คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แยกที่ 1 จากอดีตสู่ปัจจุบัน
แยกที่ 1 จากอดีตสู่ปัจจุบัน
ในเวลาที่ตะวันลับฟ้า แสงอาทิตย์อ่อนๆที่สามารถสัมผัสได้ ความเหน็บหนาวของลมกลางคืนที่พัดมา แต่มันก็ยังรู้สึกอุ่นอยู่ดี หากคุณมองขึ้นไปข้างบนจะเห็นแสงสว่างอ่อนๆจากท้องฟ้า กลีบเมฆ ที่แสนจะเบาบางและนุ่มนวลทำให้อารมณ์อ่อนไหวได้ง่าย และเมื่อเงี่ยหูฟังดูดีๆ ก็จะได้ยินเสียงเด็กๆ หลายคนกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน และเมื่อมองมาข้างล่างก็จะพบกับสวนสาธารณะขนานใหญ่ ที่สนามเด็กเล่นมีเครื่องเล่นมากมาย สนามหญ้าเขียวและอุดมสมบูรณ์ แต่หากลองสังเกตดีๆ จะพบชายหนุ่มรุ่นกลางคนกำลัง นั่งวาดภาพที่แห่งนี้อยู่ ทุกๆเย็นชายคนนี้ จะมานั่งวาดภาพวิว ของสวนสาธารณะนี้ทุกๆวัน และทุกๆวันเขามักจะมาเล่นกับเด็กเสมอ เด็กคนหนึ่งที่ชื่อ ว่า “กาย” เขามักจะถูกพ่อและแม่ มารับช้าเสมอ เพราะงานของครอบครัว ตอนประมาณ ทุ่มตรงของทุกวัน พ่อแม่ของกาย ก็จะมารับ ถึงแม้จะมารับช้ากว่าเวลา กายก็ไม่เคยร้องไห้เลย เพราะมีจิตรกร คนนั้น เล่นกับกายทุกๆเย็น วันหนึ่ง กายถามจิตรกร นั้นว่า
“คุณอา คุณอา วาดรูป อะไรหรอครับ” จิตรกร ลูบหัวกายแล้วตอบว่า “วาดภาพธรรมชาติ แห่งนี้ยังไงละ”
ด้วยความเป็นเด็กของกาย ก็ถามไปเรื่อย แล้วความอยากรู้อยากเห็นของกาย จึงถามจิตรกรว่า “คุณอา ผมสามารถวาดรูปให้ได้เหมือนคุณอารึเปล่า” จิตรกรผู้นั้นยิ้มอย่างสดใสแล้วพูดกับเด็กหนุ่มผู้อยากรู้อยากเห็นว่า “ได้สิ” เด็กหนุ่มที่กำลังดีใจ ก็ถามไปอีก “ ผมอยากวาดเหมือนคุณอา คุณอาสอนให้ผมได้ไหม” จิตรกร ก็ตอบเช่นเคย “ได้สิ อาจะสอนให้ แต่สัญญา กับอาข้อหนึ่งได้ไหม” เด็กหนุ่มผู้กระตือรือร้น ก็ตอบเร็วไว “ได้ ฮะ แต่คุณอาจะให้ผมทำอะไร” จิตรกรพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ ข้อที่หนึ่ง ภาพที่วาดจะต้องเป็นภาพที่ออกมาจากใจ และแสดงความเป็นตัวตนของตนเอง ข้อที่สองคือ วาดรูปโดยไม่หวังผลใดจากผู้อื่น” เด็กหนุ่มตอบเร็วไว “ครับผม”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกเย็น กาย จะไปเรียนวาดรูปกับจิตรกรผู้นั้นเสมอ เป็นเวลา สองปี ที่กายได้เรียนรู้จากจิตรกรผู้นั้น กายได้เรียนรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับการวาดภาพ ตอนนี้จิตรกร คนนั้นได้จากไปแล้ว ครูผู้แสนจะใจดีของกาย คำพูดสุดท้ายที่กายได้ยินจากปากของจิตรกรคือ “จงเป็นจิตรกร ที่ดีในภายภาคหน้า” พ่อแม่ของกาย บอกกับกายว่า จิตรกรได้เสียชีวิตเพราะโรคปอดบวม แต่กายก็รู้นะว่าจิตรกร คนนั้นไม่ได้ตาย เพราะยังอยู่ในภาพวาดของกายเสมอ เวลาผ่านไปหลายๆต่อหลายปี กายก็ยังคงแน่วแน่ในการวาดภาพและไม่เคยละทิ้งคำสัญญาของจิตรกรผู้นั้นเลย
