ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Windows of Heart { WonKyu}

    ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER : 10

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 55










    แท็กซี่หยุดลงหน้าหอพัก ผมแวะทักทายแฟนๆสองสามคนที่ยังรออยู่และเอ่ยทักทายผมตามปกติ ผมเพียงแค่พยักหน้าให้พวกเธอและรีบสาวเท้าไวๆขึ้นห้องพัก รูมเมทของผมคือซองมินและซีวอน ทุกๆคืนผมหวังให้พี่เค้ากลับมานอนหรือได้แค่เจอหน้ากันก่อนออกไปทำงาน แต่วันนี้ผมกลับไม่อยากเจอหน้าซีวอน

    ผมวางของทุกอย่างลงด้านข้างก่อนจะกระโดดขึ้นโซฟากลางห้องและเสียบหูฟังทันทีเพื่อหนีคำถามของซองมินและคนอื่นๆที่ยังคงนั่งเล่นกันอยู่


    “คยูฮยอน....”

    “ครับ ฮยอง” ซองมินคงเป็นตัวแทนคนที่เหลือเดินมาสะกิดผมที่แกล้งนอนหลับไปแบบนั้นเอง สุดท้ายก็ต้องจำใจเก็บหูฟังและปิดเพลงที่ไม่ได้เข้าหูเลยแม้แต่น้อยลง


    “ไปไหนมาน่ะเรา”

    “...ไปกินข้าวกับซีวอนมา”

    “ทั้งๆที่เพิ่งกินเสร็จน่ะนะ?”

    “ซีวอนยังไม่ได้กิน เลยพาผมไปกินด้วย”

    “งั้นเหรอ..เอ๊ะเดี๋ยวก่อน นายสนิทกับซีวอนจนเรียกชื่อเฉยๆได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “เมื่อ ไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะครับ ผมเหนื่อย ขอตัวนะครับ” ตัดบทดื้อๆก่อนจะเดินเข้าห้องนอนและปิดประตูเงียบ ทุกอย่างดูมึนงงไปหมด ผมเองเหนื่อยและล้ามากกว่าจะใส่ใจตอบคำถามของซองมินฮยอง


    ถึงจะรู้ว่าห่วง แต่ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากให้ใครจู้จี้ด้วยมากนัก เพราะหากพูดมากไปกว่านี้ สักนาทีน้ำตาอาจจะไหลลงมาอีกครั้ง น้ำตาที่หยดได้ไม่รู้จบ

    เบื่อที่ตัวเองอ่อนแอ แต่ช่วยไม่ได้จริงๆถ้าหากว่าความอ่อนแอเกิดจากรัก


    ...รักที่รู้ตัวว่าไม่มีทางสมหวังได้เลย




    ครืด..ครืด...



    ไอโฟนสั่นสองสามครั้งก่อนเงียบไป ผมเอื้อมหยิบมาดูด้วยความหวังลึกๆหากข้อความจากวิคตอเรียกระชากผมกลับมาให้ พบความจริงที่ว่า ...ความจริงที่ผมคบกับวิคตอเรีย


    “วันนี้ทำงาน เหนื่อยไหมคะ? ตอนนี้ฉันเองเดินสายออกรายการวาไรตี้เป็นว่าเล่น โดนสั่งให้ลดน้ำหนักอีกตั้งหาก แต่ยังไงฉันก็จะพยายาม คยูฮยอนอปป้าสู้ๆ!”


    ผมลังเลที่จะตอบกลับ ข้อความถูกพิมพ์และค้างไว้แบบนั้นเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปแบบใด ผมจำสีหน้ามีความสุขนั้นได้ดี ยิ้มกว้างๆเพราะสมหวังในรัก ขณะเดียวกันผมเองยิ้ม ...ยิ้มคนละแบบกับเธอ

    ยิ้มกับตัวเองในอดีตที่เชื่อมั่นเต็มหัวใจว่าความรักสามารถชนะทุกสิ่ง
    สุดท้ายมันก็แค่ความหวังลมๆแล้งๆ สังคมและหน้าที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าผมจะทำตามใจ
    คยูฮยอนแห่งซุปเปอร์จูเนียร์มีครอบครัวและแฟนๆที่รักหวังในตัวเต็มเปี่ยม แล้วจะให้ทรยศความรู้สึกได้เช่นไร
    .....แม้ว่าในใจจริง สักวินาทีก็อยากจากที่ตรงนี้กลับไปเป็นคนธรรมดาให้ไวที่สุด.....

