ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PETER PAN รักนี้มีบททดสอบ [END] || EXO SNSD

    ลำดับตอนที่ #8 : My Peter Pan: Chapter6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      6
      27 ม.ค. 60











                 " ซันนี่น่ารักดีนะว่ามั้ย เสียงของเธอทำให้ฉันคิดถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ฝรั่งเศสแหละ พูดมากเหมือนกันเลย "

     

    " ใช่ ยัยซันน่ะพูดมาก แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ทั้งน้องของฉันเลยแหละ "

     

    เจสสิก้าหันมาตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองข้างหน้าต่อ ตอนนี้ทั้งแทยอนและเจสสิก้ากำลังเดินทางกลับหอหลังจากที่เรียนคาบสุดท้ายเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ ทั้งคู่จึงตัดสินใจว่าจะไปทำอาหารกินกันที่ห้องของเจสสิก้ากัน ทีแรกก็กะว่าจะชวนซันนี่ไปด้วยแต่ซันนี่กลับติดธุระไปด้วยไม่ได้จึงไปกันแค่สองคน

     

    " เธอโชคดีมากเลยรู้มั้ยเจสสิก้า มีทั้งเพื่อนที่ดีมีทั้งคนที่คอยเป็นห่วงมีชีวิตที่สงบสุข...ไม่เหมือนฉันเลย ฉันอิจฉาเธอจัง "

     

    " เป็นเธอมันไม่ดีตรงไหนกัน เธอมีทุกอย่างเพรียบพร้อมกว่าฉันซะอีก ฉันต่างหากที่ต้องอิจฉาเธอ "

     

    " ไม่จริงหรอก ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของฉัน มันไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ ทุกอย่างพ่อแม่ของฉันเป็นจัดการให้ทั้งหมดพวกท่านทำเหมือนฉันเป็นเด็กแปดขวบทำเหมือนฉันเป็นกระดาษเอสี่ที่คนอื่นเข้าใกล้แล้วจะขาด...ถ้าฉันเลือกได้ฉันขอเป็นคนธรรมดา ๆ คนนึงที่ไม่ต้องรวยล้นฟ้าไม่ต้องสวยเลิศเลอมีชีวิตที่สงบสุขกว่านี้ จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรบ้า ๆ แบบนี้ "

     

    " เธอเป็นคนดี รุ่นพี่แบคฮยอนเองก็เป็นคนดี ฉันเชื่อว่ารุ่นพี่จะทำให้เธอมีความสุขด้วยความรักของเธอและเขา...เธออาจจะกังวลเรื่องรุ่นพี่ยุนอาแต่เชื่อเถอะว่าถึงยังไงรุ่นพี่แบคฮยอนต้องเห็นหัวใจสำคัญกว่าหน้าที่อยู่แล้ว "

     

    พอได้ฟังแบบนี้แทยอนเองอยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าความรักที่เธอมีต่อแบคฮยอนไม่ว่าจะมากมายแค่ไหนก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอมีความสุขได้ หากแบคฮยอนยังคงเย็นชากับเธอแบบนี้...การให้ความรักกับคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่เขาคนนั้นไม่ใส่ใจมันเหนื่อยจนเธอไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวขาเดินต่อไป

     

    ความรักของเขาจะทำให้เธอมีความสุขงั้นหรอ? แล้วมันเมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่ความสุขมันถึงจะมาถึงเธอสักที

     

    " เธอมีพร้อมทุกอย่างแล้วนะแทยอน ไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครทั้งนั้นเพราะเธอต่างหากล่ะที่น่าอิจฉา "

     

    " จะว่าไงดีล่ะ ฉันเกลียดความวุ่นวายเกลียดการหลอกลวงเกลียดการเสแสร้งเกลียดการเข้าสังคม...แปลกเนอะ ทั้ง ๆ ที่ฉันโตมากับมันแท้ ๆ แต่กลับทำใจชอบไม่ได้ "

     

    " ไม่แปลกหรอก คนเราก็ต้องมีสิ่งที่เกลียดกันทั้งนั้นแหละน่า อย่างฉันไง ฉันเกลียดแตงกวา ไม่ชอบมาก ๆ ทั้งที่คนอื่นบอกว่ามันมีประโยชน์แต่ฉันก็ไม่ชอบเพราะฉันไม่ชอบ "

     

    " ทำไมคนพวกนี้มองฉันแปลก ๆ " แทยอนกล่าวขึ้นลอย ๆ หลังจากที่เธอเริ่มรู้ตัวว่ามีหลายสายตากำลังจับจ้องอยู่ ทุกคนที่เธอเดินผ่านต่างมองมาที่เธอด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรพร้อมกับหันไปกระซิบกระซาบกับคนใกล้ตัวราวกับว่าเธอเปนบุคคลน่ารังเกียจ

     

    " อย่าสนใจเลย คนพวกนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ครั้งนึงฉันก็เคยโดนตอนที่รุ่นพี่ลู่หานตามฉันมาก ๆ เดี๋ยวสักพักก็เลิก "

     

    " แต่ฉันไม่ชอบนี่นา ทำเหมือนฉันไปทำความผิดอะไรไว้อย่างงั้นแหละ "

     

    " อดทนเอาไว้ก่อนนะ ถ้าเธอไม่สนใจสักพักพวกนั้นก็จะหยุดเอง "

     

    " เจสสิก้า! "

     

    หญิงสาวทั้งสองหันหลังกลับไปมองตามเสียงเรียกและถ้าเดาไม่ผิดเจ้าของเสียงนั่นคงไม่พ้นคนที่เจสสิก้าไม่อยากจะเจอหน้าสักเท่าไหร่ คนที่เธอพึ่งพูดถึงเมื่อสักครู่ คนที่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้เธอบ่อย ๆ