เอาหละครับตอนนี้ก็คงต้องเข้าเรื่องราวกันจริงๆแล้ว เสียหน้ากระดาษอธิบายไปเยอะแล้วนะเนี้ย
สำหรับเรื่องของกายนั้นมันเริ่มขึ้นตอนกายอยู่ปี 2 ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง(ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ค่อยจะดังเท่าไหร่นัก -3- ) กายน่ะเป็นนักศึกษา คณะศิลป์ เรียนได้ตั้งแต่เกรด AถึงZ เลยละ (เก่งป่ะ - -” ) ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่ากายได้เกรด เอวิชา อะไร เกรด เอ คือการวาดภาพและการลงสี หลายต่อหลายครั้งที่มีคนให้กายวาดภาพเหมือนให้โดยกายไม่คิดเงินซักแดงเดียว ถึงกายจะเรียนไม่เก่งหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่รวย อุปนิสัยมืดมน แต่ก็มีเพื่อนมากมาย วันหนึ่งกายเรียนอยู่ในตึกศิลป์ อย่างสงบ เป็นวิชางานแกะสลักไม้ กาย มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ เปา เปาเป็นคนเรียนเก่ง หน้าตาดี แต่จน ในคาบวิชางาน แกะสลักไม้ เปาได้ชวนกายไปวาดรูปให้แฟน ของเปา
“ กาย เย็นนี้ว่างป่ะ”
“ก็พอมีเวลานะ ทำไม อ่ะ”
“ไปวาดรูปแฟนฉันให้หน่อยได้ป่ะ เห็นนายเป็นคนวาดรูปเก่งนะ”
“อืม ได้สิ เย็นนี้เราว่างพอดี”
“งั้นเย็นนี้เราเจอกันที่คณะวิทย์ ตอนหกโมง โอเคนะ”
“ก็ โอเคนะ”
“ขอบใจมากเพื่อน”
เวลาสี่โมงเย็นเป็นเวลาหมดคาบของ วิชางานแกะสลักไม้ งานแกะสลักไม่ของกายมันดูเน่าและน่าเกลียด ไม่น่าดูมาก บอกก็บอกเลยว่า ทุกอย่างนอกจากงานวาดของกาย “เน่า” ถึงเจ้าตัวจะแก้ตัวว่ามันเป็นงาน ศิลป์ ก็เถอะนะ เย็นวันนั้น กายได้ไป ร้านขายอุปกรณ์ เครื่องเขียน เป็นวันที่น่าตกใจสำหรับกาย ที่สนใจผู้หญิงเข้า ผู้หญิงผมดำเงาสวย ผมไม่สั้นและไม่ยาว นัยน์ตาสี น้ำตาล สูงมั้งดูไม่ออก สีผิวขาว หน้าคม ถือหนังสือหนึ่งเล่ม ชื่อ จิตรวิญญาณแห่งโนอา ถึงกายจะสนใจผู้หญิง แต่ก็ยังเป็นไอ้ไก่อ่อนเหมือนเดิมแหละ กายได้แต่จ้อง โดยความไม่รู้เรื่องอะไร หรือไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเป็นอย่างไร ความไก่อ่อนของกายก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อ กาย เดินเข้าไปหาเธอแล้วพูดว่า
