คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #135 : ♡ Time Lapse (Chapter 4)
“จุนมยอน.. จุนมยอน..”
“คนเก่งตื่นได้แล้ว..”
“อืม..”
คนตัวเล็กบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงกว้าง
เขาเห็นแสงรำไรจากหน้าต่างส่องเข้ามากระทบดวงตา ได้กลิ่นกายอ่อนๆ
จากคนที่ตนนอนกอดเมื่อคืน
ขณะที่กำลังบิดขี้เกียจอยู่นั้นจุนมยอนก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของลำแขนแกร่งที่กำลังกอดเขาแถมยังแอบตบก้นกลมเบาๆ
“อื้อ อย่าตีครับ”
“ตื่นเร็ว วันนี้วันหยุดนะ.. เราจะนอนอยู่ในห้องทั้งวันไม่ได้”
“แต่ผมเหนื่อย ไม่อยากออกไปไหนเลยครับ
อยากนอนอยู่บนเตียงทั้งวันแล้วก็อ่านการ์ตูนไปเรื่อยๆ”
จุนมยอนพลิกตัวไปหาชายร่างสูงเพื่อร้องขอ เปลือกตานั้นยังปิดอยู่
ขณะที่เรือนผมนั้นถูกลูบไล้เบาๆ ไปมา
“ถ้านายอยากอยู่บนเตียงทั้งวันฉันก็จะให้อยู่
แต่ฉันจะไม่ให้อ่านการ์ตูนหรอกนะ นายน่ะติดโทรศัพท์มากเกินไปแล้ว
เพราะงั้นฉันจะพานายทำอย่างอื่นที่มันสนุกมากกว่าการอ่านการ์ตูนแทน อย่างเช่น.. การทำให้นาย..
เหงื่อออกและร้องครางอยู่บนเตียง”
พูดพลางใช้มือขยำก้นเด็กน้อยด้วยความหมั่นเขี้ยวจนจุนมยอนต้องรีบลืมตาและดันตัวร่างสูงให้ออกห่างจากเขา
“คุณนี่ทะลึ่งอีกแล้วนะ!” เด็กน้อยทำปากยื่น
เขาดึงผ้าห่มออกจากลำตัวเพราะต้องการกลบเกลื่อนความเขินอายที่กำลังแสดงออกมาผ่านสีหน้าแดงๆ
ปนงัวเงียของเขา
“ถ้าไม่อยากให้ฉันทะลึ่งก็ต้องลุก”
“แล้วเราจะไปไหนกันเหรอครับ? ขอไปที่ที่ใกล้ๆ
ได้ไหม? ผมต้องกลับมาทำการบ้านอีกนะ”
“งั้นนายก็ลองเลือกดู ฉันไปได้หมดนั่นล่ะ
ขอแค่ได้ไปกับนายก็พอ”
“ให้ผมเลือกงั้นเหรอ? ทั้งๆ
ที่คุณเป็นคนชวนผมออกไปเนี่ยนะ”
“อืม ฉันต้องการไอเดียจากนายเพราะฉันไม่รู้ว่าสมัยนี้เด็กวัยรุ่นเขาไปเที่ยวที่ไหนกัน”
“อ่า..”
วันนี้เป็นวันหยุดของจุนมยอนและคริส
เด็กน้อยไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟ
คริสเองก็ไม่ต้องเข้าบริษัทไปเจอความวุ่นวายชวนปวดหัว
เช่นนั้นแล้วคนทั้งสองจึงพากันหากิจกรรมทำกันในช่วงดึก อย่างเช่น การดูภาพยนตร์จาก
Netflix และการอบป๊อบคอร์นในไมโครเวฟก่อนจะนำมันขึ้นมากินบนเตียง
อันที่จริงคริสไม่ชอบให้มีกลิ่นอาหารในห้องนอน
ไม่ชอบการเอาอาหารมากินบนเตียงเพราะกลัวจะเปรอะเปื้อน
แต่ในเมื่อจุนมยอนออกปากขอ.. มีหรือที่ร่างสูงจะไม่ใจอ่อน
“ไปสวนสนุกกันไหมครับ?”
“สวนสนุกงั้นเหรอ?”
“อื้ม ผมไปครั้งสุดท้ายตอนอยู่ม.ปลายปี 2 นี่ก็เกือบ 4 ปีแล้วที่ผมไม่ได้ไปทำอะไรแบบนั้น..”
“ของนายแค่ 4 ปี แต่ของฉัน.. สิบกว่าปีแล้วมั้ง ครั้งสุดท้ายที่ไปก็คือตอนโดนส่งไปเรียนซัมเมอร์ที่แคลิฟอร์เนียเพราะว่าแม่…”
“…”
“…” ช่วงคำของคริสขาดไป
ทำให้เด็กน้อยที่กำลังตั้งใจฟังอยู่นั้นชะงักไปเช่นกัน
เขายังคงรอฟังว่าคริสจะพูดอะไรต่อ แต่ร่างสูงกลับส่งรอยยิ้มจางๆ
ก่อนจะตัดบทและลุกออกจากเตียงนุ่มหลังกว้าง “ช่างเถอะ ไปอาบน้ำซะ
ฉันทำอาหารเช้ารอนายไว้แล้ว เห็นบ่นว่าอยากลองกินเบรกฟาสต์แบบอังกฤษมานานแล้ว
ก็เลยลุกมาทำให้”
“จริงเหรอครับ? งั้นผมจะรีบอาบแล้วจะรีบไปกินนะ”
“ให้ไวเลย แต่ก่อนจะไป..”
