คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 Wonderful meal
Chapter 4 Wonderful meal
แสงแดดอ่อนๆ ของเช้าวันใหม่ลอดผ่านหน้าต่างของห้องพัก ราวกับหวังดีจะช่วยปลุกผู้เล่นขี้เซาให้ตื่นจากฝันแสนหวานขึ้นมาเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายได้แล้ว หากแต่ในเวลานี้ยังไม่มีใครคิดที่ลุกจากที่นอน มีเพียงร่างบางที่รู้หน้าที่ ตื่นขึ้นมาเข้าครัวแต่เช้า
...คิมแจจุง...
ตามปกติแล้วแจจุงมีหน้าที่เพียงไปจ่ายตลาดและเป็นผู้ช่วยพ่อครัวเท่านั้น ไม่ค่อยได้ลงมือทำอาหารเลยสักครั้ง แต่เป็นที่รู้กันว่าเสน่ห์ปลายจวักของแจจุงนั้นไม่แพ้พ่อครัวเลย แต่วันนี้ด้วยคำสั่งของ 'ท่านผู้นั้น' ทำให้แจจุงจะได้เป็นพ่อครัวเต็มตัว
สองมือบางชุลมุนวุ่นวายกับการหยิบนู่นจับนี่ไปหมด นี่เป็นครั้งแรกที่แจจุงได้ทำอาหารเต็มตัว แถมยังต้องทำอาหารเลี้ยงคนเกือบสิบคน จากมื้อเย็นที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าแต่ละคนก็ไม่ได้กินกันน้อยๆ เลย
"ทำอะไรอยู่เหรอ น่ากินจังเลย" เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมมือหนาที่โอบรอบเอวบางจากทางด้านหลัง
แจจุงไม่ได้ตอบอะไร ยังก้มหน้าก้มตาทำอาหารต่อไปทั้งๆ ที่ยังมีอ้อมกอดของหมีตัวใหญ่คาอยู่ ถึงจะไม่ถนัดนักแต่ก็ยังหยิบนู่นหยิบนี่ใส่ด้วยความชัานาญ
ยุนโฮเบ้หน้าอย่างไม่พอใจ สมองหมีๆ จึงคิดแผนการแกล้งคนหน้าหวานที่ตอนนี้ยังขะมักเขม้นทำอาหารอยู่
"อ๊ะ" อุทานเสียงหวานเมื่อมือหนาของยุนโฮเริ่มซุกไซร้เข้าไปในเสื้อนอนตัวบาง ร่างบางสะดุ้งทันที ยุนโฮยิ้มอย่างได้ใจ มือยังซุกซนอยู่ภายในเสื้อตัวบาง
น่าแกล้ง
เป็นความคิดที่วูบเข้ามาในสมองของยุนโฮ และร่างกายของเขาก็ตอบสนองความคิดนั้นได้เป็นอย่างดี นิ้วมือหนาแกล้งสะกิดยอดอกของร่างบาง แจจุงเผลออุทานออกมาอีกครั้งเมื่อความสยิวซ่านแล่นเข้ามา แต้มอกสีระเรื่อแข็งชูชันตอบรับสัมผัสนั้น
"คะ...คุณ...คุณยุนโฮ...อย่าครับ" บอกเสียงสั่น เมื่อนิ้วของยุนโฮยังหยอกล้อกับยอดอกของเขาไม่เลิก ร่างบางสั่นเกร็งไปทั้งร่าง หยุดชะงักงานที่ทำอยู่ทันที ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
"ยอมพูดกับฉันแล้วเหรอ" เสียงทุ้มกระซิบติดใบหู ร่างบางขนลุกทั่วร่างโดยอัตโนมัติ
"อ้าว... ไม่ทำอาหารต่อแล้วเหรอ" ถามหน้าตาย เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ตายแล้ว" ได้สติทันที ร่างบางหันกับไปวุ่นวายอยู่หน้าเตาต่อ แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ ก้มหน้างุดไม่ยอมสบตายุนโฮ
"มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย" หน้าหวานส่ายหน้าเร็วๆ ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาเจ้าของเสียง
"แต่ฉันอยากช่วยนี่" บอกอย่างเอาแต่ใจตัวเอง ก่อนจะแย่งทัพพีไปจากมือแจจุง แล้วทำท่าคนหม้อน้ำแกงบนเตา แต่ถึงจะดูทุลักทุเลไปหน่อย แต่ยุนโฮรั้นที่จะทำ แจจุงจึงหันกลับไปหั่นผักแทน แต่ริมฝีปากบางยังส่งเสียงบอกวิธีทำเสียงเจื้อยแจ้ว แต่มันไม่ค่อยได้เข้าหูของร่างสูงนัก จึงทำให้ต้องหันมาเอ็ดอยู่เป็นระยะๆ
"โอ๊ย" อุทานเสียงหวานทันที เมื่อมีดหั่นผักคมกริบบาดนิ้วเรียว เลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากบาดแผลยาว 3 เซนติเมตร แจจุงเบ้หน้าด้วยความเจ็บ มืออีกข้างนึงกุมนิ้วที่โดนบาดไว้แน่น
"โดนมีดบาดเหรอ ไหนเอามาดูซิ" สั่งเสียงเรียบ ไม่ใช่ว่าไม่ตกใจ ทันทีที่ได้ยินเสียงแจจุง ชายหนุ่มสติแทบจะกระเจิดกระเจิงไปแล้ว แต่เลือดสีแดงสดนั่น ทำให้สติอันน้อยนิดกลับคืนมา
แต่แจจุงยังกุมนิ้วตัวเองไว้ไม่ปล่อย พลางส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ น้ำใสไหลมาคลอหน่วยตา ราวกับอัญมณีดูล้ำค่า หากไม่ใช่เวลานี้...