     

    " ทำไมออกมาไม่รอ "

     

    " มีอะไรคะ? "

     

    " เธอลืมหนังสือไว้ในห้องฉันเมื่อคืนนี้น่ะ... "

     

    " จะพูดอะไรน่ะ! รุ่นพี่หยุดพูดเลยนะ! ตามมานี่เลย "

     

    " เอ้า ทำไมพูดไม่ได้ เมื่อเช้าพี่ก็มาหาเราแล้วนะแต่เราก็หนีพี่ไปไหนไม่รู้ "

     

    " บอกไม่ต้องพูดไง ตามมานี่ "

     

    เจสสิก้าออกปากดุก่อนลากลู่หานให้ออกห่างจากตรงนั้นเพราะกลัวว่าเขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ แค่เธอลืมหนังสือก็บอกว่าลืมหนังสือสิทำไมต้องบอกสถานที่ชัดเจนขนาดนั้นด้วย น่าเกลียดที่สุด

     

    " นั่นแทยอนใช่มั้ยนั่นน่ะ? ทำไมแบคฮยอนไม่พามาแนะนำให้พวกเรารู้จักล่ะ ได้ยินแค่ข่าวแต่พวกเรายังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร "

     

    " เอ่อ ค่ะ ฉันชื่อแทยอน "

     

    " มานี่เลยรุ่นพี่ เอาหนังสือมาให้ไม่ใช่หรอ? ไหนล่ะหนังสือ "

     

    " ครับ ๆ ไม่ต้องลากพี่ก็ได้...พี่ไปก่อนนะครับแทยอนแล้วค่อยเจอกัน ยิ้มเข้าไว้นะ " ลู่หานบอกกับแทยอนก่อนจะส่งยิ้มมาให้ ถ้ามองเผิน ๆ อาจจะเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่มีอะไรแต่ทำไมมันทำให้แทยอนรู้สึกแปลก ๆ ล่ะ

     

    " เดี๋ยวฉันมานะแทยอน เธอกลับไปรอที่ห้องได้เลย รหัสก็เหมือนที่ฉันเคยบอกนั่นแหละ แล้วเจอกัน "

     

    " อือ "

     

    แทยอนพยักหน้ารับคำก่อนจะหันหลังกลับมาตามเดิม เมื่อไร้เพื่อนคอยเดินข้าง ๆ ชวนพูดคุยสมองจึงค่อย ๆ คิดไปเรื่อยเปื่อย...แต่ก็มีอยู่สองเรื่องนั่นแหละที่แทยอนคิดไม่ตกสักทีคือเรื่องอิม ยุนอาที่เป็นคู่หมั้นของแบคฮยอนกับเรื่องชีวิตที่ต้องมีเขาเข้ามาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

     

    ถ้าวันนั้นเธอไม่เข้าไปในห้องของแบคฮยอน วันนี้มันจะเป็นยังไงกันนะ ถ้าเธอไม่หนีไปเรียนต่อฝรั่งเศส เรื่องทุกอย่างมันจะเป็นยังไง...ถ้าเธอปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รับรู้อะไร วันนี้แบคฮยอนยังจะเป็นคนเดิมของเธอมั้ย? เขาจะพูดจาร้ายกาจแบบนี้กับเธอรึเปล่า เขาจะยังเป็นปีเตอร์แพนผู้แสนดีของเธอใช่มั้ย แล้วถ้าวันนี้เขาและเธอยังรักกันเรื่องทุกอย่างมันจะเป็นยังไง

     

    ร่างเล็กเดินใจลอยไปเรื่อย ๆ ถึงเธอจะไม่ค่อยรู้ทิศรู้ทางของที่นี่ แต่เธอก็จำทางกลับหอได้ วันนี้มันหนักเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอการปะทะคารมกับแบคฮยอนทำให้เธอเหนื่อยเสียยิ่งกว่าวิ่งรอบโรงเรียนนี้สิบรอบซะอีก มันไม่ง่ายจริง ๆ ที่จะอยู่โรงเรียนนี้อย่างสงบสุขโดยปราศจากความเจ็บปวดที่แบคฮยอนมอบให้

     

    อะไรทำให้ผู้ชายที่แสนดีกลายเป็นซาตานไปได้ ทุกอย่างเริ่มไม่เหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วมันจะจบลงตอนไหน ถ้าทุกอย่างมันสิ้นสุดลงด้วยความเจ็บปวดของเธอ ถ้ามันถึงวันนั้นจริง ๆ หัวใจของเธอจะเป็นเช่นไร...

     

    " เหม่ออะไรอยู่สาวน้อย " เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยขึ้นทำให้ร่างเล็กหลุดจากภวังแห่งความคิดก่อนจะหันไปมองหาต้นตอของเสียง

     

    รอยยิ้มหวาน ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคาย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ปากเรียวบางสีสด กรามคมสวยเข้ารูปโดยรวมแล้วนับได้ว่าเขาคนนี้หน้าตาดีเอามาก ๆ เลยทีเดียว...แต่ที่เหนือกว่านั้นคือเขาคนนี้คือคนที่เธอรู้จักและมีบางอย่างที่บอกให้เธอออกห่างจากผู้ชายคนนี้ให้เร็วที่สุด

     

    " เป็นเธอจริง ๆ ด้วย "

     

    " พี่เอส "

     