ร่างสูงยกมือขึ้นชี้นิ้วไปที่แก้มสากของเขา
ทำให้เด็กหนุ่มซึ่งรู้งานอยู่แล้วรีบสะบัดผ้าห่มผืนหนาออกจากกายและรีบลุกออกไปให้รางวัลร่างสูงด้วยการจูบแก้มของเขาทันที
“ขอบคุณนะครับ”
“อืม เจอกันที่โต๊ะอาหารนะ”
- - - - - - - - - - - - - - -
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนทีเดียว
ทำเอาคนที่กำลังยืนรอเครื่องเล่นเหงื่อหยดกันเป็นแถบ รวมไปถึงจุนมยอนและคริส
จนในที่สุดจุนมยอนก็ยอมแพ้การต่อคิวที่ยาวกว่าสองชั่วโมงในที่สุด เขาพาคริสเดินออกมานั่งพักพร้อมกับแฮมเบอร์เกอร์ในมือและน้ำอัดลมแก้วใหญ่หนึ่งแก้ว
เด็กน้อยกัดแฮมเบอร์เกอร์ของเขาทั้งๆ
ที่แก้มยังตุ่ยจากมะเขือเทศและผักกาดจากคำก่อนหน้านี้
ในขณะที่คริสกินของตัวเองหมดเรียบร้อยแล้ว
เขาหยิบแก้วน้ำอัดลมลายน่ารักที่จุนมยอนเป็นคนเลือกขึ้นมาดื่ม
ก่อนจะส่งให้เด็กน้อยดูดน้ำจากหลอดด้วยเพราะเกรงว่าเจ้าแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตอาจทำให้ติดคอได้
“ฉันหวังว่าเราคงจะไม่ต้องไปต่อคิวรอเครื่องเล่นอีกแล้วนะ”
“ไม่ไปแล้วครับ กว่าจะถึงคิวเราผมคงได้เป็นลมก่อน
วันนี้คนเยอะชะมัด.. รู้อย่างนี้ผมชวนคุณไปเดินเล่นที่อื่นดีกว่า”
“บางทีเราควรมาที่นี่ตอนฤดูหนาวมากกว่า
ฉันมั่นใจว่าทุกคนต้องยอมแพ้ในการต่อคิวท่ามกลางอากาศหนาวๆ แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นเราคงได้ไข้หวัดกลับไปบ้านพร้อมกับแก้วน้ำลายลิมิเต็ดอิดีชั่นนี่”
“ก็คงงั้น” คริสหัวเราะเบาๆ
ยื่นกระดาษเช็ดหน้าไปซับเหงื่อให้คนข้างกาย
สังเกตเห็นว่าไรผมของจุนมยอนกับหมวกใบสีขาวนั่นเปียกแฉะเป็นอย่างมาก
“ขอโทษนะครับที่พามาเสียเวลากับอะไรแบบนี้”
จุนมยอนพูดขึ้นมาอีกหน
ก่อนหน้านี้เขาพูดมันแล้วตอนที่กำลังจูงคริสเดินออกมาจากคิวอันยาวเหยียดหน้าเครื่องเล่นที
เอ็กซ์เพรส ซึ่งร่างสูงเองก็บอกว่าไม่เป็นไร
แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกผิดจะติดอยู่ในหัวของจุนมยอนอยู่ตลอด
แม้ว่าพวกเขาจะติดสินใจที่จะไม่ไปต่อแถวเล่นอย่างอื่นอีกแล้วก็ตาม
“เฮ้ ฉันบอกว่าไม่เป็นไรน่า
อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้รูปสวยๆ นะ อย่างที่บอกว่าฉันไม่ค่อยได้ถ่ายรูป
เพราะงั้นฉันคงต้องขอบคุณนายที่พามาทำอะไรแบบนี้ นอกจากจะได้ถ่ายรูปกับนายแล้วมันก็ยังเหมือนได้ปลดปล่อยเลย
ฉันเองก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งฉันจะได้กลับมาที่สวนสนุกแบบนี้อีก.. ขอบใจนะ”
“…” จุนมยอนเม้มปาก
พับกระดาษห่อแฮมเบอร์เกอร์ลงเป็นชิ้นเล็กๆ
ก่อนจะจัดการเก็บมันลงในถุงเพื่อนำไปทิ้ง แต่ ณ วินาทีนั้น
มือเรียวของเขาก็ถูกยกขึ้นมาเช็ดคราบซอสให้โดยที่ตนเองไม่ได้ร้องขอ
หากแต่คริสยินดีที่จะดูแลทุกสรรพสิ่งให้ร่างเล็กด้วยตัวเอง
จุนมยอนไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่จำความได้
ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งเขาจะได้มานั่งอยู่ข้างๆ ใครบางคนที่พร่ำบอกรักเขาทุกวัน
ทั้งยังเป็นห่วงจุนมยอนตลอดเวลา ไม่เคยคิดจะห่างร่างเล็กไปไหนราวกับกลัวจะถูกพราก
ต่อให้ไม่ได้กลับมาเจอกันที่บ้านของคริสหรือที่ห้องพักของจุนมยอน
คริสก็ยังคงโทรหาร่างเล็กเป็นประจำทุกวัน.. เขาขอแค่ให้ได้ยินเสียงก่อนนอนก็ยังดี
คริสทำให้จุนมยอนตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน
คนตัวเล็กพยายามหาเหตุผลว่าทำไมคริสถึงได้เลือกที่จะมาตกลงคบกับคนอย่างเขา
เขาแทบไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ในแวดวงสังคมของคริส
แต่ร่างสูงกลับเลือกเขาและยังเอาแต่เรียกร้องหาจุนมยอนในทุกๆ วัน
เช่นนั้นแล้วตลอดเวลาที่นาฬิกาหมุนไป.. จุนมยอนจึงได้แต่พยายามหาคำตอบ
แม้ว่าคริสจะยืนยันชัดเจนแล้วก็ตาม
“ตอนเช้าที่คุณบอกว่าคุณถูกส่งไปแคลิฟอร์เนียตอนช่วงซัมเมอร์
ดูเหมือนว่าคุณกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่คุณกลับหยุดมันเอาไว้ก่อน”
“…”
“มันคืออะไรเหรอครับ? พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม?”
