คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โมโมทาโร่ชาชา กับ คุณยักษ์เผือก(1)
โมโมทาโร่ชาชา กับ คุณยักษ์เผือก(1)
.
.
.
.
.
.
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานเหลือเกิน นานซะจนคนเล่าแทบจะจำไม่ได้แล้ว มีหมู่บ้านที่แสนสงบสุขอยู่แห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนั้นมีคู่รักตายายที่อยู่กินกันมาแสนนานอยู่คู่หนึ่ง
คุณตากับคุณยายนั้นไม่มีลูกหลานเลยสักคน ทั้งสองท่านอยู่กินกันอย่างเดียวด่ายสองคนผัวเมีย
ทุกๆเช้าของวันคุณตาจะออกจากบ้านเพื่อไปตัดซุงและนำมาขายเพื่อประทั่งชีวิต
“ยายจ้า ตาไปตัดซุงก่อนนะ”
“อืม ตาจ๊ะ อย่าลืมซื่อใบชาของโปรดของยายกลับบ้านมาด้วยนะจ้ะของเก่าหมดแล้ว”
“’งั้นตาไปนะ บายบาย”
เมื่อจบประโยคคุณตาก็ออกจากบ้านและเดินเข้าป่าไปตัดซุงทันที
คุณยายที่อยู่บ้านนั้นก็ทำหน้าที่ผู้เฝาบ้านที่ดี ทำกับข้าวเอาไว้รอคุณตากลับมาและเมือทำเสร็จคุณยายก็ยกผ้ากองโตออกไปที่แม่น้ำเพื่อซักผ้า
“เฮ้อ…..ฉันมันก็แก่แล้วน้า อยากจะมีลูกชายซักคนมาช่วยดูแลฉันกับตาแก่สักคนจริงๆเลยน้า”
แต่ในขณะที่คุณยายกำลังบ่นพึมพัมอยู่นั้นเอง ก็มีสิ่งประหลาดลอยลองมาจากต้นสายของแม่น้ำมาอยู่ที่หน้าของคุณยาย คุณยายรีบเก็บมันขึ้นมาจากน้ำทันที และสิ่งนั้นมันก็คือ ลูกท่อขนาดยักษ์สีชมพู่ใหญ่ดูหน้ากิน
คุณยายรู้สึกดีใจมากที่เก็บลูกท่อใหญ่ขนานนี้ได้จึงนำมันมาวางไว้อยู่กลางบ้าน และรอคุณตากลับบ้านเพื่อมากินด้วยกัน
เมื่อคุณตากลับมาถึงบ้านและมาเห็นลูกท่อยักษ์ที่อยู่ตรงใจกลางบ้านของตนนั้นทำให้คุณตาก็เกิดอาการตกตะลึงเป็นอย่างมาก และในที่สุดคุณตาก็ยอมนำมีดตักซุงที่อยู่ในมือออกมาเพื่อที่จะผ่ากินลูกท่อตามความต้องการของคุณยาย
แต่ทันใดนั้นเอง ทันทีที่คุณตาลงมีดลงบนลูกท่อ ลูกท่อนั้นก็เปร่งแสงออกมา และค่อยๆปริแตกออกอย่างช้าๆ ข้างในลูกท่อนั้นได้ปรากฎเด็กชายตัวน้อยหน้าตาหน้ารักจิ้มลิ่มอยู่หนึ่งคน
ทั้งคุณตาและคุณยายรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมากที่ตนจะได้มีลูกเสียที และได้แต่เฝ้าขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานเด็กคนนี้มาให้
และคุณยายก็ได้ตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า
‘โมโมทาโร่ชาชา’
วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วโมโมทาโร่ชาชา เติบโตขึ้นที่ละเล็กที่ละน้อยตามภาษาของแต่ มีเรื่องที่หน้าแปลกอยู่หนึ่งเรื่องก็คือโมโมทาโร่ชาชา นั้นจะเติบโตเร็วกว่าเด็กคนอื่นเป็นอย่างมาก เพียงแค่3เดือนชาชาน้อยก็ได้เติบโตเป็นชายรูปงามอย่างเต็มตัวเสียแล้ว
ขณะที่บ้านของคุณตาและคุณยายกำลังมีความสุขและอบอุ่นไปด้วยความรักที่มอบให้กับสมาชิกใหม่ที่เข้ามา อยู่ๆหมู่บ้านก็ได้ประสบกับเรื่องร้ายแรงขึ้น
นั่นก็คือ มียักษ์ตัวเผือกตัวโตอันแสนดุร้ายที่คอยมาทำลายบ้านเมืองของชาวบ้านเสียหายและผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านก็ถูกเจ้ายักษ์เผือกจับไว้เป็นตัวประกัน
เมื่อเรื่องนี้ถึงหูของโมโมทาโร่ชาชา โมโมทาโร่ชาชาจึงได้ขอคุณตาคุณยายเพื่อไปปราบเจ้ายักษ์เผือก
“คุณตา คุณยายครับ” โมโมทาโร่ชาชาพูดกับคุณตาคุณยายพร้อมกับมองตาใส
“อะไรจ๊ะชาชาของยาย” คุณยายพูดพร้อมกับลูบไปที่เส้นผมนุ่มทันที
“คือชาอยากที่จะไปกำจัดยักษ์เผือกและช่วยผู้หญิงทุกคนที่ถูกจับตัวไปกับมาอ่ะครับ คุณตากับคุณยายให้ชาไปนะครับ”
“เฮ้อ…..เอาไงดีจ้ะตา” คุณยายเริ่มถอนหายใจ
“เฮ้อ……ยายถามตาทำไม” คุณตาเริ่มถอนหายใจ
“ก็ยายถามตาไงว่าจะให้ชาน้อยของเราไปกำจัดเจ้ายักย์เผือกมั้ย”
“เฮ้อ…ชาน้อยเอ้ยมันอันตรายมากนะเจ้าแน่ใจแล้วรึว่าเจ้าอยากที่จไปจัดการกับเจ้ายักษ์เผือกนั่นจริงๆ” คุณตากล่าวเตือนชาน้อย
“ชาแน่ใจแล้วครับคุณตา คุณยายให้ชาไปนะครับ”
“เอ่อก็ได้งั้นพรุ่งนี้ตื่นเช้าแล้วไปจัดการไอ้ยักษ์เผือกนั้น อย่าให้เสียชื่อตาซะหล่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณตางั้นชาไปนอนก่อนนะ”
ทันทีที่ชาชาน้อยเข้านอนไปนั้นคุณตาและคุณยายก็เริ่มคุยกันทันที
“ตาแน่ใจแล้วหรอว่าจะให้ ชาชาน้อยของเราไปหน่ะ ชาชาของเราบอบบางนะ อึก….อึก” น้ำตาจำนวนมากหยดลงมาจากผู้เป็นแม่ทันที
“ยาย เจ้าชาหน่ะมันเป็นลูกผู้ชายนะ ลูกผู้ชายก็ควรทำในสิ่งที่เขาควรทำ เราได้แต่สนับสนุนจะรั้งมันไว้ก็ไม่ได้ หน้าที่ของเราก็คือรอเจ้าชามันกลับมาพร้อมรอยยิ้มแค่นั้นเองนะยาย”
“อืมตา ยายเข้าใจแล้ว” เมื่อพูดเสร็จคุณยายก็เดินออกไปเพื่อเก็บรวบรวมผ้า เพื่อที่จะทำชุด ชุดใหม่ให้กับโมโมทาโร่ชาชา
ส่วนคุณตาก็เดินเข้าไปที่ห้องนอนของตนหยิบดาบคู่ใจที่ตนไม่ใช้มานานแล้วออกมาขัด
.