    " แทเธอกลัวพี่หรอ? " คำถามที่คนถามไม่ต้องการคำตอบถูกถามออกมาโดยเอส หลังจากที่เขาเห็นแววตาของคนตัวเล็กเขาก็รู้ทันทีว่าแทยอนไม่ค่อยจะยินดีเท่าไหร่นักที่เจอเขา ซึ่งเขาก็ไม่โกรธหากเธอจะคิดเช่นนั้นเพราะมันก็สมควรแล้ว

     

    " เปล่าค่ะ แทแค่ตกใจที่เห็นพี่อยู่ที่นี่... "

     

    " พี่ก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เท่าไหร่หรอก แทก็น่ารู้หนิ "

     

    " ค่ะ "

     

    " แทสบายดีมั้ย? "

     

    " ก็สบายดีค่ะ แล้วพี่เอสละคะสบายดีไหม? "

     

    " ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพพี่แข็งแรงมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องหัวใจพี่โดนผู้หญิงคนหนึ่งทำให้บอบช้ำมาสองปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นใจร้ายมากเลยแทว่ามั้ย? "

     

    เอสพูดติดตลกพรางยิ้มให้กับคนตัวเล็กแต่ทว่าแววตาของเขากลับดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัดทำเอาคนฟังถึงกับไปไม่ถูก ทำไมแทยอนจะไม่รู้ว่าผู้หญิงใจร้ายที่เขาหมายถึงเป็นใคร ก็เธอไงจะใครซะอีกล่ะ

     

    " เอ่อ ค่ะ คือพี่เอส... "

     

    " แทกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ ทำไมไม่เห็นส่งข่าวพี่บ้างเลย "

     

    " ก็...ได้สักพักแล้วค่ะ แทไม่รู้ว่าจะติดต่อยังไงก็เลยไม่ได้บอกพี่เอส ขอโทษด้วยนะคะ "

     

    " ไม่เป็นไรพี่ไม่ว่าเราหรอก ว่าแต่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแทเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ " เอสเอ่ยชมก่อนจะเปลี่ยนมาทำท่ากระอักกระอ่วนจนแทยอนแปลกใจ " เอ่อ...ถ้าแทไม่รังเกียจพี่จนเกินไป พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพี่มีธุระอยากจะคุยด้วยน่ะ "

     

    " ทำไมพี่เอสพูดแบบนั้นล่ะคะ แทจะรังเกียจพี่ทำไมกัน "

     

    " ก็พี่เคยทำกับเราไว้มากหนิ ถ้าเราจะรังเกียจพี่มันก็สมควรแล้ว "

     

    เอสพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อตนเอง สายตาที่ส่งออกมาบ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้โกหก ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งกลับมามีหัวใจอีกครั้ง...แทยอนเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่กล้าปฏิเสธเขา และแทยอนคือรักแรกที่เป็นความรักจริง ๆ ของเอส

     

    " คนที่ทำผิดแล้วรู้สึกผิดสมควรได้รับการอภัยไม่ใช่หรอคะ? "

     

    " แต่พี่ทำ... "

     

    " พอเถอะค่ะ เราอย่าพูดถึงอดีตที่มันผ่านไปแล้วเลย เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ปล่อยให้มันหายไปกับกาลเวลาเถอะค่ะ "

     

    ร่างเล็กรีบห้ามเอสทันทีที่รู้ว่าเขากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในความทรงจำของแทยอนและเธอก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก...เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอกลัวที่จะต้องเจอเอสอีก แต่เขาก็ได้พิสูจน์ให้เธอได้เห็นแล้วว่าเขารู้สึกผิดต่อเรื่องที่ทำไปมากแค่ไหน

     

    โดยการทำให้เธอรับรู้ความจริงบางอย่าง ความจริงที่แสนเจ็บปวด ความจริงที่เธอไม่อยากจะรับรู้ แต่ก็ต้องรู้เพราะมันคือความจริง

     

     

     

     

     

     

     

     

    " แทเข้ามาเรียนที่นี่ทำไม ทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้ว่ามันเป็นโรงเรียนของแบคฮยอนแล้วทำไมยังจะมาเรียนอีก "

     

    ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่พนักงานของร้านยกกาแฟเย็นสองแก้วกับคุกกี้มาบริการแล้วก็จากไป...เอสพาแทยอนมาคุยธุระที่เขาว่าที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในโรงเรียนเพราะไม่อยากยืนคุยกันให้ใครต่อใครได้ยิน

     

    " แทไม่ทางเลือกค่ะ พ่อบังคับมา "

     

    " แล้วเรื่องลัคกี้ล่ะเราจะว่ายังไง รู้มั้ยว่าคนเขารู้เรื่องนี้กันทั้งโรงเรียนแล้ว มันไม่เป็นผลดีกับแทเลยนะ "

     

    " แทรู้ค่ะแล้วแทเต็มใจเป็นด้วย "

     

    " แทลืมไปแล้วรึไงว่าไอ้แบคมันทำอะไรไว้กับแทบ้าง ทำไมแทถึงยังกลับมาหามันอีก จำที่มันพูดคืนนั้นไม่ได้รึไง พี่ยังจำที่มันพูดได้ทุกคำเลยนะทั้งน้ำเสียงแววตาที่มันไล่แท ขนาดพี่ไม่โดนพี่ยังเจ็บแทนเลยแล้วแทจะกลับมาหามันทำไมอีก "

     

    " แทไม่มีวันลืมหรอกค่ะ แต่ว่า... " ร่างเล็กหยุดพูดไปเพราะพูดคำต่อไปไม่ออก ยิ่งเอสตอกย้ำเรื่องนั้นเธอก็ยิ่งเจ็บปวดเหมือนมีหอกนับร้อยนับพันเล่มวิ่งมาแทงตรงกลางอก กาแฟตรงหน้ากลายเป็นยาพิษที่เธอไม่อยากแตะต้องไม่ว่าอะไรก็กลายเป็นสิ่งที่ยากสำหรับแทยอนไปหมด

     

    " แทยังรักมันอยู่ใช่มั้ย? ทำไมถึงไม่รักตัวเองบ้าง ไม่รู้หรอว่าไอ้แบคมันเกลียดเรามากขนาดไหน มันไม่ใช่แบคฮยอนคนเดิมแล้วนะ "

     

    " แทรู้ดีค่ะว่ารุ่นพี่แบคฮยอนเกลียดแทมากขนาดไหน แต่ตอนนี้แทขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรแทก็ต้องอดทนคะ แทไม่มีสิทธิ์ขัดขืน "

     

    " พี่รู้ว่าเราเป็นคนมีความอดทนสูง แต่เราจะกลับมาหาความเจ็บปวดอีกทำไม ทำแหน่งที่แทไม่ต้องการจะมาบอกพี่ว่าเต็มใจรับทำไม "

     

    " บางครั้งแม้เราจะรู้ว่าการกระทำของตัวเราเองจะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่ร่างกายและจิตใจ แต่เราก็ยังเลือกที่จะทำมันต่อไปเพราะเสียงของหัวใจมันเรียกร้อง เราบังคับร่างกายและคำพูดได้แต่พี่คิดหรอคะว่าเราจะบังคับหัวใจตัวเองได้ ถึงคนอื่นจะทำได้แต่แทคนนึงล่ะค่ะที่ทำไม่ได้ "

     

    " แทยังรักมันจริง ๆ ด้วย ทำไมมันถึงชนะพี่ทุกอย่างเลยล่ะ แทตอบพี่หน่อยสิว่าพี่ด้อยกว่ามันตรงไหน ทำไมถึงต้องเป็นมันทุกทีเลย "

     

    ตั้งแต่เล็กจนโตเอสก็เป็นรองแบคฮยอนมาโดยตลอดทั้งเรื่องการเรียน ฐานะทางบ้าน หน้าตาทางสังคม และเรื่องหัวใจ...แม้แต่พ่อของเขาก็ยังยกย่องและให้ความสำคัญกับแบคฮยอนมากกว่าเขาชึ่งเป็นลูกแท้ ๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือพ่อของเขาไม่ว่าจะเวลาไหนโอกาสใดก็มักจะเปรียบเทียบตัวเอสกับแบคฮยอนเสมอ

     

    ครอบครัวของเอสทำงานเป็นเลขาให้ครอบครัวของแบคฮยอนมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ของเขาและทำงานด้วยความซื่อสัตย์จนได้รับการไว้วางใจจากตระกูลพยอน เอสเป็นลูกชายคนเดียวเพราะฉะนั้นคงไม่พ้นที่เขาจะได้เป็นเลขาของแบคฮยอนเมื่อเรียนจบ

     

    เอสไม่ใช่คนโง่ครอบครัวของเขารับใช้ครอบครัวพยอนอย่างซื่อสัตย์แต่สิ่งที่ได้ตอบรับกลับไม่คุ้มค่ากับความเหนื่อย เอสเลยต้องการครอบครองธุรกิจทั้งหมดของตระกูลพยอนแต่ก็ใช่ว่ามันจะง่ายซะทีเดียว เพราะถ้าคิดจะทำการใหญ่แน่นอนว่าต้องมีคนร่วมขบวนการด้วยและก็ต้องเป็นคนในที่ไม่มีใครสงสัย ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคู่หมั้นของแบคฮยอน

     

    " พี่เอสไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นพี่แบคฮยอนเลยค่ะ ถ้าเป็นเรื่องหน้าตาพี่ก็ชนะขาดรอย แต่รุ่นพี่แบคฮยอนคือคนที่ฉันรัก คือคนที่ใจฉันเลือก...ก็เท่านั้น "

     

    " แทยอนให้โอกาสพี่บ้างไม่ได้หรอ? ให้พี่ได้ดูแลหัวใจของเธอบ้างไม่ได้เลยหรอ? หยุดรักคนที่ทำร้ายตัวเธอสักที เธอจำได้มั้ยว่าหลังจากวันนั้นแบคฮยอนเขาพูดกับเธอว่าไงบ้าง "

     

    " จำได้สิคะ จำได้ดีและไม่มีวันลืมด้วย แต่พี่เอสคะแทเห็นพี่เป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องไม่ได้จริง ๆ ถ้าแทขอร้องให้พี่เลิกรักแทบ้างพี่จะทำตามไหม? "

     

    " ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะไม่ยอมเปิดใจให้พี่ใช่มั้ย? " เอสเสมองไปทางอื่นพรางกระพิบตาถี่ ๆ ไล่ก้อนน้ำตาที่เริ่มจับตัว ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนกี่ปีผ่านไปแทยอนก็ยังคงปิดใจให้เขา ต่อให้เขาทำดีให้ตายสละชีวิตให้เธอก็คงจะไม่มีวันเหลียวแล " งั้นพี่ขอเป็นพี่ชายของเราได้มั้ย ให้โอกาสพี่ได้พิสูจน์ตัวอีกครั้งได้มั้ยแทยอน "

     

    เอสเอื้อมมือมาจับมือเรียวบางของร่างเล็กซึ่งเธอก็ไม่ได้ชักกลับหรือขัดขืนอะไร...เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดที่จะเปิดโอกาสให้เอสและคิดว่าคงจะไม่มีวันนั้น แต่วันนี้ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม นัยน์ตาของเอสดูอ่อนโยนและหนักแน่นในเวลาเดียวกัน...ไม่มีเค้าของความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจเหมือนอย่างที่เขาเคยมีเมื่อสองปีก่อน ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

