ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Windows of Heart { WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER : 7

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 55










    “คยูฮยอน ..คยู ..รอฮยองก่อนสิ”


    หลังจบเพลง in my dream เพียงช่วงเวลาเปลี่ยนเพลงสั้นๆไม่กี่นาที ซีวอนวิ่งหน้าตื่นมาหาผมเมื่อเห็นขอบตาที่รื้นด้วยน้ำตา ผมไม่อยากเห็นซีวอนตอนนี้ ..



    ความอ่อนแอของมนุษย์มันได้มากแค่ไหนนะ .. แล้วตอนนี้... ผมเอง ..อ่อนแอจนถึงที่สุดนั่นรึยัง?
    ผมซ่อนตัวหลังโคดินูน่า แสร้งทำเป็นหยิบทิชชู่มาเช็ดเหงื่อและหัวเราะเรื่อยเปื่อยกับมุกตลกฝืดๆของเยซองฮยอง ซีวอนมาป้วนเปี้ยนหลายรอบผมเองก็ทำเป็นมองไม่เห็นจนสุดท้ายซีวอนก็เลิกราไป


    ....ผมเห็นนะ ..สายตาที่ดูเหนื่อยกับผมเหลือเกิน


    ขอโทษนะครับ..ผมขอเวลาอีกนิดเดียวจริงๆ...






    หลังคอนเสิร์ตจบพวกเราก็ต้องจับไฟลท์ไวที่สุดกลับเกาหลีแทบจะทันทีเพื่ออัดเสียงอัลบั้มเอสเจเอ็ม เดือนหน้าพวกเราจะโปรโมทกันแล้วไลน์ท่าเต้นก็เซตกันเรียบร้อย ..เหลือแต่ของซีวอน


    “ซีวอนอา.. นายจะบินไปนิวยอร์กอีกทำไม?”

    “ผม..มีธุระนิดหน่อยครับแทบินฮยอง ผมสัญญานะ ผมจะกลับมาให้ทันอัดรายการแรกของเอสเจเอ็ม”


    บทสนทนาลอยเข้าหูไม่ได้ขาด ทั้งๆที่พยายามพลิกตัวหนีแต่เสียงคุ้นเคยก็ยังลอดเข้ามา เวลาสั้นๆบนเครื่องบินที่จะได้พักของผมถูกทำลายลงด้วยบนสนทนาเหล่านั้น


    ...ซีวอนจะไปนิวยอร์กอีกแล้ว...

    ....คงจะไปหา ...สเตลล่าสินะ....

    ไม่แล้วล่ะ .. น้ำตาไม่ไหลแล้ว....

    แต่เหนื่อยเหลือเกิน ...เหนื่อยจริงๆ...









    หลังจากพวกผมแลนดิ้งที่อินชอน ซีวอนก็ต้องรีบไปเปลี่ยนเครื่องไปนิวยอร์กต่อทันที ก่อนจะลงจากเครื่องซีวอนพียงแค่กดจูบลงบนขมับผมแรงๆแบบที่ทำประจำและรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว


    รอยจูบก็ยังคงอุ่นอยู่ตรงขมับข้างขวา ....


    ฮีชอลฮยองที่อยู่ด้านหลังตีไหล่ผมเบาๆและกอดคอผม มาส์กปิดปากถูกดึงขึ้นมาใช้อีกครั้ง... ขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าซีดโทรม ทำไมผมถึงปล่อยให้คนๆนึงมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้นะ...



    “ผม..จะกลับบ้าน”

    “มานอนที่หอ”

    “แต่ผมจะกลับบ้าน”

    “ฉันสั่ง”


    สุดท้ายก็ต้องลากกระเป๋าเดินตามฮยองที่เหลือเพื่อกลับหอ ฮีชอลฮยองขนาบข้างผมไม่ห่าง ถึงมือจะเล่นไอโฟนแต่อีกข้างที่ว่างของฮยองเกาะแขนของผมไว้ตลอดเวลา..


    “ฮีชอลฮยอง..ปล่อยเถอะ นี่บนรถนะ ผมหนีไปไม่ได้หรอก”

    “หุบปาก”

    “...ฮยอง!”

    “เออๆ วุ้ย ..เกาะนิดเกาะหน่อยทำหวงตัว ทีซีวอนละปล่อยให้กอดเอาจูบเอาน่ะ ฮึ..”

    “ผม...” จะบอกยังไงดีนะว่าผมน่ะ ..ไม่สามารถขัดขืนอ้อมกอดหรือจูบนุ่มๆนั้นได้หรอกนะ เพียงแค่มือหนาที่ผมคุ้นเคยวางลงบนเอวตรงตำแหน่งประจำความรู้สึกอุ่นวาบก็แผ่ไปทั่ว

    เมื่อถึงหอพักผมรีบก้าวเร็วๆลงจากรถเพราะแฟนคลับมารอค่อนข้างเยอะ ผมไม่มีอารมณ์ยิ้มให้กล้องตัวไหนทั้งนั้น เหนื่อยเหลือเกิน ..เพลียจนแทบจะหลับคาสนามบิน...