และไม่ใช่น้ำตาของแจจุง...
"ฟังนะ... มองหน้าฉันสิแจจุง" พยายามเรียกสติแจจุง มือหนาประคองใบหน้าสวยหวานไว้ สองนิ้วช่วยเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาเรียวสีดำดุจยามราตรี แจจุงสบตากับยุนโฮ ความรู้สึกทั้งหมดถูกสื่อออกมาอย่างชัดเจน
...แจจุงกลัวเลือดที่สุด...
"ขอดูแผลหน่อย" ยุนโฮแย่งนิ้วที่โดนบาดออกมาจากมือแจจุง แจจุงทำถ้าจะขัดขืน แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาทรงอำนาจของยุนโฮจึงยอมปล่อยนิ้วให้ ตาคมกวาดตาสำรวจบาดแผล ก่อนจะดึงนิ้วเรียวไปเตรียมจะล้างแผลให้
มือหนาเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างจาน ดึงนิ้วเรียวไปรองรับน้ำ เลือดสีแดงสดไหลออกมาผสมกับน้ำ แจจุงเบือนหน้าหนีทันที ใบหน้าหวานเหยเก เตรียมจะร้องให้อีกรอบ
เลือดสีแดงสดไหลออกมาโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ในที่สุดยุนโฮตัดสินใจดึงนิ้วของแจจุงออกมา ก่อนจะอมมันไว้ในปาก ลิ้นอุ่นช่วยเลียแผลห้ามเลือด ร่างบางเจ้าของนิ้วพยายามจะดึงมือคืน แต่สู้แรงมหาศาลของยุนโฮไม่ได้ จึงได้แต่บ่นอุบอิบ
"มันสกปรกนะ"
"ก็แจจุงไม่ชอบเลือดไม่ใช่หรอ" พูดเสียงอู้อี้ ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากนิ้วเรียว พอเลือดเริ่มหยุดไหล ร่างสูงประคองแจจุงไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วจัดแจงเดินหากล่องปฐมพยาบาล แต่ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ทำให้ร่างสูงเดินวนไปวนมาอยู่นานสองนาน ก็ยังไม่เจอของที่ต้องการเสียที แจจุงหัวเราะคิกคักกับท่าทางของยุนโฮ ก่อนจะบอกที่วางกล่องปฐมพยาบาลให้
"อยู่บนตู้ครับ"
เมื่อหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาแล้ว ร่างสูงบรรจงทำแผลให้กับแจจุง มือหนาใส่ยาฆ่าเชื้อให้อย่างเบามือ แต่ไม่วายที่แจจุงจะสะดุ้งด้วยความแสบ ก่อนจะปิดพลาสเตอร์ให้ แต่แล้วแจจุงเหมือนจะนึกอะไรออก
...เมื่อกี้ทำอาหารค้างไว้นี่นา...
รับกระวีกระวาดไปที่เตาทันที แต่ช้าไปเสียแล้ว แกงจืดที่เขาอุตส่าห์ทำไว้ไหม้ไปเสียแล้ว แจจุงหน้าตื่นทันที รีบจัดแจงจะทำอาหารใหม่ แต่ถูกร่างสูงรั้งไว้ บอกให้แจจุงกลับไปนั่งพัก ตอนแรกเหมือนร่างบางจะไม่ยอม แต่ในที่สุดก็ต้องยอมให้ยุนโฮเป็นคนทำอาหาร โดยมีแจจุงเป็นคนกำกับและบอกวิธีทำ
...เฮ้อ ได้เป็นพ่อครัวเต็มตัวครั้งแรกก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว...
