คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความรับผิดชอบ&เด็กฝึกหัด
4
ความรับผิดชอบ&เด็กฝึกหัด
หลังจากที่เดินตามผู้จัดการมาซักพักตอนนี้ก็อยู่หน้าห้องของประธานแล้ว เธอควรจะเข้าไปหรือหันหลังกลับดีละ ทำไมตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลยนะ ดูเหมือนว่าเลือกทางไหนก็ไม่ดีสักทาง ถ้าเดินเข้าไปแล้วกลับมาเธออาจจะต้องเป็นคนใหม่ ชีวิตอาจจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล แต่ถ้าหันหลังกลับไปชีวิตเธอก็คงไม่เหมือนเดิมอยู่ดี
“ฉันควรเข้าไปดีมั้ยคะ”
นิลินหันกลับไปถามผู้จัดการด้วยความกังวล ถ้าตอนนี้เธอมีพ่อแม่อยู่ด้วยอะไรคงจะจัดการได้ง่ายกว่านี้ รู้สึกคิดถึงพ่อกับแม่ขึ้นมาทันทีเลย
“เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วละ ว่าอยากจะให้เรื่องออกมาเป็นยังไง อยากให้เรื่องนี้จบแบบไหน”
“ถ้าฉันเข้าไปในห้องนี้แล้วพอกลับมาฉันจะไม่ใช่คนเดิมใช่มั้ยคะ?”
“ไม่หรอก คุณยังคงเป็นคนเดิม แค่ชีวิตคุณอาจจะเปลี่ยนไปบ้างไม่มากไม่น้อย”
“แล้วถ้าฉันหันหลังกลับไปละคะ?”
“ชีวิตคุณก็จะเปลี่ยนไปเหมือนกัน แต่ว่าอาจจะเปลี่ยนไปแนวทางที่ไม่ค่อยดี เพราะว่าคุณอาจจะอยู่ที่เกาหลียากในช่วงแรกๆเพราะว่าคุณเป็นข่าวกับนักร้องชื่อดัง คงยากที่แฟนคลับจะเข้าใจเรื่องนี้ มันอาจจะยากในช่วงแรกๆแล้วใช้เวลานานหน่อยกว่าเรื่องราวจะหายไปจากความสนใจของทุกคน”
“เหมือนว่าเลือกทางไหนก็เจอแต่ปัญหานะคะ”
“แต่เราควรเลือกทางที่ดีที่สุดนะ”
“ขอบคุณผู้จัดการมากนะคะ”
ผู้จัดการเดินกลับไปยังห้องพักของ x-xo ตอนนี้เหลือแค่เธอคนเดียว เหลือแค่เธอที่จะสามารถตัดสินใจเรื่องราวต่างๆนี้ได้ว่าอยากให้เรื่องราวออกมาเป็นแบบไหน แน่นอน เธอคงไม่อยากทำร้ายคนอื่นแบบนี้ เรื่องนี้เธอเองก็มีส่วนผิด เธอเองก็ต้องมีส่วนที่จะต้องช่วยรับผิดชอบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
หลังจากที่เธอได้รวบรวมความกล้าอยู่ที่หน้าห้องประธานมาสักพัก เธอก็ตัดสินใจเคาะประตูบานใหญ่ ตอนนี้จิตใจของเธอสับสนไปหมด แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้วก็ควรทำให้ดีที่สุด
“เข้ามา”
“เอ่ออ สวัสดีค..คะ”
“อืม สวัสดี เชิญนั่งสิ”
“ขอบคุณคะ”
“ว่าแต่เธอชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เป็นคนที่ไหน?”