    ครืด...ครืด..ครืด


    ไอโฟนสี่ในกระเป๋ากางเกงสั่นเตือนข้อความจาก kakaotalk รูปส่งมาจากซีวอนที่ถ่ายให้ดูว่าตัวเองยังอยู่ที่สนามบินอินชอนเพราะเครื่องบินดีเลย์พร้อมแนบข้อความสั้นๆว่า “เบื่อมาก อยากอยู่คยูฮยอนมากกว่า”

    ผมลังเลว่าจะตอบกลับดีรึเปล่า ..ผมควรจะตอบว่ายังไง แล้วแต่ก่อนผมตอบว่ายังไง? ทุกอย่างเบลอไปหมด ผมหยุดยืนหน้าประตูลิฟท์นานเสียจนคนอื่นๆขึ้นหมดแล้ว เหลือเพียงฮีชอลฮยองที่ยังยืนข้างๆผมโดนเล่นไอโฟนสี่ในมือไปด้วย...



    “งั้น..ก็อย่าไปนิวยอร์ก”


    ผมควรจะกดส่งไปดีรึเปล่า? ในใจลึกๆกำลังเรียกร้องให้ผมเอาแต่ใจกับซีวอนบ้าง อ้อนบ้าง..ให้เหมือนน้องชายที่ติดพี่ชายมากๆ ให้เหมือนเดิม...

    แต่..มันเป็นไปไม่ได้ ผม..พูดเอาแต่ใจมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

    ผมลบก่อนจะพิมพ์ไปใหม่อีกครั้ง “ฮ่าๆ รออีกแปปเดียวครับฮยอง ☺” ก่อนจะกดส่งออกไป เพียงไม่กี่วินาทีถัดมาก็เพียงรูปอีโมติค่อน ☹ ส่งกลับมา


    ครืด..ครืด...ครืด..ครืด..ครืด..


    ซีวอนกำลังโทรมา .. ผมหันไปมองฮีชอลฮยอง ..ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ..ถ้ารับตอนนี้ คงจะมีสักนาทีที่ผมห้ามไม่ให้เค้าไปนิวยอร์ก โทรศัพท์ยังคงสั่นอยู่ในมือจนกลายเป็นมิสคอลล์สายแรก แต่เพียงชั่ววินาทีถัดมาซีวอนก็โทรเข้ามาอีกครั้ง ผมรู้ดี..หากผมไม่รับ ซีวอนก็จะโทรเรื่อยๆจนกว่าผมจะรับจนได้...


    “รับเถอะคยูฮยอน ฉันไปรอบนห้องถ้าคิดหนีกลับบ้านฉันจะไปลากคอนายถึงบ้าน”

    “คร้าบบบ”








    ผมรอส่งฮีชอลฮยองขึ้นลิฟท์จนกลายเป็นมิสคอลล์ที่สอง เมื่อประตูลิฟท์งับปิดพร้อมกับส่งผู้โดยสารขึ้นชั้นบน ไอโฟนในมือผมยังคงสั่นไม่หยุด ผมเปิดประตูทางหนีไฟด้านข้างก่อนจะทรุดนั่งริมบันไดและเลื่อนปุ่มเพื่อรับโทรศัพท์...


    “ครับ..”

    “ทำไมรับช้า เพิ่งคุยกันทำไมรับเลยล่ะ”

    “ผม..กำลังคุยกับฮีชอลฮยองอยู่”

    “แต่นายไม่เคยให้ฮยองรอสายนานขนาดนี้นะ”

    “ผมบอกว่าติดธุระไง”

    “...คยูอา..”


    สุดท้ายซีวอนก็ทำเสียงอ่อนใส่ ผมถอนหายใจเบาๆเพราะเหนื่อยหัวใจจริงๆ เสียงซีวอนยังคงเจื้อยแจ้วไม่หยุด เรื่องราวมากมายที่ร้อยเรียงผ่านหูโทรศัพท์ หากเป็นแต่ก่อนผมคงรับฟังด้วยความยินดี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่..ผมอิจฉา

    ใช่..อิจฉาสเตลล่าของซีวอน อิจฉาเหลือเกิน อิจฉารอยยิ้มสว่างไสวที่คนแบบผมไม่เคยได้รับ อิจฉาเสียงหวานอ่อนโยนยามเอ่ยเอาใจคนรัก เป็นได้แค่คนอิจฉา...



