คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ผู้ชายโรคจิตกับผู้หญิงงี่เง่า
2
ผู้ชายโรคจิตกับผู้หญิงงี่เง่า
เช้าวันใหม่ที่ดูเหมือนจะสดใสแต่อยู่ดีๆเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อวานผุดขึ้นมาในหัวให้อารมณ์เสีย แทนที่จะเป็นวันแรกที่มาเกาหลีจะมีแต่เรื่องที่ดีเกิดขึ้น แต่กลับเกิดเรื่องที่น่าโมโหซะได้ -..-!!
“หวังว่าวันนี้จะเจอแต่เรื่องดีๆนะ ขออย่าให้ได้เจออีตาโรคจิตนั่นอีกเลย”
“ฮัดชิ้ววว!”
เสียงจามยามเช้าของชานยอลเสียงดังไปทั่วห้องนอน ทำให้รูมเมทอย่างเซฮุนต้องตื่นขึ้นมาจากความฝัน พวกเค้าเองเพิ่งนอนกันได้ไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง เพราะมัวแต่พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้จนเวลาผ่านไปนานหลังจากที่ต่างคนต่างออกไปพักผ่อนคนละที่คนละทาง ทำให้มีเรื่องเล่ามากมาย แถมเมื่อคืนอีตาดีโอตัวดียังเอาเรื่องหื่นๆมาเล่าให้เพื่อนฟังอีก O.O
“นายเป็นหวัดเหรอ”
เซฮุนถามชานยอลด้วยความมึนงง กึ่งหลับกึ่งตื่น
“เปล่า แต่อยู่ดีๆก็จามเหมือนมีคนนินทาอะไรประมาณนั้น”
“อืม ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วละงั้นฉันขอนอนต่อก่อนแล้วกันวันนี้ไม่มีตารางงาน”
“โอเค ขอโทษนายด้วยที่ทำให้ตื่น”
หลังจากพูดจบเซฮุนเองก็นอนหลับไปเหมือนเดิม แต่เหมือนว่าชานยอลจะนอนต่อไม่หลับ ทำให้เค้าต้องเดินออกมาหาอะไรทำเรื่อยเปื่อยข้างนอก ทั้งดูทีวีก็แล้ว เล่นเกมส์ก็แล้ว ทำอะไรอีกตั้งเยอะแต่เหมือนว่าจะไม่มีความสุขเลยสักนิด ทำอะไรก็น่าเบื่อไปซะทุกอย่าง อารมณ์แบบนี้ต้องออกไปเดินเที่ยวข้างนอกแล้วละเผื่อว่าอะไรจะดีขึ้น
“เห้อออ หรือว่าที่เป็นแบบนี้เพราะยัยนั่นกันนะ ฉันถึงได้อารมณ์เสียตั้งแต่เช้าแบบนี้”
“เห้ ทำไมนายตื่นเช้าจังวะ”
ลู่หานออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพหัวฟุๆ พร้อมกับเดินมาหาชานยอล ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเพราะปกติเองชานยอลไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้ หรือเวลาที่มีตารางงานในตอนเช้าเค้าเองก็ไม่เคยตื่นเช้าเลยต้องให้เซฮุนที่เป็นรูมเมทปลุกตลอด
“อารมณ์ไม่ค่อยดีเลยตื่นเช้า”
“ดูจากเสียงแล้วอารมณ์ไม่ค่อยดีจริงๆแฮะ วันนี้ก็ยังเป็นวันพักวันสุดท้ายไปหาที่เที่ยวกันเถอะ ขืนให้อยู่เฉยๆแบบนี้ฉันคงอยู่ไม่ได้มันน่าเบื่อจะตาย”
“ฉันเองก็โคตรจะเบื่อเลย ตื่นมาตั้งนานแล้วแต่ว่าทำอะไรก็เบื่อไปหมด ฉันกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี”
“เอาสิ! เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเดี๋ยวเราออกไปด้วยกันเลย”
“โอเค”
หลังจากทั้งคู่ได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวกัน ลู่หานเสร็จก่อนจึงออกมารอที่ห้องนั่งเล่นก่อนและชานยอลเองก็ตามมาทีหลัง ทั้งคู่ได้ตกลงกันว่าจะไปหาอะไรกินที่ตลาดนัมเดมุนและจะไปเที่ยวต่อที่สวนสนุกล็อตเต้ เวิลด์
ตลาดนัมเดมุน
“แกจะมาซื้ออะไรที่นี่วะลู่หาน”
“มีหลายอย่างเลยนะที่ฉันอยากจะซื้อ ที่นี่ของถูกดีมันดีกว่าการที่จะเดินห้างซื้อของแพงๆ ฉันอยากเก็บเงินเอาไว้ให้พ่อแม่มากกว่า”
ลู่หานตอบไปด้วยความจริง เค้าคิดมาเสมอว่าจะต้องทำงานเก็บเงินเอาไว้ไปให้พ่อกับแม่ เพราะว่าพ่อกับแม่ลำบากเพื่อเค้ามาเยอะ เค้าอยากให้พ่อกับแม่สบาย
“ฉันเนี่ยนับถือแกจริงๆ ประหยัด ขี้งก ขี้เหนียว ซกมกแล้วแถมยังง......ง..”
