ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER : 3
เหนื่อย ...
ช่วงนี้ซุปเปอร์จูเนียร์ทุกคนเดินสายทำงานกันไม่ขาด ผมเองมีทั้งละครเวทีและเอเชียทัวร์อีกหลายแห่ง งานรุมเร้ามากเสียจนไม่มีเวลานึกถึงเรื่องอื่นในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ...หลังจากวันนั้น ผมเองพยายามออกห่าง รักษาความสัมพันธ์และหยุดทุกความรู้สึกไว้แค่”พี่น้อง”
บางครั้งผมจงใจไม่รับโทรศัพท์บ้าง พยายามเลี่ยงบ้าง รู้ว่ามันดูโง่ๆ ถึงผมจะพยายามเข็มแข็งแค่ไหน สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ให้กับรอยยิ้มจริงใจและความอ่อนโยนของเค้าจริงๆ
“คยูๆ”
เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ผมเงยหน้าจากสคริปต์รายการซุปเปอร์จูเนียร์ฟอร์ไซต์ของพวกเรา อีทึกฮยองยื่นไอโฟนสีขาวให้ผมพลางทำท่าทางว่ามีคนโทรหา ผมรับโทรศัพท์มาแบบงงๆและเอ่ยทักทายออกไป
“ว่าไง”
“....คยูอา ทำไมฮยองโทรหาแล้วไม่รับ”
“...........”
น้ำเสียงที่ห่วงหาอาทรเปรียบดั่งมีดเล่มเล็กที่คอยกรีดเบาๆ ซ้ำลงทุกวัน ไม่เจ็บมาก....แต่เป็นเผลเรื้อรัง
ทรมาน.....เนิ่นนาน
“คยูฮยอนา ฮัลโหลได้ยินไหม?”
“ฮ่ะ ว่าไงซีวอนฮยอง”
“...คยูงอนอะไรฮยองรึเปล่า? ขอโทษนะ”
“ฮยองจะขอโทษผมทำไม ผมไม่ได้งอนอะไรสักหน่อย”
“แล้วทำไมช่วงนี้ฮยองรู้สึกว่าเราไม่สนิทกันเหมือนเดิม”
“คิดไปเองหน่า~ ผมเองงานยุ่งๆ ...อ่อ ..ฮยอง ...พรุ่งนี้ละครเวทีวันสุดท้ายแล้วนะ ..จะมาไหมครับ?”
“พรุ่งนี้เหรอๆ โอเค~~ คยูฮยอนนาของพวกเราแสดงรอบสุดท้ายทั้งที ฮยองไปอยู่แล้ว!”
“ขอบคุณครับ.....แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
ตลอดรอบการแสดงที่ผ่านมา แม้เพียงเสี้ยวเวลาสั้นๆบนเวที ผมมักจะมองหาคนบางคนโดยไม่รู้ตัวและแอบหวังลึกๆว่าใครคนนั้นจะมาดู ..สักรอบ ...ผมอยากให้ฮยองเห็นว่าผมเองมีความสามารถขนาดไหน
ฟู่ว ....
ถอนหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อคลายความกดดัน วันนี้เป็นรอบสุดท้ายของละครเวทีสามทหารเสือสื่อมวลชนเลยมากเป็นพิเศษ น้องๆชายย์นี่ติดงานมาไม่ได้แต่ก็ส่งดอกไม้ช่อโตมาให้ ชางมินที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาพักยังโทรมาคุยกับผมเสียครึ่งชั่วโมงและอวยพรให้โชคดี บรรดาฮยองมาหาผมถึงหลังเวทีทำเอาผมปลื้มไม่หยุด
แต่ .. ผมเองกลับมองหาคนบางคนที่สัญญาว่าจะมา ...ตอนนี้อีกสิบนาทีจะถึงเวลาแสดง ท่ามกลางความมืดในฮอลล์ผมเพ่งสายตาเผื่อเค้าจะเข้ามานั่งโดยที่ผมมองไม่เห็น ....แค่หวังไว้แบบนั้น
“นักแสดงเตรียมแสตนด์บาย ผ้าม่านเตรียมยกขึ้นอีก ..สาม...สอง...หนึ่ง”
ดนตรีบรรเลงแผ่วเบา องก์แรกของละครที่เปิดตัวผม บทเพลงที่ร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจำติดหัวถูกถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงนุ่มทุ้ม การแสดงที่อาจจะแข็งไปสักเล็กน้อยแต่ยังคงเรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้เสมอ
ท่ามกลางแสงไฟสปอตไลท์สีเหลืองนวลจนแสบตา ผมเผลอมองไปยังที่นั่งว่างตรงนั้นข้างซองมินอีกครั้ง ...อีกครึ่งชั่วโมงละครกำลังจะจบลง หาก..เก้าอี้ตัวนั้นยังไร้แววคนที่สัญญาว่าจะมา ....