“ชื่อนิลินคะ อายุ17 มาจากประเทศไทยคะ”
“อืมเอาละ ฉันก็ไม่ได้เป็นคนอะไรน่ากลัวขนาดนั้น ไม่ต้องกลัว”
“คือว่าฉันต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ คือว่าฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยคะ”
“ฉันรู้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เอาละที่ฉันเรียกว่าก็เพราะต้องการยื่นข้อเสนอนี้ให้เธอ เข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายของฉันเถอะ”
หลังจากทั้งคู่ได้พูดคุยกันสักพัก ถามเรื่องนั้นเองนี้ไปเรื่อยๆ ก็ได้มีการโทรฯคุยกับทางพ่อแม่ของนิลิน และแน่นอนพวกท่านเองก็ตกใจไม่น้อยและไม่มีทีท่าว่าจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆ แต่หลังจากที่นิลินได้อธิบายให้ฟังและท่านประธานเองก็ยืนยันที่จะส่งเสริมเรื่องการเรียนของเธอ ไม่ให้เรื่องการฝึกมากระทบกระเทือนกับเรื่องเรียนของเธอ พ่อแม่ก็โล่งใจและปล่อยให้นิลินตัดสินใจเรื่องนี้เอง
“เอาละ งั้นตกลงที่เธอจะเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดนะ”
“คะ”
“เอาสัญญาลองไปอ่านดูว่าพอใจมากน้อยแค่ไหน เพราะว่ายังไงเธอก็ต้องมาเป็นเด็กฝึกที่นี่และไม่แน่ว่าอีกไม่นานนี้เธออาจจะได้เป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของบริษัทเราก็ได้นะ”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“โอเค เอาไว้ฉันจะนัดเจอเธออีกทีแล้วกัน”
“คะ”
หลังจากที่คุยกันเสร็จเธอก็เดินออกมาจากห้องท่านประธาน อย่างน้อยเธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นแล้วละ เด็กฝึกหัดอย่างนั้นเหรอ เธอได้เป็นเด็กฝึกแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยนะเนี่ย นี่มันดวงล้วนๆ
“ฉันได้เป็นเด็กฝึก กรี๊สสส!”
“จะมาดีใจอะไรขนาดนั้น เรื่องของเรามันยังไม่จบหรอกนะ”
ยังดีใจไม่ทันจบก็มีคนมาขัดขวางเอาซะแล้ว ทำให้บรรยากาศเสียหมด และแน่นอนว่าคนที่มาขัดจังหวะไม่ใช่ใครที่ไหน อีตาโรคจิตนี่เอง เจอหน้าทีไรอารมณ์เสียหน้าบูดทุกที คนอะไรยิ้มไม่เป็นหรือยังไงชอบทำแต่หน้ายักษ์อย่างกับคนอมทุกข์
“อะไรอีกละห้ะ!! ยังมีเรื่องอะไรอะ?”
“เธอลืมไปแล้วเหรอไงห้ะ!”
“แล้วฉันลืมอะไรละ เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้วนี่ไงยังมีอะไรอีก!”
“เอาน่าๆ สองคนนี่ยังไงนะเจอหน้ากันไม่ได้เลยทะเลาะกันตลอด เข้าไปคุยกับในห้องดีกว่า ใจเย็นๆ”
ดีโอเข้ามาห้ามทั้งสองคนที่กำลังจ้องตากันลุกเป็นฟืนเป็นไฟ สองคนนี้นี่เข้าใกล้กันไม่ได้เลยจริงๆ เหมือนเหล็กขั้วเดียวกันที่พอมาเจอกันแล้วมันยิ่งดันให้ออกห่างกันทุกที
“ก็ได้ ฉันจะเดินไปเข้าห้อง หลบไปสิ”
“ที่มันมีตั้งเยอะเธอก็เดินไปเองสิ”
“ไม่! ก็ฉันจะเดินตรงไปฉันขี้เกียจเดินอ้อมมันเหนื่อย”
“เดินอ้อมแค่นี้มันไม่ตายหรอกนะ”
“ก็ฉันไม่อยากเดิน นายก็หลบไปสิ”
“ไม่หลบ มีปัญญาเดินก็เดินไปเองสิ”
“ได้! นายแน่ใจใช่มั้ยว่าจะไม่หลบฉัน?”
“แน่นอน เชิญ!!”
ชานยอลพูดพร้อมกับผายมือเชิญให้นิลินเดินไป แน่นอนคนแบนิลินเหรอที่จะกลัวอะไรแบบนี้ ยิ่งพูดแบบนี้เหมือนยิ่งยุให้เธอทำ ยิ่งเป็นคนแบบเธอแล้วละก็นะ ไม่มีอะไรที่ไม่กล้าทำหรอกยิ่งเป็นคำพูดของผู้ชายที่เธอไม่ชอบขี้หน้าละก็ ต้องเจอดีแบบนี้แหรอ
“โอ๊ยย! นี่เธอ!”
