คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] The story of flower shop
ดอกแดนดิเลี่ยน Dandelion ความรักเป็นสิ่งที่พระเจ้าบันดาลให้
วันนั้นคุณก้าวเข้ามาในร้านพร้อมหยาดฝนพร่ำ อากาศหม่นหมอง ร่างกายเปียกปอน ..แต่นั่นไม่สามารถกลบรอยยิ้มระยิบระยับราวกับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าของคุณได้เลย
“เอ่อ ..ผม ..ผมอยากได้ดอกแดนดิเลี่ยนน่ะครับ ที่นี่มีรึเปล่า?”
เสียงเบาหวิวราวกับขลาเขินที่จะเอ่ย ตอนนั้นผมยังคงเป็นเพียงลูกจ้างในร้านฟลาวเวอร์ชอปเล็กๆริมชานเมือง ดอกแดนดิเลี่ยน ..ไม่มีร้านไหนขายหรอกครับเพราะมันคือดอกหญ้าไร้ค่าที่เก็บได้ตามริมทาง หากหญิงชราเจ้าของร้านที่มีศักดิ์เป็นคุณป้ากลับยิ้มให้เด็กหนุ่มที่กำลังเขอะเขินและยืนดอกเดซี่แก่หนุ่มน้อยแทน
“..นี่ไม่ใช่ดอกแดนดิเลี่ยนนี่ครับ ..รูปไม่เหมือนกันเลย”
“จ๊ะ ...ป้าให้นะ เอาไปให้เธอคนนั้นเถอะ“
“ขะ..ขอบคุณครับ”
ดอกเดซี่ Desy ความไร้เดียงสา และความบริสุทธิ์
รอยยิ้มที่เจิดจ้าจนคนอย่างผมไม่กล้าเข้าใกล้ รอยยิ้มบริสุทธิ์ราวกับดอกเดซี่ .. สว่างสดใสราวแสงอาทิตย์ท่ามกลางหมดฝนพร่ำ ..ดอกแดนดิเลี่ยน ดอกเดซี่ ...ความบริสุทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้
ตั้งแต่นั้นมาผมเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับดอกแดนดิเลี่ยนไปถนัดตา...
หลังจากนั้นหนุ่มน้อยคนนั้นมักแวะเวียนมาเยี่ยมที่ร้านเสมอ ทุกๆวันพุธของสัปดาห์ ยามเสียงได้ยินเสียงกริ่งประตูมันทำให้ผมอดหันไปมองไม่ได้ว่า ..จะใช่เด็กคนนี้รึเปล่านะ ...
กริ่ง ....
“สวัสดีครับคุณป้า ..สวัสดีครับพี่ซีวอน” ผมเพียงหยักหน้าและกลับไปจดจ่อดอกไม้ในมือ ผมไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่ใช่คนที่เข้าสังคมได้ง่ายดายเหมือนคนทั่วไป เด็กหนุ่มคนนี้เปรียบเหมือนแสงสว่างที่ไม่มีทางส่องเข้ามาถึงเงามืดแบบผม
แสงสว่างที่แสนอบอุ่น จนเผลอหลงใหลและยกดวงใจให้โดยไม่รู้ตัว...
“พี่ซีวอน ..ผมช่วยไหม?”
“มะ..ไม่เป็น ไปคุยกันคุณป้าเถอะ”
เมื่อผมตอบกลับเช่นนั้น ดวงหน้าสวยกลับยิ้มจนดวงตาหยีเล็กมือน้อยค่อยๆหยิบกรรไกรจากมือผมและเอาไปตัดปลายก้านอย่างเคยชิน
“ดีใจจัง พี่ซีวอนคุยกับผมด้วย”
“อะ..อืม”
ใบหน้างดงาม เสียงหัวเราะสดใส ..แสงสว่างเจิดจ้าที่ค่อยๆเคลือบทับเงามืด...
ผ่านมาสามปีเด็กหนุ่มเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น คุณป้าอายุมากแล้วพอเข้าช่วงหน้าหนาวก็เจ็บป่วยตามประสาคนแก่ ผมเลยกลายเป็นผู้ดูแลร้านแทนช่วงสั้นๆ อีกไม่กี่นาทีจะเข้าสู่ปีใหม่ ผมอยู่เช็คสต๊อกและจัดของนิดหน่อยเพื่อเตรียมต้อยรับลูกค้ามากมายมหาศาลในวันพรุ่งนี้...
