ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All of Short Fictions { WonKyu }

    ลำดับตอนที่ #6 : [SF] นิยาย

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 54


    ใครๆต่างก็อยากมีความรักแบบในนิยายดูสักครั้ง .. ผมเองก็เช่นกัน

    “อาจารย์ครับ ผมชอบอาจารย์”

    น้ำเสียงที่สั่นและแห้งผากดูน่าสงสาร นักเรียนที่ผมสนิทใจมากพอที่จะไปดื่มด้วยกันได้มาสารพภาพรักแบบนี้ ..

    “อื้อเอาสิ”

    ...ผมเองก็ชอบความรักต้องห้ามของผู้ชายกับผู้ชายเหมือนกัน

     

    แต่หากความจริงแล้วไม่มีอะไรหวือหวาดั่งใจคิด มีเพียงจูบที่สั่นระริก ร่างกายที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แก้มใสที่ขึ้นสีแดงยามผมแกล้งหยอดคำรัก เพียงแค่ผมกุมมือเหมือนคนตรงหน้าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ...

    สิ่งที่เค้าเรียกว่าความรักหน้าตาเป็นแบบไหน?

    ....ถ้าผมเป็นแบบโจคยูฮยอนที่แอบรักผมจะเจ็บขนาดไหน? ถ้าเค้ารู้ว่าผมไม่เคยรักเค้าเลย ใบหน้าหวานนั่นจะบิดเบี้ยวเหยเกหรือเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาแบบไหน?

    ผมเองยังคงตั้งข้อสงสัยกับตัวเองเสมอ ...

     

    สำหรับคำนิยามของคนๆนี้คงเป็นคำว่า “สบายใจเมื่ออยู่ใกล้” ละมั้ง ผมเองก็ชอบที่เค้าไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ตอนเย็นมานั่งรอผมเลิกงานเงียบๆ ไม่อ่านหนังสือก็นั่งหลับ ...

    ตึก..ตึก ..ตึกตึกตึก

    จังหวะหัวใจผิดแผกออกไปจากเดิม คยูฮยอนนั่งท้าวคางหลับบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง ..พระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า แสงสีส้มที่พาดผ่านกลุ่มเส้นผมดำขลับ ..กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งเด็กที่ทำให้รู้สึกประหลาดในอก

    โดยไม่รู้ตัวที่ผมขยับเข้าใกล้ ..ริมฝีปากอิ่มแดงเด่นตรงหน้า ..และโดยไม่รู้ตัวที่เผลอจุมพิตไป..

    คยูฮยอนสะดุ้งหน้าแดงแจ๋ ..เมื่อรู้ว่าเมื่อกี้ผมทำอะไรก็เอาแต่ก้มหน้างุดและจับชายเสื้อตัวเองแน่นราวกับเด็กเล็กที่แสนขลาดเขินกับเรื่องแบบนี้ ...

    เราสบตากันอีกครั้งก่อนผมจะเป็นฝ่ายประคองหน้าของคยูฮยอนและมอบจูบให้อีกครั้ง

    ...มันจะเหมือนในนิยายไหมนะ ...หลังผ่านสีขาวหม่น ลมเอื่อยที่พัดผ่านทำให้คลายร้อน ริมฝีปากที่แนบสนิท......

    ผมพาคยูฮยอนกลับบ้านด้วยกันและชวนเค้าค้างคืน แน่นอนว่าเจ้าตัวปฏิเสธเพราะต้องกลับไปนอนคุณม๊าไม่อนุญาต เราจูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง ... ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย

    ริมฝีปากอิ่มเชื่อมหวานราวกับน้ำผึ้งหอม ..ยิ่งจูบยิ่งไม่อาจหักห้ามใจ

     

    “อาจารย์คิดยังไงกับผม?”

    คำถามเดิมซ้ำซากไปมา หากคร้านจะตอบผมจะเงียบและคยูฮยอนก็จะเป็นฝ่ายเลิกราไปเอง ผมรู้นะ ..ข่าวลือเองก็เข้าหูผมทุกวันว่าคยูฮยอนอดทนกับ”ผม”มากพอสมควร

    คงเพราะหน้าตาหวานแต่หากยังคงเสน่ห์แบบชายกนุ่มเอาไว้จึงทำให้หลายคนหลงใหลอย่าง่ายดาย ไม่แปลกที่จะมีคนอื่นมาเกาะแกะคยูฮยอนของผม ....ทำยังไงดีล่ะ?

    รักแบบนิยายนี่มันยุ่งยากจริงๆ

    “อาจารย์~ ถ้าจานไม่ได้รักอะไรคยูก็ปล่อยเค้ามาเถอะ” อีกแล้ว .. มีคนมาพูดกับผมแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน ผมทำเพียงยิ้มและไม่พูดอะไรหวังว่าเจ้าตัวคงจะเงียบไปเอง ..เหมือนคยูฮยอน

    “อาจารย์ ถ้าจานไม่ปล่อยคยูฮยอนผมเองก็จะจีบเหมือนกันนะ ผมมั่นใจว่าผมดูแลคยูได้ดีกว่าอาจารย์” เป็นครั้งแรกที่มีคนมาพูดอะไรแบบนี้ ผมเองทำเหมือนเดิม ...ยิ้ม ....กับความรู้สึกแปลกประหลาดในอก

    “ตามใจชางมิน ครูไปสอนละ”

    แบบนี้รึเปล่า ..ในนิยายจะเป็นแบบนี้ใช่ไหมนะ?

    รักสามเศร้าที่ผมโหยหา ผมรักคยูฮยอนไหม? เป็นคำถามที่ผมเองไม่กล้าจะค้นหาคำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเป็นคำว่า”ไม่ใช่” ขึ้นมาผมจะทำร้ายเค้าไปมากกว่านี้

    ... RRRRRR

    “สวัสดีครับ ...อ้าว ...คืนนี้เหรอ? แต่ฉันมีนัดกับแฟน.................โอเค” แฟนเก่าที่ตอนนี้ลดสถานะเหลือเพียงคู่ขาโทรมาชวนให้ไป”นอน”ด้วยกันเพราะเจ้าหล่อนรู้สึกเหงา ผมเองไม่ใช่คนที่ชอบปฏิเสธใครเลยตอบรับตกลงและแกล้งทำเป็นลืมนัดกับคยูฮยอนเหมือนกับทุกครั้งที่ผมแสร้งป่วยหรือลืมนัดของเราเพราะผมขี้เกียจ....

    ผมหวังว่าคยูฮยอนจะกระเง้ากระหงอดผมหรืองอนผมบ้างเหมือนคู่รักคนอื่น ..เหมือนในนิยาย

    แต่เปล่าเลย คยูฮยอนไม่มีแม่แต่โวยวาย ไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรมากมาย ไม่เคยบ่นน้อยใจ ...ไม่เหมือนในนิยาย

    ร่างกายนุ่มนิ่ม เสียงครางหวานพร้อมลีลาที่บ่งบอกถึงความเจนจัด ผมเองก็มีความสุขที่ได้ปลดปล่อยเพราะคงเกือบห้าเดือนที่ผมคบกับคยูฮยอนและไม่เคยทำกันสักครั้ง ...

    หลังจากสุขสมทั้งสองฝ่าย ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องอยู่ต่อที่นี่ จัดการสวมกางเกงลวกๆและตามเก็บเสื้อผ้าที่ตกบนพื้น สาวเจ้าลืมตาขึ้นมาก่อนจะหันมาขยิบตาให้ผม...