     

    บางทีการให้โอกาสกับเอสอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้จิตใจเธอเข้มแข็งขึ้นก็ได้...แค่พี่ชายคงไม่เสียหายอะไร ในเมื่อคนเลวต้องการการแก้ตัวเธอก็ควรที่จะให้โอกาสกับเขาไป บางทีการที่เธอยอมเปิดตาเปิดใจอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดกับเรื่องในอดีตน้อยลงก็ได้

     

    " ยินดีค่ะ ในเมื่อพี่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง...น้องสาวคนนี้ก็พร้อมจะให้โอกาส แต่เอสพี่อย่าลืมนะคะว่าตอนนี้แทอยู่ในถานะอะไร แทไม่อยากให้พี่เอสกับรุ่นพี่แบคฮยอนต้องมีปัญหากันอีก "

     

    " ทุกอย่างจะดีถ้ามันไม่หาเรื่องพี่ก่อน พี่กับมันก็เหมือนเส้นขนานมันบรรจบกันไม่ได้หรอกแทยอน "

     

    เอสลุกยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะก้มลงกระชับอ้อมกอดหลวม ๆ กับแทยอน มันเป็นกอดที่อบอุ่นท่ามกลางความงุนงงของร่างเล็ก ไม่นานนักเอสก็ผละออกพร้อมกับส่งยิ้มที่เธอคิดว่าผู้หญิงคนไหนเห็นก็ต้องเคลิบเคลิ้มหลงไหลไปกับมัน...แต่ไม่ใช่กับเธอ

     

    " พี่ขอบคุณเรามากจริง ๆ นะ...แต่ต่อจากนี้ไปอยู่ให้ห่างจากคนที่ชื่อคยูฮยอนเข้าไว้นะ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะถ้าแบคฮยอนมันทำอะไรเธอให้ตอบโต้บ้าง แล้วก็อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า...รวมถึงพี่ด้วย "

     

    เอสพูดจบประโยคก็เดินออกไปเลยไม่ทันได้ปล่อยให้ร่างเล็กได้พ่นคำถามอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ...ทว่าเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาทิ้งอีกประโยคที่สร้างความสงสัยมากยิ่งขึ้นให้กับแทยอน

     

    " ต่อจากนี้อยู่ให้ห่างพี่ไว้ด้วยนะครับ พี่สัญญาว่าพี่จะรักษาโอกาสที่เราให้พี่ไว้ให้ดีที่สุด...ระวังยุนอากับคนที่ชื่อคยูฮยอนเอาไว้มาก ๆ ถ้าเจออะไรไม่ชอบมาพากลให้บอกพี่หรือไม่ก็เซฮุนกับชานยอลทันทีเข้าใจมั้ย "

     

    ความรักทำให้เอสเป็นคนมีหัวใจมากขึ้นกว่าเดิมก็จริง แต่ความรักไม่อาจเปลี่ยนความบาดหมางที่เขามีต่อปีเตอร์แพนทั้งสิบสองตระกูลได้...ทุกอย่างจะดำเนินไปเหมือนเดิมแต่เขาจะต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ดึงแทยอนเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

     

    คำว่า'รัก'ในคติพจน์ของเอสไม่ใช่การเสียสละ แต่มันคือการทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาชึ่งการครอบครอง...ทุกย่างก้าวของคนเราเปรียบเสมือนเกมส์คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะชนะ

     

    ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงเขาก็จะต้องครอบครองตัวและหัวใจของแทยอนให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อวันนั้นมาถึงมันก็จะนับอย่างสมบูรณ์ว่าเขาชนะแบคฮยอนทุกอย่างแล้ว

     

    สิ่งที่เอสพูดมันยังก้องในหัวของร่างเล็กอยู่ แม้เวลาจะผ่านไปหลายนาทีแต่ทุกคำพูดยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา เอสขอโอกาสกับเธอแต่เขากลับบอกให้เธออยู่ห่าง ๆ เขาเอาไว้ มันเพราะอะไรกันยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

     

    ทำไมต้องอยู่ให้ห่าง ใกล้เขาแล้วเธอจะเป็นอันตรายอย่างนั้นหรอ? ทำไมกัน? มันมีอะไรกันแน่?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตุ๊บ!

     

    วัตถุคล้ายของแข็งลอยกระทบเข้ากับหัวของร่างสูงเต็ม ๆ และไม่ต้องเดาให้ยากว่าใครเป็นคนทำในเมื่อเจ้าตัวก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

     

    " ยัยบ้า! เธอเขวี้ยงอะไรมาใส่ฉันวะเนี่ยเจ็บนะเว้ย! "

     

    " อยากไปอยู่ตรงนั้นทำไมล่ะ "

     

    " เหอะ! โดนไอ้แบคเมินมาล่ะสิถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ " เอสเอ่ยอย่างสบายอารมณ์ที่ก่อกวนผู้หญิงตัวร้ายได้สำเร็จ อารมณ์ไม่ดีแล้วพาลมาลงกับสิ่งของแบบนี้ถ้าไม่โรคจิตก็เป็นโรคประสาทเท่านั้นแหละ

     

    " เรื่องของฉัน แล้วนายมาหาฉันถึงที่นี่มีอะไร? "

     

    " พูดดี ๆ กับผมหน่อยสิครับ เรามันคนกันเองทั้งนั้น " ร่างสูงยันตัวลุกจากฟูกนุ่มสีครีมก่อนจะใช้แขนทั้งสองข้างโอบเอวร่างเล็กเอาไว้หลวม ๆ พรางประชิดตัวเข้าหาจนใบหน้าสวยหวานอยู่ในระดับเดียวกับอกแกร่ง