“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าฟังเท่าไหร่
นายอย่าสนใจมันเลยนะ.. เช็คตารางขบวนพาเหรดซะ
ฉันจะได้จองร้านอาหารให้เราสองคนสำหรับดินเนอร์คืนนี้” คริสตัดบทอีกหน
เขาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาทำเป็นเปิดอีเมล์เพื่อหลบเลี่ยงสายตาจากจุนมยอน
“เราแค่ซื้ออะไรง่ายๆ ไปทานที่บ้านไม่ได้เหรอฮะ?
ผมไม่อยากไปนั่งทานในที่ที่คนเยอะเท่าไหร่”
“…”
“ผมไม่ชินกับร้านหรูๆ ที่คุณเลือก”
“แล้วทำไมไม่บอกกันตั้งแต่แรกหื้ม?
ฉันจะได้ไม่พานายไปตั้งแต่แรก”
“ก็ผมไม่อยากทำให้คุณลำบากนี่”
“เด็กน้อย.. สำหรับนาย.. ไม่เคยมีคำว่าลำบากหรอกนะ ฉันให้นายได้ทุกอย่างแล้วแต่สิ่งที่นายจะขอ
ขอแค่พูดมันออกมา.. แค่นี้ฉันก็พร้อมที่จะทำให้หรือหามาให้ทันที”
ร่างสูงหันมาลูบศีรษะคนตัวเล็กอย่างเบามือพลางส่งรอยยิ้มจางๆ ให้
โทรศัพท์ของเขาสั่นเตือนจากอีเมล์ฉบับใหม่ 2-3 ฉบับที่เข้ามาในอีเมล์ส่วนตัว
แต่ร่างสูงไม่อยากจะสนใจมันนักหรอก..
“งั้นคุณก็ตอบผมสิว่าทำไมตอนนั้นคุณถึงเงียบไป
แถมยังไล่ให้ผมไปอาบน้ำอีก.. มีอะไรก็บอกผมสิครับ
คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนเป็นแฟนกันมีอะไรก็ต้องบอกกันให้อีกฝ่ายรับรู้เพื่อความไว้วางใจ
แต่คุณกลับไม่ยอมพูดกับผมเองเสียอย่างนั้น”
“…”
คริสละสายตาออกและเปลี่ยนไปมองที่ม้าหมุนขนาดใหญ่แทนที่จะมองหน้าเด็กหนุ่ม
เขาหลบสายตาคนตัวเล็กเป็นครั้งที่ 3 ของวันนี้
ซึ่งมันทำให้จุนมยอนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“ฉันคิดว่าเราไม่ควรมาทะเลาะกันในวันออกเดทนะ”
“…”
“…”
จุนมยอนเงียบแม้ว่าสีหน้าของเขาจะแสดงความน้อยใจเล็กๆ ออกมา
คริสเองก็เห็นว่าจุนมยอนกำลังรู้สึกอย่างไร
แต่เขาเองก็เลือทกี่จะเงียบเพราะเขาไม่อยากตอบคำถามนี้
ดังนั้นเมื่อต่างฝ่ายต่างเงียบและไม่พูดอะไรต่อกันมันจึงมีโอกาสที่จะไปได้สูงมากในการมีปากเสียงกัน
ซึ่งคริสไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น.. เขาไม่ชอบการมีปากเสียง
การตะหวาด ตะคอก เดินหนีหรือแม้แต่ทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านเพียงลำพัง
ร่างสูงจึงยุติความเงียบนั้นลงด้วยการเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบเด็กน้อยจนเกิดเสียง
ก่อนจะจูงมือจุนมยอนให้ลุกขึ้นตามและพาเดินออกไป “ไปกินไอติมกัน”
คนทั้งคู่ใช้เวลาค่อนวันอยู่ในสวนสนุก
พวกเขาสนุกกันมากแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเล่นก็ตาม
คนแก่ซึ่งแบกภาระงานมาทั้งชีวิตก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยและเหมือนได้กลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
คริสก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวันนี้เขายิ้มออกมากี่ร้อยรอบกันแน่
จำได้แต่ว่าเขารู้สึกมีความสุขมากๆ ที่ได้ใช้เวลาอยู่กับจุนมยอนแบบนี้
ขณะเดียวกันคนที่สนุกที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นจุนมยอน
เพราะเจ้าตัวเป็นคนเลือกสถานที่นี้เอง
เด็กน้อยเก็บรูปของสวนสนุกเอาไว้หลายต่อหลายภาพ
แม้ว่าจุนมยอนจะไม่ได้มีกล้องราคาแพงให้เห็นภาพ
แต่เด็กหนุ่มก็อาศัยการจัดมุมด้วยความรู้พื้นฐานที่เรียนรู้มาด้วยตัวเองและใช้กล้องจากโทรศัพท์ถ่ายเอา
ภาพทุกภาพจึงออกมาดีมาก บวกกับเมื่อปรับแต่งให้ได้โทรสีที่ชอบแล้ว
ก็นับว่าไม่น้อยหน้าช่างภาพมืออาชีพเลย
แน่นอนว่าจุนมยอนถ่ายรูปของคริสเอาไว้ด้วย
คนเรานั้นมีเหตุผลอยู่ไม่กี่อย่างหรอกที่จะถ่ายรูปของ ‘แฟน’ เก็บเอาไว้
ซึ่งจุนมยอนเลือกที่จะถ่ายรูปคริสเพราะเขาจะได้เก็บเอาไว้ดูยามคิดถึง
อีกอย่างพอได้ยินร่างสูงบอกว่าไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่
ร่างเล็กจึงตั้งใจถ่ายมากกว่าเดิมเพื่อให้คริสมีรูปสวยๆ เก็บเอาไว้บ้าง
ทีแรกคริสดูจะเขินกล้องนิดหน่อย เขาไม่ค่อยกล้ายิ้มออกมา