    “ไม่เอาล่ะ เหนื่อย..พรุ่งนี้มีสอนแต่เช้า”

    “อะไรกัน อุตส่าห์อ่อยขนาดนี้ ..เฮ้อออ คุณรู้รึว่าเด็กเค้าลือกันทั่วมหาลัยว่ายังไง”

    หญิงสาวขยับตัวนั่งพิงพนักเตียงก่อนจะจุดไฟที่มวนบุหรี่และพ่นควันสีเทาเป็นวงลอยขึ้นในอากาศ ริมฝีปากสีแดงสดเพราะการแต่งแต้มจากลิปสติกเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าเพราะบทรักเมื่อครู่ แต่เจ้าหล่อนไม่ใส่ใจก่อนจะเอามวนบุหรี่ชี้มาทางผม

    “รู้สิ เด็กบอกว่าผมไม่มีความรู้สึก บอกว่าผมไม่ควรคบกับคยูฮยอน ควรไปคยูฮยอนไปสักที”

    “ก็รู้นี่ ..แล้วทำไมไม่ทำล่ะ? บอกตรงๆว่าฉันก็สงสารเด็กคยูนั่นนะ เธอมันทั้งเลือดเย็นและไม่เคยรักใครมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

    เลือดเย็น ..ไม่มีความรู้สึก ..ไม่เคยรักใคร ..เหมือนในนิยาย ....

    ต่างกันที่ทุกอย่างมีคยูฮยอนเข้ามาเป็นตัวแปรทำให้ผมไม่สามารถตอกโลงย้ำว่าผมมีบุคลิคแบบนั้นจริงๆ...

    “กลับล่ะ”

    “โชคดี เหงาเมื่อไหร่เพื่อนสาวคนนี้ยังว่างนะที่รัก ฮิฮิ”

    “อื้อ”

    “”อ่อ ....ซีวอน!

    “อะไร?”

    “หารักแบบในนิยายเจอรึยัง? ฉันขอให้นายเจอไวๆนะ จะได้เลิกทำตัวแบบนี้ จะได้หยุดทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นเพื่อความต้องการของตัวเอง ..ฉันเองเข้าใจเด็กคยูดีว่ามันเจ็บ ...ขนาดไหน”

    “พูดมาก ไว้เจอกันที่มหาลัย”

    วันที่เลิกกันกับมีอา เธอเป็นฝ่ายขอเลิกเพราะทนผมไม่ไหว ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้และไม่อยากจะรั้งจึงปล่อยเธอไปง่ายๆ แต่ตอนนั้นเอง ...ฝ่ามือก็นาบลงที่หน้าผมพร้อมหยาดน้ำตาจากดวงตาเรียวที่ไม่เคยเห็น

    ณ ตอนนั้นผมเองก็ตระหนักว่าผมทำเกินไป ...แต่ยังไง .....

    มันก็ยังไม่ใช่รักในนิยายแบบที่ผมใฝ่ฝัน....

    ระหว่างทางขับรถกลับบ้านผมคิดทบทวนเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมควรจะปล่อยคยูฮยอนไปดีไหม ..เพราะดูท่าเค้าไม่ใช่คนในแบบที่ผมฝันถึง ... ปล่อยให้เค้าไปหาคนที่ดีกว่าผม ....

    ...ไม่เอา ....

    เพียงชั่ววินาทีที่ในใจต่อต้านอย่างรุนแรง ชั่ววินาทีที่คำว่า”นิยาย”ไม่มีบทบาทต่อชีวิตของผม ...

    วินาทีนั้น ... ความรู้สึกเจ็บปลาบแบบที่ไม่เคยเป็ยก็แล่นริ้วๆจนขับรถต่อไม่ไหว ต้องจอดค้างทางและหอบหายใจถี่รุนแรง เพียงเพราะคำว่า”ปล่อยไป” ....

    เมื่ออาการประหลาดเหล่านั้นหยุดลงผมเองประคองตัวจนถึงห้องจนได้ ที่หน้าประตูห้องมีโจ๊กแขวนอยู่พร้อมโน้ตเล็กว่าให้ทานอะไรก่อนนอนเพราะไม่งั้นโรคกระเพราะจะกำเริบ ..

    ผมคว้าถุงนั่นเข้ามาก่อนจะแกะลงถ้วยและเข้าไมโครเวพอุ่นทานง่ายๆ โน้ตใบนั้นถูกเอาไปเรียงข้างกระดานที่ติดอยู่บนฝาผนัง .. กระดานเต็มไปด้วยโพสอิสหลากสี ..ที่ตั้งแต่วันแรกที่คบกันเจ้าตัวเป็นคนนำมาแปะไว้เพื่อเตือนให้ผมอย่าลืมทานยาหลังทานข้าว .....

