ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yuri WG**Sexy dangerous**

    ลำดับตอนที่ #12 : Sexy dangerous! 12

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 53







              ร่างบางของซอนมีนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ภายในห้องชุดสุดหรู  มือบางค่อยๆลูบเส้นผมให้กับคนที่นอนหนุนตักอย่างอ่อนโยน  ยอมรับว่าตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นคนรักของตัวเองมาปรากฏตัวในวันนี้  ความรู้สึกโกรธในช่วงที่ผ่านมาได้มะลายหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเห็นสภาพที่อิดโรยของอีกคน
    “ตื่นแล้วเหรอคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัวจึงเอ่ยถาม  คนที่หลับอยู่เมื่อครู่นี้ค่อยๆปรือตาขึ้นมามอง

    “นี่กี่โมงแล้ว”

    “สามทุ่มครึ่งค่ะ”

    “พี่หลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ  แล้วเธอไม่เมื่อยแย่หรือไง”  ร่างที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่งเคียงข้างกับซอนมีทันทีเมื่อกังวลว่าอีกฝ่ายจะเมื่อย

    “แล้วนี่หิวรึเปล่าคะเนี่ย  จะได้ออกไปหาอะไรทานกัน”

    “ยังหรอก...พี่อยากอยู่กับเธออีกสักพัก” ซอนมียิ้มให้กับคำตอบของยูบิน  มือบางโน้มศรีษะของอีกฝ่ายลงมาหาตักตัวเองช้าๆ ให้อยู่ในท่าเดียวกับเมื่อสักครู่โดยที่ยูบินเองก็ไม่ได้ขัดขืน

    “ถ้าสมมุติวันนึง  พี่เกิดหมดตัว ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีแม้กระทั่งบ้านให้อยู่ เธอจะยังอยู่กับพี่อย่างนี้ไหม” 

    “ถามอะไรแบบนั้นคะ ถึงแม้เรื่องที่พี่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ  ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคนที่ฉันรักเสมอ  มั่นใจได้ค่ะ”  ซอนมีพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง  ก้มลงไปจุมพิตที่ขมับของอีกฝ่ายเพื่อย้ำให้คิมยูบินได้มั่นใจในคำพูด  คนด้านล่างยิ้มออกมาบางๆด้วยความปลื้มใจ แต่ลึกลงไปข้างในแล้วมีแต่ความกังวล  ยิ่งซอนมีดีกับเธอมากเท่าไหร่  ยูบินเองก็ยิ่งละอายใจมากเท่านั้น
    “ขอบคุณมากนะซอนมี  ขอบคุณจริงๆ” 






    “เรื่องที่ฉันให้คุณไปจัดการ  ถึงไหนแล้ว”

    “มาถึงก็ถามหาผลงานเลยนะซอนเย”  ควอนโบอาขยับตัวไปพิงเก้าอี้ทำงาน พร้อมกับผายมือเชิญให้คนที่เพิ่งเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม

    “แล้วคุณมีผลงานมาอวดฉันบ้างรึเปล่าล่ะคะ” คำถามที่พูดออกไปดูเหมือนไม่จริงจังนัก

    “แหม...ใจเย็นๆสิ งานที่เธอให้ฉันไปทำเนี่ยมันก็ไม่ได้หมูเลยนะ”

    “แค่นี้มันคงไม่ยากเกินความสามารถคนเก่งๆอย่างคุณหรอกมั้งคะ” ซอนเยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับโบอา

    “ไม่ต้องชมขนาดนั้นก็ได้  เรื่องนี้น่ะฉันทำได้อยู่แล้ว  เพียงแค่ขอเวลาอีกหน่อย  เธอเองก็น่าจะรู้ว่าระบบหุ้นของบริษัทเค้าป้องกันแน่นหนาแค่ไหน  บู่มบ่ามไปเดี๋ยวไก่มันจะตื่นเอาได้  ช่วงนี้ยูบินมันยิ่งเข้มงวดอยู่ด้วย  ฉันว่าเราพักเรื่องปั่นหุ้นเอาไว้ก่อน  แล้วมาปั่นหัวท่านประธานคนใหม่เล่นกันดีกว่า”  เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าไม่เข้าใจ  โบอาจึงขยายความต่อ
    “ก็วันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการใหม่นั่นไงล่ะ ฉันว่ายูบินมันคงตอบคำถามเรื่องพ่อของมันจนเวียนหัวเลยล่ะ”  เจ้าของห้องพูดพร้อมกับเคาะปากกาลงบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์  รอยยิ้มที่แสนน่ากลัวปรากฏบนใบหน้าคมอีกครั้ง