     

    " วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ รีบพูดธุระนายมาแล้วรีบไปซะ "

     

    " ก็ได้... " ร่างสูงผละตัวออกพรางยักไหล่เบา ๆ ถึงยังไงวันนี้เขาก็ไม่ได้จะมาเพราะเรื่องอย่างว่าอยู่แล้วแต่ที่มาเพราะมีเรื่องสำคัญที่จะคุยจริง ๆ " เธอรู้ใช่มั้ยว่าแทยอนเป็นลัคกี้ของไอ้แบค "

     

    " รู้! ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่ามันจะกลับมาทำไม เสี้ยนหนามที่ถูกฉันกำจัดไปแล้วแต่มันก็ยังหน้าด้านกลับมาทิ่มตำหัวใจฉันอีก ต้องให้ฉันฆ่าให้ตายก่อนใช่มั้ยถึงจะยอมไปสักทีเนี่ย "

     

    " แทยอนกลับมาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ที่มากกว่านั้นคือไอ้แบคฮยอนมันให้แทยอนเป็นลัคกี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้มันเกลียดแทยอนยิ่งกว่าอะไรดี " เอสพูดรอดไรฟัน เขารู้สึกอารมณ์เสียทุกครั้งเลยที่พูดถึงแบคฮยอนยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแทยอนแล้วด้วยเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจไปกันใหญ่

     

    " หึ! แบคคงอยากแก้แค้นล่ะสิ ถึงแบคจะเคยรู้สึกดีกับแม่นั่นมากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้เขาเกลียดได้มากเหมือนกัน "

     

    " ยุนอาอย่าหลอกตัวเอง ฉันว่าในใจลึก ๆ แล้วแบคฮยอนก็คงจะยังรักแทยอนอยู่นั่นแหละ ไม่งั้นมันคงไม่ให้ตำแหน่งนี้กับแทยอนหรอก วิธีแก้แค้นมีตั้งร้อยแปดวิธีแต่มันกลับเลือกใช้วิธีนี้เธอก็คิดเอาเองแล้วกัน "

     

    เอสมมองมาที่ยุนอาด้วยแววตาที่รู้สึกสมเพช บางทีเขาก็อดสงสารแบคฮยอนไม่ได้ที่มีหญิงโรคจิตแบบนี้วนเวียนอยู่ในชีวิต แต่พอคิดไปคิดมาอีกทีมันก็สมควรแล้วที่แบคฮยอนจะได้รับ ไม่มีใครเหมาะสมกับแบคฮยอนเท่ายุนอาอีกแล้ว

     

    " ไม่จริง! แบคฮยอนเขารักฉัน รักฉันคนเดียวได้ยินมั้ยเอส! แทยอนหรือผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ได้ตัวเขาไปทั้งนั้น! "

     

    ร่างเล็กแผดเสียงลั่นเพราะความโกรธ ทำเอาชายหนุ่มร่างสูงถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ...แต่ก็ดีแล้ว ในเมื่อจุดประสงค์ของเขาคือการทำให้ยุนอาโกรธและนั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นแผนการ

     

    " เธอห้ามผู้หญิงพวกนั้นได้แต่เธอห้ามแบคฮยอนไม่ได้ บางทีไอ้แบคฮยอนอาจจะกลับไปรักแทยอนเข้าสักวันและเธอ ก็จะกลายเป็นอดีตเท่านั้น "

     

    " เอส...แล้วฉันควรจะทำไงดี " ยุนอาเริ่มร้อนรนเพราะกลัวในสิ่งที่เอสพูด

     

    " เรื่องแบบนี้เธอเก่งไม่ใช่หรอ? เมื่อสองปีก่อนเธอกับฉันก็เคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง เธอได้ตัวแบคฮยอนแต่ฉันพลาดที่แทยอนไปเรียนต่อฝรั่งเศส...แต่ว่าตอนนี้โอกาสของฉันกลับมาแล้ว...เราควรทำยังไง เธอคงรู้นะ "

     

    " จริงสิ นายพูดถูก...เราเคยทำให้พวกมันแตกคอกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วทำไมเราจะทำอีกครั้งไม่ได้ " แผนการของเอสทำให้ยุนอาเผยยิ้มร้ายกาจออกมา ครั้งหนึ่งเคยทำได้ครั้งนี้ก็ต้องทำได้เช่นกันเธอเชื่ออย่างนั้น

     

    " และก็ทำออกมาได้ดีซะด้วยสิ "

     

    " มันไม่หน้ากลับมาหาเรื่องใส่ตัวเลย ช่วยไม่ได้จริง ๆ แทยอน เธอรนหาที่เอง "

     

    " ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าเล่นงานแทยอนหนัก แทยอนเป็นคนของฉันห้ามทำให้มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย "

     

    " ฉันไม่เล่นหนักหรอกน่า เก็บไว้ให้นายทำคนเดียวก็พอแล้ว "

     

    " ทำให้มันสองคนเข้าใจผิดกันว่าง่ายแล้ว แต่ทำให้แทยอนตกเป็นของฉันรวมทั้งโรงเรียนนี้ด้วยมันง่ายกว่า แค่ต้องใช้เวลาและความสามารถของเธอก็เท่านั้น ยุนอา "

     

    " พวกนายยังต้องพึ่งฉันอีกมาก และฉันก็ยังต้องการพึ่งพวกนาย เราต่างมีผลประโยชน์ต่อกันและกันเพราะฉะนั้นทุกอย่างย่อมไปได้สวย "