.
.
‘เช้าวันต่อมา’
.
.
.
“อืม….เช้าแล้วสินะ” โมโมทาโร่ชาชาตื่นขึ่นมาบิดขี้เกียจเล็กน้อยและสังเกตุเห็นสิ่งที่วางไว้อยู่ข้างเตียง
นั้นก็คือชุดใหม่ที่คุณยายนั้นนั้งทำให้ทั้งคืน บริเวณตัวเสื้อนั้นมีสีเขียวและสีชมพูเป็นองค์ประกอบหลัก และที่คาดหัวสีแดงใสที่ตรงกลางมีปักเป็นรูปลูกท่อ
อีกฝั่งหนึ่งนันมีดาบซามุไรคมกริบที่คุณตานั้งขัดให้อย่าถนุถนอมทั้งคืน ดาบนี้สองประกายสีสวยและพร้อมที่จะใช้งานเต็มที่
โมโมทาโร่ชาชาเมื่อเห็นของเหล่านี้ก็เกิดความปลื้มปิติจนน้ำตาไหล และเดินออกไปพร้อมชุดและดาบเพื่อไปขอบคุณตาคุณยาย
แต่ทันทีที่โมโมทาโร่ชาชาขอบคุณและเข้าไปกอดนัวเนียกับผู้มีพระคุณทั้งสองเสร็จคุณยายก็ยืนถุงผ้าขนาดใหญ่มาให้โมโมทาโร่ชาชาทันที
“อะไรหรอครับคุณยาย”
“เป็นไส้กรอกแฟรงที่ชาชาชอบไงลูก เผื่อชาชาหิวระหว่างทางจะได้กินได้นะลูก”
โมโมทาโร่ชาชารู้สึกขอบคุณตายายทั่งสองเป็นอย่างมาก
และในที่สุดโมโมทาโร่ชาชาก็ออกเดินทางเพื่อไปปราบยักษ์
.
.
.
.
.
.
ในระหว่างทางที่โมโมทาโร่ชาชา กำลังเดินอยู่นั้น เขาก็ได้เห็นหมาน้อยที่นอนสลบอยู่ด้วยความหิว ความสงสารทำให้โมโมทาโร่ชาชาแบ่งไส้กรอกแฟรงให้กับน้องหมาไปชิ้นหนึ่ง
เมื่อน้องหมาได้กินไส้กรอกไปนั้นก็เริ่มรู้สึกมีกำลัง และรู้สึกขอบพระคุณกับโมโมทาโร่ชาชาเป็นอย่างมากมิเช่นนั้นเขาคงตายไปแล้ว
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!!!!!” (ขอบคุณท่านมากนะท่านนักเดินทาง ข้าเกือบไม่รอดแล้วสิ)
“น้องหมาเห่าทำไมหรอ” น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่แม้น้องหมาจะพยายามพูดอย่างไร แต่ชาชาน้อยก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยแม้แต่น้อย
“โฮ่ง โอ่ง โฮ่ง โฮ่งงงงงงง หู โฮ่ง” (ทำไมท่านไม่เข้าใจข้าง่ะ แต่ไม่เป็นไรข้าจะขอติดตามท่านก็แล้วกันเพื่อตอบแทนน้ำใจของท่าน)
“น้องหมาอยากมาด้วยกันมั้ย” ชาชาน้อยพูดอย่างใจดี
“โฮ่ง! โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” (แน่นอนอยู่แล้ว! ข้าชื่อเฟรมนะ)
“อืม มีเจ้าของรึเปล่าน้า~ ……….แต่ช่างมันเถอะ” ชาชาน้อยสังเกตุไปที่ตัวของเจ้าตูบ และได้เห็นที่แขวนชื่ออยู่บนคอของมัน
“อ่อ ชื่อเฟรมหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะเราชื่อโมโมทาโร่ชาชา”
“โฮ่ง” (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)
และโมโมทาโร่ชาชาและหมาน้อมเฟรมก็ได้ออกเดินทางกันต่อไป แต่ทันใดนั้นเองเมื่อโมโมทาโร่ชาชากำลังเดินเข้าไปในป่าก็เกินเสียงอะไรบ้างอย่างเมือนของขนาดใหญ่หล่นลงมาจากฟ้า
“ตุบ!!!!!!!”