    ผมเลือกพิมพ์กลับเป็นเพียงข้อความตอบรับสั้นๆและเหวี่ยงไอโฟนลงสักที่บนเตียง ความเหนื่อยล้าจากหัวใจกำลังเล่นงานร่างกายช้าๆ เปลือกตาหนักอึ้งจวนเจียนปิด สิ่งสุดท้ายที่เห็นมีเพียงรอยยิ้มเศร้าที่คุ้นเคยเหลือเกิน






    “คยูฮยอนๆ”


    ผม งัวเงียตามเสียงปลุกก่อนจะสะบัดหัวแรงๆสองสามที ผมหลับไปทั้งชุดเดียวกับเมื่อคืนและเมคอัพที่ยังค้างบนหน้า มองไปยังเตียงด้านข้างที่ผ้าห่มพับไว้เรียบร้อยและสุดท้ายจบสายตาบนขวดไวน์ สองสามขวดที่ว่างเปล่าข้างเตียง


    “ของซีวอนน่ะ” ซองมินฮยองคงสังเกตสีหน้าสงสัยของผม ขวดไวน์เปล่าๆรวมถึงแก้วไวน์ที่ใช้แล้ววางระเนระนาดจนผมแปลกใจ ...ซีวอนน่ะ ..ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำงานเลยสักครั้ง


    “ซีวอนน่ะเหรอครับ?”

    “เมื่อ วานกลับมาล่ะ แต่ไม่ได้นอน ดื่มไวน์ทั้งคืน กลุ้มเรื่องอะไรก็ไม่รู้ พอถามก็ไม่ตอบ เล่นเอาเป็นห่วงไปหมด ตอนแรกว่าจะปลุกนายขึ้นมาดูแล้วด้วยเถอะ แต่เห็นกรนเสียงดังเชียว ฮ่าๆ” ซองมินฮยองดึงผมขึ้นจากเตียงก่อนจะช่วยผมเก็บที่นอน
    ซีวอนดื่มไวน์จนเมา?

    ถ้าคิดเข้าข้างว่าเป็นเพราะผมจะได้ไหม? ผมอยู่ในฐานะที่หวังได้รึเปล่า?


    “ฮยองไม่ได้อยากยุ่งเรื่องพวกนายสองคนหรอกนะ แต่คุยกันดีๆเถอะ ขาไปๆพร้อมกัน ขากลับแยกกันกลับแถมหน้าตาดูไม่ปกติ ทุกคนห่วงพวกนายนะ”

    “ผมไม่เป็นไรจริงๆฮยอง แค่..ทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับ”

    “เหรอ ยังไงก็อย่างอนซีวอนมันบ่อยนะ สงสารมัน ฮ่าๆ”

    “อ่า..ครับ”





    วันนี้พวกเราเดินสายอัดรายการต่างๆในไต้หวันตามปกติ หัวเราะบ้าง ร้องเพลงบ้าง ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่แปลกไปคือป้ายเชียร์วอนคยูที่เริ่มมีมากขึ้นจาก แต่ก่อน เพลง perfection ซีวอนไม่ได้อยู่ซ้อมจนจบเพลงจึงเต้นได้ช่วงแรกเพียงนิดหน่อยจากการซ้อมก่อน หน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง
    ช่วงที่เราซ้อมกัน ซีวอนไปอยู่ที่นิวยอร์กมากกว่าน่ะ.....


    “คัท!”


