ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yuri WG**Sexy dangerous**

    ลำดับตอนที่ #7 : Sexy dangerous! 7 100%

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 52







           ผู้มาใหม่มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที อย่างฉงนระคนแปลกใจ  งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก  มองหน้าสวยหวานที่กำลังบึ้งตึงหน้าเชิดอยู่ใกล้ๆกับเธอ  วกกลับไปยังร่างสูงโปร่งที่ยืนนิ่งอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว  หน้าตาขึงขังดุร้ายเหมือนกำลังไม่พอใจมาก  ขยับกายกระฟัดกระเฟียด ใช้ตาแข็งๆมองไปที่สาวหน้าหวานที่เธอไม่คุ้นหน้า  ก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ  ลำคอเรียวของคนผิวเข้มตอนนี้เป็นรอยแดงก่ำ  เธอไล่สายตาลงไปเรื่อยๆก็พบว่าเสื้อตัวนอกของชุดทำงานมีรอยคล้ายกับคราบของเหลวที่ดูยังไม่แห้งสนิท  เหมือนกับเพิ่งผ่านมาแค่เพียงไม่กี่นาที  เสียงใสเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ

    “เอ่อ...พี่ยูบินคะ...นั่นพี่ไปโดนอะไรมาคะ...ทำไม...”
    ไร้เสียงตอบรับจากคิม ยูบินที่ยังคงปั้นหน้าเคร่งเครียด  จ้องมองไปยังร่างบางที่อยู่ข้างๆแฟนสาว

    “เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” เสียงหวานตอบขึ้นแทน  เว้นวรรคเพื่อดูปฏิกิริยาของคนฟังสักนิด ครั้นเห็นว่ายังเฉย  เสียงหวานก็กล่าวต่อไป
    “ดิฉันกำลังจะออกไปเอายามาทาให้อยู่พอดี”  ซอนมีมองหน้าคนพูด แล้วพยักหน้าให้นิดๆ
     
         มิน ซอนเยก้าวไปจับลูกบิดประตูห้อง เปิดบานประตูหนาออกกว้าง  ก่อนจะเอ่ยออกมาโดยที่ไม่ได้หันมามองคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง
    “อ้อ ดิฉันฝากบอกท่านรองประธานด้วยนะคะ...ว่าคราวหน้าคราวหลังให้ระวังตัวด้วย...เพราะดิฉันเกรงว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่นี้”
      
        มือเรียวหนาของคิม ยูบินกำแน่น กัดฟันข่มโทสะเต็มที่  เหน็บแนมหน้าตาย  น้ำเสียงราบเรียบ ฟังแค่เผินๆแทบไม่ออก แต่เธอรู้ดีว่าคนที่เพิ่งก้าวพ้นประตูไปหมายถึงอะไร  ตาคมหันมองไปทางสาวสวยอีกคนที่เพิ่งเข้ามา หายใจไม่ค่อยทั่วท้อง ตระหนักดีว่าคนตรงหน้าคงไม่เคลือบแคลงกับคำพูดเมื่อครู่

        ร่างสูงเดินดุ่มๆไปยังโซฟาตัวยาวที่เอาไว้สำหรับรับแขก  ก่อนจะทิ้งตัวนั่งด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด  พยายามปรับเสียงและสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติที่สุด
    “ซอนมีมาหาพี่ถึงที่นี่ มีธุระอะไรรึเปล่า”  
      
        ร่างบางเดินนวยนาดตามหลังมา  หย่อนตัวนั่งลงบนตักของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล  แขนเสลาถูกยกขึ้นคล้องที่คอของคนผิวเข้ม ก่อนจะโน้มใบหน้าเรียวสวยของตัวเองไปใกล้ใบหน้าคม  

    “อย่าทำหน้าเง้าสิคะ...เกิดอะไรขึ้น...บอกได้มั๊ย”  เสียงหวานพูดกระซิบ  ก่อนที่จะประทับริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองลงไปบนปากหยักของคนด้านล่าง ขบเม้มเบาๆแล้วถอนออกมา  มือบางข้างหนึ่งเปลี่ยนมาไล้ไปตามลำคอเรียว
    “เป็นอะไรไป...หรือว่ายังเจ็บตรงนี้คะ” พูดจบก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีว่าจะตอบสนอง



