Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ
นั่นสิจะอะไรกันนักกันหนา ก็แค่เรื่องความรัก พอกันทีฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าเวลามีความรักมันจะมีแต่เรื่องยุ่งๆเข้ามากวนชีวิตฉันแบบนี้ โอ๊ยยย...นี่มันอะไรกันเนี่ย
ผู้เข้าชมรวม
2,638
ผู้เข้าชมเดือนนี้
44
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Couple Planing Love
วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ
------------------------------------------
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่มินทร์ได้แต่งขึ้นมานะครับ
มีอะไรผิดพลากตรงไหน ติชม ได้เลยนะครับ
>O<
ปล.ปิดเพลงข้างล่างเลยจ้ะ
------------------------------------------
:: ประกาศ ::
วันที่ 19 - 22 ไร้ท์เตอร์คนนี้ขอตัวไปต่างจังหวัด
ไว้กลับมาเมื่อไหร่จะอัพต่อให้ทันทีน้าๆๆ ><
------------------------------------------
ใครที่อ่านแล้วฝาก โหวตนิยายเรื่องนี้ให้ด้วยนะคร้าบ
<คลิกโหวด Couple Planing LovE โล๊ดๆๆ ตรงนี้เลยน้าๆๆ>
ใครสนใจแลกแบนเนอร์ติดต่อเข้ามาเลยน้าา > <!!
------------------------------------------ผลงานอื่นๆ ของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ
"วิจารณ์ Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ"
(แจ้งลบ)Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ นิยายรักหวานแหวว ผลงานของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 13 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความสัมพันธ์ของเพื่อนคือจินนี่และริว จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ความสะดุดใจครั้งแรกเมื่ออ่านเรื่องนี้พบว่ามีคำผิดในชื่อเรื่อง นั่นคือคำว่า “Planing” คำที่ถูกต้องเขียนว่ ... อ่านเพิ่มเติม
Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ นิยายรักหวานแหวว ผลงานของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 13 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความสัมพันธ์ของเพื่อนคือจินนี่และริว จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ความสะดุดใจครั้งแรกเมื่ออ่านเรื่องนี้พบว่ามีคำผิดในชื่อเรื่อง นั่นคือคำว่า “Planing” คำที่ถูกต้องเขียนว่า “Planning” จึงเห็นว่าผู้เขียนต้องให้ความสำคัญกับชื่อเรื่องมากเป็นพิเศษ เพราะชื่อเรื่องเป็นเสมือนด่านแรกที่เชื่อมผู้เขียนและผู้อ่านเข้าหากัน จึงไม่ควรจะมีคำผิดปรากฏอยู่ในชื่อเรื่อง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความน่าเชื่อถือของผู้อ่านต่อเรื่องและต่อผู้เขียนลดลงอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ยังพบว่าชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีจุดเน้นที่ต่างกัน ในขณะที่ชื่อภาษาอังกฤษเน้นที่คำว่า “ความรัก” (love) เพราะเป็นคำนามหลักของวลีนี้ แต่ชื่อภาษาไทยกลับเน้นที่คำว่า “วางแผน” ดังนั้น ถ้าผู้เขียนต้องการให้ชื่อภาษาอังกฤษและภาษาไทยมีความหมายไปในทิศทางเดียวกัน โดยอาศัยภาษาไทยเป็นหลัก ชื่อภาษาอังกฤษก็ควรเปลี่ยนจาก “Couple Planning Love” เป็น “Lovers Couple’s Planning” หรือ “Couple Planning of Love” แทน สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นเมื่ออ่านมาถึงตอนที่ 13 คือเรื่องยังไม่มีพัฒนาการของเรื่องไปในทิศทางใดเลย เพราะเรื่องยังคงวนอยู่ในประเด็นซ้ำๆ และให้ตัวละครแสดงพฤติกรรมเดิมๆ นั่นคือให้จินนี่และริวเข้าใจผิด ทะเลาะ โกรธ งอน ง้อ และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด หากจะบอกว่านี่เป็นช่วงเปิดเรื่องเท่านั้น เพราะตัวละครหลักทั้งสองเพิ่งจะเริ่มตระหนักว่ามีความรู้สึกพึงพอใจที่แปลกไปจากความเป็นเพื่อนระหว่างกันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง ก็ดูจะดำเนินเรื่องอย่างเนิบช้าไปสักหน่อย ขณะเดียวกันเรื่องก็ยังไม่ได้ดำเนินไปในทิศทางที่สอดรับกับโครงเรื่องหลัก (main plot) นั่นคือ การที่ตัวละครตัวหนึ่งตัวใดเป็นผู้วางแผนเพื่อทำให้คนที่ตนหลงรักกลายมาเป็นคู่รักตนอย่างสมใจ ในที่นี้น่าจะเป็นริวที่วางแผนเพื่อให้จินนี่มาเป็นแฟนของตนให้ได้ เรื่องนี้จึงควรจะวางโรงเรื่องให้กระชับและน่าสนใจมากกว่านี้ โดยปูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างริวกับจินนี่สั้นๆ ก่อนเริ่มเข้าสู่การพัฒนาโครงเรื่องด้วยการวางแผนเพื่อสร้างและถักทอความรักระหว่างตัวละครทั้งสองมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันในการพัฒนาเรื่องก็จะนำไปสู่จุดพลิกผันด้วยการสร้างปมปัญหาต่างๆ ซึ่งปมปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินตามแผนการต่างๆ ที่วางไว้ เช่น อาจมีเหตุทำให้แผนการที่วางไว้ไม่สามารถดำเนินตามที่หวังได้ หรือมีตัวละครตัวหนึ่งตัวใดที่ขัดขวางแผนการที่วางไว้ ก่อนที่ปมปัญหาเหล่านั้นจะพัฒนาเรื่องไปจนถึงจุดสูงสุดของเรื่อง และในที่สุดจึงจะคลี่คลายเรื่องมาสู่ตอนจบ นิยายเรื่องนี้ยังคงใช้กลวิธีการเขียนคล้ายๆ กับนิยายแนวหวานแหววเรื่องอื่นๆ กล่าวคือ ดำเนินเรื่องโดยอาศัยบทสนทนามากกว่าบทบรรยาย แม้ว่า คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ จะพยายามเขียนบทบรรยายไว้ในเรื่องคั่นระหว่างบทสนทนาแล้วก็ตาม แต่บทบรรยายที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นบทบรรยายที่เขียนโดยใช้ภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน เพราะบทบรรยายส่วนใหญ่มักจะเป็นบทรำพึงที่ตัวละครใช้พูดกับตัวเอง เมื่อแทรกอยู่ระหว่างบทสนทนาก็ทำให้กลมกลืนจนดูเหมือนกับเป็นบทสนทนาไป เช่น หนอยๆ !! ฉันขอถอนคำพูดว่า ฉันแอบเป็นห่วงนายอยู่ในใจได้มั้ยเนี่ย เชอะ! ไอคนเราเป็นห่วงกันมาดู มาพูดซะ ระวังไว้เถอะเครื่องเล่นเครื่องสุดท้าย นายต้องส่งเสียงออกมาแน่ หรือ ฉันค่อยๆ เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง หลังจากที่ทำงานบ้านเสร็จหมดแล้ว ฉันหยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมา พรุ่งนี้จะตื่นซักกี่โมงดีน้า ... เอ๊ย! ลืมไปได้ไงเนี่ย พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานตอนเช้ากับแม่นี่นา ล... แล้วตอนนี้มันกี่โมงแล้วล่ะ เฮ้ย!! นี่มันตี 1 กว่า แถมพรุ่งนี้ฉันจะต้องตื่นตี 4 อีก งั้นไม่ไหวล่ะรีบไปแปรงฟันนอนแล้ว ขืนมัวแต่ทำนู้นทำนี่ต่อก็ไม่ได้นอนกันพอดี T^T ด้วยเหตุนี้จึงอยากเสนอให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เขียนบทบรรยายด้วยภาษาเขียนก็จะช่วยให้เห็นความแตกต่างระหว่างบทสนทนากับบทบรรยายได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ มักจะไม่บรรยายรูปร่างและลักษณะต่างๆ ของตัวละครตัวใดๆ เลย จนทำให้ผู้อ่านแทบจะไม่สามารถนึกภาพของตัวละครใดๆ ได้เลย ขณะเดียวกันผู้อ่านก็รู้จักตัวละครอย่างคร่าวๆ เพราะผู้แต่งละเลยที่จะบรรยายให้ผู้อ่านเห็นบุคลิก หรือลักษณะนิสัยอันโดดเด่นของตัวละครแต่ละตัวด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวพอจับได้ลักษณะเด่นของตัวละครเพียงสองตัวได้พอเลาๆ คือ ริว เป็นเด็กผู้ชายฉลาดเรื่องเรียน เป็นผู้นำทางด้านกีฬา ไม่เก่งเรื่องเดียวคือร้องเพลง รวยเป็นเจ้าของโรงเรียน มีนิสัยเฉยชา จึงไม่มีผู้หญิงคนใดมาชอบ และ จินนี่ เป็นเด็กผู้หญิง ไม่ไว้ใจหรือเชื่อใจคนรอบๆ ตัว ยกเว้น แซน เพื่อนสนิท และคนในครอบครัว เป็นเด็กดีในสายตาของอาจารย์ มีความฝันอยากไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนตัวละครอื่นๆ นั้นเป็นภาพเบลอมากๆ รู้แค่ว่าตัวละครตัวนั้นชื่ออะไรและมีบทบาทใดในเรื่องเท่านั้นเอง เพราะตัวละครอื่นเป็นเหมือนตัวประกอบที่แทบจะไม่มีบทบาทใดๆ กับเรื่องราวที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้เลย ลักษณะเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์อีกประการหนึ่งของนิยายแนวหวานแหวว คือ การใช้อีโมติคอน ซึ่ง คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ ก็นิยมใช้ด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มักจะใช้อีโมติคอนเป็นเสมือนเครื่องแสดงการจบประโยคเท่านั้น อีโมติคอนดังกล่าวจึงไม่ได้ทำหน้าที่เสริมความให้กับบทสนทนาหรือบทบรรยายข้างต้นเท่าใดนัก และบางครั้งเมื่อมีการใช้อีโมติคอนในลักษณะนี้เป็นจำนวนมากก็ดูน่ารำคาญได้ จึงอยากให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ ตัดอีโมติคอนที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใส่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทสนนาหรือบทบรรยายที่สามารถสื่อความได้ด้วยตนเองออก ก็จะไม่ทำให้เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยอีโมติคอนจนดูรกมากเกินไป นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เขียนยังนิยมนำอีโมติคอนหลายๆ ตัวมาต่อกันเพื่อสื่ออารมณ์ของตัวละคร โดยไม่มีบทบรรยายหรือบทสนทนาแทรกเลย เช่น “...” “...” “(0_0)” “(0_0)” หรือ “(-- )” “( --)” “(-- )” “(--)” โดยส่วนตัวเห็นว่าบางครั้งแม้ว่าอีโมติคอนจะสื่ออารมณ์ของเรื่องให้ผู้อ่านทราบได้ แต่ก็มีข้อจำกัดว่าผู้ที่จะเข้าใจหรือแปลความอีโมติคอนเหล่านั้นได้จะต้องเป็นผู้ที่เข้าใจความหมายของอีโมติคอนตัวนั้นๆ เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงเห็นว่าเพื่อให้เรื่องสามารถสื่อความได้กับผู้อ่านทุกคน ไม่ใช่ผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม ผู้เขียนควรใช้การบรรยายอารมณ์ด้วยภาษาแทนการใช้อีโมติคอนในการสื่อความก็จะส่งอารมณ์และความหมายได้ชัดเจนและตรงตามความประสงค์ของผู้อ่านทุกประการ นอกจากนี้ การสร้างเหตุการณ์บางฉากยังขาดความสมจริง เช่น เหตุการณ์ที่แซม เชื่อใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนมาบอกว่าเธอเป็นสาเหตุให้ริวกับจินนี่ทะเลาะกัน จนทำให้เธอหลบหน้าจินนี่กับริวตลอดเวลา หรือ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้จินนี่ (น่าจะ)เป็นเพียงลูกสาววิศวกรที่ออกแบบเครื่องเล่น(มากกว่าที่จะเป็นเจ้าของสวนสนุก) สามารถพาเพื่อนมาเล่นเครื่องเล่นใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบเรื่องความปลอดภัยใดๆ อีกทั้งบางเหตุการณ์ที่เรียงต่อกันบางครั้งก็ยังต่อกันไม่สนิท เพราะมีองค์ประกอบของฉากบางประการที่ผิดเพี้ยนไป เช่น มีเหตุการณ์หนึ่งที่เปิดฉากให้คนขายน้ำเรียกริวมารับน้ำปั่นที่สั่งไว้ ซึ่งจินนี่บอกว่าจะนำไปให้ริวเอง แต่พอเดินถือไปกลางทางอยู่ๆ น้ำปั่นในมือก็กลายเป็นไอศกรีมมะม่วงไป หรืออีกฉากที่เปิดว่าจินนี่อยู่ที่ร้านขายของของแม่ แต่อีกสองบรรทัดต่อมากลับบอกว่าจินนี่อยู่ที่บ้าน จึงอยากให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ กลับไปทบทวนเหตุการณ์เหล่านี้อีกครั้งว่าต้องการจะสื่อความถึงอะไรกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันด้วย ริวบอกให้จินนี่รอเขาสักครู่เพราะเขาจะไปเข้าห้องน้ำ พอริวเดินกลับมา จินนี่กลับโกรธและต่อว่าริวที่เขาปล่อยให้เธอรออยู่คนเดียวค่ำมืดไม่ปลอดภัย ในความเป็นจริง จินนี่ก็ทราบอยู่ก่อนแล้วและยินดีที่จะรอริวอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่จินนี่ควรเน้นที่ต้องโกรธริวที่สมเหตุสมผลที่สุดคือ การที่ริวโกหกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่จริงๆ แอบแวะไปซื้อของมากกว่า เช่นเดียวกับเหตุผลที่ริวให้กับตัวเองที่ทำให้จินนี่โกรธว่า สิ่งที่ทำให้จินนี่โกรธทำให้เขารู้ว่าเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะฟ้าลิขิตไว้แล้ว ในเหตุการณ์นี้ผู้วิจารณ์เห็นว่าเหตุผลที่จินนี่โกรธคือริวโกหกเธอ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการที่ริวจะมีเงินหรือไม่ หรือไม่เกี่ยวข้องกับชะตาที่ฟ้าลิขิตไว้ใดๆ เลย ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งที่พบในเรื่องอีกประการหนึ่ง คือ นิยายเรื่องนี้มีคำผิดจำนวนมาก ซึ่งเกิดมาจากหลายสาเหตุ คือ การใช้วรรณยุกต์สลับกัน เช่น อึ้ง เขียนเป็น อึ่ง แก๊ง เขียนเป็น แก้ง ส่าย เขียนเป็น สาย อ้าว เขียนเป็น อ่าว พรุ่งนี้ เขียนเป็น พรุ้งนี้ ใส่ เขียนเป็น ใส้ การเขียนสระ ไ- และ สระ ใ- สลับกัน เช่น ทันใด เขียนเป็น ทันได การเขียนผิดเพราะไม่ทราบว่าคำที่ถูกเขียนว่าอย่างไร เหรอ เขียนเป็น หรอ อนุญาต เขียนว่า อนุญาติ บ้านผีสิง (สิง หมายถึง อยู่ เข้าอยู่ เข้าแอบแทรกอยู่) เขียนเป็น บ้านผีสิงห์ (สิงห์ หมายถึง สัตว์ในนิยายถือว่ามีความดุร้ายและมีกำลังมาก) อารมณ์ เขียนเป็น อารมย์ นี่ เขียนเป็น นิ ฮ่าๆๆๆ เขียนเป็น ห้าๆๆๆ เนอะ เขียนเป็น เนาะ อุตส่าห์ เขียนเป็น อุสา น่าเกลียด เขียนเป็น น่าเกียจ อันธพาล เขียนเป็น อันตพาน รำคาญ เขียนเป็น ลำคาญ สบายใจเฉิบ เขียนเป็น สบายใจเฉิ่ม พะรุงพะรัง เขียนเป็น พลุงพลัง รถเมล์ เขียนเป็น รถเมย์ บ้าบอคอแตก เขียนเป็น บ้าบอขอแตก ประมาณ เขียนเป็น ประมาน แป๊บ เขียนเป็น แปบ และ เขียนเป็น แระ พิรุธ เขียนเป็น พิรุต ร่องลอย (หมายถึง สิ่งที่ส่อเค้าให้รู้หรือเห็น) เขียนเป็น ล่องลอย (หมายถึง ลอยไปอย่างไม่มีจุดหมาย) ลังเล เขียนเป็น รังเร ก็ เขียนเป็น ก้ ธุระ เขียนเป็น ทุระ น่ากิน เขียนเป็น หน้ากิน กะทันหัน เขียนเป็น กระทันหัน ตวาด เขียนเป็น ตะหวาด เคร่งเครียด เขียนเป็น เคล้งเคลียด -------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 30 พ.ย. 55
5
0
"มัน 'สนุก' มากกก!"
(แจ้งลบ)ทีเเรกก็กะว่าจะอ่านนิด ๆหน่อย ๆก่อนพอหอมปากหอมคอ เเต่ที่ไหนได้ ดันอ่านรวดเดียวจบ ( เเบบว่าเพลินน่ะนะ >_< ) ดำเนินเรื่องได้สนุกมากจ้า ตัวละครก็น่ารัก ฮา ๆ รั่ว ๆดี( เข้าทางคนอ่านเลย ) สรุปว่า...เราชอบเรื่องนี้สุด ๆอ่ะ ( นี่เรามาวิจารณ์รึมาระบายความในใจฟะ -,-? ) เค้าจะเป็นกำลังใจให้เน้อออ ( จะได้อัพต่อไว ๆ ) สู้ ๆนะ ทุกคนรออ่านอยู่ ^^ ... อ่านเพิ่มเติม