“เสียงอะไรอ่ะ เรารีบไปดูกันดีกว่านะเจ้าตูบ” และโมโมทาโร่ชาชาก็รีบวิ่งไปยังตนเหตุของเสียงนั้นเอง
สิ่งที่เห็นก็คือ ลิงตัวใหญ่ที่กำลังนอนดิ่นด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่พื่น เมื่อโมโมทาโร่ชาชาเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยทำแผลให้เจ้าลิงทันที
“เป็นอะไรรึเปล่าเจ้าลิงน้อง” โมโมทาโร่เอ่ยถาม
“ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วย 5555ผมเป็นลิงแท้ๆแต่กลับตกมาจากต้นไม้ได้น่าอายจริงๆ” ลิงน้อยพูดพร้อมกับถู้ไปที่หลังคอของตนด้วยความเขินอาย
“เจ้าพูดได้หรอ” โมโมทาโร่ชาชาเอ่ยด้วยความสงสัย
“ครับแน่นอนอยู่แล้ว ผมชื่อเจมส์นะครับแล้วคุณนักเดินทางสุดสวยชื่ออะไรครับ”
“ผมชื่อโมโมทาโร่ชาชา กำลังเดินทางเพื่อไปปราบยักษ์เผือก คุณเจมส์พอจะรู้ทางมั้ยครับ”
“ผมก็พอนำทางได้นะครับ แต่ว่ามันอันตรายมากนะครับคุณโมโมทาโร่ชาชา”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปที่นั้นเพื่อช่วยหญิงสาวที่โดนจับตัวไปครับ” โมโมทาโร่ชาชาพูดพร้อมยิ่มอย่างภูมิใจไปให้เจ้าลิงน้อยตัวยักย์
“งั้นเราออกเดินทางกันเถอะครับ คุณชาชา”
เมื่อทั้งสามเดินทางต่ออยู่ๆก่อนที่จะถึงเกาะยักย์ก็มีทะเลตัดอยู่
“มีทะเลแบบนี้เราจะทำไงดีหล่ะครับ” โมโมทาโร่ชาชาบ่นไปหาสหายทั้งสองของตน
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” (ไปหาเรือกันเถอะนะโมโมทาโร่ชาชา)
และอยู่ๆทันไดนั้นก็มีนกกระสา ที่มีปีกสีฟ้าอันงดงามบินเชียวลงยังตรงหน้าผู้เดินทางทั้งสามคน
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!” ( เจ้าเป็นใครหน่ะ!) หมาน้อยเฟรมเห่าเสียงดังและนำตัวมาบังตัวโมโมทาโร่ชาชาทันที
“หึ เจ้าหมาน้อยเจ้าเงียบเสียเถอะ” นกกระสาเปิดปากเพื่อโต้เถียงกับเจ้าหมาน้อยทันที
“เจ้าทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลย แล้วเจ้านกกระวาเจ้าเป็นใครกัน” ลิงตัวโตเปิดปากพูดเพื่อสยบสัตว์ทั้งสอง
“หึ ข้าก็แค่ได้ยินว่าจะมีคนมาปราบเจ้ายักษ์เผือก ข้าก็เลยตั้งใจที่จะมาดูหน้าสักหน่อย”
“โฮ่ง!!!!” (หนอย!!!)