“หุบปากไปเลยแก อยู่เงียบๆก็ดีแล้วไม่มีใครหาว่าแกเป็นใบ้หรอกนะ”
“ก็มันความจริง”
ชานยอลพูดจบก็เบ้ปากใส่ เดินหันหลังหนีไปเลือกของหน้าตาเฉย ทำให้ลู่หานถึงกับส่ายหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ สำหรับลู่หานแล้วชานยอลคือเพื่อนที่ดีที่สุดที่ไว้ใจได้มากที่สุด เวลาอยู่กับคนอื่นเค้าอาจจะเย็นชาไม่อยากจะยุ่งด้วยแต่สำหรับลู่หานแล้วชานยอลไม่เฉยชาเย็นชาใส่เลย ออกแนวกวนตลอดด้วยซ้ำ
“เห้ รอฉันด้วยซิวะ”
“ฉันว่าเราไปหาอะไรกินดีกว่านะ ฉันเริ่มหิวแล้ววะ”
ชานยอลรู้สึกถึงความหิวของตัวเอง เหมือนว่าท้องของเค้ากำลังร้องเรียกหาอาหารมาเติมเต็มอยู่
“ฉันก็กำลังหิวเลย ไปหาอะไรอร่อยๆแถวนี้กินกันเถอะ อีกอย่างรีบกินแล้วรีบแปลงร่างไปเที่ยวกันเถอะก่อนที่คนจะเยอะกว่านี้ เดี๋ยวสาวๆจะมารุมกรี๊สสสส! มันน่ารำคาญนะบางที เห้ออ ไม่น่าเกิดมาหล่อเลยวะ”
“แกต้องติดนิสัยไอ้ดีโอมาแน่ๆเลยถึงได้เป็นแบบนี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันเองก็ว่าแบบนั้นแหละวะ อยู่กับมันมากไปหน่อยเลยติดนิสัยบ้าๆของมันมา แต่ทำไมเซฮุนกับแบคฮยอนมันไม่ติดบ้างวะ เห็นก็อยู่ด้วยกันตลอด”
“พวกนั้นนะมันพวกจิตแข็ง แบคฮยอนยังพอมีอารมณ์ร่วมหน่อย แต่เซฮุนเนี่ยสิเย็นชาชิบ”
เซฮุนนี่แทบจะไม่เคยหลุดอาการแปลกๆออกมาเลย ถึงจะอยู่ด้วยกันมานานแต่ว่าเซฮุนเองก็ยังคงคาแรกเตอร์หนุ่มมาดเข้มที่สาวๆชอบตามกรี๊สอยู่ตลอดเวลา คนอะไรขรึมเข้มได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาอยู่กับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานาน
“ฉันเห็นด้วยกับแก หมอนั่นแม่งโคตรเย็นชาไร้ความรุ้สึกนึกว่าเป็นหุ่นยนต์ เห้อออ รีบไปกินกันเหอะจะได้ไปเล่นเครื่องเล่น นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้ไปเล่นเนี่ย ตื่นเต้นวะเหมือนไม่เคยไปเลย”
“แกนี่โอเวอร์เหมือนดีโอจริงๆ ห่างๆกันได้แล้วนะ”
“แกแหละพูดเกินไป ฉันก็แค่เกือบๆ ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลังจากพูดจบทั้งคู่ก็ไปหาอะไรกินกันเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวสวนสนุก ทั้งคู่เลือกไปที่สวนสนุกเพราะว่าอยากเล่นเครื่องเล่นให้ตัวเองผ่อนคลาย โดยที่ไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าอาจจะไม่สบายอย่างที่คิด อาจจะวุ่นวายสักนิด
ส่วนอีกทางด้านหนึ่งนิลินเองก็กำลังเตรียมตัวไปสวยสนุกลอตเต้ เวิลด์เหมือนกับชานยอลและลู่หาน ถ้าโชคดีหน่อยทั้งคู่อาจจะแค่เดินผ่านกันไปโดยที่มองไม่เป็นกัน หรือถ้าโชคร้ายทั้งคู่อาจจะต้องเจอกันอีกครั้ง และแน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีถ้าหากทั้งคู่นั้นเจอกันอีกครั้ง
“ไปกินมาม่าที่ร้านสะดวกซื้อแล้วกันค่อยไปที่สวนสนุก เราต้องประหยัดเงินนะเพื่อพ่อกับแม่ ห้ามให้เงินเลือกเด็ดขาดเพราะว่าเมื่อวานนี่เราใช้ไปเยอะมากเลยนะ เห้ออ”
หลังจากนิลินได้กินอาหารที่ร้านสะดวกซื้อจนหมดแล้วก็ได้ออกเดินทางไปที่สวนสนุกทันที ถึงจะแปลกๆที่ต้องมาเดินเที่ยวคนเดียวในที่ๆไม่เคยมาแต่ว่านิลินเองก็ดูเหมือนว่าจะทำตัวสบายๆ ถึงแม้ว่าจะแบตื่นเต้นก็ตาม