          มือหนาค่อยๆลูบไล้บริเวณต้นขาเรียว  แล้วใช้อีกมือรูดซิปเกาะอกสีแดงจนร่นต่ำลง พร้อมกับปลดตะขอชั้นในเนื้อบางออก  เผยให้เห็นอกอวบอิ่ม  มันชั่งยั่วยวนใจจนต้องเลื่อนไปจุมพิตหนักๆบริเวณอกอิ่มนั้น เรียกเสียงครางเบาๆจากคนด้านบนได้ดีที่เดียว
          คิม ยูบินผลักร่างระหงให้เอนกายลงไปบนโซฟาช้าๆ  ขณะที่จมูกโด่งยักซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอของอีกฝ่าย  ก่อนที่จะเลื่อนริมฝีปากชื้นทาบทับริมฝีปากอิ่ม  ลิ้นอุ่นซ่านถูกส่งเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเรียวพร้อมกับเสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังขึ้นมาเบาๆ

    “พะ...พี่ยูบิน...”  ซอนมีเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงหอบกระเส่า ตาสวยที่หลับพริ้มอยู่เมื่อครู่ ค่อยๆปรือขึ้นมาส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอพร้อมที่จะเริ่มขั้นต่อไปแล้ว
      
         ซอนมีมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ  ทำให้เธอยิ้มได้ทุกๆครั้งที่มีปัญหา  ในขณะเดียวกันก็คอยฉุดรั้งปรนเปรอด้วยเสน่หาร้อนแรงและเร่าร้อน  สร้างความอิ่มเอมและไม่คิดตัดรอนมันออก  สุดท้ายเธอก็เพลินอยู่ในนั้นโดยไม่คิดอยากจะถอนตัวกลับขึ้นมา  คิดได้เพียงแค่นั้นใบหน้าของผู้หญิงอีกคนก็ลอยเข้ามาในหัวทันที  กลิ่นหอมหวานของเธอยังคงติดตราตรึงใจอยู่เสมอ  แม้จะเป็นสัมผัสที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น  แต่ก็คิดอยากจะครอบครองมันสักครั้ง  ถ้าคนข้างล่างที่กำลังหอบกระเส่าอยู่นี่เป็นคนที่เธอกำลังนึกถึง  มันจะเป็นยังไงนะ ?
    ฟุ้งซ่านเกินไปแล้ว คิมยูบิน!!

    “...อื้อ...” ร่างบางครางออกมาเมื่อมือเรียวหนาค่อยๆถลกกระโปรงของเธอขึ้นไป  พร้อมกับขยับปลายนิ้วไปทักทายกับจุดอ่อนไหว  ตาคมจ้องไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมาบางๆ

    “จะรีบไปไหนคะ...ซอนมี...” ถามเสียงแหบพร่า ขณะที่นิ้วเรียวก็ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม

    “ยะ...อย่า...แกล้งกัน...สิคะ...”  

    “ใครบอกว่าแกล้ง...พี่ก็แค่...อยากจะอยู่กับแฟนนานๆ...ไม่ได้เหรอ” ลิ้นร้อนไล้วนอยู่ที่ยอดอกสวย  ลากผ่านลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ  มืออีกข้างทำหน้าที่เคล้นคลึงตามเอวคอดสร้างความกระสันให้กับร่างบาง จนต้องร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
     



    ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~


    “บ้าจริง!!”  
          คิมยูบินสบถออกมาเสียงดัง ก่อนจะถอนมือเรียวออกมา สปริงตัวลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงคล้ายกับคนข้างนอกกำลังจะเปิดประตูเข้ามา  กล่นด่าคนที่เข้ามาขัดจังหวะอยู่ในใจ  ขณะที่ดาราสาวก็ลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับขยับเกาะอกและกระโปรงของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางที่สุด