ก๊อก ..ก็อก
“พี่ซีวอนเปิดประตูหน่อยๆๆ” เด็กหนุ่มคนเดิมตลอดระยะเวลาสามปีแทบไม่เปลี่ยนไปสักนิด ร่างบางกำลังโบกเหยงๆไปมาหน้าร้าน ปลายจมูกแดงจัดขนาดนี้คงเดินมาจากบ้านอีกแล้วสินะ ..
“อากาศหนาวแบบนี้ออกมาทำไมตอนดึกๆ?”
“แฮ่ะแฮ่ะ ผมจะมาซื้อดอกไม้เซอร์ไพรซ์แฟนครับ”
“งั้นเหรอ ...เอาดอกอะไรดีล่ะ พี่จัดให้พิเศษเลยนะ”
“แนะนำผมหน่อยสิ”
“...ดอกกุหลายสีชมพูดีไหม?”
“โอเคครับ ตามใจพี่เลย~”
ผมลงมือจัดช่อดอกกุหลายเล็กๆให้ตามที่เจ้าตัวร้องขอ ทุกครั้งที่รู้ตัวสายตามักจะหยุดอยู่กับคนตรงหน้า รอยยิ้มสว่างสดใสไม่เปลี่ยน มือบางที่กำลังถูไปมาให้ร่างกายอุ่น ลมหายใจสีขาว ปลายจมูกที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ...
หนาว..งั้นเหรอ?
ดอกกุหลายสีชมพู 9 ดอกถูกจัดเข้าช่อบูเก้ผูกด้วยริบบิ้นสีขาว ผมเผลอสูดกลิ่นหอมเบาบางบนกลีบกุหลาบสีสวย เด็กหนุ่มยืนยิ้มอยู่ข้างๆก่อนจะเอื้อมมือรับอย่างดีใจ..
“หนาวเหรอ?”
“นิดหน่อยครับ”
ทำไมรู้สึกตึงๆข้างแก้ม? ผมกำลัง”ยิ้ม” ....รอยยิ้มในรอบหลายปีหลังจากสูญเสียครอบครัวไปทางอุบัติเหตุรถยนต์ หัวใจที่ด้านชากำลังถูกแสงสว่างโอบกอด ...
ผมขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มตรงหน้า มือสองข้างบรรจงสอดใต้แขนทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มและขยับกอดแน่น ผมรู้สึกถึงแรงบางเบาที่กอดกลับ ตำแหน่งหัวใจที่ตรงกัน ..เสียงใจเต้นผ่านเนื้อผ้า กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพู
แสงสว่างที่ฉายทั่วจนไม่เหลือรอยของเงามืด ...
กุหลาบสีชมพู 9 ดอก Pink rose สำหรับความงดงามและความอ่อนโยนตลอดไป
วันนั้นเราสองคนกอดกันจนกระทั่งเด็กหนุ่มหายหนาวสั่น เจ้าตัวยิ้มให้ผมก่อนจะมอบจูบเบาบนแก้มสาก ผมยิ้มให้เค้าอีกครั้งก่อนจะเก็บความทรงจำวันนี้ไว้เป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ... ที่มีค่า
ปลายปีนั้นคุณป้าได้จากพวกเราไปตลอดกาลด้วยโรคชรา งานศพเล็กๆที่มีเพียงคนรู้จักไม่กี่คนรวมถึงผมและหนุ่มน้อย หัวใจที่เริ่มเป็นปกติกำลังถูกแช่แข็งด้วยความเศร้าโศกอีกครั้ง ดอกกุหลาบสีดำมากมายถูกประดับตกแต่งรอบโลงศพไม้สีขาว เสียงของบาทหลวงกล่าวอาลัยแก่ดวงวิญญาณครั้งสุดท้าย
“ดวงวิญญาณของยายซอนจินอันเป็นที่รักยิ่งได้กลับไปสู่อ้อมอกพระผู้เป็นเจ้า จงอย่าร้องไห้...จงส่งนางไปสู่พระคริสต์ด้วยรอยยิ้มตามปรารถนาสุดท้ายของนางลูกเอ้ย”
คนแล้วคนเล่าผลัดกันวางดินพร้อมดอกเบญจมาศสีขาว ผมเป็นคนสุดท้ายที่ถือก้อนดินในห่อกระดาษพร้อมกับดอกเดซี่ ..ดอกไม้โปรดของคุณป้า ผมเงยหน้าหลายครั้งจนปวดคอเพราะไม่อยากร้องไห้ตามคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย เค้าเองก็เช่นกัน .. ยังคงนิ่งสงบในสุดสูทสีดำสนิท มือบางที่จิกหากันแน่น ..คงกำลังบอกตัวเองเช่นกัน “ไม่ร้องไห้”
เราสองคนอยู่จนวินาทีสุดท้ายที่โลงศพสีขาวหย่นลงปลายหลุม ท้องฟ้าเริ่มขมุกขมัวอากาศกำลังเย็นลงพร้อมๆกับพระอาทิตย์ที่ลาขอบฟ้า ป้ายหินสีขาวที่สลักชื่อพร้อมรูปของคุณป้า ..