    เสียง จากโปรดิวเซอร์รายการดังขึ้นเป็นสัญญาณจบรายการพวกเราโค้งไปรอบๆอย่างเคย ผมเดินมายังด้านข้างเวทีเพื่อโค้งให้กับ FD ประจำรายการ จู่ๆมือผมถูกรวบในมือคนด้านข้างก่อนจะผมจำใจโค้งพร้อมกันอย่างเสียไม่ได้


    “เซี่ย เซี่ย” ซีวอนกุมมือผมจนรู้สึกร้อนแน่นไปหมด ผมเรียกความอดทนทุกอย่างขึ้นมาเพื่อหลีกหนีสถานการณ์น่าอึดอัดที่เรากำลัง เผชิญอยู่ เพราะผมไม่แม้แต่มองหน้าซีวอนขณะเดียวกันมือของผมยังคงอยู่ในมือของซีวอน

    “ตามฮยองมานี่หน่อย” ก้มกระซิบข้างหูก่อนจะลากออกไปยังห้องแต่งตัวที่ยังไม่มีใครกลับเข้ามา ความอึดอัดและบรรยากาศกดดันกำลังลอยต่ำในอากาศจนรู้สึกหายใจไม่ออก ซีวอนจ้องมาทางผมโดยแววตาหลากความหมาย ขณะเดียวกันที่ผมหลบตาเพื่อซ่อนความหมายทุกอย่างไว้ข้างใน
     
    “เมื่อวาน..ฮยองขอโทษ” สุดท้ายซีวอนเปิดปากทำลายความเงียบ ผมหันหลับไปเผชิญหน้าเค้าช้าๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอได้เห็นใบหน้ารู้สึกผิด ความพยายามทั้งหมดพังทลายลงอย่างรวดเร็ว



    “ผม..ไม่ได้โกรธอะไร ฮยองอย่าใส่ใจเลย”

    “ไม่ได้ คือว่านะ...”

    “ครับ?”

    “ได้โปรดเถอะ......เลิกกับวิคตอเรียซะ ฮยอง..ไม่อยากให้คยูฮยอนพูดคำนั้นกับคนอื่น”

    “แต่ผม...ไม่ได้ครับ ผมรับคำขอที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้”

    “คยูฮยอนอา...”

    “มัน อาจฟังดูใจร้ายนะครับ แต่ผมจะพูดคำนั้นหรือประโยคนั้นกับวิคตอเรียเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเธอเป็นแฟน ผม แล้วฮยองล่ะครับ ฮยองเป็นอะไรกับผม?”

    “.....”

    “ตอบไม่ได้ ใช่ไหมล่ะครับ โอเค ผมชอบฮยองแบบมากกว่าพี่น้อง แต่นั้นก็นานมาแล้วจนผมอาจเข้าใจผิดไปเอง สองปีกว่านะครับนับจากช่วงเวลานั้น ผมเจ็บและเหนื่อยมาก ผม...”


    ประโยค มากมายที่พรั่งพรูออกมาจนหอบโยน ผมไม่สามารถสบกับนัยน์ตาที่ตั้งคำถามพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นริ้วจนปลาย นิ้วชา ความอึดอัดเพิ่มมากขึ้น ผมไม่สามารถพูดประโยคนั้นให้จบได้ ผมไม่กล้าเสี่ยงอีกแล้ว ภาพที่ซีวอนผิดหวังหรือแม้กระทั่งรอยยิ้มฝืดเฝื่อนยังคงไล่ตามมาในความฝัน ทุกคืน


    “ใช่..คำขอแบบนี้เห็นแก่ตัว แต่จะให้ฮยองทำยังไง? ปล่อยให้คยูฮยอนเป็นของคนอื่น ในขณะที่ฮยองยังไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ของเราให้เหมือนเดิมได้”

    “ฮยอง...พวกเราไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนะ ...พวกเรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ....”

