คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แยกที่ 2 ภาพและการเดิน
แยกที่ 2 ภาพและการเดิน
วันนี้ ทางมหาวิทยาลัย ของกาย มีการจัดทรรศนะศึกษาที่หอศิลป์ โดยนักศึกษาทุกคน และทุกคณะสามารถร่วมงานนี้ได้ แต่นอกจากคณะศิลป์แล้ว จะต้องเสียค่าใช้จ่ายนิดหน่อยเท่านั้นเอง และแน่นอนที่สุด กาย ก็ต้องร่วมงานนี้ การที่นักศึกษานักศึกษาจะดูงานนี้จะต้องไป เป็นกลุ่มอย่างน้อยกลุ่มละ สี่คน กายจับคู่กับเพื่อน ในคณะที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ในตอนเช้ากาย ไปหาเปา เพื่อที่จะเข้ากลุ่มสำหรับกาย นั้นไม่สนหรอกว่าจะเป็นใคร กายบอกว่า ใครก็ได้ขอให้มันครบกลุ่ม แต่แปลกใจมาก ที่ ในกลุ่มนั้นมีเปา และ แฟนเปา เมย์ และก็กาย เป็นที่น่าตกใจที่สุด
เปาพูดกับกายว่า “กายคราวก่อนก็เบี้ยวไปทีนึงแล้วนะ”
“ขอโทษจริงๆ คราวก่อนไปไม่ได้ ไม่สบายอ่ะ”
“ คราวนี้ ขออย่างนึงได้ป่ะ ไม่ได้ขอหรอก นี้คือไฟท์บังคับ”
“อือ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ก็ทำให้ได้อยู่หรอก ว่าแต่อะไรละ?”
“Double Date”
“หะ อะไรนะได้ยินไม่ชัด”
“Double Date ไง ไม่รู้จักหรอ”
“ อือ ถ้าพอช่วยได้ก็จะทำนะ”
“ ขอบใจมาก”
พิธีการเปิดหอศิลป์ ก็เริ่มขึ้น และแยกย้ายกันตามแผนของเปา ไม่รู้ทำไม วันนี้ เมย์ดีใจเป็นพิเศษ คงเพราะได้ ไปดูงานศิลป์ หรือว่า ได้ไปกับกาย? แต่กายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เมื่องานเริ่มต้นขึ้น เมย์ ก็ควงแขนกายเลยกายแค่รู้สึกแปลกใจแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เมย์ขยิบแต่ให้เปา แล้วพูดเบาๆว่า “เป็นไปตามแผน” กายเริ่มดูงานจากชั้นแรกคือ ห้องเครื่องปั้นดินเผาและงานปั้น กายชมงานอย่างเพลิดเพลิน กายในวันนี้มีสีหน้ามีความสุขมากเป็นเพราะ จะได้มาดูงานเขียนต่างๆ ของจิตรกรหลายๆคน เมย์ พยายามดึงความสนใจของกายหลายครั้ง ด้วยการถามคำถามหลายๆ อย่าง แต่อย่างนั้นก็เถอะ กายสามารถตอบได้ทุกคำถามที่เมย์ถาม แต่กว่าจะเดินทั่วชั้นหนึ่งก็กินเวลาไป สามชั่วโมงกว่าๆ นักศึกษาหลายคนเริ่มทยอยไปกินข้าวแล้ว แต่กายกับเมย์ยังอยู่ที่ชั้นสอง คือชั้นภาพเขียนงานศิลปะ มีรูปหนึ่งที่น่าสนใจมากๆสำหรับกาย ไม่ใช่ภาพเหมือน แต่อย่างไร แต่เป็นแค่ภาพหัวใจ ที่มีสีแดงสลับดำ ความรู้สึกของภาพนี้มันเป็นแรงดึงดูด หรือ เป็นภาพที่หน้าหลงใหลกันแน่ เมื่อเมย์มองภาพนี้ เมย์ได้ถามกายว่า “กาย รู้รึปล่าว คนที่เขียนภาพนี้เค้ารู้สึกอย่างไรในการเขียน” กายพูดอะไรไม่ออก กายได้แต่ยื่นจ้อง ได้เพียงแค่ 30 วินาที น้ำตาของกายก็เริ่มซึมออกมา เมย์ได้แต่ถามกายว่าเป็นอะไรทำไมถึงร้องไห้ กายร้องไห้ และกอดเมย์ เมย์ได้แต่รูปหัวของกาย กายพูดกับเมย์ว่า เมย์ อย่าไปเลยนะ ถ้าเมย์ไปใครจะอยู่กับกาย ถ้าเมย์ไปแล้วกายจะทำอะไร กายจะมีชีวิตอยู่ได้ไหม เมย์ได้เพียงตอบอย่างอ่อนโยนว่า “กายไม่เป็นไร เราจะอยู่ด้วยกัน ไม่เป็นไร...”