“เกิดมาพร้อมความงดงามและจากไปพร้อมความงดงาม”
อ่านข้อความบนป้ายสลักก่อนผมวางช่อเบญจมาศสีขาวด้านหน้าพร้อมเค้าก่อนหันหลังกลับ ..เพื่อกลับไปยังร้านของเรา ร้านของผมกับป้า ..
กุหลาบสีดำ Black rose แด่..รักนิรันดร์
หลังจากนั้นผมจังกลายเป็นเจ้าของร้านดอกไม้เต็มตัว เค้ายังคงแวะมาเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มสดใสและเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เค้าบอกว่าชอบผมเพราะผมไม่ค่อยพูด ..
เวลาผ่านไปรวดเร็วดั่งดอกแดนดิเลี่ยนปลิดขั้ว เวลาเปลี่ยนเด็กหนุ่มกลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ผมเองก็เริ่มอายุมากขึ้นทุกทีแต่ยังไงเค้าก็ยังคงเป็นเด็กน้อยสำหรับผม ..
วันนี้”เด็กน้อย”กลับมาอีกครั้ง รอยยิ้มสว่างสดใสในอดีตที่กลายเป็นเพียงความทรงจำ ณ ตอนนี้มีเพียงยิ้มเศร้าสร้อยเพราะทะเลาะกับคนรักบ้าง เครียดเรื่องงานบ้าง ทุกครั้งผมจะยื่นดอกเดซี่ให้เสมอ ..
เผื่อให้เค้าคิดถึงความบริสุทธิ์สดใสในเยาว์วัย ..กลับกลายเป็นแสงสว่างดั่งที่เคยเป็นมา..
วันนี้ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอกใดๆ ทุกวันพุธเค้ายังคงมาเยี่ยมผมเสมอ วันนี้เค้าสว่างจ้าเหลือเกิน... รอยยิ้มสดใสที่ไม่ได้เห็นมานานกำลังผลิบานราวดอกไม้ยามเช้า ...
“พี่ซีวอน ..”
“หืม”
“ผมจะขอเธอแต่งงาน”
“....เหรอ ...งั้นเดี๋ยวพี่จัดช่อดอกไม้ให้เอาไหม?”
“รบกวนด้วยครับ”
ดอกไอวี่สีขาวพิสุทธิ์ถูกเข้าช่ออย่างดี เค้าเปรียบดั่งของล้ำค่าสำหรับผม ดอกไม้ดอกเล็กที่กำลังผลิบาน ผมเฝ้ามองมาตั้งแต่ยังเป็นเมล็ดเล็กๆในดินชุ่มชื่น เจ้าตัวที่คอยสู้เสมอจนสุดท้ายได้ผลิดอกเหนือผืนดิน ..
และตอนนี้เค้ากำลังเป็นของคนที่คู่ควร ...แสงสว่างกำลังทอแสงไปทิศทางอื่น ....
“วันจัดงานให้พี่จัดช่อดอกไม้ให้เจ้าสาวเรานะ”
“ครับ..”