    “พอเถอะคยูฮยอน”

    “ผม..หยุดนานแล้วฮยอง ...ผมหยุดอยู่ที่เดิมและเป็นน้องชายของฮยองมานานแล้วครับ”


    ในที่สุดน้ำตางี่เง่าก็กลั้นไม่อยู่อีกต่อไป หยดน้ำเล็กกลั่นตัวจากปลายหางตาและหยดลงที่ขอบแก้ม ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น เป็นเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างชาชิน...
    ทว่า..มืออุ่นที่เกลี่ยเช็ด น้ำตาบนผิวแก้มยิ่งเร่งให้น้ำตายิ่งไหล อยากเหลือเกิน ในสมองร้องให้ปฏิเสธความอบอุ่นนี่ซะ หากหัวใจกลับเรียกหาจนเจ็บปวด
    ทุกอย่าง บิดเกลียวจนเลือนรางราวกับความฝัน ความอบอุ่นที่เหมือนคมมีดกรีดสลักลงบนทุกความรู้สึก ผมถูกจับแก้มทั้งสองข้างและบังคับให้เผชิญหน้ากับซีวอนอย่างเลี่ยงไม่ได้


    “ขอโทษนะ ฮยอง ...ทำให้คยูฮยอนร้องไห้อีกแล้ว”

    “....ช่าง เถอะครับ ผมงี่เง่าเองและ อย่าทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงเลย ผมทนได้ครับ” สูดลมหายใจลึกและยิ้มตอบกลับเหมือนปกติ สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องมาทางผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมทำเพียงเมินหลบและเช็ดน้ำตาแรงๆ
    บทสนทนาในวันนี้ไร้สาระและวนเวียนกลับไปที่เดิมไม่รู้จบ

    “..เมื่อวานฮยองถามแทบินฮยอง พรุ่งนี้นายกลับโซลเหรอ?”

    “อ่าครับ วันนึง ผมมีเซ็นสัญญากับบริษัทโฆษณาของไทยน่ะครับ เห็นไหม~ ตอนนี้ผมดังจนเป็นพรีเซนเตอร์เดี่ยวได้แล้วนะ”

    “กลับด้วยกัน”

    “ครับ??”

    “พรุ่งนี้ฮยองไม่มีถ่ายละคร ว่าง”

    “ไม่ดีมั้งครับ”

    “เอาเถอะน่า เดี๋ยวโทรจองตั๋วเครื่องบินก่อน”

    “ตามใจครับ อ้างกับเมเนเจอร์ฮยองเองนะ อย่าลากผมไปยุ่งด้วยล่ะ ผมไม่ได้ชวนเลย”


    สุด ท้ายวันนั้นเราก็โดนสวดยับเพราะหายไปดื้อๆจนตามหากันวุ่นเพราะผมมีอัดรายการ ต่อตอนกลางคืน ระหว่างเดินทางผมไม่ได้นั่งข้างซีวอน ผมมานั่งข้างหลังคนเดียวเงียบๆและฟังเพลงไปตลอดทาง
    ทุกอย่างติดอยู่ตรง กลาง ไปต่อไม่ได้และไม่สามารถกลับจุดเริ่มต้นได้ ความสัมพันธ์ของผมกับซีวอนเป็นแบบนั้น ติดอยู่ตรงกลางโดยมีผมคนเดียวที่ทรมานกับหนทางที่มืดมิดเหล่านั้น








    “อ่า วิค วันนี้กลับโซล อื้อ..เหมือนพักวันนึงน่ะและนะ อ่า..เจอกันที่บริษัทก็ได้ โอเค..เจอกัน” ผมโทรไปหาวิคตอเรียเพราะไม่อยากอยู่กับซีวอนสองต่อสองแบบนี้ทั้งวัน

    “โทรหาวิคเหรอ?”