“เจ้าทั้งสองพอเถอะ เออคุณนกกระสา เราชื่อโมโมทาโร่ชาชานะ เจ้าชื่ออะไรหรอ” โมโมทาโร่ชาชาพูดอย่างเป็นมิตรกับนกกระสา
“ข้าชื่อต้น” นกกระสาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“งั้นหรอ คุณต้นพอรู้วิธีที่จะข้ามทะเลเพื่อไปปราบยักษ์รึไม่” แต่โมโมทาโร่ชาชาก็ยังไม่ลดความพยายามที่จะคุยกับคุณนกกระสาสีสวย
“วิธีหน่ะ ก็มีอยู่หรอก แต่ว่าเจ้านะจะไปปราบยักย์ทำไมกันโมโมทาโร่ชาชา” นกกระสาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เราแค่อยากจะช่วยคนในหมู่บ้านให้มันกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมแค่นั้นเอง” ชาชาน้อยตอบพร้อมกับครียิ้มสวยให้กับคุณนกกระสา
และทันทีที่โมโมทาโร่ชาชาพูดจบ คุณนกกระสาก็ขยายขนาดของตัวเองให้ใหญ่ขึ่น ให้สหายนักเดินทางทั้งหมดขึ้นหลังของตนและโบยบนไปที่เกาะยักย์
.
.
.
‘ณ เกาะยักษ์’
.
.
.
“ถึงแล้วหล่ะ พวกเจ้าลงไปจากตัวข้าได้แล้ว” นกกระสาพูด
บรรยากาศภายในเกาะยักษ์นั้นต่างทำให้ผู้มาเยือนหนาวสั่น พื้นที่แห้งแล้งไม่มีแม้แต่พืชขึ้นเลยสักต้นเดียว ควันหมอกสีขาวกระจายอยู่รอบบริเวณ ทางเดินอันหน้ากลัวถูกจัดไว้ให้ผู้มาเยือนอยู่แล้ว
“พวกเราไปกันเถอะนะ” โมโมทาโร่ชาชาพูดและเดินไปตามทางทีละน้อยและที ด้วยความกล้าทั้งหมดที่ตนเองมี
ในที่สุดเหล่าสหายทั้งสี่ก็มาถึงตัวถ่ำของยักษ์ และเมื่อฝีเท้าของเหล่าผู้เดินทางแตะลงบนพื้นเย็น ก็เกิดเหตุการณ์สั่นไหวของพื้น ที่นั่งหินที่ไม่ปรากฎในตอนแรกค่อยๆเลื่อนขึ่นมาจากพื้นดิน สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกก็คือ ชายหนุ่มรูปงาม ตัวขาวที่มีเขาติดไว้บนหัว
ความงามของชายหนุ่มนั้นทำให้ทุกสายตาจับจ้องและหลงไหล
“เจ้าสิหน่ะ ที่คิดจะมาปราบข้า” เสียงทุ่มเอ่ยขึ่นอย่างน่าเกรงขาม
“………” ตอนนี้เหล่าสหายทั้งสี่ไม่มีใครสามารถเปิดปากออกพูดได้แล้ว
“ตอบข้ามา!!!!” เสียงทุ่มตะโกนลั่น
“เออ…..คือสวัสดีครับ ผมชื่อโมโมทาโร่ชาชานะครับ ตอนแรกกะจะมาปราบคุณยักษ์เผือก แต่ตอนนี้มาเจรจากับคุณยักษ์ครับ” ชาชาน้อยพูดออกไปด้วยความหวาดกลัวร่างเล็กสั่นตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังยืนขาแข็งประจันหน้ากับเจ้ายักษ์เผือก(ที่โคตรหล่อ)
“เจ้าจะมาเจรจากับข้าเรื่องอะไรโมโมทาโร่ชาชา”
“คือผม…ม อึก อยากจะให้คุณคืนผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านแล้วก็อย่ามาทำลายหมู่บ้านของเราอีกเลยนะครับ” ร่างบางพูดเสียงสั่น
“เฮ้อ….ข้าว่าเจ้าเข้าใจอะไรข้าผิดแล้วหล่ะ เจ้านักเดินทางตัวน้อย ข้าไม่ได้นำตัวผู้หญิงของเจ้าไปสักคน ผู้หญิงเหล่านั้นตามข้ามาเอง”
“ตามมาเอง?” โมโมทาโร่เอ่ยด้วยความสงสัย และอยู่เหล่าหญิงสาวทุกคนในหมู่บ้านก็มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าชาชา
“คือ พวกเราขอโทษนะคะ ที่ทำให้เป็นห่วง ที่พวกเราเดินตามท่านยักย์มาก็แค่อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้แค่นั้นเองค่ะ” ตัวแทนของกลุ้มผู้หญิงเหล่านั้นอธิบาย
“ถ่ายรูป?”
