ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Windows of Heart { WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER : 10.5

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 55




    Writer's note: ตอนพิเศษเรื่องราวสมัยเป็นเด็กฝึกหัดกับนักร้องหน้าใหม่ค่ะ







    "ห๊า เมมเบอร์คนใหม่?!"



    ทั้งห้องประชุมเริ่มแตกตื่น สมาชิกทั้งสิบสองคนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกรสเพราะไม่มีใครคาดคิดว่า วงที่เพิ่งเดบิวต์และกำลังไปได้สวยกลับจะประกาศเปลี่ยนเมมเบอร์ในอีกสาม เดือนข้างหน้า

    ขณะที่ทุกคนกำลังสับสน ผมกลับถูกสายตาที่ขลาดกลัวดึงดูดไว้ สมาชิกคนใหม่ของพวกเรายืนก้มหน้านิ่งอยู่ด้านหลังอาจารย์ซูมาน เด็กชายผอมกะหร่องหน้าตาพื้นๆจนอดคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไรนะ อาจารย์ซูมานถึงเลือกเด็กคนนี้เข้ามา



    "เอ้าๆ หยุดโวยวายกันได้แล้ว ฟังครูพูด"ห้องประชุมเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง ผมสังเกตทุกคนที่จ้องสมาชิกใหม่ สายตาแสนเย็นชาจนผมยังกลัวแทนเค้าเลย แล้วน้องใหม่คนนี้จะทนได้สักกี่น้ำนะ?


    "แนะนำตัวสิ..."


    "ครับ ...ผมชื่อโจคยูฮยอน อายุ18 ปี ...ครับ"


    "ไม่ มีมารยาท นายทักทายรุ่นพี่แต่ไม่ยอมโค้งงั้นเหรอ?" เสียงฮีชอลฮยองแทรกขึ้นมายิ่งทำให้บรรยากาศอึดอัด เพราะยังไม่สามารถยอมรับเรื่องสมาชิกใหม่ทุกคนจึงเลือกที่จะหันไปมอง หน้าต่างแทนหน้าน้องใหม่ ยิ่งฮีชอลยิ่งหนัก รายนั้นแทบจะไม่มองหน้า เอาแต่พิมพ์ข้อความในโทรศัพท์แต่กลับกดดันคยูฮยอนจนแทบจมดิน


    "ขะ..ขอโทษครับ" ยิ่งพูดยิ่งก้มหน้าจนคางแทบติดอก ผมเองไม่ได้รู้สึกชังอะไรหนักเพราะซุปเปอร์จูเนียร์เองก็เป็นเพียงโปรเจ็คต์ที่รอวัน
    โยก เปลี่ยนสมาชิก การที่คยูฮยอนจะเข้ามาแทนที่ใครสักคนในวงคงไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจเท่าไหร่ หากคงจะใจหายที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับฮยองคนอื่นเท่านั้นเอง

    เสียงสูด หายใจเข้าลึกทำให้ผมต้องหันกลับไปมองเด็กคนนี้อีกครั้ง มือบางที่คิดว่าจับแรงๆสักครั้งคงหักกำลังควบคุมความสั่นเทาของตัวเองเต็ม ที่ อาจจะหูฟาด ..ผมได้ยินเสียงหัวใจของเด็กคนนี้เต้นแรง


    คงจะพยายามข่มความกลัวอยู่สินะ ...



    "ฮยองครับ ไม่เอาน่า ไม่เห็นต้องดุน้องแบบนั้นเลย ยินดีต้อนรับสู่ซุปเปอร์จูเนียร์นะคยูฮยอน" ฉีกยิ้มการค้าอย่างที่เคยใช้แล้วๆมา หากสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้กลับมาคือใบหน้าติดหวานเล็กๆเลิกตาโตอย่างตื่น ตระหนกก่อนจะโค้งแล้วโค้งอีกและเงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างประหม่าให้ผม


    หลัง จากวันนั้นคยูฮยอนก็ติดผมแจ ในห้องซ้อมหรือห้องอัดเสียง คยูฮยอนมักจะทำตัวเหมือนไม่มีตัวตนด้วยการหายไปอยู่ด้านหลังของผมหรือหลืบ ห้อง ผมสังเกตหลายครั้งที่คยูฮยอนอยากจะเข้ามาคุยด้วย อยากเข้ามาทำความรู้จัก แต่ฮยองทุกคนกลับปิดกั้นไม่เปิดโอกาสให้ว่าที่น้องเล็กของวงได้ร่วมสนทนา เป็นบรรยากาศที่น่าอึดอัดจนผมสงสาร..