    “อ่าครับ”


    “เร็ว เข้า จะขึ้นเครื่องแล้ว” หางเสียงตวัดห้วนจนเกือบหลุดขำ ผมเองพยักหน้ารับส่งๆ แต่ว่าไอโฟนของผมถูกแย่งไปอยู่ในมือของซีวอน เจ้าตัวยิ้มอย่างคนชนะก่อนจะเก็บใส่กระเป๋ากางเกงและผลอยหลับเกือบจะทันที เพราะความเหนื่อยล้า
    รอยคล้ำใต้ดวงตาปรากฏชัด หลักฐานจากการทำงานหนัก ในมือทั้งสองยังคงถือบทละครที่ยับเยินเพราะปากกามาร์คเกอร์ขีดเน้นเต็มหน้า กระดาษ ผมค่อยๆดึงบทละครออกจากมือซีวอนก่อนจะยิ้มให้กับคนที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง

    “เราจะดำเนินความสัมพันธ์นี้ไปได้ต่อจริงๆน่ะเหรอครับ ผมไม่เห็นทางที่ฮยองจะเลิกรักสเตลล่าได้เลยนะครับ”

    ท้อง ฟ้าข้างนอกดูกว้างใหญ่จนรู้สึกสบายใจ เงาบางๆจากหน้าต่างสะท้อนให้เห็นดวงตาบวมช้ำ ใบหน้าซีดโทรมดูไม่ได้ ผมยิ้มให้เงาสะท้อน แต่ไม่ว่าเท่าไหร่ๆ ...รอยยิ้มของคนในหน้าต่างเศร้าเหลือเกิน...








    เมื่อ ล้อแตะสนามบินอินชอนก็มีรถจากบริษัทมารอรับ ส่วนซีวอนขอแยกไปเองเพราะไม่อยากเข้าบริษัทตอนนี้ ทันทีที่ผมเปิดไอโฟนสายเรียกเข้าจากวิคตอเรียโชว์บนหน้าจอ ผมช่างใจก่อนจะกดรับ


    “อ่า..ว่าไง ถึงแล้วกำลังอยู่บนรถอีกสักพักคงถึง .......ห้องซ้อมชั้นสาม? โอเค คุยเรื่องงานเสร็จแล้วจะขึ้นไปหา ...ก็...มากับซีวอนฮยองนั่นและ ไม่ๆ ..ไม่รบกวนเลย โอเค อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”


    การนัดคุยสัญญาดำเนินภายในเวลาสั้นๆ เมื่ออยู่ทักทายผู้บริหารจากไทยจนเสร็จสิ้นผมจึงออกมาเงียบๆและพาวิคตอเรียไปทานข้าวตามที่เธอขอเวลา ผมเห็นวิคตอเรียเหมือนผมเห็นตัวเองสะท้อนออกมา แววตาดีใจที่ปิดไม่มิดเวลาได้เจอยามอยู่ห่างกันนานๆหรือน้ำเสียงขึ้นจมูก ผมเป็นแบบนั้นล่ะ ...ผมยิ้ม ผมดีใจ
    แม้สุดท้ายจะรู้ว่าซีวอนเพิ่งกลับมาจากนิวยอร์กก็ตามที...




    หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมพาเธอไปดูหนังรอบดึกและวนรถกลับมาส่งเธอที่หน้าหอ

    “อ้าว ไม่กลับหอเหรอคยูฮยอน?”

    “อื้อ ..มีคนชวนไปดื่มด้วยน่ะ”

    “ซีวอนเหรอ?”

    “อือ ..ก็นะ”

    “...โอเค ยังไงก็ขอบใจนะที่มาตามคำชวนเอาแต่ใจของฉัน”

    เสียง เครื่องยนต์ยังคงกระหึ่ม หากภายในยังไร้การเคลื่อนไหวใดๆ วิคตอเรียจับสายรัดเข็มขัดแน่น ..ผมปล่อย ..ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในแบบที่เธอต้องการ
    ริมฝีปากของเราแตะกันเพียงชั่วครู่และผละออก ผมยิ้มให้กับเธอก่อนจะมองส่งเธอจนหายลับเข้าไปด้านใน..
    มันไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
    ..มัน เป็นจูบไร้ซึ่งเสน่หาใดๆ จูบเย็นชืดที่ผมเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทรมานขนาดไหน อดเปรียบกับจูบร้อนที่ได้รับบ่อยครั้งหากทุกครั้งในใจกลับลิงโลดด้วยความสุข จนใบหน้าเห่อแดง
    ชเวซีวอนมีอิทธิพลกับผมมากมายจริงๆ




