คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Sexy dangerous! 12
ร่างบางของซอนมีนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ภายในห้องชุดสุดหรู มือบางค่อยๆลูบเส้นผมให้กับคนที่นอนหนุนตักอย่างอ่อนโยน ยอมรับว่าตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นคนรักของตัวเองมาปรากฏตัวในวันนี้ ความรู้สึกโกรธในช่วงที่ผ่านมาได้มะลายหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเห็นสภาพที่อิดโรยของอีกคน
“ตื่นแล้วเหรอคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยับตัวจึงเอ่ยถาม คนที่หลับอยู่เมื่อครู่นี้ค่อยๆปรือตาขึ้นมามอง
“นี่กี่โมงแล้ว”
“สามทุ่มครึ่งค่ะ”
“พี่หลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วเธอไม่เมื่อยแย่หรือไง” ร่างที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่งเคียงข้างกับซอนมีทันทีเมื่อกังวลว่าอีกฝ่ายจะเมื่อย
“แล้วนี่หิวรึเปล่าคะเนี่ย จะได้ออกไปหาอะไรทานกัน”
“ยังหรอก...พี่อยากอยู่กับเธออีกสักพัก” ซอนมียิ้มให้กับคำตอบของยูบิน มือบางโน้มศรีษะของอีกฝ่ายลงมาหาตักตัวเองช้าๆ ให้อยู่ในท่าเดียวกับเมื่อสักครู่โดยที่ยูบินเองก็ไม่ได้ขัดขืน
“ถ้าสมมุติวันนึง พี่เกิดหมดตัว ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีแม้กระทั่งบ้านให้อยู่ เธอจะยังอยู่กับพี่อย่างนี้ไหม”
“ถามอะไรแบบนั้นคะ ถึงแม้เรื่องที่พี่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคนที่ฉันรักเสมอ มั่นใจได้ค่ะ” ซอนมีพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ก้มลงไปจุมพิตที่ขมับของอีกฝ่ายเพื่อย้ำให้คิมยูบินได้มั่นใจในคำพูด คนด้านล่างยิ้มออกมาบางๆด้วยความปลื้มใจ แต่ลึกลงไปข้างในแล้วมีแต่ความกังวล ยิ่งซอนมีดีกับเธอมากเท่าไหร่ ยูบินเองก็ยิ่งละอายใจมากเท่านั้น
“ขอบคุณมากนะซอนมี ขอบคุณจริงๆ”
“เรื่องที่ฉันให้คุณไปจัดการ ถึงไหนแล้ว”
“มาถึงก็ถามหาผลงานเลยนะซอนเย” ควอนโบอาขยับตัวไปพิงเก้าอี้ทำงาน พร้อมกับผายมือเชิญให้คนที่เพิ่งเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
“แล้วคุณมีผลงานมาอวดฉันบ้างรึเปล่าล่ะคะ” คำถามที่พูดออกไปดูเหมือนไม่จริงจังนัก
“แหม...ใจเย็นๆสิ งานที่เธอให้ฉันไปทำเนี่ยมันก็ไม่ได้หมูเลยนะ”
“แค่นี้มันคงไม่ยากเกินความสามารถคนเก่งๆอย่างคุณหรอกมั้งคะ” ซอนเยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับโบอา
“ไม่ต้องชมขนาดนั้นก็ได้ เรื่องนี้น่ะฉันทำได้อยู่แล้ว เพียงแค่ขอเวลาอีกหน่อย เธอเองก็น่าจะรู้ว่าระบบหุ้นของบริษัทเค้าป้องกันแน่นหนาแค่ไหน บู่มบ่ามไปเดี๋ยวไก่มันจะตื่นเอาได้ ช่วงนี้ยูบินมันยิ่งเข้มงวดอยู่ด้วย ฉันว่าเราพักเรื่องปั่นหุ้นเอาไว้ก่อน แล้วมาปั่นหัวท่านประธานคนใหม่เล่นกันดีกว่า” เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าไม่เข้าใจ โบอาจึงขยายความต่อ