    หลังจัดการโจ๊กหมดก็จัดการกับตัวเองอีกไม่กี่นาทีและล้มตัวลงบนที่นอน ..สมองกำลังทำงานหนักเพื่อไตร่ตรองถึงสิ่งที่จะต้องทำและต้องพูดในวันพรุ่งนี้

    ...หวังว่าความเจ็บที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้เหมือนในนิยายด้วยเถิด ....

     

    วันรุ่งขึ้นผมตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อไปมหาลัยให้ไวขึ้น วันนี้ผมมีคลาสสอนเซคของคยูฮยอน ผมรู้ว่าเจ้าตัวมักจะมานั่งรอก่อนเริ่มคลาสชั่วโมงนึงเสมอ ..ผมหอบหองหนังสือและตรงไปยังห้องที่ว่านั่น

    ขณะที่กำลังประตูกำลังเปิดออก ..ใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังจดจ้องบนจอแลปทอปโดยไม่สนใจรอบค้าง ห้องเรียนบังคงว่างเปล่าเพราะเร็วเกินไปที่จะมีนักศึกษามานั่งรอแบบนี้

    กลิ่มหอมอวลของแป้งเด็กกำลังทำให้หัวใจผมเต้นผิดจังหวะ .... อีกครั้ง

    “อาจารย์ ...มาไวจังนะครับ อีกตั้งชั่วโมงกว่าๆถึงจะสอน”

     “.....................เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมดีกว่า ศิษย์กับอาจารย์ ..” ความรู้สึกสับสนที่เพิ่มมากขึ้นในสองสามวันนี้ ..เพราะตั้งแต่ได้คบกัน รักในนิยายช่างไม่สวยงามและไม่ตื่นตาตื่นใจเอาเสียเลย มีเพียงการหลบซ่อนและกลิ่นหอมอวลที่ไม่คุ้นชิน

    “อ่า ..ตกลงครับ” พูดน้อย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก นั่นคือนิยามของโจคยูฮยอนเท่าที่ผมรู้มากจากเพื่อนๆของเค้า และมันก็ยังคงเป็นแบบนั้น มือบางไม่มีสักนิดที่แม้แต่จะชะงักหรือหยุดขยับเม้าท์ดื้อๆเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมา

    มีเพียงรอยยิ้มเหมือนปกติกับท่าทางน่าเบื่อเดิมๆ ....

    คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมายิ้มเพื่อบอกว่า”ไม่เป็นไร”จริงๆ ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ที่ดังถูกช่วงเวลาเสียจริง มือบางทำท่าเป็นสัญญาณว่าจะออกไปคุยข้างนอก และเดินหายออกไปทันที ...

    เหลือเพียงผม ... กับเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังก้องในหู

    ทำไมตอนนี้หัวใจผมถึงไม่สงบอย่างที่ควรเป็น มันกลับเต้นแรงจนรู้สึกว่าหากใครผ่านมาต้องได้ยินเป็นแน่ ...ความรู้สึกแปลกใหม่เสียดแทงในอกตลอดเวลา ..เพิ่งเข้าใจคำว่า ......การสูญเสีย ....เป็นครั้งแรก

    สมองประมลกลับถึงอาการแปลกประหลาด ...ผมให้คำตอบได้แล้วว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่อัดแน่นในอกราวกับจะระเบิด ...ความรู้สึกเจ็บปวดเพราะการสูญเสีย .....

    ผมลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีโดยหวังลึกๆว่าจะเจอคยูฮยอนยืนคุยโทรศัพท์หน้าห้อง ..แต่กลับมีเพียงความว่างเปล่า ผมเดินหาทั่วชั้นรวมถึงในห้องน้ำจนทั่ว ..กระทั่งได้ยินเสียงคุยกัยเบาๆตรงด้านนอกประตูหนีไฟ

    “มันจบแล้วล่ะชางมิน”

    ประโยคนั้นทำให้ผมชะงักมือที่กำลังเปิดกระตูออก ช่องสี่เหลือกระจกเหนือประตูอันเล็กทำให้ผมเห็นคยูฮยอนและชางมินกำลังกอดกันอยู่โดยที่คยูฮยอนหันหลังให้ผม....

