลูกลุงนาจไง ฉันตาโตทันที

                    เธอรู้จักเหรอ ชลรู้จักลูกลุงนาจด้วยเหรอเนี่ย ไม่ๆๆๆๆๆ อย่าไปปลื้มเขานะ เขาเป็นคนไม่ดี

                    รู้จักซิ ไปเล่นบาสด้วยกันบ่อยๆ ชอบไหมล่ะ นิสัยดีนะ ชลบอกฉัน อ้าว ฉันเพิ่งว่าเขาไม่ดีอยู่นี่ พูดยังกับรู้ว่าฉันกำลังมองเขาเป็นคนไม่ดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×