    “ฉันเอายามาให้ค่ะ” ดวงตาหวานใต้แพรขนตายาว  มองคนร่างสูงที่กำลังยืนทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าใครสักคนอยู่  แล้วมองผ่านไปยังอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาหรู  สภาพของทั้งสองไม่บอกก็รู้ว่าก่อนหน้าที่เธอจะเข้ามาคงจะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว เสื้อผ้าของท่านรองประธานที่กระดุมด้านบนถูกปลดออก ส่วนอีกคนก็ยังมีรอยยับของชุดที่สวมใส่และเผ้าผมที่หลุดลุ่ย  ทำให้เธอคาดเดาเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ไม่ยาก

    “ใครใช้ให้เธอเข้ามา!!”  เสียงห้าวตวาดใส่คนมาใหม่ ปรายตามองคนที่นั่งอยู่ก่อนจะพูดต่อ
    “ถ้าฉันไม่อนุญาต ก็อย่าสะเออะเข้ามาในห้องนี้!”

    “เอ่อ พี่ยูบินคะ...เค้าแค่เอายามาให้ อย่าไปถือสาเลยนะคะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดี ร่างระหงที่นั่งอยู่จึงรีบพูดแทรกขึ้นมา ลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าหญิงสาวอีกคน มือบางยกขึ้นมาหยิบหลอดยาจากอีกฝ่าย
    “ขอบใจมาก...เดี๋ยวฉันจัดการเอง...เธอออกไปได้แล้ว”  มินซอนเยพยักหน้ารับนิ่งๆพร้อมกับยิ้มบางๆให้กับเจ้าของคำพูดเมื่อครู่  ก่อนจะเดินออกจากห้องไป  นึกถึงใบหน้าคมของผู้เป็นเจ้านายที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อตอนที่เธอไปขัดจังหวะก็อดขำไม่ได้  คนอย่างคิมยูบิน มันก็คงไม่ต่างอะไรจากคิมยูโซผู้เป็นพ่อหรอก ขาดผู้หญิงเป็นไม่ได้  ไม่เสร็จสมอารมณ์หมายสักวัน  มีหวังคงได้ลงแดงตายแน่







    “ยูบิน! ฉันเห็นแกนั่งมองสามคนนั้นมานานแล้วนะ”  เสียงร้องถามของปาร์คเยอึนดังขึ้น ตาคมมองตามสายตาของเพื่อนรักไปยังโต๊ะที่อยู่ถัดจากพวกเธอประมาณสามถึงสี่โต๊ะ  

    “หรือว่าแกชอบสาวชุดแดงนั่น”  ปาร์คเยอึนถามต่อ ขณะที่ยังไม่ละสายตาออกจากสาวสวยในชุดสีแดงที่ว่านั้น และดูเหมือนเพื่อนเธอจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ   คิมยูบินได้ยินดังนั้นก็ถึงกลับหันขวับมาจ้องตาเขม็งให้กับปาร์คเยอึนทันที  

    “ทำไมวะ? ฉันพูดอะไรผิด หรือว่าแกไม่ชอบ ถ้างั้นฉันขอ” คนผมแดงพูดทีเล่นทีจริง ก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าขึ้นมากระดกเข้าปากไปจนหมด

    “แม่นั่นเป็นเลขาฉันเอง” คำตอบของคนข้างๆ  ทำให้คนที่ได้ยินแทบจะสำลักเครื่องดื่มออกมา  ตาคมหันไปมองคนที่กำลังถูกเธอและเพื่อนพูดถึงอยู่ตอนนี้  ไม่อยากจะเชื่อเลยสักนิดว่าสาวสวยหน้าหวานคนนี้จะเป็นเลขาของคิมยูบิน ซึ่งเธอเองก็พอจะเคยได้ยินเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้มาบ้าง จากปากของเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆในตอนนี้

    “อย่าบอกนะว่า...คนๆนี้...เป็น  เฮ้ย! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะ”

    “หึ! ยังไงแกก็ต้องเชื่อ ยัยนี่แหละที่ทำให้แม่ฉันต้องตกอยู่ในสภาพอย่างที่แกเห็น!” น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ดีถึงความเครียดแค้น  มือหน้ากลึงแก้วในมือ ท่าทางเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะฉีกยิ้มให้กับสาวแก้มกลมอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะนั้น  ซึ่งกำลังมองมาที่เพื่อนของเธออย่างสนใจเช่นกัน
    “แกคิดจะทำอะไร ยูบิน”