รูปที่ได้จึงเหมือนราวกับกำลังถ่ายรูปติดบัตร
แต่หลังจากนั้นจุนมยอนก็ช่วยทำให้คริสช่วยผ่อนคลายมากขึ้นด้วยการจับร่างสูงมาถ่ายรูปคู่กันเสียเลย
ขณะนี้เป็นเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว อีก 5
นาทีขบวนพาเหรดของสวนสนุกก็จะพากันเดินออกมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนกลับบ้าน
ขณะที่กำลังยืนรอจุนมยอนจึงยืนแต่งรูปในโทรศัพท์ไปพลางๆ
โดยมีคริสยืนลอบสังเกตอยู่ใกล้ๆ
“ฉันซื้อกล้องให้เอาไหม?”
“ห๊ะ? อ๋อ.. ไม่ต้องหรอกครับ
จะซื้อให้ทำไมกันผมไม่ได้อยากได้สักหน่อย ถึงอยากได้ก็ไม่ให้คุณซื้อหรอก”
“ก็เห็นชอบถ่ายรูป เลยคิดว่าถ้ามีกล้องดีๆ
สักตัวรูปมันอาจจะสวยมากกว่านี้”
“ใช้โทรศัพท์ถ่ายก็ได้ครับ
ยังไงรูปมันก็ต้องเอามาแต่งใหม่อยู่ดีนั่นล่ะ”
“แล้วแต่” คริสพยักหน้าในขณะที่กำลังกอดอก
เขามองดูจุนมยอนปรับเปลี่ยนตั้งค่าสีต่างๆ ขณะที่กำลังแต่งรูป
ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงทรัมเป็ตเป่าต้อนรับขบวนพาเหรดที่กำลังยกทัพออกมา เด็กน้อยจึงละสายตาออกจากโทรศัพท์ก่อนจะเปลี่ยนไปสนใจขบวนพาเหรดตรงหน้า
เสียงเพลงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณของสวนสนุก
ผู้คนที่กำลังจับจองพื้นที่ทั้งทางซ้ายและทางขวาต่างพากันโบกมือและส่งเสียงต้อนรับขบวนพาเหรด
เด็กๆ กระโดดโลดเต้นดีใจยกใหญ่ที่ได้เห็นเจ้าหญิงและตัวการ์ตูนในดวงใจของพวกเขา
เหล่าตัวละครน่ารักโบกมือกลับไปให้เด็กๆ พวกนั้นอย่างเป็นมิตรเช่นกัน
กระดาษโปรยและคอนเฟตตี้หลากสีร่วงโรยลงมาเพื่อสร้างสีสันให้กับสวนสนุกแห่งนี้
แสงสีต่างๆ ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ
ยิ่งทำให้บรรยากาศของค่ำคืนนี้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น
จุนมยอนเผยรอยยิ้มกว้างเพราะความประทับใจที่กำลังก่อตัว
เขาไม่เคยเห็นขบวนพาเหรดแบบนี้มานานมากแล้ว
คนอื่นอาจมองว่ามันไม่สมวัยกับจุนมยอนเลยสักนิด
แต่เด็กหนุ่มยังคงตกหลุมรักสวนสนุกและความตื่นเต้นเช่นนี้อยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ในขณะที่จุนมยอนกำลังมีความสุขอยู่กับกองทัพตัวการ์ตูนด้านหน้า
คริสเองก็กำลังมีความสุขกับคนตรงหน้าไม่แพ้กัน
นับวันจุนมยอนยิ่งทำให้หัวใจของเจาเต้นแรงมากขึ้น
ยิ่งมองหน้าทีไรยิ่งอยากจะดึงมากอดทุกที อยากจะกอดรั้งเอาไว้ไม่ให้หายไปไหน
หรือบางทีถ้าหากต้องหายไป.. ก็ขอให้หายไปด้วยกันในที่ใดที่หนึ่งที่ไม่มีใครตามเขาสองคนเจอ
คริสไม่สนว่าจุนมยอนจะมาจากที่ไหนหรือเคยทำอะไรมาก่อน
เขาสนแต่ความรักที่จุนมยอนมอบให้เขาทุกวันไม่เคยขาดหาย
ทำให้ชายคนนี้เรียนรู้ที่จะตอบแทนความรักของจุนมยอนขึ้นมาบ้าง
จากที่ไม่เคยลุกมาทำอาหารเช้าให้ใครก็กลายเป็นต้องลุกขึ้นมาทุกครั้งที่จุนมยอนมานอนค้างด้วย
จากที่ไม่เคยโทรหาใครก่อนก็จำเป็นต้องโทรหาทุกครั้งหรือไม่ก็ต้องนั่งรอสายจากจุนมยอนก่อนแล้วจึงจะเข้านอนได้
คริสกล้ายืนยันว่าบนโลกนี้คงไม่มีใครบ้าเท่าคริสอีกแล้ว.. จะมีสักกี่คนที่ทนความคิดถึงไม่ไหวจนต้องขับรถออกจากเพ้นท์เฮ้าส์ตอนตี
1 และไปเคาะประตูห้องอีกคนเพียงเพราะคิดถึงกลิ่นกายหอมๆ
คริสเคยได้ยินมาว่า ‘คนเราต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ตาม
แต่แค่เราได้กลับมาเห็นหน้าคนที่เรารัก.. แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว’
คริสไม่เคยพิสูจน์ได้ว่ามันจริงเท็จแค่ไหนเพราะเขาไม่เคยมีคนรักมาก่อน
จนกระทั่งวันนี้ที่มีจุนมยอนมาอยู่ข้างกาย.. ร่างสูงจึงพิสูจน์ได้แล้วว่าคำพูดนี้คือเรื่องจริงทั้งหมด
ขณะที่พาเหรดกำลังเคลื่อนขบวนผ่านไป
บนท้องฟ้าก็ปรากฏแสงสีจากดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ มันสวยงามจนทำให้คริสใจเต้นแรง
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าแค่ดอกไม้ไฟจะทำให้คนๆ หนึ่งรู้สึกประทับใจได้มากขนาดนี้
ร่างสูงเผลอส่งรอยยิ้มออกมา..