“ก็วันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการใหม่นั่นไงล่ะ ฉันว่ายูบินมันคงตอบคำถามเรื่องพ่อของมันจนเวียนหัวเลยล่ะ” เจ้าของห้องพูดพร้อมกับเคาะปากกาลงบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ รอยยิ้มที่แสนน่ากลัวปรากฏบนใบหน้าคมอีกครั้ง
“มินซอนเยยังไม่มาอีกเหรอ” ยูบินเอ่ยถามเลขาอีกคนของตัวเอง หลังจากที่เดินมาถึงห้องทำงานแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แววของร่างบางเลย
“เห็นบอกว่าจะไปธุระน่ะค่ะท่าน”
“ธุระ? ที่ไหนบอกรึเปล่า”
“ไม่ได้บอกไว้ค่ะ” คิมยูบินจิ๊ปากหลังจากที่ได้รับคำตอบ ช่วงนี้เธอจำเป็นต้องรู้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับซอนเยทุกอย่าง เพราะหากร่างบางคิดแผนเล่นงานเธอขึ้นมาอีกจะได้เตรียมรับมือกันถูก ว่าแล้วก็นึกถึงใบหน้าของอานโซฮีขึ้นมาได้ จริงสินะ เธอยังมีตัวช่วยเหลืออยู่นี่นา
คิมยูบินหันไปสั่งกาแฟกับหญิงสาวตัวเล็ก ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรู ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อรองรับแขกเหรื่อและนักข่าวที่จะมาในวันนี้ ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาในงานเรื่อยๆ คิมยูบินในชุดแส็คเข้ารูปสีดำทิ้งชายกระโปรงพลิ้วเน้นสัดส่วนได้ดียิ่งนัก เดินคู่มากับดาราสาวสวยอย่างซอนมีที่มาในชุดสีน้ำเงินขับผิวขาวให้ดูโดดเด่น ดูเหมือนว่าทั้งสองจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ได้ดีทีเดียว
หลังจากที่ทุกคนได้ดื่มด่ำกับอาหารราคาแพงที่เจ้าของงานได้จัดเตรียมไว้ ก็มาถึงช่วงสำคัญของงานเมื่อพิธีกรได้เชิญคิมยูบิน ซึ่งเป็นประธานในการจัดงานครั้งนี้ขึ้นบนเวที ยูบินใช้เวลาไม่นานในการกล่าวหลังจากนั้นก็ถึงคราวที่นักข่าวทั้งหลายจะตั้งคำถาม คนผิวเข้มตอบคำถามจนผ่านไปหลายคำถาม แล้วก็ต้องมาสะดุดกับเสียงทุ้มๆของนักข่าวชายคนหนึ่ง
“ข่าวลือที่ว่าคุณเป็นคนวางแผนฆ่าคุณคิมยูโซ คุณจะให้ความเห็นว่ายังไงครับ” คำถามนี้เรียกเสียงฮือฮาให้กับเหล่านักข่าวและบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายได้ดีทีเดียว
“ข่าวลือยังไงมันก็คือข่าวลือค่ะ สักพักมันก็คงเงียบไปเอง ในเมื่อดิฉันไม่ได้ทำอะไร ก็ไม่มีอะไรจะต้องกลัวหรอกค่ะ”
“แต่นี่ก็นานแล้วนะคะ เค้ายังลือกันหนาหูอยู่เลยค่ะ” นักข่าวอีกคนสมทบ กับคำพูดของเพื่อนร่วมอาชีพ ทำเอาคิมยูบินได้แต่นิ่งเงียบไม่รู้จะตอบยังไง ถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้ดีว่าคำถามพวกนี้มันคงไม่จบไปง่ายๆแน่