"ตั้งน้ำประมาณสามในสี่ของหม้อ..." เสียงเจื้อยแจ้วดังไปเรื่อยๆ เหมือนกับท่องตำราอาหาร ส่วนคุณชายยุนโฮก็วุ่นหัวปั่นกับการหยิบนู่นจับนี่ตามคำสั่งของแจจุง ถึงจะดูเงอะๆ งะๆ ไปบ้าง แจจุงยิ้มด้วยความขบขัน เขาไม่คิดว่ายุนโฮที่เก๊กขนาดนั้นจะมาทำอาหารได้
"ที่เหลือก็เหลือแค่รอให้มันเดือดแล้วก็ตักใส่จาน เดี๋ยวผมจะไปจัดโต๊ะก่อน อย่าทำอะไรมากกว่าที่ผมบอกนะ" เมื่อเห็นว่าถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จึงปล่อยให้ร่างสูงทำไปคนเดียว ส่วนตัวเองก็จะหันไปทำงานอย่างอื่นต่อ แต่ยังไม่วายหันกลับมากำชับไม่ให้ทำอะไรเกินเลยไปกว่าที่บอก เพราะคาดว่าฝีมือทำอาหารของเจ้าหมีคงจะห่วยเป็นแน่แท้
ลับหลังร่างบางไป คิ้วหนาขมวดมุ่นจนผูกเป็นโบว์ ตาคมทรงอำนาจนั้นเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
...ทำแกงจืด ใส่แค่เกลือนิดหน่อย อย่างงี้มันก็จืดแย่สิ...
...ใส่เกลือกับน้ำปลาเพิ่มอีกนิดดีกว่า... ได้การ พ่อหมีจัดแจงหยิบขวดน้ำปลาจะเทลงในหม้อขนาดยักษ์ แต่คงจะมือหนักไปหน่อย น้ำสีน้ำตาลใสจึงหมดไปเกือบหมดขวด เหลือเพียงค่อนขวดเท่านั้น
ยุนโฮเลิกคิ้วมองผลงานฝีมือตนเองด้วยความพอใจ บัดนี้แกงจืดสีใส ได้เปลี่ยนเป็นสีเป็นสีน้ำตาลแล้ว
..ค่อยมีสีสันขึ้นมาหน่อย...
...แต่จะมีแต่รสเค็มได้ยังไง มันต้องมีรสอื่นบ้างสิ...
น้ำส้มสายชู มะนาว น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ เครื่องปรุงรสต่างๆ ที่วางอยู่บนชั้นทั้งหมด ต่างถูกมือหนาหยิบไปใช้แล้วเหมือนกันหมด และต่างก็มีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันเลย คือถ้าไม่หมดขวด ก็ร่อแร่เหลือเพียงเล็กน้อยติดก้นขวดเท่านั้น
แล้วสายตาคมของพ่อครัวใหญ่ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวางอยู่เด่นอยู่บนชั้น สมองอันชาญฉลาดก็เริ่มประมวลผลทันที
...พลาดไปได้ไง...
เจ้าสิ่งนั้นก็คือพริกป่นสีน้ำตาลเข้ม ที่แจจุงเพิ่งทำเองเมื่อเช้านี้นี่เอง ถึงจะดูไร้พิษสง แต่เจ้านี่สามารถทำให้ผู้รับประทานระเบิดได้ทันทีที่ลองชิมมันเข้าไป และยิ่งมันทำมาจากพริกขี้หนูพันธุ์พิเศษ ที่มีเฉพาะในปราสาทเอสเอ็มเท่านั้น จึงไม่ต้องพูดถึงความเผ็ดของมัน...