ทีเเรกก็กะว่าจะอ่านนิด ๆหน่อย ๆก่อนพอหอมปากหอมคอ เเต่ที่ไหนได้ ดันอ่านรวดเดียวจบ ( เเบบว่าเพลินน่ะนะ >_< ) ดำเนินเรื่องได้สนุกมากจ้า ตัวละครก็น่ารัก ฮา ๆ รั่ว ๆดี( เข้าทางคนอ่านเลย ) สรุปว่า...เราชอบเรื่องนี้สุด ๆอ่ะ ( นี่เรามาวิจารณ์รึมาระบายความในใจฟะ -,-? ) เค้าจะเป็นกำลังใจให้เน้อออ ( จะได้อัพต่อไว ๆ ) สู้ ๆนะ ทุกคนรออ่านอยู่ ^^ อ่านน้อยลง
อันตพาล | 11 เม.ย. 55
2
0
ดูทั้งหมด
"วิจารณ์ Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ"
(แจ้งลบ)Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ นิยายรักหวานแหวว ผลงานของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 13 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความสัมพันธ์ของเพื่อนคือจินนี่และริว จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ความสะดุดใจครั้งแรกเมื่ออ่านเรื่องนี้พบว่ามีคำผิดในชื่อเรื่อง นั่นคือคำว่า “Planing” คำที่ถูกต้องเขียนว่ ... อ่านเพิ่มเติม
Couple Planing Love วางแผนหัวใจรักยัยจอมแสบ นิยายรักหวานแหวว ผลงานของ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 13 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความสัมพันธ์ของเพื่อนคือจินนี่และริว จนกลายเป็นคู่รักกันในที่สุด ความสะดุดใจครั้งแรกเมื่ออ่านเรื่องนี้พบว่ามีคำผิดในชื่อเรื่อง นั่นคือคำว่า “Planing” คำที่ถูกต้องเขียนว่า “Planning” จึงเห็นว่าผู้เขียนต้องให้ความสำคัญกับชื่อเรื่องมากเป็นพิเศษ เพราะชื่อเรื่องเป็นเสมือนด่านแรกที่เชื่อมผู้เขียนและผู้อ่านเข้าหากัน จึงไม่ควรจะมีคำผิดปรากฏอยู่ในชื่อเรื่อง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความน่าเชื่อถือของผู้อ่านต่อเรื่องและต่อผู้เขียนลดลงอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ยังพบว่าชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีจุดเน้นที่ต่างกัน ในขณะที่ชื่อภาษาอังกฤษเน้นที่คำว่า “ความรัก” (love) เพราะเป็นคำนามหลักของวลีนี้ แต่ชื่อภาษาไทยกลับเน้นที่คำว่า “วางแผน” ดังนั้น ถ้าผู้เขียนต้องการให้ชื่อภาษาอังกฤษและภาษาไทยมีความหมายไปในทิศทางเดียวกัน โดยอาศัยภาษาไทยเป็นหลัก ชื่อภาษาอังกฤษก็ควรเปลี่ยนจาก “Couple Planning Love” เป็น “Lovers Couple’s Planning” หรือ “Couple Planning of Love” แทน สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นเมื่ออ่านมาถึงตอนที่ 13 คือเรื่องยังไม่มีพัฒนาการของเรื่องไปในทิศทางใดเลย เพราะเรื่องยังคงวนอยู่ในประเด็นซ้ำๆ และให้ตัวละครแสดงพฤติกรรมเดิมๆ นั่นคือให้จินนี่และริวเข้าใจผิด ทะเลาะ โกรธ งอน ง้อ และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด หากจะบอกว่านี่เป็นช่วงเปิดเรื่องเท่านั้น เพราะตัวละครหลักทั้งสองเพิ่งจะเริ่มตระหนักว่ามีความรู้สึกพึงพอใจที่แปลกไปจากความเป็นเพื่อนระหว่างกันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง ก็ดูจะดำเนินเรื่องอย่างเนิบช้าไปสักหน่อย ขณะเดียวกันเรื่องก็ยังไม่ได้ดำเนินไปในทิศทางที่สอดรับกับโครงเรื่องหลัก (main plot) นั่นคือ การที่ตัวละครตัวหนึ่งตัวใดเป็นผู้วางแผนเพื่อทำให้คนที่ตนหลงรักกลายมาเป็นคู่รักตนอย่างสมใจ ในที่นี้น่าจะเป็นริวที่วางแผนเพื่อให้จินนี่มาเป็นแฟนของตนให้ได้ เรื่องนี้จึงควรจะวางโรงเรื่องให้กระชับและน่าสนใจมากกว่านี้ โดยปูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างริวกับจินนี่สั้นๆ ก่อนเริ่มเข้าสู่การพัฒนาโครงเรื่องด้วยการวางแผนเพื่อสร้างและถักทอความรักระหว่างตัวละครทั้งสองมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันในการพัฒนาเรื่องก็จะนำไปสู่จุดพลิกผันด้วยการสร้างปมปัญหาต่างๆ ซึ่งปมปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินตามแผนการต่างๆ ที่วางไว้ เช่น อาจมีเหตุทำให้แผนการที่วางไว้ไม่สามารถดำเนินตามที่หวังได้ หรือมีตัวละครตัวหนึ่งตัวใดที่ขัดขวางแผนการที่วางไว้ ก่อนที่ปมปัญหาเหล่านั้นจะพัฒนาเรื่องไปจนถึงจุดสูงสุดของเรื่อง และในที่สุดจึงจะคลี่คลายเรื่องมาสู่ตอนจบ นิยายเรื่องนี้ยังคงใช้กลวิธีการเขียนคล้ายๆ กับนิยายแนวหวานแหววเรื่องอื่นๆ กล่าวคือ ดำเนินเรื่องโดยอาศัยบทสนทนามากกว่าบทบรรยาย แม้ว่า คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ จะพยายามเขียนบทบรรยายไว้ในเรื่องคั่นระหว่างบทสนทนาแล้วก็ตาม