    "มานั่งกับฮยองก็ได้นะคยูฮยอน ฮยองไม่กัดหรอก"

    "อ๊ะ ..ขอบคุณครับ" กระดาษเนื้อเพลงในมือดูยับย่นเพราะถูกใช้งานบ่อย ปากกาเน้นข้อความรวมถึงรายละเอียดเล็กน้อยทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้ใส่ใจและ ตั้งใจกับการเป็นนักร้องแค่ไหน เสียงพึมพำฝึกร้องในท่อนของตัวเองอีกทั้งแววตาจริงจังเหมือนกับมืออาชีพไม่ ใช่เด็กน้อยไร้ประสบการณ์



    คยูฮยอนกำลังก่อตัวตนขึ้นในห้วงนึกคิดของชเวซีวอนช้าๆ...



    หลัง จากอัดเพลงเสร็จ ผมชวนคยูฮยอนออกไปดื่ม จริงๆคยูฮยอนเป็นคนน่ารักนะครับ คุยเก่ง ชวนผมคุยเรื่องนู้นเรื่องนี่ ถามถึงการทำงานรวมถึงการวางตัวต่อหน้ารุ่นพี่เพราะไม่อยากโดนพี่ๆในวงดุอีก เรานั่งดื่มกันเต็นท์ริมทางที่ห่างจากหอพักเพียงสิบนาที และแน่นอนอีกผมดื่มโซจูได้สามขวดก็เริ่มเมาซะแล้วแต่คยูฮยอนกลับยิ้มร่าและ ย่างหมูต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อน


    "คอทองแดงนี่หว่า เห็นหงิมๆนะเรา นึกว่าจะดื่มไม่เก่งซะอีก"

    "ใครบอกละครับว่าผมดื่มไม่เก่ง ฮ่าๆ" ใบหน้าติดหวานกำลังทำท่าทางสนุกที่ได้แกล้งแหย่ ผมเลยขยี้ผมฟูๆนั้นลงไปด้วยความหมั่นไส้

    "โฮ่~ ผมเสียทรงหมดเลย ฮยองอ้ะ!" ว่าพลางทำท่าเหมือนจัดทรงผมเลียนแบบฮีชอลทำให้ผมขำไม่หยุด ยิ้มร้ายๆนั้นกลับทำให้รู้สึกเอ็นดู เด็กคนนี้เจอความกดดันมากมายขนาดไหนนะถึงสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้โดยที่เก็บ ซ่อนความรู้สึกทุกอย่างไว้ข้างใน


    ตัวตนของคยูฮยอนเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆจนยึดพื้นที่ทุกห้วงคนึง....







    เวลา ผ่านไปสามเดือนไวราวกับพลิกฝ่ามือ ผมและคยูฮยอนสนิทกันจนรู้นิสัยใจคอเจ้าตัวร้ายว่าไม่ได้หงิมอย่างหน้าตาเลย ออกจะขี้แกล้งและขี้อำเสียด้วยซ้ำ นับวันยิ่งน่ารักขึ้นจนผมอดประหลาดใจไม่ได้และยิ่งตกใจเมื่อรู้สึกถึงอาการ แปลกๆยามเข้าใกล้น้องเล็กของวง ใบหน้าธรรมดาหากรอยยิ้มแสนซื่อชวนเอ็นดู...


    ไม่น่าใช่หรอกมั้ง..... คงไม่ใช่แน่นอน .... ผมไม่มีทางรู้สึกแบบนั้นได้...