แสงสว่างกำลังเจ็บปวด ..ผมเองไม่รู้เพราะเหตุใดเช่นกัน มือบางโอบอุ้มช่อดอกไม้เต็มสองแขนก่อนโบกมือลาไปอีกครั้ง ผมยิ้มให้เค้าเหมือนทุกที ...ทั้งๆที่อากาศสดใสแต่ผมรู้สึกราวกับดอกไม้ในร้านกำลังร้องไห้...แทนผม
วันต่อมาเค้าโทรศัพท์มาบอกว่าสาวเจ้าตกลงแต่งงาน! และจะจัดงานในอีกสามเดือนข้างหน้า ผมเอ่ยแสดงความยินดีก่อนจะแซวไปเล็กน้อยตามประสาคนคุ้นเคย
“พี่จะจัดช่อดอกไม้ให้สุดฝีมือเลย วางใจได้!”
ครั้งนี้ ..อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ทำอะไรเพื่อเค้า ดอกเดซี่ ดอกโฮย่า ดอกซ่อนกลิ่นถูกเข้าช่อรวมกันด้วยริบบิ้นสีเหลืองอ่อน ก่อนจะแซมด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอวล ...ผมบรรจงจัดอย่างสุดฝีมือ ...เพื่อเค้าที่ผมรัก ...
ในงานแต่งเค้ายังคงสว่างใสสดเคียงข้างเจ้าสาวรูปงาม รอยยิ้ม เสียหัวเราะ เสียงแสดงความยินดีรอบกาย ..ทุกครั้งโดยที่ไม่รู้ตัวผมมักจะหยุดสายตาลงที่เค้าเสมอ ...แสงสว่างทอประกายงดงามท่ามกลางหลอดนีออนสีสวย
ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ภาพเด็กน้อยเมื่อครั้งก่อนยังซ้อนทับกับคนตรงหน้าเสมอ ..สุข ทุกข์ ที่ผ่านมาด้วยกันราวกับฝันดีที่ไม่อาจไม่ลืมเลือน ดอกไม้ที่ผมเฝ้ามองการเติบโตกำลังผลิบานและกลายเป็นของคนอื่นในที่สุด ..
ผมนั่งมองงานเลี้ยงรื่นเริงในมุมเล็กๆก่อนจะเดินออกมาเพื่อเตรียมกลับร้านดอกไม้ของผม..
“พี่ซีวอนๆ”
“อ้าวว ทิ้งเจ้าสาวมาแบบนี้ได้ไง”
“แฮ่ะแฮ่ะ ผมมีอะไรจะให้ครับ”
ซองจดหมายสีขาวถูกยื่นให้ก่อนเจ้าตัวจะกอดผมไปหนึ่งที ขณะที่ทำท่าจะเปิดอ่านก็ถูกห้ามและบอกว่าให้อ่านหลังจากเค้าบินไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเรียบร้อย
..ใช่ครับ เด็กน้อยกำลังไปผลิบานที่อื่น เค้าบอกว่าประจวบเหมาะที่แต่งงานบริษัทจึงย้ายให้ไปคุมงานที่ญี่ปุ่นแทนและคงจะย้ายไปทั้งครอบครัวแบบไม่มีกำหนด ..เค้าชวนผมแต่ผมปฏิเสธไปหลายครั้งเพราะร้านดอกไม้แห่งนี้ยังคงต้องดำรงอยู่เพื่อคุณป้า
ผมคงคิดถึงเค้า .... หากดอกเดซี่จะเป็นตัวแทนของเค้าเสมอ ...
วันสุดท้ายเค้าร้องไห้เยอะ จนภรรยาหมาดๆของเค้าเอ่ยขอโทษขอโพยผมเพราะจู่ๆเจ้าตัวเปลี่ยนใจถ้าผมไม่ไปจะไม่ยอมไปเสียอย่างงั้น ต้องปลอบต้องขู่กันหลายยกกว่าจะยอมขึ้นเครื่อง
รอยยิ้มสุดท้ายที่ติดตาก่อนแสงสว่างจะลับหายไป ........
ผมกลับมายังที่เดิม ร้านดอกไม้แห่งเดิม ..ป้ายหน้าร้านถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของเค้าคนนั้นเพื่อระลึกถึง ดอกไม้ในร้านยังคงต้องวางอยู่ที่เดิม กรรไกรอันเดิม ....ผมคนเดิม ...
วันพุธ ......