คืนนี้คริสมีความสุขมากๆ
มีความสุขจนอยากจะพาจุนมยอนหนีไปให้ใกล้ๆ
และไม่ต้องกลับมาเจอความวุ่นวายในชีวิตอีก
ร่างสูงมองเห็นตัวเล็กยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า
เช่นนั้นแล้วจึงดึงร่างเล็กให้ขยับมาใกล้กันก่อนที่มือหนาจะเข้าประคองใบหน้าจิ้มลิ้มนั่นมาจุมพิตท่ามกลางความสวยงามของค่ำคืนนี้
ราวกับโลกหยุดหมุนไป ความเคลื่อนไหวต่างๆ หยุดลง
หูทั้งสองข้างที่เคยได้ยินนั้นดับจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของผู้คนและทรัมเป็ตที่กำลังเป่าบรรเลงเพลง
คนทั้งสองตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขเช่นเดียวกัน คริสประคองท้ายทอยของจุนมยอนเอาไว้เพราะเขาบดจูบเด็กน้อยค่อนข้างแรงพอสมควร
ทำเอาจุนมยอนผงะไปนิดหน่อยแต่ก็ยังมีมือของคริสคอยช่วยประคอง
มันเป็นจูบที่คริสไม่อยากจะให้จบลงเพียงแต่เท่านี้
แต่สุดท้ายร่างสูงก็จำต้องละออกก่อนจะดึงเด็กน้อยมาซบอกแกร่ง
ตอนนั้นเองที่หูของจุนมยอนเริ่มจะได้ยินเสียงอะไรๆ ขึ้นมาบ้าง
ทำให้เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่กำลังเป่ารดใบหู
ส่วนอีกข้างที่กำลังแนบอยู่กับอกของคริสก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นโครมครามจนจุนมยอนเผลอหัวเราะออกมาเบสๆ
“ฉันรักนายนะ”
- - - - - - - - - - - - - - -
มื้อเย็นวันนี้เป็นไปตามที่จุนมยอนขอ
พวกเขาซื้อไก่ทอดไซส์ L มาทาน โดยคริสเลือทกี่จะทานมันคู่กับเบียร์เย็นๆ
ในขณะที่จุนมยอนก็ยังคงเลือกน้ำอัดลมมาเป็นเครื่องดื่มเช่นเคย
ความหิวโซทำให้พวกเขาซัดทุกอย่างจนเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที
จุนมยอนอาสาจะเป็นผู้ล้างจานสำหรับมื้อนี้เอง เขาจึงง่วนอยู่กับฟองน้ำและจานสองสามใบในอ่าง
ในขณะที่คริสกำลังอยู่บนโซฟาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ในมือถือเบียร์กระป๋องที่สอง
สายตาจับจ้องไปยังรายการในโทรทัศน์
“จะอาบน้ำเลยไหมครับ?”