    “มินซอนเยยังไม่มาอีกเหรอ”  ยูบินเอ่ยถามเลขาอีกคนของตัวเอง  หลังจากที่เดินมาถึงห้องทำงานแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แววของร่างบางเลย

    “เห็นบอกว่าจะไปธุระน่ะค่ะท่าน”

    “ธุระ?  ที่ไหนบอกรึเปล่า”  

    “ไม่ได้บอกไว้ค่ะ”  คิมยูบินจิ๊ปากหลังจากที่ได้รับคำตอบ  ช่วงนี้เธอจำเป็นต้องรู้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับซอนเยทุกอย่าง  เพราะหากร่างบางคิดแผนเล่นงานเธอขึ้นมาอีกจะได้เตรียมรับมือกันถูก  ว่าแล้วก็นึกถึงใบหน้าของอานโซฮีขึ้นมาได้  จริงสินะ เธอยังมีตัวช่วยเหลืออยู่นี่นา
          คิมยูบินหันไปสั่งกาแฟกับหญิงสาวตัวเล็ก  ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง







          ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรู  ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อรองรับแขกเหรื่อและนักข่าวที่จะมาในวันนี้  ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาในงานเรื่อยๆ คิมยูบินในชุดแส็คเข้ารูปสีดำทิ้งชายกระโปรงพลิ้วเน้นสัดส่วนได้ดียิ่งนัก  เดินคู่มากับดาราสาวสวยอย่างซอนมีที่มาในชุดสีน้ำเงินขับผิวขาวให้ดูโดดเด่น ดูเหมือนว่าทั้งสองจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ได้ดีทีเดียว
          หลังจากที่ทุกคนได้ดื่มด่ำกับอาหารราคาแพงที่เจ้าของงานได้จัดเตรียมไว้  ก็มาถึงช่วงสำคัญของงานเมื่อพิธีกรได้เชิญคิมยูบิน  ซึ่งเป็นประธานในการจัดงานครั้งนี้ขึ้นบนเวที  ยูบินใช้เวลาไม่นานในการกล่าวหลังจากนั้นก็ถึงคราวที่นักข่าวทั้งหลายจะตั้งคำถาม  คนผิวเข้มตอบคำถามจนผ่านไปหลายคำถาม  แล้วก็ต้องมาสะดุดกับเสียงทุ้มๆของนักข่าวชายคนหนึ่ง

    “ข่าวลือที่ว่าคุณเป็นคนวางแผนฆ่าคุณคิมยูโซ คุณจะให้ความเห็นว่ายังไงครับ” คำถามนี้เรียกเสียงฮือฮาให้กับเหล่านักข่าวและบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายได้ดีทีเดียว

    “ข่าวลือยังไงมันก็คือข่าวลือค่ะ  สักพักมันก็คงเงียบไปเอง ในเมื่อดิฉันไม่ได้ทำอะไร ก็ไม่มีอะไรจะต้องกลัวหรอกค่ะ”

    “แต่นี่ก็นานแล้วนะคะ เค้ายังลือกันหนาหูอยู่เลยค่ะ”  นักข่าวอีกคนสมทบ  กับคำพูดของเพื่อนร่วมอาชีพ  ทำเอาคิมยูบินได้แต่นิ่งเงียบไม่รู้จะตอบยังไง  ถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้ดีว่าคำถามพวกนี้มันคงไม่จบไปง่ายๆแน่

    “ฉันว่าให้คุณยูบินได้พักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ พวกเรามาสนุกกันต่อดีกว่านะ” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน  แต่เป็นเสียงเพื่อนรักอย่างปาร์คเยอึนนั่นเองที่มาช่วยเอาไว้  พูดจบร่างสูงก็หันไปให้สัญญาณกับทีมงาน หลังจากนั้นดนตรีในจังหวะไจฟว์ที่เหมาะแก่การเต้มรำก็ดังขึ้น

    “ยูบินแกไม่เป็นไรนะ” เพื่อนรักคนเดียวถามออกมาอย่างเป็นห่วง คิมยูบินที่กำลังจะก้าวเดินลงมาจากเวทีชะงักไปสักพัก  เมื่อเหลือบไปสายตาของเลขาฯสาวกับควอนโบอาที่ทอดส่งให้แก่กัน มันไม่ได้หวานซึ้งเหมือนสายตาของคู่รัก  แต่ยูบินเองก็ไม่สามารถที่จะแปลความหมายของมันได้เช่นกัน  ไหนจะรอยยิ้มนั่นอีก