แต่บทบรรยายที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นบทบรรยายที่เขียนโดยใช้ภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน เพราะบทบรรยายส่วนใหญ่มักจะเป็นบทรำพึงที่ตัวละครใช้พูดกับตัวเอง เมื่อแทรกอยู่ระหว่างบทสนทนาก็ทำให้กลมกลืนจนดูเหมือนกับเป็นบทสนทนาไป เช่น หนอยๆ !! ฉันขอถอนคำพูดว่า ฉันแอบเป็นห่วงนายอยู่ในใจได้มั้ยเนี่ย เชอะ! ไอคนเราเป็นห่วงกันมาดู มาพูดซะ ระวังไว้เถอะเครื่องเล่นเครื่องสุดท้าย นายต้องส่งเสียงออกมาแน่ หรือ ฉันค่อยๆ เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง หลังจากที่ทำงานบ้านเสร็จหมดแล้ว ฉันหยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมา พรุ่งนี้จะตื่นซักกี่โมงดีน้า ... เอ๊ย! ลืมไปได้ไงเนี่ย พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานตอนเช้ากับแม่นี่นา ล... แล้วตอนนี้มันกี่โมงแล้วล่ะ เฮ้ย!! นี่มันตี 1 กว่า แถมพรุ่งนี้ฉันจะต้องตื่นตี 4 อีก งั้นไม่ไหวล่ะรีบไปแปรงฟันนอนแล้ว ขืนมัวแต่ทำนู้นทำนี่ต่อก็ไม่ได้นอนกันพอดี T^T ด้วยเหตุนี้จึงอยากเสนอให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ เขียนบทบรรยายด้วยภาษาเขียนก็จะช่วยให้เห็นความแตกต่างระหว่างบทสนทนากับบทบรรยายได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ มักจะไม่บรรยายรูปร่างและลักษณะต่างๆ ของตัวละครตัวใดๆ เลย จนทำให้ผู้อ่านแทบจะไม่สามารถนึกภาพของตัวละครใดๆ ได้เลย ขณะเดียวกันผู้อ่านก็รู้จักตัวละครอย่างคร่าวๆ เพราะผู้แต่งละเลยที่จะบรรยายให้ผู้อ่านเห็นบุคลิก หรือลักษณะนิสัยอันโดดเด่นของตัวละครแต่ละตัวด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวพอจับได้ลักษณะเด่นของตัวละครเพียงสองตัวได้พอเลาๆ คือ ริว เป็นเด็กผู้ชายฉลาดเรื่องเรียน เป็นผู้นำทางด้านกีฬา ไม่เก่งเรื่องเดียวคือร้องเพลง รวยเป็นเจ้าของโรงเรียน มีนิสัยเฉยชา จึงไม่มีผู้หญิงคนใดมาชอบ และ จินนี่ เป็นเด็กผู้หญิง ไม่ไว้ใจหรือเชื่อใจคนรอบๆ ตัว ยกเว้น แซน เพื่อนสนิท และคนในครอบครัว เป็นเด็กดีในสายตาของอาจารย์ มีความฝันอยากไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนตัวละครอื่นๆ นั้นเป็นภาพเบลอมากๆ รู้แค่ว่าตัวละครตัวนั้นชื่ออะไรและมีบทบาทใดในเรื่องเท่านั้นเอง เพราะตัวละครอื่นเป็นเหมือนตัวประกอบที่แทบจะไม่มีบทบาทใดๆ กับเรื่องราวที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้เลย ลักษณะเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์อีกประการหนึ่งของนิยายแนวหวานแหวว คือ การใช้อีโมติคอน ซึ่ง คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ ก็นิยมใช้ด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มักจะใช้อีโมติคอนเป็นเสมือนเครื่องแสดงการจบประโยคเท่านั้น อีโมติคอนดังกล่าวจึงไม่ได้ทำหน้าที่เสริมความให้กับบทสนทนาหรือบทบรรยายข้างต้นเท่าใดนัก และบางครั้งเมื่อมีการใช้อีโมติคอนในลักษณะนี้เป็นจำนวนมากก็ดูน่ารำคาญได้ จึงอยากให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ ตัดอีโมติคอนที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใส่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทสนนาหรือบทบรรยายที่สามารถสื่อความได้ด้วยตนเองออก ก็จะไม่ทำให้เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยอีโมติคอนจนดูรกมากเกินไป นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เขียนยังนิยมนำอีโมติคอนหลายๆ ตัวมาต่อกันเพื่อสื่ออารมณ์ของตัวละคร โดยไม่มีบทบรรยายหรือบทสนทนาแทรกเลย เช่น “...” “...” “(0_0)” “(0_0)” หรือ “(-- )” “( --)” “(-- )” “(--)” โดยส่วนตัวเห็นว่าบางครั้งแม้ว่าอีโมติคอนจะสื่ออารมณ์ของเรื่องให้ผู้อ่านทราบได้ แต่ก็มีข้อจำกัดว่าผู้ที่จะเข้าใจหรือแปลความอีโมติคอนเหล่านั้นได้จะต้องเป็นผู้ที่เข้าใจความหมายของอีโมติคอนตัวนั้นๆ เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงเห็นว่าเพื่อให้เรื่องสามารถสื่อความได้กับผู้อ่านทุกคน ไม่ใช่ผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม ผู้เขียนควรใช้การบรรยายอารมณ์ด้วยภาษาแทนการใช้อีโมติคอนในการสื่อความก็จะส่งอารมณ์และความหมายได้ชัดเจนและตรงตามความประสงค์ของผู้อ่านทุกประการ นอกจากนี้ การสร้างเหตุการณ์บางฉากยังขาดความสมจริง เช่น เหตุการณ์ที่แซม เชื่อใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนมาบอกว่าเธอเป็นสาเหตุให้ริวกับจินนี่ทะเลาะกัน จนทำให้เธอหลบหน้าจินนี่กับริวตลอดเวลา หรือ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้จินนี่ (น่าจะ)เป็นเพียงลูกสาววิศวกรที่ออกแบบเครื่องเล่น(มากกว่าที่จะเป็นเจ้าของสวนสนุก) สามารถพาเพื่อนมาเล่นเครื่องเล่นใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบเรื่องความปลอดภัยใดๆ อีกทั้งบางเหตุการณ์ที่เรียงต่อกันบางครั้งก็ยังต่อกันไม่สนิท เพราะมีองค์ประกอบของฉากบางประการที่ผิดเพี้ยนไป เช่น มีเหตุการณ์หนึ่งที่เปิดฉากให้คนขายน้ำเรียกริวมารับน้ำปั่นที่สั่งไว้ ซึ่งจินนี่บอกว่าจะนำไปให้ริวเอง แต่พอเดินถือไปกลางทางอยู่ๆ น้ำปั่นในมือก็กลายเป็นไอศกรีมมะม่วงไป หรืออีกฉากที่เปิดว่าจินนี่อยู่ที่ร้านขายของของแม่ แต่อีกสองบรรทัดต่อมากลับบอกว่าจินนี่อยู่ที่บ้าน จึงอยากให้ คามีนาส_น้ำหมึกสีดำ กลับไปทบทวนเหตุการณ์เหล่านี้อีกครั้งว่าต้องการจะสื่อความถึงอะไรกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันด้วย ริวบอกให้จินนี่รอเขาสักครู่เพราะเขาจะไปเข้าห้องน้ำ พอริวเดินกลับมา จินนี่กลับโกรธและต่อว่าริวที่เขาปล่อยให้เธอรออยู่คนเดียวค่ำมืดไม่ปลอดภัย ในความเป็นจริง จินนี่ก็ทราบอยู่ก่อนแล้วและยินดีที่จะรอริวอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่จินนี่ควรเน้นที่ต้องโกรธริวที่สมเหตุสมผลที่สุดคือ การที่ริวโกหกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่จริงๆ แอบแวะไปซื้อของมากกว่า เช่นเดียวกับเหตุผลที่ริวให้กับตัวเองที่ทำให้จินนี่โกรธว่า สิ่งที่ทำให้จินนี่โกรธทำให้เขารู้ว่าเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะฟ้าลิขิตไว้แล้ว ในเหตุการณ์นี้ผู้วิจารณ์เห็นว่าเหตุผลที่จินนี่โกรธคือริวโกหกเธอ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการที่ริวจะมีเงินหรือไม่ หรือไม่เกี่ยวข้องกับชะตาที่ฟ้าลิขิตไว้ใดๆ เลย ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งที่พบในเรื่องอีกประการหนึ่ง คือ นิยายเรื่องนี้มีคำผิดจำนวนมาก ซึ่งเกิดมาจากหลายสาเหตุ คือ การใช้วรรณยุกต์สลับกัน เช่น อึ้ง เขียนเป็น อึ่ง แก๊ง เขียนเป็น แก้ง ส่าย เขียนเป็น สาย อ้าว เขียนเป็น อ่าว พรุ่งนี้ เขียนเป็น พรุ้งนี้ ใส่ เขียนเป็น ใส้ การเขียนสระ ไ- และ สระ ใ- สลับกัน เช่น ทันใด เขียนเป็น ทันได การเขียนผิดเพราะไม่ทราบว่าคำที่ถูกเขียนว่าอย่างไร เหรอ เขียนเป็น หรอ อนุญาต เขียนว่า อนุญาติ บ้านผีสิง (สิง หมายถึง อยู่ เข้าอยู่ เข้าแอบแทรกอยู่) เขียนเป็น บ้านผีสิงห์ (สิงห์ หมายถึง สัตว์ในนิยายถือว่ามีความดุร้ายและมีกำลังมาก) อารมณ์ เขียนเป็น อารมย์ นี่ เขียนเป็น นิ ฮ่าๆๆๆ เขียนเป็น ห้าๆๆๆ เนอะ เขียนเป็น เนาะ อุตส่าห์ เขียนเป็น อุสา น่าเกลียด เขียนเป็น น่าเกียจ อันธพาล เขียนเป็น อันตพาน รำคาญ เขียนเป็น ลำคาญ สบายใจเฉิบ เขียนเป็น สบายใจเฉิ่ม พะรุงพะรัง เขียนเป็น พลุงพลัง รถเมล์ เขียนเป็น รถเมย์ บ้าบอคอแตก เขียนเป็น บ้าบอขอแตก ประมาณ เขียนเป็น ประมาน แป๊บ เขียนเป็น แปบ และ เขียนเป็น แระ พิรุธ เขียนเป็น พิรุต ร่องลอย (หมายถึง สิ่งที่ส่อเค้าให้รู้หรือเห็น) เขียนเป็น ล่องลอย (หมายถึง ลอยไปอย่างไม่มีจุดหมาย) ลังเล เขียนเป็น รังเร ก็ เขียนเป็น ก้ ธุระ เขียนเป็น ทุระ น่ากิน เขียนเป็น หน้ากิน กะทันหัน เขียนเป็น กระทันหัน ตวาด เขียนเป็น ตะหวาด เคร่งเครียด เขียนเป็น เคล้งเคลียด -------------------- อ่านน้อยลง
bluewhale | 30 พ.ย. 55
5
0
"Abstract วิจารณ์งานเขียน"
(แจ้งลบ)สวัสดีค่ะ คุณมินทร์ มาจาก Abstract รับวิจารณ์งานเขียน นะคะ ขออภัยในความล่าช้าด้วยค่ะ ผู้วิจารณ์ แทน ระดับ ดาวินชี่ เอาล่ะค่ะ แทนขอเริ่มเกริ่นก่อนเลยแล้วกันนะคะ เพราะแทนไม่อยากให้มันยืดเยื้อค่ะ เกรงว่าคำวิจารณ์ของแทนมันจะยาวเกินไป เพราะส่วนใหญ่ก็วิจารณ์ยาวทุกที ^^ เท่าที่แทนอ่านมานะคะ โครงเรื่อง ตรงจุดนี้แทนคิดว่ามันก็ไม่ได้เรีย ... อ่านเพิ่มเติม
สวัสดีค่ะ คุณมินทร์ มาจาก Abstract รับวิจารณ์งานเขียน นะคะ ขออภัยในความล่าช้าด้วยค่ะ ผู้วิจารณ์ แทน ระดับ ดาวินชี่ เอาล่ะค่ะ แทนขอเริ่มเกริ่นก่อนเลยแล้วกันนะคะ เพราะแทนไม่อยากให้มันยืดเยื้อค่ะ เกรงว่าคำวิจารณ์ของแทนมันจะยาวเกินไป เพราะส่วนใหญ่ก็วิจารณ์ยาวทุกที ^^ เท่าที่แทนอ่านมานะคะ โครงเรื่อง ตรงจุดนี้แทนคิดว่ามันก็ไม่ได้เรียกว่าแปลกแหวกแนว หรือว่า ดูน่าสนใจเลยนะคะ อาจจะเรียกว่าเป็นพลอตตลาดๆ ที่เจอในเด็กดีทั่วๆ ไปก็ได้ค่ะ ซึ่งโดยในเรื่องนี้แล้ว นิยายของคุณยังไม่ทำให้แทนรู้สึกอินไปตามเรื่องได้เลยค่ะ อารมณ์ที่อ่านมันแบบว่า ‘เนือยๆ’ ค่ะ ต่อมา เนื้อเรื่องในนิยายเรื่องนี้ แทนอยากบอกว่า มันไม่ปะติด ปะต่อ เลยค่ะ ทำนองว่า อ่านการ์ตูนโดราเอมอน ที่ขึ้นตอนใหม่ไปเรื่อยๆ โดยไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตอนก่อนๆ เลย อยากให้แก้ไขในจุดนี้นะคะ อาจจะแก้โดยการทำเนื้อหาของแต่ละตอนให้มันอยู่ในกรอบเดียวกันค่ะ เพราะว่าตอนนี้ที่แทนอ่านมา ‘เนื้อเรื่องออกทะเล’ ไปแล้วค่ะ อีกอย่างหนึ่งที่แทนพยายามนั่งหามาตลอดที่อ่านนิยายเรื่องนี้คือ ‘จุดเด่น’ ค่ะ นิยายเรื่องนี้ไม่มีจุดเด่น ที่จะดึงดูดความสนใจให้มาสนใจกับตัวเรื่องได้เลย ดูดำเนินไปแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ เหมือนชีวิตประจำวัน ที่ไม่น่าสนใจเลย...