    "ฮยองๆ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"

    "อ๋อ หื้อ? เปล่าๆ ดื่มต่อเถอะ จะเที่ยงคืนอากาศเริ่มเย็นแล้วนะ เราจะนั่งกันริมระเบียงต่อจริงๆเหรอคยูฮยอน"

    "อื้อ ถ้าฮยองหนาวเข้าไปก่อนเลยฮ่ะ ผมยังอยากนั่งรับลมเย็นๆอีกสักหน่อย"



    พรุ่ง นี้จะเป็นวันเดบิวต์ของคยูฮยอนและวันแรกของการโปรโมทซิ้งเกิล U ที่ทุกคนตื่นเต้นไปตามๆกัน การเข้ามาเป็นส่วนนึงของซุปเปอร์จูเนียร์ของคยูฮยอนทำให้พวกเราไม่ต้องแยก ย้ายกันทำงานเหมือนแรกเริ่ม ทุกคนเริ่มเอ็นดูและเล่นกับคยูฮยอนมากขึ้นจนผมชักจะหวงๆขึ้นมาซะแล้วสิ



    "ตาม ใจ..." แกล้งแหย่เล่น แต่เท่านั้นล่ะครับ น้องเล็กของพวกเราไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆหรอก ผมแอบยิ้มกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปหยิบผ้าพันคอผืนหนาให้คยูฮยอน...


    ผม น่ะ..รักเค้านะครับ ...คยูฮยอนพิเศษเกินกว่าใครๆ แต่ผมเองขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับกับใจตัวเองว่าคิดกับเค้าแบบไหน เราสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ ไม่มีสิทธิ์ไปไกลกว่านี้แล้วละครับ...


    "อย่า ทำให้เป็นห่วงนักสิ" ใบหน้าหงอยๆเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างยินดีเมื่อรู้ว่าผมไม่ได้ทิ้งให้เค้านั่งคน เดียวจริงๆ อากาศเย็นลงจนลมหายใจกลายเป็นไอสีขาว ปลายจมูกคยูฮยอนเริ่มแดง ผมอมยิ้มกับท่าทางน่ารักที่คอยเป่ามือตัวเองให้อุ่น


    ใครกันนะอวดดีว่าทนหนาวได้...


    ผมค่อยๆสวมผ้าพันคอสีขาว สวมให้อย่างเบามือและจัดทรงให้คนตรงหน้า คยูฮยอนซุกหายเข้าไปในผ้าพันคอผืนใหญ่และเอ่ยขอบคุณเสียงเบาหวิว..

    ช่วง จังหวะนึงที่ได้สบตา ในใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ใบหน้าเล็กที่กำลังคลอเคลียอยู่ในฝ่ามือทำให้ความรู้สึกเอ่อล้นออกมาโน้มตัว ลงจนรู้ส
    ึกถึงลมหายใจอุ่นรดอยู่ปลายจมูก ..

    โดยไม่ทันยั้งคิดผมแตะริมฝีปากตัวเองลงบนกลีบปากสั่นระริกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ ...

    ถอนริมฝีปากออกและเหลือบมองน้องเล็กที่ใบหน้านวลแดงระเรื่อ เกลี่ยแก้มนุ่มก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมนช้าๆ ...

    ไม่ ผิดใช่ไหมที่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง ..ง่ายกว่าการปฏิเสธไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ... เรื่องทุกอย่างล้วนเป็นความต้องการของหัวใจที่เรียกร้องแต่เพียงเด็กชายที่ กำลังขลาดเขินไม่ประสาในรักคนนี้เท่านั้น...











    แต่ เค้าว่ากันว่าวัยรุ่นรักง่ายหน่ายไว คยูฮยอนไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษหรือแม้กระทั่งพูดว่ารู้สึกอย่างไรกับ ผม ในขณะที่ตัวผมเองก็ยุ่งกับตารางงานที่แสนรัดตัวจนไม่มีเวลาแม้แต่ได้คุยกับ คยูในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น เพราะผมตระหนักดีว่าคยูฮยอนคงไม่มีวันเรียกร้องอะไรจากผมแน่นอน


    "นี่ ซีวอน มีเด็กฝึกคนใหม่มาจากอเมริกาด้วยนะ" หลังจากซ้อมเสร็จพวกเรานั่งพักในห้องซ้อม ฝั่งตรงข้ามเป็นกลุ่มเด็กฝึกหัดหญิงที่กำลังวอร์มร่างกายรอครูฝึก แต่ผมกลับสะดุดตากับเด็กผู้หญิงคนนึงที่นัยน์ตาฉายแววมั่นใจ ...แววตาที่ผมคุ้นเคย


    "เอ๋ ..นั้นมัน..?ฮยอนคยอง??" เด็กสาวหยุดและหันกลับมามองพร้อมกับทำตาโตและรีบวิ่งเข้าเข้ามาทักทายผมทันที

