ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cross Road สองคนบนทางแยก

    ลำดับตอนที่ #3 : แยกที่ 3 บ้านของเมย์

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 53


     

    แยกที่ 3 บ้านของเมย์

    คำสั่งจงวางแผนต่อไปนี้กับตัวฉันเอง

    1. ไป กับ ไอ

    2. ไป กับ เมย์

    3. ไม่ไปทั้งสองเลย

    4. ไปถึงแล้วค่อยคิด

    ว่าไงวะ เปา ฉันควรทำไงดี”

    งานนี้ช่วยแกไม่ได้วะ แต่ถ้าจะให้เลือก ก็คงเลือกข้อ D นะโทษที่เพื่อนแต่พรุ่งนี้มี นัดแล้ววะ โทษที ตู๊ดๆๆ......” แม้เสียงโทรศัพท์จะ ดับไปแล้วแต่กายจะอุทานว่า “เป็นไงเป็นกัน วะ งานนี้ตายเป็นตาย (แต่ก็อยากกลับแบบมีชีวิตรอดนะ) ” เสียงจากห้องข้างๆ “หนวกหูโว้ย นี้มันตีไหนแล้ว จะมาตะโกนทำไม” กายพูดกับตัวเองเบาๆ “อะ ตี สามกว่าแล้ว นอนดีกว่าเรา”

    เช้าของวันที่นัด เวลา สามโมงเช้ากว่า กายออกมาก่อนเวลานัด ด้วยความกังวล มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น เป็นชื่อของ เมย์ “ กายอยู่ไหน นะ “

                      “ตอนนี้อยู่ที่มหาลัย หน้า ป้ายคณะ มนุษย์ นะ”

    อือ เดียวไปหา”

                        “เดี่ยว … อย่าเพิ่งวางสาย”

    ตู๊ด…. ตู๊ด…”

    กายกุมขมับ ตัวเอง ทำสีหน้าไม่พอ ใจ พูดกับตัวเอง(อีกแล้ว) ว่า ”พลาดแล้ว ไม่น่าเลย “ เมื่อถึงเวลา สามโมง เกือบจะสี่โมง เมย์ก็มาหากาย แต่งชุด ที่หน้าแปลกตาที่ไม่สามารถเห็นได้ทั่วไป เพราะ ที่แล้วๆมาเคยเห็นแต่ชุดนักศึกษา เป็นชุบสีขาวเรียบๆ กับ กระโปรงไม่สั้นไม่ยาว ถือว่า สวยนะ เป็นแบบน่ารักๆ แนวๆสาวน้อยใสสื่อ

    กาย….. มาแล้ว”

    รอนาน ปะ …..”

                     “ป่าว ไม่ได้รอหรอก แค่มานั่งเฉยๆ”

    “…..”

    เสียงท้องร้อง ของกายดังมาก “จ๊อกกกกกก…..” เมย์ถามกายแบบอมยิ้ม “ กาย ยังไม่กินข้าว ใช่ป่ะ”

    กินแล้วละ นี้ไม่ใช่เสียงท้องร้องนะ นี้มันเป็นเสียง คร่ำครวญของลำไส้ใหญ่”

                  “หรอ พอดีเอาข้าวกล่องมาด้วยว่าจะมากินข้าวเช้า เรามากินด้วยกันปะ”

    ไม่หรอก เกรงใจ”

                  “หรอ ไม่กิน ฉันกินหมดนะ”

    เดี่ยว ….”

                  “อะไรหรอ”

    เหลือไว้มั้งก็ดีนะ”

                 “เป็นไง……….”