“ว้าววว นี่มันต่างจากดรีมเวิลด์เยอะเลยนะเนี่ย ที่นี่มันกว้างจัง>///<”
*สวนสนุกลอตเต้ เวิลด์ เป็นสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อยู่เขตชัมซิล ในเมืองโซล ซึ่งจัดว่าเป็นสวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และมีโซนสวนสนุกกลางแจ้งที่สร้างเป็นเกาะอยู่กลางทะเลสาบซอกชน รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ช้อปปิงมอล ซุปเปอร์เก็ต โรงแรมหรู รวมไปถึงด้านในยังเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลีอีกด้วย ลอตเต้ เวิลด์ได้เปิดให้บริการทั้งปีเรียกได้ว่าเปิดทั้ง365วันเลยทีเดียว
“ฉันจะเริ่มจากตรงไหนดีละเนี่ย ฉันไม่รู้จักที่นี่เลยสักนิดเดียวเคยเห็นแต่รูปจากอินเตอร์เน็ต เห้อออ!! ทำไมการที่จะมาเที่ยวมันยากขนาดนี้เนี้ย รู้งี้พกเพื่อนมาสักสองคนสามคนยังจะดีซะกว่า งั้นเริ่มที่ชั้นสี่ชั้นบนสุดเลยแล้วกัน โอ๊ยย!ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้วเนี่ยย แม่จ๋าพ่อจ๋าหนูอยากกลับบ้าน หนูคิดถึงพ่อกับแม่มากๆเลย”
คิดได้เท่านั้นก็อยากจะแปลงร่างเป็นนกจำได้บินกลับประเทศไทยมาหาพ่อกับแม่สุดที่รักทันที ทำไมดูเหมือนว่าอะไรๆก็จะไม่เข้าข้างเค้าเลยสักนิดเดียว ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมกับหญิงสาวผู้บอบบางเอาซะเลย
“ว้าววO.O อะไรเยอะแยะเนี่ยย เล่นวันนี้จะหมดทุกอย่างมั้ยวะ”
นิลินได้แต่เกาหัวพร้อมพูดกับตัวเองเบาๆ นี่มันไม่ใช่เล่นๆเลยนะนี่มันกว้างมาก ข้าวของก็มีขายเยอะแยะ มันเยอะจนทำให้เธอนั้นลายตาไปหมด มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านค้า เครื่องเล่น เด็กๆวิ่งกันเต็มไปหมด
อีกทางด้านหนึ่งชานยอลและลู่หานได้มาถึงที่สวนสนุกแล้ว แต่เหมือนว่าพวกเค้าจะต้องปลอมตัวกันครั้งใหญ่เลย เพราะว่าที่สวนสนุกนี่มีผู้คนเยอะมาก ถ้าหากว่าเค้าทั้งคู่นั้นไม่ปลอมตัวมีหวังวันนี้ไม่ต้องได้เล่นเครื่องเล่นไม่ได้เดินดูของแน่ๆ แต่ที่หนักสุดคงจะโดนแฟนคลับรุมจนออกจากสวนสนุกไม่ได้เลย
“ฉันอยากเล่นไกโรดร๊อปวะ มันน่าตื่นเต้นดี”
ลู่หานกำลังชี้ไปที่เครื่องเล่นที่น่าหวาดเสียวอยู่ นั่นคือไกโรดร๊อป ที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นไปยังจุดสูงสุดนั่นมันสูงราวๆกับตึก10ชึ้นเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าลู่หานอยากจะเล่นเครื่องเล่นนี้มาก
“แกไม่กลัวความสูงเหรอ”
“ฉันเนี่ยผู้ชายแมนๆ ไม่เคยมีคำว่ากลัววะ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
กริ๊ง กริ๊งงง ~~~~ โอ้ปป้าสุดหล่อช่วยรับโทรศัพท์หน่อยฮับ~~~~~
เสียงโทรศัพท์ของลู่หานดังขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเสียงโทรศัพท์ของลู่หานทำให้ชานยอลที่ยืนอยู่ใกล้ๆทำหน้าล้อเลียนแกล้งทำเหมือนว่าตัวเองจะอ้วกออกมา เพราะคำว่าอปป้าสุดกหล่อเนี่ยแหละ มันน่าชวนอ้วกจริงๆนะ
“ใครโทรมา?”