“กรุณา มาเป็นนางแบบวาด ภาพให้ผมเถอะ”
เธอหัวเราะเบาๆ ทำหน้าตายิ้มแย้ม แต่เธอก็ไม่ตกใจอะไรเลย
“ก็ ได้จ๊ะ แต่เธอต้องขออนุญาตพ่อฉันที่อยู่ข้างๆก่อนได้ป่ะ”
เป็นเวรเป็นกรรมของกายที่ไม่ได้ดูสถานการณ์รอบตัว ตอนนี้ รู้สึกว่ามีเงายมทูต ข้างตัวของกาย กายเห็น ชาวต่างชาติร่างสูงโต เป็นชายวัยกลางคนกำลังจ้องหน้ากาย อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเลย กายอุทานกับตัวเองเบาว่า “อะ โคตรซวย” *-* เหมือนกายถูกรางวัลแจ๊คพ็อต เลย คือ ตั๋วไปนรก ไปไม่กลับ ด้วยความจะว่ากล้าดีหรือว่า บ้าดี กายได้ขออนุญาตจากพ่อเธอจริงๆแหละ
“คุณพ่อครับ ขอให้ผม ได้วาดรูปเธอได้ไหมครับ”
“ใครเป็นพ่อแก อีกอย่างนะ ถ้าจะมาถาม ก็ไปถามเธอสิ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
เป็นชาวต่างชาติที่พูด ได้ชัดมากจนตกใจ ว่าเป็นชาวต่างชาติจริงหรือ กายหันกลับไปถามเธออีกที
“ช่วยมาเป็นนางแบบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
“เห็นแก่ความใจกล้า ของเธอ ให้ไปเลย รางวัลที่หนึ่ง ได้วาดรูป ของฉัน”
น่าแปลกใจเหลือเกินว่า ทั้งๆที่เธอยิ้มอยู่แต่กลับไม่รู้สึกถึง ความร่าเริงของเธอเลย
“งั้น ขอวาดเลยได้ไหมครับ”
“อือ ที่ไหนดีละ”
“ตรงนี้เลยก็ได้ฮะ ถ้าไม่เป็นการรบกวน”
“ไม่เอา ละ ที่นี้คนเยอะ อาย นะ เราไป Under Water ละกัน”
แปลกมาก Under Water สถานที่สุดหรู่ของคนมีตังเขาไปกัน แสดงว่าเธอเป็นคุณหนูจริงๆ สินะ
“ พ่อค่ะ ช่วยไปส่ง Under water”
กายพูดอย่างตกใจ “0*0 ที่ Under Water เนี้ยนะ”
“ อือ ก็ใช่ไง Under water ”
และแล้ว กายก็ถูกลากไปซะเอง *-* โดยรถ รุ่นMX2000 รถรุ่นที่แพงมากด้วยเมื่อ ไปถึง Under Water กายได้จัดเตรียมอุปกรณ์ สีและอื่นๆโดยที่กายไป บอกกับเธอว่าให้ แต่งตัวให้เข้ากับ โลกใต้ทะเล โดยใส่เสื้อโทนสีฟ้า และ กระโปรงสีขาว เมื่อทำการวาด มันเริ่มที่ หกโมงเย็นพอดี เธอใส่ชุดนั้นมาตามที่กาย บอก โดยให้ฉากหลังเป็นโลกใต้ทะเล และ เธอกำลังนั้งเก้าอี้ในท่าที่เธอคิดว่า สบายที่สุดกายเริ่มวาดภาพจากโครงหน้าจรดไปถึงเท้า กายวาดรูปของเธอเสร็จก็กินเวลาไป สองชั่วโมง ภาพของเธอนั้นดูหม่นหมองเหมือนคน ไร้ความคิด แววตาเธอเศร้าสร้อย ยิ่งดูก็ยิ่งหดหู่
ในช่วงที่กายวาดเกือบจะเสร็จ กายถามเธอคนนั้นว่า “เป็นอะไรรึปล่าวครับ เหมือนคุณกำลังเสียใจเลย” เธอตอบด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม “ไม่เป็นไรค่ะ”