“ก็นายบอกให้ฉันไป ฉันก็ไปไง ฉันผิดอะไร?”
“เธอเดินเหยียบเท้าฉัน”
“ฉันบอกให้นายหลบไปแล้วแต่ว่านายไม่ยอมหลบเองนะ ช่วยไม่ได้”
“เธอนี่มัน!”
“เห้ยย! อย่ามัวทะเลาะกัน นิลินเธอเดินไปที่ห้องก่อนเลย ส่วนยอลแกอยู่นี่กับฉันก่อนรอให้เธอเดินไปก่อนค่อยเดินตามไป”
“ขอบคุณนะดีโอ^^”
นิลันพูดพร้อมหันมายิ้มหวานจ๋อยให้ดีโอที่ยืนอยู่กับชานยอล ทำให้ชานยอลถึงกับอยากจะเดินเข้าไปจับเธอล็อคคอเอาไว้แล้วเตะเข้าไปแรงๆที่ก้น แต่ติดที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงเนี่ยแหละทำให้เค้าทำกับเธอแบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้เค้าคงทำได้แค่สงบอารมณ์ไว้
“แกดูยัยงี่เง่านั้นดิวะ แม่งทำหน้าทำตาใส่ฉันนี่ต้องเก็บอารมณ์ไว้สุดๆ”
“เอานะยอล ฉันว่านิลินเค้าก็ดูน่ารักดีนะ”
“น่ารักกับผีนะสิ”
“หึหึ ระวังเถอะแกนะ ปากบอกแบบนั้นแบบนี้แต่ใจแกระวังไว้”
“ไม่มีอะไรต้องระวังหรอกคนแบบยัยนั่นทำอะไรคนแบบฉันไม่ได้หรอกวะเพื่อน”
“แต่คนแบบนั้นทำกับคนแบบฉันได้วะ”
“นี่แก!”
ดีโอพูดจบก็รีบวิ่งตามไปที่ห้องพักทันที ทำให้ชานยอลถึงกับยืนอึ้งอยู่ คงจะไม่เป็นแบบที่เค้าพูดนะ หมอนั่นคงจะไม่ชอบยัยงี่เง่าแบบนั้นหรอกนะ ถ้าชอบจริงๆมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเค้านี่หน่า แต่ทำไมเค้าถึงได้รู้สึกแปลกๆแบบนี้ละ -..-
“เอ้า! เข้าไปสินิลิน เธอมายืนทำไมหน้าห้อง เธอมาก่อนฉันตั้งนานแล้วนี่”
“ฉันไม่อยากเข้าไปข้างในนะดีโอ”
“ทำไมละ”
“ฉันรู้สึกผิดต่อพวกเค้าทุกคนนะ ฉันมันตัวปัญหาจริงๆแหละ”
“อย่าคิดแบบนั้นเลย พวกเราไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอเลยนะ แถมตอนนี้เธอเองก็กำลังจะเข้ามาเป็นเด็กฝึกแล้ว พวกเราหายห่วงแล้วละมันไม่มีอะไรมากหรอก ประธานท่านนะจัดการทุกอย่างได้ แค่นี้จิ๊บๆ เพราะว่าบางวงนะเกิดเรื่องยิ่งกว่านี้อีก”
“,อืม มันก็จริง”
มันก็จริงอยู่ที่ว่าเรื่องแค่นี้มันเรื่องเล็กน้อยหากเอาเรื่องนี้ไปเทียบกับเรื่องฉาวของวงอื่นแล้ว แต่นิลินเองก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี หลังจากที่พูดคุยกับประธานหลายชั่วโมงพูดกันหลายเรื่อง ทำให้นิลินรู้ว่าพวกเค้าต้องเจออะไรมากันเยอะกว่าจะดังถึงวันนี้ได้ แถมตอนนี้ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ทำให้พวกเค้าคงจะลำบากไม่น้อยกับข่าว ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อยๆ
“เข้าไปข้างในเถอะ ไปคุยกันข้างใน”
“เข้าไปสิ”
“เห้! เป็นยังไงบ้าง ท่านประธานว่ายังไงบ้าง”
“ท่านจะรับเธอเข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายใช่มั้ย?”