ลองหาปมของเรื่อง หรือว่า สร้างจุดเด่นขึ้นมานะคะ แล้วมันจะน่าสนใจขึ้น ไม่มีใครว่าสักหน่อย ว่า เรื่องรักใสๆ ก็มีปมไม่ได้ ^^ การบรรยาย อืม...ขอชมตรงนี้ก่อนแล้วกันนะคะ ที่คุณเพิ่มคำบรรยายเอาไว้ให้เห็น ไม่ใช่นิยายทั้งเรื่องมีแต่บทพูด จุดนี้ถือว่าดีเลยค่ะ แทนชอบ...แต่ที่ไม่ชอบเลย คือ คุณบรรยายไม่ชัดเจนค่ะ อย่างตอนแรกเลย แทนยังคิดว่า ‘แซน’ เป็นผู้ชายนะคะ แล้วก็เรื่องของ ‘เคน’ ในตอนแรก แทนยังสงสัยอยู่เลยว่า มันมีตัวตนอยู่ด้วยเหรอ ทำไมอยู่ๆ ดีๆ ก็โผล่ออกมา แล้วก็หายไป? บรรยายไม่ลื่นไหล ติดๆ ขัดๆ มากค่ะ แต่เรื่องนี้มันฝึกกันได้ค่ะ ลองหานิยาย หรือว่า บทความ ที่เน้นเกี่ยวกับการบรรยายอ่านไปเรื่อยๆ นะคะ ตรงจุดนี้จะทำให้การบรรยายของคุณดีขึ้นมาเองค่ะ วงเล็บ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แทนเห็นแบบนี้ การใช้วงเล็บ ไม่ใช่เรื่องผิดนะคะ...บางครั้งมันอาจจะเป็นมุกตลกบางอย่าง หรือว่าใช่เพิ่มบรรยายอะไรสักอย่าง แต่แทนอยากแนะนำค่ะว่า ถอดวงเล็บพวกนั้นออกเถอะ แล้วเขียนเพิ่มเป็นการบรรยายแทนค่ะ เพราะว่า มันจะทำให้ตัวของคุณได้ฝึกการบรรยายให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งการใช้วงเล็บนั้น มันจะเหมือนกับการเป็น ‘ตัวถ่วง’ ความสามารถด้านการบรรยายเสียเปล่าค่ะ อีโมติคอน...ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ที่แทนรับได้ค่ะ แต่ก็อีกอยู่ดี ถ้าไม่จำเป็น ก็อย่าใช้มันเลยจะดีกว่าค่ะ ลองแทนเป็นการบรรยาย ผ่านท่าทางของตัวละครแต่ละตัวดีกว่านะคะ ^^ ต่อมาเลยคือ ตัวละคร เป็นอีกคนที่แทนต้องอกว่า ตัวละครของคุณยังไร้มิติค่ะ แทนไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครแต่ละตัวเลย ทั้งริว ทั้งจินนี่ ทั้งแซน ทั้งโยโกะ ปอย ป้าแนน ฯลฯ มีตัวละครเยอะ แต่ไม่ดึงดูด มีแค่สองตัวที่เด่นๆ ยังดูดีกว่าค่ะ อยากบอกว่า คุณน่าจะวางคาแรกเตอร์ของตัวละครให้รัดกุมมากกว่านี้ แล้วดึงคาแรกเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวออกมาให้เด่นชัด มันจะทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามมากกว่านี้นะคะ แล้วก็ ขอพูดถึงด้านตัวละครเด่นๆ อย่าง ริวและจินนี่หน่อยนะคะ หนึ่งคำที่อยากระบายค่ะ “เป็นคู่พระนาง ที่คาแรกเตอร์โหลมาก” ลองปรับคาแรกเตอร์สิคะ จำเป็นด้วยเหรอที่นางเอกต้อง ชอบเอาชนะ หาทางเถียงกับพระเอกได้ทุกวัน แล้วสุดท้ายก็รักพระเอก แต่ก็ยังปากแข็ง... จำเป็นด้วยเหรอ ที่พระเอกต้องคอยกวนประสาทนางเอก แต่ก็ยังตามมาเป็นห่วงนางเอก ปกป้องนางเอกสารพัด ลักษณะนิสัยในโลกนี้เป็นล้านค่ะ อันนี้ลองบอกเอาไว้ก่อนนะคะ เผื่อจะเขียนนิยายเรื่องต่อไป จะได้ลองเอาไปใช้ดู มันจะทำให้ตัวละครของคุณ หลุดกรอบของคำว่า ‘ตัวละครสำเร็จรูปค่ะ ^^’ เรื่องสุดท้ายเลย ภาษาค่ะ ^^ ตอนแรกที่อ่านก็ว่าจะชมนะคะ ว่าคำผิดไม่ค่อยมีให้เห็นเลย แต่พออ่านๆ ไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้แทนกลืนคำชมไปแทบไม่ทันค่ะ นิยายเรื่องนี้ มีทั้งคำผิดที่เขียนผิดจริงๆ และ คำที่พิมพ์ตก ให้แทนเห็นแทบจะเท่าๆ กันเลยค่ะ ไม่พอ ยังมีภาษาวิบัติแถมมาให้ด้วย...ขอบอกก่อนนะคะ ว่าตรงภาษา แทนอาจจะดูดุๆ หน่อย เพราะว่าแทนจริงจังกับเรื่องนี้ค่ะ เขียนบอกเอาไว้ตรงแนะนำผู้วิจารณ์แล้วนะคะ ^^ เรื่องแรกเกี่ยวกับภาษา ที่จะพูด...เว้นวรรค บางประโยค การเว้นวรรคจะทำให้ดูสวยกว่านะคะ แล้วจะทำให้อ่านง่ายกว่าด้วย เพราะเท่าที่เห็นนี่ ส่วนใหญ่มันก็เรียงติดกันเยอะพอควรนะคะ ต่อมา ใช้ ! เยอะเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้จะดีกว่าค่ะ POV มันคือ point of view อันนี้แทนขอเดาว่าคุณน่าจะเข้าใจนะคะ หรือถ้าไม่รู้จักมันก็คือ ‘มุมมองของตัวละคร’ แทนว่าจะไม่ติเรื่องนี้นะคะ แต่มันทำให้แทนสับสนจริงๆ บาง.ฉากเรื่องมุมมองของตัวละคร คุณก็ทำได้เห็นภาพชัดเจนค่ะ แต่ยังไม่ถึงกับดี แต่บางฉาก แทนอยากบอกว่า...