    RRRRR


    “ครับ ฮยอง อีกแปป..ผมใกล้ถึงแล้วอีกพักนึงครับ อ่าห่ะ...ร้านเดิมๆผมรู้” ถอนหายใจหลังวางสายจากซีวอนที่ตอนนี้ดูเหมือนเมาหน่อยๆ ใจจริงตอนนี้อยากกลับบ้านนอนพักผ่อนเสียมากกว่าแต่น้ำเสียงเมาๆนั่น ..ทำให้ผมต้องไปหาเค้าจนได้ ใจอ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า..

    เทียบจอดรถที่ ริมสวนสาธารณะข้างๆ ในร้านเนื้อย่างเล็กๆเวลาเกือบตีหนึ่ง ในร้านมีเพียงโต๊ะของซีวอนที่ยังคงย่างเนื้อทานและขวดโซจูมากมาย ผมถอนหายใจก่อนเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้าม


    “ฮยอง ..เฮ้อออ เมาแล้ว กลับกันเถอะ เดี๋ยวผมไปส่งที่คอนโดฮยอง”

    “ไม่อาวว ดื่มก่อน ..อ๊ะ ฮยองรินให้” ใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังพยายามบังคับตัวเองรินโซจูให้ตรงกับแก้ว

    สุด ท้ายผมก็ต้องดื่มด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ครั้งนี้พวกเราดิ่มโดยไร้บทสนทนาใดๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่จะมีเสียงหัวเราะหรือท่าทางแปลกๆจากซีวอน
    นานมากแล้ว...สามปีก่อนได้..ตอนที่พวกเรายังไม่มีชื่อเสียง ตอนที่ผมยังเป็นแค่เด็กฝึกหัดและซุปเปอร์จูเนียร์ยังคงเป็นโปรเจ็คต์ ซีวอนชวนผมออกมาดื่มโซจูกันสองคน คืนนั้นพวกเราเมากันแทบไม่เป็นผู้เป็นคน แต่หากตื่นเช้ามาเรายังคงยิ้มให้กันปกติ ...ไม่เหมือนตอนนี้

    ภาระ หน้าที่มากมายทำให้เราไม่สามารถออกมาดื่มโซจูหรือหมูย่างที่เต็นท์ข้างทาง ได้อีก เหลือเพียงการดื่มไวน์และเปลี่ยนเป็นชื่นชอบรสชาติไวน์จนลืมรสขมเฝื่อนของโซจู....


    “นี่คยู..”

    “ครับฮยอง”

    “ไปนอนที่คอนโดเป็นเพื่อนฮยองหน่อย”

    “....ฮยองเป็นเด็กรึไง นอนคนเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง”

    “อื้อ.ถ้าคยูว่างั้นฮยองก็จะเป็นเด็ก”

    “เมาแล้วนะครับ”

    “ใช่เมา ..”


    สุดท้ายผมยอมแพ้และไปค้างที่คอนโดกับซีวอนจนได้ ระหว่างซีวอนหลับสนิทและละเมอจับใจความไม่ได้เป็นพักๆ ผมเอื้อมมือเปิดวิทยุ ..เผื่อเฉยๆน่ะ



    เผื่อสักนาที ..ซีวอนละเมอในบางสิ่ง บางชื่อ ที่ผมไม่อยากได้ยินออกมา...









    ตุ้บ!