    “พี่ยูบินคะ” เสียงใสของใครอีกคนดังเข้ามาในโสตประสาทเรียกสติของยูบินให้กลับคืนมา  ตาคมมองไปยังต้นเสียง แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหา

    “พี่ไม่เป็นไรนะคะ”

    “อื้ม...พี่ไม่เป็นไรหรอกซอนมี  ไม่ต้องห่วง” คิมยูบินตอบคำถามของคนรัก แล้วมองผ่านไปยังสองคนที่อยู่ด้านหลังด้วยความสงสัยจนซอนมีสังเกตได้  จึงหันกลับไปตามสายตาคม

    “นั่นเลขาฯของพี่นี่คะ”

    “อืม”

    “ทำไมเค้าไม่เข้ามาทักล่ะคะ”

    “ช่างเค้าเถอะ  ว่าแต่เยอึนไปไหนซะล่ะ”  พูดถึงเยอึนขึ้นมาก็พาลให้อีกคนหน้าบึ้งขึ้นมาทันที

    “เห็นออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก ไม่ต้องเข้ามาอีกก็ดี น่ารำคาญชะมัด กวนประสาทตั้งแต่เข้ามาในงานแล้ว”  ยูบินหัวเราะเบาๆกับคำร่ายยาวของซอนมี  จะว่าไปเยอึนมันก็กวนประสาทเฉพาะกับคนตรงหน้าเท่านั้นล่ะนะ





    “นักข่าวนั่นก็ฝีมือคุณใช่มั๊ย”  มินซอนเยเอ่ยถามคนข้างๆที่กำลังนั่งยิ้มให้กับตัวเอง  พร้อมกับมองผ่านหน้าเธอไป  จนเธอเองต้องเอี้ยวตัวหันกลับไปมองด้วย  เมื่อรู้ว่าเป้าสายตาของควอนโบอาคือใคร  ร่างบางก็ไม่รีรอที่จะถาม
    “สนใจงั้นเหรอ”
    “หึ! อะไรที่เป็นของมัน  ฉันจะแย่งมาให้หมด  เธอพอจะช่วยฉันได้รึเปล่าล่ะ” ท้ายประโยคพูดออกมาพร้อมกับหันไปหาสาวสวยคนข้างๆ  ก่อนจะยกแก้วไวน์แดงที่กำลังคลึงอยู่ในมือขึ้นมากระดกเพื่อรอคำตอบ
    “ว่าไง?”

     

         หลังจากที่ทุกคนทยอยกันออกจากงาน  ก็ถึงคราวของเจ้าของงานอย่างคิมยูบินที่เดินควงคู่ออกมากับซอนมี  และมีร่างสูงของปาร์คเยอึนเดินตามมาติดๆ
    “เยอึน ฉันกับซอนมีว่าจะไปหาอะไรทานกัน  แกจะไปด้วยกันมั๊ย”

    “ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจทะเลาะกับยัยนี่ อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยหิว”

    “ก็แน่สิ! เธอเล่นกินอย่างกับหมูแบบนั้นน่ะ ถ้ายังไม่อิ่มมันก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะ” ซอนมีอดไม่ได้ที่จะแขวะเยอึน เมื่อได้ยินคำตอบของร่างสูง

    “ใครจะเหมือนเธอล่ะกินผักกินหญ้าไปวันๆ  กลัวอ้วนนักรึไง อาหารดีๆมีให้กินไม่กิน โง่รึเปล่าเธอน่ะ!”

    “กรี๊ดดดดดดดด หุบปากเน่าๆของแกเดี๋ยวนี้นะ”

    “พอได้แล้วทั้งสองคนน่ะ  จะทะเลาะกันไปถึงไหน เยอึน สรุปว่าแกไม่ไปกับเราใช่ไหม”

    “ใครจะทนอยู่กับยัยเสียงแปดหลอดนี่ได้เหมือนแกล่ะยูบิน” ร่างสูงหันมาตอบคำถามกับเพื่อน  ก่อนจะตวัดสายตากับไปทำสงครามกันต่อกับคู่อริ  ให้คิมยูบินต้องมองด้วยความเอือมระอา

    “ยูบินคะ”  เสียงหวานๆที่คุ้นหูทำให้คิมยูบินหันไปหาต้นเสียงพร้อมกับสองคนที่เหลือ ซอนเยในชุดสีมรกตกำลังเดินนวยนาดยิ้มแฉ่งเป็นประกายมาให้ สร้างความงุนงงให้กับคนผิวเข้มยิ่งนัก