“ไอ้ดีโอนะสิ โทรมาทำไมเนี่ยคนกำลังจะไปเล่นเครื่องเล่น ขัดจังหวะชิบ”
“เอาน่าๆ รับไปเหอะเผื่อมันมีอะไรเร่งด่วน”
“อืมๆ ว่าไง มีไร ถ้าไม่มีไรว่างแล้วนะ ฉันรีบ โอเค วางละ แค่นี้นะ บา..ย”
“เห้ยย!! จิตใจแกนี่ทำด้วยอะไรวะไอ้ลู่ ใจร้ายชะมัด แกจะตัดสายทิ้งทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเนี่ยนะห้ะ!! มีแต่แกเป็นฝ่ายพูดฝ่ายเดียวเลย นี่ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แกนะพูดเองเออเองอยู่คนเดียว แกนะ เอ้อ ฉันมันไม่เคยสำคัญกับแกเลยไง ฉันมันก็แค่เพื่อนนอกคอก แกนี่มันน!! หึ้ยยยย =_=#”
เสียงตะโดนด่าของดีโอดังทะลุออกมาจนทำให้ชานยอลอดขำไม่ได้ ดีโอมักจะโดนเพื่อนๆแกล้งเสมอ และดีโอเองก็จะเป็นคนที่น้อยใจเพื่อนงอนเพื่อนเก่งที่สุดทั้งๆที่เค้าเองก็รู้ว่าเพื่อนแกล้งแต่ก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้
“ไหน มีอะไร ว่ามา? รอฟัง ฉันรีบ?”
ลู่หานเองก็ยังคงแกล้งดีโอเหมือนเดิม อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้พวกเค้ายิ้มมีความสุขได้แม้ว่าจะต้องทำให้เพื่อนอีกคนต้องทุกข์ก็ตาม เรื่องแบบนี้แหละที่ทำให้พวกเค้ามีความสุขอยู่เสมอ มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
“แกอยู่ที่ไหน?”
“ลอตเต้ เวิลด์”
“กับใคร?”
“ยอล”
“ไปทำไม?”
“มาสวนสนุกนี่คงมาซักผ้าแหละ แล้วนี่แกเป็นอะไรของแกวะ ถามจู้จี้ทำตัวอยากกับว่าเป็นอะไรกัน ทำไมฉันต้องบอกต้องรายงานแกทุกเรื่องด้วย นี่แกเป็นเมียหรือว่าเป็นแม่ฉันอย่างนั้นเหรอ?”
ชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆอดขำไม่ได้กับคำพูดของลู่หาน มันช่างยียวนกวนประสาทไม่แพ้กับคำพูดของดีโอ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งแกล้งเท่าไหร่ดีโอก็จะยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
“แก ไป โดย ที่ ไม่ ชวน ฉัน เลย!”
ดีโอแผดเสียงดังทำให้ลู่หานกับชานยอลรีบถอยห่างจากโทรศัพท์
“ก็แกยังไม่ตื่นฉันกับยอลเลยออกมาเที่ยวด้วยกัน ถ้าไปปลุกอีกเดี๋ยวแกก็งอแงง้องแง้งจะเอานั่นเอานี่อีกตามใจยากวะแกเนี่ย”
“แกไม่ต้องมาทำเป็นพูดใส่ร้ายฉันเลยนะ ฉันเหรอเป็นแบบนั้น? ฉันเคยเป็นแบบนั้นตอนไหนห้ะ? อย่ามาใส่ร้ายฉันมั่วๆแบบนี้สิ”
“เออ! แกนั่นแหละ มีอะไรจะพูดอีกมั้ย ฉันจะวางแล้ว”
“ฉันกำลังจะไปหาพวกแก รอฉันด้วย แค่นี้นะ ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดดดด”
“อ่าวเห้ยยย!”