น้อยใจ ..เสียใจ ..โกรธ
อารมณ์ทุกอย่างปนเปกัน ..ก็เท่านั้น ผมไม่มีสิทธิ์โกรธหรือน้อยใจไปได้มากกว่านี้ ...
ม่านสีแดงปิดลงพร้อมเสียงปรบมือกึกก้อง นักแสดงทุกคนต่างโห่ร้องและโผเข้ากอดด้วยความยินดีที่ทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ผมเองพอคิดว่านี่เป็นรอบสุดท้ายที่จะได้เป็นคยูตาญัง บ่อน้ำตาพาลตื้นขึ้นมาเสียดื้อๆ ......
ไม่รู้เพราะยินดีกับความสำเร็จหรือเพราะเสียใจเพราะเก้าอี้ตัวนั้นที่ยังคงว่างตราบจนวินาทีที่ม่านปิดลง
ผมโค้งลาพี่ๆนักแสดงครั้งสุดท้าย ก่อนเดินไปเก็บของส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวกลับหอพักซูเปอร์จูเนียร์ ของขวัญจากแฟนๆหลายกล่องกองเต็มไปหมด ผมพลิกดูสองสามชิ้นก่อนจะเรียกพี่สตาฟฟ์แถวนั้นขนขึ้นรถเพื่อเอากลับบ้าน
ไอโฟนสี่ของผมสั่นเตือนเมสเสจสองสามครั้ง เมื่อเห็นว่าใครส่งมา ใจนึงก็ไม่อยากเปิดอ่านแต่หากช้ากว่ามือที่เลื่อนทุกตัวอักษร
“รออยู่ที่รถของคยู -ซีวอน-”
ผมควรจะทำหน้าแบบไหนดี จะงอน? หรือยิ้ม? ระหว่างทางไปที่จอดรถ เสียงฝีเท้าของผมที่สะท้อนก้องยิ่งทำให้หัวใจทำงานหนัก ตอนนี้ผมไม่อยากเห็นหน้าของซีวอนจริงๆ
ความผิดหวัง ความน้อยใจ ความเหงา มันมวลตัวขึ้นมาเรื่อยๆ หากผมเจอหน้าซีวอนตอนนี้ ..อาจจะมีสักวินาทีที่ผมเผลอปล่อยให้น้ำตาไหลโดยไม่รู้สึกตัว ....
“คยูอา ทางนี้ๆ”
ผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ซีวอนยิ้มกว้างจนลักยิ้มบุ๋ม ผมเดินเข้าไปหาเงียบๆ ...ใบหน้ายิ้มระรื่นไม่รู้สึกรู้สาทำให้ผมแทบอยากลงไปร้องไห้ตรงนั้น ...ก็แค่คิด
ผมหยุดยืนด้านหน้า ..ผมควรจะพูดออกไปไหมว่าน้อยใจ? ผมควรจะพูดไหมว่าผมรอจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของการแสดง ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องอะไรแบบนี้ แต่บางครั้ง .... แค่บางครั้งจริงๆที่ผม
.....โกรธ .......
“ฮยองมีของขวัญให้ด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ”
มือหนายื่นถุงกระดาษสินค้าแบรนเนมชื่อดังสีดำเหลื่อมให้ผม เมื่อเปิดดูข้างในเป็นที่ใส่พาสปอร์ตสีน้ำตาลอ่อน ผมเอ่ยขอบคุณเบาๆ ..และบทสนทนาของเราก็หยุดลงเพียงแค่นั้น
“คยูอา ...ฮยองขอโทษ”
“ขอโทษผมทำไมครับ?”
“ที่ ..วันนี้ฮยองไม่มาตามนัด วันนี้สเตลล่าจะกลับนิวยอร์ก ..ฮยองเลยไปส่งที่สนามบิน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ สเตลล่าไม่ได้มาบ่อยๆ”
บทสนทนาที่ดูผิวเผิน บางครั้งอีกฝ่ายอาจไม่ได้ใส่ใจหรือจริงจังอะไร แต่จะรู้ไหมว่ามันสามารถทำร้ายความรู้สึกได้ง่ายๆเหมือนกัน ....
“ผมกลับก่อนนะ วันนี้จะกลับบ้านด้วย พรุ่งนี้เจอกันครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ผมถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอดอุ่นเบาๆ ลมหายใจเป่ารดหน้าผากทำให้ผมรู้ว่าเราใกล้กันขนาดไหน ลำแขนแกร่งโอบแน่นรอบตัวแต่ผมรู้สึกเฉยชากับมันไปเสียแล้ว ผม...ควรจะกอดกลับดีไหม? ....ควรไหมนะ?