    “ครับ.. อื้อ.. ทะเลาะกันเหรอ?”

    “ไม่เชิงหรอก ..ฮยอนคยองสอบเสร็จแล้วล่ะ กำลังจะกลับเกาหลีแต่ฮยองไม่อยากให้มาเลยทะเลาะกันนิดหน่อย”

    “ทำไมล่ะครับ?”

    “เพราะคยูฮยอน”

    “ผม????”

    “คยูฮยอนไม่ชอบเวลาพูดถึงฮยอนคยองนี่นา คยูก็รู้..เหมือนครั้งก่อนๆ ถ้าฮยอนคยองกลับมาเราก็ต้องเที่ยวกันสามคน ..ฮยองไม่อยากให้คยูอึดอัด”

    “ขอบคุณนะครับ ..แต่ผมไม่เป็นไรจริงๆ บอกให้สเตลล่ากลับมาเถอะ ใครๆก็คิดถึงบ้านตัวเองทั้งนั้นจะให้เธออยู่ที่นู้นเหงาสามเดือนไม่ได้หรอกนะครับ” ...ในใจเต้นแทบระเบิดอยากตะโกนออกไปเหลือเกินว่าอย่าให้สเตลล่ากลับมาน่ะดีแล้ว ผม...ผมไม่อยากเที่ยวสามคน ผมไม่อยากนั่งดูทั้งสองคนมอบความรักให้แก่กันโดยมีผมเป็นส่วนเกิน



    ช่างเป็นคยูฮยอนที่เห็นแก่ตัวเหลือเกิน



    “แต่ว่า...”


    “แหม..ฮยองผมรู้นะ พูดไม่อยากให้กลับๆ แต่นี่ก็จะตามไปง้อถึงนิวยอร์กเลยใช่ไหมล่ะ สเตลล่าดีใจแย่เลย”

    “ก็...ครบรอบหกปีเมื่อวาน แต่ว่าเรามีคอนเสิร์ตกัน ฮยองเลยต้องกลับมาก่อน..”

    “เหรอครับ...ยินดีด้วยนะครับ ขอให้...รักกันนานๆนะครับ จากใจผมเลย น้องชายของฮยองไง”

    “คยูอา.....”

    “ผม..ผมวางก่อนนะครับ แทบินฮยองมาตามล่ะ บายบาย”


    ผมกดวางแทบจะทันที หลากหลายอารมณ์มากมายที่กดทับจนแทบหายใจไม่ออก ขอบตาที่เห่อร้อน ... ผมกำลังจะร้องไห้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  ผมผลักประตูทางหนีไฟเพื่อจะกลับขึ้นห้องแต่......



    “เห็นไหม..ฮยองบอกแล้วว่าคยูต้องร้องไห้”

    “แต่?...สนามบิน? ไปนิวยอร์ก?? ทำไม? อยู่..ที่นี่????”


    ซีวอนยังถือไอโฟนสี่ในมือและยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ขณะที่ผมกำลังทำตัวไม่ถูกมือหนาก็เอื้อมคว้ากระเป๋าและเรียกลิฟท์ไปชั้นสิบสาม


    “ไฟลท์เลื่อนออกอีกห้าชั่วโมงเลยกลับมาหาคยูก่อน” ผมเอาแต่มองปลายเท้าตัวเองขณะที่ลิฟท์ค่อยๆเคลื่อนสู้ที่หมาย ...ความรู้สึกสับสนมากมายกำลังวิ่งแล่นจนหัวแทบระเบิด ความเงียบที่ล้อมรอบพร้อมกับเสียงลมหายใจที่ดังจากด้านข้าง...




    ผมควรจะทำยังไงดี?





    “ไม่พูดหน่อยเหรอ..”

    “ผมควรจะพูดอะไรล่ะครับ”

    “นั้นสินะ ขอโทษนะ..แล้วจริงๆที่กลับมาก็เพราะมีคำถามสำคัญที่ต้องเห็นหน้าเท่านั้นนะ..เรื่อง..” ลิฟท์จอดที่ชั้นเป้าหมายพอดี ผมคว้ากระเป๋าออกจากมือซีวอนก่อนจะสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดประตูห้อง พี่อีทึกเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อเห็นคนเดิมตามผมเข้ามา แต่เพราะยังคุยโทรศัพท์ติดพันจึงไม่ได้ทักทายกัน ผมเดินเข้ามาในห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มแรงๆ


    “คยูอา..”


    ซีวอนที่เดิมตามผมเข้ามา งับประตูลงแผ่วเบาก่อนจะขยับมานั่งข้างผมที่กำลังนอนแผ่บนเตียง เสียงเข็มนาฬิกายังคงเดินไม่หยุด ผมเองก็ใกล้จะหลับเต็มที...