“ฉันว่าให้คุณยูบินได้พักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ พวกเรามาสนุกกันต่อดีกว่านะ” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน แต่เป็นเสียงเพื่อนรักอย่างปาร์คเยอึนนั่นเองที่มาช่วยเอาไว้ พูดจบร่างสูงก็หันไปให้สัญญาณกับทีมงาน หลังจากนั้นดนตรีในจังหวะไจฟว์ที่เหมาะแก่การเต้มรำก็ดังขึ้น
“ยูบินแกไม่เป็นไรนะ” เพื่อนรักคนเดียวถามออกมาอย่างเป็นห่วง คิมยูบินที่กำลังจะก้าวเดินลงมาจากเวทีชะงักไปสักพัก เมื่อเหลือบไปสายตาของเลขาฯสาวกับควอนโบอาที่ทอดส่งให้แก่กัน มันไม่ได้หวานซึ้งเหมือนสายตาของคู่รัก แต่ยูบินเองก็ไม่สามารถที่จะแปลความหมายของมันได้เช่นกัน ไหนจะรอยยิ้มนั่นอีก
“พี่ยูบินคะ” เสียงใสของใครอีกคนดังเข้ามาในโสตประสาทเรียกสติของยูบินให้กลับคืนมา ตาคมมองไปยังต้นเสียง แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหา
“พี่ไม่เป็นไรนะคะ”
“อื้ม...พี่ไม่เป็นไรหรอกซอนมี ไม่ต้องห่วง” คิมยูบินตอบคำถามของคนรัก แล้วมองผ่านไปยังสองคนที่อยู่ด้านหลังด้วยความสงสัยจนซอนมีสังเกตได้ จึงหันกลับไปตามสายตาคม
“นั่นเลขาฯของพี่นี่คะ”
“อืม”
“ทำไมเค้าไม่เข้ามาทักล่ะคะ”
“ช่างเค้าเถอะ ว่าแต่เยอึนไปไหนซะล่ะ” พูดถึงเยอึนขึ้นมาก็พาลให้อีกคนหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
“เห็นออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก ไม่ต้องเข้ามาอีกก็ดี น่ารำคาญชะมัด กวนประสาทตั้งแต่เข้ามาในงานแล้ว” ยูบินหัวเราะเบาๆกับคำร่ายยาวของซอนมี จะว่าไปเยอึนมันก็กวนประสาทเฉพาะกับคนตรงหน้าเท่านั้นล่ะนะ
“นักข่าวนั่นก็ฝีมือคุณใช่มั๊ย” มินซอนเยเอ่ยถามคนข้างๆที่กำลังนั่งยิ้มให้กับตัวเอง พร้อมกับมองผ่านหน้าเธอไป จนเธอเองต้องเอี้ยวตัวหันกลับไปมองด้วย เมื่อรู้ว่าเป้าสายตาของควอนโบอาคือใคร ร่างบางก็ไม่รีรอที่จะถาม
“สนใจงั้นเหรอ”
“หึ! อะไรที่เป็นของมัน ฉันจะแย่งมาให้หมด เธอพอจะช่วยฉันได้รึเปล่าล่ะ” ท้ายประโยคพูดออกมาพร้อมกับหันไปหาสาวสวยคนข้างๆ ก่อนจะยกแก้วไวน์แดงที่กำลังคลึงอยู่ในมือขึ้นมากระดกเพื่อรอคำตอบ
“ว่าไง?”
หลังจากที่ทุกคนทยอยกันออกจากงาน ก็ถึงคราวของเจ้าของงานอย่างคิมยูบินที่เดินควงคู่ออกมากับซอนมี และมีร่างสูงของปาร์คเยอึนเดินตามมาติดๆ
“เยอึน ฉันกับซอนมีว่าจะไปหาอะไรทานกัน แกจะไปด้วยกันมั๊ย”
“ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจทะเลาะกับยัยนี่ อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยหิว”
“ก็แน่สิ! เธอเล่นกินอย่างกับหมูแบบนั้นน่ะ ถ้ายังไม่อิ่มมันก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะ” ซอนมีอดไม่ได้ที่จะแขวะเยอึน เมื่อได้ยินคำตอบของร่างสูง
“ใครจะเหมือนเธอล่ะกินผักกินหญ้าไปวันๆ กลัวอ้วนนักรึไง อาหารดีๆมีให้กินไม่กิน โง่รึเปล่าเธอน่ะ!”