“ขอดื่มเบียร์ให้เสร็จก่อนแล้วจะตามไปนะ”
คริสหันไปตอบเด็กหนุ่มที่กำลังเช็ดมือกับเสื้อของเขา ตอนนี้จุนมยอนเปลี่ยนมาใส่กางเกงขาสั้นเพราะอึดอัดกับเจ้ากางเกงยีนส์ที่ตนใส่มาทั้งวัน
ทำให้คริสมองเห็นรอยแผลจางๆ บนหัวเข่าของจุนมยอน
แต่ถึงอย่างนั้นคริสก็เลือกที่จะละสายตาออกเพื่อให้ตัวเองเลิกสนใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับความรุนแรง
เมื่อคริสขอเวลาในการดื่มเบียร์ จุนมยอนจึงเดินกลับเข้ามาในห้องที่มีไว้เก็บเสื้อผ้าของร่างสูง
เขาตรวจเช็คดูว่ายังมีเสื้อเชิ้ตตัวไหนอีกบ้างที่ยังไม่ได้รีดให้เรียบร้อย
ปรากฏว่าทุกชิ้นนั้นถูกรีดเอาไว้ให้พร้อมใส่หมดแล้ว
แต่ในขณะที่จุนมยอนกำลังจะปิดบานประตูลง เขากลับมองเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งตกอยู่บนพื้นของตู้เสื้อผ้า
มันถูกพับเอาไว้แต่จุนมยอนก็เลือกที่จะหยิบมันขึ้นมา
‘ใบส่งตัวไปยังสถานบำบัด NA’
ด้วยความไว.. เด็กหนุ่มกลับเปิดมันออกเพื่ออ่านเนื้อความในกระดาษแทนที่จะเอามันไปให้กับคริส
‘ผลการวินิจฉัยพบว่านายคริส
วูมีภาวะซึมเศร้าจริง และต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังตรวจพบภาวะเครียด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย
มีปัญหาทางด้านการนอนหลับเป็นระยะ ความดันโลหิตสูง
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดในเรื่องเพศและการใช้ความรุนแรงขณะมีเพศสัมพันธ์
จากอาการข้างต้นคลินิกจึงมีความเป็นที่จะต้องส่งตัวคนไข้ไปยังสถานบำบัด NA เพื่อรักษาต่อในขั้นต่อไป’
จุนมยอนกวาดสายตาอ่านข้อความทุกบรรทัดอีกรอบ
โดยเฉพาะประโยคท้ายๆ ของเนื้อความทั้งหมด เขาขมวดคิ้วแน่นหลังจากที่อ่านทุกอย่างจบ
แม้ว่าเนื้อความนั้นจะชัดเจนมากพอแล้วกระตาม แต่จุนมยอนก็ยังคงไม่เข้าใจและยังคงต้องการความกระจ่าง
จดหมายใบส่งตัวนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 2 วันก่อนเท่านั้น
นั่นแปลว่าตอนนี้คริสกำลังเผชิญอยู่กับบางสิ่งบางอย่างโดยปกปิดจุนมยอนเอาไว้ไม่ให้ร่างเล็กรู้
คำพูดของจงแดที่เคยเตือนจุนมยอนก่อนหน้านี้วิ่งวนไปมาในหัว
ข้อความในกระดาษตรงกับที่จงแดพูดแทบจะทุกอย่าง
แต่ตอนนั้นจุนมยอนไม่ได้ปักใจเชื่อเพราะคริสไม่เคยแสดงอาการเหล่านั้นให้เขาเห็น
มาวันนี้ได้เห็นใบรับรองจากแพทย์แล้ว แต่เด็กน้อยก็ยังคงไม่เชื่ออย่างสนิทใจอยู่ดี..
คนตัวเล็กจึงตัดสินใจเปลี่ยนจุดหมายจากห้องน้ำไปเป็นห้องรับแขกที่มีร่างสูงนั่งดูทีวี
เขาเดินออกไปพร้อมกับกระดาษในมือก่อนจะเดินไปบังจอโทรทัศน์ของคริส
เจอกันที่ไบโอเช่นเดิมค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - -
เช้าวันถัดมา
วันนี้คริสตื่นก่อนจุนมยอนอีกแล้ว เขาลุกขึ้นจากเตียงและไม่ลืมที่จะคลุมกายของเด็กน้อยด้วยผ้าห่มผืนหนา
จัดการจูบแก้มจุนมยอนอีกครั้งก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน
ทั้งยังต้องเตรียมอาหารเช้าให้กับเจ้าเด็กน้อยบนเตียงด้วย
ดูท่าวันนี้จุนมยอนคงจะไปเรียนไม่ไหว
เพราะคืนทั้งคืนเขานอนราบในท่าปกติไม่ได้เนื่องความเจ็บบนก้นทั้งสอง
เด็กน้อยผู้แสนน่าสงสารจึงได้แต่นอนตะแคงกอดคุณคริสเอาไว้ทั้งคืน
ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ได้นอนตอนเกือบตี 2 เพราะเขาต้องรอให้จุนมยอนหลับอยู่ในท่าที่สบายที่สุดก่อนจะต้องลุกมาทำความสะอาดกายส่วนล่างให้คนตัวเล็กเพราะอยากให้นอนอย่างสบายตัว
หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วก็ยังหลับไม่ลงเพราะในหัวนั้นมีเรื่องต่างๆ
ให้คิดมากมายเหลือเกิน
สุดท้ายก็ต้องลุกออกจากเตียงมาอีกรอบเพื่อมากินยาคลายเครียดให้ตัวเองนอนหลับอย่างสนิทอย่างที่ควรจะเป็น
“จุนมยอนนา..”
“หืม?”
“อาหารเช้าเสร็จแล้ว ลุกไหวไหม?”