“ก็คือแบบว่า….คือแบบ…..ก็แบบว่าคุณยักย์เขาหล่อเกินห้ามใจหนิค่ะพวกเราก็แค่ตามมาเพื่อที่จะแอบถ่ายรูปคุณยักย์ตอนเขาเผลอเท่านั้นเองค่ะ!!!!!!” เมื่อจบคำพูดเหล่าสตรีทั้งหมดก็ก้มลงและ
“พวก เรา ขอ โทษ ค่า!!!!!!!!” กล่าวขอโทษไปที่โมโมทาโร่ชาชาอย่างพร้อมเพียง
“เออ……แล้วเรื่องทำลายหมู่บ้านหล่ะครับ” โมโมทาโร่ชาชาที่ยังคงมึนๆอยู่เล็กน้อยก็ได้เอ่ยถามยักษ์เผือกไป
“ข้าไม่ได้ไปทำลายบ้านของพวกเจ้าสักหน่อยแต่ว่า ข้าแค่จำเป็นต้องใช้ที่และอีกอย่างที่ตรงนั้นเดิมทีมันก็เป็นของข้าอยู่แล้ว ข้าก็แค่อยากได้มันคืน” คุณยักษ์ตัวเผือกพูดอย่างเบื่อหนาย
“แต่คุณยักษ์ครับ การที่จะไปแย่งที่อยู่ของคนอื่นมันม่ถูกนะครับ ที่ตรงนั้นเป็นที่ ที่ทุกคนเกิด ทุกคนทำมาหากินนะครับ คุณยักษ์อย่าแย่งมันไปเลยนะครับ มันเป็นสิ่งที่มีค่าต่อทุกคนมาก เราสร้างความสงจำที่ดีที่นั้นนะครับ” ชาชาน้อยพูดกับคุณยักย์พร้อมกับยดน้ำตาใสที่ติดอยู่ที่ขอบตา
“เฮ้อ…..เอางั้นก็ได้” ยักย์ขาวพูดพร้อมกับปัดๆมือไล่พวกนักเดินทางกับพวกผู้หญิงให้กลับไป
เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง หญิงสาวทุกคนในหมู่บ้านก็ติดต่อพร้อมกับด่าสามีของตนให้มารับกลับบ้านและเก็บภาพอันมีค่าของคุณยักย์สุดหล่อเอาไว้อย่างมิดชิด
คุณลิง คุณหมา และ คุณ นกกระสา ก็บอกลาโมโมทาโร่ชาชาและกลับไปใช้ชีวิตของตน ตอนนี้ทั้งเกาะเหลือเพียงแค่โมโมทาโร่ชาชา สิ่งที่เขาจะทำต่อไปมันก็คือภารกิจสุดท้าย
ชาชาน้อยของเราเดินเข้าไปในถ่ำของคุณยักย์เผือกอย่างเงียบเชียบ และในที่สุดชาชาน้อยก็ได้เจอคุณยักษ์เผือกนั่งอ่านหนังสือในห้องอย่างเดียวดายอยู่
“นักเดินทางน้อย เจ้าต้องการอะไรอีก” คุณยักษ์ตัวขาวที่กำลังยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเอ่ยถาม
“เออ…….คุณยักย์เผือกผมยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย” ชาชากล่าวออกไป