“กรี๊ดดดดดดดด หุบปากเน่าๆของแกเดี๋ยวนี้นะ”
“พอได้แล้วทั้งสองคนน่ะ จะทะเลาะกันไปถึงไหน เยอึน สรุปว่าแกไม่ไปกับเราใช่ไหม”
“ใครจะทนอยู่กับยัยเสียงแปดหลอดนี่ได้เหมือนแกล่ะยูบิน” ร่างสูงหันมาตอบคำถามกับเพื่อน ก่อนจะตวัดสายตากับไปทำสงครามกันต่อกับคู่อริ ให้คิมยูบินต้องมองด้วยความเอือมระอา
“ยูบินคะ” เสียงหวานๆที่คุ้นหูทำให้คิมยูบินหันไปหาต้นเสียงพร้อมกับสองคนที่เหลือ ซอนเยในชุดสีมรกตกำลังเดินนวยนาดยิ้มแฉ่งเป็นประกายมาให้ สร้างความงุนงงให้กับคนผิวเข้มยิ่งนัก
“สวัสดีค่ะคุณเยอึน คุณซอนมี” สิ้นคำทักทายของมินซอนเย ทั้งสองจึงกล่าวทักทายกลับ
“จะกลับแล้วเหรอคะยูบิน” สรรพนามที่ฟังดูสนิทสนมกันเกินกว่าเจ้านายและลูกน้องที่เอ่ยออกมา ทำให้ทั้งสามที่ได้ยินต้องขมวดคิ้ว โดยเฉพาะยูบิน แล้วยังมีสายตาที่หวานเยิ้มนั่นอีก
“เธอมีธุระอะไร”
“ทำไมถึงได้พูดจาห่างเหินอย่างนี้ล่ะคะ” มือเรียวค่อยๆวางบนไหล่ของยูบิน ก่อนจะเขย่งปลายเท้าจูบที่ปลายคางเบาๆ ท่ามกลางความตกตะลึกของเยอึน ซอนมี ไม่เว้นแม้แต่คิมยูบินเอง
ซอนมีที่ยืมมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด ส่ายหน้าเบาๆราวกับผิดหวังกับอีกคนอย่างมาก น้ำตาที่ตอนนี้แทบจะทะลักล้นออกมาทำให้เธอต้องเชิดหน้าขึ้นสกัดกั้นเอาไว้ ปาร์คเยอึนที่เพิ่งหายอึ้งก็หันกลับมามองอย่างเป็นห่วง
“ไว้เจอกันนะคะยูบิน ฝันดีค่ะ” แล้วร่างบางก็ทิ้งระเบิดก้อนใหญ่เอาไว้ เดินหายเข้าไปในมุมตึก ยูบินหันกลับมาหาซอนมีเพื่อหวังจะอธิบาย ก็ถูกมือบางฟาดเข้าไปอย่างแรงจนชาไปทั่วใบหน้า
“ที่แท้...ที่พี่ไม่มีเวลาให้ฉันก็เพราะไปขลุกอยู่กับเลขาฯหน้าห้องนี่เองสินะ” เสียงใสเริ่มสั่นเครื่อจนเจ้าตัวควบคุมไม่อยู่ น้ำใสๆเริ่มไหลลงมาไม่ขาดสาย
“ฮึก...ฉันมันโง่เอง...ที่หลงเชื่อคำพูดของพี่มาตลอดว่าไม่เคยมีคนอื่น”
“ซอนมีพี่อธิบายได้นะ มันไม่ใช่อย่างที่เห็น...”
“พอได้แล้ว! จะโกหกอะไรกันอีก แค่นี้ยังไม่พอใช่มั๊ย! เห็นฉันโง่มากใช่มั๊ย! ที่หลอกอะไรก็จะปิดหูปิดตาเชื่อไปหมด” ยูบินเดินเข้าไปสวมกอดคนที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเอาไว้ พร้อมกับใช้มือลูบที่แผ่นหลังบางเบาๆอย่างปลอบประโลม แต่ร่างโปร่งก็ต้องกระเด็นออกไปกระแทกกับรถคันหรูของตัวเองจนดังปังเมื่อถูกอีกฝ่ายผลักออกไป เยอึนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับอุทานออกมาเบาๆ
“เราเลิกกัน! ต่อไปนี้...ฮึก...เรา...ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก!” ยูบินมองคนพูดด้วยสายตาตัดพ้อ ก่อนที่ซอนมีจะวิ่งหนีหายไป ปาร์คเยอึนมองเพื่อนรักและดาราสาวที่ตอนนี้วิ่งหนีไปสลับกัน แล้วตัดสินใจสิ่งตามร่างบางไปอีกทาง คิมยูบินตอนนี้ก้มหน้ามองลงไปที่พื้นราวกับมันน่าสนใจนัก ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจที่ทำให้ผู้หญิงคนที่รักเธอที่สุดต้องมาร้องไห้เสียใจเพราะเธอ
“โธ่เว้ย!!!”
_________________________________
มาต่อคับ สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกคน
ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างเอ่ย สำหรับผู้เขียนไม่ได้ไปไหนเลย นั่งเล่นนอนเล่นอยู่บ้านจนเบื่อ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขในปีเสือนะคับ
รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ
ความคิดเห็น