    "สะ..สวัสดีค่ะซีวอนอปป้า"

    "เฮ้ๆ ไปรู้จักเด็กน่ารักๆแบบนี้จากไหนซีวอนหรือว่า........." ทงเฮล้อเสียงดังจนฮยอนคยองแก้มเริ่มขึ้นสีและคนแถวนั้นหันไปซุบซิบกัน

    "ไม่ใช่ๆ ฉันเคยเจอฮยอนคยองที่งานวันเกิดพ่อ เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณพ่อน่ะ"

    "โด่วววว นึกว่าจะมีรักข้ามรุ่นในบริษัทซะแล้ว" ฮยอกแจลูกคู่ทงเฮแสร้งทำเสียงดังก่อนจะเดินกอดคอหายไปกับทงเฮ เหลือแต่ผมกับฮยอนคยอง

    "เป็นไงบ้าง อปป้าไม่คิดเลยนะว่าฮยอนคยองจะเข้ามาเป็นเด็กฝึกกับเค้าด้วย แล้วนี่จะได้เดบิวต์หรือยัง"

    "ใกล้แล้วค่ะ น่าจะปีหน้า อาจารย์ซูมานฟอร์มฉันกับเพื่อนๆอีกเก้าคนเป็นวง ซุปเปอร์จูเนียร์เวอร์ชั่นเด็กสาวค่ะ"

    "เฮ้ น่าสนใจนะเนี่ย มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ เอามือถือมาๆ"

    "ค่ะ...เอ่อ ...สู้ๆนะคะซีวอนอปป้า"

    "อื้อ ฮยอนคยองก็เหมือนกันนะ!" ผมเลิกคิ้วประหลาดใจกับท่าทางเขินอายประหลาดๆของเธอก่อนจะหลุดขำออกมายิ่งทำให้เธอหน
    ้าแดงเข้าไปอีก


    "โหๆๆๆๆๆ จีบกันเหรอเนี่ยย" เสียงแซวจากทงเฮทำให้ผมหันกลับไปเพื่อดุตัวปล่อยข่าวลือประจำบริษัท หากหลังไวๆคุ้นตาที่อยู่บ้างทงเฮเมื่อครู่ก็เดินออกไปเสียแล้ว

    "เมื่อกี้อยู่กับคยูฮยอนเหรอ"

    "อื้อ เด็กนั่นถามหานายอยู่แน่ะ"

    "อ่อ ขอบใจ..." ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไปหาคยูฮยอน มือเรียวยาวสั่นระริกกลับยึดเสื้อผมไว้ ฮยอนคยองกำลังสั่น..?

    "สอน..สอนแอ็คติ้งฉันได้ไหมคะ? คือว่าไม่ค่อยถนัดเลย"

    "...เอ๋ ..อื้มได้สิ" แม้ว่าในใจอยากจะไปหาคยูฮยอนเพียงไหร่ แต่ผมไม่สามารถทิ้งขว้างเด็กผู้หญิงได้ลงคอเพราะผมเองก็รับปากไว้ว่าจะสอน เธอ ฮยอนคยองยิ้มอย่างดีใจและหันไปสบตากับเพื่อนของเธอที่ชูกำปั้นเป็นเชิงสู้ๆ อยู่ด้านหลัง ผมจึงเริ่มสอนเธอทีละอย่างจนกว่าเธอจะเข้าใจ...



    ไร้วี่แววใดๆของคยูฮยอนรอบตัวผมนับแต่นั้นอีกเลย...



    เดือน กว่าที่มีฮยอนคยองล้อมหน้าล้อมหลัง คยูฮยอนเองก็ดูเหมือนพยายามหลบหน้าจนตอนนี้ในใจกำลังสับสน คยูฮยอนชอบผมเหมือนกันใช่ไหม? หรือผมแค่คิดไปเอง? หรือความรู้สึกทั้งหมดนี่เป็นแค่เรื่องคิดไปเอง??