    อาการเจ็บแปลบในอกเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกใหม่อีกครั้ง คราวนี้กลับรู้สึก ...รู้สึก .. ...หึง ... จนหูอื้อตาลายไปหมด ในใจตะโกนสั่งให้ผมเปิดประตูออกไปและกระชากคยูฮยอนกลับมา ..หากสมองกลับสั่งการในทางตรงกันข้าม

    มันสั่งให้ผมยอมแพ้ ...สั่งให้ผมจดจำและเรียนรู้ ...ว่านี่คือสิ่งที่ผมพลาดไป ....

    และผมก็เลือกเชื่ออย่างหลัง ... ผมผละออกจากประตูก่อนจะถอยหลังกลับมาช้าๆ ..สองเท้าที่รู้สึกหนักอึ้ง ร่างกายที่เหมือนถูกถ่วงไปทุกส่วนจนแทบเดินไม่ไหว ผมเปิดประตูห้องเพื่อเข้าไปนั่งรอหวังว่าจะคุยกันดี ... จะปรับความเข้าใจและคราวนี้จะเป็นฝ่ายขอความรักจากคยูฮยอนบ้าง ....

     

    แลปทอปของคยูฮยอนยังคงเปิดค้าง ผมอดใจไม่ไหวที่จะลงไปนั่งที่ของคยูเมื่อครู่และดูสิ่งที่คยูฮยอนเปิดค้างไว้ ....ของขวัญสำหรับคู่รักต่างๆมากมายถูกเลือกไว้ .... รวมถึงเนคไทสีฟ้าอ่อนที่ถูกกดสั่งจองแคตตาลอคไปเรียบร้อย ...

    อา..วันครบรอบเดือนที่ห้าของพวกเรา ..อาทิตย์หน้าสินะ

    “ทำอะไรน่ะ!” เสียงดุดันจากประตูห้องทำให้ผมละสายตาจากแลปทอปของคยู นัยน์ตาแข็งกร้าวราวกับโมโหคนมาหลายปีของชางมิน วันนี้ผมเองเพิ่งตระหนักว่ามันมีเพื่อคยูฮยอนจริงๆ ....

    “คยูฮยอนล่ะ”

    “ไม่สบาย กลับหอไปแล้ว ผมมาเก็บของให้” น้ำเสียงห้วนที่ฟังขัดหู หากไม่เท่าประโยคที่ว่า”ไม่สบาย” ร่างกายร้อนรนจนอยากจะกระโนจออกไปเสียตอนนั้น ..ติดเพียงแค่ ...ไม่เคยรู้ ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยถามว่าหอของคยูฮยอนอยู่ที่ไหน

    ทุกครั้งจะมีเพียงผมที่เห็นแก่ตัวและเรียกคยูฮยอนมาหา ...

    “ชางมิน”

    “อะไร”

    “หอคยูฮยอนอยู่ไหน?”

    “ไอ้ ....!

     

    แก้มซ้ายเหมือนแตกเป็นเสี่ยงๆเพราะแรงต่อยจากคนตรงหน้า ผมเข้าใจว่าเค้าต้องโมโหมาก ....

    “ยังมีหน้าจะไปอีกเหรอ ปล่อยคยูฮยอนไปแล้วนี่ แล้วไปยุ่ง ไปให้ความหวังอีกทำไม ไปหาคนอื่นไป๊”

    “ไม่ใช่แบบนั้น ..”

    “จะยังไงก็ตาม อย่ามายุ่งกับเพื่อนของผม! เคยสังเกตบ้างไหม เคยไหม! เคยรู้ไหมว่าคยูฮยอนทุกข์ใจขนาดไหน! เคยรู้ไหมว่าคยูแอบไปร้องไห้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ...เคยรู้ไหม!!