    ก็น่าอร่อยนะ”

                   “ไม่ได้หายถึงอาหาร”

    ก็อากาศสดใสดีนะ” เมย์งอลตุบป่อง ไปนั่งแถวม้านั่งห่างจาก กาย หนึ่งเมตร

                                   “ล้อเล่น หน่า ก็น่ารักดี” เมย์ขยับเข้ามาอีก ห้าสิบเซน

    แต่จะสวยกว่านี้นะ ถ้าเราไม่รู้จักกัน ฮ่ะๆๆ” เมย์ถอยห่างออกไป สิบเมตร

    ไม่ต้องถอยขนานนั้นก็ได้ ประโยคแรก ชมจริงๆ แต่ประโยคที่สองล้อเล่น เมย์กลับมานั่งขาง กาย เหมือนเดิม

    เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเสียง นั้นก็ดังขึ้นเหมือนลูกคลื่น ลากเสียงยาวๆ เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เมื่อเข้าใกล้ก็เบาลงเรื่อยเหมือนกัน “กาย กาย กาย กาย กาย กาย กาย กายยยยย ตายยยยย” แค่เสียงที่ผ่านสายลมเท่านั้นทำให้กายถึงกับ ทึ่ง เมื่อ ไอเดินมาถึงหน้าพอดี แต่ชุดที่ไอใส่มานี้สิ สายเดี่ยว มินิสเกริต(กระโปรงสั้น) เสื้อคลุมไว้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ประจาน ร่างกายตัวเองมากขอบอกเลยแล้วกัน มันผิดกับลุคของดาวมหาลัยจริงๆ เปรี้ยวมาก แต่ใส่แล้วสวยดี แต่เอ๊ะ กายคิด “เมื่อกี้เหมือนได้ยินคำว่าตายด้วย คงไม่ใช่มั้ง” ไอมองกายด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ แล้วตีหน้ายิ้มใสเมย์แล้วพูดว่า

                                         “ทำไม คนสวยๆอย่างคุณเมย์ ถึงมาอยู่ กับ ชาย ในวันหยุดอย่างนี้ละค่ะ”

                “หืม…. ก็นัดกาย ไว้ นะ พอดีว่า จะพากาย ไปดู ภาพศิลป์ นะ”

    ไอหันมาถามกายด้วยสายตากินเลือดกินเนื้ออีกครั้ง “ไม่ทราบว่า คุณกายจะแก้ตัวยังไง ค่ะ” กายยกมือถือมาให้ ทั้งสองคนดู “เอานี้ดู เหอะ” เมย์ถามอย่างสงสัย “ให้ดูทำไม อะกาย”

    ถามได้ดีมาก เมย์ ดูเวลาที่ ทั้งสองคนส่งมาสิ เท่ากันเลย 10.23 PM แล้วที่นี้จะให้ฉันไปกับใครละ”

    ทั้งเมย์และไอ ก็ได้แต่ ยืนมอง แล้ว ไอก็พยายามสะกิดเมย์ และเมย์ก็พยายามสะกิดไอเช่นกัน ทั้งสอง คนพยักหน้าพร้อมกัน แล้วหันไป คุยกันห่างจาก กาย เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน กายเริ่มเอาสมุดพกและปากกา มานั่งวาด ภาพของตึก เป็นเวลาเที่ยงพอดี เสียงดัง “ตึ่ง” มาจากกาย กายล้มลงไปกับพื้น ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้ามาหากายในทันที “เป็นอะไร ไหม กาย อย่าเพิ่งเป็นไรนะ เดี่ยวจะตามคนมา” กายยื่นมือออกไปหา เมย์ พูดลากเสียงเบาๆๆ “เมยยย์ ขอออ….” ไอบอกกับกาย ดังๆ “เดี่ยว อย่าเพิ่งพูด เดี่ยวเป็นหนักกว่าเดิม” กายบอกอีกทั้งๆที่สติ เริ่มเลือนราง “ม่ายยยย ช่ายยยยย ขออออ ข้าวววว กินหน่อยยยยย จ๊อกกกกกก(เสียงคร่ำครวญของลำไส้ใหญ่)” ทั้งกายและ เมย์ ต่างก็เดินออกจาก กาย แบบไม่พูดอะไร แล้วก็ลุกขึ้นเดินไป แล้วก็คุยกันต่อ เมย์และไอ ไปที่กระเป๋าที่ตัวเองวางไว้แถวบริเวณป้าย ต่างคนก็ต่างหยิบข้าวกล่องมา จากกายที่ หิวมาก ก็กินแบบไม่หยุด กินจนหมดทั้งสองกล่อง จากอิ่ม กลายเป็นจุกเพราะจะเหลือกล่องใดกล่องนึง ไปไม่ได้ “ เห้อออ อิ่ม” จู่ๆ เมย์ และไอก็พูดขึ้น

                  “ กาย พวกเราติดสินใจกันได้แล้วละ”

    ยังไง จะให้ผมไปกับใคร ตกลงกันยังไง?”