     

    " ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเธอ ใครจะไปคิดถึงล่ะว่าผู้หญิงสวย ๆ หน้าตาใสชื่ออย่างเธอ จะฉลาดแกมโกงขนาดนี้ " เอสกล่าวชมยุนอาทำให้หญิงสาวแค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ คำชมที่เหมือนจะดูดีแต่ยุนอารู้ดีว่ามันเหมือนการหลอกด่ามากกว่าแต่ใครจะสนในเมื่อมันคือเรื่องจริงที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ " บนโลกใบนี้คนฉลาดเท่านั้นที่จะอยู่รอด คนโง่อย่างพวกนั้นก็ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกเราไปเรื่อย ๆ จริงมั้ยยุนอา "

     

    " ในเมื่อแบคฮยอนก็เกลียดแทยอนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่ใส่ไฟอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ แบคเองก็คงไม่แม้แต่อยากจะมองหน้ามัน "

     

    " แล้วไง เธอจะทำอะไรต่อไป "

     

    " ฉันก็จะทำเหมือนเมื่อสองปีก่อนไง แต่แค่นั้นมันยังน้อยไป ตีงูต้องตีให้ตาย จะตัดก็ต้องตัดให้ขาดจะได้ไม่ต้องมานั่งทำแบบเดิมซ้ำ ๆ ซาก ๆ "

     

    " เรื่องนี้ก็คงต้องพึ่งไอ้หงั่งนั่นด้วยอีกคน เพราะไอ้นั่นมันเป็นคนในไม่มีใครสงสัยถือเป็นอาวุธชั้นดีในการทำร้ายศัตรู "

     

    การจะฆ่าศัตรูให้ตายทั้งเป็นได้คน ๆ นั้นถือเป็นอาวุธชั้นดีเลยล่ะ เพราะเขาคนนี้มีดีกรีความร้ายกาจจนน่ากลัว การที่จะหักหลังเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กได้มันต้องเลวแล้วเลวอีกถึงจะทำได้ลงคอ แต่ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ย่อมมีที่มาและที่ไปไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ คิดอยากจะหักหลังก็ทำ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาคนนั้นก็ได้กลายมาเป็นพวกของเขาในตอนนี้เป็นที่เรียบร้อย

     

    เอสไม่ใช่คนโง่แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าตัวเองฉลาด เพราะคนที่พร่ำบอกว่าตัวเองฉลาดนักฉลาดหนาสุดท้ายก็ตกม้าตายทุกที...เขายอมให้ยุนอา คยูฮยอนคิดว่าเขาเป็นแค่ลูกน้องที่คอยแต่จะทำตามคำสั่งอย่างเดียว ทว่าแท้ที่จริงแล้วเอสไม่ใช่ผู้ตามเขาคือผู้คุมที่ใครก็ไม่สามารถเดาทางถูก

     

    " รอดูมันไปก่อน รอจังหวะแล้วค่อยจัดการ เราจะทำทุกครั้งที่มีโอกาส ทีนี้พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมันก็เป็นหน้าที่ของนายแล้วล่ะว่าจะมีความสามารถพอที่จะคว้าตัวแทยอนมาได้รึเปล่า"

     

    " แน่นอนว่าฉันทำได้...ขนาดเธอที่ว่ายากฉันยังทำได้เลย นับประสาอะไรกับคนไม่เจนโลกอย่างแทยอน "

    " ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็ช่วยรีบ ๆ หน่อยแล้วกัน...ระวังปีเตอร์แพนทั้งหลายคาบไปกินล่ะ ได้ข่าวว่ายัยนั่นเนื้อหอมมากซะด้วย "

     

    " พวกมันหรือแม้กระทั่งไอ้แบคฮยอนก็ไม่มีสิทธิ์ ถ้าฉันยังอยู่บนโลกใบนี้ "

     

    " ถ้าไม่อยากให้พวกนั้นมี นายก็รีบ ๆ รวบหัวรวบหางซะสิ แค่ทำให้มันเสียใจนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วนายก็เข้าไปตอนที่มันไม่เหลือใครตอแหลให้มันดู แค่นี้คนหน้าโง่อย่างมันก็ยอมนายแล้ว "

     

    " เธอนี่ฉลาดจริง ๆ เลย อย่างนี้ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว "

     

    " ได้สิ ตอนนี้ก็เริ่มมีอารมณ์แล้วล่ะ... "

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ร่างเล็กนั่งเท้าคางดูน้ำที่กำลังเดือดในหม้ออย่างใจลอย ในหัวกลับคิดไปถึงเรื่องต่าง ๆ นา ๆ จนเส้นเลือกเล็ก ๆ ในหัวกระตุกไม่หยุด ตอนนี้แทยอนมานั่งต้มรามยอนที่ห้องของเจสสิก้าส่วนเจ้าของห้องก็กำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้องน้ำ

     

                    วันนี้ทั้งวันมีสายตานับหลายสิบคู่จ้องมาที่เธอ จ้องเธอทุกที่ที่เธอไป จ้องทุกการกระทำแต่หนึ่งในสายตาหลายสิบคู่นั้นไม่ใช่สายตาของแบคฮยอน เขาหายไปทั้งวันเลย ไม่ยอมโผล่มาให้เห็นแม้แต่ชื่อ...แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ? แทยอนควรจะดีใจแล้วเลี้ยงฉลองที่วันนี้ไม่เจอเขา ทว่าในความเป็นจริงแล้วเธอกลับรู้สึกโหวง ๆ อย่างบอกไม่ถูก วันนี้ทั้งวัชะเง้อคอมองจนโดนเจสสิก้าแซวไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