แทนงงมากค่ะ ว่าคุณกำลังบรรยายใครอยู่ ยิ่งตอนฉากในรถเมล์นี่ แทนถึงกับมึนค่ะ อยู่ดีๆ POV ก็เป็นของจินนี่ อยู่ๆ ก็กลายเป็นตัวของนักเขียน ทำ POV ให้แน่นอนดีกว่านะคะ เพราะมันทำให้แทนมึนจริงๆ ^^ ต่อมา คือเรื่องที่แทนเกลียดที่สุด...ภาษาวิบัติ! แนะนำค่ะ อย่าใช้ ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือว่า ไม่ตั้งใจก็ตาม อย่าใช้จะดีที่สุดค่ะ เพราะมันจะเป็นการบั่นทอนความสามารถด้านการใช้ภาษาของคุณไปภายในตัว รณรงค์ให้เขียนภาษาไทยที่ถูกต้อง มันจะดีกว่านะคะ! ขอลองยกตัวอย่าง ภาษาวิบัติที่คุณใช่ในเรื่องนะคะ ม่ายยข้าววจายย,ไอบร้า,เขิล,แระ,ห้าๆๆๆ คนส่วนใหญ่ใช้เพื่อความสะใจใช่มั้ยคะ? แต่จะรู้รึเปล่าล่ะคะ ว่ามันไม่ได้ทำให้ดูดีเลย คำพวกนี้ เขียนเป็นภาษาไทยสวยๆ ที่ถูกต้องตามหลัก แทนว่าจะดูดีมากกว่าเสียอีกนะคะ ภาษาพูด ภาษาเขียน แทนคิดว่า คุณน่าจะมีปัญหาตรงจุดนี้นะคะ เพราะเท่าที่สังเกต แทนมักจะเห็นคุณเขียนภาษาพูดลงไปในเรื่องบ่อยมากๆ เลย แทนคิดว่า ควรจะใช้คำที่เป็นภาษาเขียน เพื่อทำให้ดูสละสลวยดีกว่าค่ะ แต่บางคำที่เป็นภาษาพูด ก็ยังใช้ได้นะคะ ไม่ได้ผิดไปทุกคำ ลองตรวจสอบ หาจุดที่ภาษาพูดมันขัดๆ ค่ะ แล้วแก้ให้เป็นภาษาเขียนแทน สุดท้ายคำผิด เอาไว้สุดท้าย เพราะมั่นใจว่ามันต้องยาวแน่ๆ เพราะแทนเห็นในทุกตอนเลยจริงๆ แหง - เปลี่ยนเป็นแน่ๆ น่าจะทำให้ภาษาดูสวยกว่านะคะ หรอ - เหรอ ใช้เหรอดีกว่าค่ะ หรอจะทำให้ดูขัดๆ แหนะ อย่าใช้ดีกว่าค่ะ พึ่ง เพิ่ง อ้ายยยย - อ้ายย (ซ้ำน้อยๆ จะดูสวยกว่าค่ะ ^^) ติ้งต้อง - ติงต๊อง ไอคนเรา - ไอ้เรา/ตัวเรา ทันได ทันใด อารมย์หงุดหงิด - อารมณ์หงุดหงิด นิ - นี่ ห้าๆๆๆ - ฮ่าๆๆๆ (จะดูดีกว่าค่ะ) ไรสาระ - ไร้สาระ เหงย - แหงน? ซักนิด สักนิด สะใจสุดๆ กร้ากกกก - ตัดกร้ากกกก ออกไปค่ะ ภาษาจะสวยกว่า นิ่ นี่ เนาะ - นะ ร้อยยิ้ม - รอยยิ้ม อุส่า - อุตส่าห์ ชมัด - ชะมัด ป่านี้ - ป่านนี้ รับหลัง ลับหลัง ก้มหน้าต่อ - ก้มหน้าอยู่ แฮะ - นะ เรอะ - เหรอ หนิ นี่ เล้ย - เลย แก้ง - แก๊งส์ อันตพาล อันธพาล ต้ะ - เลย/เถอะ เสียงกระดิ่งที่คอยบอกว่าหมดเวลาเรียนเเล้ว - เสียงกระดิ่งที่บอกว่าหมดเวลาเรียน ดังขึ้นเเล้ว เค้า เขา สายหัว - ส่ายหัว ลำคาญ - รำคาญ พลุงพลัง - พะรุงพะรัง ฮ๊าดดดดดดดดด...ชิ้ววว ฮัดชิ่ว ไอบร้า - ไอ้บ้า ม่ายยข้าววจายย - ไม่เข้าใจ! อ่าว - อ้าว พูดงี้ - พูดอย่างนี้ บ้าบอขอแตก - บ้าบอคอแตก ทันได - ทันใด เขิล - เขิน ฮึกเฮิม ฮึกเหิม ประมาน - ประมาณ แระ - เเละ นี่แน่ะ - นี่แน่ ซัก - สัก พลอตเรื่อง 10/20 - พลอตตลาด พระเอก นางเอก เถียงกันไปมา สุดท้ายก็รักกัน ยังไม่มีอะไรแปลกใหม่และจุดดึงดูดด้วย ความมีเหตุผล 10/20 - แทนอยากบอกว่า มันเป็นคำถามโลกแตกสำหรับนิยายในพลอตแบบนี้มาก ‘บังเอิญสุดๆ อะไรจะบังเอิญแบบนี้’ ‘นางเอกเกลียดพระเอก...จริงหรือ ถ้าเกลียดกันจริงๆ แค่หน้าก็คงไม่อยากเห็นค่ะ ไม่มีการมายืนเถียงกันแน่ๆ’ การดำเนินเรื่อง 12/20 - ดำเนินเรื่องไม่ติดต่อค่ะ เหมือนเป็นการ์ตูน ที่ลงเป็นตอนๆ แล้วแต่ละเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกันเลย ลองแก้ไขตรงนี้ดูนะคะ อาจจะลองเชื่อมเรื่อง เช่น พูดถึงเรื่องในอดีตบ้างก็ได้ ^^ ที่เหลือก็อยู่ในเกณฑ์พอใช้ค่ะ และที่สำคัญ!! การบรรยาย อยากบอกว่าตอนนี้ แทนยังไม่รู้รูปร่าง ลักษณะ หน้าตา ของแต่ละคนเลยค่ะ เพิ่มไปด้วยก็ดีนะคะ แทนรู้แค่ชื่อของตัวละครแต่ละตัวจริงๆ ตัวละคร 9/15 - เป็นอีกเรื่อง ที่ตัวละครไร้มิติ...ลองเพิ่มจุดเด่นของแต่ละตัวไปนะคะ ริวเป็นเด็กเรียน แต่อยากบอกว่า แทนไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิดค่ะ จินนี่ฉลาด อันนี้แทนก็ไม่รู้สึกเชื่อ...มันเหมือนเป็นแค่คุณบรรยายมันออกมาว่าเป็นแบบนั้น แบบนี้ แต่ไม่ได้ต่อยอดตรงจุดนั้นไปสักนิด ลองเอาไปแก้ไขนะคะ ภาษา 8/20 -เห็นภาษาวิบัติแล้ว แทนอยากให้ติดลบสิบจริงๆ ค่ะ -_- แทนจะไม่พูดซ้ำนะคะ เรื่องนี้แทนคิดว่าอธิบายละเอียดแล้วในบทความ ลองอ่านแล้วแก้ไขดูนะคะ ^^ * ภาษา เขียนไว้แล้ว ผิดหนึ่งจุด หักหนึ่งคะแนน แต่เชื่อว่า...ถ้าหักแบบนั้นจริงๆ คงได้ติดลบสิบจริงๆ ค่ะ -_- คะแนนพิศวาส 2/5 - ไม่ออกความเห็นสำหรับช่องนี้นะคะ ซึ่งถ้าคุณไม่ใช้ภาษาวิบัติ แทนอาจจะให้มากกว่านี้ค่ะ ^^ รวม 51 / 100 ระดับ ดินสอเปลี่ยนไส้ ปล. แทนเข้าใจตัวเองแล้วว่าเป็นคนจู้จี้ จุกจิก ปล. 2 เรื่องคะแนน...เอ่อ แทนเป็นคนให้คะแนนตามความจริงที่เห็นค่ะ อาจจะดูใจร้าย แต่แทนคิดว่ามันก็ดีต่อการพัฒนานะคะ ^^ อ่านน้อยลง
The Lime | 7 พ.ค. 55
1
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น