                   “คือ พวกเราตัดสินใจว่า จะพาไป ดูภาพที่บ้านเมย์ก่อน แล้วค่อยไปบ้านไอทีหลัง เพราะบ้านเราสองคนใกล้กัน”

    กายบนพึมพำแบบไม่อยากไปเบาๆ “มันใกล้บ้านพวกเธอดิแต่มันไกลหอผม รู้ป่ะ”

    เหมือนกับไอจะได้ยินเข้าไอพูดสวนกลับว่า “อะไรนะได้ยินไม่ชัด ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องฝืนสิ”

    กายพูด “ไปคร๊าบบบบ”

    เพียงพูดว่าแค่ไปเท่านั้นแหละ แขนทั้งสองข้างของกาย ก็โดนคว้าอย่างรวดเร็ว ตอนแรก ก็แค่ลาก แต่ทำไม ยิ่งคนใดคนนึ่งใกล้อีกคนก็ยิ่งเข้าใกล้ จนกลายเป็นว่า จากดึงแขนธรรมดา กลายเป็นกอดแขนของกายไปเลยละ ตอนแรกพวกเราจะขึ้นรถประจำทางไปบ้านเมย์ แต่ไอเสนอว่า ควรเดินไป เพราะไม่ไกลมากนัก(พูดแล้วเหมือนประชด) พวกเราก็เดินกันไป ตอนเดินไปนี้สิสายตาบาดแทงมาก เหมือนตัวผู้ทุกเพศทุกวัยจะอิจฉามากแต่ ใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงสี่แยกแล้ว เป็นสี่แยกเดียวกับที่ กายมาส่งไอ เมื่อวาน แต่บ้านของเมย์อยู่ ท้างด้ายซ้าย และบ้านของไอ อยู่ทางด้านขวาของสี่แยก กายเลยคิดเล่นๆว่า “ถ้าเดินตรงไป จะเจอกับอะไรน้า” แต่พอถึงสี่แยก ก็ต้องเลี้ยวซ้าย เดินไปอีก ประมาณ เจ็ดร้อยเมตร ก็ถึงบ้านเมย์ บ้านของเมย์ เป็นบ้านทรงยุโรป เป็นบ้าน สองชั้น บริเวณกว้าง ข้างหน้าบ้าน เป็นสนามหญ้าขนานใหญ่ ข้างบ้านด้านหนึ่งเป็นลานจอดรถ และอีกข้างบ้านเป็น สระว่ายน้ำ เป็นบ้านที่ดู หรูมาก พอก้าวเข้าไปที่ประตูเท่านั้นหละ มือของเมย์ค่อยๆ ปล่อยลง ทำตัวเรียบร้อยขึ้น มือของไอก็ค่อยๆปล่อยลงเช่นกัน แล้วก็ติดกระดุมเสื้อคลุมเพื่อให้มิดชิดยิ่งขึ้น เมื่อก้าวเท่าไปหน้าประตูเท่านั้นแหละ ก็มีสุนัข พันธ์ อะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตัวใหญ่และขนสวยมาก มานั่งรอหน้าบ้าน เมย์พูดเหมือนจะตกตะลึง “ว๊าววิเศษมากเลยนะเนี้ยกาย ปกติ มีแขกมาทีไร อัล ก็จะเห่าทุกที น่าแปลกใจจริงๆ” เรื่องของสุนัข ก็พอเถอะมาสำรวจในตัวบ้านของเมย์กัน พอเข้าบ้านเมย์ ก็จะพบห้องรับแขกที่กว้างมากๆ เหมือนห้องของกาย สามห้องเรียงกัน เมย์พากายขึ้นไปชั้นที่สอง เดินออกไปเล็กน้อย ทางระเบียงหลังบ้านก็จะพบ กับพ่อของเมย์ และแม่ของเมย์ นั่งอยู่ แบบครอบครัวที่อบอุ่น พ่อของเมย์กำลังวาดรูปด้วยสีน้ำมัน เมย์เข้าไปที่ระเบียงแล้วก็พูดกับพ่อกับแม่ว่า “พอค่ะ หนูพามาแล้วค่ะ” ทั้งพ่อและแม่ของเมย์มองมาทางกายด้วยสายตาที่อบอุ่น พ่อของกาย บอกกับกายว่า “นั่งก่อนสิ พ่อหนุ่ม แม่หนูคนนั้นก็มานั่งด้วยกัน”
    ในตอนนี้สายตาของกายจ้องอยู่ที่ภาพของ พ่อของเมย์ แม่ของเมย์ยิงคำถามแบบทะลุไปที่หัวใจ “เมย์ นี้แฟน หรอ” เมย์ทำท่าเขินอายเล็กน้อย แต่กายก็พูด ขึ้นแบบไม่มีติดขัด “เพื่อนครับ” เมย์ทำหน้าหงอย เล็กน้อย ไอหัวเราะแบบซะใจกับตัวเองเบา เมย์ เมย์กระซิบกับไอด้วยหน้าตาที่ไม่พอใจ “หัวเราะอะไรยะ” ไอพูด สั่นๆ “ป่าว ไม่มีอะไรหรอก หุหุ” จากนั้นเมย์ก็เริ่มบรรยายสรรพคุณของกาย แบบเสร็จสับ แต่ถึงจะบรรยายยังไงกายก็ไม่สนใจ กายก็ใจจดใจจ่อกับภาพที่ คุณพ่อของเมย์กำลังวาด แม่ของเมย์ก็พาเปลี่ยนบรรยากาศ “อ่ะ พอดีแม่ทำขนมไว้ พวกลูกๆ ช่วยแม่ทำหน่อย สิ ปล่อยให้หนุ่มๆ เค้าคุยกัน” เพียงจบประโยคเท่านั้นแหละสติของกายก็กลับมา กายกลัวคุณพ่อของเมย์มาก กายมองเมย์ด้วยสายตาที่อ้อนวร ถ้าอ่านสายตาดีๆ จะได้คำว่า “อย่าไปนะ อย่าปล่อยไว้อย่างนี้สิ” อยู่ๆ คำสั่งในหัวของกายก็เกิดขึ้น