        สาวสวยในชุดเดรสเข้ารูปสีเพลิง  ซึ่งขับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น  ตาคมหวานที่ล้อมกรอบไปด้วยแพรขนตาหนา กรอกไปมาราวกับกำลังขบคิดเรื่องบางอย่างอยู่  เอื้อมมือไปหยิบแก้วเครื่องดื่มตรงหน้า ขึ้นจิบเบาๆ  ไม่ใส่ใจกับสายตาของเหล่านักเที่ยวทั้งหลายที่มองอย่างสนใจและหื่นกระหาย

    “ซอนเย...ไปทำงานที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยถามเพื่อนสาวของตนที่นั่งอยู่ข้างๆ

    “ก็ดี” ตอบไปเพียงสั้นๆ มือบางวางแก้วคอกเทลลงไปบนโต๊ะ ก่อนที่จะขยับขาขึ้นไขว่ห้าง

    “ยังไงเธอก็ควรระวังตัวให้ดีนะซอนเย...ฉันเป็นห่วง” เสียงทุ้มแผ่วเบาลงในประโยคสุดท้าย เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาไปเกินกว่าเพื่อนเลย  แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเขาเองก็ห้ามใจไม่ให้รู้สึกรักเธอคนนี้มากเกินกว่าที่เพื่อนคนนึงจะรักไม่ได้เช่นกัน
          มินซอนเยหรี่ตามองชายหนุ่มแวบนึง  เห็นแววตาเศร้าของเขาแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้  กี่ปีแล้วนะที่เป็นเพื่อนกันมา และเธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าชายหนุ่มรู้สึกยังไงกับเธอ คิมบอมคอยพร่ำบอกเสมอว่าเขาจะรอ  รอจนกว่าเธอจะเห็นค่าของความรักที่เขามอบให้เธอและรับมันไว้  ถ้าเธอเลือกที่จะรักได้  เธอก็คงเลือกเขาไปตั้งนานแล้ว  คงไม่ปล่อยให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้หรอก

    “ขอบใจนะที่เป็นห่วง”

    “อืม...โซฮี  โซฮี  โซฮี!”  เสียงทุ้มตะโกนเรียกเพื่อนอีกคน ซึ่งกำลังนั่งส่งยิ้มหวานให้กับใครสักคน ซึ่งเขาเองก็มองเห็นได้ไม่ชัดนัก  

    “เป็นอะไรรึเปล่าโซฮี” มินซอนเยรีบเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

    “นั่นสิ ฉันเรียกตั้งนานแล้ว มัวแต่มองหนุ่มๆที่ไหนอยู่นะ” คิมบอมเอ่ยแซวสำทับไปอีกคน  ส่งผลให้ใบหน้าของคนถูกแซวซ่านขึ้นทันที  ก้มหน้างุดลงทันที แก้มกลมทั้งสองข้างร้อนผ่าว  ซึ่งหากเป็นแสงไปปกติที่ไม่ใช่แสงไฟของสถานบันเทิง  คงสังเกตเห็นริ้วสีชมพูระเรื่ออย่างแน่นอน

    “พอแซวเข้าหน่อยแล้วทำเป็นเขินนะ” มินซอนเยเอ่ยยิ้มๆให้กับท่าทางของเพื่อนรัก  

    “จริงสิซอนเย  ไหนบอกมีเรื่องให้ฉันช่วยไง” เสียงทุ้มพูดขึ้นหลังจากที่นึกขึ้นได้ว่า  ที่มินซอนเยนัดออกมาเจอกันที่นี่ ก็เพราะมีเรื่องอยากจะให้ช่วย

    “เอ่อ...ซอนเย  คิมบอม...เดี๋ยวฉันมานะ” คนแก้มกลมพูดจบก็เดินออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน  จนเพื่อนทั้งสองคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความงุนงงแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร
















    รู้สึกว่ากระป๋มจะอัพช้านะคับเนี่ย
    ยังไงก็ขอประทานโทษด้วยคับ
    พอดีไรท์เตอร์เกิด accident
    ที่ลงมาไม่รู้ถูกใจคนอ่านรึป่าว  ยังไงก็ติชมนะคับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×