    “สวัสดีค่ะคุณเยอึน คุณซอนมี” สิ้นคำทักทายของมินซอนเย  ทั้งสองจึงกล่าวทักทายกลับ

    “จะกลับแล้วเหรอคะยูบิน” สรรพนามที่ฟังดูสนิทสนมกันเกินกว่าเจ้านายและลูกน้องที่เอ่ยออกมา  ทำให้ทั้งสามที่ได้ยินต้องขมวดคิ้ว โดยเฉพาะยูบิน แล้วยังมีสายตาที่หวานเยิ้มนั่นอีก 

    “เธอมีธุระอะไร”

    “ทำไมถึงได้พูดจาห่างเหินอย่างนี้ล่ะคะ” มือเรียวค่อยๆวางบนไหล่ของยูบิน ก่อนจะเขย่งปลายเท้าจูบที่ปลายคางเบาๆ ท่ามกลางความตกตะลึกของเยอึน ซอนมี ไม่เว้นแม้แต่คิมยูบินเอง  
     
         ซอนมีที่ยืมมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด  ส่ายหน้าเบาๆราวกับผิดหวังกับอีกคนอย่างมาก  น้ำตาที่ตอนนี้แทบจะทะลักล้นออกมาทำให้เธอต้องเชิดหน้าขึ้นสกัดกั้นเอาไว้  ปาร์คเยอึนที่เพิ่งหายอึ้งก็หันกลับมามองอย่างเป็นห่วง

    “ไว้เจอกันนะคะยูบิน ฝันดีค่ะ” แล้วร่างบางก็ทิ้งระเบิดก้อนใหญ่เอาไว้  เดินหายเข้าไปในมุมตึก ยูบินหันกลับมาหาซอนมีเพื่อหวังจะอธิบาย  ก็ถูกมือบางฟาดเข้าไปอย่างแรงจนชาไปทั่วใบหน้า

    “ที่แท้...ที่พี่ไม่มีเวลาให้ฉันก็เพราะไปขลุกอยู่กับเลขาฯหน้าห้องนี่เองสินะ”  เสียงใสเริ่มสั่นเครื่อจนเจ้าตัวควบคุมไม่อยู่  น้ำใสๆเริ่มไหลลงมาไม่ขาดสาย

    “ฮึก...ฉันมันโง่เอง...ที่หลงเชื่อคำพูดของพี่มาตลอดว่าไม่เคยมีคนอื่น”

    “ซอนมีพี่อธิบายได้นะ มันไม่ใช่อย่างที่เห็น...”

    “พอได้แล้ว! จะโกหกอะไรกันอีก  แค่นี้ยังไม่พอใช่มั๊ย! เห็นฉันโง่มากใช่มั๊ย! ที่หลอกอะไรก็จะปิดหูปิดตาเชื่อไปหมด” ยูบินเดินเข้าไปสวมกอดคนที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเอาไว้  พร้อมกับใช้มือลูบที่แผ่นหลังบางเบาๆอย่างปลอบประโลม  แต่ร่างโปร่งก็ต้องกระเด็นออกไปกระแทกกับรถคันหรูของตัวเองจนดังปังเมื่อถูกอีกฝ่ายผลักออกไป  เยอึนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับอุทานออกมาเบาๆ

    “เราเลิกกัน! ต่อไปนี้...ฮึก...เรา...ต่างคนต่างอยู่  ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก!”  ยูบินมองคนพูดด้วยสายตาตัดพ้อ  ก่อนที่ซอนมีจะวิ่งหนีหายไป  ปาร์คเยอึนมองเพื่อนรักและดาราสาวที่ตอนนี้วิ่งหนีไปสลับกัน  แล้วตัดสินใจสิ่งตามร่างบางไปอีกทาง  คิมยูบินตอนนี้ก้มหน้ามองลงไปที่พื้นราวกับมันน่าสนใจนัก ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจที่ทำให้ผู้หญิงคนที่รักเธอที่สุดต้องมาร้องไห้เสียใจเพราะเธอ


    “โธ่เว้ย!!!”












    _________________________________
    มาต่อคับ  สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกคน
    ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างเอ่ย  สำหรับผู้เขียนไม่ได้ไปไหนเลย นั่งเล่นนอนเล่นอยู่บ้านจนเบื่อ
    ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขในปีเสือนะคับ

    รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×