มือผมยังคงยกค้างอยู่อย่างนั้น เหมือนที่ใครเคยว่าไว้ ยิ่งใกล้เหมือนยิ่งห่าง แผ่นหลังที่ผมโหยหามาตลอดอยู่เพียงเอื้อมมือสัมผัสแต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย
....ดวงตาคู่ดำสนิทที่เคยสุกใสราวกับลูกปัดสีดำกลับแห้งผากอย่างไร้เหตุผล อ้อมกอดที่ไม่สามารถโอบกอดได้อย่างเต็มหัวใจ คยูฮยอนเป็นแค่คนผิดหวังในรักซ้ำไปซ้ำมา .....
“ฮยองปล่อยเถอะ แฟนๆยังอยู่นะ”
“ช่างปะไร”
“ผมไม่อยากให้อีทึกฮยองเดือดร้อนอีก”
“ขอโทษ...”
สงสัยคงเป็นคำติดปากคนๆนี้เสียแล้วมั้ง ผมส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไรก่อนจะเข้าไปนั่งในรถเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน หากประตูรถด้านข้างคนขับโดนเปิดออกและคนตัวโตก็เบียดเข้ามานั่งสำเร็จ
“ผมจะกลับบ้าน”
“ยังคุยไม่เสร็จ”
ในฮยอนไดสีดำวาวติดฟิลม์ทึบ เสียงรถที่ถูกสตาร์ทเครื่องไว้เนิ่นนานแต่ไม่มีท่าทีว่าจะออก ภายในห้องผู้โดยสารความเงียบกำลังกัดกินบรรยากาศ เสียงเพลงคลอเบาที่จงใจเปิดให้ทำลายบรรยากาศอึดอัดกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี รู้สึกเกลียดความงี่เง่าของตัวเองขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่ซีวอนเป็นแบบนี้คงเพราะผมพูดจาห้วนๆแบบนั้นใส่ ..
“ฮยองอา~ ผมขอโทษ ผมเหนื่อยนิดหน่อย”
“ฮยองไม่ได้โกรธเรื่องนั้นหรอก”
“?”
“รู้ไหม ฮยองเคยถามตัวเองบ่อยๆ ทำไมเวลาที่ฮยองพูดถึงสเตลล่าคยูถึงนิ่งไปทุกครั้ง ถ้าไม่ชอบใจเรื่องสเตลล่า วันหลังฮยองไม่พูดถึงแล้วก็ได้”
“....เปล่านิครับ”
ผมเบือนกลับไปสบตาคนด้านข้าง สายตาจริงจังที่ค้นหาคำตอบ แววตามุ่งมั่นที่ผมหลงใหล ...และโดยไม่รู้ตัว ผมเขยิบเข้าใกล้ก่อนจะโน้มคอคนตัวสูงกว่าเพื่อจูบบนริมฝีปากนุ่ม
ผมถูกดึงขึ้นมาก่อนจุมพิตบางเบาจะเปลี่ยนเป็นจูบดื่มด่ำ เสียงใจเต้นระรัวเคล้าเสียงหอบที่สะท้อนในหู จูบหนักหน่วงทว่าแฝงความอ่อนโยนกำลังค่อยๆละลายผมทีละน้อย..
“ฮะ..ฮยอง ผมหายใจไม่ทัน”
ผมผละออกมาก่อนจะใช้หลังมือเช็ดปากที่บวมเจ่อเบาๆ และขอบคุณความมืดสนิทที่ทำให้ผมซ่อนหน้าที่ขึ้นสีเรื่อไว้สำเร็จ ดูเหมือนซีวอนฮยองจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“ไปส่งฮยองที่หอที”
“ครับ”
ไม่มีเหตุผล ที่ผมจูบเพราะอยากจูบ ที่เรากอดกันก็เพราะอยากกอด ไม่มีเรื่องความรัก ...หรือที่มากว่านั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง สายสัมพันธ์แสนเปราะบางที่ก้าวผ่านคำว่าพี่น้องแต่ไม่อาจเอื้อมไปถึงตำแหน่งคนรัก
...ความสัมพันธ์ที่คยูฮยอนคนนี้แสนเกลียดแต่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ....
เสียงเครื่องยนต์ค่อยๆเบาลงเมื่อจอดเทียบด้านหน้าหอพัก ซีวอนปลดเข็มจัดนิรภัยก่อนจะมอบจูบเบาบนขมับและส่งยิ้มให้อย่างเคย
“ฝันดีนะคนเก่ง”
“...ครับ”
ซีวอนฮยองก็คือซีวอนฮยอง ....ความใจดีที่ทำให้ผมเหลิง ความอ่อนโยนที่ทำให้ลืมความน้อยใจเมื่อหัวค่ำจนสนิท
.....ความใกล้ชิดที่ทำลายความไว้ใจ ......คยูฮยอนกำลังรักซีวอน ....รักแต่ไม่สามารถแสดงออกว่ารัก ...
...รักที่ต้องเก็บซ่อนและทำตัวเฉยชิน
คยูฮยอนคนโง่ที่ไม่สามารถตัดใจจากรักนี้ได้เลย ....
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น