“เอาหละ วาดเสร็จแล้วครับ”
“ขอดูหน่อยสิค่ะ” เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แง้มดูภาพพลางๆ
“ว๊าว!!!!! สวยจังเลยค่ะ ในภาพนี้สวยกว่าตัวจริงซะอีก ค่ะ”
“ขอบคุณครับ คุณเก็บภาพนั้นไว้เลยนะครับ”
“ค่ะ ทำไมละ”
“ผมอยากวาดภาพที่เป็นตัวคุณไม่ใช่ภาพที่เสแสร้งใดๆ” ขณะที่กายกำลังจะเดินออกจาก Under Water
“เดี่ยว! นายรู้นานรึยัง”
“ผมนะ ไม่รู้หรอกครับ แต่ ภาพของผมมันบ่งบอกถึงตัวคุณ”
“นาย ชื่ออะไร”
“ผมชื่อกาย”
“เราชื่อ ไอ ไอที่มาจาก Iris ครั้งหน้าเวลาพบกันครั้งหน้าเราจะแสดงความเป็นเราให้ดู”
พอเธอพูดจบก็ กายก็เดินออกไป แต่ไปขามา ส่วนขากลับไม่ได้คิดไว้ กายอุทานเบาๆ “เฮ้อ ตังก็มีติดตัวไม่เท่าไหร่ คงต้องเดินกลับสินะ เฮ้อ เรามาตอนแรก มาอย่างราชสีห์ แต่ขากลับทำไม เหมือนไฮยีน่า ตัวนึง” แต่ Under water นี้ห่างจาก มหาลัย สิบกิโลเมตรได้มั้ง นี้ก็สองทุ่มกว่าแล้วด้วย กว่ากายจะกลับมหาลัยก็ สามทุ่มกว่าๆ พอดี
วันรุ้งขึ้น มีการเรียนภาคเข้าเป็นวิชา การวาดเขียน และการลงสี ที่เป็นของถนัดของกาย วันนี้ อาจารย์ ให้ไป วาดรูปได้อิสระ ในรั่วมหาลัย และบรรยาย ความรู้สึกของสิ่งที่วาดนั้นผ่านภาพที่เห็น
กายไปที่ตึก มนุษย์ศาสตร์ เพื่อวาดรูป ป้าย ของ ตึก แต่เพื่อน หญิงของกาย ชื่อ เมย์ ได้ขอตามไปวาดด้วย เมย์ เป็นคน ลึกลับ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่น่ารัก ผมยาวถึงไหล่ผมเป็นเกรียวสวยงาม นัยน์ตาสีดำสนิท ริมฝีปากอันอวบอิ่ม ผิว ขาวเหมือน หิมะ เธอเป็นคนที่คบคนง่ายนะ นิสัยเธอกระตือรือร้นลันดี เป็นที่ชอบของทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือ หญิง แต่เสียอย่างเดียว เป็นคนเอาแต่ใจ และทุกๆครั้งที่เธอว่าง เธอมักจะมา หยอกล้อกาย ซึ่งไม่ใช่คนที่ มีปฏิกิริยาเท่าไหร่นัก พอกายถาม เธอว่าทำไม เธอถึงชอบแกล้ง กาย นัก เธอก็ตอบว่า “เพราะมันสนุกถึงได้แกล้ง” ถึงกายยังไม่ค่อยเข้าใจเมย์เท่าไหร่ แต่ เมย์ ก็มักจะขอ เป็นนางแบบ ให้กายวาดทุกที ภาพของเมย์นั้นดูสดใส ไม่เศร้าหมอง เป็นภาพที่น่าวาดอย่างยิ่ง ภาพทุกภาพที่เขียนของกาย แสดงความเป็นตัวตนได้อย่างเด่นชัด ทั้งคนวาดและ คนถูกวาด คราวนี้เธอก็มาขอเป็นนางแบบ ในการวาดป้ายให้เหมือน กัน กายได้เตรียมอุปกรณ์ ไว้เรียบร้อยแล้ว
“ เมย์ ตกลง จะมาวาดป้าย หรือมา เล่นกันแน่เนี้ย”