และในที่สุด เจ้าขวดพริกป่นก็มีชะตากรรมเดียวกับเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลาย และสีน้ำตาลเข้มซึ่งเป็นสีโปรดของยุนโฮ จึงทำให้ร่างสูงเทมันลงไปอย่างไม่ยั้งมือ
ตอนนี้แกงจืดสีใสแจ๋วกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มไปแล้ว ด้วยฝีมือของ ...จองยุนโฮ... ผู้ไม่เคยทำอาหารมาก่อน
ดวงตาคมเข้มแสดงออกถึงความภาคภูมิใจอย่างชัดเจน เทแกงจืด (ที่ไม่จืดแล้ว) ใส่ชามแก้วที่มีลวดลายต่างๆ ประดับอยู่ ก่อนจะปิดฝาและประคองชามทั้งเก้าใบใส่ถาดเดินออกไปที่ห้องอาหาร
แจจุงกำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะอาหารจึงรีบจัดสิ่งที่ยุนโฮยกมาลงบนโต๊ะทันที ตอนนี้เหลือเวลาไม่มาก ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารเช้า คนหน้าหวานจึงต้องเร่งมือเป็นสองเท่าจนไม่ทันได้สำรวจอาหารบนโต๊ะ เพราะอาหารที่เสียมีเพียงอย่างเดียว จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าร่างสูงคงจะทำตามที่ตนบอก
เสียงนาฬิกาตั้งพื้นเรือนเก่าดังเหง่งหง่างบอกเวลาอาหารเช้า ผู้ร่วมเข้าแข่งขันก็เริ่มทยอยกันเดินออกมาจากห้อง เสียงพูดคุยเริ่มมีขึ้นและดูจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ เมื่อลีทึก ทหารหน้าหวานอารมณ์ดี ชวนคนนู้นคนนี้คุยไปทั่ว โดยเฉพาะดงแฮ ที่ตั้งใจฟังลีทึกเล่าอย่างตั้งใจ เหมือนกับเด็กไร้เดียงสากำลังนั่งฟังคุณปู่เล่าเรื่อง ส่วนคังอินเพียงแค่นั่งมองอย่างเซ็งๆ เท่านั้น
เมื่อทุกคนลงมานั่งกันครบ แจจุงและฮีชอลเริ่มลงมือเสิร์ฟอาหาร โดยแกงจืดของยุนโฮนั้นเป็นอย่างแรก
ยุนโฮเปิดฝาแกงจืดของตน และนั่งจ้องมันอย่างภาคภูมิใจ ทุกคนก็ทำตามอย่างยุนโฮ แต่สายตาที่จ้องมองมันนั้นเหมือนกับกำลังคิดว่าแกงจืดนี้จะกินได้รึเปล่าเท่านั้น
เวลาผ่านไปสักพัก แต่ยังไม่มีใครเริ่มรับประทานเลย แจจุงที่ยืนห่างออกไปก็เริ่มหน้าเสีย กลัวว่าอาหารที่ตนทำจะมีปัญหา ริมฝีปากบางเริ่มขยับอ้อมแอ้มถามออกไป
"ไม่ทราบว่าอาหารของผมมีอะไรผิดปกติรึเปล่าครับ"
"อาหารพรรค์นี้น่ะ ฉันกินไม่ลงหรอก" ว่าเสียงเย็นชา ก่อนที่ฮันกยองจะพาร่างสูงของตัวเองเดินออกไปจากห้องอาหาร
"ฉันขอบายอีกคนนะ พอดีฉันไม่หิวน่ะ" ซีวอนกล่าวนุ่มๆ เลือกที่จะดื่มน้ำแทน
แจจุงหน้าเสียลงอีก ดวงตาสีนิลเริ่มสั่นระริกราวกับกลัวคำตอบของคนที่เหลือ
คนที่เหลือนอกจากยูชอนแล้ว ต่างก็หยิบช้อนขึ้นมา ตักอาหารเข้าปาก ครั้งแรกที่อาหารสัมผัสลิ้น รู้สึกได้ถึงรสเผ็ดร้อนทันที หลังจากนั้นรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ก็ตามมา ผสมกันจนปนเปมั่วไปหมด ถึงแม้อยากจะคายทิ้งยังไง แต่เมื่อเห็นสายตารอคำตอบของแจจุงนั้นทำให้ต้องจำใจกลืนลงคอไป
ในที่สุดลีทึกก็เป็นคนวางช้อนลงคนแรก หลังจากยัดแกงจืดมหาประลัยนั่นจนเกลี้ยงชาม หันมายิ้มให้แจจุง ถึงแม้จะดูฝืนๆ ไปบ้าง แต่เมื่อแจจุงเห็นรอยยิ้มนั้นก็เริ่มดีใจเหมือนเด็กๆ
"อร่อยมากเลย"
...ถึงแม้จะเป็นการโกหก แต่การที่ทำให้คนอื่นมีความสุข มันก็เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่เหรอ...