“ไม่ไหวฮะ” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
คริสที่กำลังโน้มตัวอยู่ข้างเตียงตัดสินใจนั่งลงและยื่นมือไปอังแก้มกับหน้าผากของจุนมยอน
“นายเป็นไข้แล้วล่ะ ตัวร้อนเชียว”
“ผมคงไปเรียนไม่ไหวแล้ว วันนี้ผมขออยู่ห้องคุณนะ”
“ได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้นายต้องกินข้าวกินยาก่อนน่ะสิ ไม่อย่างนั้นไข้คงไม่ลดแน่ๆ”
“ผมลุกไม่ไหว”
จุนมยอนร้องบอกก่อนจะลืมตามามองร่างสูง
แน่นอนว่าตาของเขายังคงบวมจากการร้องไห้เมื่อคืน
แผลตามร่างกายเริ่มจะแสดงอาการเจ็บปวดมากขึ้นจนจุนมยอนไม่อยากขยับไปไหน
“เอามากินในนี้ได้ไหมฮะ? ผมลุกไม่ไหวจริงๆ”
“ฉันก็ว่าจะเอามาป้อนนายในนี้อยู่พอดี
งั้นรอแป๊บนึงนะ”
คริสลุกออกไปจากห้องนอนเพื่อนำเอาอาหารเช้าที่เขาทำมาให้จุนมยอน
กายสูงอยู่ในชุดพร้อมไปทำงานเรียบร้อยแล้ว
และคาดว่าซูฮยอกเองก็น่าจะมารออยู่ที่หน้าตึกแล้วเช่นกัน
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะต้องหยุดงานเพื่ออยู่เป็นเพื่อนใครบางคนแล้วล่ะ
“มาแล้ว”
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหารซึ่งมีถ้วยซุปและข้าวผัดอย่างง่ายๆ
ถูกเสิร์ฟคู่กัน คริสวางมันเอาไว้กับโต๊ะเล็กข้างเตียง
ก่อนจะเบนตัวไปช่วยพยุงให้จุนมยอนลุกขึ้นนั่งบนพื้นฟูกนุ่ม
“ฮื่ออ เจ็บจังเลย” เจ้าลูกแมวย่นจมูก
“ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ ฉันคง.. หนักมือไปหน่อย”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องโทษตัวเอง.. ก็ผมอยากลองเองนี่นา”
จุนมยอนเบ้หน้าในขณะที่คริสกำลังจัดแจงหมอนใบเขื่องให้มารองหลังของเด็กหนุ่มเอาไว้
“จะกินเองหรือจะให้ฉันป้อน”
“ผมกินเองได้ครับ แล้วคุณล่ะกินเสร็จแล้วเหรอ?”
“อืม ฉันเรียบร้อยแล้วล่ะ
กะว่าจะมาปลุกนายให้มากินข้าวกินยาแล้วก็จะไปทำงาน ป่านนี้ซูฮยอกคงมารอฉันแล้ว”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ? อยู่กับผมสักวันนะ.. คุณจะปล่อยให้ผมนอนเป็นผักอยู่ในบ้านคุณคนเดียวเหรอ?”
“อ่า.. วันนี้ฉันมีประชุม”
“แต่ผมป่วย..”
“ทำสายตาแบบนั้นอีกแล้วนะ”
“ก็ผมป่วยจริงๆ นี่”
“ทำเสียงแบบนั้นอีกแล้ว”
“ถ้าไม่อยู่ด้วยผมก็จะไม่กินข้าว”
พูดจบก็วางถ้วยข้าวผัดลงบนถาดเหมือนเดิม ทั้งยังหันหน้าหนีอีกฝ่าย
หารู้ไม่ว่าคริสกำลังชะงักไปเพราะไม่เคยถูกใครงอนและทำท่าบึ้งตึงแบบนี้ใส่มาก่อน
ดูเหมือนว่าคราวนี้ท่านผู้บริหารจะต้องเลือกระหว่างประชุมกับเจ้าลูกแมวเสียแล้วล่ะ
“ดื้ออีกแล้วนะ”
“…”
“…”
“…”
“…”
“โอเคๆ ฉันไม่ไปทำงานก็ได้
แต่นายต้องกินข้าวแล้วก็จะได้กินยาแก้อักเสบ
ไม่อย่างนั้นมันจะกัดกระเพาะและนายอาจจะปวดท้องก็ได้ ฉันจะลงไปหาซูฮยอกแป๊บนึง
หลังจากนั้นจะขึ้นมาทายาให้”
“รับทราบครับ!”
“นายนี่มันจริงๆ เลย”
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มส่งยิ้มหวาน
คริสก็รับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังโดนเจ้าเด็กน้อยปั่นหัว
ถ้าไม่ติดว่าจุนมยอนตัวร้อนจริงๆ
เขาจะคืนคำพูดทุกอย่างและจะนั่งรถออกไปทำงานเสียเดี๋ยวนี้
นี่เป็นอีกรสชาติหนึ่งของการมีแฟนหรือคนรัก
ก่อนหน้านี้จุนมยอนไม่ค่อยงอนคริสเท่าไหร่ แถมยังไม่ดื้อเท่านี้ด้วยซ้ำ
เขาออกจะเชื่อฟังและไม่เคยซนกับคริสเลยสักครั้งนอกจากตอนที่อยู่บนเตียง
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าลูกแมวจะค่อยๆ เพิ่มสกิลการงอนและการต่อรองมากขึ้นทุกที
แน่นอนว่าคริสไม่เคยต้านทานได้เลย จุนมยอนว่าอะไร.. เขาก็ว่าตามหมด.. เรียกได้ว่าเป็นแฟนที่สปอยล์แฟนมากพอสมควร เห็นที.. ถ้าจุนมยอจะเสียนิสัย
ก็คงเป็นเพราะอู๋อี้ฟานนั่นล่ะ
“บอกเพื่อนหรือยังว่าวันนี้จะไม่ไปเรียน”
“บอกแล้วครับ”
หลังจากที่ทานมื้อเช้า ทานยา
และทายาเสร็จก็ปาไปเกือบ 9 โมง ถ้าเป็นวันหยุดคริสคงจะไม่ตื่นมาในเวลานี้