“โฮ กาย เวลาตั้งเยอะแยะ มีเวลาทั้งวัน จะรีบไปไหน”
“งั้น เธออยู่นิ่งๆ ให้วาดหน่อยสิ วาดไม่ได้”
“จะอยู่ให้สัก สิบนาทีก็แล้วกัน”
“นี้ เธอ วาดรูป ป้ายนะ ไม่ใช่วาดรูปเธอ ไม่ต้องบังป้ายเลย”
“อ่าว พูดงี้ ก็มีเรื่องสิ ระหว่าง ฉันกับ ป้าย อันไหน น่าวาด กว่ากัน”
“ป้าย” กายพูดอย่างเต็มปาก
เมย์นั่งเหงาไปสักพัก ก็กลับมาสดใส เหมือนเดิม ส่วนเธอนั้น ส่วนกายนั้นก็วาด รูป ป้ายอย่างใจจดใจจ่อ เมย์ ก็จ้องกายอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก็ได้ไม่ถึงสิบนาทีหรอก เธอก็ไป ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ เวลาผ่านไป ไม่นาน มีเสียงเรียกจากระยะไกล “ กาย กาย” กายสมาธิแน่วแน่มาก เสียงของผู้หญิงเริ่มใกล้มาทุกที กาย สังเกตถึงเสียง และหันไป ข้างๆ
“ไง แม่คนเสแสร้ง”
“ฉันไม่ได้เสแสร้งยะ แค่ทำตัว เป็นกุลสตรีให้มากขึ้นเท่านั้น
ว่าแต่นายมาทำอะไรตรงนี้”
“อ๋อ นี้มันงานวิชาวาดเขียน นะ อาจารย์บอกว่าให้เขียนภาพอิสระ”
“ให้ฉันเป็นแบบให้ ปะ”
“ไม่ต้องหรอก สิ่งที่ฉันอยากวาดคือป้าย”
“ระหว่าง ฉันกับ ป้าย อันไหน น่าวาด กว่ากัน”
“ป้าย” กายพูดอย่างเต็มปาก แบบไม่สนใจชาวบ้าน
“เอ๊า เสร็จสักที ว่าแต่ ไอ ทำไม เธอ หน้า งอลแบบนั้นหละ”
“ป่าวหรอก ไม่มีอะไร”
เหตุการณ์ มันบังเอิญเหมือนจับวาง เมื่อ เมย์ กลับมา พร้อมน้ำสองขวด
“อ๊ะ นั้น ดาวมหาลัย มาทำอะไรตรงนี้”
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่มาดู รูปวาดของคุณกาย นะค่ะเห็นว่าเค้าเป็นคนวาดรูปเก่งที่สุดของมหาลัย”
“หืม จริงหรอเนี้ย กายนายรู้จักดาวมหาลัยด้วยหรอ”
ขณะที่มือของกายกำลังเก็บพู่กันอยู่คำพูดของกายก็เผลอ หลุดไปหนึ่งประโยค “อ๋อ นี้หรอ ไอเธอเป็น คน เส......”
ความรู้สึกเสียวหลัง และสายตาที่จ้องเหมือนกับว่า ถ้าพูดไป ต้องตายแน่
ประโยคคำพูดของกายถูกบีบบังคือ “เสวนาเก่งนะ” กาย วางพู่กันลงอย่างช้าๆ แต่ถูกผลักรวดเร็วและแรงเหมือนแรงถีบ
“ฮ่ะๆ ไม่ต้องชมกันก็ได้ค่ะ ถ้าชมมากไปกว่านี้ รู้กันนะค่ะคุณกาย”
กายกลืนน้ำลายเสียงดังเอื๊อก... “ฮ่ะ”
ต้องขอบคุณเสียงนาฬิกา ที่ช่วยคุมสถานการณ์ไว้ได้
“อะ นี้ก็เที่ยงแล้ว หิวข้าวแล้วละ ขอตัวนะ”
“คุณไอ ก็มาด้วยสิ ไปทานข้าวกันเถอะ”
“ค่ะ / อือ” เป็นเสียงที่พร้อมกัน