หลังจากเหตูการณ์นั้นกายแทบจะมองหน้าเมย์ไม่ติด เมื่อตอนพักเที่ยง กายได้แต่เดินไปร้านอาหารใกล้หอศิลป์ มีมือปริศนาสองข้างมาปิดไว้ที่ตา และถามว่า “ใครเอ๋ย?” เสียงแบบนี้ มีได้เพียงคนเดียว กายพูด “ยัย เส...” “เปรี้ยง” เสียงที่ดังมาพร้อมความเจ็บปวด
“โห ไม่ต้องทุบหลังก็ได้ ไม่ได้ปวดหลัง ไอ เบาๆหน่อย”
“ถ้าพูดว่า ไอ ตั้งแต่แรก ก็จบละ ไม่ก็คนน่ารักอะไรก็ได้”
“จ้าๆ ไว้คราวหลังจะพูด”
“ชิ...”
“เออ... จริงสิว่าแต่เธอมาด้วยหรอ ตอนเช้าไม่เห็นเธอเลย”
“พอดีตอนเช้ามีเรียน นะสิ น่าเบื่อมากเลย ว่าจะไปหานายแก้เซ็ง แต่ก็ดันไม่อยู่ที่คณะซะได้ ก็เลยถามพวกอาจารย์ เขาก็เลยบอกว่า นักศึกษาส่วนใหญ่มาที่นี้ ก็เลยมาไง”
“อ๋อ งั้นหรอกหรอ”
“ อย่าเข้าใจอะไรผิด ยะ ฉันมาดูรูปภาพ ไม่ใช่มาหานายซักหน่อย”
“แล้วได้ดูรูปภาพยัง”
“ยังเลย.. มัวแต่หานายอยู่”
“เอ๊า มาหอศิลป์ แล้วไม่ได้ดูงานจิตกรรมก็เสียโอกาส สิ”
จากนั้นกายก็เที่ยวกับ ไอ อย่างสนุกสนาน บรรยายกาศแตกต่างกับตอนเที่ยวกับเมย์ กาย มีร้อยยิ้ม กายได้สนุก แต่ กายไม่ได้ดูรูปภาพเลย เพราะกายรู้ว่า ภาพแต่ละภาพที่อยู่ในหอศิลป์นั้น แต่ละภาพให้ความรู้สึกที่แสนเศร้าในหัวใจของนักเขียน หลังจากที่เที่ยว งานเสร็จ ไปบอกกับกายว่า จะให้ช่วย สอนการวาดให้กับน้องสาว ที่อยู่ในวัยมัธยมต้น
“กาย หลังจากนี้ว่างไหม”
“ก็ไม่ค่อยว่าง นะ มี กิน เที่ยว นอน นอน แล้วก็นอน ตารางเต็มหมดแล้วละไอ”
“หืม งั้นหรอ คุณกาย” ไอพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ
“ล้อเล้นๆ ว่างอยู่หรอก ว่าแต่ มีอะไรให้ช่วยหรอ”
“คือว่า ช่วยไปที่บ้าน ฉันหน่อยสิ”
“หา!!!!!”
“ป่าว ไม่ต้องคิดมาก ช่วยไป สอนศิลป์ให้กับน้องสาวหน่อย”
“อ๋อ เรื่องนั้นเอง หรอ ว่าแต่ จะไปตอนนี้เลย?”
“อือ ใช่ เดินไปเลย บ้าน ฉันอยู่ใกล้”
บรรยากาศของตะวันที่ใกล้ลับฟ้า เมฆที่ส่องประกาย ดวงจันทร์ ค่อยๆขึ้น กายเดินไป กับ ไอตามทางที่ไอบอก ระหว่างที่เดิน
“กาย เรามานับดาวบนฟ้ากัน”
“ดาว บนฟ้าหรอ อือ นับสิ”
“ นั้นไง กาย ดาวโอไลอ่อน ดาว นายพราน ดาว...”
กายมองไอ ด้วยสายตาที่ชมเชย เคลิ้มไปกับการ มอง ไอ กายบอกกับไอว่า “เธอนี้ น่าชื่นชมเหนอะ รู้เยอะดีจริงๆ”
“ไม่ได้รู้เยอะหรอก แค่รู้ในสิ่งที่รู้เท่านั้นแหละ”
“หืม... แต่ก็ยังน่าชื่นชมอยู่ดีนั้นแหละ”
ไอ ทำได้แค่เขินอายกับคำชม นั้น และมัวแต่มองดาวจนไม่สนใจรถเลย เกือบจะชน ดีนะที่กาย คว้าตัวเมย์ไว้ได้ทัน “ไอ ระวังหน่อย แถวนี้รถมันเยอะนะ”
“ขอโทษ ไม่ทันระวัง”
“ดูสิ ส้นรองเท้าของส้นสูงหักเลย”
“ไม่เป็นไร เดียวถอดรองเท้าเดินก็ได้”
“เดี่ยวๆ ผมว่าเราน่าจะนั่งพักกันแถวนี้ก็ได้มั้ง”
“เป็น ความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก”
กายและไอ ก็ได้นั่งแถวสนามหญ้าแถวนั้นซึ่งไม่ค่อยมีคนอยู่มากเท่าไหร่นัก กายถามไอ เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
“ไอ นี้เธอทำไมถึงทำตัวเสแสร้ง ผม ถามจริงนะ”
ไอนั่งเงียบไปสักพักก่อนที่จะมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าเศร้าๆ
“กาย รู้ไหม มีบางสิ่ง ที่เราทำได้กลับไม่ได้ทำ แต่บางที่ทำไม่ได้เราได้แต่พยายามทำมัน” กายนั่ง งง อยู่สักพักหนึ่งเธอก็พูดต่อ “รู้รึเปล่ากาย เราเป็นลูกครึ่ง”
“รู้สิ เห็นพ่อเธอก็รู้แล้ว”
“แล้ว รู้รึป่าว ว่าในประเทศของพ่อเรานะ ไม่ยอมรับการแต่งงานกับชนชาติอื่น” กายเงียบสนิทและทำหน้าเศร้า
“ขอโทษ เธอไม่ต้องเล่าต่อแล้วหละ ถ้ามันรันทดมากเกินกว่าเธอจะรับได้”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันอยากบอกในสิ่งที่ฉันอยากจะเล่า แล้วเรื่องนี้ยังไงซะ สักวันเธอก็จะรู้อยู่ดี ถ้างั้นขอให้ฉันเป็นคนเล่าให้เธอฟังดีกว่า”
“อืม”
“แม่ของเรานะ ถูกเหยียดหยามมาก เหมือนกับแบ่งแยกสีผิว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พ่อก็รักแม่มากจนทนไม่ได้ จนต้องหนีมาที่ นี้ แล้ววันหนึ่ง คุณปู่ก็มารับคุณพ่อ ถึงที่นี้เชียวหละ แม่บอกกับเราตอนเด็กๆว่า ถ้าจะทำให้คุณปู่ คุณย่า ชอบ จะต้องทำตัวเป็นเด็กดี แล้วแม่ก็ล้มป่วย”