     

                    " แทยอนอ่า...นั่งเหม่ออะไร เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย เห็นเป็นแบบนี้มาทั้งวันเลย " เจสสิก้าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงหลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดนอนตัวโคร่งสีครีมแล้วพบว่าเพื่อนสาวนั่งเหม่อหน้าเตาไฟฟ้าพร้อมกับน้ำที่เดือดปุด ๆ ในหม้อ

     

                    " หือ? มีอะไรเหรอ? "

     

                    " ถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมใจลอยทั้งวันเลย "

     

                    " ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ว่าแต่ชุดนอนเธอน่ารังจังนะ "

     

                    " ขอบคุณจ๊ะ แต่ว่าเธอน่ะอย่าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยบ่อยนะ ดูสิน้ำหายไปครึ่งหม้อแล้ว " เจสสิก้าเอ่ยพรางเปิดฝาหม้อออกเพื่อให้แทยอนดูว่าน้ำที่เธอเตรียมไว้จะต้มรามยอนมันหายไปเกือบครึ่งของตอนแรกแล้ว

     

                    " ขอโทษนะ เดี๋ยวเติมน้ำให้ใหม่ "

     

                    " นั่งอยู่เฉย ๆ เลยแม่ตัวดี เดี๋ยวเจสสิก้าคนนี้จะทำให้กินเอง " หญิงสาวร่างบางบอกกับเพื่อนตัวเล็กก่อนจะจับมือเพื่อนแล้วลากเธอให้ไปนั่งบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก ใจลอยแบบนี้ขืนปล่อยให้ทำอีกเห็นทีวันนี้คงไม่ได้กินเป็นแน่ " ก็บอกแล้วว่าถ้าคิดถึงเขาก็ให้โทรไปหาเขา หรือไม่ก็ไปเจอซะก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่ต้องมานั่งใจลอยแบบนี้ไง "

     

                    " ฉันไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อย อย่ามาใส่ร้ายนะ "

     

                    " โกหกได้ไม่เนียนเลยนะคิม แทยอน ต้องใหฉันบอกมั้ยว่าบนหน้าผากเธอแทบจะสลักชื่อเขาเอาไว้อยู่แล้วน่ะ "

     

                    " เว่อร์ ไม่ได้อะไรขนาดนั้นสักหน่อย " แทยอนค้อนเพื่อนสาวที่กำลังลงมือตัดกิมจิเตรียมใส่ในรามยอนอยู่ พรางเบ้หน้าให้กับตัวเอง เธอไม่ได้คิดถึงเขาจนออกนอกหน้าขนาดนั้นสักหน่อย เจสสิก้าก็พูดเว่อร์ไป

     

                    " ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าคิดถึงเขา ปากแข็งจริง ๆ เลยนะเธอ "

     

                    " ยอมรับก็ได้ แต่ฉันไม่ได้คิดถึงเขาในแบบที่เธอคิดนะ ฉันแค่สงสัยว่าทำไมวันนี้เขาถึงไม่มาหาฉัน...คือฉันหมายถึงว่า ทำไมไม่มาหาเรื่องฉันเหมือนที่ชอบทำ "

     

                    " แค่ไม่เห็นเขาวันเดียวยังกระวนกระวายขนาดนี้ ไหนบอกไม่ได้รักไม่ได้ชอบไงล่ะแทยอน ปากก็ตัดพ้อแต่ในใจลึก ๆ ก็หวังให้เขามาทำดีด้วยใช่มั้ยล่ะ...นี่ อย่าหาว่าฉันสู่รู้เลยนะ แต่เธอกับรุ่นพี่แบคฮยอนไม่เหมือนคนที่พึ่งเคยเจอกันเลย เหมือนคนที่เคยรู้จักกันมานานแล้วมากกว่าทั้งสายตาทั้งคำพูดทั้งการกระทำ มันเหมือนคนรักกันที่โกรธกันไม่ใช่คนที่พึ่งเจอแล้วไม่ชอบขี้หน้ากัน เธอบอกฉันได้มั้ยแทยอนว่าระหว่างเธอกับเขามันเป็นยังไงกันแน่ "

     

                    เจสสิก้าวางของในมือลงก่อนจะหันมามองแทยอนด้วยแววตาที่แสนจะจริงจัง ทำเอาคนตัวเล็กไปต่อไม่ถูก เธอควรจะทำยังไงดี ควรจะเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาออกไปมั้ย ถ้าเขารู้ว่าเธอเล่าให้เจสสิก้าฟังเขาจะโกรธรึเปล่า...มือเรียวกำชายกระโปรงตัวเองแน่นเพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี เธอไม่อยากโกหกเจสสิก้าแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากรื้อฟื้นอดีตขึ้นมา

     

                    " ถ้าเธอลำบากใจ... "

     

                    " เราเคยรักกัน...เมื่อนานมาแล้ว "

     

                    " ... "

     

    " เราทะเลาะเพราะเรื่องเข้าใจผิด "

     

    " ... "

     

    " แต่เรายังไม่ได้เลิกกัน...และ "

     

    " ... "

     

    " ฉันยังรักเขาอยู่ "

     

    " ... "

     

    " แต่เขาเกลียดฉันไปแล้ว "

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

     

    เกลียดจริง ๆ น่ะเหรอ เธอเกลียดเขาจริง ๆ น่ะเหรอ ฉันไม่เชื่อ

    ปากแข็งจริง ๆ เลยว่าไหมคะ ให้กำลังใจเยอะ ๆ เน้อ รักคนอ่านนะคะ

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×