    ทุกคำพูดราวกับค้อนหนักๆที่ทุบลงกลางกะโหลก มีเพียงอาการเจ็บชา ... ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ...

    “ขอโทษ”

    “พูดกับผมแล้วได้อะไร ทำไมไม่พูดกับคยูฮยอนก่อนหน้านี้ ก่อนหน้าที่จะขอเลิก”

    “ไม่รู้”

    “เออ งั้นก็ไม่รู้ต่อไปจนกว่าจะตายนั้นแหละ ไอ้ควายเอ้ย!

    จากนั้นชางมินผลุนผลันออกไปทันที ..ปล่อยให้ผมยืนเคว้งโดยไม่รู้จะทำอะไรต่อ ...เพียงแค่ปล่อยให้มันเป็นไป ...

     

     

    และนั่นคือวันสุดท้ายที่ผมได้พบกับคยูฮยอน ...อาทิตย์ถัดมาเจ้าตัวไปทำเรื่องขอย้ายทุกคาบที่ต้องเจอผม ในมหาลัยหลบหน้าทุกครั้ง ...อยากจะเข้าไปคุยเจอเพียงการ์ดที่แข็งกร้าวไม่ยอมสบตาหรือแม้แต่จะหันตามเรียก ..

     

    เป็นแบบนั้นทุกครั้ง ..ทุกครั้งไปจริงๆ ....

     

    พ่อลมหายใจออกจมูกเพื่อระบายความรู้สึกอึดอัดที่จวนเจียนระเบิดนี้ มือหนาหวักน้ำล้างน้ำหวังให้ช่วยดับอารมณ์คุกรุ่นเมื่อครู่ที่คยูฮยอนหัวเราะกับชางมินแบบที่ไม่เคยทำกับตัวเองมาก่อน

    เสียงเปิดประตูที่เหมือนชะงักไปทำให้ผมหันไปมอง ....คยูฮยอนกำลังยืนทำหน้ากระอักกระอ่วนก่อนจะรีบผลุนผลันออกไปอย่างทุกที ..แต่คราวนี้ผมไม่ยอมหรอกนะ

    “เดี๋ยวก่อน” ผมคว้าแขนคยูฮยอน ...เราสองคนสบตากันอยู่สักพัก เรื่องที่คิดว่าจะพูดที่มีเยอะแยะไปหมด จนถึงตอนนี้ผมไม่สามารถถ่ายทอดออกไปได้เลย..ขณะเดียวกันที่นัยน์ตาโตคู่สวยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ น้ำที่เอ่อคลอจนบดบังดวงตาสวยจนมิดยิ่งทำให้จุกจนพูดไม่ออก คยูฮยอนแกะมือผมออกและเดินออกจากห้องน้ำไปแบบเงียบๆ...

    อีกครั้ง ... อีกครั้ง ..ที่ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เลย ..แม้เพียงคำว่า “รัก” สั้นๆ ....

     

    “รัก”

     

    ไม่เหมือนในนิยายจริงๆ ...ทำไมเจ็บได้นานขนาดนี้ล่ะ?

     

     

     

     



















    การ์ดสีชมพูส่งกลิ่นหอมอวลในห้องนอน ชื่อบ่าวสาวที่เคียงคู่กัน ..ราวกับตะกอนที่ค้างอยู่ก้นหัวใจฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง .. หสนคิดถึงก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ...และยังคงไม่เคยได้พูดออกไป

    “โจคยูฮยอน และ คิมจีอึน” ผ่านไปหลายปี ต่างคนมีทางเป็นคนตัวเอง ... คยูฮยอนได้พบเจอรักใหม่ที่ดีกว่า

    มีแต่ผมเอง .. ที่ยังคงค้นหา...คนที่ไม่เหมือนนิยาย ..ค้นหาคนแบบนั้น ..หวังว่าสักวันเขาหรือเธอคนนั้นจะเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง เหมือนโจคยูฮยอน ....

    ทำไมไม่เหมือนในนิยายที่เจ็บเพียงชั่วพลิกหน้าหนังสือนะ ....?

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×