“หึ….จริงๆแล้วผมชื่อเต๋า แล้วทำไมคุณยังไม่กลับไปกับเพื่อนคุณหล่ะนักเดินทางตัวน้อย” ยักษ์เผือกกล่าวอย่างสงสัยพร้อมกับละสายตาออกจากหนังสือในมือ
“คุณเต๋า คุณสนใจมาอยู่กับผมมั้ย”
“ทำไมหล่ะ ทำไมผมต้องไปอยู่กับคุณ” เต๋าทิ้งหนังสือในมือพร้อมกับเดินเข้าไปแนบชิดกับชาชาน้อย
“ผม เห็นคุณต้องอยู่คนเดียว การอยู่คนเดียวมันคงเหงามาก ผมก็เลยมาชวญคุณให้มาอยู่กับผม….ผมอยากที่จะสร้างความทรงจำดีๆพร้อมกับทุกคนและคุณเต๋าครับ นะนะ คุณเต๋าคุณมาอยู่กับผมนะ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องเหงาเลย” ร่างเล็กเอ่ยอย่างออดอ่อพร้อม ริมฝีปากบางชีกยิ้มสวยละมุนละไมมาให้กับยักย์ขาวที่ตอนนี้เข้ามาใกล้ขึ้นทุกที
และเมื่อร่างบางได้รู้สึกถึงความใกล้ชิดที่ร่างสูงมอบให้แล้ว แก้วใสก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด เมื่อเห็นดังนั้นคุณยักย์ตัวโตก็หัวเราะเบาๆออกมาจากลำคอหนา
“คุณหัวเราะอะไรกันคุณเต๋า” แก้มแดงยิ่งแดงขึ่นกว่าเก่า ทำให้รู้ได้ว่าตอนนี้คุณนักเดินทางตัวน้อยกำลังเขิดสุดๆเสียแล้ว
“ผมตกลง” และอยู่ๆเสียงทุ่มก็เอ่ยออกมา
“??????? ตกลงอะไร” ตากลมใสมองอย่างสงสัย
“ผมตกลงที่จะไปอยู่กับคุณแล้วไงคุณ นักเดินทางตัวน้อย” เมื่อพูดเสร็จร่างสูงก็ได้มอบจูดดูดดื้ม อันแสนหอมหวานให้แก่ร่างบาง
.
.
.
.
To Be Continue …………
.
.
.
.
.
.
สวัสดีค่า!!!! ไรท์มาอีกแล้วเรื่องก่อนหน้านี้ไม่มีคนเม้นเลยอ่ะ แง แงแง แง
เป็นไงบ้างคะโมโมทาโร่ชาชากะคุณยักษ์เผือก(สุดหล่อ)5555
เนื่อเรื่องมาแบบแปลกๆนะคะ ยังไงก็ติดตามตอนหน้านะคะ
ต้องมีรีดสงสัยแน่เลยว่าทำไมยุคสมัยก่อนถึงมีกล้องกะโทรศัพท์ คือเพราะเรื่องนี้เป็นแบบร่วมยุคสมัยค่ะ
ถ้าคนเคยอ่าน กินทามะจะเข้าใจค่ะ
ตอนนี้อาจจะแต่งแปลกๆและสั่นไปนิด แต่เพราะมันเอามาจากนิทานเด็กเรื่อง โมโมทาโร่ หนิคะ
ยังไงก็ถ้าชอบก็อย่าลืมมาเม้นกันด้วยนะคะ แล้วอย่าลืมไปอ่าน Give Me Love นะคะ
เม้น เม้น เม้น เม้น เม้น เม้นเถอะนะขอร้อง*กราบ* จะดุจะด่าจะว่าไรท์ก็ได้แต่เม้นเถอะนะน้าน้า
ความคิดเห็น