    “คยู..คือ..นายคบกับใครอยู่รึเปล่า?”

    “ผมน่ะเหรอ?”

    “คือ..มันมีข่างลือหนาหูเลยว่านายกับวิคตอเรียคบกัน”


    กับวิคตอเรีย? ผมหันหน้าไปฝั่งคนถามช้าๆถ้าผมตอบว่าใช่ล่ะ? ไม่เชิงว่าคบกันตามข่าวลือก็เพียงแค่คุยกันเพื่อดูใจ ผมไม่ได้บอกซีวอนเพราะ....เค้าเองไม่สนใจที่จะรับรู้ผมเลย.....


    “แล้วฮยองจะทำไมเหรอ?”

    “ก็เปล่า ..แต่นาย ...เพิ่ง..เอ่อ..บอกว่าชอบฮยอง”

    “ผมบอกว่าชอบฮยอง...แล้วผมก็บอกด้วยว่าจะตัดใจยังไงละครับ”

    “แต่นายไม่ควรดึงวิคตอเรียมายุ่งนะ”

    “ทำไมผมถึงไม่ควรล่ะ?”

    “กะ..ก็...”

    “ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ ผมชอบยังชอบผู้หญิง ผมยังชอบหน้าอก ชอบสะโพก แต่ฮยองน่ะ...” ผมเงียบเมื่อถูกสายตาจริงจังมองอย่างมีความหมาย ...ผมบอกแล้วว่าผมจะตัดใจ

    และผมพูดคำไหนคำนั้น...ผมทนได้

    แต่ความเจ็บปวดครั้งนี้มันมาก...เกินที่ใครจะเยียวยา



    “นั้นสินะ..ดีแล้วล่ะ ฮยองรู้สึกผิดทุกครั้งที่เห็นสายตาเศร้าแบบนั้น...งั้น...ก็ไม่มีอะไรแล้วเนอะ ฮยองไปล่ะ เดี๋ยวซื้อของมาฝาก” กดจูบลงบนขมับอย่างเคยหากครั้งนี้เลยไปยังหน้าผากมน ...นิ่งและยาวนานจนแทบหยุดหายใจ



    ซีวอนออกไปแล้ว เหลือเพียงความอุ่นจนร้อนบนหน้าผากของผม...








    ก๊อก..ก๊อก



    “ครับ” ฮีชอลฮยองเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าสวยที่ผมชอบกำลังทำหน้ายุ่ง ผมยิ้ม..เพราะไม่มีแรงจะพูดคำอื่นใด ฮีชอลฮยองเพียงเดินเข้ามานั่งข้างๆก่อนจะคว้าผมซบลงบนไหล่

    “ซีวอนมัน...เฮ้อออ บังคับให้นายพูดจนได้นะ คยูเอ้ย..”

    “ครับ..”

    “ทำไมมันถึงเป็นคนแบบนี้นะ บังคับให้น้องพูดเพื่อให้ตัวเองสบายใจแล้วไปลั่นล้าหาเมียที่อเมริกาเนี่ยนะ..”

    “ครับ..”

    “ใจคอจะไม่พูดคำอื่นหน่อยเหรอ” มือนิ่มกำลังลูบหัวผมอย่างเคย ผมหมดแรง..ไม่รู้จะพูด..ไม่รู้จะเรียบเรียงความเจ็บปวดนี่ออกมาเป็นคำพูดยังไง

    ใช่...ซีวอนจะสังเกตรึเปล่านะ สายตาคาดหวังให้ผมตอบรับเรื่องข่าววิคตอเรียหรือสายตาโล่งใจเพียงแค่ผมตอบรับ

    “ผมเหนื่อยจัง”

    “อื้อ..นอนไหม คืนนี้ฉันนอนเป็นเพื่อน”

    “ขอบคุณครับ”


    ทั้งร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า ผมผล็อยหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว รู้สึกถึงเพียงหยดน้ำที่กำลังกลั่นตัวออกมาไม่หยุด...และคงไม่มีวันจบสิ้น













    ฮีชอลมองน้องเล็กของวงที่นอนหลับทั้งน้ำตา มือบางหยิบไอโฟนขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ที่เมมว่า “มาชิมาโระ” ก่อนจะส่งข้อความสั้นไปหา เหลือบมองน้องเล็กที่แสนจะเป็นห่วงอีกครั้งก็อดถอนหายใจแรงๆไม่ได้
    กรรมจริงๆคยูฮยอนเอ้ย .... จะทนได้ขนาดไหนกันนะ
    ร่างกายที่อ่อนแอกับหัวใจอ่อนแรง .. อย่างไหนที่จะแหลกสลายไม่มีชิ้นดีก่อนกันนะ?









    TO BE CONTINUED

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×