ในระหว่างที่เดินไปโรงอาหาร สายตาของผู้ชายทุกคน จำเป็นที่จะต้องจ้องมองมาที่กาย แต่กายก็ไม่ได้สนใจกับสายตาพวกนั้นเลย กายคิดได้อย่างเดียว “หิวข้าว” นั้นคือสิ่งที่กายคิดในตอนนั้น ทั้งๆที่ในโรงอาหารที่เคยไปกินประจำ ไม่มีอะไรแท้ๆ แต่วันนี้ ทำไมรับรู้ถึงจิตสังหารอันรุนแรงนี้ได้
อาหารที่กิน มันก็อร่อยแบบทุกวัน ทำไมวันนี้อาหารที่กายกินมันช่างฝืดคอ เสียจริง คงเป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบละสินะที่ทำให้เป็นแบบนี้ ในขณะที่กิน จิตสังหารรุนแรงมาก เมื่อกาย อิ่มแล้วจึงลุกไปซื้อน้ำเพื่อดับกระหาย เมื่อไปถึงร้านขายน้ำแล้วมองมาที่นั่งของตัวเองก็พบว่า มีผู้ชายมามายกายกอง เยอะแยะเต็มไปหมด แต่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นทั้งไอ และเมย์ ก็ลุกขึ้นมา หากายอย่างรวดเร็ว
“กายรีบไปกันเถอะ อิ่มแล้วละ” เมย์เป็นคนพูด
“อ่าว นี้ไม่ดื่มน้ำกันก่อนหรอ?”
“ไม่ต้องหรอก พวกเราไม่หิวเนอะ คุณไอ”
“อือ .ค่ะ”
“แล้วเธอจะลากฉันไปไหนเมย์”
“ก็ไปวาดรูป ฉันไง จำไม่ได้หรอ เราสัญญากันไว้แล้ว”
“วะ วะ วะ ว่าไง น๊ะ หรือ พะ พะ พวก เธอ ปะ ปะ เป็นแฟนกัน”
“ไม่ใช่หรอก เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ”
“ชิ . ”
“เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงอะไรไหมค่ะ”
“เสียงอะไรใครพูด” เมย์พูดทั้งๆที่สายตามองไปที่อื่น
“เอาเถอะ พวกเธอสองคน เราอยากให้พวกเธอดูอะไรสักหน่อย มากับผมหน่อยสิ”
กายพา ไอ และ เมย์ เดินจาก มหาลัยไป ที่สวนสาธารณะที่เด็กๆเขาเคยไปประจำ แต่เพราะเดินไกลมาก ในระหว่างที่เดิน ก็แวะนั้นแวะนี้กันใหญ่ เมื่อถึงเวลาห้าโมง พวกเธอสองคนก็ ถาม กายว่า “ กาย จะให้พวกเรามาดูอะไรนะ”
กายตอบช้าๆ ทั้งๆที่กายกำลังวาดรูปของสวนสาธารณะอยู่ “รอเดี่ยวนะ”พวกเธอสองคนก็รอได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
“20..19..18..17..”
“กาย นับอะไร อะ “
“ชูววว มาแล้ว”
ภาพน้ำพุตอนเย็นประกอบกับ พลุสีอ่อนๆที่อยู่บนท้องฟ้า ความงามของตะวันยามเย็น พวกเธอสองคนได้แต่ ยืนมองด้วยความตระกรานตา และ จุดที่กายและพวกเธอ เป็นจุดที่สวยงามที่สุด กายพูดอย่างเบาๆ “ขอบคุณสำหรับความวุ่นวายในวันนี้ มันทำให้ภาพของผม มีสีสันต์ขึ้นมามาก” มีแต่ไอเท่านั้นที่ได้ยินคำพูดของกาย ไอ หันหน้ามามอง กายและยิ้มให้อย่างสวยงาม เป็นภาพที่สวยงามมากทั้งน้ำพุและพลุไฟ ประกอบกับ ภาพความสดใสของหญิงสาว กายลุกขึ้นจากที่นั้ง แล้วพูดลอยว่า “ อยากให้ทุกวันเป็นวันแบบนี้ ” มีเสียงประสานของหญิงทั้งสอง “เหมือนกันจ๊ะ/ค่ะ
ความคิดเห็น