    "ซีวอนอปป้า~~หา ตัวตั้งนานมาอยู่ห้องซ้อมก็ไม่บอก" เสียงซูยองดังจากด้านหลังผมกันไปหาเธอก่อนจะเจอฮยอนคยองซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง ผมขยับไปมองฮยอนคยองที่ตอนนี้กำลังก้มหน้างุดไม่ยอมพูดจา ผิดจากทุกทีที่ทำตัวแก่แดดแก่ลม

    "ซูยองเสียงแหลมตลอด อ้าว แล้วทำไมฮยอนคยองไปซ่อนอยู่หลังเธอล่ะ"

    "ฮิฮิ ..เอาล่ะนะ ฮยอนคยองสู้ๆ! ไปล่ะ"

    "อะ..อ้าว ซูยองอย่าเพิ่งสิ" ฮยอนคยองเรียกตามหลังเพื่อนสาวที่วิ่งหนีหายไปแล้ว ผมมองหน้าเธอสลับกับอมยิ้มก่อนจะถือวิสาสะแย่งอมยิ้มในมือมากินซะเลย

    "มีอะไรฮยอนคยอง เงียบเป็นเป่าสาก ทุกทีพูดเรื่องแฟชั่นกับอปป้าไม่หยุดเลยนะ"

    "คือว่า..."

    "หื้อ?"

    "ฉันชอบพี่ค่ะ กรุณาคบกับฉันด้วยนะคะ!!"


    ประโยค นี้เหมือนหมัดหนักๆกระแทกลงกลางอก ฮยอนคยองก้มหน้างุดส่วนผมเองก็ไม่รู้ควรจะทำยังไงดี พลันปลายหางตาเหลือบเห็นคยูฮยอนกำลังส่งยิ้มให้และทำมือเป็นเชิงให้ตอบรับ ฮยอนคยอง...?


    หลับตาและสูดหายใจลึก ...


    "เอาสิ ขอบใจนะ" ฮยอนคยองเงยหน้ามองผมตาโตก่อนจะยิ้มจนเต็มแก้ม ผมขอตัวออกมาหาคยูฮยอนที่ยืนรออยู่ริมทางเดินด้านนอก เมื่อเห็นผมคยูฮยอนเพียงยิ้มและชูนิ้วโป้งให้

    "ยินดีด้วยฮ่ะฮยอง ผมไปก่อนนะมีนัดกับทงเฮฮยอง"

    "เดี๋ยว สิ" รั้งข้อมือขาวบางไว้กับตัว หากบีบแรงกว่านี้ผมอาจจะหักข้อมือเปราะบางได้ ความคิดแปลกๆวนเวียนในหัวไม่หยุด ความรู้สึกมากมายไม่สามารถกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดได้สักคำ

    "ครับ?"

    "แบบนี้ดีแล้วเหรอ?"

    "ก็ดีแล้วนิครับ ฮยองก็คบกัยฮยอนคยองไง ผมยินดีด้วยนะ"

    "ไม่ใช่ ... เรื่องของเรา?"

    "เรื่องของเรา? ฮ่าๆๆๆ มันมีเรื่องของเราที่ไหนล่ะครับฮยอง"

    "นั้น สินะ..ผ่านมาฮยองอาจคิดไปเองก็ได้ เอาเถอะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่าป้ะ" ผมกอดคอเจ้าเด็กตัวแสบออกไปหาอะไรดื่มด้วยกัน ข้างในรู้สึกปวดหนึบอย่างประหลาดหากทุกอย่างกลับไม่สามารถสื่อสารผ่านคำพูด ได้สักคำ คยูฮยอนไม่ยอมแม้แต่สบตากับผม ...และความรู้สึกทั้งหมดก็ถูกฝังกลบลงในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ



    วัน เวลาผ่านไป เนิ่นนานจนมั่นใจว่าได้มอบความรักให้กับฮยอนคยองจนหมดหัวใจและในช่วงเวลา เดียวกันที่ผมกับคยูฮยอนเริ่มคุยกันน้อยลงและแทบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะ ตารางที่แสนวุ่นวาย...



    ความรู้สึกทั้งหมดถูกปิดตายโดยสมบูรณ์แบบและคิดว่าไม่มีวันจะรู้สึกแบบนี้กับคยูฮยอน
    อีกแล้ว คงเหลือเพียงสถานะพี่ชายน้องชายที่ยืนยาวกว่า...




    ห่างไกลจนเกือบลืมจูบแรกในคืนอากาศหนาวเหน็บ .............







    TO BE CONTINUED
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×