เพราะเขาชอบนอนไปจนถึงช่วงเที่ยงของวัน อย่างน้อยการนอนอิ่มๆ
ก็ทำให้เขารู้สึกหายเหนื่อยและมีแรงที่จะทำอะไรๆ ต่อ
คนตัวสูงขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงเอาไว้
ในอ้อมแขนมีจุนมยอนที่กำลังนั่งพิงอกเขาอยู่ด้วย
เด็กหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งเพื่อความสบายตัว
ด้านล่างสวมเอาไว้แค่ชั้นในสีชมพูที่คริสเป็นคนเลือกให้
ดูเหมือนว่าคนที่ชอบสีโทนมืดจะเริ่มมีใจให้กับสีชมพูบ้างแล้ว
เช่นนั้นเขาจึงหยิบชั้นในสีชมพูตัวจิ๋วซึ่งมีระบายน่ารักๆ
อย่างที่เขาชอบเห็นจุนมยอนใส่มาสวมให้กับเด็กน้อย
ทุกบาดแผลได้รับการทายาแล้วเรียบร้อย
แถมจุนมยอนยังเสริมทัพด้วยการทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบตามไปด้วย
ไม่กี่ชั่วโมงให้หลังเขาก็ลองที่จะนั่งในท่าปกติและเอนหลังพิงกายคริสเอา
มือหนาลูบไปตามหน้าท้องขาวของเด็กหนุ่มอย่างเพลิดเพลิน
ก่อนจะเลื่อนต่ำลงและสอดเข้าไปยังชั้นในของจุนมยอน ทำเอาเด็กน้อยต้องตะครุบมือหนาเอาไว้ทันที
“อย่าลูบตรงนั้นเชียว ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว”
“ฉันไม่พานายทำอะไรตอนนี้หรอกน่า
ฉันรู้ว่านายกำลังไม่สบายอยู่.. ก็แค่จับเพราะผิวนายมันนุ่มต่างหาก”
คริสปฏิเสธยกใหญ่ แต่มือของเขาก็ยังคงวนเวียนอยู่แถวหน้าท้องของจุนมยอน
“ผมชอบให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันแบบนี้จัง
ถ้าผมขนของมานอนที่บ้านคุณจะเป็นอะไรไหม?”
“ก็มาสิ จะได้ประหยัดค่าหอ”
“ล้อเล่นน่า
บ้านคุณน่ะไกลจากมหาวิทยาลัยของผมจะตาย ยังไงผมก็ต้องอยู่ที่หออยู่ดีนั่นล่ะ”
“งั้นตอนเย็นฉันจะขับไปหานายหลังเลิกงานทุกวัน
ฉันเริ่มไม่อยากนอนคนเดียวอีกต่อไปแล้ว”
“ถ้าวันไหนคุณเลิกเร็วก็มาสิครับ
เพราะผมเองก็อยากอยู่กับคุณเหมือนกัน” จุนมยอนพูด
“อาทิตย์นี้เราไปหาที่เที่ยวกันอีกไหม?”
“ไม่เอาสวนสนุกแล้วนะ
กว่าจะได้เล่นแต่ละอย่างต้องต่อแถวเป็นชั่วโมง ฉันว่ามันเสียเวลาเกินไปน่ะ
เราควรหาอย่างอื่นทำดีกว่า ไม่งั้นก็นอนอยู่ที่บ้านนี่ล่ะ.. ฉันจะฟัดนายทั้งวัน
เอาให้หายคิดถึงไปเลย”
“ฮ่าๆ เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอครับ?”
“ไม่เคยมีคำว่าพออยู่ในพจนานุกรมของฉัน – เวลาที่ฉันอยู่กับนาย”
“ปากหวานจริงๆ”
“อย่างอื่นก็หวานนะอยากชิมอีกรอบไหมล่ะ?”
“งื้ออ พอแล้วครับ!”
เด็กน้อยย่นคอหนูสัมผัสสากๆ จากไรหนวดของร่างสูง
แม้ว่าจุนมยอนจะมีไข้แต่เขากลับสดใสร่าเริงเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาตลอด
และนั่นทำให้โลกของคริสสดใสตามไปด้วยทุกนาทีที่มีจุนมยอนอยู่ใกล้ๆ
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากจะห่างไปไหน ไม่อยากให้จุนมยอนหายไปจากโลกสีหม่นใบนี้
เพราะการมีจุนมยอนอยู่.. มันเหมือนกับลมหายใจของร่างสูงได้ถูกต่อ
หัวใจที่เคยหยุดเต้นกลับมาเต้นอีกครั้ง
จากที่เคยหมดเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิตก็กลายเป็นมีพลังมากขึ้นทุกวัน
จุนมยอนทำให้สิ่งต่างๆ
ในตัวคริสเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
และดูเหมือนว่าคริสก็กำลังจะทำให้โลกของจุนมยอนเปลี่ยนไปเช่นกัน
- - - - - - - - - - - - - - -
@mmangmoom : ให้ฟินอีกตอนนึง
เดี๋ยวตอนหน้าจะดราม่าและ 55555555555555555555555 อย่าดักเตะนุน๊าพี่จ๋า
นุรักพี่จ๋าทุกคนน้าาา
เรายังไม่แน่ใจค่ะว่าตอนหน้าจะเป็นตอนจบเลยไหม
หรือว่าจะแบ่งออกเป็น 2 ตอนดี.. ฮืออ เครียดดดด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเตรียมตัวเตรียมใจเอากันด้วยนะคะ
สำหรับคนอื่นจะร้องไห้ไหมเราไม่รู้ แต่เราร้องค่ะ แค่ฟังเพลงแล้วลองนึกภาพตอนจบก็ร้องแล้วค่ะ
แงงงง
เจอกันนะคะ
อย่าลืม #KHtimelapse นะ
ความคิดเห็น