ดีโอพูดจบก็วางสายทันที ทำให้ชานยอลถึงกับขำก๊ากกับความง้องแง้งขี้งอนของดีโอ ถึงแม้ว่าดีโอจะร่าเริงสดใสตลอดเวลา แต่ก็มีบางครั้งบางคราวที่ดีโอน้อยใจเพื่อนๆงอแงแต่กับน่าขำซะมากกว่าน่าสงสาร
“แล้วแกจะรอมั้ยว้ะ”
“ก็คงต้องรอแล้วละ ไม่งั้นนะมันคงจะงอแงเผลอๆที่คงแทบลงไปดิ้นกับพื้นเลยแหละวะ”
ลู่หานพูดไปขำไป ถึงแม้ว่าดีโอจะชอบหาเรื่องมากวนประสาทเพื่อนๆอยู่เสมอ แต่ว่าดีโอก็เป็นที่รักของเพื่อนทุกคน ดีโอคือเพื่อนที่ดีสำหรับทุกคนเวลาใครอยู่ใกล้ดีโอมักจะหัวเราะสนุกสนานไปกับมุขตลกของดีโอเสมอ ถึงบางครั้งมันอาจจะไม่ตลกก็ตาม..
“งั้นไปหาที่นั่งรอมันเถอะวะ ถ้าให้ยืนอยู่แบบนี้คงอีกนานกว่าจะมาถึง”
“ไปหาที่ร่มๆเงียบๆแล้วกันเดี่ยวจะมีคนมาเห็นเดี๋ยวงานจะเข้าเอาได้”
ลู่หานและชานยอลเลือกที่จะไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ เพราะดูเหมือนว่าที่นี่คงเป็นที่ที่มีคนน้อยที่สุดและหวังว่าจะไม่มีใครจำพวกเค้าได้เพราะพวกเค้าปลอมตัวกันมาอย่างดี มิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า มันอาจจะดูแปลกแต่ว่าช่วยไม่ได้ในเมื่ออยากมาเที่ยวแบบคนธรรมดาก็ต้องจำใจทำ
“เมื่อไหร่มันจะมาถึงวะ นี่นั่งรอนานจนรากจะงอกแล้วนะเนี่ย”
“มันก็ต้องใช้เวลาในการเดินทางหน่อยสิ ใช่ว่าหอพักเราจะอยู่ใกล้ๆนะ”
“ฉันเริ่มหิวอีกแล้ววะ ท้องมันเริ่มร้องบอกว่า ขออาหารหน่อยคะใส่อาหารให้หนูหน่อยคะ ”
“ท้องแกร้องแปลกๆ มันมีปากให้พูดเหรอวะ”
“ฉันสัมผัสมันได้”
“เอาที่แกสบายใจเลย”
หลังจากนั่งรอดีโอไปสักพัก เวลาก็ยังคงผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนว่าคนที่ออกอาการมากที่สุดคือลู่หานที่อยากจะออกไปอะไรกินใส่ท้องแล้วก็เริ่มเล่นเครื่องเล่นสักที เพราะว่ามีหลายอย่างเลยที่เค้าอยากจะเล่นในวันนี้
กริ๊ง กริ๊งงง ~~~~ โอ้ปป้าสุดหล่อช่วยรับโทรศัพท์หน่อยฮับ~~~~~
“แกอยู่ไหนแล้ววะ”
“ฉันมาถึงแล้ว แล้วตอนนี้พวกแกอยู่ไหนกัน”
“ฉันอยู่ที่...”
“เห้!! พวกแกอยู่ตรงนั้นกันนี่เอง”
“วางสายแล้วรีบวิ่งมาหาพวกฉันได้แล้ว”
ลู่หานกดตัดสายทิ้งทันที ดีโอก็รีบวิ่งตรงเข้ามาหาลู่หานและชานยอล แต่ดูเหมือนว่าดีโอจะไม่ได้มาแค่คนเดียว เค้ายังพาแบคฮยอนกับเซฮุนมาอีกด้วย นี่มันก็ผ่านไปนานแล้วนะที่พวกเค้าไม่ได้มาเที่ยวกันแบบนี้
“พวกนายเองก็มาด้วยเหรอ”
ชานยอลเอ่ยถามเซฮุนกับแบคฮยอน
“ดีโอนะสิลากฉันกับเซฮุนมา ต้องมาปลอมตัวใส่เสื้อผ้ามิดชิดขนาดนี้อึดอัดชะมัดเลยวะ”
“เอาน่า ก็มันนานมาแล้วที่พวกเราไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ ไหนๆก็มีโอกาสแล้วฉันก็เลยลากพวกแกมาด้วยซะเลย จะได้เที่ยวแบบครบทีมกันสักที ฉันคิดถึงโมเม้นต์แบบนี้นี่นา~~~~”
“นั่นสิ พวกเราไม่ได้มาเที่ยวกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ ปีสองปี ตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะเดบิวด์นั่นแหละครั้งสุดท้าย”
แบคฮยอนเองก็เห็นด้วยกับการที่จะเที่ยวสวนสนุกด้วยกันในวันนี้ เพราะว่ามันนานมากแล้วจริงๆที่ไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันไม่ได้มีความสุขด้วยกัน ก่อนจะเดบิวด์เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด เพราะว่าจะไปไหนทำอะไรก็ไม่มีใครคอยวิ่งตาม แต่ว่าทุกวันนี้จะไปไหนนี่เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก
“เอาละๆ งั้นก็ออกไปสู่โลกกว้างกันเลย ไป๊ๆๆๆๆ!!!”