    1. แกล้งตาย (ไม่รับรู้อะไรเลยดีกว่า)

    2. คุยออย่างสนิทสนมเรื่องเมย์ (ตอบอันนี้ไปคงตายแน่)

    3. ชวนคุยเรื่องภาพ (อันนี้น่าจะดีนะ )

    4. ลงไปทำขนมกับพวกผู้หญิง (หนีความจริงเลยดีกว่า)

    จากการประมวลความคิด รวบรวมสติปัญญาที่มีอันน้อยนิดทั้งหมด เพียงกายกำลังจะอ้าปากเท่านั้นหละ พ่อของเมย์ก็ถามกายเบาๆ “ เป็นยังไง เข้ากันดีรึป่าว” จากสติปัญญาอันน้อยนิดบวกกับความประหม่า เลยตอบว่า “สวย ครับน่ารักด้วย แถมยัง นิสัยดีมีเพื่อนเยอะ บลาๆๆ” พ่อเมย์ก็อดที่จะขำไม่ได้ แล้วพูดกับ กาย ด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ได้หมายถึง เมย์ หมายถึงภาพนะ” เหมือนหน้าของกายเป็นกระจกที่ทีตกพื้นเลยละ “……” กายยังพูดอะไรมากไม่ได้นัก ได้เพียงแต่มองภาพต่อไป ห้านาทีต่อมา กายพูดกับคุณพ่อของเมย์ว่า “ คุณอาครับ ภาพนี้มันแสดงถึงนิสัยของเมย์ สินะครับ” พ่อของเมย์ก็ทึ่งไปชั่วครู่ มือที่เขียนพู่กันอยู่ ก็หยุดชะงัก หันหน้ามาถามกายแบบ ทึ่งเล็กน้อย “เธอรู้ได้ยังไง” กายพูดน้ำเสียงทั่วไป “ การใช้สีครับ การใช้สีที่รุนแรง แต่ผมรู้สึกถึงสีที่อ่อนโยนเช่นเดียวกัน เป็นภาพที่สมดุลในเรื่องสีและการวาด และการาดเป็นเส้นโค้ง ไม่มีความแข็งในเส้น ผมรู้สึกได้เลยครับ ว่านี้คือเมย์” พ่อของเมย์วางพู่กันลงเบาๆ หันทั้งตัวมาหากาย “ สมแล้วที่เป็นคนที่เมย์พา มา ผ่าน ไปห้องแกลลอลี้(ห้องเก็บภาพ)กัน” พ่อของเมย์ลุกขึ้น เข้าไปในตัวบ้าน กายก็เดินตามไป เมื่อเข้าห้องที่เป็นห้องกระจกสีขุ่นๆ ก็พอกับภาพวาดนับสิบ ส่วนใหญ่เป็นรูป ตึก อาคาร สถานที่ ไม่ต้องสืบเลยว่า พ่อของเมย์ทำงานเป็นสถาปนิก ในขณะที่ชมภาพ พ่อของเมย์ก็พูดขึ้นมา “เธอชื่อกาย ใช่ไหม” “ครับ” “รู้รึป่าว นานทีจะมีคนเข้าใจเมย์ได้ เพราะส่วนใหญ่เมย์จะไม่ค่อยเปิดใจให้ใครเท่าไหร่หรอกนะ ตั้งแต่เด็กแล้ว เมย์มักเป็นคนอมทุกข์ แต่ มหาลัยปีหนึ่งเทอมที่สอง เธอเปลี่ยนไปรู้ไหม”

    ผมทราบครับ เพราะงานจิตกรรม ของเธอ แต่ก่อน มันแตกต่างกับตอนนี้มาก”

    อืม ก็ดีแล้วหละ ที่อยากจะบอกคือ ตั้งแต่นี้ไปขอฝากเมย์ด้วยนะ”

    เอ๋…… ที่ว่าฝากหมายความว่ายังไงครับ”

    ป่าวหรอก ไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าเมย์ร้องไห้เมื่อไหร่ละก็”

    หน้าตาขอคุณอา ก็เปลี่ยนไป เหมือนมัจจุร่า เข้ามาใกล้ๆตัวอย่างนั้นหละ พอดีมีเสียงช่วยชีวิตไว้ก่อน

    ขนมเสร็จแล้ว จ้า ” เมื่อสิ้นเสียงนั้นพ่อของเมย์ก็ทำหน้าตาอ่อนโยนอย่างปกติแล้วพูดกับกายว่า “ปะ ไปทานขนม มีชาที่เพิ่งซื้อมาใหม่จะแนะนำด้วย” แล้วพ่อของเมย์ก็ออกจากห้องแกลลอลี้ไป เสียงถอนหายใจของกายดัง”ฟู่วว นึกว่าจะตายซะแล้ว” กายออกไป ที่ระเบียงทำตัวปกติเหมือนเดิม พูดคุยเรื่องๆต่างๆ จะกระทั่งได้เลากลับประมาณ บ่ายสามกว่าๆ พ่อและแม่ของเมย์เดินมาส่งหน้าบ้าน พวกเรามุ่งหน้าไปที่บ้านไอต่อ เมย์มองกลับไปข้างหลัง ทำหน้าโล่งใจ เหมือนได้ยินคำว่า mission clear เลย เมย์ก็เดินมาเกาะแขนกาย ไอเห็นเมย์มาเกาะแขน เลยเกาะแขนกาย ตาม แล้วเดินไป เพียงแต่กาย มองกลับไปข้างหลัง เห็น พ่อของเมย์มองมาที่กาย ยังไงดีละ จะโกรธ หรือจะดีใจ หรือจะเสียใจ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สายตามองมาที่กายนั้นบาดแทงมาก จนทำให้กายหน้าซีดไป เลย เมย์ หันมาถามกายว่า “เป็นอะไรกาย ทำไมหน้าซีดจัง” กายตอบ “ไม่เป็นไรหรอก พอดีรู้สึกไม่ดีนิดหน่อย เอาเถอะ เดินไปบ้านไอ กันต่อเลย……”

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×