ผมหยิบซองจดหมายสีขาวออกจากกล่องเล็กๆริมเคาท์เตอร์ ร่องรอยหยับย่นบ่งบอกว่าผ่านการอ่านมามากมายเพียงไร หากผมยังคงยินดีที่จะเดินซ้ำมันอยู่แบบนั้น
“สวัสดีครับพี่ซีวอน ผมเขียนจดหมายฉบับนี้หลายรอบเพราะกังวลว่าจะเขียนออกมาแบบไหนดี ผมว่าพี่คงไม่รู้ตัวว่าผมแอบชอบพี่มานานแค่ไหน ว่าไปแล้ว ..คุณป้าบอกว่าหัวใจของพี่บาดแผลลึกเกินจะเยียวยาและผมอาจจะช่วยพี่ได้ถ้ามาหาบ่อยๆ ผมจึงมาที่ร้านทุกๆวันพุธเพื่อเจอพี่ครับ ผมชอบกอดของเราในวันขึ้นปีใหม่ ผมชอบดอกเดซี่ที่พี่ให้ผมเวลาผมไม่สบายใจเสมอ...แม้วันนี้ผมจะแต่งงาน ..แต่ขอให้พี่รู้ไว้ครับ ว่าผมรักพี่เสมอ ....โทรหาผมบ้างนะครับ เล่าเรื่องทุกข์ใจของพี่ให้ผมฟังบ้างก็ได้ ....รักเสมอและตลอดไป”
กริ๊ง ...
เสียงเปิดประตูร้านทำให้ผมเงยหน้ามองอย่างเคยตัวแม้เวลาจะล่วงเลยมาจวนเจียนจะยี่สิบปีแล้วก็ตาม หญิงสาววัยรุ่นที่หน้าตาละม้ายคลายคลึงกับเค้าเหลือเกิน ... รอยยิ้มสว่างสดใสที่แสนคิดถึง
“ร้านดอกไม้ของคุณชเวซีวอนใช่รึเปล่าค่ะ”
“ครับ มีอะไรให้ลุงรับใช้ครับคุณหนู”
“คุณพ่อน่ะคะ ..ท่านเสียเมื่อปีที่แล้วเพราะอุบัติเหตุ ตอนนี้ครอบครัวของเราย้ายกลับมาเกาหลีกันหมดเพื่อจัดงานศพที่นี่ตามคำสั่งเสียของคุณพ่อ และ...ท่านอยากให้คุณเป็นคนวางดิน คนสุดท้ายค่ะ”
“เหรอ ..พาลุงแก่ๆคนนี้ไปที ไปหาพ่อเอาแต่ใจของเธอหน่อยสิ”
วันนี้เป็นวันพุธ ..หากร้านดอกไม้กลับปิดลง ชายชราในชุดสูทเดิมกับเมื่อก่อนพร้อมช่อดอกเดซี่ในอุ้งมือหยาบกร้าน ชายชราขอเด็กสาวเดินขึ้นเนินเขาเพียงลำพัง ดินหนึ่งกำมือที่ติดมาจากหลุมศพคุณป้าถูกวางบนหญ้านุ่มที่ข้างใต้เค้าคนนั้นนอนอยู่
ชายชราวางชื่อดอกเดซี่สีขาวบริสุทธิ์ลงหน้าป้ายหินอ่อน มือเหี่ยวย่นลูกตามอักษรชื่ออย่างโหยหา ประโยคสั้นๆบนป้ายเรียกให้คิดถึงอดีตที่เคยผ่านมาร่วมกัน
โจคยูฮยอน ...
“ขาวพิสุทธิ์ดั่งดอกเดซี่”
“พี่มาหาแล้วนะคยูฮยอน ...นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่เคยได้เรียกชื่อเธอเลย พอวันนี้เธอก็จากฉันไปไกลเสียแล้ว ทำยังดี ..ละหื้ม...........”
ไม่มีเสียงตอบใด เหลือเพียงความเย็นชืดของดินกับร่องรอยความรักในอดีตที่กำลังร่วงโรยตามกาลเวลา
เจ้าช่างนำ ความสดชื่น คืนพฤกษา
แต่เจ้าลืม นำดวงใจ ใครกลับมา
เจ้าลืมว่า ชลาลัย ใช่ข้ารอ
ใจระเหิด หายลับ กับอากาศ
ใจพิลาศ ที่วาดหวัง ทั้งร้องขอ
เป็นน้ำตา ระเหยจาง ข้างแก้มคลอ
ใยฝนหนอ พอตกซ้ำ..... กลับช้ำเอย
End..
ความคิดเห็น