    หงุด หงิดเล็กๆที่ต้องมาดูแลคนเมาแบบนี้ ผมจัดการเหวี่ยงซีวอนลงบนเตียงก่อนจะดึงถุงเท้ารองเท้าออกให้ ตอนแรกว่าจะทิ้งไว้ทั้งๆแบบนี้ แต่มันอดไม่ได้

    มันอดจะดูแลไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยได้เช็ดเนื้อเช็ดตัว ตอนนอนคงจะสบายตัวขึ้น ผมหยิบผ้าขนหนูสีขาวเปิดน้ำก๊อกและบิดไปมาให้หมาดสองสามที
    ไม่เคยจะต้อง ดูแลใครเพราะมีแต่คนมาเอาใจ ...แต่ซีวอนสอนผม ..สอนให้ผมดูแลคนอื่น สอนให้ผมรัก สอนให้ผมเสียสละ ..และสอนให้ผมชาชินกับความเจ็บปวด...


    “พอ แล้ว ผมง่วงแล้วนะฮยอง” เขวี้ยงผ้าขนหนูสีขาวลงข้างเตียงก่อนจะตกใจสุดขีดเมื่อคนที่คิดว่าเมาจนหลับ สนิทไปแล้วกระชากแขนจนลงไปนอนแอ้งแม้งบนเตียงทั้งคู่

    “นอนด้วยกันเนี่ยแหละ”

    “ไม่เอาอ่ะ ผู้ชายตัวเท่าควายเบียดกันบนเตียง ผมอึดอัด”

    “แต่ฮยองไม่อึดอัด”

    “นั้นฮยองนิ!”


    และ แน่นอน ผมแพ้ผู้ชายเอาแต่ใจคนนี้อีกครั้ง ผมนอนลงข้างๆ มองแผ่นอกที่ยกขึ้นลงสม่ำเสมอ ก่อนที่คนเคลิ้มหลับไปเมื่อครู่จะลืมตาขึ้นอีกครั้ง เราสองคนจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้น
    ผมรู้ดีว่าแบบนี้มันอันตรายแค่ไหน พวกเราสองคนอาจจะเผลอหวั่นไหวกับบรรยากาศ ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด ก็ถูกริมฝีปากทาบทับ ผมดิ้นเพื่อหลุดออกจากอ้อมแขนนี้หากแรงรัดมหาศาลทำให้ผมยอมจำนนอย่างไม่มี เงื่อนไข

    มันอาจจะเหมือนเดิม ..จบลงที่จูบเหมือนเดิม

    พวกเราสบตากันอีกครั้งก่อนผมจะเป็นฝ่ายหลับตาลงและปล่อยให้หัวใจเป็นผู้นำ...






    คืนนั้นพวกเราจบลงที่เซ็กส์ขมๆ เสียงหอบหายใจถี่ระรัว เสียงกลั้นแรงอารมณ์


    สุดท้ายผมผล็อยหลับไป ผมฝันว่า ...เราได้รักกัน...




    เช้าวันถัดมา ผมแต่งตัวและจับไฟล์ทเช้าที่สุดกลับไต้หวันโดยไม่บอกลาอีกฝ่ายที่ยังหลับสนิท...








    ตื่นขึ้นมาตอนเช้าหากควานหาคนข้างๆกลับไร้ซึ่งคนนอนเคียงข้าง เหลือเพียงรอยอุ่นบางเบาพร้อมโน้ตบนกระดาษสีขาวเล็กๆ



    “ผมกลับไต้หวันก่อนนะครับ เมื่อคืนให้ถือว่าเราเมา ผมไม่เป็นไรครับ”



    ขย้ำโน้ตแผ่นสีขาวทิ้งด้วยความหงุดหงิด


    “จะ รอกันไม่ได้เลยหรือไงนะ รออีกนิด........” ทรุดนั่งข้างเตียงและยกมือขึ้นกุมขมับอย่างหมดหนทาง ซีวอนรู้มาตั้งนานแล้วว่าคิดกับคยูฮยอนเช่นไร ก่อนที่คยูฮยอนจะรู้ตัวเสียอีกล่ะมั้ง





    ชเวซีวอนน่ะ”รัก”โจคยูฮยอนมานานแล้ว










    TO BE CONTINUED





    กำลังทะยอยเอามาลงนะค้า :)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×