“หุบปากไปเลยไอ้ดีโอ เดี๋ยวถ้ามีคนจำเสียงแกได้ขึ้นมาละเรื่องใหญ่เลยนะ ช่วยทำตัวเหมือนคนปกติหน่อยได้ปะวะ”
“ก็ฉันอยากปลดปล่อยนี่หว่า เก็บกดมานานขอเถอะวันนี้ นะนะนะนะนะ ปุอิ๊งปุอิ๊ง >//<”
ดีโอทำท่าน่ารักใส่ชานยอล ทำให้เซฮุนที่ยืนอยู่ใกล้ๆถึงกับทนกับท่าน่าชวนอ้วกนี้ไม่ได้จึงผลักดีโอออกไปไกลๆ นี่มันแบ๊วชวนสยองซะมากกว่าแบ๊วน่ารัก ผู้ชายแบ๊วนี่มันน่าขนลุกชะมัด
“เลิกทำท่านั้นเถอะวะฉันเห็นแล้วอยากจะอ้วก”
“ทำไมหะฮุน! ฉันว่าฉันออกจะน่ารัก”
“แกน่ารักสู้ฉันไม่ได้หรอกดีโอ ฉันน่ารักที่สุดแล้ว”
“แกจะน่ารักมากกว่าฉันได้ไงไอ้ลู่ในเมื่อ ฉัน คือ มักเน่ น้องเล็กของวง!! แกนะแก่ที่สุดแล้วหุบปากไปเลย”
ดีโอค้านเสียงแข็ง และยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่น่ารักที่สุดในวงเพราะว่ามีความน่ารักขี้เล่นอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม ส่วนลู่หานนั้นคือคนที่แก่ที่สุดในวงไม่มีสิทธิที่จะน่ารักเกินเค้าไปได้
“ถึงฉันจะแก่แต่ก็แก่กว่าแกไม่กี่เดือน แล้วอีกอย่างฉันน่ารักกว่าแกเยอะ”
“แก่แล้วก็เงียบไปเถอะแกแบ๊วสู้ฉันไม่ได้ ยังไงน้องเล็กก็น่ารักที่สุด แกนะเลิกแบ๊วได้แล้วเดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวจะพังหมด”
“เดี๋ยวเถอะนะแก เดี๋ยวจะเจอดี!”
ลู่หานถึงกับอารมณ์พุ่งปรี๊ดด~~!! เค้ากับดีโอเกิดห่างกันแค่ไม่กี่เดือนแต่ดูจากคำพูดของดีโอทำให้เค้าเหมือนกับว่าเกิดห่างกันประมาณสัก10 ปีได้ ถ้าเค้าแก่งั้นทุกคนในวงก็คงแก่ไม่ต่างจากเค้า
“เลิกทะเลาะกันได้แล้วน่าพวกแกสองตัวเนี่ย มัวแต่ทะเลาะกันแล้ววันนี้จะได้เล่นเครื่องเล่นกันมั้ยห้ะ!!”
“ถูกของแบคมัน ไหนพวกแกบอกอ่างเล่นนักเล่นหนาไง แล้วนี่มัวทะเลาะกันอยู่ได้ แล้วแบบนี้จะได้เล่นกันมั้ย”
ถึงคราวที่เซฮุนต้องออกโรงเอง และดูเหมือนว่าสมาชิกทุกคนจะเงียบลงทันที มันมีไม่กี่ครั้งหรอกที่เซฮุนจะยอมพูด แต่ทุกครั้งที่เซฮุนพูดสมาชิกทุกคนจะฟังและหยุดทำทุกอย่างทั้งหมด
“แกก็อย่าเครียดสิฮุน ดูสิเนี่ยพวกมันกลัวแกกันหมดละ”
ชานยอลพูดแซวเซฮุน เพราะหลังจากที่เซฮุนพูดจบทุกคนก็เอาแต่เงียบ ผีเด็กที่สิงลู่หานกับดีโอเมื่อกี้คงจะกลัวจนหนีไปไกลแล้ว ตอนนี้คงเหลือแค่วิญญาณที่ว่างเปล่าทำให้พวกเค้าเงียบได้ขนาดนี้
“ไปเล่นเครื่องเล่นกันได้แล้วนี่พวกเราก็เสียเวลากันมามากแล้วนะ”
“งั้นเราไปเริ่มที่ชั้นบนเลยแล้วกัน แล้วค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆ โอเค๊?!!”