“ฉันว่ารับชัวร์ หน้าตาก็ผ่านนะ แต่ว่าตัวเล็กไปหน่อย”
“แต่แบบนี้แหละน่ารักดีแล้ว”
“ฉันว่าเตี้ย”
“เอ้า! ยอลทำไมนายมาช้ากว่าดีโอวะทั้งๆที่ออกไปด้วยกันนายหายไปไหนมา?”
ลู่หานถามด้วยความสงสัยเพราะว่าทั้งคู่ออกไปพร้อมกัน แต่ดูโอกับนิลินเข้ามาในห้องพร้อมกัน แต่ชานยอลกลับเข้ามาในห้องทีหลัง แถมทำหน้าเหมือนกับว่าไปมีเรื่องกับใครมา พูดจายังห้วนๆอีก เรื่องแบบนี้มันน่าสงสัยจริงๆ แต่ก็คงไม่พ้นทะเลาะกับนิลินก่อนเข้ามาอีกแล้วแน่ๆหน้าถึงได้บูดขนาดนี้
“พอดีมีเรื่องนะ”
“เรื่องอะไรวะไหนเล่าให้เพื่อนฟังหน่อยสิ”
“แกก็ไปถามอะไรมันนักหนาวะลู่ เรื่องที่เราอยากรู้มันไม่ใช่เรื่องนี้เว้ย มันคือเรื่องที่นิลินเข้าไปในห้องต่างหาก แกลืมแล้วหรือไง”
“เออจริงวะ ฉันลืมไปเลย นี่ถ้าแกไม่บอกฉันนี่ฉันคงมัวแต่อยากรู้เรื่องของยอลนะเนี่ย ขอบใจแกมากนะแบคที่เรียกสติฉันคืนมา”
“พวกแกนี่มัวแต่เวอร์กันอยู่ได้ เอาละเธอพูดมาได้แล้ว พวกเราจะตั้งใจฟังเธอ”
“ห้ะ! เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ”
“เงียบไปเถอะน่า”
แบคฮยอนกับลู่หายถึงกับอ้าปากเหวอหันไปสบตากันปิ๊งๆสองคน ถึงกับเหวอในคำพูดของเซฮุน ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบเค้าอยากรู้เรื่องของคนอื่นเหรอ ไม่ใช่มั้งปกติเค้าไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา ขนาดเรื่องของคนในวงเค้าเองยังไม่ค่อยสนใจไม่ค่อยอยากรู้อะไรขนาดนี้เลย นี่มันแปลกๆแหะ
“ดูนายจะตั้งใจมากเลยนะฮุน”
“ก็เรื่องนี้มันสำคัญมากนะ ต้องสนใจอยู่แล้วละ”
“เอาเหอะ มาๆถึงตาเธอเล่าแล้วว่าเป็นยังไงบ้าง”
“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ท่านประธานบอกฉันว่าให้เอาสัญญาไปอ่านก่อนว่าพอใจหรือว่าอยากให้ปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้างมั้ยแล้วค่อยมาว่ากันอีกที แล้วก็เค้าบอกว่าฉันอาจะฝึกไม่นาน”
“ทำไม? เค้าจะไล่เธอออกเหรอ?”
“ตลกละดีโอ แกก็ฟังให้จบก่อนสิวะ”
“แกอย่ามาดุฉันสิลู่ เดี๋ยวเถอะคืนนี้นอนนอกห้องเลย”
“พวกแกนี่! ใช่เวลาทะเลาะกันมั้ยห้ะ! นิลินเธอเล่าต่อเลย ไม่ต้องไปสนใจไอ้พวกนี้หรอกมันเห่ามันหอนกันไปงั้นแหละ”
“เค้าบอกว่าตอนนี้กำลังเตรียมเดบิวด์เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่นะ ถ้าฉันพร้อมฉันอาจจะได้เดบิวด์พร้อมพวกเค้าเลย”
“โอ้โห! เพิ่งมาไม่นานแถมยังจะได้ใช้เวลาในการฝึกแค่แปปเดียวแบบนี้มันน่าอิจฉานะ ดูพวกเราสิฝึกกันมาตั้งหลายปีกว่าจะได้เดบิวด์ เธอนี่มันโชคดีจริงๆเลยนะ”
“หึ! ถ้าไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเธอก็คงไม่ได้เดบิวด์เร็วขนาดนี้หรอก ความสามารถอะไรนะมีบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่เป็นเลยนะ”
คำพูดดูถูกของชานยอลทำให้นิลินถึงกับปรี๊ดแตก ชาติที่แล้วเค้าคงไปสร้างเวรสร้างกรรมกับชานยอลไว้เยอะสินะ ชาตินี้ถึงได้โดนเค้าเอาคืนแบบนี้อยู่ตลอด แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าชานยอลจะลดความใจยักษ์ของเขาได้เลย ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ เอาแต่พูดดูถูกอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้กำลังใจแล้วยังจะมาพูดให้เสียกำลังใจอีก แย่ที่สุดเลย
“ฉันไม่คิดแบบยอลนะ ฉันคิดว่าเธอก็คงจะมีความสามารถบ้างแหละ ใช่มั้ย?”