"จริงฮะ อร่อยจริงๆ ฮะ" ดงแฮช่วยเสริมคำพูดของลีทึก หลังจากแกงจืดในชามของตนหมดแล้ว ดูออกจะโล่งใจที่แกงจืดนั่นหมดซักที
แจจุงยิ่งยิ้มหน้าบานเข้าไปใหญ่ แต่ยังไม่เท่าเจ้าตัวคนทำที่หน้าแทบจะบานเป็นจานดาวเทียมอยู่แล้ว แต่ยุนโฮกลับยังไม่ได้แตะอาหารของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
"แล้วคุณยุนโฮไม่ทานหรือครับ" ชางมินถามอย่างสงสัย ก็ร่างสูงเล่นนั่งจ้องคนนั้นคนนี้กินแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ยิ่งกว่าแจจุงที่เป็นคนทำเสียอีก
ความจริงแล้วก็ไม่ได้มียุนโฮคนเดียวหรอกที่ยังไม่แต่อาหาร ยังมียูชอนอีกคนนึง แต่ถ้าจะให้ชางมินเลือกถามใครละก็ เค้าคนนั้นคงไม่ใช่ยูชอนเป็นแน่แท้ เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนยังติดตาเด็กหนุ่มไม่หาย ดังนั้น ยุนโฮจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
"ฉันไม่กล้ากิน" ตอบแบบหน้าตาย ส่วนร่างบางเบิกตากว้างทันที
...อ้าว ไอ้หมี ทำเองแล้วยังบอกไม่กล้ากินอีก หรือว่า...
สมองน้อยๆ ของแจจุงประเมินผลทันที จากปฏิกิริยาของคนกินและของเจ้าตัวเอง ดวงตาหวานเบิกกว้างเข้าไปอีก
...หรือว่าเจ้าหมีนั่น ใส่อะไรลงไปเกินกว่าที่สั่ง...
ร่างบางถลาเข้าไปหาชามที่ว่างอยู่บนโต๊ะของฮันกยองทันที เมื่อเปิดฝาออกมาดูก็พบกับ...
พริกป่นสีน้ำตาลเข้มที่ทำเองกับมือเมื่อเช้าลอยตุ๊บป่องอยู่ในชามแกงจืด ดวงตาหวานลุกโพลงทันที
...ใส่เกินที่สั่งจริงๆ ด้วย กรอด... ไอ้หมี...
............................................................................
หากคุณเดินผ่านปราสาทเอสเอ็มในเวลานี้ คุณอาจจะได้ยินเสียงไม่คาดฝัน อย่าตกใจกับมันละกัน เพราะนั่นเป็นแค่เสียงอ้วกดังที่มาจากห้องพักเท่านั้นเอง ก็แค่อาหารเป็นพิษนิดหน่อย อย่าไปใส่ใจอะไรกับมันมากนักเลย ติมตามตอนต่อไปของเราดีกว่า
สงสารชักโครกพวกนั้นจัง
Have a nice meal
To Be Continued
++++++++++++++++ Talk With ZeNeRitZ++++++++++++++++
ในที่สุดลิซซี่ก็กลับมาแล้ว หลังกลับมาจากค่ายสุดหฤโหด เมื่อวานเกิดอาการขี้เกียจจัด นอนแอ้งแม้งอยู่บ้านอย่างเดียวเลย แต่สัญญาไว้แล้ววันนี้เลยต้องมาอัพให้ ตอนนี้ยังปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไม่หายเลย
วันนี้ออกจะรั่วๆ บ้างก็อย่าถือสากันนะ ตอนนี้มาม้าด่าแล้วแหละ เพราะลิซเปิดคอมนานมากแล้ว ก็ทำไงได้ มันแป้กตลอดเลยนี่ แต่งไม่ออกเลย
ก็อยากที่บอกว่ามาม้าด่าแล้ว วันนี้ก็เลยขอยังไม่ตอบคอมเม้นท์นะฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาตอบให้
ก่อนจากไป ลิซมีเรื่องจะบ่นนิดหน่อย คือทำไมคนเข้ากับคอมเม้นท์มันไม่ค่อยสัมพันธ์กันเลยง่ะ คนเข้าลิซก็ว่ามันเยอะนะ แต่ทำไมคอมเม้นท์มันมีกระจึ๋งเดียวเองง่า เศร้าใจจัง
วันนี้ลิซขอเปลี่ยนโหมดนะคะ +เม้นท์วันละนิด จิตแจ่มใส เม้นท์ต่อไปฟิกรุ่งเรื่อง+
เทคแคร์ทุกคนนะ เม้นท์ให้กำลังใจกันบ้างนะคะ
ความคิดเห็น