“โอเค รีบเล่นจะได้รีบกลับ”
“รับทราบครับผม”
ดีโอเชื่อฟังคำพูดของเซฮุน และพากันไปยังสวนสนุกชั้นบนสุด ชั้นนี้มีของเล่นของกินขายอยู่เยอะไปหมด ทุกคนต่างเดินซื้อของกินกันจนเพลิน จนมีผู้คนเริ่มที่จะจำพวกเค้าได้บ้าง และเหมือนว่ากำลังมีคนให้ความสนใจพวกเค้ามากขึ้นเรื่อยๆโดยที่พวกเค้าไม่รู้ตัว
“ทำไมคนพวกนั้นมองพวกเราแปลกๆวะ”
แบคฮยอนถามด้วยความแปลกใจ เพราะว่าเริ่มมีคนจำนวนมากมาล้อมรอบมองพวกเค้า ทำให้พวกเค้าเองเริ่มใจคอไม่ดี กลัวว่าแฟนคลับจะจำพวกเค้าได้แล้วจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นกับพวกเค้า
“หรือว่าพวกเค้าจะจำพวกเราได้”
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจวะ แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่น่าไว้ใจเลย รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ”
“หวังว่าอย่าให้เป็นแบบที่พวกเราคิดเลย”
“งั้นพวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วกัน ค่อยมาว่ากันใหม่ว่าจะเอายังไงต่อดี”
“โอเค ฉันเห็นด้วยรีบไปกันเถอะ”
พวกเค้าทุกคนรีบเดินออกไปจากจุดที่พวกเค้าอยู่ทันที แต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าเกินไปแล้ว เพราะว่ามีแฟนคลับของพวกเค้าจำนวนมาที่จำได้ว่าพวกเค้าคือใคร
“กรี๊สสส!! X-XO โอ้ปป้า~~~~~”
“ซวยแล้วไง ยังไม่ทันได้เล่นเครื่องเล่นเลย ถึงเวลาที่ต้องออกกำลังกายขาแล้วละ ทุกคน! วิ่งงงง!!”
ลู่หานรีบส่งสัญญาณให้สมาชิกทุกคนวิ่งหนีเอาตัวรอดทันที พวกเค้าหวังว่าจะหนีพ้นจากแฟนคลับในวันนี้ อย่างน้อยหลุดพ้นไปจากตรงนี้แล้วไปหาที่หลบก็ยังจะดีกว่าการยืนอยู่เฉยๆให้แฟนคลับได้รุม มีหวังได้ขาดอากาศหายใจตายกันพอดีคนเยอะขนาดนี้
“เห้! พวกเราจะวิ่งไปไหนกัน”
“วิ่งไปนอกสวนสนุกเลยแล้วกัน ตอนนี้แค่หลุดออกจากสวนสนุกก็พอแล้ว”
“โอเค พวกเราวิ่งให้เต็มที่ลืมตายกันไปเลย เลือกเอาแล้วกันจะตายที่นี่หรือว่าจะไปตายกันข้างหน้า”
ชานยอลตะโกนบอกสมาชิกทุกคน วันนี้พวกเค้าเองหวังว่าจะได้มาพักผ่อนอย่างสงบสบาย แต่ว่ามันไม่เป็นอย่างที่พวกเค้าคิดไว้ นี่มันวันซวยของพวกเค้าโดยแท้ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
“เห้ยๆๆ หลบไป หลบไป”
ชานยอลตะโดนบอกผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินถ่านเซลฟี่ตัวเองอยู่ข้างหน้าเค้า
“นี่หลบไป หลบไป”
“กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสส~~~~~~!!”