“เสียใจด้วย”
“บ้า!!! แม่ฉันยังอยู่ดี ยะ ยังหายใจสบาย”
“ = =” (เงียบ)”
“ที่สำคัญนะ ว่าทำไมฉันต้องทำตัว แบบ นี้ นายรู้ป่าว ละ ปู่กับ ย่า ฉันเป็นใคร”
“ ไม่รู้หรอก”
“ใบ้ให้ แล้วกัน เป็นคนที่สามารถถีบนายออกได้ทันที เมื่อนายมาจีบฉัน”
“ใคร พาลโรง หรอ หรืออาจารย์”
“ใบ้ให้อีกคำ เป็นคนที่รู้กันทั่วมหาลัย”
“อ๋อ อาจารย์ ตุ่มเม่ง นั้นใช่ป่ะ”
“เพี๊ยยยยยย เสียดังงวดนี้มาจากหัวของกาย”
“โถ่หยอกเล่นแค่นี้ ก็ไม่ได้ รู้อยู่หรอก ผู้บริหารมหาลัยนะ”
“น่าจะตอบแค่นั้นตั้งแต่แรกนะ”
พอจบการสนทนา กายกับไอก็เริ่มเดินต่อไป เดินไปทางมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ไอบอกกับกายว่ามาส่งแค่สี่แยกใกล้ๆ กับสนามหญ้า เพราะเธอบอกบ้านของเธอเดินไปอีก ห้าร้อยเมตรก็เจอแล้ว”แล้วเธอยังบอกอีกว่า “ถ้านายเดินเข้ามาที่บ้าน ฉันไม่รับประกันชีวิตนายหรอกนะ นายก็น่าจะรู้ พ่อของฉัน .” กายได้แต่เพียงมาส่งแล้วก็โบกมือให้เล็กน้อย
ไม่ถึงห้านาที ไอวิ่งกลับมา หากาย เธอบอกว่าลืมของ แต่กายถามว่า ลืมอะไร เธอก็ทำตัวเขินอาย บิดตัวไปมา แล้วเธอก็หอมแก้มกาย ไอเต็มๆ
“ นี้ไง ของที่ลืมไว้ คำขอบคุณสำหรับ ที่พาเที่ยวกันนี้ สนุกมากเลยละ” แล้วเธอก็วิ่งกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว กายได้แต่ยื่น งง มือแตะที่แก้ม กายรู้สึกว่า สัมผัสที่แก้มของกายนั้นยังคงอุ่นและนุ่มนวล กายนั่งลงกับที่แล้วนั่งมองฟ้า พร้อมกับความเขินอาย
ไม่นานนัก กายเดินกลับไปถึงหอ นี้คือเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ กายตรงไปที่โทรศัพท์ ที่แบตหมด กายลืมเอามันไปเพราะตื่นเต้นมาก กายชาดแบต และเปิดเครื่อง พบว่ามีข้อความสองฉบับ ฉบับแรกคือ
พรุ่งนี้ สี่โมงเช้าฉันรู้ว่านายไม่มีเรียน พรุ่งนี้ เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้เที่ยง มาเจอกันที่ป้ายคณะมนุษย์ ฉันลืมไปเลยว่าจะให้นายไปสอนน้อง ลงชื่อ ไอ
ส่วนอีกฉบับเขียนไว้ว่า
กาย เราอยากขอบคุณสำหรับเมื่อตอนกลางวันที่พาเราไป ชมหอศิลป์ เลยชวนไปชมภาพวาดที่ พ่อเราเพิ่งวาดมันขึ้นมา เจอกันที่ป้ายคณะมนุษย์ เที่ยงตรงนะ แล้วจะรอ . ลงชื่อ เมย์
กายอุทานเป็นเสียงเบาๆ “อุ เวรละ “ กายรู้ดีว่า จะเกิดสงครามกลางมหาลัยพรุ่งนี้เที่ยงแน่นอน หมอกาย ฟันธง
ความคิดเห็น