“แน่นอน ฉันเต้นได้นะเต้นได้ดีด้วยแหละ”
“เต้นอะไรเหรอ? บัลเล่ต์?”
“ฉันเต้น coverนะ”
“งั้นเต้นให้พวกเราดูหน่อยสิ จะได้ช่วยกันติว่ามันดีหรือยัง”
“นั่นสิ พวกเราเต้นเก่งกันทั้งนั้น เวลาที่มีอะไรจะได้ช่วยกันดูว่าเป็นยังไงบ้าง”
“จะดีเหรอ?”
“ปอดละสิเธอนะ”
“หุบปาก รอแปปฉันขอเตรียมตัวก่อน”
“เชิญ”
นิลินเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวแสดงการเต้นให้กับพวกx-xoดู การเต้นครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งไหนๆ นี่มันคือการเต้นที่มีคนดูอย่างใกล้ชิดแถมยังเป็นนักร้องชื่อดังอีก เธอกลัวว่าตัวเองจะเต้นออกมาได้ไม่ดีแล้วจะมีคนมาสมน้ำหน้าเธอที่เต้นพลาด แต่ตอนนี้เธอเองก็คงจะทำได้แค่ตั้งใจเต้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วละ
“นี่! เร็วๆหน่อยสิจะให้พวกฉันนี่รอเธอถึงชาติหน้าเลยหรือยังไง!”
“ฉันพร้อมแล้ว”
24 hours sunmi
อีชิบซาชิกานนิโมจารา นาวัม ฮัมเกอิซซึมยอน นาวัม นูนึลมัจชูมยอน
อีชิบซาชิกานนิโมจารา เนกานอรึล มันชิโก นิกานารึล มันชิมยอน
อีชิบซาชิกาน (uh uh uh) อีชิบซาชิกาน (baby bebaby)
อีชิบซาชิกาน (uh uh uh) อีชิบซาชิกาน
ชิกานนิ นอมูนา ปัลริกา
นอวาเย ฮารูกา อีบุนกัททา นันมิชิล กอจกัททา
อาชีววอ อาชีววอ~~
เพียงแค่เสียงเพลงดังขึ้น นิลินก็ปรากฏตัวออกมาเธอเลือกเพลง24hourseของsunmi และแน่นอนว่าเพลงที่เธอเลือกนั้นมีท่าเต้นที่เซ็กซี่มาก ทำให้เหล่าสมาชิกที่รอดูอยู่ถึงกับอึ้งทึ่งไปตามๆกัน บางคนนี่ถึงกับอ้าปากค้างไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเค้าคือนิลินผู้หญิงที่เก้งก้างคนนั้นจริงๆ นี่เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าเธอจะเต้นเพลงแบบนี้ได้ และแน่นอนว่าท่าเต้นเพลงนี้มันเย้ายวนชวนให้ใจเต้นแรง
“พะ...พอ...พอเถอะ”
ดีโอถึงกับต้องตะโกนบอกให้นิลินหยุดเต้น เพราะว่าตอนนี้เหมือนหัวใจเค้าจะเต้นรัวเสียงดังเหมือนกับว่ามันจะระเบิดออกมาข้างนอกให้ได้ ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้ละ แล้วคนอื่นจะเป็นแบบเค้าหรือเปล่าหรือว่าเค้าเป็นคนเดียวที่เกิดอาการแบบนี้ขึ้น ขืนไม่บอกให้หยุดตอนนี้มีหวังเลือดกำเดาเค้าไหลแน่ๆ
“มีอะไรหรือเปล่า? ฉันเต้นไม่ดีเหรอถึงบอกให้ฉันหยุด”
“เอ่ออ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก เธอนะเต้นดีแล้วละ”