“โอ๊ยย/โอ๊ยยย”
ชานยอลวิ่งชนผู้หญิงคนนั้นอย่างจัง ทำให้ทั้งคู่ล้มลงคู่กันที่พื้น ทำให้ลู่หานเซฮุนที่ยังวิ่งไปได้ไม่ไกลหันมาเห็นเหตุการณ์ ทั้งคู่ได้รีบวิ่งมาช่วยชานยอลและผุ้หญิงทันที แต่เรื่องกลับไม่จบเพียงเท่านั้น
“โอ๊ยย! นี่นายวิ่งยังไงของนายเนี่ย ไม่เห็นหรือไงว่าคนเค้ายืนถ่ายรูปอยู่ วิ่งมาชนแบบนี้ได้ยังไงห้ะ!! ดูสิกล้องของฉันมันพังหมดแล้วเนี่ย”
ผู้หญิงคนนั้นถึงกับอารมณ์เสียเพราะโกรธจัด รีบลุกขึ้นมาต่อว่าชานยอลทันทีที่วิ่งไปชนเธอล้ม แถมเค้ายังทำให้กล้องของเธอหล่นพังอีกต่างหาก
“โทดที พอดีว่าฉันไม่ได้ตั้งใจฉันกำลังหนีแฟนคลับ”
“หนีแฟนคลับบ้าบออะไรของนายห้ะ?!!”
“เอ๋? นี่เธออีกแล้วเหรอ”
“นี่มัน!! แกอีกแล้วเหรอไอ้โรคจิต”
“โรคจิตอย่างนั้นเหรอ นี่เธอว่าฉันเป็นโรคจิตอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่!! แกนั่นแหละไอ้โรคจิต แกสะกดรอยตามฉันมาอีกแล้วใช่มั้ย”
“ฉันเนี่ยนะสะกดรอยตามเธอมา ยัยงี่เง่า”
“ยัยงี่เง่าอย่างนั้นเหรอ ถ้านายไม่ได้สะกดรอยตามฉันมาแล้วนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แถมฉันก็อยู่ที่นี่อีกด้วย จะบอกว่าบังเอิญเหรอ มันจะไม่มากไปหน่อยหรือยังไง?!!”
เอ๋อ~~ เซฮุนกับลู่หานที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ถึงกับงง ไอ้โรคจิตอย่างงั้นเหรอ ยัยงี่เง่าอีก เรื่องนี้มันคุ้นๆเหมือนว่าพวกเค้าเคยได้ยินมาจากที่ไหน หรือว่าจะเป็นเรื่องที่ดีโอเคยเล่าให้ฟังว่าชานยอลโดนผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต ทั้งเซฮุนและลู่หานหันหน้าไปมองกันแบบงงๆ แต่ว่าตอนนี้แฟนคลับเองก็ไล่ตามมาเกือบทันแล้ว ทำให้มีเวลาไม่มาก ลุ่หานจึงรีบคว้าแขนชานยอลวิ่งหนีไป และเซฮุนเองก็รีบคว้ามือของผู้หญิงคนนั้นไปเหมือนกัน
“นี่ๆๆๆ!!! นายจะพาฉันไปไหนนะห้ะ ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ แปะแปะแปะ!!”
“ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว ตอนนี้ฉันแค่ขอให้เธอวิ่งให้เร็วที่สุดก็พอ”
เซฮุนอธิบายได้แค่นั้นก็รีบจับมือพาเธอวิ่งตามชานยอลกับลู่หานที่วิ่งอยู่ข้างหน้าไปเรื่อยๆ จนมีรถตู้สีดำขับมาจอดอยู่ข้างหน้าพวกเค้า
“เห้!! พวกนายรีบขึ้นมาเร็วๆ”
ดีโอเปิดประตูตะโกนเรียกสมาชิกที่เหลืออยู่ให้รีบมาขึ้นรถ และทันทีที่พวกเค้าขึ้นรถกลับมีของแถมมาด้วย นั่นคือยัยงี่เง่าของชานยอลนั่นเอง ทำให้ทุกคนในรถนั้นอึ้งไปตามๆกันว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครวะเซฮุน ทำไมนายถึงพาผู้หญิงคนนี้ขึ้นรถพวกเรามาละ”
“เรื่องมันยาวรอให้ถึงบริษัทก่อนแล้วกัน ฉันว่าชานยอลน่าจะเป็นคนที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด”
ระหว่างที่พวกเค้านั้นนั่งรถกลับบริษัท ทุกคนในรถต่างเงียบพร้อมกันโดยที่ไม่ได้มีการนัดหมาย แต่คนที่ดูเหมือนว่าจะอึดอัดที่สุดนั้นคงเป็นใครไม่ได้ คนที่อึดอัดที่สุดคือยัยงี่เง่าที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่ยอมพุดยอมจาไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากับใคร พอถึงบริษัททุกคนจะได้รู้ความจริงว่าผู้หญิงคนนี้คือใครกันแน่
ความคิดเห็น