“แล้วทำไมถึงให้ฉันหยุดละ นี่ฉันยังเต้นต่อได้นะ เต้นจนจบเพลงเลยก็ได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก พวกเรารู้แล้วละว่าเธอเต้นเก่งจริงๆ แค่นี้ก็พอ”
“อืม โอเค”
“พวกนายว่ามันดีแล้วเหรอ”
“ฉันว่ามันห่วยอยู่นะ นี่เต้นหรือว่ารำ”
ชานยอลยังคงปากแข็งเหมือนเดิมทั้งๆที่ตอนนิลินเต้นอยู่เค้าถึงกับอึ้งตาแทบจะทะลักออกมาจากเบ้าตัวเอง แต่เค้าก็ทำเป็นปากแข็งบอกว่าเต้นไม่ดีแล้วก็รีบลุกเดินออกจากห้องไปเพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าตอนนี้หัวใจของเค้ามันเต้นโครมครามอยู่ บ้าจริง! ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้ได้ละ ใจเต้นแรงเพราะยัยงี่เง่าคนนี้เนี่ยนะมันเป็นไปไม่ได้หรอก
“เหอะ! ฉันก็ไม่อยากจะได้คำชมจากนายหรอกนะ ชิ!”
“แต่ฉันว่าเธอเองก็เต้นเก่งนะ”
ถึงคราวเซฮุนออกความคิดเห็น แน่นอนว่าเค้าติองชมเธออยู่แล้ว เพราะตอนที่เธอเต้นอยู่เค้ามองเธอเต้นตาไม่กระพริบเลย ตอนที่เธอเต้นมันมีเสน่ห์ดึงดูดจริงๆถึงแม้ว่าภายนอกเธอจะดูซื่อๆใสๆแต่พอเธอเต้นมันเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
“พวกฉันเองก็คิดแบบนั้นแหละ ฉันว่าเธอมีความสามารถมีทักษะการเต้นดีที่เลยนะ เธอเคยเรียนมาเหรอ”
“เปล่าหรอก พอดีว่าฉันชอบร้องเพลงชอบเต้นนะ เวลาเห็นเค้าเต้นฉันก็แค่ฝึกเต้นตามเค้าไปเรื่อยๆแค่นั้นเอง”
“นี่ขนาดไม่เคยเรียนนะยังเต้นเก่งขนาดนี้ แต่ถ้าเธอได้เรียนสักนิดนะรับรองเลยว่าเธอจะเก่งกว่านี้เยอะ”
“ชอบใจนะแบคฮยอน”
“แล้วเธอร้องเพลงได้หรือเปล่าละ”
“ก็พอได้นะแต่ว่ามันคงจะแปลกๆเพราะว่าฉันแค่ฟังแล้วจำมาร้องตามแค่นั้น”
“งั้นลองร้องให้พวกเราฟังหน่อยสิจะได้ช่วยกันฟังว่ามันเพี้ยนหรือว่ายังไงหรือเปล่า”
“โอเค”
หลังจากที่นิลินเลือกเพลงมาสักพักเธอก็เลือกเพลง i love you ของแทยอนจากวงโซนยอชิแด เพราะดูเหมือนว่าเพลงนี้เธอจะร้องได้ดีที่สุดแล้วในบรรดาเพลงเกาหี หวังว่ามันจะออกมาดีและไม่ตลกในสายตาของคนอื่นนะ
ซือจยอ-คานาโย
อูรีเย-ซารังงึล
คาซึมมาพึน-จูออกินคาโย
ทูรา-ซอเนโย
คือแดเย-มาอืมมึน
นุนมุลโรโด-ชาพึลซุน-ออบนาโย
My Love~ ซารังแฮโย-ซารังแฮโย
คือแด-ดึดโก-อิซนาโย
My Love~อิชชี-มัลราโย
ชีอูชี-มัลราโย
อูรีเย-ซารังงึล~~
“ว้าววว! เธอร้องเพลงได้เพราะเหมือนกันนะเนี่ย ถึงแม้ว่าบางคำเธออาจจะออกเสียงผิดออกเสียงเพี้ยน่ามันเพราะมากเลยแหละ เนอะฮุนแกว่ามั้ย?”
“เสียงดี อารมณ์ได้ ความหมายเพลงก็ดีนะ เข้าใจเลือกเพลงดีนิ”
“เสียงเธอนี่เพราะใกล้เคียงกับรุ่นพี่แทยอนเลยนะนิลิน”
“ใช่ๆ ฉันว่าเธอออกเสียงชัดกว่าไอ้ลู่อีก ไอ้นี่อู่เกาหลีมาตั้งหลายปีบางคำแค่พูดยังเพี้ยน”
“อ่าวไอ้ดีโอ พูดให้ดีนะแกอะ เดี๋ยวฉันจะให้แกนอนนอกห้องจริงๆคืนนี้ ไม่ต้องเข้าห้องนอนเลย”
“อุ้ยย! ถ้าตัวเองไม่ให้เค้านอนในห้อง เค้าจะไปนอนกับฮุนนี่นะยะ>//<”
“พวกแกนี่เล่นกันบ่อยจนฉันขนลุกซู่ไปหมดละ”
“หรือจะไปนอนกับแบคที่รักดีนะ คิคิ><”
“ไปไกลๆเลยก่อนที่ฉันจะเตะแกดีโอ”
นิลินเอาแต่นั่งขำพวกแบคฮยอน ลู่หานกับดีโอคุยเล่นกัน ถึงพวกเค้าจะต่างกันมากแต่ว่าพวกเค้ากลับอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานเหมือนว่าทุกอย่างมันลงตัวสำหรับพวกเค้าทั้งหมด และในช่วงเวลาเดียวกันที่นิลินสนใจสมาชิกคนอื่น เซฮุนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็มองนิลินแล้วก็ยิ้มคนเดียวเหมือนกัน
“เห้ย!ไปกินข้าวกันเถอะนี่มันก็มืดแล้วนะ ฉันเริ่มหิวแล้ววะ”
“ก็จริงของดีโอมันนะ พวกเราอยู่ในบริษัทกันนานมากแล้วนะจนลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่มาบริษัท”
“งั้นไปหาร้านนั่งกินกันเถอะ”
“เกิดเรื่องแบบนี้นี่แกยังมีอารมณ์ไปนั่งร้านอีกเหรอวะ มีหวังร้านแตกแน่ๆ”
“เออวะ ลืมไปเลยแล้วทำไมดีวะ”
“สั่งขอมากินแล้วกัน ฉันอยากกินไก่แล้วเธอละนิลินอยากกินอะไรมั้ย?”
“ฉันน..อืม ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าฉันไม่อยากรบกวนพวกนายแล้วละ
“เธอจะกลับแล้วเหรอ?”
“อืม อยู่ไปก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วฉันขอตัวกลับเลยดีกว่า”
“โอเค กลับดีๆละ”
“ให้พวกฉันไปส่งมั้ย?”
“อย่าเลยเดี๋ยวจะเป็นข่าวอีกละแย่เลย ฉันกลับแล้วนะ ไว้เจอกันใหม่ บาย”
“อืม บาย/บ๊ายบายย/บาย/บ๊ายย จุ้บบ –3-”
หลังจากที่อยู่ที่บริษัทมานานเธอรู้สึกเริ่มชินแต่ว่าการอยู่นานๆมันก็ทำให้เธอเองรู้สึกอึดอัดไม่ใช่น้อย เธอจึงรีบออกจากบริษัทให้เร็วที่สุด และเดินกลับที่พักของเธอให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีใครมาเจอเธอแล้วจะซวย และยิ่งกว่านั้นเธอกลัวว่าจะเจอพวกนักข่าวแล้วเกิดจำเธอได้แล้วมาทำข่าวสัมภาษณ์เธอเรื่องมันจะแย่กว่าเดิม วันนี้เธอเหนื่อยมามากแล้ว
“จะมีใครซวยกว่าฉันอีกม๊ายยยยยยยยยยยยยยย!”
ความคิดเห็น